Sunday, 19 May 2024
พลังประชารัฐ

‘สันติ’ ชูนโยบาย ยกระดับคุณภาพชีวิตคนในเมือง ผุด ‘รถไฟฟ้า-ดูแลสตรี-หนุนเยาวชนเรียนภาษาที่ 2’

(18 มี.ค.66) เวลา 17.50 น. ที่ลายคนเมือง นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะเลขาธิการพรรคพปชร. กล่าวปราศรัยว่า พรรคพปชร. ก้าวข้ามความขัดแย้ง มีนัยยะสำคัญ ที่จะนำไปสู่ความสามัคคี ลดความเหลื่อมล้ำทุกรูปแบบ โดยพรรคพปชร. ตั้งใจส่งผู้สมัครเป็นตัวแทนครบทุกเขต เพื่อให้ผู้สมัครของพรรค ลงไปทุกพื้นที่ทั้ง 33 เขต เพื่อรับทราบข้อคิดเห็นและรับใช้คนกทม. ตลอดจนส่งเสริมและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้ทันยุคสมัย พรรค

พปชร.ตั้งใจพัฒนากทม.ให้ก้าวทันนวัตกรรมของโลก โดยปัญหาความแออัดในกทม.มาจากการบริหารจัดการเมืองที่ไม่เป็นสัดส่วน ทำให้การพัฒนาไปคนละทิศทาง ดังนั้นการส่งผู้สมัครไปในแต่ละเขต ลงไปดูปัญหาเพื่อจะทำให้เกิดการสร้างรายได้ ลดต้นทุนดำรงชีวิต 

เช่น การเดินทางในชีวิตประจำวัน หากผู้สมัครพปชร.ได้รับเลือกเข้ามา จะทำนโยบายเรื่องการเดินทางให้มีรถไฟฟ้า มีชัตเทิลบัสผ่านหมู่บ้าน เพื่ออำนวยความสะดวก ลดการใช้รถยนต์ เป็นการกระจายความเจริญไปรอบนอก 

‘มิ่งขวัญ’ ชูแคมเปญ ‘ลดเบนซิน 18 บาท-ดีเซล 6 บาท’ ลั่น!! อยากได้น้ำมันราคานี้ ต้องเลือก ‘พปชร.’

(18 มี.ค.66) เมื่อเวลา 18.20 น.นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ คณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายพรรคพปชร. กล่าวปราศรัยโดยชูนโยบายลดราคาน้ำมัน ว่า พรรคพปชร.มีแคมเปญราคาน้ำมัน ที่จะส่งให้พรรคพปชร. เข้าไปนั่งอยู่ในใจของประชาชนทุกคน โดยราคาพลังงานจะสามารถปรับลงลดเพื่อช่วยประชาชนได้ เรามีแนวคิดที่จะรื้อโครงสร้างราคาน้ำมัน โดยจะปรับลด 1 ปี นับตั้งแต่เป็นรัฐบาล เมื่อเป็นรัฐบาลแล้ว ช่วง 3-4 เดือนแรก จะมีคณะกรรมการขึ้นมาปรับโครงสร้างใหญ่ คือ ภาค 2 ที่จะดำเนินการ การปรับลดสามารถทำได้ เมื่อเราเป็นรัฐบาล เพื่อลดรายจ่าย ค่าเดินทาง การขนส่งสินค้า

ที่สำคัญที่สุด คือ ลดต้นทุนการผลิตสินค้า ทุกขั้นตอนลดอัตราเงินเฟ้อ และจะทำให้ราคาสินค้า อุปโภคบริโภคของประชาชนถูกลง หากโครงสร้างถูกปรับเปลี่ยน จะสามารถลดราคาน้ำมันเบนซิน ลงได้ประมาณลิตรละ 18 บาท และลดราคาน้ำมันดีเซล ลงประมาณลิตรละ 6 บาท

‘ลุงป้อม’ โชว์ลีลาควงตะหลิวทำ ‘ผัดซีอิ๊ว’ ก่อนเดินทางไป ‘เชียงใหม่-เชียงราย’ เพื่อปราศรัย

