Tuesday, 29 April 2025
ขีปนาวุธ

เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธ 8 ลูก  หลังเกาหลีใต้-สหรัฐฯ เสร็จสิ้นภารกิจซ้อมรบ

เกาหลีเหนือยิงทดสอบขีปนาวุธ 8 ลูก ไปตกนอกชายฝั่งตะวันออกของคาบสมุทรเกาหลี หลังจากการซ้อมรบร่วมระหว่างเกาหลีใต้กับสหรัฐอเมริกาปิดฉากลง

วันนี้ (5 มิ.ย. 65) สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า คณะเสนาธิการร่วมเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้อย่างน้อย 8 ลูกจากฐานยิงใกล้กับกรุงเปียงยางไปตกนอกชายฝั่งตะวันออกของประเทศ หลังจากสหรัฐอเมริกาและเกาหลีใต้เสร็จสิ้นภารกิจซ้อมรบร่วมกัน

ด้านรัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่น ยืนยันว่า การทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือเป็นการกระทำที่ยอมรับไม่ได้

'เกาหลีเหนือ' ยิงขีปนาวุธครั้งที่ 2 ในรอบ 48 ชม. 'น้องสาวคิม' ขู่!! เปลี่ยนภูมิภาคแปซิฟิกเป็นสนามซ้อมยิง

(20 ก.พ. 66) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยใกล้ 2 ลูกในเช้าของวันนี้ (20 ก.พ. 66) นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 48 ชั่วโมง ด้านน้องสาวของผู้นำเกาหลีเหนือ เตือน ว่า จะทำให้ภูมิภาคแปซิฟิกตกอยู่ในพิสัยยิงของเกาหลีเหนือ

กองทัพเกาหลีใต้แถลงว่า ตรวจพบว่ามีการยิงขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยใกล้ 2 ลูกขึ้นจากย่านซุกชอน จังหวัดพย็องอันใต้ของเกาหลีเหนือ ในช่วงเวลา 07:00-07:11 น. วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 05:00-05:11 น. วันนี้ตามเวลาไทย ขณะที่สำนักนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นแถลงว่า เกาหลีเหนือได้ยิงสิ่งที่น่าจะเป็น 'ขีปนาวุธทิ้งตัว' ด้านหน่วยยามฝั่งญี่ปุ่นประกาศเตือนว่า มีการยิงวัตถุหลายครั้ง หลังจากนั้นไม่นานเกาหลีเหนือแถลงว่า ได้ใช้เครื่องยิงจรวดหลายลำกล้องขนาด 600 มิลลิเมตรยิงจรวด 2 ลูกตกลงในทะเลตะวันออก หรือที่ญี่ปุ่นเรียกว่า 'ทะเลญี่ปุ่น'

‘ไต้หวัน’ จ่อซื้อ ‘ฮาร์พูน’ ขีปนาวุธของสหรัฐฯ กว่า 400 ลูก มูลค่ากว่า 1.1 พันล้านบาท เตรียมพร้อมรับภัยคุกคามจากจีน

ไต้หวันจะซื้อ ‘ฮาร์พูน’ ขีปนาวุธยิงจากภาคพื้นของสหรัฐฯ สูงสุด 400 ลูก ในยามที่ต้องเผชิญภัยคุกคามจากจีนมากขึ้นเรื่อย ๆ 

เมื่อวันที่ (17 เม.ย.66) กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพตากอน) เคยแถลงเกี่ยวกับสัญญามูลค่า 1,170 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับขายขีปนาวุธต่อต้านเรือ 400 ลูก เมื่อวันที่ 7 เมษายน แต่ไม่ได้ระบุชื่อผู้ซื้อ โดยบอกแต่เพียงว่าคาดหมายว่าการผลิตจะเสร็จสิ้นภายในเดือนมีนาคม 2029 อย่างไรก็ตาม บลูมเบิร์กรายงานล่าสุด บอกว่าผู้ซื้อรายดังกล่าวได้แก่ไต้หวัน

'อิสราเอล' ยิงขีปนาวุธใส่ 'ซีเรีย' โดยใช้เครื่องบินรบ บินขึ้นโจมตีฐานป้องกันภัยทางอากาศ

อัลจาซีรา รายงานว่า ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา อิสราเอลได้โจมตีสนามบินและฐานทัพอากาศของซีเรียอย่างเข้มข้น เพื่อขัดขวางการใช้สายส่งทางอากาศที่เพิ่มขึ้นของ #อิหร่านในการส่งมอบอาวุธให้กับพันธมิตรในซีเรียและเลบานอน รวมถึง #ฮิซบอลเลาะห์ ของ #เลบานอน

การที่อิสราเอลโจมตี เป็นส่วนหนึ่งของการยกระดับความขัดแย้งที่เลี้ยงความรุนแรงมานานหลายปี เป้าหมายไม่ให้อิหร่านยึดที่มั่นมากขึ้น 
นับแต่อิทธิพลของอิหร่านเติบโตขึ้นในซีเรีย เริ่มสนับสนุนประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ในสงครามกลางเมืองที่เริ่มต้นในปี 2554

‘เกาหลีเหนือ’ โชว์แสนยานุภาพ!! ยิงขีปนาวุธพิสัยไกล ลงทะเลญี่ปุ่น หลังขู่จะยิงเครื่องบินสอดแนมสหรัฐฯ ที่บินรุกล้ำน่านฟ้าประเทศ

