Sunday, 16 June 2024
บิ๊กตู่

‘บิ๊กตู่’ ปลื้มเกาะสมุย ต้อนรับ นักท่องเที่ยวจากเรือสำราญอีก 2,500 คน ตอกย้ำเที่ยวไทยกลับมาคึกคักอีกครั้ง

17 ธ.ค.2565 - น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มีความยินดีภายหลังได้รับรายงานว่าวันนี้(17 ธ.ค.65) เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของไทย จะได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากยุโรปพร้อมกับเรือสำราญไมน์ ชิฟฟ์ 5 (Mein Schiff 5) กว่า 2,500 คน ที่มาแวะท่องเที่ยวเกาะสมุยแบบ One Day Trip ซึ่งหน่วยงานในเกาะสมุย และจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ร่วมเตรียมการต้อนรับ เพื่อกระจายนักท่องเที่ยวลงไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในเกาะสมุย โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวชุมชน ให้เกิดการกระจายรายได้สู่ประชาชนในพื้นที่อย่างทั่วถึง

ทั้งนี้ เรือ ไมน์ ชิฟฟ์ 5 ถือเป็นเรือสำราญจากยุโรปลำที่ 2 ที่เดินทางมายังเกาะสมุย ต่อจากลำแรกที่เข้ามาประเทศไทยในรอบ 3 ปีหลังเกิดสถานการณ์โควิด19 เมื่อวันที่ 27 พ.ย. ที่ผ่านมา และหลังจากนี้ ในวันส่งท้ายปีเก่า 31 ธ.ค. 65 จะมีเข้ามาอีก 1 ลำ และข้อมูลจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระบุว่าในปี 2566 และ 2567 มีเรือสำราญกำหนดจะเข้ามาเยือนเกาะสมุย เบื้องต้น 31 ลำ และ 32 ลำตามลำดับ

“การเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวทางเรือสำราญจากต่างประเทศ ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นอีกสัญญาณที่ตอกย้ำถึงความคึกคักของการท่องเที่ยวไทย สอดคล้องกับการเดินทางเข้าในช่องทางอื่นๆ ทั้งทางอากาศและด่านทางบก ทำให้ขณะนี้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ มั่นใจว่าถึงสิ้นปีจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาไทยตามเป้าหมาย”น.ส.ไตรศุลี กล่าว

‘บิ๊กตู่’ หนุน ไทยเป็นฮับ EV ในภูมิภาคอาเซียน พร้อมตั้งเป้าผลิต 250,000 คันต่อปี ภายในปี 2568

(19 ธ.ค. 65) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้กำหนดเป้าหมายให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และชิ้นส่วนยานยนต์ที่สำคัญ โดยในปี 2568 วางแผนที่จะผลิตรถยนต์ไฟฟ้า เป็นจำนวน 250,000 คันต่อปี ซึ่งจะทำให้ภายในปี 2573 สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ไม่น้อยกว่า 200,000 ล้านบาท

นายอนุชา กล่าวว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก่ กระทรวงอุตสาหกรรม สมาคมยานยนต์ไทย และหน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ ได้ตั้งเป้าหมายให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และชิ้นส่วนยานยนต์ที่สำคัญ โดยตั้งเป้าให้ปี 2568 จะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้จำนวน 250,000 ต่อปี ซึ่งคิดเป็น 10% ของจำนวนการผลิตรถยนต์ทั้งหมดในประเทศ และในปี 2573 จะเพิ่มจำนวนการผลิตเป็น 750,000 คันต่อปี หรือ 30% ของการผลิตรถยนต์ทั้งหมด 2,500,000 คัน แบ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicle: BEV) 375,000 คัน รถยนต์ไฟฟ้าแบบผสม (Hybrid Electric Vehicle: HEV) และรถยนต์ไฟฟ้าแบบผสมเสียบปลั๊ก (Plug-In Hybrid Electric Vehicle: PHEV) 375,000 คัน ซึ่งจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ GDP ของประเทศไทย เป็นจำนวนเงินถึง 200,000 ล้านบาท และเพิ่มอัตราการจ้างแรงงานในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ถึง 30,000 อัตราต่อปี

