Saturday, 18 May 2024
ชุมพร

“ราเมศ” เผย เลือกตั้งซ่อมชุมพร-สงขลา ปชช.ตอบรับดีมาก มั่นใจประชาชนเข้าคูหาเลือกผู้สมัครปชป.อย่างแน่นอน

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งประสานงานส่วนกลาง กล่าวถึงการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งซ่อมเขตเลือกตั้งที่ 1 จ.ชุมพร และเขตเลือกตั้งที่ 6 จ.สงขลา ว่าจากการรณรงค์หาเสียงของผู้สมัครและพรรค ที่ได้นำเสนอทั้งแนวนโยบายพรรคและคุณสมบัติของผู้สมัครที่มีความพร้อมทั้งความรู้ความสามารถและที่สำคัญพร้อมทำงานให้กับ ประชาชนได้ทันที  โดยในเขตเลือกตั้งที่ 1 จ.ชุมพร นายอิสระพงษ์ มากอำไพ ผู้สมัครของพรรคฯ เป็นคนรุ่นใหม่ที่ได้คลุกคลีทำงานในพื้นที่กับชาวบ้านมาโดยตลอด มีความรู้ความสามารถหากได้รับการเลือกตั้งสามารถเข้ามาทำหน้าที่ในสภา ขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนตามนโยบายพรรคได้ทันที

เชื่อว่าปัญหาของประชาชนในพื้นที่จะนำไปแก้ปัญหาผ่านสภาฯอย่างมีประสิทธิภาพ และจะเป็นคนรุ่นใหม่ที่จะมาสานต่อการทำหน้าที่ของนายชุมพล จุลใส อดีต ส.ส.ชุมพร ได้เป็นอย่างดี ซึ่งในพื้นที่ประชาชนเป็นจำนวนมากต้องการคืนความเป็นธรรมให้กับนายชุมพล ที่ถูกเพิกถอนสิทธิจากการไปต่อสู้เพื่อความถูกต้องให้กับประเทศ โดยการเลือกผู้สมัครของพรรค

ชุมพร - ครบรอบ ปีที่ 68 วันสถาปนากองอาสารักษาดินแดน ปี 2565

วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 08.30 น. ณ กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดชุมพรที่ 1 ตำบลขุนกระทิง อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ในฐานะผู้บังคับการกองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดชุมพร (ผบ.อส.จ.ชุมพร)ให้เกียรติมาเป็นประธาน ในพิธีจัดกิจกรรมวันสถาปนากองอาสารักษาดินแดนประจำปี 2565 และอ่านสารของนายกองใหญ่ อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการกองอาสารักษาดินแดน พร้อมกล่าวให้โอวาท มอบเข็มอาสารักษาดินแดนสดุดี และประดับชั้นยศให้กับสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน หลังจากนั้นนางปวีณ์ริศา เกิดสม นายกเหล่ากาชาดจังหวัดชุมพร มอบทุนการศึกษาจากมูลนิธิอาสารักษาดินแดน ในพระบรมราชินูปถัมภ์แก่บุตรของสมาชิกกองอาสารักษากินแดน เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากองอาสารักษาดินแดน ประจำปี 2565 โดยมีผู้บังคับกองร้อย เจ้าหน้าที่ ตำรวจ ทหาร สมาชิก อส. หัวหน้าส่วนราชการ เหล่ากาชาดจังหวัดชุมพร แม่บ้านมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมในพิธี

สำหรับกองอาสารักษาดินแดน เป็นองค์กรขึ้นอยู่กับกระทรวงมหาดไทย จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติกองอาสารักษาดินแดน พ.ศ.2497 จัดตั้งขึ้นเพื่อกำลังสำรองไว้ช่วยเหลือประชาชนและประเทศชาติ ทั้งยามปกติและสงคราม โดยรับสมัครราษฎรที่สมัครใจอาสาเข้ามาเป็นสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (สมาชิก อส.) ซึ่งมีภารกิจหน้าที่ บรรเทาภัยที่เกิดจากธรรมชาติ และการกระทำของข้าศึก ทำหน้าที่ตำรวจรักษาความสงบภายในท้องที่ ร่วมกับฝ่ายปกครองและตำรวจ รักษาสถานที่สำคัญและการคมนาคม ป้องกันการจารกรรมและรายงานข่าวช่วยเหลือให้ความสะดวกแก่ฝ่ายทหารตามที่ต้องการ และเป็นกำลังสำรองสนับสนุนกำลังทหารเมื่อจำเป็น

นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เปิดเผยว่า วันที่ 10 กุมภาพันธ์ของทุกปี กองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดนกระทรวงมหาดไทย ได้กำหนดให้จัดกิจกรรมวันคล้ายวันสถาปนากองอาสารักษาดินแดนเป็นประจำทุกปี ซึ่งในรอบปีที่ผ่านมากองบังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดชุมพร ได้ใช้กำลังพลสมาชิก อส. เข้าสนับสนุนดำเนินงานตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล กระทรวงมหาดไทย กรมการปกครอง และจังหวัดชุมพรในทุกด้าน ทั้งการปราบปรามยาเสพติด การแก้ไขปัญหาความยากจน การป้องกันและแก้ไขปัญหาการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่าและทรัพยากรธรรมชาติ การจัดระเบียบสังคม และการรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่

