Saturday, 19 April 2025
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติชื่นชมพร้อมมอบรางวัลให้กับดาบตำรวจท่องเที่ยว เร่งช่วยเหลือนักท่องเที่ยวเด็กชาวจีนที่ป่วยและเป็นลมด้วยหัวใจผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ นำส่งโรงพยาบาลจนอาการปลอดภัย

วันนี้ (14 ก.พ.67) เวลา 10.30 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ชื่นชมและมอบรางวัลให้กับ ด.ต.โชติธนินท์ วัจนสุนทรวงศ์ ผบ.หมู่ ส.ทท.1 กก.1 บก.ทท.1 บช.ทท. ที่เข้าช่วยเหลือนักท่องเที่ยวเด็กชาวจีน ที่มีอาการป่วยและเป็นลม โดยได้ช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น และนำส่งโรงพยาบาลจนอาการปลอดภัย สร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยว รวมถึงผู้ที่ทราบเหตุการณ์เป็นอย่างมาก โดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้มอบโล่ประกาศเกียรติคุณและเงินรางวัล ณ สำนักงาน ผบ.ตร. อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เวลา 11.30 น.  ด.ต.โชติธนินท์ ฯ ขณะปฏิบัติหน้าที่เวร สายตรวจ บริเวณอุโมงค์หน้าพระลาน ถนนหน้าพระลาน แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร พบ เด็กชาย ลู่ อวี่เฟย ชาวจีน มีอาการป่วยเป็นไข้ เป็นลม และอาเจียน จึงได้เร่งให้ความช่วยเหลือโดยการปฐมพยาบาลเบื้องต้น จากนั้นได้นำตัวเด็กชายชาวจีนคนดังกล่าวส่งโรงพยาบาลกลางเพื่อพบแพทย์และทำการรักษาต่อไป ล่าสุดอาการปลอดภัย

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ขอชื่นชมและขอบคุณ ด.ต.โชติธนินท์ ฯ ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยหัวใจของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ จนนักท่องเที่ยวปลอดภัย จึงมอบรางวัลให้เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ ตลอดจนเป็นแบบอย่างที่ดีในการปฏิบัติหน้าที่ของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์สืบไป ส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสร้างความเชื่อมั่นศรัทธาให้กับประชาชน

นอกจากนี้  พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ  ผู้บัญชาการตำรวจท่องที่ยว ได้ชื่นชมและมอบรางวัลให้กับ ด.ต.โชติธนินท์ ที่ปฏิบัติหน้าที่ตามนโยบายของรัฐบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ในการดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวก ให้กับนักท่องที่ยวอย่างเต็มที่

ผบ.ตร.มอบโล่และรางวัลแก่ตำรวจ สภ.จอหอ จ.นครราชสีมา เกลี้ยกล่อมหนุ่มคลุ้มคลั่งใช้ปืนยิงประตู จับแฟนสาว แม่ และลูกค้าเป็นตัวประกัน ให้มอบตัวสำเร็จ และช่วยเหลือตัวประกันปลอดภัยทุกคน ยกเป็นแบบอย่างการปฏิบัติ

วานนี้ (27 ก.พ.67) พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบโล่ประกาศเกียรติคุณและรางวัลให้กับข้าราชการตำรวจ สภ.จอหอ จ.นครราชสีมา ที่สามารถเกลี้ยกล่อมชายหนุ่มที่ง้อแฟนไม่สำเร็จ ใช้อาวุธปืนยิงประตู 1 นัด จับแฟนสาวและแม่ รวมทั้งลูกค้าเป็นตัวประกัน ให้มอบตัวได้สำเร็จ และสามารถช่วยเหลือตัวประกันออกมาได้อย่างปลอดภัยทุกคน โดยมี พ.ต.อ.นธีร์ สุคุณา ผู้กำกับการ สภ.จอหอ เป็นผู้แทนรับมอบ

โดยเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เกิดเหตุชายมีอาการคลุ้มคลั่งเนื่องจากง้อแฟนไม่สำเร็จ จึงใช้อาวุธปืนยิงประตู 1 นัด และจับแฟนสาว รวมทั้งแม่ของแฟนสาว และลูกค้าที่กำลังมาติดต่องานเป็นตัวประกัน เหตุเกิดภายในบ้านหลังหนึ่งใน ต.ตลาด อ.เมือง จ.นครราชสีมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จอหอ นำโดย พ.ต.อ.นธีร์ สุคุณา ผู้กำกับการ สภ.จอหอ นำกำลังรีบเข้าตรวจสอบและเกลี้ยกล่อมผู้ก่อเหตุ ช่วยเหลือตัวประกันทุกคนออกมาได้สำเร็จ ขณะที่การดำเนินการเกลี้ยกล่อมผู้ก่อเหตุใช้เวลา 5-6 ชั่วโมง จึงมีท่าทีที่อ่อนลงก่อนยอมมอบตัว จึงควบคุมไปสอบสวนที่ สภ.จอหอ 

ผบ.ตร. กล่าวว่า การเข้าช่วยเหลือและระงับเหตุครั้งนี้เป็นไปตามหลักยุทธวิธี สามารถเกลี้ยกล่อมผู้ก่อเหตุให้มอบตัวได้สำเร็จ และช่วยเหลือประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้อย่างปลอดภัย ถือเป็นแบบอย่างในการปฏิบัติหน้าที่ที่มีประสิทธิภาพ ด้วยหัวใจความเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ สมควรได้รับการยกย่องชื่นชม จึงมอบโล่ประกาศเกียรติคุณพร้อมรางวัลให้ข้าราชการตำรวจ สภ.จอหอ ที่เข้าปฏิบัติการครั้งนี้ทุกนาย เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป

'บิ๊กโจ๊ก' ลั่น!!! ใครอยากเป็น ผบ.ตร.ให้มาขอกันดีๆ พร้อมพาไปกราบ 'พล.ต.อ.เผ่า' อดีตอธิบดีกรมตำรวจ

(24 เม.ย.67) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (อดีตรอง ผบ.ตร.) หรือ ‘บิ๊กโจ๊ก’ เดินทางมาเพื่อยื่นหนังสือคัดค้านการใช้หลักฐานการตรวจสอบเส้นทางการเงินของพนักงานสอบสวนเครือข่ายมินนี่ ของ สน.ทุ่งมหาเมฆ และ สน.เตาปูน ที่ส่งให้ ปปง.ไปก่อนหน้านี้ ว่าไม่สามารถนำมาประกอบสำนวนได้ เนื่องจากเป็นการสอบสวนโดยมิชอบ โดยมี นายวิทยา นีติธรรม โฆษกสำนักงาน ปปง.เป็นตัวแทนรับหนังสือ

โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ที่มายื่นหนังสือในวันนี้ เพราะต้องการให้ ปปง.ไปตรวจสอบว่าข้อเท็จจริงที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ และ สน.เตาปูน สอบสวนคดีความผิดที่มีมูลค่าเกินกว่า 300 ล้าน ตามหลักกฎหมายจะต้องส่งให้พนักงานสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ตำรวจจะสอบสวนเองไม่ได้ เมื่อสอบสวนโดยไม่มีอำนาจ การทำรายงานข้อเท็จจริงและความผิดฟอกเงินต่าง ๆ ส่งมาให้ ปปง.นั้นก็จะมิชอบด้วย ปปง.จะไม่สามารถนำเอาไปดำเนินการยึดอายัดทรัพย์สินต่าง ๆ หรือดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งได้ ดังนั้น กระบวนการทั้งหมดก็จะเป็นโมฆะทั้งหมด ต้องเริ่มกระบวนการสอบสวนใหม่อย่างเป็นธรรม คดีไหนเป็นความผิดเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่รัฐอำนาจสอบสวนต้องเป็นของ ปปช.ก็ต้องส่ง ปปช.ภายไหน 30 วัน คดีไหนเป็นอำนาจของดีเอสไอ ก็ต้องส่งดีเอสไอ ตนเองจึงได้มายื่นหนังสือคัดค้านและชี้แจงให้ ปปง.เล็งเห็นข้อเท็จจริงในส่วนนี้