นายอนุชา กล่าวว่า รัฐบาลได้พัฒนาระบบนิเวศ (Ecosystem) ของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ขับเคลื่อนปัจจัยแวดล้อมให้เอื้ออำนวยต่อการลงทุนเพื่อสร้างศักยภาพและความเข้มแข็งให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ตลอดจน ออกมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า หรือแพคเกจรถยนต์ EV มาตรการลดภาษี EV ปี 2565 - 2568 ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับภาพรวมการดำเนินนโยบายของรัฐบาล 

นายอนุชา กล่าวว่า โดยรัฐบาลและสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เคยออกมาตรการเพื่อส่งเสริมการผลิต รถยนต์ไฟฟ้า ตั้งแต่ปี 2563 ได้แก่ กรณีที่มีขนาดการลงทุนมากกว่า 5,000 ล้านบาท การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV) จะได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี และหากมีการลงทุนด้านวิจัยและพัฒนาก็สามารถได้รับสิทธิเพิ่ม กรณีขนาดการลงทุนน้อยกว่า 5,000 ล้านบาท การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV) จะได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 3 ปี และจะได้รับสิทธิเพิ่มขึ้นหากดำเนินการได้ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด เช่น เริ่มผลิตรถยนต์ภายในปี 2565 มีการผลิตชิ้นส่วนสำคัญเพิ่มเติมจากข้อกำหนดพื้นฐาน มีปริมาณการผลิตจริงมากกว่า 10,000 คันต่อปี

‘นายกฯ’ เผย เร่งช่วยเหลือกำลังพลเรือหลวงสุโขทัยอัปปาง เบื้องต้นพบบาดเจ็บหนัก 5 ราย ชี้ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ขึ้น ติดตามสถานการณ์ 24 ชม. ทุกเรื่อง

(19 ธ.ค. 65) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าการช่วยเหลือกำลังพลเรือหลวงสุโขทัย อับปาง เมื่อคืนวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา ว่า ติดตามอยู่ เบื้องต้นสรุปมีบาดเจ็บหนัก 5 ราย กำลังตรวจสอบสาเหตุที่เกิดขึ้นอยู่ ก็เห็นใจ และไม่อยากให้เกิดขึ้นอยู่แล้ว ซึ่งเป็นเรื่องของการทำงานและการปฏิบัติหน้าที่ของเขา เขาไปเจอพายุ ไปเจอมรสุม 

เมื่อถามว่ากำลังพลที่สูญหายกำลังเร่งค้นหาอยู่ใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “อืม กำลังดำเนินการอยู่ทุกเรื่อง นายกฯ ก็ติดตาม 24 ชั่วโมงทุกเรื่อง วันหยุดวันธรรมดา ไม่เคยหยุด”

‘บิ๊กตู่’ แนะฉีดวัคซีน หลังโควิด-19 กลับมาระบาด วอนสื่อเสนอข่าว - สร้างความเข้าใจให้ ปชช.

วันที่ 20 ธ.ค. 65 เวลา 12.00 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว. กลาโหม ให้สัมภาษณ์ ถึงสถานการณ์ความคืบหน้าการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ที่มีการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อ และผู้เสียชีวิตว่า ที่ผ่านมามีการเตือนกันมาโดยตลอด ซึ่งก็ต้องระมัดระวังโดยการสวมหน้ากากอนามัย ระมัดระวังตัวเอง การตรวจหาเชื้อด้วยตัวเอง (Antigen Test Kit) การหลีกเลี่ยงเข้าไปในพื้นที่ชุมชนโดยที่ไม่มีการเฝ้าระวัง หรือระมัดระวังตัวเอง รวมทั้งการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น 

‘บิ๊กตู่’ สั่งทุกเหล่าทัพช่วยค้นหากำลังพลเรือหลวงสุโขทัยที่สูญหาย พร้อมสั่ง รมช.กลาโหมติดตามสถานการณ์-เยี่ยมผู้ประสบภัย