(19 มี.ค.66) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้โชว์ทำผัดซีอิ๊ว เพื่อรับประทานเป็นอาหารกลางวัน ก่อนเดินทางขึ้นเหนือไป จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย เพื่อปราศรัยในนามหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ทั้งนี้ ปกติที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร มักชอบที่จะทำอาหารทานและเลี้ยงทีมงานใกล้ชิด โดยทุกคนที่ได้รับประทานจะติดใจฝีมือของ พล.อ.ประวิตร และต้องขอมาลองเมนูอื่น ๆ อีก

‘ส.ส.โต้ง’ ป้อง ‘สมศักดิ์-สุริยะ’ หลัง ‘สันติ’ โจมตีเหตุย้ายซบ ‘พท.’ ลั่น!! อาการออกเพราะกลัวแพ้พื้นที่ภาคเหนือ หลังโพลนิด้าพุ่งสูง

‘ส.ส.โต้ง’ ป้อง ‘สมศักดิ์-สุริยะ’ ปม ‘สันติ’ ออกมาโจมตี หลังย้ายซบเพื่อไทย ซัดควรเคารพการตัดสินใจให้เกียรติอดีตแกนนำพรรค เตือนอย่ากวนน้ำให้ขุ่น ทั้งที่ไปมาลาไหว้ดี ห่วง ถูกปลดพ้นเลขาฯพรรค ไม่ทำตามนโยบาย ‘บิ๊กป้อม’ ก้าวข้ามความขัดแย้ง เหน็บ อาการออก อาจกลัวแพ้พื้นที่ภาคเหนือ หลังนิด้าโพลพุ่งสูง

(19 มี.ค.66) นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ส.ส.จังหวัดนนทบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ออกมาให้สัมภาษณ์โจมตีแกนนำกลุ่มสามมิตร หลังย้ายเข้าพรรคเพื่อไทยว่า การออกมาให้สัมภาษณ์พาดพิงถึงอดีตแกนนำพรรค ควรให้เกียรติ และเคารพการตัดสินใจ ที่เป็นสิทธิส่วนตัว ไม่ควรนำไปสู่ความขัดแย้ง เพราะทั้งนายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตรมว.ยุติธรรม และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีต รมว.อุตสาหกรรม ก็ได้มีการลา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เรียบร้อยแล้ว ซึ่งบรรยากาศ ก็เป็นไปด้วยดี โดยพล.อ.ประวิตร เวลาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ก็ให้เกียรติเป็นไปในทิศทางที่ดี

“ดังนั้น นายสันติ ไม่ควรกวนน้ำให้ขุ่น ควรช่วยกันสร้างบรรยากาศทางการเมืองให้สร้างสรรค์ เพราะท่านสมศักดิ์ ก็ตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงสาเหตุการย้ายพรรคไปแล้วว่า การเป็นรัฐบาลผสมหลายพรรค ทำให้การขับเคลื่อนโครงการต่าง ๆ ทำได้ไม่เต็มที่ ซึ่งจากที่ผมติดตาม ก็เห็นชัดเจนว่า หลายโครงการยังสะดุดอยู่ อาจมีการขัดแข้งขัดขาแย่งผลงาน เช่น การปลดล็อกพืชกระท่อม ที่ยังไม่สามารถแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์จากพืชกระท่อมได้ เนื่องจากติดระเบียบ อย.ที่กำกับดูแลโดยกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงเรื่องนิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์ เรื่องส่งเสริมวัวชน ที่ยังขับเคลื่อนได้ล่าช้าอยู่ ทั้งที่ล้วนเป็นโครงการที่เป็นประโยชน์กับประชาชน” นายจิรพงษ์ กล่าว

