Monday, 13 May 2024
ประวิตรวงษ์สุวรรณ

'ชวน' ให้กำลังใจ 'บิ๊กป้อม' ทำหน้าที่ ส.ส.ไม่หลุด  ชี้!! ปมก้มหน้า แค่เรื่องเล็กน้อยไม่ใช่ประเด็น

(6 ก.ค. 66) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวน หลีกภัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตประธานรัฐสภา กล่าวถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ขณะเข้าร่วมประชุมสภาฯ นัดแรก เพื่อโหวตเลือกผู้ทำหน้าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร และรองประธานสภาฯ ก้มหน้าในห้องประชุมคล้ายนั่งหลับ ว่า ตนขอให้กำลังใจ พล.อ.ประวิตร ที่มาร่วมประชุมและได้เข้าแสดงตนเพื่อเป็นองค์ประชุม

"ผมมองเห็นว่าท่านนั่งอยู่ตลอดไม่ได้ไปไหนเลย ส่วนท่านจะก้มหน้าหรือเงยหน้า หรือจะทำอะไรก็ถือเป็นเรื่องเล็กน้อย"

นายชวน ระบุว่า ขออย่าวิพากษ์วิจารณ์หรือเอามาเป็นประเด็น เพราะท่านสามารถเลือกที่จะไม่นั่งในที่ประชุมก็ได้ แต่นี่นั่งอยู่เป็นองค์ประชุมตลอด ในการโหวต ถือเป็นการทำหน้าที่ของ ส.ส. และรักษาองค์ประชุมของสภา ตรงนี้ต่างหากที่เป็นประเด็นที่ต้องให้กำลังใจกัน ซึ่งทำให้ครบองค์ประชุมและสามารถเดินต่อหน้าต่อไปได้ ตนจึงขอเป็นกำลังใจให้ในการทำหน้าที่ต่อไป

‘บิ๊กป้อม’ กร้าว!! ไม่เอาพรรคแก้ ม.112 ย้ำ ส.ส. ในพรรค ออกเสียงโหวตเป็นเอกภาพ

(11 ก.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า ในที่ประชุม ส.ส.พรรคพลังประชารัฐที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเป็นประธาน ใช้เวลาหารือถึงทิศทางการโหวตนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 13 ก.ค.นี้ ค่อนข้างนาน และได้เปิดให้ ส.ส.แสดงความคิดเห็นกันอย่างหลากหลาย โดยช่วงหนึ่ง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “พรรคเราต้องเป็นเอกภาพ เราจะไม่เอาคนที่ไม่เอามาตรา 112 และวันที่ 13 ก.ค.นี้ อาจจะโหวตงดออกเสียง” 

ขณะที่ ส.ส.อาวุโสรายหนึ่งได้แสดงความเห็นว่า มองว่าการงดออกเสียงก็เหมือนกับไม่เห็นชอบแล้ว ขณะนี้กระแสสังคมค่อนข้างแรง ถ้าโหวตไม่เห็นชอบเลยอาจจะมีผลกระทบ ต่อส.ส.ในพื้นที่ 

ด้านร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และประธานยุทธศาสตร์ภาคเหนือได้ แสดงความเห็นว่าส.ว.หลายคนออกมาให้สัมภาษณ์ว่าจะลงมติงดออกเสียง จนพล.อ.ประวิตร ระบุว่า ค่อยว่ากันอีกทีในวันโหวต ทั้งนี้ระหว่างประชุม ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกับที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ประกาศวางมือทางการเมือง และลาออกจากสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) โดยเมื่อนายมิ่งขวัญเห็นข่าว จึงได้แจ้งกับที่ประชุมว่า พล.อ.ประยุทธ์วางมือทางการเมือง แต่ พล.อ.ประวิตร ไม่ได้พูดอะไร เช่นเดียวกับ ส.ส.ที่ไม่ได้แสดงความเห็นอะไรต่อเรื่องนี้

‘ก้าวไกล’ ยืนยัน!! ส.ส.อยู่ครบ ไม่มีใครถูกซื้อเสียงโหวต ‘บิ๊กป้อม’ ชี้!! ได้บทเรียนแล้ว หากเป็นงูเห่าสอบตกยกแผง