'อดีตสส.ปชป.' ยื่นหนังสือร้องนายกฯ ตรวจสอบประมูลรังนกฯ จ.ชุมพร ส่อทุจริต 

ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล สำนักงานข้าราชการพลเรือง (กพ) .ได้มี นายศิริศักดิ์ อ่อนละมัย อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชุมพร 6 สมัย สังกัดพรรคประชาธิปัตย์  มายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี  เรื่องขอให้มีการตรวจสอบกรณีการประมูลและการดำเนินการเกี่ยวกับรังนกอีแอ่นในพื้นที่จังหวัดชุมพร ตามที่มีการตาพรบ. อากรรังนกอีแอ่นพ.ศ 2540 เพื่อให้ส่วนท้องถิ่นได้มามีส่วนดูแลและจัดการเก็บรังนกอีแอ่นและให้เงินอากรรังนกอีแอ่นตกเป็นรายได้ให้กับราชการส่วนท้องถิ่นที่มีรังนกอยู่ในเขตราชการส่วนท้องถิ่นนั้น  แต่ได้ปรากฏข้อเท็จจริง เป็นที่ทราบของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชุมพรโดยทั่วไปว่า กรณีดำเนินการเกี่ยวกับรังนกอีแอ่น ดังกล่าวมีเหตุอันควรเชื่อถือได้ว่าเป็นการดำเนินการโดยทุจริตและสร้างความเสียหายให้กับรัฐและผลประโยชน์อันจะตกต่อประชาชนชาวจังหวัดชุมพร อย่างร้ายแรง ในพื้นที่เกาะลังต.ปากคลอง อ.ปะทิว
จ.ชุมพร 

ซึ่งได้มีการเปิดประมูลรวม 16 ครั้ง กับไม่ปรากฏผู้เข้าประมูลประชาชนทั่วไป จึงมีความเคลือบแคลงสงสัยในประเด็นการรักษาทรัพยากรรังนกบนเกาะดังกล่าวเพราะหากไม่มีการประมูล คณะกรรมการซึ่งกำหนดหลักเกณฑ์การดำเนินการต้องมีการตรวจสอบเพื่อป้องกันการสูญหายของรายได้แผ่นดินและท้องถิ่น ซึ่งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นคือองค์การบริหารส่วนตำบลปากคลอง ได้มีการเสนอตัวแทนเพื่อเข้าเป็นพนักงานป้องกันการบุกรุกและเฝ้าเกาะ แต่คณะกรรมการดังกล่าวมีการกล่าว อ้างว่าได้มีการแต่งตั้งอาสาสมัครรักษาดินแดน ผู้มีประสบการณ์ความเหมาะสม แล้วจึงเป็นการปิดโอกาสกระบวนการมีส่วนร่วมตามกฎหมายในฐานะเจ้าของพื้นที่และผู้รับผลประโยชน์เกี่ยวกับรายได้ต่อการพัฒนาท้องถิ่นอย่างรุนแรง 

จึงเป็นเหตุที่ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวควรเชื่อได้ว่าการดำเนินการเกี่ยวกับรังนกอีแอ่นในพื้นที่ดังกล่าวเป็นการดำเนินการโดยมิชอบด้วยกฎหมายมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าเป็นการดำเนินงานโดยทุจริตและประโยชน์ต่อกลุ่มนายทุนบางกลุ่ม มูลเหตุดังกล่าว มีความใกล้เคียงกับกรณีการทุจริตในพื้นที่จังหวัดพัทลุง จึงขอให้มีการสั่งการไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติเข้ามาตรวจสอบ การจัดการประมูลรังนกอีแอ่นในทุกสัญญาตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน

ชุมพร จัดแข่งขันวิ่งแหวกทะเลสู่เกาะพิทักษ์หลังสวนมินิมาราธอน ครั้งที่ 16

 วันที่ 26 มิถุนายน 2565 เวลา 06.00 น นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพรให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดงานการแข่งขันวิ่งแหวกทะเลสู่เกาะพิทักษ์ หลังสวนมินิมาราธอน ครั้งที่ ๑๖ ประจำปี ๒๕๖๕ร่วมกับพล.ต.ท.เทศา สิริวาโท อดี ต ผบช ภ 8 พล.ต.ท รณพงษ ทรายแก้ว อดีต รอง ผบช.ภ8 พล.ต.ต.วรรณรัตน คชรักษ อดีต ผบช.น ชาวหลังสวน  พลตำรวจตรี วิรุฬห์ สุวรรณวงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร  ว่าที่ร.ต.กิตติภพ รอดดอน นายอำเภอหลังสวน นายวิชัย อนันตเมฆนายกเทศบาลตำบลปากน้ำหลังสวน  สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร แขกผู้มีเกียรติ และนักวิ่งที่เข้าร่วมการแข่ง จำวน ๕,๐๐๐ คน รวมทั้ง ๒ รายการการแข่งขัน

