Monday, 19 May 2025
ก้าวไกล

ตัดทางนายทุน!! ‘ธนาธร’ รุด ‘ลำพูน’ เดินสายช่วย ‘ก้าวไกล’ หาเสียง ชู!! เปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนด จำกัด 50 ไร่ต่อสิทธิ์

ธนาธร’ เดินสายช่วย ‘ก้าวไกล’ หาเสียงที่ลำพูน เปิดเวทีแนะนำนโยบายและรับฟังปัญหา ส.ป.ก. หวังประชาชนเลือกก้าวไกลเป็นรัฐบาล ชื่นชมเตรียมพร้อมร่างกฎหมายดันผ่านสภาฯ หลังเลือกตั้ง

(8 มี.ค.66) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล ออกเดินสายหาเสียงสนับสนุนผู้สมัครของพรรคก้าวไกลอย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้ได้ร่วมเปิดเวทีรับฟังปัญหาจากประชาชนที่บ้านสบเมย ตำบลทาขุมเงิน อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน ร่วมกับ นายมานพ คีรีภูวดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และผู้สมัคร ส.ส.ลำพูน พรรคก้าวไกล ทั้ง 2 คน คือ นายวิทวิสิทธิ์ ปันสวนปลูก และนายชัชพีร์ วรรณาพิรัชย์

โดย ต.ทาขุนเงิน เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีประเด็นปัญหาการใช้ที่ดิน ส.ป.ก. ซึ่งนายธนาธรระบุว่า เป็นหนึ่งในเรื่องที่มีความสำคัญ ตนเห็นว่า พรรคก้าวไกลได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดตั้งแต่สมัยเป็นพรรคอนาคตใหม่ เช่นเดียวกับประเด็นข้อพิพาทที่ดินอื่น ๆ เพราะปัญหาที่ดินเป็นเรื่องสำคัญที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของคนนับล้าน และนั่นทำให้พรรคอนาคตใหม่มาจนถึงพรรคก้าวไกล มุ่งมีบทบาทในคณะกรรมาธิการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม มาโดยตลอด

จากที่ตนติดตามการทำงานของพรรคก้าวไกล เห็นว่าพรรคได้ไปรับฟังประชาชนผู้ได้รับผลกระทบมาตลอด 4 ปีในหลากหลายพื้นที่ ทำให้พรรคก้าวไกลวันนี้ ได้ข้อสรุปการแก้ไขปัญหาเป็นชุดร่างกฎหมายปฏิรูปที่ดินตามที่มีการเผยแพร่ก่อนหน้านี้ ซึ่งรวมถึงร่างกฎหมายเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนด อันเป็นผลมาจากการตกผลึกร่วมกันว่า ทางแก้ปัญหาไม่ใช่การออก ส.ป.ก. เพิ่ม แต่คือการทำให้ ส.ป.ก. เป็นโฉนด แก่ประชาชนที่ควรต้องได้รับสิทธิ์นั้น ในกรณีที่ตามเอกสารยังเป็นชื่อผู้ใช้ประโยชน์เดิมหรือทายาทที่ได้รับสิทธิ์โดยชอบธรรม และจำกัดไม่ให้เปลี่ยนเกิน 50 ไร่ต่อเจ้าของสิทธิ์ เพื่อไม่ให้นายทุนฉวยโอกาส

คนไทยเท่าเทียมกัน!! ‘ก้าวไกล’ เปิด 10 นโยบายความเท่าเทียมทางเพศ สานต่ออุดมการณ์ 'อนาคตใหม่' สร้างสังคมคนเท่ากัน