ส่วนกระบวนการต่อไปของตนเอง จะเป็นการล่ารายชื่อ 20,000 รายชื่อ เพื่อส่งข้อมูลให้ประธานสภา เพื่อให้ดำเนินการยื่นสอบจริยธรรมและถอดถอน นายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข กรรมการ ปปช.ต่อไป

ส่วนกรณีที่มีทนายคนดังออกมาแฉเส้นทางการเงินเว็บพนันออนไลน์ที่เชื่อมโยงไปถึงครอบครัวและคนใกล้ชิดของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ นั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เป็นเพียงเรื่องเก่า เปิดมานานแล้ว ก็ให้ว่ากันไป ใครอยากเปิดก็เปิดไป ไม่เป็นไร เป็นเรื่องที่อยู่ในสำนวนทั้งหมดแล้ว ลูกน้องตนเองอยู่ในกระบวนการกระทำความผิดก็จริง แต่ตนเองไม่ได้อยู่ในกระบวนการกระทำความผิด เงินของลูกน้อง ไม่ใช่ของตนเอง เมื่อมีขบวนการพยายามโยงความผิดมาที่ตนเอง ก็ต้องต่อสู้กันไป สุดท้ายศาล หรือ ปปช.จะเป็นผู้ตัดสินเอง

ส่วนตนเองจะได้รับความชอบธรรม และกลับมาก่อนการแต่งตั้ง ผบ.ตร.ในเดือนกันยายนนี้หรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า เรื่องการแต่งตั้งก็ว่ากันไป เป็นคนละส่วนกัน แต่การสืบสอบสวนเรื่องคดีย้ำว่า ทุกอย่างต้องยึดหลักกฎหมาย ไม่งั้นบ้านเมืองก็เดินต่อไปไม่ได้ ก่อนจะบอกว่า ตนเองผิดหรือถูก การสืบสวนต้องชอบด้วยกฎหมายก่อน ไม่ใช่สอบสวนแบบอาญาเถื่อน พร้อมทั้งยืนยันทิ้งท้าย หากสุดท้ายตนเองได้กลับไปเข้ารับตำแหน่งหรือได้เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะไม่มีการเช็กผิดใคร ไม่ใช่คนอาฆาตแค้นใคร ทำบุญหมด

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (25 เม.ย.) เวลา 10.00 น.จะเดินทางไปยื่นหนังสือร้องเรียนกับคณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรม ยื่นผ่านสำนักงาน ก.ตร.ขอให้เพิกถอนคำสั่งที่ให้ออกจากราชการ ว่าเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และหากได้พบกับ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร. ก็ไม่มีอะไรอยากจะถาม แต่ถ้าใครอยากจะเป็น ผบ.ตร.ก็มาคุยกับตนเองได้ ตนเองยินดี ตนเองยอม เพราะยังอยู่อีกหลายปี และจะพาไปกราบรูปปั้น พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ อดีตอธิบดีกรมตำรวจ และพาไปกราบนายกรัฐมนตรี ว่าอย่าไปหลอกท่านอีก

สำนักงานตำรวจแห่งชาติเตรียมความพร้อมแผนพิทักษ์เลือกตั้ง/66 ดูแลความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2567

วันนี้ (17 พฤษภาคม 2567) เวลา 14.00 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร.) มอบหมายให้ พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการจัดการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2567 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ณ ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) เพื่อให้การเตรียมการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการจัดการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ในภารกิจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สุจริตและเที่ยงธรรม 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มอบหมายให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล , ตำรวจภูธรภาค 1-9 ประสานกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. พื้นที่ เพื่อขอทราบข้อมูลที่เกี่ยวข้องในการเตรียมการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการเลือกสมาชิกวุฒิสภา และข้อมูลที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ รวมทั้งความต้องการของ กกต. พื้นที่ ในการขอรับการสนับสนุนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นอกเหนือจากการจัดกำลังตามแผนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการวางแผนการจัดกำลังในภาพรวมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และให้ถือปฏิบัติตามแผนรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการจัดการเลือกตั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (พิทักษ์เลือกตั้ง/66) โดยเคร่งครัด รวมทั้งให้จัดทำแผนรองรับการปฏิบัติตามแผนฯ ในวันรับสมัคร และวันเลือกสมาชิกวุฒิสภาแต่ละระดับ และภารกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น การรักษาความปลอดภัยสถานที่พิมพ์บัตร การขนส่งบัตรและอุปกรณ์ฯลฯ 