(12 ก.ค. 66) สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานว่า เกาหลีเหนือได้ทำการยิงขีปนาวุธที่คาดว่าจะเป็นขีปนาวุธทิ้งตัวข้ามทวีป (ไอซีบีเอ็ม) ตกลงในทะเลตะวันออก หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘ทะเลญี่ปุ่น’ เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 12 กรกฎาคมตามเวลาท้องถิ่น เพียงไม่กี่วันหลังเกาหลีเหนือขู่ว่าจะยิงเครื่องบินสอดแนมของสหรัฐฯ ที่บินรุกล้ำน่านฟ้าเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา และประณามแผนของสหรัฐฯ ที่จะส่งเรือดำน้ำติดขีปนาวุธนิวเคลียร์ เยือนท่าเรือของเกาหลีใต้เป็นครั้งแรกในรอบหลายทศวรรษ

กองทัพเกาหลีใต้ระบุว่า สามารถตรวจจับการปล่อยขีปนาวุธพิสัยไกลที่ยิงจากกรุงเปียงยาง ประเทศเกาหลีเหนือเมื่อเวลาราว 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น คณะเสนาธิการร่วมของเกาหลีใต้เปิดเผยว่า “ขีปนาวุธทิ้งตัวถูกยิงในวิถีโค้งและบินเป็นระยะทาง 1,000 กิโลเมตรก่อนที่จะตกลงในทะเลตะวันออก”

สถานีโทรทัศน์ทีวีอาซาฮีของญี่ปุ่น รายงานโดยอ้างอิงเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมของญี่ปุ่น ว่า ขีปนาวุธลูกดังกล่าวได้บินเป็นระยะเวลา 74 นาทีที่ระดับความสูง 6,000 กิโลเมตร โดยถือเป็นระยะเวลาการบินที่นานที่สุดของขีปนาวุธเกาหลีเหนือ

คณะเสนาธิการร่วมของเกาหลีใต้ระบุอีกว่า การยิงขีปนาวุธดังกล่าวของเกาหลีเหนือเป็นการยั่วยุอย่างร้ายแรงที่ทำลายสันติภาพและความมั่นคงของคาบสมุทรเกาหลีและเป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ต่อเกาหลีเหนือ พร้อมกับเรียกร้องให้เกาหลีเหนือยุติการกระทำในลักษณะดังกล่าว

ด้านนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะของญี่ปุ่น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างร่วมประชุมสุดยอดผู้นำองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ที่ประเทศลิทัวเนีย ได้สั่งให้คณะทำงานของเขารวบรวมข้อมูลและเฝ้าระวังเพื่อรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ตามรายงานของสำนักนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น

การปล่อยขีปนาวุธไอซีบีเอ็มในครั้งนี้มีขึ้นหลังโฆษกของกระทรวงกลาโหมของเกาหลีเหนือ ระบุว่า สหรัฐฯ ได้เพิ่มกิจกรรมการจารกรรมเหนือกว่าระดับในช่วงสงคราม โดยอ้างถึงการบินของเครื่องบินสอดแนมสหรัฐฯ ตลอดระยะเวลา 8 วันติดต่อกันในช่วงเดือนนี้ ขณะที่คิม โย จอง น้องสาวของนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือเผยว่าเครื่องบินสอดแนมของสหรัฐฯ ได้บินรุกล้ำน่านฟ้าทางทิศตะวันออกของประเทศ 2 ครั้งในช่วงเช้าวันที่ 10 กรกฎาคม

ระบบสกัดกั้นขีปนาวุธอัจฉริยะ เกราะป้องกันภัยหมื่นล้านของ ‘อิสราเอล’ ตรวจจับอันตรายด้วยเรดาร์ พร้อมหน่วยยิง Tamir คล่องตัว-แม่นยำสูง

‘Iron Dome’ เกราะป้องกันขีปนาวุธของอิสราเอล… ทำงานอย่างไร?

ในท้องฟ้ายามค่ำคืนมองเห็นจรวดที่ยิงจาก Beit Lahiya ทางตอนเหนือของฉนวน Gaza ไปยังอิสราเอล เส้นแสงที่โค้งไปมาคือ ‘ระบบสกัดกั้น’ (Iron Dome)

ความรุนแรงที่เลวร้ายที่สุดในรอบหลายปี ระหว่างอิสราเอลและฮามาสที่ปกครองฉนวน Gaza ทำให้เกิดการเผชิญหน้าอันน่าตื่นตะลึง โดยฮามาสและกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์อื่น ๆ ยิงจรวดถล่มใส่อิสราเอลมากกว่า 5,000 ลูก ในช่วงไม่กี่วันผ่านมา แต่จรวดของฮามาสและกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์อื่น ๆ ยิงประมาณ 90% ถูกสกัดกั้นโดย ‘ระบบป้องกันขีปนาวุธ’ (Iron Dome) จากแถลงการณ์ของกองทัพอิสราเอล 

‘ระบบป้องกันขีปนาวุธ’ (Iron Dome) ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อป้องกันภัยคุกคามจากจรวดและปืนใหญ่ ในระยะตั้งแต่ 4 กม. ถึง 70 กม. (2.5 ไมล์ ถึง 43 ไมล์) ซึ่งกำลังได้รับการพัฒนาเพื่อขยายระยะไปถึง 250 กม.

