Sunday, 16 June 2024
บิ๊กตู่

‘ดร.สุวินัย’ ตีฆ้อง!! ลุงตู่ไปอยู่กับรวมไทยสร้างชาติ เบรก ‘สลิ่ม’ อย่าเอาอนาคตบ้านเมืองไปเดิมพัน

(22 พ.ย. 65) ดร.สุวินัย ภรณวลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘Suvinai Pornavalai’ ระบุความเคลื่อนไหวทางการเมืองครั้งใหญ่ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ระบุว่า...

ข่าวลุงตู่ไปอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นเรื่องจริง!

ผมจึงขอประกาศตัวดัง ๆ ว่าจะสนับสนุนทุกวิถีทางเพื่อให้ลุงตู่กลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้งให้จงได้ เพื่อสานต่อและผลักดันกระบวนการ ‘ปฏิรูป 3 แกนหลักเพื่ออนาคตไทย’ ให้สำเร็จสมบูรณ์ 

ไม่ว่าเรื่องการปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ เรื่องผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคนี้ และเรื่องปฏิรูปดิจิทัลทางการเงิน

‘สุทิน’ มอง ‘ธรรมนัส’ คัมแบ็ค พปชร. ไม่มีปัญหา ชี้ ปัญหาใหญ่ที่ต้องเผชิญคือ ‘บิ๊กตู่’ อยู่หรือไป

วันนี้ (25 พ.ย. 65) เวลา 09.00 น. นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่านค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.ประวิตรวงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ไฟเขียวให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา กลับพรรคพปชร. ว่า ก็ไม่แปลกเนื่องจาก ร.อ.ธรรมนัส เป็นคนเก่าในพรรค ประชาชนยังรับรู้ว่า ร.อ.ธรรมนัส ก็อยู่พรรคพปชร. ตนเชื่อว่าคงไม่มีปัญหาอะไร

'นายกฯ-ภริยา' เป็นประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์-ทำบุญตักบาตร คล้ายวันพระบรมราชสมภพ ในหลวงรัชกาลที่ 9

'บิ๊กตู่' และ 'อาจารย์น้อง' เป็นประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตร เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2565 เป็นประธานพิธีวางพานพุ่มและถวายบังคม เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2565

(5 ธ.ค. 65) 7.30 น. ที่พิธีท้องสนามหลวง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และ นางนราพร จันทร์โอชา ภริยา เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตร เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2565 โดยมีคณะองคมนตรีและภริยา ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกาและภริยา ประธานวุฒิสภา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญและภริยา รองนายกรัฐมนตรีและภริยา หน่วยราชการในพระองค์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้บัญชาการเหล่าทัพและภริยา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและภริยา หัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า ปลัดกรุงเทพมหานคร และผู้แทนองค์กรภาคีเครือข่ายภาคเอกชน ร่วมพิธีซึ่งพร้อมใจแต่งกายชุดสุภาพโทนสีเหลือง

เมื่อนายกรัฐมนตรีและภริยาเดินทางถึงปะรำพิธีท้องสนามหลวง พระสงฆ์ จำนวน 10 รูปขึ้นนั่งอาสน์สงฆ์ นายกรัฐมนตรีจุดเทียนบูชาพระรัตนตรัย จุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เจ้าหน้าที่อาราธนาศีล พระสงฆ์ให้ศีล พระสงฆ์ให้ศีล จบ สวดพระพุทธมนต์

จากนั้น คณะองคมนตรีและภริยา นายกรัฐมนตรีและภริยา ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกาและภริยา ประธานวุฒิสภา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญและภริยา รองนายกรัฐมนตรีและภริยา หน่วยราชการในพระองค์ ถวายเครื่องไทยธรรมแด่พระสงฆ์ จำนวน 10 รูป นายกรัฐมนตรีถวายผ้าไตร จำนวน 10 ไตร พระสงฆ์สดัปกรณ์ อนุโมทนา นายกรัฐมนตรีกรวดน้ำรับพร กราบลาพระรัตนตรัย ถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