นายจิรพงษ์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา นายสมศักดิ์ ได้เป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีมาแล้วหลายสมัย ในหลายรัฐบาล จึงได้มีโอกาสทำงานร่วมกับทั้งรัฐบาลผสม และรัฐบาลพรรคเดียว ซึ่งก็ได้เห็นข้อแตกต่างอย่างชัดเจน ในการขับเคลื่อนนโยบายต่าง ๆ โดยถือว่า เป็นผู้บริหารที่มีประสบการณ์สูง จึงไม่แปลกที่เลือกมาทำงานกับพรรคเพื่อไทย เพื่อต้องการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะเกษตรกร ดังนั้น การย้ายมาพรรคเพื่อไทย ไม่ได้ผิดอะไร เพราะออกมาอย่างถูกต้อง ไม่มีการรักษาการเก้าอี้รมต.ด้วย รวมถึงขณะที่อยู่พรรคพลังประชารัฐ ก็ได้ทำงานอย่างเต็มที่ จนมีผลงานอย่างชัดเจน ไม่เคยเอาเปรียบพรรคตามที่ถูกกล่าวหา

‘อนุทิน’ แจงทานข้าว ‘ลุงป้อม’ ปัดขอช่วยเหลือคดี ‘ศักดิ์สยาม’ รับดัล ‘ภท.-พปชร.’ ลงตัว หากไม่มีอุบัติเหตุทางการเมือง

หัวหน้าภท.ปัดกินข้าว ‘บิ๊กป้อม’ ขอช่วยคดี ‘ศักดิ์สยาม’ รับคุยการเมือง ปิดดีลจับขั้ว ‘ภท.-พปชร.’ หากไม่มีอุบัติเหตุการณ์การเมือง ย้ำพร้อมนั่งนายกฯ ในฐานะพรรค 70 บวก

วันนี้ (19 มี.ค.66) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารรสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการชั่วโมงข่าวเสาร์อาทิตย์ ทางไทยพีบีเอส โดยยอมรับว่า วงรับประทานอาหารระหว่างแกนนำพรคภูมิใจไทย และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด เป็นการนัดหมายเพื่อพบปะพูดคุยในฐานะที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล และในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นผู้ประสานขอเข้าพบพลเอกประวิตร

โดยในวงอาหาร ได้มีการพูดคุยและประเมินสถานการณ์การเมืองร่วมกัน และอาจจะเรียกได้ว่า ดีลระหว่างพรรคภูมิใจไทย และพรรคพลังประชารัฐลงตัวแล้ว เพราะการทำงานร่วมกันมาตลอด 4 ปี ไม่มีปัญหาใด ๆ และมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน

“ภูมิใจไทย กับ พลังประชารัฐ ทำงานร่วมกันมา 4 ปี ถ้าไม่มีอุบัติเหตุ หรือ เหตุจำเป็นยิ่งยวด เราไม่มีปัญหา สิ่งใดไม่เข้าใจก็เคลียร์กันครบทุกเรื่อง” นายอนุทิน กล่าว

ผู้ดำเนินรายการ ถามถึงความสัมพันธ์กับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หลังมีข้อสังเกตความไม่ลงรอย จากการสั่งพักโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม นายอนุทิน ยืนยันว่า ความสัมพันธ์กับพลเอกประยุทธ์ยังคงเดิม ทั้งความสัมพันธ์ส่วนตัว หรือความสัมพันธ์ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ยังมีความแข็งแรง มีความเข้าใจซึ่งกันและกัน

‘บิ๊กป้อม’ ขึ้นปราศรัย ขออาสาสร้างความเป็นหนึ่งเดียว เมินโพลไม่ติด 1 ใน 10 ‘นายกฯ ในใจ’ ยันเดินหน้าต่อ

‘บิ๊กป้อม’ ขึ้นเวทีเชียงใหม่ อ้อนเลือกพปชร. ช่วยให้ประเทศเป็นหนึ่งเดียว ลั่น เป็นรัฐบาลทำทุกนโยบาย ด้านปชช. หนีฝน กลับก่อน เมินไม่ติด 1 ใน 10 อันดับนายกฯ ในใจ ยัน เดินหน้าต่อ