ระบบนี้เกิดจากการที่อิสราเอลสู้รบกับ ‘ขบวนการฮิซบอลเลาะห์’ (Hezbollah) กลุ่มติดอาวุธในเลบานอนในปี 2006 มีการยิงจรวดหลายพันลูกเข้าสู่อิสราเอล ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง มีการอพยพผู้คนจำนวนมาก และมีผู้เสียชีวิตหลายสิบราย หลังจากนั้น อิสราเอลจึงเริ่มการพัฒนาเกราะป้องกันจรวดขึ้น

‘Iron Dome’ ซึ่งสร้างขึ้นโดย ‘Rafael Advanced Defense Systems’ บริษัทอิสราเอล ร่วมกับ ‘Israel Aerospace Industries’ โดยได้รับการสนับสนุนทางการเงินและทางเทคนิคจากสหรัฐฯ เริ่มประจำการในปี 2011 Iron Dome ถือเป็นระบบป้องกันจรวดที่ทันสมัยที่สุดในโลก ใช้เรดาร์เพื่อตรวจจับ ประเมิน และสกัดกั้นเป้าหมายระยะสั้นที่หลากหลาย เช่น จรวด ปืนใหญ่ และปืนครก รวมถึงภัยคุกคามที่เข้ามาก่อนที่จะสร้างความเสียหาย เช่น จรวดที่ยิงจากฉนวน Gaza ระบบป้องกันขีปนาวุธ Iron Dome ใช้งานได้ทั้งกลางวันและกลางคืน ตลอดจนถึงในทุกสภาพอากาศ รวมถึงเมฆต่ำ ฝน พายุฝุ่น และหมอก 

‘Iron Dome’ ใช้งบประมาณในการพัฒนาสูงมาก แต่ผู้ผลิตกล่าวว่ามีความคุ้มค่า เนื่องจากเทคโนโลยีที่ใช้มีความสามารถในการแยกความแตกต่างระหว่าง จรวดที่มีแนวโน้มที่จะโจมตีพื้นที่ที่จะสร้างความเสียหาย และไม่สกัดกั้นจรวดที่จะตกในพื้นที่ที่ไม่สร้างความเสียหาย ขีปนาวุธจะถูกยิงเพื่อสกัดกั้นสิ่งใดก็ตามที่ถูกระบุความว่า ‘สร้างความเสียหายจนเป็นอันตราย’ เท่านั้น

Iron Dome มีส่วนประกอบหลัก 3 อย่าง :
1.) เรดาร์ตรวจจับและติดตาม : ระบบเรดาร์สร้างโดย Elta ของอิสราเอล และบริษัทในเครือของ Israel Aerospace Industries และ IDF

2.) การจัดการการรบและการควบคุมอาวุธ (BMC) : ศูนย์ควบคุมถูกสร้างขึ้นสำหรับ Rafael โดย mPrest Systems ซึ่งเป็นบริษัทซอฟต์แวร์ของอิสราเอล

3. ) หน่วยยิงขีปนาวุธ : หน่วยยิงขีปนาวุธสกัดกั้น Tamir ซึ่งติดตั้งเซ็นเซอร์ไฟฟ้าออปติกและครีบบังคับเลี้ยวหลายอันเพื่อความคล่องตัวสูง ขีปนาวุธนี้สร้างโดย Rafael โดย EL/M-2084 เรดาร์ของระบบจะตรวจจับการปล่อยจรวดและติดตามวิถีของมัน BMC จะคำนวณจุดผลกระทบตามข้อมูลที่รายงาน และใช้ข้อมูลนี้เพื่อพิจารณาว่าเป้าหมายถือเป็นภัยคุกคามต่อพื้นที่ที่กำหนดหรือไม่ เฉพาะเมื่อมีการระบุภัยคุกคามแล้ว ขีปนาวุธสกัดกั้นจะถูกยิงเพื่อทำลายจรวดที่เข้ามาก่อนที่จะถึงพื้นที่ที่คาดการณ์ไว้ว่าจะชน

กว่าหนึ่งทศวรรษนับตั้งแต่ Iron Dome เข้าประจำการ ปัจจุบันอิสราเอลมีชุดยิงของ Iron Dome 10 ชุดที่ประจำการอยู่ทั่วประเทศ โดยแต่ละชุดยิงของ Iron Dome ประกอบด้วย 20 ท่อยิงขีปนาวุธ ซึ่งสามารถสกัดกั้นจรวดได้ราว 1 ต่อ 5 โดยมีความแม่นยำราว 96.5% ระบบ Iron Dome สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวกมากและใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงในการติดตั้ง และขีปนาวุธสกัดกั้น Tamir มีความคล่องตัวสูง มีความยาว 3 เมตร (เกือบ 10 ฟุต) มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 6 นิ้ว (15 ซม.) และมีน้ำหนัก 90 กิโลกรัม (198 ปอนด์) แต่ค่าใช้จ่ายในการใช้งาน Iron Dome อาจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ในขณะที่จรวดของฮามาสแม้ว่าจะดูหยาบและไม่มีระบบนำทาง แต่จำนวนที่แท้จริงและต้นทุนที่ต่ำของจรวดเหล่านี้ก็เป็นข้อได้เปรียบเมื่อเทียบกับ Iron Drome ด้วยจรวดของฮามาสอาจมีราคาเพียงไม่กี่ร้อยดอลลาร์ แต่ราคาขีปนาวุธที่ใช้ในระบบ Iron Drome แต่ละลูกมีราคาประมาณ 40,000 เหรียญสหรัฐฯ ดังนั้น การสกัดกั้นจรวดที่เข้ามานับพันลูก อิสราเอลจึงมีค่าใช้จ่ายมหาศาล ที่ผ่านมารัฐบาลสหรัฐฯ ได้ทุ่มเงินกว่า 1.6 พันล้านดอลลาร์ให้แก่อิสราเอล เพื่อสนับสนุนโครงการ Iron Dome มาแล้ว

เวอร์ชันกองทัพสหรัฐฯ ในปี 2019 กองทัพสหรัฐฯ ได้ประกาศความตั้งใจที่จะซื้อระบบ Iron Dome 2 ชุดยิง เพื่อเติมเต็มความต้องการความสามารถในการป้องกันจรวด ด้วยความสนใจในความสามารถเฉพาะตัวของ Iron Dome ของสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ ‘Raytheon’ จึงได้เปิดตัวระบบ SkyHunter โดยความร่วมมือกับ ‘Rafael’ ด้วยพื้นฐานจาก Iron Dome ทำให้ SkyHunter สามารถผลิตได้ในสหรัฐอเมริกา เพื่อขยายความพร้อมใช้งานและขีดความสามารถสำหรับสหรัฐอเมริกาและพันธมิตร ระบบเหล่านี้ป้องกันระดับพื้นฐาน โดย Raytheon ยังร่วมมือกับ Rafael ในระบบ David's Sling System ซึ่งป้องกันในระดับที่มีความก้าวหน้ากว่า