(17 ก.ค. 66) ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กรุงเทพฯ รองเลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีกระแสข่าวการซื้อ ส.ส. พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยรวม 50 คน เพื่อเตรียมโหวตให้รัฐบาลเสียงข้างน้อยที่เสนอ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกรัฐมนตรีว่า ขอยืนยันว่า ส.ส. ก้าวไกลอยู่ครบ ไม่มีใครถูกซื้อแน่นอน ครั้งที่แล้วประชาชนลงโทษ ส.ส. งูเห่าทุกคนสอบตกหมด คะแนนต่ำพันก็มี ทุกพรรคเห็นตัวอย่างกันดีอยู่แล้วว่าการทรยศต่อประชาชน ผลออกมาเป็นอย่างไร ส่วนเรื่องการเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตรแข่งนั้น ขอพรรคเพื่อไทยอย่ากังวล ประชาชนจะกังวลไปด้วย เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้ด้วยเหตุผล 3 ข้อ

ข้อแรก ภายใน ส.ว. เองก็ไม่ได้มีเอกภาพ แม้ส่วนใหญ่จะไม่โหวตให้พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกฯ แต่ก็ไม่ได้หมายความทุกคนจะโหวตให้ พล.อ.ประวิตร ข้อสอง พรรคฝั่งรัฐบาลเดิมก็ไม่ได้เป็นเอกภาพ ว่าใครจะเป็นนายกฯ ถ้ามีการเสนอแข่ง ยังแย่งชิงกันอยู่ และข้อสาม สำคัญที่สุด แม้ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยได้ แต่ก็บริหารไม่ได้ ดังนั้น ถ้า 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลในปัจจุบันยังจับมือกันเหนียวแน่น แผนนี้ก็ไม่มีวันสำเร็จ

ส่วนกรณีที่มีการระบุว่าพรรคก้าวไกลสนใจแต่วาระทางการเมือง ไม่สนใจวาระประชาชน ความเดือดร้อนประชาชนต้องมาก่อนวาระการเมือง มัวลากยาวสู้ใน 2 สมรภูมิตามที่ประกาศเพียงจะทำเรื่องเชิงสัญลักษณ์นั้น ณัฐชากล่าวว่า พรรคก้าวไกลออกโรดแมปมาให้ประชาชนเห็นชัดๆ แล้วว่าเรามีแผนการอย่างไร จะสู้ในสองสมรภูมิ ซึ่งมีกรอบเวลาชัดเจนทั้งสองสมรภูมิ สมรภูมิโหวตนายกฯ ถ้าวันที่ 19 กรกฎาคม คะแนนโหวตนายกฯ รอบ 2 ยังห่างจาก 376 ก็เป็นอันจบ รอสมรภูมิต่อไปคือการยกเลิกมาตรา 272 ซึ่งต้องเข้าสภาฯ ภายใน 15 วันหลังยื่นร่าง คือภายในวันที่ 29 กรกฎาคมนี้ และถ้าผลออกมาคือร่างตก ก็จบเช่นกัน เรายอมถอยให้เพื่อไทยตั้งรัฐบาล พิธาเองก็ประกาศไปแล้วว่าถ้าไปต่อไม่ได้จริง ๆ ก็จะถอย เปิดโอกาสให้ประเทศ เพราะเวลาเรามีจำกัด จะลากไปเรื่อย ๆ ไม่ได้ เราคงไม่สามารถพูดชัดได้กว่านี้อีกแล้ว

ส่วนการที่บอกว่า มัวแต่สู้เชิงสัญลักษณ์ ทั้งที่รู้ว่าแพ้ เรื่องนี้พรรคก้าวไกลยืนยันว่าเรามีภารกิจต้องรับผิดชอบต่อประชาชนในฐานะพรรคอันดับหนึ่ง ถ้าสู้เหยาะ ๆ แหยะ ๆ ก็เท่ากับบอกประชาชนว่าเรายอมรับกฎที่อยุติธรรมและความผิดปกติในประเทศนี้ เราเป็นพรรคการเมือง เป็นผู้แทนราษฎร ต้องพิทักษ์เสียงของประชาชนอย่างดีที่สุด ไม่ใช่ปล่อยให้เขาเอาไปทิ้งน้ำ ต้องสู้ถึงที่สุดก่อน เพื่อให้สมกับความไว้วางใจที่ประชาชนมอบให้

'บิ๊กป้อม' ถก 'กก.กกท.' เคาะเปลี่ยนชื่อกีฬาว่ายน้ำให้เข้ากับสากล พร้อมกำชับความพร้อมขั้นสุด หลังไทยเจ้าภาพ 2 กีฬาใหญ่ปี 67