ต่อจากนั้น นายกรัฐมนตรีและภริยา นำผู้เข้าร่วมพิธีร่วมตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 189 รูป เสร็จพิธี

จากนั้น เวลา 08.30 น. ณ บริเวณพิธีท้องสนามหลวง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา เป็นประธานในพิธีวางพานพุ่มและถวายบังคม เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2565 โดยมีประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกาและภริยา ประธานวุฒิสภา ประธานองค์กรอิสระและคู่สมรส คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้บัญชาการเหล่าทัพและภริยา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและภริยา หัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า ปลัดกรุงเทพมหานคร และภาคีเครือข่ายภาคเอกชน ร่วมพิธี

นายกรัฐมนตรีวางพานพุ่มดอกไม้ในนามนายกรัฐมนตรี 1 พาน และในนามคณะรัฐมนตรี 1 พาน จากนั้น ภริยานายกรัฐมนตรีวางพานพุ่มดอกไม้ในนามคู่สมรสคณะรัฐมนตรี 1 พาน จากนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ความว่า “เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติในวันนี้ ข้าพระพุทธเจ้า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี ข้าราชการ และพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า ต่างน้อมจิตมั่นร้อยรวมดวงใจเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อแสดงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาสุดมิได้

‘บิ๊กตู่’ ประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านการทุจริต-คอร์รัปชัน ย้ำชัด!! ความยุติธรรมที่ล่าช้าคือความไม่ยุติธรรม

‘บิ๊กตู่’ ประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านการทุจริต ในวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล ยอมรับจุดอ่อนประเทศไทยคือการซื้อขายตำแหน่ง-โยกย้ายข้าราชการระดับสูง-เรียกรับสินบน-จัดซื้อจัดจ้าง ลั่นไม่ยอมให้การทุจริตเป็นมรดกบาป ขอให้เชื่อมั่นตัวผู้นำ บอกความยุติธรรมที่ล่าช้า คือความไม่ยุติธรรม ย้ำถูกสอนมาไม่ให้ทุจริต ไม่งั้นจะเอาหน้าไปเสนอให้คนมองไม่ได้

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านการทุจริต ในงานวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล (ประเทศไทย) ที่สำนักงาน ป.ป.ช. จ.นนทบุรี 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันนี้ทางองค์การสหประชาชาติได้กำหนดให้วันที่ 9 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล เพื่อให้ประชาคมโลกตระหนักถึงภัยร้ายแรงจากการทุจริต และเพื่อร่วมกันประกาศเจตนารมณ์ในการรณรงค์ต่อต้านคอร์รัปชันอย่างจริงจัง

สำหรับประเทศไทย ในฐานะประเทศสมาชิกขององค์การสหประชาชาติ ได้ให้ความสำคัญกับการต่อต้านการทุจริตทุกรูปแบบตลอดมา รัฐบาลได้ร่วมกับสำนักงาน ป.ป.ช. สำนักงาน ป.ป.ท. องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ภาคประชาสังคม และภาคีเครือข่าย จัดงานวันต่อต้านคอร์รัปชันสากลขึ้น เพื่อร่วมกันแสดงจุดยืนพร้อม ๆ กับคนไทยทุกภาคส่วน ที่จะ ‘ไม่ทำ ไม่ทน และไม่เพิกเฉย’ ต่อการทุจริตอีกต่อไป ซึ่งไม่ใช่เฉพาะในวันนี้ แต่จะต้องอยู่ในจิตใต้สำนึกของคนไทย ทุก ๆ คน ในทุก ๆ วัน