ชม ARMY-2024 งานแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ EP#3 เยือน KTRV บริษัทออกแบบ-ผลิตระบบขีปนาวุธสุดล้ำของรัสเซีย

หลังจากเยี่ยมชมและรับประทานอาหารกลางวันที่บริษัท United Shipbuilding Corporation (USC) แล้ว ทีมงานของบริษัท ROSOBORONEXPORT ก็พาเดินย่อยอาหารไปยังอาคารของบริษัท Tactical Missiles Corporation (KTRV) ซึ่งเป็นบริษัทที่ออกแบบและผลิตระบบขีปนาวุธของสหพันธรัฐรัสเซีย โดยออกแบบและผลิตขีปนาวุธทุกชนิดไม่ว่าจะเป็น อากาศสู่อากาศ อากาศสู่พื้น พื้นสู่อากาศ พื้นสู่พื้น Smart Bombs และตอร์ปิโด เพื่อใช้สำหรับปฏิบัติการบนอากาศยาน เรือรบผิวน้ำ เรือดำน้ำ และกองกำลังภาคพื้นดิน

KTRV ก่อตั้งขึ้นจากโครงสร้างพื้นฐานเดิมของบริษัท Zvezda-Strela โดยรัฐกฤษฎีกาหมายเลข 84 ซึ่งลงนามโดยประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2002 ด้วย Zvezda-Strela เป็นผู้ออกแบบและผลิตระบบขีปนาวุธทางการทหารรายใหญ่ ประกอบด้วยสำนักงานออกแบบการทดลอง Zvezda (OKB) สำนักงานออกแบบการผลิตแบบต่อเนื่อง (SKB) โรงงานหลัก Strela ในระหว่างกระบวนการปรับโครงสร้างใหม่ บริษัทได้รับโอนหุ้นจากองค์กรที่รวมอยู่ใน Defense Industry Complex การจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเสร็จสิ้นในเดือนมีนาคม 2003

โดยมีการพัฒนาและการผลิตผลิตภัณฑ์พลเรือนและการใช้งานคู่ที่มีเทคโนโลยีสูงสำหรับอุตสาหกรรมต่าง ๆ เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ที่นำไปสู่การก่อตั้งบริษัทคือ การรักษาและพัฒนาศักยภาพด้านการวิจัยและการผลิตขีปนาวุธ การจัดหาและเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันประเทศ การระดมทรัพยากรที่จำเป็นสำหรับขีปนาวุธนำวิถีที่มีประสิทธิภาพสูง และการผลิตระบบอาวุธบนอากาศ บนพื้นดิน และบนทะเล รวมถึงการเสริมสร้างตำแหน่งทางทหารของรัสเซียในตลาดอาวุธโลก รัฐกฤษฎีกาฉบับที่ 591 และฉบับที่ 930 ได้ทำให้บริษัทขยายตัวมากขึ้น และปัจจุบันได้มีการรวบรวมเอาบริษัทต่าง ๆ มากมายหลายบริษัทนี้เข้ามาอยู่ด้วย

Tactical Missiles Corporation (KTRV) เข้าร่วมงาน International Military-Technical Forum 'ARMY-2024' ครั้งที่ 10 ระหว่างวันที่ 12 ถึง 14 สิงหาคม โดยมี Boris Obnosov เป็นหัวหน้าคณะ KTRV จัดแสดงอาวุธทางอากาศที่มีความแม่นยำสูงที่ศูนย์สาธิต KTRV นำเสนอขีปนาวุธอากาศสู่อากาศ (RVV-BD, RVV-SD, RVV-MD และ RVV-MD2) ขีปนาวุธอากาศสู่พื้นอเนกประสงค์ (Kh-MD-E, Grom-E1, Kh-38MLE, Kh-38MTE, Kh-69, X-29TE และ X-59MK รุ่นปรับปรุง) 

นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงขีปนาวุธต่อต้านเรดาร์ Kh-31PD และ X-58UShKE ขีปนาวุธต่อต้านเรือ Kh-31AD Kh-35UE และ X-59MK ขีปนาวุธต่อต้านเรือดำน้ำทางอากาศ APR-3ME รวมถึงระเบิดอากาศอัจฉริยะขนาด 250, 500 และ 1,500 กิโลกรัม และอาวุธร่อน Grom-E2 

ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีระบบขีปนาวุธเพื่อป้องกันโครงสร้างพื้นฐานชายฝั่ง ได้แก่ Bastion ที่มีขีปนาวุธร่อนต่อต้านเรือ Yakhont, Bal-E และ Rubezh-ME ที่มีขีปนาวุธ Kh-35UE ระบบต่อต้านเรือดำน้ำขนาดเล็ก Paket-E/NK พร้อมระบบต่อต้านตอร์ปิโด ตอร์ปิโดไฟฟ้า ET-1E และ TE-2 ตอร์ปิโดขนาดเล็กสากล UMT ตอร์ปิโดเทอร์มอลขนาดกะทัดรัด MTT และตอร์ปิโดนำวิถีความลึกอเนกประสงค์ UGST นอกจากนี้ ผู้เยี่ยมชมศูนย์สาธิตยังได้จัดแสดงระบบอาวุธ Shkval-E ที่มีจรวดใต้น้ำความเร็วสูงอีกด้วย