(19 มี.ค.66) เมื่อเวลา 17.35 น. ที่อาคารยิมเนเซียม สนามกีฬาสมโภชน์ 700 ปี จ.เชียงใหม่  พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เดินทางถึงเวทีปราศรัย ภาคเหนือ เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคเหนือตอนบน 6 จ. จำนวน 23 คน 

โดยบรรยากาศก่อนการปราศรัย พปชร. มีชาวบ้านเดินทางมารับฟังยิมเนเซียมตั้งแต่ช่วงเวลา 13.00 น. ขณะที่ตามกำหนดการเดิม พล.อ.ประวิตร จะขึ้นปราศรัย 17.15น.แต่ปรากฏว่า ในช่วงที่ พล.อ.ประวิตร ยังไม่มาถึง ประชาชนเริ่มทยอยเดินทางกลับ เนื่องจากมีลมแรง และเสียงฟ้าร้องดังต่อเนื่อง เพราะเป็นช่วงมรสุมพายุฤดูร้อน ทำให้ประชาชนบางส่วนขอเดินทางกลับก่อน จนยิมเนเซียมดูโล่ง 

ก่อนหน้านั้นร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พปชร.ในฐานะกำกับดูแลการเลือกตั้งพื้นที่ภาคเหนือ กล่าวปราศรัยบนเวที ว่า ทราบว่ามีพี่น้องชาวเชียงใหม่มานั่งรอพรรคพปชร.อย่างคับคั่งเหมือนเช่นปี 62 เพื่อมารอฟังการปราศรัยของผู้บริหารพรรค ตนตั้งใจมาหาชาวเชียงใหม่ แต่วันนี้ก็มีพายุโซนร้อนเข้าที่จังหวัดเชียงใหม่ ก็เข้าใจได้ที่อาจจะไม่ได้เจอกันครบทุกคน ล่าสุดตนไปปราศรัยกับพี่น้องชาวจังหวัดเชียงราย ท่ามกลางอากาศที่ร้อนมาก แต่พี่น้องยังมีใจมาให้การต้อนรับและสนับสนุนพวกเรา

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ ทุกพรรคการเมืองมีนโยบายดีทุกพรรค หากว่าเกิดประโยชน์กับประชาชน แต่ พปชร.ได้พูดเสมอว่า เราเป็นพรรคของประชาชน ชื่อพรรคบอกชัดเจนอยู่แล้วว่า เป็นการรวมกันของพลังของคน 2 กลุ่ม คือ การร่วมพลังของประชาชนทั้งแผ่นดินทั้ง 77 จังหวัด ภายใต้การดูแลของรัฐ ก็คือรัฐบาล

"ประเทศไทยของเรามีโครงสร้างเป็นฐานพีระมิด เริ่มจากฐานรากหญ้า ก็คือ พี่น้องประชาชน นโยบายที่พรรคพลังประชารัฐ นำเสนอออกมา คือต้องการทำให้คนฐานรากมีความเข้มแข็ง อย่างเช่น บัตรประชารัฐ  ที่จะมีการเพิ่มเงินจากมูลค่า 300 เป็น 700 บาท ทันทีเมื่อพรรคพลังประชารัฐได้บริหารประเทศ"

นอกจากนี้ ยังมีนโยบายดูแลผู้สูงอายุ ที่ทุกวันนี้ผู้สู่งอายุได้รับอยู่ที่ 600 ถึง 1000 บาท แต่หลังการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคพลังประชารัฐ พร้อมดูแลผู้สูงอายุ 60 ปี เอาไปเลย 3000 บาท 70 ปี 4000 บาท และ 80 ปีขึ้นไป 5000 บาท การสร้างความเข้มแข็งให้กับคนฐานรากต่อสิ่งสำคัญที่สุดที่พรรคพลังประชารัฐตั้งใจทำ เพราะเราต้องการสร้างความเข้มแข็งให้กับกลุ่มเปราะบาง 