ทุกคนทราบดีว่าปัญหาคอร์รัปชันส่งผลเสียหายต่อประเทศ ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง โดยองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ หรือ TI (ที-ไอ) ได้สะท้อนว่าปัญหาการทุจริตที่เป็นจุดอ่อนของประเทศไทยที่สำคัญ คือปัญหาการซื้อขายตำแหน่ง การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูง กระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง การเรียกรับสินบนตลอดจนการใช้ช่องโหว่ทางกฎหมาย การบังคับใช้กฎหมายที่เอื้อประโยชน์ต่อกัน การไม่สามารถแยกแยะผลประโยชน์ส่วนรวม กับประโยชน์ส่วนตน และความไม่โปร่งใสในการใช้งบประมาณ การทุจริตจึงเป็นภัยต่อชาติบ้านเมือง ทั้งในการบริหารจัดการภาครัฐ การพัฒนาเศรษฐกิจ การค้าการลงทุน และการพัฒนาประเทศ ที่สำคัญคือการทำลายภาพลักษณ์ ทำลายความเชื่อมมั่น ในสายตาประชาชนชาวไทย และชาวโลก ซึ่งเราจะต้องไม่ยอมให้การทุจริตเป็นมรดกบาป ตกทอดสู่รุ่นลูก รุ่นหลานอีกต่อไป

‘บิ๊กตู่’ สั่ง ‘ก.แรงงาน’ เร่งพัฒนาฝีมือแรงงานภาคการเกษตร เพื่อยกระดับเป็น ‘เกษตรอัจฉริยะ’ สอดคล้อง BCG Model

เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 65 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จากการลงตรวจเยี่ยมพื้นที่ในทุกภูมิภาค นายกฯ ได้มีนโยบายพัฒนาศักยภาพแรงงานทุกกลุ่ม และมีความห่วงใยเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ภัยพิบัติต่าง ๆ รวมทั้งผลกระทบด้านพลังงาน ผลกระทบด้านการผลิต จึงต้องการยกระดับรายได้และความเป็นอยู่ของพี่น้องเกษตรกรให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน จึงมีนโยบายและมุ่งมั่นยกระดับเกษตรกรไทยสู่เกษตรอัจฉริยะ Smart Farmer โดยการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาประยุกต์ใช้ในการประกอบอาชีพด้านเกษตร เพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนในทุกมิติ 

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า แต่การเปลี่ยนแปลงจะต้องมีการเตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการและแรงงานในภาคเกษตรด้วย นายกรัฐมนตรี จึงมอบนโยบายไปยัง นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้ดำเนินการพัฒนาฝีมือเพื่อเข้าตลาดแรงงานนี้โดยเร่งด่วน โดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) จึงได้ดำเนินโครงการศูนย์เรียนรู้โรงเรือนเกษตรแม่นยำปลอดภัยสำหรับผู้ประกอบการมืออาชีพด้านเกษตรอัจฉริยะ ซึ่งเป็นโครงการพิเศษเพื่อเพิ่มศักยภาพแรงงานภาคการเกษตรสู่เกษตรอัจฉริยะ มีเป้าหมาย 95 โรงเรือนทั่วประเทศ และให้แรงงานภาคการเกษตรมีความรู้ในการใช้เทคโนโลยีสู่การเป็นเกษตรอัจฉริยะในปี 2566 จำนวน 32,300 คน โดยจะมีเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ถ่ายทอดความรู้เทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการเพาะปลูกแบบมีโรงเรือน เช่น ระบบควบคุมอัตโนมัติสำหรับการปลูกพืช การปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน ระบบพ่นหมอก ระบบกักเก็บหรือจัดน้ำ ซึ่งเกษตรกรสามารถนำไปใช้เพิ่มคุณภาพผลผลิตทางการเกษตร ตามเป้าหมาย โดยผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการนี้ สามารถสมัครได้ที่สถาบันและสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานทั่วประเทศ หรือสอบถามที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 กด 4

‘บิ๊กป้อม’ หยอดหวาน ‘บิ๊กตู่’ อยู่ที่ไหนก็รักเหมือนเดิม

(13 ธ.ค. 65) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวส.ส.พลังประชารัฐ กว่า 10 คน เตรียมย้ายไปพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ว่า เขายังไม่ลาออก ยังไม่ทราบว่าเขาจะลาออกหรือเปล่า เพราะตอนนี้เขายังไม่ลาออก เมื่อถามว่าต้องเรียกส.ส.ที่จะไป มาพูดคุยหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่ต้องหรอก ก็แล้วแต่เขาเมื่อถามย้ำว่า จะไปก็ไปใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวย้ำว่า ก็แล้วแต่เขา ความคิดของคนไม่เหมือนกันซึ่งที่เข้ามาก็เยอะ 