‘ก้าวไกล’ เปิดนโยบายเพื่อความเท่าเทียมทางเพศ เนื่องในวันสตรีสากล ชู คำนำหน้านามตามความสมัครใจ - ผ้าอนามัยไม่เก็บ VAT แจกฟรีในโรงเรียน - ตำรวจหญิงทุกสถานี - สมรสเท่าเทียม - ยุติตั้งครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ รับยาฟรี ทุก รพ.สต. - ศูนย์เลี้ยงเด็กใกล้บ้าน ห้องปั๊มนมในที่ทำงาน ด้าน ‘พรรณิการ์’ ชี้ภารกิจสร้างคนเท่ากันของอนาคตใหม่ยังไม่จบ หวัง ‘ก้าวไกล’ สานต่อสำเร็จ

(8 มี.ค. 66) พรรคก้าวไกล ร่วมกับ ศูนย์นโยบายเพื่ออนาคต (Think Forward Center) จัดกิจกรรม “กาก้าวไกล เพศไหนก็คนเท่ากัน” เนื่องในวันสตรีสากล 8 มีนาคมของทุกปี โดยปีนี้ เครือข่าย International Women’s Day ได้กำหนดรูปแบบการจัดงานที่มีชื่อว่า ‘การโอบรับอย่างเท่าเทียม’ (Embrace Equity)

กิจกรรมเริ่มต้น โดยพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวเปิดตัวนโยบายเพื่อความเท่าเทียมทางเพศ ยืนยันพร้อมสานต่อภารกิจของพรรคอนาคตใหม่ ในการสร้างประเทศไทยที่ ‘คนไทยเท่าเทียมกัน ประเทศไทยเท่าทันโลก’ โดย 10 นโยบายเพื่อความเท่าเทียมทางเพศของพรรคก้าวไกล ซึ่งเรียงตามช่วงอายุของคนคนหนึ่งตั้งแต่เกิดจนแก่ ประกอบด้วย

1. ผ้าอนามัยไม่เก็บ VAT แจกฟรีในโรงเรียน

ด้วยการยกเลิกการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ในสินค้าหมวดหมู่ผ้าอนามัยและของใช้สิ้นเปลืองสำหรับวัยเจริญพันธุ์ และแจกผ้าอนามัยฟรีในสถานศึกษาและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) เพื่อบรรเทาปัญหาการขาดแคลนผ้าอนามัยและความจนประจำเดือน (Period Poverty) โดยเฉพาะสำหรับผู้มีประจำเดือนในวัย 10-25 ปี

2. ปฏิรูปการสอนเพศศึกษา ส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศ

ด้วยการออกแบบหลักสูตรใหม่ ให้การสอนเรื่องเพศศึกษา (Sex education) ให้ความสำคัญกับค่านิยมต่างๆ เช่น ความเข้าใจเรื่องความยินยอม (consent) ความหลากหลายทางเพศ และสอนเรื่องทางกายภาพอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้เยาวชนเข้าใจความสำคัญของการป้องกันการตั้งครรภ์โดยไม่ประสงค์ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

3. ตำรวจหญิงทุกสถานี

ด้วยการเพิ่มจำนวนตำรวจหญิง เพื่อให้อย่างน้อยมีเพียงพอต่อการมีพนักงานสอบสวนหญิงประจำทุกสถานีตำรวจ เช่น เพิ่มจำนวนรับให้สูงขึ้น เปิดรับจากบุคคลภายนอกมากขึ้น พิจารณากลับมาเปิดรับนักเรียนนายร้อยหญิง เนื่องจากสถิติของกระทรวงยุติธรรม พบว่าไม่ต่ำกว่า 75% ของผู้หญิงไทยที่เคยถูกคุกคามทางเพศ เลือกที่จะไม่แจ้งความ เหตุผลส่วนหนึ่งคือความไม่สบายใจ เพราะผู้เสียหายสะดวกใจกับพนักงานสอบสวนที่เป็นผู้หญิงมากกว่า นอกจากนี้ ต้องออกแบบกระบวนการอบรมและประเมินตำรวจทุกคนไม่ว่าเพศใด ที่รับผิดชอบคดีคุกคามทางเพศ ให้สามารถดำเนินการด้วยวิธีการและบรรยากาศที่เข้าใจถึงความละเอียดอ่อนของคดีและสนับสนุนให้เหยื่อรู้สึกปลอดภัยในการให้ข้อมูลในกระบวนการยุติธรรมด้วย