นอกจากนี้ ให้เปิดศูนย์อำนวยการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการจัดการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (ศลต.) ทุกระดับ ตั้งแต่วันที่ 1-30 มิถุนายน 2567 และจัดกำลังรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการเลือกสมาชิกวุฒิสภา โดยให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล และตำรวจภูธรทุกจังหวัด เป็นหน่วยรับผิดชอบ ทั้งในห้วงการรับสมัครการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ณ เขต/อำเภอ วันที่ 20-24 พฤษภาคม 2567 , การเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับเขต/อำเภอ ในวันที่ 9 มิถุนายน 2567 , การเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับจังหวัด ในวันที่ 16 มิถุนายน 2567 และการเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับประเทศ ในวันที่ 26 มิถุนายน 2567 พร้อมให้ระดมกวาดล้างอาชญากรรมในห้วงที่มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง และอาวุธสงคราม

พล.ต.ท.กรไชยฯ กล่าวว่า นอกเหนือจากแนวทางดังกล่าวแล้ว ได้เน้นย้ำให้หน่วยงานในสังกัดวางตัวเป็นกลางทางการเมือง ไม่ใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย หากพบการกระทำความผิดกฎหมายให้ดำเนินการอย่างเคร่งครัด เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบจะต้องคำนึงถึงอำนาจและหน้าที่ตามกฎหมายที่ให้อำนาจไว้ โดยเฉพาะในเรื่องการรักษาความปลอดภัยและการรักษาความสงบในทุกขั้นตอนของการปฏิบัติ ในส่วนของผู้บังคับบัญชาจะต้องชี้แจงกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ผู้ใต้บังคับบัญชาผู้มีหน้าที่ปฏิบัติทราบ โดยเฉพาะพนักงานสอบสวนควรต้องศึกษาทำความเข้าใจข้อกฎหมายเกี่ยวกับการวิธีการรับสมัครและการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาดังกล่าวไว้ โดยให้ประสาน กกต. พื้นที่ เพื่อจัดฝึกอบรมข้าราชการตำรวจในการปฏิบัติหน้าที่ สำหรับภารกิจการสนับสนุนการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา ตามระเบียบ กฎหมาย ส่วนกรณีมีเหตุหรือมีความผิดเกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้ง หรือที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตการเลือกตั้งและมีโทษทางอาญาที่เกิดขึ้นในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ให้รายงานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผ่าน ศปก.ตร. โดยทันที 

นอกจากนี้ พล.ต.ท.กรไชยฯ ยืนยันว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความพร้อมในการสนับสนุนภารกิจการจัดการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ตามแผนพิทักษ์เลือกตั้ง/66 และยินดีให้ความร่วมมือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง ในเรื่องการจัดกำลังพลสนับสนุนในการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการเลือกสมาชิกวุฒิสภา และเรื่องอื่น ๆ ที่ร้องขอ ตามกรอบของกฎหมายและอำนาจหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีพบศพชาวต่างชาติเสียชีวิต 6 รายที่โรงแรมในพื้นที่ สน.ลุมพินี

วันนี้ (16 กรกฎาคม 2567) พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รับรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 17.30 น. สน.ลุมพินี ได้รับแจ้งจากพนักงานโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ว่ามีเหตุผู้เสียชีวิตภายในโรงแรมดังกล่าว พ.ต.อ.ยิ่งยศ สุวรรณโณ ผกก.สภ.ลุมพินี นำกำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบมีผู้เสียชีวิตอยู่ที่โรงแรม จำนวน 6 ศพ จึงได้แจ้งแพทย์นิติเวช และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ร่วมตรวจสอบ และทางด้าน พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อม พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ และหาสาเหตุการเสียชีวิต โดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติสั่งการให้เร่งสืบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิต และเร่งติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุโดยเร็ว พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุทันที 