เมื่อถามว่า ช่วงเช้าได้พูดคุยกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ พล.อ.ประวิตรส่ายหัวพร้อมกล่าวว่า ยังไม่ได้คุยเรื่องนี้ ไม่มีคุยเรื่องนี้ เมื่อถามว่าพรรคภูมิใจไทยจะดึงส.ส.จากพรรคพลังประชารัฐไปพอสมควร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ก็เอาไปให้หมดเลยก็ได้ ผมไม่ว่าอะไร ผมจะได้ปิดพรรคเลย” ทั้งนี้ทันทีที่พูดจบพล.อ.ประวิตรหัวเราะ เมื่อถามอีกว่าสรุปแล้วไปทั้งหมดเลยใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร หัวเราะไม่ตอบคำถาม 

เมื่อถามว่า ได้พูดคุยกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ทำไมนะ เมื่อถามว่า นายกฯ บอกว่ายังอยากอยู่กับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ท่านนายกฯ ดูเหมือนแสดงว่าจะไป จะไปแล้ว ยังไม่รู้ เมื่อถามว่า ทำไมมีคำว่าเหมือน พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็ตนยังไม่รู้ เพราะท่านนายกฯ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคตั้งแต่แรก เมื่อถามว่านายกฯ มีโอกาสเปลี่ยนใจอยู่กับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า นายกฯ ไม่ได้อยู่ในพรรคพลังประชารัฐเป็นเพียงพรรคพลังประชารัฐสนับสนุนให้เป็นนายกฯ ส่วนท่านจะอยู่หรือไม่อยู่ ก็เป็นเรื่องของท่าน เพราะท่านก็ไม่ได้อยู่ ๆ แล้ว ใช่ไหม

เมื่อถามว่า ยังสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ต่อไป พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า อย่างนี้มันต้องแล้วแต่สมาชิกพรรคที่จะว่ากัน เมื่อถามว่า ไม่ว่าอยู่ที่ไหนจะยังเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกันใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า อ๋อใช่อยู่ที่ไหนมันก็รักกันเหมือนเดิม 

เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์เหมือนกับว่ายังรอพรรคพลังประชารัฐทาบทามก็พร้อมจะมา พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็ยังไม่รู้เลยว่าจะทาบทามหรือเปล่า เมื่อถามว่า จะคุยหรือไม่ในฐานะที่เป็นพี่ใหญ่และเป็นผู้จัดการรัฐบาล พล.อ.ประวิตร ย้อนถามว่า ใครเป็นผู้จัดการ เมื่อถามว่า เป็นบารมีของ พล.อ.ประวิตรที่ดูแลรัฐบาลได้ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ผมจะไปเป็นผู้จัดการที่ไหน

บิ๊กตู่ กล่าวขณะร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน - สหภาพยุโรป สมัยพิเศษ ณ กรุงบรัสเซลล์ ประเทศเบลเยียม

ผมเชื่อว่าพลังแห่งความร่วมมือกันอย่างสร้างสรรค์ จะเป็นตัวขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืน สร้างคุณประโยชน์ให้กับประชาชนของอาเซียน สหภาพยุโรป และชาวโลกในภาพรวม

นายกฯ ซัด​ ส.ส.เป็นผู้ใหญ่ต้องรู้หน้าที่ตัวเอง​ ฉุนสภาฯ ล่ม​ คนโทษนายกฯ​ ทั้งที่กำชับทุกพรรคแล้ว

พลเอกประยุทธ์​ จันทร์โอชา​ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม​ กล่าวถึง​ การขอการสนับสนุนกับต่างประเทศในการเป็นเจ้าภาพการจัดงานภูเก็ต Expo​ ในปี​ 2028​ พร้อมกับระบุนี่คืออนาคต สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราต้องทำถ่ายทอดให้กับคนรุ่นหลังๆ 