4. ปรับปรุงกฎหมายต่อต้านความรุนแรงทางเพศ

ด้วยการแก้ประมวลกฎหมายอาญา และกฎ ก.พ. เพื่อกำหนดนิยามใหม่ของการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศ การกระทำอนาจาร และการกระทำชำเราเสียใหม่ เพื่ออุดช่องว่างของกฎหมายให้ครอบคลุมปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมมากขึ้น
 

ตอกกลับเจ็บแสบ!! ‘นิติพล’ โต้ ‘วราวุธ’ หลังโดนแขวะนโยบายฝุ่นจับต้องไม่ได้ สวน!! อยู่ในตำแหน่งมา 4 ปี ปัญหา PM 2.5 ก็ยังเหมือนเดิม

(9 มี.ค. 66) นายนิติพล ผิวเหมาะ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ออกมาตอบโต้ความเห็นเกี่ยวกับการแก้ปัญหา PM 2.5 ว่า แนวทางของตนเป็นแค่นโยบายฝุ่นจับต้องไม่ได้ เพราะต้องแบ่งการแก้ปัญหาระยะออกเป็นระยะสั้น กลาง ยาว และดำเนินการอยู่นั้น ตนคงต้องบอกว่า แม้แต่นโยบายระยะสั้น ท่านอยู่ในตำแหน่งมา 4 ปีแล้วก็ยังไม่เห็น เห็นมีแต่นโยบายระยะเกรงใจนายทุนมาตลอด หากเทียบกับเด็กเพิ่งเกิดตอนท่านเข้ามารับตำแหน่ง ตอนนี้เขาอายุ 4 ขวบ ท่านควรไปขอโทษเด็กดีกว่า ที่ต้องเกิดมาสูดควันพิษแบบนี้ทุกปี

‘เด็กก้าวไกล’ เผย กมธ. เห็นพ้องร่างแก้ไข พ.ร.ก.ประมงฯ หวังรัฐสภาชุดใหม่สานต่อ มอบความเป็นธรรมให้ชาวประมง

(9 มี.ค. 66) ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ สุมโนธรรม ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรสาคร พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการ สัดส่วนพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 ได้ยื่นร่างที่พิจารณาในชั้นกรรมาธิการแล้วเสร็จ ส่งต่อให้ประธานรัฐสภาดำเนินการต่อไป ว่า เป็นเรื่องน่ายินดีที่การพิจารณาแก้ไขกฎหมายประมงแล้วเสร็จในชั้นกรรมาธิการ เกิดจากความร่วมมือของทุกฝ่าย ทั้งพรรคการเมือง สมาคมด้านการประมง กรรมาธิการ และที่ปรึกษาทุกคน ทำให้เราสามารถใช้เวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด ผลักดันเรื่องนี้จนลุล่วง แม้ว่าหลายๆ เรื่องจะมีข้อคิดเห็นแตกต่างกันในที่ประชุม แต่ก็มีการถกเถียงพูดคุยและสงวนความเห็นกันไป อะไรที่เป็นจุดร่วมก็ร่วมพิจารณากัน

“แม้ว่าด้วยเงื่อนเวลาที่ปิดสมัยประชุมสภาฯ ไปแล้ว จึงไม่สามารถให้รัฐสภาเห็นชอบจนออกเป็นกฎหมายได้ แต่การที่ร่างแก้ไขในชั้นกรรมาธิการสำเร็จได้ ก็อาจจะกลายเป็นร่างฉบับที่ 8 ที่จะให้รัฐบาลและรัฐสภาชุดหน้า หยิบไปพิจารณาต่อได้เลย แม้ยังมีหลายเรื่องที่จำเป็นต้องเปิดพื้นที่ให้เวลาได้พิจารณาแลกเปลี่ยนกันในรายละเอียดตามที่มีกรรมาธิการสงวนความเห็น” ณัฐพงษ์กล่าว