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวทิ้งท้ายว่า พรรคพลังประชารัฐ เราจะดูแลราคาพืชผลทางการเกษตรสำคัญของชาวภาคเหนือ นั่นก็คือ ราคาลำไย คือสิ่งที่ผมต่อสู้อย่างต่อเนื่อง โดยมีคนที่สนับสนุนพวกเรามาตลอดก็คือ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ของเรา 

ต่อมาเวลา 17.45 น. พล.อ.ประวิตร และคณะที่ในช่วงบ่ายเดินทางไปเวทีปราศรัยและเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของ พปชร.ที่ จ.เชียงรายก่อนหน้านั้น ได้เดินทางมาถึงอาคารยิมเนเซียม ทันทีที่มาถึงประชาชนที่รอฟังการปราศรัยได้ตะโกนร้องต้อนรับเสียงดังกึกก้อง

จากนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวปราศรัย ว่า รู้สึกอบอุ่นใจเป็นอย่างยิ่งท่ามกลางพี่น้องชาวเชียงใหม่ซึ่งเป็นจังหวัดเมืองใหญ่ของไทย มีการท่องเที่ยวก้าวหน้าเป็นอย่างยิ่ง ตนมาในวันนี้พร้อมกับผู้บริหารพรรคอีกหลายคน รวมทั้งว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. และสมาชิก ฝาก พปชร.ไว้กับประชาชนทุกคนด้วย เราพร้อมจะทำงานรับใช้ชาวเชียงใหม่ทุกคน ฝากทุกคนไว้ว่า ให้เลือกผู้สมัคร ส.ส.ของ พปชร.ทุกคน พปชร.ได้คัดสรรคนดี คนเก่ง คนที่ตั้งใจจริงมาเป็นผู้แทน มุ่งมั่น ร่วมมือกับทุกฝ่ายเพื่อพัฒนาแก้ไขปัญหาทุกเรื่องที่เป็นประโยชน์กับคนเชียงใหม่ เราต้องดการแก้ปัญหาทุกเรื่องให้คนเชียงใหม่ให้อยู่ดีกินดี ผลักดันนโยบายที่เป็นประโยชน์ให้กับทุกคน

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า สำหรับนโยบายของพรรคพปชร. ได้แก่ บัตรประชารัฐ 700 บาท จะทำทันทีเมื่อได้เป็นรัฐบาล ลดค่าน้ำมัน ค่าไฟฟ้า ค่าแก๊ส อยู่ในความคิดของ พปชร.ที่จะทำทันทีเช่นเดียวกัน การดูแลคนทุกช่วงวัย เบี้ยผู้สูงอายุ แม่และเด็ก ให้เท่าเทียมกัน ลดปัญหาความเลื่อมล้ำ แก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง เป็นภารกิจของตนที่จะทำให้ทุกคนมีความเป็นอยู่ที่ดี ไม่ว่าจะน้ำอุปโภค อุปโภค น้ำเพื่อการเกษตร โดยเฉพาะน้ำประปา ต้องมีความสะอาด ตนจะต้องดำเนินงานให้ทุกคนได้ใช้น้ำที่ดี นอกจากนี้ จะลด PM 2.5 ซึ่งสำคัญสำหรับคนเชียงใหม่ โดยจะแก้ทันทีเมื่อเราเข้ามาเป็นรัฐบาล ขณะเดียวกัน เราจะปราบปรามยาเสพติด 

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ในเรื่องการใช้ที่ดินของรัฐ ซึ่งมีปัญหาซ้อน ตนกำลังทำอยู่ โดยจะให้คนที่ถือที่ดิน ส.ป.ก. ที่ดินของรัฐ และในป่าสงวน เราพยายามให้ทุกคนมีโอกาสมาเป็นเจ้าของที่ดิน โดยการออกโฉนดให้ ฝากทุกคนว่าให้เลือก พปชร. ทุกอย่างที่ตนพูด เราจะทำให้ท่านทันที ส่วนปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ อาชญากรรมออนไลน์ ที่เป็นอันตรายต่อประเทศ ต้องแก้ปัญหาได้ทันที ซึ่งเราทำมาแล้วและจะทำต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง ขณะที่เรื่องการท่องเที่ยวเป็นรายได้หลักของ จ.เชียงใหม่ ยืนยันว่าจะมาต่อยอด ดำเนินการให้ จ.เชียงใหม่เป็นเมืองท่องเที่ยวอย่างแท้จริง
 