ทั้งนี้ นายกฯ ยังได้กล่าวด้วยว่า "ใครจะเป็นรัฐบาล ก็มาทำเถอะครับ แต่ไม่ทำแล้วมาเล่นงานกันตอนนี้ จะไปวันข้างหน้าได้ไหมเล่า ตนบอกไว้แล้วว่า จะพูดในหลายๆ เรื่องเมื่อกลับมา วันนี้ก็พูดไปแล้ว การเมืองคือการเมือง การบ้านคือการบ้าน ประชาชนคือการบ้าน ที่ตนต้องทำให้เขา การเมืองเป็นการต่อสู้ในสภาก็ว่ากันไป เมื่อเลือกตั้งมาแล้วก็ให้ไปดูเอา ที่พูดกันมาที่ทำกันมา ทำไปได้มากน้อยเพียงใด​ ถึงเวลาเวลานั้น มันจะได้หรือไม่ได้ ถ้าได้ผมก็ดีใจ ถ้าไม่ได้ก็เสียใจเท่านั้นเอง คำว่าเสียใจคือทำให้ประชาชนมีความสุขไม่ได้ ไม่ใช่ว่าเสียใจที่ผมไม่ได้เป็นหรือได้เป็น เข้าใจนะ อย่าถามกันบ่อยนัก"

นายกฯ กล่าวต่ออีกว่า ส่วนใครจะไปใครจะมาใครจะลาออก ไปอยู่พรรคไหน ก็เรื่องของเขา เป็นเรื่องของสภาฯ สภาฯ ไม่พอสภาฯ ล่ม โทษนายกฯ​ ก็ผมบอกไปแล้วสั่งทุกพรรคไปแล้ว ให้ไปร่วมประชุมสภาฯ​ เขาก็ตอบรับว่าครับ​ ครับ​ ครับ​ ถึงเวลาไปไม่ครบนายกฯ ทำไมไม่ควบคุม ผมไม่โทษใครไม่โกรธใครอยู่แล้ว​ อยากให้ประชาชนเข้าใจว่าทุกคนมีหน้าที่ ทุกคนบอกนายกฯ มีหน้าที่ มีความรับผิดชอบต้องดูแลบ้านเมือง ดังนั้นส.ส.ทุกคน ก็ต้องมีหน้าที่ของตัวเอง ในการทำงานในสภาฯ เป็นผู้ใหญ่แล้วโตกันหมดแล้วอีกเรื่องใครจะออกใครจะเข้าพรรคไหนก็เรื่องของท่าน ผมไม่เคยทะเลาะกับใคร โอเคเท่านี้แหละ

‘สมคิด’ ตอก ‘ประยุทธ์’ เลิกปัดสวะให้พ้นตัว แซะ!! คุมสภายังทำไม่ได้ เลิกหวังสร้างสุขให้ปชช.

วันนี้ (16 ธ.ค. 65) นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) ฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านหรือวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า การที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ออกมาให้สัมภาษณ์กรณีที่ประชุมสภาล่มบ่อยเป็นเรื่องของสภานั้น การพูดเช่นนี้ใช้ไม่ได้ ถ้าเป็นรัฐบาลแล้วทำให้สภาล่มบ่อยจะเป็นรัฐบาลไปทำไม การพูดเช่นนี้เป็นการปัดสวะให้พ้นตัว ในฐานะที่พล.อ.ประยุทธ์เป็นหัวหน้ารัฐบาล เป็นเสียงข้างมาก จะมาปัดสวะแบบนี้ไม่ได้ ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้บริหาร เป็นนายกฯ จะมาหนีแบบนี้ไม่ได้ อยากให้ไปถามนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ที่เคยพูดไว้ว่าเรื่ององค์ประชุมเป็นเรื่องของรัฐบาล ดังนั้นการที่สภาล่มก็มาจากฝ่ายรัฐบาล แต่วันนี้พล.อ.ประยุทธ์บอกว่าไม่เกี่ยว พล.อ.ประยุทธ์กินยาผิดซองหรือเปล่า


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top