นายวิชัย อนันตเมฆ กล่าวว่า ในนามคณะกรรมการจัดการแข่งขันวิ่งแหวกทะเลสู่เกาะพิทักษ์ หลังสวนมินิมาราธอนครั้งที่๑๖ ประจำปี ๒๕๖๕ การจัดกิจกรรมวิ่งแหวกทะเลสู่เกาะพิทักษ์ในครั้งนี้ องค์การบริหารส่วน จังหวัดชุมพร ร่วมกับ อำเภอหลังสวน เทศบาลตำบลปากน้ำหลังสวน องค์การบริหารส่วนตำบลบางน้ำจืด หน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ได้ดำเนินการจัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้น ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ ๑๖ ประจำปี ๒๕๖๕ โดย มีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของอำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร เพื่อส่งเสริมการออกกำลังกายหลีกเลี่ยงห่างไกลยาเสพติด เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เพื่อส่งเสริมการเพิ่มรายได้ของประชาชนในท้องถิ่นและส่งเสริมให้ประชาชนในท้องถิ่นหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติโดยเฉพาะนักวิ่งจากต่างจังหวัด ได้สัมผัสกับเส้นทางวิ่งที่แปลกไม่เหมือนที่ใดมีเส้นทางวิ่งที่โค้ง ลาดเอียง สูงชัน และพิเศษสุดคือต้องวิ่งข้ามทะเลไปยังจุดหมาย เส้นชัย ณ เกาะพิทักษ์ สำหรับกิจกรรมแข่งขันวิ่งแหวกทะเลสู่เกาะพิทักษ์ หลังสวนมินิมาราธอน ครั้งที่ ๑๖ ประจำปี ๒๕๖๕ โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพรเทศบาลตำบลปากน้ำหลังสวน องค์การบริหารส่วนตำบลบางน้ำจืด ซึ่ง กิจกรรมในครั้งนี้ แบ่งนักวิ่งออกเป็น  ประเภท ได้แก่ ประเภทมินิมาราธอน เส้นทางวิ่งประมาณ ๑๔ กิโลเมตร จุดเริ่มต้นจากเรือจำลองจักรีนฤเบศร สู่ เกาะพิทักษ์และประเภทฟันรัน เส้นทางวิ่งประมาณ ๓.๕ กิโลเมตร จุดเริ่มต้นจากศูนย์หมู่บ้าน หมู่ที่ ๑๓ ตำบลบางน้ำจืด สู่ เกาะพิทักษ์ ซึ่งผู้เข้าเส้นชัยทุกคนจะได้รับเหรียญที่ระลึกวิ่ง แหวกทะเลสู่เกาะพิทักษ์ สำหรับผู้เข้าเส้นชัย ลำดับที่ ๑ - ๑๐ ประเภทมินิมาราธอน ๑๔ กิโลเมตร และ ประเภทฟันรัน ๓.๕ กิโลเมตร จะได้รับถ้วยรางวัลเกียรติยศ และ รางวัลพิเศษเฉพาะนักวิ่งมินิมาราธอน รุ่นประชาชนทั่วไปทั้งชาย และหญิง รางวัลที่ ๑ ได้รับเงินสด ๕,๐๐๐ บาท รางวัลที่ ๒ ได้รับเงินสด ๓,๐๐๐ บาท รางวัลที่ ๓ ได้รับ เงินสด ๒,๐๐๐บาท รางวัลที่ ๔ ได้รับเงินสด ๑,๕๐๐ บาท และรางวัลที่ ๕ ได้รับ เงินสด ๑,๐๐๐ บาท

'ชาติพัฒนากล้า' ปักหมุดชุมพร โฟกัสเมืองท่องเที่ยว พร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ชุมพร เขต2

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ชุมพร เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2565 นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทศพล โชติคุตร์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เดินทางไปยัง จ.ชุมพร เพื่อเปิดตัวนายลิขิต ศรีชาติ ทนายความชื่อดัง อดีตรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 ครอบคลุมพื้นที่ อ.ท่าแซะ และ อ.ปะทิว โดยนายกรณ์ ได้พบปะประชาชนในงานทอดกฐินวัดดอนตะเคียน อ.ปะทิว จ.ชุมพร ชาวบ้านให้การต้อนรับและได้ร่วมพูดคุยกันถึงการเพิ่มรายได้ให้กับชาวสวนผลไม้ และเกษตรกร ซึ่งนายกรณ์ได้นำเสนอวิธีการต่อยอดจากโครงการเกษตรเข้มแข็งที่ได้ช่วยพี่น้องภาคอีสานมากว่า 9 ปี โดยใช้หลัก 'เกษตรพรีเมี่ยม' เพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร จนประสบความสำเร็จ   

นอกจากนี้ยังได้เดินทางไปยังชุมชนธุรกิจโฮมสเตย์บ้านไม้ชายคลอง และน้องจอยดำน้ำ เพื่อร่วมพูดคุยถึงประเด็นเศรษฐกิจท่องเที่ยวชุมชน ซึ่งพบว่าหลังจากเปิดประเทศเนื่องจากสถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลาย ชุมพรเป็นเมืองรองที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ซี่งนายกรณ์มองว่า สามารถเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยววิถีชุมชน ที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ อย่างไรก็ตามจากการพูดคุยกับชาวบ้านพบว่า ชาวบ้านกว่าครึ่งในพื้นที่ อ.ปะทิว ไม่มีเอกสารสิทธิในการถือครองที่ดิน ทั้งที่อยู่อาศัยมาชั่วอายุคน ทำให้ขาดความมั่นคงในเรื่องที่อยู่อาศัย และที่ดินทำกิน อันเกิดจากนโยบายที่ไม่เป็นธรรมของระบบราชการ