‘พิธา’ เดินทางร่วมงานศพ ‘ทนายเคน’ ที่ จ.แพร่ จี้ ตร.เร่งตามหาตัวคนก่อเหตุ คืนความเป็นธรรม

(9 มี.ค. 66) ที่จังหวัดแพร่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินทางไปร่วมงานบำเพ็ญกุศลศพของ นายติรานนท์ เวียงธรรม หรือ ‘ทนายเคน’ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.แพร่ พรรคก้าวไกล ซึ่งประสบอุบัติเหตุรถชน หลังกลับจากการลงพื้นที่หาเสียง เมื่อวันที่ 26 ก.พ. ก่อนเสียชีวิตในวันที่ 2 มี.ค. ที่ผ่านมา

โดยนายพิธา และทีมงานพรรคก้าวไกล ได้เดินทางไปที่ สภ.สูงเม่น เพื่อติดตามความคืบหน้าของการดำเนินคดี พร้อมเปิดเผยว่า จนถึงตอนนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถนำตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบสวน และไม่สามารถตามตัวพยานได้ จึงได้เรียกร้องให้ตำรวจเร่งดำเนินการ เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่นายติรานนท์ และครอบครัว ในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่ต้องได้รับความเป็นธรรม จากกระบวนการยุติธรรม

จะเริ่มได้ยัง!! ‘โรม’ บี้ถาม ‘ผบ.ตร.ปราบยา’ เมื่อไรแจ้งข้อหา ‘ส.ว.อุปกิต’ ลั่น!! ไม่อยากเห็นคนผิดลอยนวล ฝาก ‘ผบ.ตร.’ ดูความคืบหน้า

‘โรม’ ถามดัง ๆ ผบ.ตำรวจปราบยา หายหน้าไปไหน เมื่อไรจะนำตัว ‘ส.ว.ทรงเอ’ มาแจ้งข้อหา ฝาก ผบ.ตร. ติดตามการทำงานผู้ใต้บังคับบัญชาด้วย

(10 มี.ค. 66) รังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงความคืบหน้าการติดตามตัว อุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา มาดำเนินคดีกรณีมีข้อครหาเกี่ยวข้องพัวพันกับการฟอกเงินขบวนการค้ายาเสพติดของ ‘ทุนมินลัต’ ว่า หลังจากตนยื่นหนังสือต่อ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 เพื่อแจ้งเบาะแสสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผ่านมาแล้ว 10 วัน ยังไม่เห็นความคืบหน้าอะไรทั้งนั้น ง่ายที่สุดคือการเอาตัว ส.ว.อุปกิต มาแจ้งข้อหาเพื่อที่จะฟ้องคดีต่อไป ซึ่งตั้งแต่ 1 มีนาคมเป็นต้นมา หมดสมัยประชุมรัฐสภาแล้ว ส.ว. ไม่มีความคุ้มกันใด ๆ ที่จะไม่ถูกหมายเรียกหรือหมายจับได้อีก