(26 ก.ค. 66) ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 7/66

ที่ประชุมเห็นชอบ เปลี่ยนชื่อชนิดกีฬา จากว่ายน้ำ (Swimming) เป็นกีฬาทางน้ำ (Aquatics) ตามที่สหพันธ์กีฬาทางน้ำนานาชาติ ได้เปลี่ยนชื่อให้ครอบคลุม 6 ประเภทกีฬา คือ ว่ายน้ำ, โปโลน้ำ, กระโดดน้ำ, ระบำใต้น้ำ, ว่ายน้ำมาราธอน และกระโดดหน้าผา และเห็นชอบการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี 66 งบกลาง อุดหนุนสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย จำนวน 88 สมาคม เป็นเงิน 60 ล้านบาท และ สมาคมกีฬาจังหวัด ปี 66 จำนวน 77 สมาคม เป็นเงิน 40 ล้านบาท

นอกจากนั้นรับทราบ มติที่ประชุมสมัชชาสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย เห็นชอบให้ประเทศไทย เลื่อนการแข่งขันกีฬาเอเชียอินดอร์และมาเชี่ยนอาร์ทเกมส์ ครั้งที่ 6 ปี 64 จากเดิม 17-26 พ.ย.66 เป็น 24 ก.พ. - 6 มี.ค.67

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขอให้การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) วางแผนการดำเนินงาน เพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดการแข่งขันกีฬา เอเชียนอินดอร์เกมส์ และมาเชี่ยล อาร์ทเกมส์ ครั้งที่ 6 โดยเก็บบทเรียนการแข่งขันกีฬารายการใหญ่ที่ผ่านมา เพื่อให้การเป็นเจ้าภาพการแข่งขันดังกล่าว มีความสมบูรณ์และได้รับการยอมรับจากนานาชาติด้วยดี

‘บิ๊กป้อม’ ต้อนรับ ‘สวี่ กานลู่’ รมช.ความมั่นคงฯ จีน หารือแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์-ยาเสพติด-ค้ามนุษย์

(8 ส.ค. 66) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้การต้อนรับ นาย สวี่ กานลู่ รมช.กระทรวงความมั่นคงสาธารณะและผู้บังคับการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแห่งชาติ สาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมคณะฯ ณ ห้องรับรอง รอง นรม. ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล

พล.อ.ประวิตร ได้แสดงความยินดีและให้การต้อนรับ นายสวี่ กานลู่ (H.E. Mr. Xu Ganlu) ที่ได้เดินทางมาเข้าพบและเป็นการเยือนประเทศไทยเป็นครั้งแรก ซึ่งไทย-จีน มีความสัมพันธ์อันดี และมีพัฒนาการที่ดีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมมีการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงกลับมาเป็นปกติ ภายหลังสถานการณ์ โควิด-19 คลี่คลาย

ในขณะเดียวกัน พล.อ.ประวิตร ยังได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์อุทกภัยในประเทศจีน เนื่องจากพายุฝนที่กรุงปักกิ่งและมณฑลเหอเป่ย เชื่อมันว่าภายใต้การบริหารงานที่มีประสิทธิภาพของรัฐบาลจีน จะสามารถช่วยเหลือประชาชนและฟื้นฟูพื้นที่ให้กลับคืนสู่ภาวะปกติได้โดยเร็ว

นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ยังได้ยินดีที่ทั้งสองประเทศ มีความร่วมมือด้านความมั่นคงและการบังคับใช้กฎหมายที่ใกล้ชิด ซึ่งไทยให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจผิดกฎหมาย ทั้งปัญหาคอลเซ็นเตอร์, การพนันออนไลน์, ยาเสพติดและการค้ามนุษย์ โดยไทยยินดีให้ความร่วมมือด้านการบังคับใช้กฎหมายและความมั่นคง เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ต่อไป