(20 ธ.ค. 65) โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ยังคงติดตามสถานการณ์และเป็นห่วงลูกเรือเรือหลวงสุโขทัยกว่า 30 ชีวิต ที่อับปางลง โดยมอบหมายให้ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กห. ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การให้ความช่วยเหลือกำลังพลที่ยังสูญหาย และเยี่ยมเยียนกำลังพลที่ได้รับการช่วยเหลือและอยู่ระหว่างเข้ารับการรักษาตัว ณ โรงพยาบาลในพื้นที่

พล.อ.ประยุทธ์ ได้แสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยังได้กำชับ ผบ.ทุกเหล่าทัพให้การสนับสนุน ทร.ระดมให้ความช่วยเหลือลูกเรือที่ยังพลัดหลงและสูญหายให้ถึงที่สุด พร้อมทั้งขอให้ ทร.ดูแลฟื้นฟูจิตใจและรักษาพยาบาลกำลังพลที่ประสบเหตุอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งลงไปช่วยเหลือดูแลและให้กำลังใจครอบครัวลูกเรือที่พลัดหายและอยู่ระหว่างการระดมให้ความช่วยเหลือ โดยไม่ทอดทิ้งกัน

‘บิ๊กตู่’ ยันจัดงานรื่นเริงได้ตามปกติ ชี้ หน่วยงานที่งด เป็นเรื่องภายในองค์กร

นายกฯ ขอคนไทยร่วมถวายกำลังใจ 'ในหลวง-พระราชินี' ให้หายประชวรโดยเร็ว พร้อมร่วมตั้งจิตอธิษฐานถวายพระพร 'พระองค์ภา' ยันไม่ห้ามจัดงานรื่นเริง

เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 20 ธ.ค. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว. กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ขอเชิญชวนประชาชนให้ร่วมตั้งจิตอธิษฐานถวายพระพรชัยมงคลแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา รวมถึงร่วมกันถวายกำลังใจให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีด้วยให้หายประชวรโดยเร็ว

‘บิ๊กตู่’ ยินดี ‘OTOP City 2022’ กระแสตอบรับดี ผ่านครึ่งทาง มีผู้เข้าชม 8.6 หมื่นคน เงินสะพัด 243 ลบ.

‘พล.อ.ประยุทธ์’ ยินดี ครึ่งทางงาน OTOP City 2022 กระแสตอบรับดี คนเข้าชมงาน 8.6 หมื่นคน มียอดจำหน่ายแล้วกว่า 243 ล้านบาท สะท้อนผลสำเร็จนโยบายการพัฒนาสินค้า OTOP สอดคล้อง BCG ช่วยสร้างงาน สร้างรายได้

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบและยินดีที่ได้รับรายงานจากกรมการพัฒนาชุมชน ระบุการจัดงานงาน OTOP City 2022 ภายใต้แนวคิด 'มอบความสุขจากภูมิปัญญา ส่งต่อคุณค่าจากฝีมือคนไทย' ประจำปี 2565 ระหว่างวันที่ 17-25 ธันวาคม 2565 ที่อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็คเมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี มีกระแสตอบรับที่ดี ประชาชนให้ความสนใจเข้าชมงาน และหลังจากจัดงานมาได้ครึ่งทางคือระหว่างวันที่ 17-20 ธันวาคม 2565 มีจำนวนผู้เข้าชมงานสูงถึง 86,185 คน มียอดจำหน่ายสะสมแล้ว 243,332,107 บาท จากผลิตภัณฑ์ประเภทต่างๆ เช่น อาหาร เครื่องดื่ม ผ้าและเครื่องแต่งกาย ของใช้ ของตกแต่งฯ  สมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร OTOPชวนชิม ศิลปินOTOP ผ้าไทยใส่ให้สนุก OTOPขึ้นเครื่อง  OTOP Premium OTOP Brandname ของขวัญของฝาก เป็นต้น 