ล่าสุดขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กั้นพื้นที่เกิดเหตุ อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน  ซึ่งนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สั่งตรวจสอบเรื่องนี้โดยด่วน และล่าสุดขณะนี้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วยตนเองแล้ว

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติพร้อมข้าราชการตำรวจทั่วประเทศ ส่งกำลังใจร่วมเชียร์ "วิว กุลวุฒิ" ชิงชนะเลิศแบดมินตันชายเดี่ยว โอลิมปิก 2024 คืนนี้

วันนี้ (5 สิงหาคม 2567) พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมข้าราชการตำรวจทั่วประเทศ ร่วมส่งกำลังใจให้กับ ส.ต.ท.กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ผบ.หมู่ ฝอ.บก.ป. หรือ วิว นักกีฬาแบดมินตันทีมชาติไทย ที่ร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2024 ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งจะลงแข่งขันแบดมินตัน ประเภทชายเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ ลุ้นเหรียญทองให้ประเทศไทยในค่ำวันนึ้

กีฬาโอลิมปิก 2024 วันนี้ มีไฮไลต์ที่การแข่งขันแบดมินตัน ประเภทชายเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ ในเวลา 20.50 น. ตามเวลาประเทศไทย โดย "วิว" ส.ต.ท.กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักตบลูกขนไก่มือ 8 ของโลก จะพบกับ วิกเตอร์ อักเซลเซ่น มือ 2 ของโลกจากเดนมาร์ก หาก "วิว" ชนะจะเป็นเหรียญทองจากโอลิมปิกเกมส์เหรียญแรกของประเทศไทยในกีฬาแบดมินตัน

นอกจากนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้มอบหมายสำนักงานกำลังพล ตรวจสอบการดูแลสิทธิประโยชน์ต่างๆ ให้กับ ส.ต.ท.กุลวุฒิฯ และนักกีฬาตำรวจทุกคนที่เป็นตัวแทนทีมชาติไทยเข้าร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในครั้งนี้ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจ สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย และสร้างความสุขให้กับคนไทยทุกคน

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเปิดการประชุมร่วมตำรวจไทย-มาเลเซีย ระดับบริหาร ครั้งที่ 27 ส่งเสริมความร่วมมือในกิจการตำรวจ และการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมข้ามพรมแดน

วันนี้ (6 สิงหาคม 2567) เวลา 09.00 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานเปิดการประชุมร่วมระหว่างตำรวจไทยและตำรวจมาเลเซีย ระดับบริหาร ครั้งที่ 27 ณ โรงแรมดิ แอทธินี โฮเท็ล แบงค็อก กรุงเทพมหานคร โดยมี พล.ต.อ.ตัน ศรี ราซารุดิน บิน ฮุสเซน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาเลเซีย และ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมพิธี การประชุมร่วมระหว่างตำรวจไทยและตำรวจมาเลเซีย ระดับบริหาร ครั้งที่ 27 เป็นการประชุมประจำปีที่จัดขึ้นสลับกันระหว่างทั้งสองประเทศ ในปีนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติของไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ระหว่างวันที่ 5 - 8 สิงหาคม 2567 โดยที่ประชุมได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนข้อมูล 9 หัวข้อ ได้แก่  
1. การลักลอบนำเข้าและการค้าอาวุธ  
2. การลักลอบนำเข้ายานพาหนะที่ถูกโจรกรรมระหว่างสหพันธรัฐมาเลเซียและราชอาณาจักรไทย  
3. การค้ามนุษย์และการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง 
4. อาชญากรรมทางเศรษฐกิจและอาชญากรรมทางไซเบอร์  
5. การลักลอบนำเข้าและการค้ายาเสพติด 
6. การรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนตามแนวชายแดน  
7. อาชญากรรมทางทะเลและการกระทำอันเป็นโจรสลัด 
8. การก่อการร้าย ซึ่งส่งผลกระทบต่อราชอาณาจักรไทยและสหพันธรัฐมาเลเซียและงานข่าวกรอง 
9. การฝึกอบรมและพัฒนาศักยภาพบุคลากร 