รังสิมันต์ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องย้อนไปตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2565 ในตอนนั้นตำรวจสืบนครบาล (บก.สส. บช.น.) ที่จับทุนมินลัตและขยายผลมาถึง ส.ว.อุปกิต ได้เคยขอหมายจับต่อศาลแล้ว ซึ่งศาลอนุมัติหมายจับให้ แต่กลับมาถอนการอนุมัติในบ่ายวันเดียวกัน แล้วให้ตำรวจไปออกหมายเรียกก่อน อ้างว่าเพราะเป็นบุคคลสำคัญ ทั้งนี้ การออกหมายเรียกนั้น ตำรวจทำเองได้ แต่ในกรณีนี้ หน่วยงานที่มีอำนาจออกหมายเรียกนั้นไม่ใช่ตำรวจสืบนครบาล แต่เป็นอำนาจของกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ซึ่งในช่วงเดือนตุลาคม 2565 เป็นช่วงที่ปิดสมัยประชุมสภาอยู่ ถ้า บช.ปส. มีการออกหมายเรียก ส.ว.อุปกิต มารับทราบข้อกล่าวหาให้ทันก่อนสภาเปิด ก็อาจยังเดินหน้าคดีต่อไปได้ หรือถ้าออกหมายเรียกแล้วไม่มาใน 15 วัน ก็ยังไปขอหมายจับกับศาลอีกรอบได้ แต่การขอหมายเรียกจาก บช.ปส. ก็ไม่เคยเกิดขึ้น ทั้งในช่วงนั้นและดูเหมือนในช่วงนี้ด้วย ในขณะที่คดีทุนมินลัตอยู่ในชั้นศาล แต่ ส.ว.อุปกิต กลับยังไม่ถูกแจ้งข้อหาเสียที ทำให้เดินหน้าคดีต่อไม่ได้ 
 

‘พิธา’ กล่อม ‘นครศรีฯ’ เอาทหารออกจากการเมือง-ทลายทุนผูกขาด ปลดปล่อยศักยภาพเมือง เติบโตโดยไม่ต้องพึ่งส่วนกลาง

‘พิธา’ เยือนอำเภอทุ่งใหญ่ นครศรีฯ ยก ‘พุฒิพงศ์ ลุ่ยจิ๋ว’ เป็นม้ามืดชิงชัย ประกาศเป้าหมายต้องมี ส.ส.เขตภาคใต้ให้ได้ ย้ำ ‘ก้าวไกล’ ไม่สุดโต่ง หวังสร้างการเมืองดี-การเมืองประชาธิปไตยปกติเท่านั้น

(10 มี.ค. 66) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และนางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช หลังเสร็จสิ้นภารกิจในอำเภอเมือง ได้เดินทางต่อไปที่อำเภอทุ่งใหญ่ เพื่อปราศรัยหาเสียงสนับสนุน นายพุฒิพงศ์ ลุ่ยจิ๋ว ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช (อำเภอทุ่งใหญ่) พรรคก้าวไกล บริเวณหน้าตลาดนัดขวัญนารา และเปิดเวทีรับฟังความเห็นประชาชน บริเวณศูนย์ประสานงานพรรค โดยมีพี่น้องประชาชนทุ่งใหญ่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น

นายพิธากล่าวว่า พรรคก้าวไกลต้องการเข้าไปเป็นรัฐบาล เพื่อใช้อำนาจรัฐทำให้การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต สำหรับการเมืองดี ที่ผ่านมาประเทศไทยมีความขัดแย้งและความสูญเสีย หลายคนอาจคิดว่าเป็นไม่ได้ที่จะสร้างความปรองดองสมานฉันท์ แต่ตนขอยกตัวอย่างประเทศรวันดาที่เคยมีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์คนนับล้านเมื่อหลายสิบปีก่อน ทำไมสังคมของเขาจึงกลับมาปรองดองสมานฉันท์กันได้ไม่ได้ เป็นเพราะการขอให้สังคมลืมและปล่อยคนผิดไม่ต้องรับผิดชอบกับการกระทำ แต่การเมืองจะดีได้ จุดเริ่มต้นสำคัญคือต้องไม่มีวัฒนธรรมลอยนวลพ้นผิด และต้องตามหาความจริงที่ทุกฝ่ายยอมรับเพื่อคืนความยุติธรรมก่อน หากไม่ทำเช่นนี้ การปรองดองไม่สามารถเกิดขึ้น ประเทศไทยเดินหน้าต่อไม่ได้

อย่างเหงาเลยครับจารย์!! ‘ชยพล’ แฉ ‘Hawker Center’ ของ ชัชชาติ’ หลังเพิ่งเปิดไม่นาน ไร้เงาคน เหลือแต่วงดูดบุหรี่