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ในงานนี้ด้วยยอดขายสะสมประมาณ 243 ล้านบาท คิดเฉลี่ยรายได้สะสม 95,574 บาทต่อผู้ประกอบการ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่มีการสร้างรายได้จากงานนี้ให้กับผู้ประกอบการที่เข้าร่วม 2,538 ราย และ 8 องค์กร และ 500 รายทางแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ Shopee ซึ่งประเภทผลิตภัณฑ์ที่มียอดจำหน่ายสะสมสูงสุด 5 อันดับแรก คือ ผ้าและเครื่องแต่งกาย 95,937,722 บาท, ศิลปินOTOP 28,283,260 บาท, อาหาร 23,380,762 บาท, ของใช้ของตกแต่ง 22,412,832 บาท และ OTOPชวนชิม 13,733,452 บาท โดยข้อมูลวันที่ 20 ธันวาคมผลิตภัณฑ์ที่มียอดจำหน่ายสูงสุด 5 อันดับ คือ เครื่องประดับทอง จากจ.สุโขทัย ทองรูปพรรณลายโบราณจากจ.สุโขทัย ผ้าไหมยกดอกจากจ.ลำพูน เครื่องประดับจากจ.สระแก้ว และเครื่องประดับอัญมณีจากกรุงเทพฯ

‘บิ๊กตู่’ ร่วมงานมหกรรมสิ่งประดิษฐ์ไอซีทีนักเรียนไทย-ญี่ปุ่น แนะต้องต่อยอดขยายผลการสอนวิทยาศาสตร์ไปทุกจังหวัด

‘นายกฯ’ เปิดงานมหกรรมสิ่งประดิษฐ์ไอซีทีนักเรียนไทย-ญี่ปุ่น ระบุ ต้องต่อยอดขยายผลการสอนวิทยาศาสตร์ ไปทุกจังหวัด ย้ำ รัฐบาลพร้อมสนับสนุนเสริมพัฒนาการศึกษา สู่ปัญญาประดิษฐ์ AI ระบุตนเองต้องโหลดแอปพลิเคชันสปาใจ เพื่อวัดสภาพอารมณ์ ไม่ให้คิดลบ แต่รอยยิ้มคนไทยเยียวยาได้ ด้าน นักเรียนชาย ม.5 ให้กำลังใจนายกฯ ดูแลสุขภาพ 

(21 ธ.ค. 65) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย, นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน, นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และคณะ ออกเดินทางด้วยเครื่องบิน Superjet ของกองทัพอากาศที่กองบิน 6 แห่งที่ 2 ไปยังสนามบินแม่ฟ้าหลวง เพื่อตรวจราชการจังหวัดเชียงราย 

โดยทันทีที่เดินทางถึงสนามบิน ได้มีนางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษา รอให้การต้อนรับ พร้อม กลุ่มสมาคมแม่บ้านตำรวจ จ.เชียงราย ที่ได้นำดอกกุหลาบแดงมามอบให้นายกและคณะซึ่งนายกรัฐมนตรีแสดงความขอบใจพร้อมระบุว่ากุหลาบแดงแทนใจ

จากนั้น นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานเปิดงานมหกรรมสิ่งประดิษฐ์ไอซีทีของนักเรียนไทยและนักเรียนญี่ปุ่น Thailand-Japan Student ICT Fair 2022 (TJ-SIF2022) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-23 ธันวาคม 2565 โดยมี นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.), คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.), นายโอบะ ยูอิจิ รองหัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูต อัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย, ผู้บริหาร ครู นักเรียน จากกลุ่มโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย, สถาบันการศึกษาที่เน้นการเรียนการสอนทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, กลุ่มโรงเรียนวิทยาศาสตร์ชั้นนำ (Super Science High School) จากประเทศญี่ปุ่น และสถาบัน KOSEN ประเทศญี่ปุ่น เข้าร่วม

โดยในพิธีเปิด นายกฯ รับชมหุ่นยนต์ ลักษณะคล้ายสุนัข ที่แสดงความเคารพ สร้างเสียงหัวเราะให้กับนายกฯ และคณะรัฐมนตรี  