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ฯ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการส่งเสริมความร่วมมือในกิจการตำรวจ และรักษาคำมั่นของทั้งสองฝ่ายในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมข้ามพรมแดน ผ่านการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวกรอง ทรัพยากร และความเชี่ยวชาญ ตามข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายได้มีร่วมกัน และสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการรักษาความสงบเรียบร้อย การสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ภาคสังคมของทั้งสองประเทศ ยืนยันว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติของไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาเลเซีย มีความมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าพัฒนาความร่วมมือระดับทวิภาคี เพื่อนำมาซึ่งความปลอดภัยและความมั่นคงของทั้งสองประเทศให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติสั่งการตำรวจทุกหน่วยตั้งศูนย์ปฏิบัติการ บูรณาการกับทุกภาคส่วนเพื่อเร่งช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เข้มงวดการรักษาความสงบเรียบร้อย เพื่อไม่ให้คนร้ายฉวยโอกาสซ้ำเติมผู้ประสบภัยน้ำท่วม พร้อมเปิดสายด่วนตลอด 24 ชั่วโมง

เมื่อวานนี้ (24 สิงหาคม 2567) พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการด่วนที่สุด ให้ตำรวจทุกหน่วยช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทุกภัย ทำให้มีฝนตกต่อเนื่อง เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ.2558 มอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติรับผิดชอบในการรักษาความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัยของประชาชน และจัดระบบจราจรในพื้นที่ประสบภัยและพื้นที่ใกล้เคียง ตลอดจนสนับสนุนกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ต่างๆ นั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีมาตรการให้ทุกหน่วยช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดน่าน แพร่ เชียงราย และพะเยา รวมทั้งพื้นที่ที่ยังคงมีระดับน้ำเพิ่มขึ้น และให้ทุกหน่วยในพื้นที่นำกำลังพล ยุทโธปกรณ์ ยานพาหนะ (รถยนต์/เรือ) อุปกรณ์อื่นๆ ออกช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยในพื้นที่โดยด่วน และให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นดูแลเอาใจใส่บำรุงขวัญ และช่วยเหลือผู้ใต้บังคับบัญชาที่ได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าวด้วย

นอกจากนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ได้เพิ่มความเข้มงวดในการปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย อำนวยความสะดวกด้านการจราจร เพิ่มกำลังสายตรวจทั้งทางบกและทางน้ำ วางมาตรการในการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เพื่อป้องกันมิให้ถูกคนร้ายฉวยโอกาสซ้ำเติมผู้ประสบภัย พร้อมจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการ (ศปก.) เพื่อบูรณาการกับทุกภาคส่วน รวมทั้งจิตอาสาในพื้นที่รับผิดชอบ ให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุสาธารณภัยอย่างใกล้ชิด และจัดชุดช่วยเหลือประชาชนพร้อมออกปฏิบัติการในพื้นที่ประสบภัยอย่างทันที

ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เปิดสายด่วนให้ความช่วยเหลือประชาชน ทั้งหมายเลขสายด่วน 191 , 1599 , สายด่วนกองบังคับการตำรวจจราจร 1197 , สายด่วนตำรวจทางหลวง 1193 ตลอด 24 ชั่วโมง

ผบ.ตร.ห่วงใยประชาชน กำชับตำรวจภูเก็ต จัดกำลังตรวจตรา ดูแลความปลอดภัย และช่วยเหลือพี่น้องประชาชน กรณีภัยพิบัติดินโคลนถล่ม จ.ภูเก็ต

วันนี้ (25 สิงหาคม 2567) เวลา 13.30 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มอบหมายให้ พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม รอง ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ รอง ผบช.ภ.8 และ พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต เข้าประชุมที่ศูนย์ฟื้นฟูผู้ประสบภัยน้ำท่วม เพื่อรับทราบสถานการณ์ กรณีภัยพิบัติดินโคลนถล่ม จ.ภูเก็ต

ผบ.ตร. ได้มีข้อสั่งการ กำชับการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กรณีสถานการณ์ภัยพิบัติดินโคลนถล่ม ดังนี้