ว่าที่ผู้สมัครส.ส.หลักสี่ ก้าวไกล เปิดศึกเพื่อไทย แฉ Hawker Center ของ ‘ชัชชาติ’ เหลือแต่วงดูดบุหรี่ ไร้เงาคนขายของ ทั้งที่กทม.เพิ่งเปิดตังไปไม่กี่วัน

จากกรณีกรุงเทพมหานคร ได้เปิด Hawk Center ที่ซอยวิภาวดีรังสิต 62 เขตหลักสี่ ตามนโยบายของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. เพื่อจัดระเบียบหาบเร่แผงลอย ซึ่งนำโมเดล Hawker Center มาจากสิงคโปร์ แต่ถูกประชาชนวิจารณ์อย่างหนักว่า นายชัชชาติก็อบปี้มาไม่หมด เพราะ Hawker Center ของกรุงเทพมหานคร แตกต่างจากต้นฉบับอย่างสิ้นเชิง

ล่าสุดนายชยพล สะท้อนดี ว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขตหลังสี่ พรรคก้าวไกล ได้ทวิตภาพการลงพื้นที่บริเวณ Hawker Center หลักสี่ เมื่อวันที่ 10 มีนาคม ซึ่งกรุงเทพมหานครเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่าบรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบเหงา ไม่มีพ่อค้าแม่ค้ามาของ ทำให้นายชยพลทวิตข้อความว่า “เห็นมีคนโพสต์ว่าหลักสี่เราทำศูนย์อาหารแบบสตรีทฟู้ด จัดระเบียบการขายของริมทาง เพิ่งเปิดงานทำข่าวกันไปวันก่อน เลยลองแวะมาดูเหงาอีกแล้วครับจารย์ เจอแต่วงดูดบุหรี่ 5555555

ย้ำจุดยืน!! ‘พิธา’ ชู ‘รัฐสวัสดิการ’ จุดแข็ง ‘ก้าวไกล’ ลั่น!! พร้อมลดความเหลื่อมล้ำ-พาไทยก้าวไปข้างหน้า

(13 มี.ค.66) เวทีแรกของแคมเปญ ‘มติชน: เลือกตั้ง 2566 บทใหม่ประเทศไทย’ ซึ่งจัดที่โรงแรม พูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ (รางน้ำ) ภายใต้หัวข้อ ‘ย้ำจุดยืน ชูจุดขาย ประกาศจุดแข็ง’ ที่มีตัวแทนจาก 8 พรรคการเมืองร่วมขึ้นเวทีประชันนโยบาย

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงจุดแข็งของพรรคก้าวไกลว่า ตนรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้มีโอกาสพูดในช่วงที่ 1 และช่วงที่ 2 เนื่องจากเป็นเหยื่อของฝุ่นพีเอ็ม 2.5 จนเป็นหลอดลมอักเสบ และเสียงไม่เต็มร้อย แต่ใจเต็มร้อยแน่นอน อย่างไรก็ตามแค่ช่วงนี้ช่วงเดียวตนสามารถตอบทุกคำถามตั้งแต่ช่วงที่ 1 และช่วงที่  2 ทั้งการปฏิรูปกองทัพ ฝุ่นพีเอ็ม 2.5 และการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ด้วยสไลด์เพียงหนึ่งสไลด์ ตนสามารถตอบจุดแข็งของพรรคก้าวไกลด้วยคำเดียว คือ รัฐสวัสดิการ ที่จะทำให้การเมืองดี ปากท้องดี และมีอนาคต มาจากจุดแข็งย่อยที่เราคิดมาตลอดว่า การเมืองกับเรื่องปากท้องเป็นเหรียญเดียวกันที่แยกกันไม่ออก เรื่องเกี่ยวกับกัญชา เรื่องเกี่ยวกับแรงงาน เรื่องเกี่ยวกับฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ถ้าอำนาจทางโครงสร้างยังไม่ใช่ คนที่เข้ามาในการเมืองมาจากการลากตั้ง ไม่ใช่การเลือกตั้ง การใช้ภาษีของประชาชนเพื่อแก้ปัญหาปากท้องอย่างยั่งยืนจึงเป็นไปไม่ได้ ตนไม่เชื่อว่าประเทศไทยจะทำเหมือนเมื่อ 40 ปีที่แล้วได้ แต่เราต้องมองไปถึงอนาคต ว่าประเทศจะต้องเจริญเติบโต และลดความเหลื่อมล้ำไปพร้อมกันได้ เราไม่ได้มองแค่ว่าจุดแข็ง ให้กลายเป็นโอกาส แต่เรามองจุดอ่อนให้เป็นโอกาสด้วย ทั้งหมดนี้ สามารถย่อยออกมาได้เป็นรัฐสวัสดิการ 