'บิ๊กตู่' นำทัพ รสทช. ประเดิมปราศรัยเวทีใหญ่ที่ชุมพร เผยไม่ตื่นเต้น ปกติพูดกับคน 70 ล้านคนทุกวันอยู่แล้ว

'บิ๊กตู่' นำทัพ รทสช. ลงชุมพร ประเดิมปราศรัยเวทีแรก เผยไม่ตื่นเต้น เพราะพูดจากใจ เผลอตัวลืมบัตรปชช.ที่เคาท์เตอร์เช็คอินขึ้นเครื่อง ต้องเดินย้อนกลับมาเอา

(28 ม.ค.66) ที่ท่าอากาศยานชุมพร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พร้อมคณะเดินทางถึงจังหวัดชุมพร เพื่อประเดิมเวทีปราศรัยแรกในภาคใต้ โดยพล.อ.ประยุทธ์ สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว ทับด้วยเสื้อสูทลำลองสีเทา กางเกงสแลค โดยมี นายสุพล จุลใส อดีตส.ส.ชุมพร พรรครวมพลัง นำนักการเมืองท้องถิ่นและว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติ จังหวัดชุมพร และประชาชนในพื้นที่มาให้การต้อนรับ

โดยประชาชนต่างมอบดอกกุหลาบและพวงมาลัยดอกดาวเรืองให้ พล.อ.ประยุทธ์ และตะโกนให้กำลังใจนายกฯ สู้ๆ พร้อมขอถ่ายรูป ก่อน พล.อ.ประยุทธ์เข้าห้องรับรอง จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ออกเดินทางด้วยรถยนต์โตโยต้าอัลพาร์ดสีขาว ทะเบียน ฆฉ 1314 กรุงเทพมหานคร 

ทั้งนี้ก่อนออกเดินทางมายังชุมพร พล.อ.ประยุทธ์ ตอบคำถามสื่อมวลชน โดยสื่อถามว่าตื่นเต้นหรือไม่ นายกฯ ตอบว่า ตื่นเต้นเรื่องอะไร ไม่รู้สึกตื่นเต้น 

เมื่อถามว่าขึ้นเวทีปราศรัยครั้งแรกมีข่าวว่าจะมีเซอร์ไพรส์ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เซอร์ไพรส์อะไร 

เมื่อถามว่ามีปราศรัยจากใจอะไรหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่รู้ ใจฉันก็เป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว ไม่ใช่รบกับใคร

เมื่อถามว่าเตรียมไปพูดอะไรกับชาวชุมพรบ้าง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็พูดจากใจ 

เมื่อถามว่าได้เตรียมภาษาใต้มาเยอะหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็พอพูดได้บ้าง แต่อย่าไปฝืนให้มากเพราะเราไม่ใช่เจ้าของภาษา คนไทยด้วยกันพูดภาษาอะไรกันก็ได้ 

เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ ตื่นเต้นหรือไม่ เพราะคนที่เวทีปราศรัยเยอะมาก เตรียมเก้าอี้ไว้ 13,000 ที่นั่ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ปกติตนพูดกับคน 70 ล้านคนอยู่แล้วทุกวัน เพียงแต่ไม่ได้มารวมกันเยอะๆ ที่เดียวกัน เหมือนกันแหละ เมื่อถามว่าเป็นการขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งแรก พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า จะใหญ่จะเล็กก็ไม่รู้ตนก็พูดจากใจของตน

ใจถึงพึ่งได้ ‘บิ๊กป้อม’ ลุย ‘ชุมพร-ระนอง’ แก้ปัญหาน้ำท้วม-แล้ง ชาวบ้านแห่ต้อนรับ เชียร์นั่งนายกฯ คนที่ 30

(13 มี.ค.66) พล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษก รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย รมช.คลัง และคณะ ได้เดินทางไปปฏิบัติราชการพื้นที่ภาคใต้ ต่อเนื่องจากช่วงเช้า (จ.สุราษฎร์ธานี) โดยในช่วงบ่ายได้ลงพื้นที่ จ.ชุมพร และ จ.ระนอง 

โดยเมื่อเวลา 14.00 น. พล.อ.ประวิตร และคณะ ได้เดินทางถึงโครงการสร้างความเข้มแข็งของชุมชนฯ บ้านวังช้าง ต.ชุมโค อ.ปะทิว จ.ชุมพร มีนายวิสาห์ พูลศิริรัตน์ ผวจ. ให้การต้อนรับ พร้อมรับฟังการบรรยายสรุปจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 

ทั้งนี้ จ.ชุมพร ยังคงมีปัญหาน้ำท่วมเนื่องจากสภาพพื้นที่เป็นภูเขา เมื่อมีฝนตกหนักปริมาณน้ำมากเกินความจุลำคลอง ทำให้เกิดน้ำหลากในหลายอำเภอ 