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ชมการนำเสนอโครงงานแบบปากเปล่าเรื่อง “Psychological Advice System from Analysis of Emotional Tendency using Thai Text and NPL” ซึ่งเป็นเว็บแอปพลิเคชันให้คำแนะนำการจัดการอารมณ์ในเบื้องต้นด้วยเทคนิคการประมวลผลภาษาธรรมชาติ สร้างขึ้นโดยอาศัยหลักการให้คำปรึกษาและรับฟังปัญหาของผู้ใช้งาน เพื่อลดระดับความเครียดและรักษาสุขภาพจิต ผลงานของนักเรียนโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัยเชียงราย และ การนำเสนอโครงงานเรื่อง “Air Environment Observation and Control System” จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ซึ่งเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับอากาศและทางเดินหายใจ ส่งผลให้การควบคุมสภาพอากาศภายในห้องพักเป็นสิ่งสำคัญ ทางผู้จัดทำจึงคิดค้นระบบตรวจสภาพอากาศผ่าน Microcontroller เพื่อควบคุมสภาพอากาศในห้องให้มีความเหมาะสมและมีการถ่ายเทอากาศได้อย่างอัตโนมัติ ผลงานของนักเรียน National Institute of Technology (KOSEN), Fukushima College 

ซึ่งนายกฯ ได้มอบโล่ให้แก่นักเรียนที่นำเสนอโครงงาน จากนั้นได้เยี่ยมชมการแข่งขัน Thailand – Japan Game Programming Hackathon (TJ-GPH 2022) ของนักเรียน, เยี่ยมชมนิทรรศการโครงงานแบบโปสเตอร์ของนักเรียน จำนวน 15 ผลงาน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า งานมหกรรมสิ่งประดิษฐ์ทางด้านไอซีทีของนักเรียนไทยและนักเรียนญี่ปุ่น เป็นกิจกรรมจากความร่วมมือทางวิชาการของกลุ่มโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย (รร.จ.ภ.) กับ กลุ่มโรงเรียนในโครงการ Super Science High Schools และสถาบันโคเซ็น ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้นักเรียนได้แสดงความสามารถทางด้านวิชาการและศักยภาพในด้านการสร้างและพัฒนานวัตกรรม ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมถึงสะท้อนคุณภาพการจัดการศึกษาของครูและนักเรียนทั้ง 2 ประเทศอย่างดียิ่ง และผลงานของนักเรียนยังเป็นสิ่งที่ส่งผลต่อเป้าหมายสำคัญของการพัฒนาประเทศไทยในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมระบบดิจิทัลและเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ 

นายกฯ ขอบคุณความสัมพันธ์กับประเทศญี่ปุ่นที่มีมายาวนาน ความระบบเปิดย้อนกลับไปเรียนหนังสือใหม่ที่มีการเปิดกว้างมีการเปิดเวที เปิดกระบวนการวิสัยทัศน์ให้ได้แสดงออกในสิ่งที่ตนเองชอบถนัด จะต้องเปิดโลกการศึกษาให้กว้างขึ้นคิดให้เป็นคิดมีหลักคิดมีกระบวนการคิดแล้วนำไปสู่เป้าหมายที่ต้องการโดยเฉพาะความต้องการแรงงานจำนวนมากในเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ต้องมีความรู้ ทำงานกับหุ่นยนต์เครื่องมือเครื่องจักรหุ่นยนต์ได้ในอนาคต ซึ่งรัฐบาลมีการขับเคลื่อนได้นโยบายกลุ่มเป้าหมายอุตสาหกรรมเป้าหมายต้องการแรงงานและทรัพยากรมนุษย์ที่มีขีดความสามารถตรงความต้องการของประเทศและผู้ประกอบการธุรกิจดังนั้นจึงจะต้องพัฒนาโดยเฉพาะจะต้องศึกษาหาความรู้แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ยากแต่ประเทศไทยได้พัฒนาตามลำดับแต่จำเป็นจะต้องเร่ง  ในขณะที่รัฐบาลต้องพุ่งเป้าเจาะการศึกษา และจะต้องศึกษาเรียนรู้ซึ่งกันและกันเพราะการเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด ในอนาคตจะประสบภาวะสังคมผู้สูงวัยสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงดังนั้นจะต้องรับมือกับสิ่งเหล่านี้