1. ให้จัดกำลังพนักงานสอบสวน พนักงานวิทยุ สายตรวจ และชุดเคลื่อนที่เร็ว ประจำที่ศูนย์ฟื้นฟูผู้ประสบภัยน้ำท่วม เพื่อให้การช่วยเหลือและรับแจ้งเหตุจากผู้ประสบภัยตลอด 24 ชั่วโมง จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

2. จัดกำลังออกลาดตระเวนตรวจตราบ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชนที่ประสบภัย โดยจะต้องไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำเติมประชาชนขึ้นอย่างเด็ดขาด

3. จากการพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ทราบล่วงหน้าว่าในช่วงนี้จะยังมีฝนตกหนักในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ดังนั้น เพื่อป้องกันมิให้เกิดความสูญเสียจากเหตุดังกล่าวซ้ำซ้อนอีก จึงให้ทุกหน่วยเฝ้าระวังสถานการณ์ฝนตกหนักและดินโคลนถล่มในพื้นที่ พร้อมทั้งแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสียงภัยให้ทราบล่วงหน้า

จากนั้น พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม ได้มอบสิ่งของตรวจเยี่ยมจำนวน 150 ชุด ให้กับประชาชนที่ประสบภัย และมอบเงินบำรุงขวัญให้กับ ผกก.สภ.กะรน โดย ผบ.ตร. ได้ฝากขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกหน่วย และจิตอาสา ที่ได้ช่วยกันให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างเต็มกำลัง

ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เปิดสายด่วนให้ความช่วยเหลือประชาชน ทั้งหมายเลขสายด่วน 191 , 1599 , สายด่วนกองบังคับการตำรวจจราจร 1197 และสายด่วนตำรวจทางหลวง 1193 ตลอด 24 ชั่วโมง

ผบ.ตร. ลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต เน้นย้ำนโยบายรัฐบาล กำชับดูแลความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว

เมื่อวานนี้ (26 ส.ค. 67) เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม รอง ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. ได้เดินทางไปที่ด่านตรวจท่าฉัตรไชย จ.ภูเก็ต เพื่อตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและนักท่องเที่ยว

จากนั้น ผบ.ตร. และคณะ ได้ประชุมร่วมกับ พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8, พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับมาตรการในการดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว ตามมาตรการ ภูเก็ตโมเดล (PHUKET MODEL) ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

1. การจัดทำข้อมูลเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวใน 3 ด้าน - ได้แก่ ความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวก, การปราบปรามชาวต่างชาติที่ทำผิดกฎหมาย และการควบคุมกิจกรรมเสี่ยงของนักท่องเที่ยว เพื่อใช้ในการป้องกันและบริหารจัดการเหตุการณ์ในพื้นที่

2. การแก้ไขปัญหาจราจร - ออกข้อบังคับห้ามรถบรรทุกขนาดใหญ่ (3 เพลาขึ้นไป) วิ่งในช่วงเวลาห้าม (เช้าและบ่าย) เพื่อแก้ไขปัญหาจราจร ซึ่งได้รับการชื่นชมจากประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก

3. การบังคับใช้กฎหมาย - ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังกับนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติ โดยมีการจับกุมคดีอาญามากกว่า 2,800 คดี และคดีจราจรกว่า 15,000 คดี พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ชาวต่างชาติปฏิบัติตามกฎหมาย

ผบ.ตร. ได้ชมเชยการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.จว.ภูเก็ต ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี และเน้นย้ำให้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องต่อไป เนื่องจากเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว และสร้างรายได้เข้าประเทศ ตามนโยบายของรัฐบาล

นอกจากนี้ ผบ.ตร. ยังได้สั่งการให้ ผบช.ภ.8 จัดหาเทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของด่านตรวจท่าฉัตรไชย ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญของ จ.ภูเก็ต ในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม และได้มอบเงินบำรุงขวัญให้ ผกก.สภ.ท่าฉัตรไชย เพื่อใช้ในการดูแลสวัสดิการของข้าราชการตำรวจในการปฏิบัติหน้าที่ดูแลพี่น้องประชาชนต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top