พปชร. ยัน เปิดตัว ส.ส.ครบ 400 เขต 30 มี.ค.นี้ ชี้!! ‘บิ๊กป้อม’ ยังฟิต!! สุขภาพสมบูรณ์เต็มร้อย

‘ศ.ดร.นฤมล’ นำทัพว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เปิดศูนย์ประสานงาน เขตบางซื่อ ดุสิต หวังเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยง ปชช.ยัน ‘พล.อ.ประวิตร’ สุขภาพสมบูรณ์เต็มร้อย เผย 30 มี.ค.นี้ เตรียมเปิดตัว ส.ส.ครบ 400 เขต

(20 มี.ค.66) ที่ศูนย์ประสานงานพรรคประชารัฐ เขตบางซื่อ ดุสิต นำโดย ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะผู้ดูแลกำกับการเลือกตั้งพื้นที่ กทม.พรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ อำนรรฆสรเดช ว่าที่ผู้สมัศรสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กทม. เขตบางซื่อ - ดุสิต และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม.อีกหลายเขต อาทิ เขต 2 สาทร ราชเทวี ปทุมวัน นายพณิชย์ วิทยาภัทร์, เขต 5 ห้วยขวาง วังทองหลาง นายกานต์ กิตติอำพน, เขต 15 คันนายาว บึงกุ่ม น.ส.ณิรินทร์ เงินยวง, เขต 31 ทวีวัฒนา ตลิ่งชัน น.ต.นิธิ บุญยรัตกลิน, เขต 32 บางกอกน้อย-บางกอกใหญ่-ภาษีเจริญ-ตลิ่งชัน-ธนบุรี, น.ส.บุณณดา สุปิยพันธุ์

ศ.ดร.นฤมลฯ กล่าวว่า วันนี้เรามาพร้อมกับว่าที่ผู้สมัคร กทม.หลายท่าน เพื่อมาร่วมเปิดศูนย์ประสานงานพรรคพรรคประชารัฐ เขตบางซื่อ ดุสิต รวมถึงตรวจสอบค่าฝุ่น PM 2.5 บริเวณถนนวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ และจัดตั้ง War room ตรวจสอบสถานการณ์คุณภาพอากาศ โดยใช้ดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) เป็นตัวชี้วัดบริเวณพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลตรวจสอบค่าฝุ่น PM 2.5 ผ่านเว็บไซต์ www.air4thai.pad.go.th ของกองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ เพื่อดูปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในเรื่องของปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ซึ่งประชาชนในหลายพื้นที่ได้รับผลกระทบเป็นระยะยาว

"พรรคพลังประชารัฐไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้บรรจุยุทธวิธีแก้ไขปัญหานี้ในนโยบายของพรรคแล้ว โดยเราพร้อมทำทันที เพื่อนำอากาศบริสุทธิ์กลับคืนมาให้กับประชาชน ในส่วนศูนย์ประสานงานแห่งนี้เราต้องการให้เป็นที่พึ่งของประชาชน และประชาชนสามารถมีส่วนร่วมกับเรา ซึ่งจะทำให้เราสามารถรับรู้ปัญหาต่างๆนาๆของประชาชนได้เช่นปัญหาปากท้อง ปัญหาสังคมสิ่งแวดล้อม สิ่งเหล่านี้จะนำไปแก้ไขให้เร่งด่วนและทันต่อเหตุการณ์"