เงียบสยบข่าว!! ‘โรม’ บุก บช.ปส. ทวงความคืบหน้าคดี ‘ส.ว.ทรงเอ’ หลัง ‘ตำรวจ-ศาล’ เกียร์ว่าง - ไม่มีคำตอบให้สังคม

(13 มี.ค.66) ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) รังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล แถลงข่าวเพื่อติดตามความคืบหน้าการติดตามตัว อุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา มาดำเนินคดีกรณีมีข้อครหาเกี่ยวข้องพัวพันกับการฟอกเงินขบวนการค้ายาเสพติดของ ‘ทุนมินลัต’

รังสิมันต์ กล่าวว่า ในเรื่องนี้ ตนได้ทำทุกอย่างแล้ว ทั้งอภิปรายในสภาฯ แสดงหลักฐานเพิ่มเติมที่อุปกิตอาจยื่นบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ร้องไปยังคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) อัยการสูงสุด ถึงกรณีการถอนหมายจับ ส.ว.ทรงเอ แต่กลับไม่มีความเคลื่อนไหว และเหตุผลที่มาแถลงข่าวที่นี่ในวันนี้ เนื่องจาก บช.ปส. ได้รับมอบหมายจากอัยการสูงสุดให้ดูแลการดำเนินคดีนี้ โดยจากประสบการณ์ทางการเมืองที่ตนมี ความเงียบที่เกิดขึ้นมักจะเกิดจากความจงใจหรืออาจจะเป็นการล้มคดี

"ผมยื่นหนังสือไปยัง ผบ.ตร. เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ล่าสุด ผบ.ตร. มีหนังสือตอบกลับมาบอกว่า ได้ส่งหนังสือที่ผมยื่นและหลักฐานต่าง ๆ ให้ บช.ปส. แล้ว ซึ่งผู้การ ปส.3 ต้องเป็นผู้รับผิดชอบคดี และหากดูในเอกสารชี้แจงของ พ.ต.ท.มานะพงษ์ วงศ์พิวัฒน์ จะพบว่ามีความเกี่ยวข้องตั้งแต่ชั้นตำรวจและศาล ที่อาจนำไปสู่การล้มคดีได้" รังสิมันต์กล่าว

รังสิมันต์ กล่าวว่า ยืนยันว่ามีความพยายามวิ่งเต้นเพื่อล้มคดีจริง แม้แต่ในส่วนของศาล ตัวอธิบดีศาลก็พูดในลักษณะหวาดกลัวผู้ใหญ่ต่อการทำคดีนี้ ตนจึงขอตั้งคำถามว่า มีคนที่เหนือกว่าอธิบดีศาลอาญาอีกหรือ เมื่อพิจารณาจากเอกสารของ พ.ต.ท.มานะพงษ์ จะเห็นความพยายามวิ่งเต้นเพื่อช่วยเหลือให้ ส.ว.ทรงเอ หลุดพ้นจากคดีนี้ พร้อมแจกคำใบ้ อดีตบิ๊กตำรวจ ส. เสือ ที่ไม่อยู่ในราชการแล้ว และมีตำแหน่งสูงมากมีความเกี่ยวข้อง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top