ทางด้านนาย สวี่ กานลู่ ได้กล่าวขอบคุณ พล.อ.ประวิตรที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น และขอบคุณรัฐบาลไทยที่สนับสนุนการทำงานร่วมกันกับเจ้าหน้าที่จีนที่ผ่านมาด้วยดี และยินดีที่จะสนับสนุนส่งเสริมการแก้ไขปัญหาร่วมกันเกี่ยวกับปัญหาคอลเซ็นเตอร์, การพนันออนไลน์, ยาเสพติด และการค้ามนุษย์ ซึ่งจีนให้ความสำคัญมาโดยตลอด รวมถึงความร่วมมือกับไทยในการป้องกันด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ด้วย ซึ่งจะเป็นการส่งสริมความสัมพันธ์อันดี ‘ไทย-จีน’ ให้แน่นแฟ้นมากขึ้น ต่อไป

11 สิงหาคม พ.ศ. 2488 วันคล้ายวันเกิด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ผู้มีบทบาทสำคัญทางการเมืองไทยในปัจจุบัน

วันนี้เป็นคล้ายวันเกิด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ครบรอบ 78 ปี

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ชื่อเล่น ‘ป้อม’ เกิดเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2488 เป็นบุตรของ พล.ต. ประเสริฐ วงษ์สุวรรณ และสายสนี วงษ์สุวรรณ มีพี่น้องร่วมกัน 5 คน ได้แก่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ, พล.ร.อ.ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ, พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ, พงษ์พันธุ์ วงษ์สุวรรณ และพันธุ์พงษ์ วงษ์สุวรรณ

ในวัยเด็ก พล.อ.ประวิตร เข้าเรียนมัธยมที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล เป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน, ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รวมถึง ปัฐวาท สุขศรีวงศ์ นักธุรกิจเจ้าของคอม-ลิงค์ (เจ้าของนาฬิกาหรู) เป็นที่มาของฉายา ‘เซนต์คาเบรียลคอนเน็กชัน’

จากนั้น พล.อ.ประวิตร ก้าวเข้าสู่รั้วเตรียมทหาร รุ่นที่ 6 (ตท.6) ก่อนจะเข้าสู่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 17 (จปร.17) กลายเป็นทหารดาวรุ่งของกองทัพบกยุคนั้น และเติบโตในเส้นทางของกองทัพอย่างต่อเนื่อง จนสามารถผงาดขึ้นเป็นผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในยุครัฐบาลทักษิณ ชินวัตร โดยการผงาดขึ้นสู่ตำแหน่ง ผบ.ทบ. ของ พล.อ.ประวิตร ได้สร้างประวัติศาสตร์เป็นนายทหารที่ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์คนแรกที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการทหารบก

พล.อ.ประวิตร เข้าสู่เส้นทางการเมืองอย่างเป็นทางการในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดยได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ถึง 9 สิงหาคม พ.ศ. 2554 และเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำการรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 พร้อมนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีบริหารประเทศ พล.อ.ประวิตร จึงมีชื่อดำรงตำแหน่งทางการเมืองอีกครั้ง โดยเป็นทั้งรองหัวหน้า คสช. รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขณะที่ปัจจุบัน พล.อ.ประวิตร ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ อีกทั้งยังเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคพลังประชารัฐอีกด้วย

78 ปี 'บิ๊กป้อม' พร้อมหน้า '3ป.-นักการเมือง-ทหาร-ตำรวจ' ด้าน 'บิ๊กป๊อก' มอบโมเดลม้าหมุน ขอให้มีความสุขนิรันดร์

(11 ส.ค. 66) ที่มูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ วันครบรอบวันคล้ายวันเกิดพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี อายุครบ 78 ปี โดยมีคนสนิทใกล้ชิด ทั้งนายทหาร นักการเมืองจากพรรคต่าง ๆ ทยอยมาเข้าร่วมอวยพร ได้แก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เดินทางมาในเวลา 08.00 น. โดยนำกระเช้าดอกไม้ พร้อมของขวัญมามอบให้

ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดารมว.มหาดไทย นำโมเดลม้าหมุน 8 ตัว สีฟ้ามรกต แบบไขลาน ซึ่งมีความหมายว่า ให้มีความสุขแบบไม่มีที่สิ้นสุดมามอบให้แก่ พล.อ.ประวิตร พร้อมร่วมรับประทานอาหารเช้า และพูดคุยเป็นการส่วนตัวภายในห้องรับรอง ประมาณ 30 นาที ซึ่งในห้องนั้น มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา อยู่ด้วย พร้อมเปิดเผยว่า วันนี้เข้ามาอวยพรเนื่องในวันคล้ายวันเกิด พล.อ.ประวิตร เท่านั้น 

จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินทางกลับและผู้สื่อข่าวได้พยายามขอให้ถ่ายรูปร่วม 3ป. และได้อวยพรวันเกิด พล.อ.ประวิตร อย่างไรบ้าง แต่พล.อ.ประยุทธ์ ยิ้ม และไม่ตอบ 

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถามพล.อ.อนุพงษ์ ที่เดินออกต่อกันมาถึงโมเดลม้าหมุน ที่มอบให้เป็นของขวัญ สื่อความหมายขอให้มีความสุขแบบไม่มีที่สิ้นสุด ใช่หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ ได้พยักหน้ารับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อีกความหมายหนึ่งของโมเดลม้าหมุน 8 ตัว สีฟ้ามรกต แบบไขลาน คือ ชัยชนะ 8 ทิศ และเลื่อนหมุนตำแหน่ง 

สำหรับบรรยากาศที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ ในวันนี้มีแกนนำพรรคการเมือง และนายทหารเข้ามาอวยพรเนื่องในวันคล้ายวันเกิดพล.อ.ประวิตร ต่อเนื่อง อาทิ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ประธานที่ปรึกษาพรรคพลังประชารัฐ, นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, นายพิชัย เตชะอุบล แกนนำพรรคพลังประชารัฐ, นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ อดีต สส.พรรคไทยศรีวิไลย์, พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร, สมาชิก สว. และพล.อ.สนิธชนก สังฆจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม

จากนั้นในช่วง 10.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้เดินทางมาอวยพรพลเอกประวิตรด้วย ขณะที่ในเวลา 11.00 น. พรรคพลังประชารัฐ และ สส.ทั้งหมดได้มาอวยพร นำโดยพรรคพลังประชารัฐ และสส.ทั้งหมด นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค

'บิ๊กป้อม' ชี้!! แก้หนี้นอกระบบลดฮวบ หลังปราบเชิงรุก พร้อมเดินหน้าต่อเนื่อง 'จัดหาแหล่งทุน-พัฒนาทักษะ'

(15 ส.ค.66) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงปัญหาหนี้นอกระบบ ว่า การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบเป็นในนโยบายสำคัญของรัฐบาล ที่ต้องการลดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ขาดโอกาส ถูกเอารัดเอาเปรียบจากกลุ่มอิทธิพลโดยเฉพาะเจ้าหนี้นอกระบบ ตนได้ประสานงานกับฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายปกครอง และตำรวจ ช่วยดูแลแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนจากหนี้นอกระบบจากกลุ่มนายทุนที่ฉวยโอกาสปล่อยกู้เก็บดอกเบี้ยโหด ส่งแก๊งทวงหนี้มาข่มขู่ ใช้ความรุนแรงกับลูกหนี้ที่หาเช้ากินค่ำ รวมถึงทุกส่วนราชการที่ขับเคลื่อนแก้ปัญหา โดยเฉพาะศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชนของตำรวจ ที่เจรจาไกล่เกลี่ย บังคับใช้กฎหมาย จนส่งคืนทรัพย์สินให้กับประชาชนได้จำนวนมาก 

นอกจากนั้นได้ประสานกระทรวงการคลัง กระทรวงแรงงาน เข้าไปร่วมจัดหาแหล่งทุน รวมถึงพัฒนาทักษะอาชีพให้ประชาชนที่มีรายได้น้อย สามารถเข้าถึงโอกาส เป็นการช่วยสร้างความเข้มแข็งของผู้มีรายได้น้อย และลดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม

"ปัญหาหนี้นอกระบบฝังรากลึกในสังคมไทยมายาวนาน มีประชาชนจำนวนมาก รอการช่วยเหลือ ซึ่งส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในทุกพื้นที่ยังเร่งทำงานเพื่อปลดล็อกปัญหา ที่เป็นกับดักความยากจนของสังคม และประสานให้โอกาสช่วยเหลือลูกหนี้ให้สามารถกลับมายืนเข้มแข็ง" พล.อ.ประวิตร กล่าว

25 สิงหาคม พ.ศ. 2565  พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ  รักษาการนายกฯ แทน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นวันแรก

วันนี้ เมื่อปีก่อน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นั่งเก้าอี้รักษาการนายกรัฐมนตรี แทน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ระหว่างรอวินิจฉัยอยู่ในตำแหน่งนายกฯ 8 ปี

จากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเสียงข้างมาก 5:4 รับคำร้อง วาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปี และ สั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หยุดปฏิบัติหน้าที่ เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2565 โดยในระหว่างนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีแทนไปจนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยออกมา

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือที่คนส่วนใหญ่รู้จักกันในนาม ‘ลุงป้อม’ กับภาพลักษณ์ผู้ใหญ่ใจดี ยิ้มง่าย มีใบหน้าเปื้อนยิ้มตลอดเวลา

พล.อ.ประวิตร เกิดเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2488 เพิ่งอายุครบ 78 ปีไปหมาด ๆ เป็นชาวกรุงเทพมหานครโดยกำเนิด เข้าเรียนที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล ก่อนศึกษาต่อยังโรงเรียนเตรียมทหาร ในรุ่นที่ 6 โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 17 พร้อมกับจบการศึกษาหลักสูตรประจำ ชุดที่ 56 โรงเรียนเสนาธิการทหารบก เมื่อปี 2521

ในด้านการรับราชการทหาร พล.อ.ประวิตร ก้าวขึ้นมาเป็นผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 12 รักษาพระองค์ เมื่อปี 2532 ต่อด้วยผู้บัญชาการกรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ฯ เมื่อปี 2539 และค่อย ๆ ได้รับการขยับตำแหน่งสูงขึ้น จนได้มาเป็นผู้บัญชาการทหารบกเมื่อปี 2547 ในสมัยนายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี และถือได้ว่าเป็นนายทหารรุ่นพี่ที่สนิทสนมกับนายทหารอดีตผู้บัญชาการทหารบกสองนาย คือ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จนได้รับฉายาว่าเป็นพี่ใหญ่แห่งพี่น้อง 3 ป.

สำหรับเส้นทางการเมืองของพล.อ.ประวิตร เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในรัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในปี พ.ศ. 2552 จากนั้น ได้รับแต่งตั้งเป็นประธานที่ปรึกษา และเป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ภายหลังจากการรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2557

‘บิ๊กป้อม’ หารือแนวทางรับมือสภาพอากาศผันผวน เร่งสร้างความเข้าใจ ปชช. ลดผลกระทบรุนแรง

(25 ส.ค. 66) ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศแห่งชาติ (กนภ.) ครั้งที่ 3/66 มีนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว. ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม 

โดยที่ประชุมเห็นชอบแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบว่าด้วยการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมทั้งการปรับปรุงองค์ประกอบคณะอนุกรรมการภายใต้ กนภ.จำนวน 8 คณะ ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว และเสนอให้ส่วนราชการต่างกระทรวง มีหน่วยงานรองรับร่วมขับเคลื่อนภารกิจดังกล่าวไปด้วยกัน

นอกจากนั้นที่ประชุมรับทราบ การปรับปรุงกฎกระทรวงและการแบ่งส่วนราชการ กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2566 ที่เปลี่ยนชื่อมาจาก กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม โดยจะทำหน้าที่จะเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งการลดก๊าซเรือนกระจกและการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเป็นหน่วยประสานงานกลางของประเทศ ภายใต้กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงความร่วมมือระหว่างประเทศต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังเป็นหน่วยให้บริการข้อมูลข่าวสารเพื่อเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ ศึกษาวิจัย พัฒนาองค์ความรู้และเทคโนโลยี เพื่อการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม รวมถึงการสร้างเครือข่ายความร่วมมือทุกภาคส่วนต่อไป

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า สภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลง ผันผวนและทวีรุนแรงมากขึ้น มีผลกระทบต่อสภาวะแวดล้อมของประเทศอย่างมาก ซึ่งเป็นเรื่องที่รอไม่ได้ต้องเตรียมการรับมือ จึงกำชับขอให้คณะกรรมการฯ กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ศึกษา ติดตามและขับเคลื่อนดำเนินงานร่วมกับภาคีเครือข่ายองค์กรที่เกี่ยวข้อง ทั้งในและระหว่างประเทศ เตรียมพร้อมรับมือกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้นไปด้วยกัน โดยให้ความสำคัญกับการสร้างความตระหนักรู้ ความเข้าใจและความร่วมมือกัน รับมือกับการเปลี่ยนแปลง ทั้งการป้องกันและการแก้ปัญหาไปพร้อม ๆ กัน เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นให้มากที่สุด


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top