ด้าน ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ กล่าวว่า วันนี้ถือว่าโชคดีที่สภาอากาศที่เขตบางซื่ออยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยค่าฝุ่นพิษ PM 2.5 เท่าที่วัดในตอนนี้ไม่เกินมาตรฐาน แต่ในอีกหลายเขตก็ยังเป็นปัญหาด้านสุขภาพต่อเด็กและผู้สูงอายุ ทั้งนี้ ตนมองว่า ถ้าในพื้นที่ กทม.การเพิ่มต้นไม้เพื่อสร้างอากาศที่ดี และเป็นเครื่องกรองอีกชั้นหนึ่ง และอาจจะต้องพิจารณาไปยังปักกิ่งโมเดล ที่มีการติดเครื่องฟอกอากาศยักษ์ในพื้นที่ เพราะกรุงปักกิ่งเผชิญกับปัญหาหมอกควันอย่างรุนแรง ประชาชนได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง กรุงปักกิ่งจึงได้ตั้งเครื่องฟอกอากาศขนาดยักษ์ภายในพื้นที่ เพื่อขจัดมลพิษทางอากาศ เนื่องด้วยตนเป็นนักสิ่งแวดล้อม จึงต้องการให้ศูนย์ประสานงานแห่งนี้ทำหน้าที่เฝ้าระวังปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ด้วย เพราะปัจจุบันถือว่าเป็นปัญหาอย่างหนัก

‘พปชร.’ ปล่อยเซ็ตภาพ ‘ทรงอย่างเท่’ ที่ใช้โปรโมตหาเสียง ให้เหมือน ‘บิ๊กป้อม’ ถ่ายภาพกับลูกๆ พร้อมโพสต์ท่า Y2K

(21 มี.ค. 66) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เดินทางเข้าที่ทำการพรรค เพื่อร่วมประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค โดยก่อนการประชุม พล.อ.ประวิตร และแกนนำพรรค ประกอบด้วย นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง และเลขาธิการพรรค นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และรองหัวหน้าพรรค นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค พล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ นายทะเบียนพรรค นางประภาพร อัศวเหม กรรมการบริหารพรรค น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ สมาชิกพรรค รวมถึงกลุ่มผู้สมัคร ส.ส.กทม.ได้ร่วมกันถ่ายเซ็ตภาพ "ทรงอย่างเท่ ตามติดซีรีส์ พปชร. อยากรู้เราทำอะไรกัน โปรดติดตาม" ที่จะใช้โปรโมตและหาเสียงของพรรค รวมถึงใช้ในการยื่นสมัคร ส.ส.

โดยเป็นรูปเดี่ยวของ พล.อ.ประวิตร ในชุดสูทสากล และแบบสวมแจ็กเก็ตของพรรค ในอิริยาบถต่างๆ เช่น ชูมือสัญลักษณ์นโยบายบัตรประชารัฐ 700 ชูมือสัญลักษณ์ถูกต้อง-ใช่เลย นอกจากนี้ ยังมีรูป พล.อ.ประวิตร ถ่ายร่วมกับผู้บริหารพรรค ทั้งผู้บริหารพรรคผู้ชายและผู้หญิง ในอิริยาบถสบายๆ ให้เหมือนกับ พล.อ.ประวิตร ถ่ายภาพกับลูกชาย ลูกสาว โดยบางภาพมีการทำสัญลักษณ์ Y2K


ที่มา : https://www.naewna.com/politic/718967

'ไผ่ ลิกค์' ปัดฝุ่นรถตู้คู่ใจ ดัดแปลงเพิ่มสีสันช่วยหาเสียง เน้น ‘เข้าทุกตรอก ออกได้ทุกซอย’ ช่วยเข้าถึงปชช.