ทุ่นระเบิดใต้ทะเล MDM-2

ส่วนผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของ KTRV ที่ใช้เพื่อป้องกันอาณาเขตพื้นที่ ซึ่งเป็นน้ำของท่าเรือและฐานทัพเรือ ได้แก่ ทุ่นระเบิดใต้ทะเล MDM-1, MDM-2 และ MDM-3 ทุ่นระเบิดใต้ทะเล MShM อุปกรณ์ตรวจจับเสียงขับเคลื่อนด้วยตัวเอง MG-74ME ยานยนต์ใต้น้ำขับเคลื่อนด้วยตัวเองของระบบบูรณาการ Alexandrite-ISPUM-E ที่ใช้ค้นหาและทำลายทุ่นระเบิด

ระบบควบคุมการยิงบนเรือ Uran-E และระบบอาวุธขีปนาวุธต่อต้านเรือรบแบบ KH-35e/ue

ทั้งนี้ บริษัทในเครือของ KTRV ยังมีส่วนร่วมในการออกแบบและผลิตอุปกรณ์เรดาร์หลากหลายประเภท ได้แก่ ระบบควบคุมการยิงบนเรือของระบบอาวุธขีปนาวุธ «Uran-E» และระบบเรดาร์กำหนดเป้าหมายบนเรือที่ได้รับการอัปเกรด 3C-25E ระบบเรดาร์ MRK-50UE สำหรับเรือดำน้ำเพื่อเฝ้าระวังสภาพแวดล้อมผิวน้ำและอากาศที่มีความน่าจะเป็นต่ำมากในการสกัดกั้นด้วยเรดาร์ และสำหรับการกำหนดเป้าหมายขีปนาวุธและตอร์ปิโด รวมไปถึงยานพาหนะขนส่งนักดำน้ำรายบุคคล 'Coral' สถานีโซนาร์ Mayak-s สำหรับตรวจจับวัตถุใต้น้ำขนาดเล็ก คอมเพล็กซ์ป้องกัน 'Corvet' สำหรับหน่วยป้องกันภัยทางทะเลและชายฝั่งที่สำคัญเป็นพิเศษ

ตอร์ปิโดแบบต่าง ๆ ที่ออกแบบและผลิตโดย KTRV

นอกเหนือจากอาวุธต่าง ๆ แล้ว KTRV ยังนำเสนอผลิตภัณฑ์สำหรับใช้งานสองแบบและสำหรับพลเรือนสำหรับการบิน เรือ การขนส่งทางรถไฟและถนน ยา โรงกลั่น โรงไฟฟ้า อุตสาหกรรมโลหะและเคมี ในศาลา 'B' ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการจัดแสดงผลิตภัณฑ์พลเรือน KTRV แยกกัน ได้แก่ สถานีชาร์จไฟฟ้าความเร็วสูง EZS-150 สำหรับรถบัสไฟฟ้า แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนหลากหลายประเภท แพลตฟอร์มไฟฟ้าอเนกประสงค์ HARD-E สำหรับที่อยู่อาศัยและบริการชุมชน เครื่องจำลองพลร่ม รวมถึงแบบจำลองอุปกรณ์แรงขับกลับสำหรับเครื่องยนต์เครื่องบิน PD-8 และ PD-14 นวัตกรรมใหม่คือ เรือเดินทะเลที่มีลำตัวแบบผสม

ผู้เขียนกับขีปนาวุธโจมตีแบบ X-69 ซึ่งออกแบบมาเพื่อปล่อยจากเครื่องบินแบบ Su-57

Tactical Missiles Corporation (KTRV) จึงเป็นบริษัทที่มีโครงสร้างแบบบูรณาการซึ่งรวมเอาบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศของรัสเซียกว่าห้าสิบแห่งเข้าด้วยกัน พื้นที่กิจกรรมที่มีความสำคัญ ได้แก่ การพัฒนา การผลิต การปรับปรุงอาวุธการบินที่มีความแม่นยำสูงในประเภทต่าง ๆ ระบบอาวุธทางทะเลแบบรวม จรวดและอวกาศ ตลอดจนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ การบำรุงรักษา การซ่อมแซม และการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ทางทหาร การฝึกอบรมบุคลากรตามสัญญาการบริการที่ครอบคลุมให้กับลูกค้า และภายใต้มาตรการ Sanction จากชาติตะวันตก บริษัทฯ ได้ยึดแนวคิด 'การพึ่งพาตนเอง' นำไปสู่การปฏิบัติอย่างสมบูรณ์แบบ จนทำให้บริษัทฯ ยังคงขับเคลื่อนต่อไปได้อย่างไม่หยุดยั้ง

ชม ARMY-2024 งานแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ EP#4 สุดยอดปืนเล็กยาวตระกูล AK จาก Kalashnikov Group

ยังเป็นบ่ายวันแรก (12 สิงหาคม) หลังจากชมนานาสารพัดจรวดนำวิถีที่ออกแบบและผลิตโดยบริษัท Tactical Missiles Corporation (KTRV) แล้วทีมงานของบริษัท ROSOBORONEXPORT ก็พาเดินไปยังอาคารของบริษัท Kalashnikov Group ซึ่งเป็นบริษัทผลิตอาวุธปืนตระกูล AK ที่คนไทยรู้จักกันดี 