นายกฯ ยังเล่าย้อนถึงอดีตว่าชอบเรียนวิชาวิทยาศาสตร์  ซึ่งวิทยาศาสตร์ก็ต้องมีการพัฒนาที่ก้าวเข้าสู่เทคโนโลยีนวัตกรรมมาใช้ดิจิทัลใช้ ai ทั้งหมดส่วนตัวดีใจที่ได้เห็นเยาวชนเด็กๆ แสดงออกอย่างมั่นใจว่าสามารถทำได้ จึงอยากให้เป็นจุดเริ่มต้นส่งต่อไปยังโรงเรียนต่างๆ แม้แต่ละโรงเรียนจะมีขีดความสามารถแตกต่างกันก็ต้องหาสิ่งกระตุ้นครูนักเรียนได้คิดและร่วมกันหาทางออกในการที่จะปรับปรุงการเรียนการสอน แม้จะทำทั้งหมดในเวลาเดียวกันไม่ได้ แต่จะต้องสร้างการเรียนรู้ไปยังโรงเรียนอื่นๆด้วยเพื่อเตรียมความพร้อมไว้โดยรัฐบาลก็จะเติมสิ่งเหล่านี้ลงไปให้  

นายกฯ เปิดเผยว่าทุกคนมีพลังอยู่ในตัวอยู่แล้วเพียงแต่ว่าจะดึงออกมาใช้อย่างไร เพราะทุกคนมีมุ่งหมายตามวัยและพัฒนาการ

นายกฯ สนใจแอปพลิเคชันสปาใจ ซึ่งเป็นแอปฯ ที่ทางโรงเรียน จุฬาภรณ์ราชวิทยาลัยเชียงราย คิดค้นขึ้น ซึ่งเป็นการให้คำปรึกษา ด้านความคิด เพื่อตนเองจะไม่หงุดหงิดหรือปวดหัวทั้งวัน โดยคิดว่าตนเองต้องทำสปาใจหากวัดตนเองต้องเกิน 100 แน่ เนื่องจากงานเยอะ แต่จะทำอย่างไรไม่ส่งพลังลบออกมาทำลายตนเอง จึงต้องหารอยยิ้มของทุกคน ซึ่งก็มีความสุขจากการลงพื้นที่พัทลุงสงขลา ก็เป็นมุมหนึ่งของคนไทยที่ประสบภัยน้ำท่วมและจำเป็นจะต้องได้รับการพัฒนาทุกจังหวัด โดยทุกจังหวัดจะต้องร่วมมือร่วมใจกันเดินหน้าพัฒนาจังหวัดเพราะประเทศไทยเป็นของทุกคน ดังนั้นจึงต้องรักษาไว้ทำให้ดีขึ้น ด้วยการเป็นคนดีที่มีคุณค่า มีแกนหลักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

‘หมอชลน่าน’ ซัด ‘บิ๊กตู่’ ปมตั้งเลขานายกฯ ใหม่ ชี้!! ไม่สมควรแก่เวลา - ส่อเอื้อประโยชน์ให้ตนเอง

วันนี้ (21 ธ.ค. 65) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้กล่าวถึงการแต่งตั้ง นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรีคนใหม่ในวันที่ 20 ธันวาคม 2565 ว่า เรื่องนี้เป็นไปตามที่พวกเราทุกฝ่ายคิดไว้  เพราะว่ามีการลาออกของอดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และตั้งเป็นที่ปรึกษาแทนคือ คุณพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เดิมมีตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว สัปดาห์นี้ก็ปรากฏแต่งตั้งให้เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ถามว่านายกรัฐมนตรีทำได้ไหม ก็ทำได้ไม่มีกฎหมายใดห้ามว่าไม่ควรตั้งหรือห้ามแต่งตั้ง กรณีเป็นหัวหน้าพรรคการเมือง แต่ถามว่าเหมาะสม สมควรหรือไม่ ตั้งไปเพื่อการใดสิ่งนี้เป็นคำถาม อายุของผู้แทนราษฎรจะเหลือจนถึง 23 มีนาคม 2566 นับต่อนี้ไปไม่กี่เดือน การเปลี่ยนแปลงบุคลากรของรัฐ เฉพาะฝ่ายการเมืองสำคัญอย่างนี้ ในห้วงเวลาอย่างนี้ โดยสามัญสำนึกแล้วทุกคนก็ดูว่าไม่เหมาะสม


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top