สำหรับภัยแล้ง ปัจจุบันพื้นที่ป่าไม้ลดลง ความต้องการใช้น้ำมากขึ้นโดยเฉพาะฤดูแล้งและยังไม่มีแหล่งกักเก็บน้ำ อย่างเพียงพอ จึงได้มีโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านการบริหารจัดการน้ำ ของชุมชนที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำ โดยสร้างความรู้ ความเข้าใจการวางแผนการใช้น้ำ ที่มีอยู่ รวมทั้งการพัฒนา/เพิ่มประสิทธิภาพแหล่งน้ำชุมชน

จากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้มอบนโยบายแก่ จังหวัด, สทนช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งรัดโครงการต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม-ภัยแล้ง พร้อมยืนยันว่า รัฐบาลมีความห่วงใยต่อประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จากทุกปัญหา และพยายามให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ไม่ทอดทิ้งใครอย่างเด็ดขาด รวมถึงจะพัฒนาปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน ให้ครอบคลุมทุกมิติ 

จากนั้นได้พบปะพี่น้องประชาชน ที่มาให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นและเป็นกันเอง จากหลายอำเภอ เพื่อรับฟังข้อคิดเห็นและความต้องการต่าง ๆ ซึ่งมีประชาชนจำนวนมาก แสดงความรู้สึกดีใจที่ได้ใกล้ชิด และได้สัมผัสถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำงานและความห่วงใยประชาชน อย่างแท้จริง พร้อมชื่นชมว่า ท่านใจดี ใจถึงพึ่งได้จริง มีลักษณะผู้นำที่จะสามารถนำพาประเทศก้าวข้ามความขัดแย้ง สู่การพัฒนาประเทศได้ในสถานการณ์ปัจจุบัน เหมาะที่จะเป็นนายกคนที่ 30 มากที่สุด

‘จูรี’ อ้อนชาวชุมพร เลือก ‘ชาติพัฒนากล้า’ กาให้ ‘ทนายลิขิต’ ชู ‘กรณ์’ ทำพรรคนี้เพื่อปากท้อง ไม่ด่าทอ ไม่ทะเลาะกับใคร

‘กรณ์-จูรี’ ลุยชุมพร ช่วย ‘ทนายลิขิต’ หาเสียง อ้อนขอโอกาสลูกชาวบ้าน กาให้ชาติพัฒนากล้า พัฒนาเศรษฐกิจชุมพร

(9 เม.ย. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในระหว่างวันที่ 5-9 เมษายน 2566 นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมด้วยนายจูรี นุ่มแก้ว ดาวติ๊กตอกขวัญใจคนใต้ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 จังหวัดสงขลา และทีมงาน ได้ตระเวนช่วยผู้สมัคร ส.ส.ในพื้นที่ต่าง ๆ ตั้งแต่ จังหวัดภูเก็ต จังหวัดสุราษฎร์ธานี และพื้นที่สุดท้ายคือที่จังหวัดชุมพร โดยนายกรณ์ และนายจูรี ลงพื้นที่จังหวัดชุมพร เพื่อช่วยทนายลิขิต ศรีชาติ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 จังหวัดชุมพร หาเสียง โดยพบปะพี่น้องประชาชนบริเวณ บริเวณหลาดเล อำเภอท่าแซะ และจัดเวทีปราศรัยที่ถนนคนเดินสะพลี อำเภอปะทิว โดยมีประชาชนให้ความสนใจและให้การต้อนรับเป็นจำนวนมาก บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก และอบอุ่น

นายกรณ์ กล่าวว่า จ.ชุมพร ถึงเวลาต้องมีการเขย่าให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ ๆ ได้เข้ามาทำการเมืองสร้างสรรค์ พรรคชาติพัฒนาเราส่งผู้แทนคุณภาพที่เป็นลูกชาวบ้าน คือ ทนายลิขิต ศรีชาติ เป็นอดีตรองนายก อบจ.ที่ลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนมากว่า 3 ปี แล้ว ไม่ได้เพิ่งมาตอนจะมีการเลือกตั้ง และนโยบายพรรคชาติพัฒนากล้าเอง ก็ได้รับการยอมรับว่า แหลมคมที่สุดในด้านเศรษฐกิจ และสามารถสรุปได้ง่าย ๆ แค่ 3 คำคือ งานดี มีเงิน ของไม่แพง เพราะเรารู้ว่านี่คือสิ่งที่ประชาชนทั้งประเทศต้องการ เราต่อสู้มาตลอดตั้งแต่ราคาน้ำมัน ค่าไฟฟ้า ยกเลิกแบล็กลิสต์ ฯลฯ ที่เอาเปรียบประชาชน เอื้อนายทุน 

หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า พวกเราเลือกที่อยู่พรรคเล็ก ๆ และยืนหยัดต่อสู้กับนายทุน เพราะเราไม่ได้พึ่งพาปัจจัยการสนับสนุนจากทุนใหญ่เลย เราจึงกล้าที่จะพูดและกล้าที่จะทำในสิ่งที่ตอบสนองความต้องการของประชาชน ในฐานะที่อดีต รมว.คลัง และอดีตนายธนาคาร ขอยืนยันนโยบายทุกนโยบายเป็นไปได้ โดยเฉพาะภาคการเกษตร นโยบายประกันรายได้ ตนเป็นคนคิดเอง แต่เป็นการออกแบบแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ไม่ใช่เอามาใช้ปีแล้วปีเล่า แต่ชาวบ้านก็ยังจนเหมือนเดิม ถ้าจะดีราคาสินค้าทางการเกษตรต้องดีอย่างยั่งยืน เกษตรกรต้องเป็นนายทุน กำหนดราคาสินค้าเอง ขอเพียงโอกาสให้ตนได้เข้าไปทำงาน ตนจะทำให้ดู 

“หากพี่น้องประชาชนต้องการสร้างโอกาสให้ลูกหลาน ผู้สูงอายุได้รับการดูแล ความเดือดร้อนทางด้านปากท้องของพี่น้องประชาชนได้รับการแก้ไข ก็ต้องกาเบอร์ 6 เลือกทนายลิขิต ไปเป็นผู้แทน เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง และกาเบอร์ 14 เพื่อให้ผมเข้าไปทำงาน” หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าว 

นายจูรี กล่าวระหว่างขึ้นเวทีปราศรัย ว่า ดูจากจำนวนคนที่เข้าร่วมฟังเวทีปราศรัยในครั้งนี้ รู้ทันทีว่าเงินซื้อชาวบ้านไม่ได้ เพราะเป็นพลังเสียงที่บริสุทธิ์ ทำให้เห็นความหวัง และได้กลิ่นความเจริญของชุมพรกำลังลอยมาแล้ว การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นการเลือกตั้ง ที่มี่การใช้เงินครั้งมโหฬารที่สุด พวกเขาเห็นประชาชนเป็นปลา จึงเอาเหยื่อมาล่อ ให้ชาวบ้านไปกินเหยื่อเขา เราต้องให้บทเรียนพวกนั้นว่า คนชุมพร กินเหยื่อ แต่ไม่กินเบ็ด ให้คนตกปลามันกลัวไปเลย ขอให้ชาวบ้านมาร่วมสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่กัน โดยการให้โอกาสลูกชาวบ้านเข้าไปเป็นผู้แทน 

‘ลุงตู่’ บุกชุมพร อ้อนชาวบ้าน บอก “รักจังฮู้ มาเพราะแรงคิดถึง” ปลุกพลังเงียบเลือก ‘รทสช.’ ลั่น!! หากได้เป็น รบ.ทุกอย่างจะดีขึ้น

‘ลุงตู่’ ขนแกนนำหาเสียงชุมพรคึกคัก ปลุกพลังเงียบออกมาใช้สิทธิ์ กา ‘รทสช.’ ทั้ง 2 ใบ ให้เข้ามาบริหารประเทศ สัญญาได้เป็นรัฐบาลทุกอย่างดีขึ้นแน่นอน

(10 พ.ค. 66) ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ลาราชการทำเนียบรัฐบาล สวมเสื้อพรรค รทสช.และรองเท้าสีครีมสดใส ลงพื้นที่หาเสียงจังหวัดชุมพร ต่อเนื่องในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง ที่เหลือเวลาอีกเพียง 4 วัน โดยออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง พร้อมด้วย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค, นายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค, นายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรค และแกนนำพรรค

โดยเมื่อมาถึงท่าอากาศยานจังหวัดชุมพร อำเภอปะทิว มีประชาชนชาวประทิวสวมเสื้อสีเหลืองมาต้อนรับ พร้อมมอบดอกไม้ให้กำลังใจ และขอถ่ายภาพ จากนั้นจุดแรกเวลา 09.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางพบปะประชาชนในพื้นที่ตลาดประทิว เพื่อหาเสียงช่วย นายสันต์ แซ่ตั้ง ผู้สมัครส.ส. เขตเลือกตั้งที่ 2 ชุมพร โดย พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นยืนปราศรัยบนรถแห่ กล่าวสวัสดีชาวชุมพร พร้อมกล่าวช่วงหนึ่งว่า การเรียนหนังสือสำคัญที่สุด เรียนแล้วต้องรู้จักคิดไม่อย่างนั้นจะถูกคนเข้ามาโกหก กล่อมเกลา ซึ่งอันตรายสำหรับบ้านเรา

ทั้งนี้ วันที่ 14 พ.ค. อย่าลืมแต่งตัวสวยๆ ออกไปกาบัตรเลือกตั้ง อย่ากาผิด 2 บัตรสองใบ สีม่วงเบอร์ 12 สีเขียวเบอร์ 22 ต้องไปทั้งคู่ ให้ได้คะแนนเสียงซึ่งตนจะได้เข้ามาบริหารได้ ถ้าบริหารไม่ได้มันก็ลำบากในสภา วันนี้เราเป็นประชาธิปไตยเต็มใบแล้ว เดินหน้าประเทศพร้อมกันไปกับตน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เขาบอกรักน้อย ๆ แต่รักนาน ๆ ตนไม่เอา ตนเอารักมาก ๆ แต่รักนาน ๆ ด้วย 
รักคนใต้ วันนี้ที่มา มาเพราะแรงคิดถึง รักอย่างแรง รักแล้ว รักต่อ ก่อนจะแซวชาวบ้านว่าจะร้องเรียนอะไรหรอ เป็นรัฐบาลแล้วค่อยว่ากัน แต่คิดว่าหมดแล้ว 8 ปีที่อยู่มาเราต้องหาเงินเข้ากระเป๋าให้ได้ก่อน ต้องทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าลงทุนให้ได้มากที่สุด

ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะถามประชาชนว่า “เห็นในทีวีทุกวันยังไม่เบื่อหรอ รูปในกล้องก็ใช้ไม่ได้ ทีวีเสีย ผมไม่หล่อ วันนี้มีเรื่องจะพูดเยอะแต่มันตื้นตัน รักจังฮู้ ที่มาเพราะแรงคิดถึง รักแรง ทั้งนี้ ทำมา 8 ปี ตนรู้ปัญหา คือต้องหาเงินเข้ากระเป๋าไม่อย่างนั้นทำไม่ได้ ซึ่งไทยเป็นประเทศที่น่าลงทุนมากที่สุด เงินกระเป๋าซ้ายก็ตุงขึ้นมาและจ่ายกระเป๋าขวาให้พวกเรา ดูแลสวัสดิการ ถ้าไม่มีสตางค์มันทำอะไรไม่ได้ มันดีแต่โม้กันทั้งนั้น”

พล.อประยุทธ์ กล่าวว่า ขอให้รักรวมไทยสร้างชาติ เราเป็นพรรคที่จัดตั้งขึ้นมาใหม่ แต่รวบรวมคนเก่าและคนใหม่เข้ามา ทั้งหมดจะได้ขึ้นมาเป็นรัฐบาลอยู่ที่พวกเราทุกคน และช่วยกันไปเลือกตั้ง 14 พ.ค. ลากกันไปเลือกตั้ง เคาะข้างบ้านด้วย ใครไม่ไปชวนกันไป อนาคตประเทศไทยอยู่ที่มือของพวกเราทุกคน บ้านเมืองต้องมั่นคง สถาบันหลักของประเทศต้องมั่นคง ตนมีแต่ความจริงใจให้ท่าน ตนเป็นทหารเก่ามาทุ่มเททั้งชีวิตไปแล้วในการรักษาแผ่นดินผืนนี้ให้กับท่าน เราต้องช่วยกันรักษาต่อไปในสิ่งที่ดีงาม ถ้าอยากให้ตนเป็นนายกฯต้องเลือกกี่ใบ จำไว้ 2 เลข อย่าไปเดินชนอะไรแล้วลืมเบอร์ ช่วยกันส่งพลังเงียบออกมาได้หรือไม่ได้ ข้าราชการเกษียณว่าอย่างไร เราเป็นช้างป่วยหรือเปล่า เราเป็นช้างศึกไม่ใช่ช้างป่วย ทำหน้าที่รับใช้แผ่นดินมาแล้วเท่าไหร่ ทหาร ตำรวจ ข้าราชการดี ๆ มีเยอะแยะไป ขอให้ช่วยกันทำหน้าที่เพื่อบ้านเมือง

จังหวะนี้ประชาชนตะโกนถามพล.อ.ประยุทธ์ ว่างวดนี้ออกอะไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “เดี๋ยวถามกองสลากก่อน เขาเป็นคนหมุนเครื่องปั่น ผมไม่ได้ไปล้วงกับเขา ก็สุดแล้วแต่พวกเรา อย่าทุ่มเทมากนะ ตอนนี้รถมีหลายคันซื้อเบอร์กันทุกคัน เสียกันเยอะ” ขณะที่ประชาชนตะโกนว่า “ลุงตู่สู้ๆ” พล.อ.ประยุทธ์ จึงชูกำปั้น พร้อมกล่าวว่า “สู้ตายๆ ไม่ใช่สิ สู้ไม่ตาย” พร้อมถามประชาชน “สู้ไม่สู้ๆๆ” ประชาชนกล่าวว่า “สู้ๆ”

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ทุกคนคืออนาคตของประเทศไทย ร่วมกันก้าวเดินไปพร้อมกับลุงตู่ ตน ยืนยันถ้าได้เป็นรัฐบาลทุกอย่างต้องดีขึ้นแน่นอน

‘กรณ์’ ปราศรัยชุมพร ช่วย ‘ทนายลิขิต’ หาเสียงโค้งสุดท้าย อ้อนชาวใต้ เลือก ‘ชพก.’ เข้าสภาฯ เป็นกระบอกเสียงให้ ปชช.