‘Mikhail Kalashnikov’ (1919 - 2013) ผู้ออกแบบและสร้างปืนเล็กยาวตระกูล AK

ก่อนปี 2013 บริษัทนี้รู้จักกันในชื่อของ 'Izhevsk Machine-Building Plant' และได้รับการเปลี่ยนชื่อเป็น 'Kalashnikov Concern' เพื่อเป็นเกียรติแก่ ‘Mikhail Kalashnikov’ ผู้ออกแบบและสร้างปืนเล็กยาวตระกูล AK บริษัท 'Kalashnikov' มีประวัติการก่อตั้งมายาวนาน 217 ปี โดยมีสำนักงานใหญ่ในเมือง Izhevsk ในเขต Udmurtia และกรุงมอสโกเมืองหลวง เป็นบริษัทมหาชนจำกัดออกแบบและผลิต อาวุธยุทโธปกรณ์ของสหพันธรัฐรัสเซีย อาทิ อาวุธปืนสำหรับพลเรือนและทหารหลากหลายประเภท เช่น อาวุธปืนเล็กยาวจู่โจม อาวุธปืนสำหรับพลแม่นปืน ปืนกลอัตโนมัติประจำหมู่ ปืนยาวล่าสัตว์ ปืนลูกซอง ปืนใหญ่กระสุนนำวิถี และอาวุธยุทโธปกรณ์ประเภทต่าง ๆ อีกมากมาย เช่น สถานีอาวุธควบคุมระยะไกล ยานยนต์ไร้คนขับ และหุ่นยนต์ทางการทหาร

ปืนเล็กยาวจู่โจมตระกูล Kalashnikov (AK)

บริษัท Kalashnikov Concern ผลิตอาวุธปืนขนาดเล็กประมาณ 95% ของที่ผลิตทั้งหมดในสหพันธรัฐรัสเซีย และส่งออกไปยังกว่า 27 ประเทศทั่วโลก ทำให้เป็นผู้ผลิตอาวุธปืนรายใหญ่ที่สุดในรัสเซีย โดยมีผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ ได้แก่ ปืนเล็กยาวจู่โจมตระกูล Kalashnikov (AK) ปืนกลเบา RPK ปืนไรซุ่มยิงกึ่งอัตโนมัติ Dragunov SVD ปืนเล็กสั้นกึ่งอัตโนมัติ SKS ปืนพก Makarov PM ปืนลูกซอง Saiga-12 และปืนกลมือ Vityaz-SN และ PP-19 Bizon อาวุธปืนเหล่านี้ ยกเว้น SVD, SKS และ PM ล้วนพัฒนาขึ้นจากอาวุธปืนตระกูล AK อันโด่งดัง ซึ่งตัวเลขโดยประมาณของปืนเล็กยาวจู่โจมตระกูลนี้น่าจะมากกว่า 100ล้านกระบอก อันเนื่องมาจากความน่าเชื่อถือในเรื่องของความแข็งแรงและทนทานในทุกสภาวะ ต้นทุนการผลิตต่ำ สามารถหาซื้อได้ในเกือบทุกภูมิภาค (เนื่องจากเป็นอาวุธปืนเล็กยาวจู่โจมที่มีการผลิตเลียนแบบมากที่สุด) และใช้งานง่าย 

อุปกรณ์ป้องกัน (หมวกกันกระสุนและเกราะกันกระสุน) เครื่องแบบและอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ทางการทหารผลิตโดย Kalashnikov

ปัจจุบันบริษัทผลิตอาวุธปืนอยู่ 3 ยี่ห้อ ได้แก่ 'Kalashnikov' (อาวุธปืนสำหรับการสงครามและพลเรือน) 'Baikal' (อาวุธปืนสำหรับพลเรือนและล่าสัตว์) และ 'Izhmash' (ปืนเล็กยาวสำหรับการกีฬา) บริษัทกำลังพัฒนาสายธุรกิจใหม่ ๆ ซึ่งรวมถึง ยานติดอาวุธปืนไร้คนขับ ยานพาหนะทางอากาศและภาคพื้นดิน และเรืออเนกประสงค์เพื่อวัตถุประสงค์พิเศษ ตลอดจนอุปกรณ์ป้องกัน (หมวกกันกระสุนและเกราะกันกระสุน) เครื่องแบบและอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ทางการทหาร เกราะปฏิกิริยาต้านแรง (Explosive Reactive Armor : ERA)

แผ่นเกราะชนิดต่าง ๆ และเกราะปฏิกิริยาต้านแรงระเบิด (Explosive Reactive Armor : ERA)

อาสาสมัครทหารพรานกับอาวุธปืนเล็กยาวจู่โจมแบบ AK-104 ขนาด 7.62x39 ม.ม.

สำหรับประเทศไทย กองทัพบกก็เป็นหนึ่งในลูกค้าของ Kalashnikov โดยมีการจัดซื้อจัดหาอาวุธปืนเล็กยาวจู่โจมแบบ AK-104 ขนาด 7.62x39 ม.ม. สำหรับกองกำลังอาสาสมัครทหารพราน และกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยได้จัดซื้อจัดหาอาวุธปืนเล็กยาวจู่โจมแบบ AK-102 ขนาด 5.56x45 ม.ม. สำหรับกองกำลังอาสาสมัครรักษาดินแดน

อาสาสมัครรักษาดินแดน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย กับอาวุธปืนเล็กยาวจู่โจมแบบ AK-102 ขนาด 5.56x45 ม.ม.

ปัจจุบัน กองทัพของสหพันธรัฐเซียใช้อาวุธปืนเล็กยาวจู่โจมแบบ AK-12 ขนาด 5.45x39 ม.ม. เป็นอาวุธปืนประจำกาย

ชม ARMY-2024 งานแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ EP#5 ระบบอาวุธยุทโธปกรณ์แม่นยำสูง เพื่อการรบทางยุทธวิธี

ยังคงเป็นวันแรกของงานแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ ARMY-2024 (12 สิงหาคม) ทีมงานของบริษัท ROSOBORONEXPORT ก็พาเดินไปยังอาคารแสดงสินค้าของบริษัท High-Precision Weapons holding ซึ่งมี Motto สำหรับปีนี้ว่า '15 ปีแห่งความแม่นยำและความน่าเชื่อถือ' โดยเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับอาวุธยุทโธปกรณ์ที่กลุ่มบริษัท High-Precision Weapons holding ผลิตพอสังเขป เนื่องจากในวันรุ่งขึ้น (13 สิงหาคม) บริษัท High-Precision Weapons holding จะได้พาคณะฯ ไปทดสอบอาวุธยุทโธปกรณ์บางส่วนที่กลุ่มบริษัทฯ ได้ทำการผลิต