เข้าทุกตรอก ออกได้ทุกซอย..เข้าโหมดเลือกตั้ง ‘ไผ่ ลิกค์’ ลุยเอง นำรถตู้เล็กดัดแปลงเป็นรถหาเสียง ซอกแซกหาเสียงได้ทุกซอกมุม

หลังรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศ ‘ยุบสภา’ ก้าวเข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง บรรดาว่าที่ผู้สมัครจากพรรคการเมืองต่างปูพรมลงพื้นที่ถี่ยิบ ซึ่ง ‘รถแห่หาเสียง’ ถือเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการแนะนำตัวผู้สมัคร ซอกแซกหาเสียงไปตามตรอกซอกซอยและในหมู่บ้านต่าง ๆ ในแต่ละเขต แต่บางครั้งก็ติดขัดการเข้าออกตามตรอกซอกซอยเล็ก ๆ ที่รถใหญ่หรือทีมงานผู้สมัครแต่ละรายเข้าไปได้ลำบาก

ไผ่ ลิกค์ อดีต ส.ส.กำแพงเพชร เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ ได้นำรถตู้คันเล็ก ๆ ที่มีอยู่มาตกแต่งทำสี ติดสติกเกอร์ ติดตั้งเครื่องไฟขยายเสียง เป็นพาหนะออกพบปะพี่น้องประชาชนในเขตเลือกตั้งของตัวเอง โดยเฉพาะในตลาด ตรอกซอกซอยต่าง ๆ แต่ละชุมชน โดยเป็นคนขับรถพาทีมงานเพียงไม่กี่คนลงพื้นที่เอง แบบ..“เข้าทุกตรอก ออกได้ทุกซอย” เพื่อการเข้าถึงประชาชน

'โทนี่’ เย้ย ‘บิ๊กป้อม’ แค่ที่เกาะหากินของลูกน้อง ยัน!! ไม่มีดีล 'พปชร.' ตั้งรัฐบาลแน่นอน

(22 มี.ค.66) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือ โทนี่ วู้ดซัม ตอบคำถามผ่าน CareTalk x Care ClubHouse เลือก•เคลื่อน•ไทย 2566 EP4: เติมเงินครั้งใหญ่ คนไทยไร้จน! ไม่จกตาแน่นะวิ? เรื่องกระแส การดีลระหว่างพรรคเพื่อไทย กับ พรรคพลังประชารัฐ จะจับมือกันไหม เพื่อฝ่าด่าน 250 ส.ว. ดัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็น นายกฯ และป้องกัน รัฐประหาร ว่า ผมว่าน่าจะยาก เพราะลุงป้อมเองวันก่อนไปที่จ.เชียงใหม่ ก็เป็นนายกฯขึ้นนายกฯลงแล้ว คือเดี๋ยวต้องยกขึ้นยกลงจากเวทีแกคงต้องพักผ่อนแล้วลูกน้องก็อยากค้ำแกไว้ เพื่อไว้เกาะทำมาหากิน ซึ่งผมสงสารแกนะ ต้องพักได้แล้ว สังขารมันไม่ได้แล้ว จะมานั่งทำงานให้ประเทศก็ไม่ไหวแล้ว ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ยากที่ใครจะไปนั่งคุยกัน

วันนี้ประชาชนเขาบอกว่า เดี๋ยวเขาเลือกให้เอง ไม่ต้องไปรบกวน ส.ว. หรอก ให้ ส.ว. ที่เขาอิสระ ไม่สังกัดใคร เขาก็จะใช้ดุลพินิจตามประชาชน ก็มีจำนวนหนึ่งอยู่แล้ว คือ เขามีอิสระ เขาจะไม่ยกให้ ก็คงช่วยไม่ได้

ส่วนที่มีการโยงคอนเน็กชั่นระหว่าง พล.อ.ประวิตร กับ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ แห่งบ้านจันทร์ส่องหล้า นายทักษิณ กล่าวว่า ถามว่าคุณหญิงกับป้อมรู้จักกันดีไหมก็รู้จัก แต่ไม่ได้สนิทสนมกันขนาดนั้น ส่วนกับ พล.ต.อ.พัชรวาท (น้องชาย ‘บิ๊กป้อม) ก็รู้จักกัน แต่ไม่สนิท ขนาดมาชี้นำการเมือง คุณหญิงไม่ยุ่งการเมือง ยุ่งแต่เรื่องสังคม ที่ไปมาหาสู่ ไม่บอกชี้นำการเมือง


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top