(11 พ.ค.66) นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า เดินทางไปยังจังหวัดชุมพร เพื่อร่วมเวทีปราศรัยหาเสียงให้กับทนายลิขิต ศรีชาติ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 เบอร์ 6 ที่อำเภอท่าแซะ โดยทนายลิขิต เปิดใจว่า พรรคชาติพัฒนากล้า เป็นพรรคที่มีหัวหน้าพรรคคุณภาพที่สุด เพราะมีนายกรณ์ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจเป็นหัวหน้าพรรค เพราะตลอดช่วง 8 ปีที่ผ่านมา พี่น้องประชาชนประสบกับปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ ได้รับความเดือดร้อนกันทุกหย่อมหญ้า ค่าน้ำมัน ค่าไฟ ซึ่งเป็นต้นทุนค่าครองชีพของประชาชนสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ผู้แทนของจังหวัดชุมพร ไม่เคยมีใครนำปัญหาของพี่น้องประชาชนเข้าไปพูดในสภาฯ เลยนับสิบปี ถ้าอยากเห็นปัญหาของพี่น้องของประชาชนถูกนำเสนอในสภาฯ และได้รับการแก้ไข 14 พฤษภาคม เลือกทนายลิขิต เบอร์ 6 เขต 2 ชุมพร เปลี่ยนแปลงแน่นอน

ด้านนายกรณ์ กล่าวว่า ในช่วงท้ายของการหาเสียง หากจะวัดว่ากระแสของผู้สมัครยังดีอยู่หรือไม่ ให้ดูความกระตือรือร้นของทีม จากเส้นทางคาราวานภาคใต้ที่ตนได้เดินสายมาตลอดหลายวันที่ผ่านมา ทีมงานของผู้สมัคร แต่ละจังหวัดยังแข็งขัน แรงไม่ตก และโดยเฉพาะที่ จ.ชุมพร แข็งแรงมาก และก็อยากบอกให้ทุกคนมีกำลังใจคือกระแสของพรรคดีวันดีคืน เพราะตนได้รับของฝากมาจากทุกจังหวัด ของฝากที่ว่าคือ ประชาชนฝากปัญหาความเดือดร้อน ทั้งหนี้สิน ค่าครองชีพ ตลอดจนโอกาสในการทำมาหากิน ซึ่งของฝากเหล่านั้นตนไม่ถือว่าเป็นภาระ แต่เป็นกำลังใจที่ประชาชนยังเชื่อมั่น ศรัทธา ที่จะฝากความหวังไว้กับเรา ไม่มีใครถามว่า เราอยู่ฝ่ายไหน เขาไม่ได้ชอบวิธีการสาดโคลนกันไปมา โดยที่ประชาชนไม่ได้อะไรเลย

นายกรณ์ กล่าวว่า ตนอยู่ในวงการการเมืองมา 18 ปี เส้นทางเต็มไปด้วยความขัดแย้ง นักการเมือง ต้องมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบที่สร้างมันขึ้นมา เพราะเป็นอุปสรรคปัญหาต่อการดำรงชีวิตของประชาชน พอกันทีความขัดแย้ง พรรคเรามีแนววิธีการหาเสียงไม่ใส่ร้ายใคร แต่มีวิธีการหาเสียงที่ชัดเจนว่าเราจะแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน พี่น้องหลายคนยังลังเล ว่าถ้าเลือกไปจะชนะไหม เพราะไม่ได้อยู่ในพรรคกระแสหลัก เข้าไปจะทำอะไรได้

ขอบอกว่า ความใหญ่ เล็ก ของพรรคการเมือง ไม่สำคัญเท่ากับขนาดของหัวใจ ว่าจะกล้าแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้หรือไม่ เลือกพรรคใหญ่เข้าไป ไม่ทำอะไรทั้งที่มีอำนาจอยู่ในมือ เพราะถูกอำนาจผูกขาดครอบงำ พรรคยิ่งใหญ่ ก็ยิ่งต้องใช้เงินมากขึ้น และวงจรอุบาทว์มันก็จะวนเวียนไม่รู้จักจบสิ้น และนี่คือสาเหตุที่พวกเราทุกคนเลือกที่จะอยู่พรรคชาติพัฒนากล้า ไม่ต้องใช้เงิน ยุทธศาสตร์หาเสียงของเราเป็นแนวทางใสสะอาด ขยัน ยกมือกราบไหว้ จุดยืนของเราไม่ขัดแย้งกับใคร ไม่เป็นศัตรูกับใครตราบใดที่เขาเห็นตรงกับเราคือปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชน และกล้าชนกับทุนผูกขาด และเราก็พร้อมร่วมกับรัฐบาลเสียงข้างมากโดยไม่ต้องอาศัยเสียง สว.

“ถ้าประชาชนเลือกคนของพรรคชาติพัฒนากล้าเข้าไปเป็นผู้แทน ไม่ว่าจะเป็นทนายลิขิต ศรีชาติ จาก จ.ชุมพร, จูรี นุ่มแก้ว จ.สงขลา, เทมส์ ไกรทัศน์, อรทัย เกิดทรัพย์ จ.ภูเก็ต และ อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี จากกรุงเทพฯ รับรอง ว่าคนพวกนี้จะเป็นปากเป็นเสียง กล้าพูด และกล้าชนกับทุนผูกขาด ได้อย่างแน่นอน” นายกรณ์ กล่าว

นายกรณ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า “เราเลือกทนายลิขิต เพราะเราเชื่อและศรัทธา เพราะฉะนั้น วันที่ 14 พฤษภาคม ไม่ต้องลังเล กาเบอร์ 6 เพื่อให้ทนายลิขิต ไปทำหน้าที่ในสภาฯ เป็นผู้แทนของชาวชุมพร เขต 2”


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top