ระบบขีปนาวุธต่อต้านรถถัง Kornet

บริษัท High-Precision Weapons holding เป็นบริษัทในเครือของ Rostec State Corporation บริษัทโฮลดิ้งของสหพันธรัฐรัสเซีย ซึ่งอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ โดยเป็นผู้ออกแบบและผลิตระบบอาวุธความแม่นยำสูง ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 15 ปีที่แล้วในปี 2009 โดยมีบริษัทในเครือมากกว่า 15 บริษัท อาทิ สำนักงานออกแบบอาวุธยุทโธปกรณ์ Shipunov, สำนักงานออกแบบ-ผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ Machine-Building, โรงงานผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ Kurgan, สถาบันวิจัยกลางเพื่อ Automation และ Hydraulics, สำนักงานออกแบบอาวุธยุทโธปกรณ์กลาง ฯลฯ ซึ่งมีขีดความสามารถในการออกแบบ ผลิต และซ่อมบำรุง ทำให้กลุ่มบริษัทมีพนักงานประจำกว่า 25,000 คน

ระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานแบบ Pantsyr S-1

ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ มุ่งเน้นไปที่ระบบอาวุธยุทโธปกรณ์ที่มีความแม่นยำสูงและอาวุธยุทโธปกรณ์สำหรับการรบทางยุทธวิธี อาทิ ระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน Pantsyr S-1, ระบบขีปนาวุธต่อต้านรถถัง Kornet, ปืนใหญ่นำวิถี Krasnopol-M2, ระบบขีปนาวุธยุทธวิธีของกองทัพ Iskander-M, ระบบต่อต้านรถถังอัตตาจร Khtizantema-S, ระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานประทับไหล่ Verba, ยานรบทหารราบแบบ BMP-3, BMD-4M และ BMP-2M Berezhok ตลอดจนอาวุธยุทโธปกรณ์อื่น ๆ ที่พัฒนาและผลิตโดยบริษัทต่าง ๆ ในเครือ

ปฏิบัติการพิเศษทางทหารของสหพันธรัฐรัสเซียในยูเครน ทำให้การปฏิบัติตามแผนจัดซื้อจัดจ้างของรัฐสำหรับกระทรวงกลาโหมของสหพันธรัฐรัสเซียยังคงเป็นภารกิจที่มีความสำคัญสูงสุดของบริษัทฯ โดยในปี 2024 นับตั้งแต่วันแรกที่ก่อตั้ง บริษัทฯ ได้ทำงานร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า รวมถึงกระทรวงกลาโหมแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย ตลอดจนหน่วยงานของรัฐบาลกลางอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง แข็งขัน และเข้มข้นขึ้นเป็นอย่างมาก 

บริษัทฯ มีการจัดทำข้อเสนอแนะด้านปฏิบัติการโดยกองทัพ เพื่อปรับปรุงและพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ที่บริษัทฯ ออกแบบและผลิตทุกๆ 3-4 เดือนอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการปฏิบัติตามแผนจัดซื้อจัดจ้างของรัฐและการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ในเงื่อนไขการปฏิบัติการพิเศษทางทหาร 

นอกจากบริษัทต่าง ๆ ภายใต้บริษัท High-Precision Weapons holding จะได้ดำเนินการออกแบบ และพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหารขั้นสูงแล้ว บริษัทต่าง ๆ เหล่านั้นก็กำลังพัฒนาสินค้าที่เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยีสูงอย่างมากมายสำหรับตลาดภาคพลเรือนอีกด้วย อาทิ เครื่องจักรสำหรับถนนและงานก่อสร้าง, อุปกรณ์การเก็บขยะและรถทำความสะอาดถนน, เครื่องจักรสำหรับป่าไม้และการเกษตร วิศวกรรมเครื่องจักรเช่น, การหล่อและการขึ้นรูป และผลิตภัณฑ์สำหรับอุตสาหกรรมการก่อสร้าง รวมถึงธุรกิจด้านการก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งถือเป็นขีดความสามารถอีกอย่างหนึ่งของบริษัทฯ ในขอบข่ายของสินค้าสำหรับตลาดภาคพลเรือน โดยมีโครงการธุรกิจมากกว่า 20,000 รายการในปี 2023-2024 บนพื้นฐานการออกแบบและผลิตด้วยการ ‘พึ่งพาตนเอง’ (Self-reliance) 

ชม ARMY-2024 งานแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ EP#6 ศักยภาพหนักๆ จาก ‘อาวุธเบา’ ที่เกรด NATO ยังชิดซ้าย

วันที่สองของงานแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ ARMY-2024 (13 สิงหาคม) วันนี้ช่วงเช้าเป็นการเยี่ยมชมการแสดง การสาธิต และการทดสอบการยิงอาวุธเบาด้วยกระสุนจริงและกระสุนซ้อมยิง (ในกรณีของเครื่องยิงลูกระเบิด) ของบริษัท High-Precision Weapons holding ณ สนามยิงปืนซึ่งตั้งอยู่ภายในอนุสรณ์สถาน Patriot park เป็นสนามยิงปืนขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่กว่า 160 เฮกตาร์ (1.6 ตารางกิโลเมตร) ด้านหน้าเป็นอาคารนิทรรศการแสดงอาวุธขนาดเบาที่ผลิตโดยบริษัทต่าง ๆ ภายใต้บริษัท High-Precision Weapons holding (ตามที่ได้เล่าไว้ใน EP.5) มีทั้งอาวุธ ปืนพก ปืนเล็กยาวจู่โจม ปืนซุ่มยิง ปืนกลเบา และเครื่องยิงลูกระเบิด ฯลฯ

อาวุธปืน Sniper ชนิดต่าง ๆ  มีทั้งใช้กระสุนรัสเซียขนาด 7.62x54R ม.ม. และกระสุน NATO ขนาด 7.62x51 ม.ม. (.308) 

ปืนกลมือ PP-2000 ขนาด 9x19 ม.ม. 

เครื่องยิงลูกระเบิด GM-94 ขนาด 43×30 ม.ม.

เครื่องยิงลูกระเบิดอัตโนมัติ AGS-30 ขนาด 30×29 ม.ม. อาวุธเบาชนิดต่าง ๆ ที่ผลิตโดยบริษัทต่าง ๆ ภายใต้บริษัท High-Precision Weapons holding

แต่ก่อนผู้เขียนเข้าใจว่าอาวุธขนาดเบาที่ผลิตในสหพันธรัฐรัสเซียออกแบบและผลิตโดยบริษัท Kalashnikov Group ซึ่งเป็นบริษัทผลิตอาวุธปืนตระกูล AK แต่อันที่จริงแล้ว อาวุธเบาชนิดและแบรนด์อื่น ๆ นั้นถูกผลิตโดยบริษัทต่าง ๆ ภายใต้บริษัท High-Precision Weapons holding หลังจากการแนะนำอาวุธปืนแบบต่าง ๆ แล้ว คณะก็ถูกพามายังสนามยิงปืนซึ่งอยู่ติดกัน และถูกจัดแบ่งออกเป็นกลุ่มละ 5 คนเพื่อรับแจกแว่นตาและที่ครอบหูลดเสียงก่อนที่จะทดลองยิงอาวุธปืนชนิดต่าง ๆ 

ทดสอบปืนพก GSH-18 ขนาด 9x19 ม.ม. 5 นัด 
ระบบปฏิบัติการแบบเข็มพุ่งคล้ายปืน GLOCK แต่ไกหนักไปหน่อย
 

ทดสอบเครื่องยิงลูกระเบิด GM-94 ขนาด 43×30 ม.ม. 1 นัด
แต่เป็นกระสุนซ้อมยิงไม่มีระเบิด โดยยิงไปยังเป้าเหล็กสีน้ำเงิน (ยิงโดนครับ)

ทดสอบปืน Sniper OSV-96 ขนาด 12.7x108 ม.ม. 1 นัด

กระสุน 12.7 ม.ม. รัสเซีย (ขวา) และ NATO (ซ้าย) ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเท่ากัน
แต่ใช้แทนกันไม่ได้ เพราะกระสุนรัสเซียยาว 108 ม.ม. แต่ NATO ยาวเพียง 99 ม.ม. 

โดยเป้าคือ รถหุ้มเกราะที่ระยะ 800 เมตร

ยิงโดนครับ ก็...เป้าใหญ่ซะขนาดนั้น

ทดสอบปืนเล็กยาวจู่โจม ADS ขนาด 5.45x39 ม.ม. 5 นัด
ผู้ผลิตบอกว่า ปืนรุ่นนี้สามารถลงน้ำแล้วเอาขึ้นมายิงได้เลย

ทดสอบเครื่องยิงลูกระเบิดอัตโนมัติ AGS-30 ขนาด 30×29 ม.ม. 3 นัด
แต่เป็นกระสุนซ้อมยิงไม่มีระเบิด

ความต่อเนื่องยาวนานของอุตสาหกรรมอาวุธปืนของสหพันธรัฐรัสเซียนับตั้งแต่จักรวรรดิรัสเซียยาวนานกว่า 200 ปี ผ่านการทำสงครามมากมายหลายครั้ง จึงทำให้พัฒนาการด้านการออกแบบและผลิตอาวุธปืนของรัสเซียมีความก้าวหน้ามาโดยตลอด แม้กระทั่งปืนเพื่อการกีฬาก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าประเทศตะวันตกเลย

นอกจากนั้นแล้ว ปืนกีฬาที่ผลิตโดยรัสเซียสามารถชนะเลิศในการแข่งขันระดับโลกทั้งโอลิมปิกและ World Champion มากมายหลายครั้ง อาวุธปืนเล็กยาวจู่โจมของรัสเซีย (รวมทั้งเลียนแบบ) เป็นอาวุธปืนที่มียอดรวมการผลิตสูงที่สุดในโลก ด้วยประสิทธิภาพในเรื่องความแม่นยำ ความแข็งแรง ความทนทาน และระบบปฏิบัติการ 

แต่ก็น่าเสียดายที่อาวุธปืนที่ผู้เขียนได้ไปทดสอบ ยังไม่มีโอกาสเข้ามาใช้งานในบ้านเรา เพราะหน่วยงานด้านความมั่นคงของไทยยังคงเชื่อมั่นในอาวุธปืนของประเทศตะวันตกมากกว่า รวมทั้งการยึดติดกับคำว่า ‘มาตรฐาน NATO’ ทั้ง ๆ ที่ปฏิบัติการพิเศษของกองทัพรัสเซียในยูเครนแสดงให้เห็นถึงเศษซากและความเสียหายของอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ชาติสมาชิก NATO ส่งไปสนับสนุนยูเครนมากมาย 

ดังนั้นสิ่งซึ่งกองทัพควรพิจารณาคือ การบริหารความสมดุลของการจัดซื้อจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์จากค่ายต่าง ๆ โดยคำนึงถึงประโยชน์และความคุ้มค่าสูงสุดของอาวุธยุทโธปกรณ์เหล่านั้นในการใช้งานเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top