Saturday, 18 May 2024
การบินไทย

'การบินไทย' รับสมัครนักบิน 'ไม่ระบุเพศผู้สมัคร' ครั้งแรก หลังจากที่ผ่านมา ระบุรับสมัครแต่ 'เพศชาย' เท่านั้น

(1 ก.พ.67) จากเพจ 'Wingtips' ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า...

บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ประกาศรับสมัครนักบิน (รูปแบบ QP-Qualified Pilot) ผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสายการบิน โดยเป็นการรับสมัครครั้งแรกในรอบ 7 ปี และที่สำคัญคือไม่มีการระบุเพศผู้สมัคร เปรียบเทียบกับที่ผ่านมาที่จะระบุว่ารับสมัครเพศชายเท่านั้น

สำหรับคุณสมบัติของผู้สมัครเบื้องต้นมีดังนี้...

- สัญชาติไทย 
- การศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรี ไม่จำกัดสาขา (กรณีจบการศึกษาจากต่างประเทศ ต้องมีเอกสารเทียบวุฒิการศึกษามาแสดงให้เรียบร้อย)
- หากผู้สมัครเป็นเพศชายต้องพ้นพันธะทางทหาร (มี ส.ด. 8 หรือ ส.ด. 43)
- อายุไม่เกิน 54 ปีบริบูรณ์ นับถึงวันที่ 1 มกราคม 2568 คือ ไม่เกิดก่อนวันที่ 1 มกราคม 2514 เป็นต้นไป
- มีผลคะแนนภาษาอังกฤษดังนี้ ICAO English Language Proficiency ตั้งแต่ Level 4 ขึ้นไป และผลการสอบ THAI TEP มากกว่า 63 คะแนน หรือผลการสอบ TOEIC มากกว่า 650 คะแนน (ผลการสอบต้องมีอายุไม่เกิน 2 ปีนับถึงวันที่สมัคร โดยเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง)
- มีใบอนุญาตนักบินพาณิชย์เอก หรือ CPL/MPL พร้อมผลสอบ ATPL Knowledge ผ่านครบทุกวิชา และใบอนุญาตต้องออกโดยสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย และยังมีผลใช้บังคับ (ในกรณีผลสอบ ATPL ไม่ครบทุกวิชา ในช่วงเวลาเปิดรับสมัคร ต้องนำผลสอบผ่านครบทุกวิชา มาแสดงภายในวันทำสัญญาจ้าง)
- มีใบสำคัญแพทย์ ชั้น 1 (Medical Certificate Class 1) ที่ออกโดยสถาบันเวชศาสตร์การบินกองทัพอากาศ ที่มีผลใช้บังคับ
- ไม่มีประวัติอาชญากรที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ผู้ที่สนใจสมัครสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมและสมัครได้ที่ https://career.thaiairways.com/

'เอกภักดิ์ นิราพาธพงศ์พร' ลาออกกรรมการ PLAN B รับผิดชอบกรณี 'โพสต์ดูถูกนักบิน-พาดพิงการบินไทย'

(2 ก.พ.67) รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา ดร.พินิจสรณ์ ลือชัยขจรพันธ์ กรรมการผู้มีอำนาจลงนาม บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) ทำหนังสือถึงกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แจ้งให้ทราบว่า นายเอกภักดิ์ นิราพาธพงศ์พร ได้แจ้งความประสงค์ขอลาออกจากตำแหน่งกรรมการบริษัท กรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน กรรมการบริหารความเสี่ยง และกรรมการกำกับดูแลกิจการและความยั่งยืนของบริษัท โดยให้มีผลนับตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม 2567 เป็นต้นไป ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทจะดำเนินการสรรหาและแต่งตั้งผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมดำรงตำแหน่งกรรมการที่ว่างลงดังกล่าว และจะแจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและนักลงทุนทราบต่อไป

ด้านเฟซบุ๊กส่วนตัว Ekapak Nirapathpongporn โพสต์ข้อความระบุว่า "สืบเนื่องจากเหตุการณ์ วันที่ 29 มกราคม 2567 ที่กระผมได้กระทำการอันไม่สมควร ซึ่งก่อให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และสร้างความเสื่อมเสียต่อ บริษัท การบินไทย จำกัด อย่างยอมรับไม่ได้ จากเหตุการณ์แสดงความไม่พอใจในการให้บริการของการบินไทย รวมถึงการตำหนิการปฏิบัติหน้าที่ของนักบินในเที่ยวบิน ด้วยข้อความและถ้อยคำไม่สุภาพ ดูถูกนักบิน และใช้คำพูดหยาบคายอย่างไม่เหมาะสมที่สุด จนทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนต่อการปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงมาตรฐานความปลอดภัยของการบินไทย และนักบินผู้ปฏิบัติหน้าที่ในเที่ยวบินดังกล่าว

ผมได้พิจารณาอย่างถี่ถ้วนและตระหนักได้ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ไม่สมควรและไม่ถูกต้องอย่างยิ่ง ดังนั้น เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อการกระทำของผม ผมจึงมีความประสงค์ขอลาออกจากทุกตำแหน่งที่กระผมปฏิบัติหน้าที่อยู่ในปัจจุบัน ที่ บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) และขอกราบขออภัย บริษัท การบินไทย, นักบิน และทุกคนที่เกี่ยวข้อง และขอกราบขออภัยผู้ถือหุ้น กรรมการบริษัท ผู้บริหาร พนักงาน ของบริษัท แพลน บี และพี่ๆ เพื่อนๆ และทุกคนที่ผมรักและเคารพที่ผมทำให้ผิดหวัง ตลอดจนผู้ได้รับผลกระทบจากการกระทำอันเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของกระผมมา ณ ที่นี้ โดยให้มีผลนับตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม 2567 เป็นต้นไป

ผมเข้าใจว่ามันอาจไม่มีความหมายมากมายอะไรกับทุกคนที่ได้รับผลกระทบ แต่ผมก็จริงจังและจริงใจที่จะขอโทษในสิ่งที่ผมทำลงไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบ ผมเสียใจและขออภัยและขอน้อมรับความผิดทั้งหมดที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ไว้แต่เพียงผู้เดียวครับ

ขออภัยอีกครั้งเป็นอย่างสูง และขอแสดงความนับถือครับ"

รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า สำหรับนายเอกภักดิ์ นิราพาธพงศ์พร ปัจจุบันอายุ 42 ปี จบการศึกษา Bachelor of Engineering, Electrical /Communication, University of Melbourne ประเทศออสเตรเลีย Bachelor of Commerce, Finance, University of Melbourne ประเทศออสเตรเลีย และหลักสูตร Director Accreditation Program (DAP) 134/2560 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD)

ประสบการณ์ทำงานในระยะ 5 ปีบริษัทจดทะเบียน ได้แก่ กรรมการของ บมจ.แพลน บี มีเดีย ตั้งแต่ปี 2556 ถึงปัจจุบัน กรรมการของ บมจ.มาสเตอร์ แอด ตั้งแต่ปี 2563 ถึงปัจจุบัน ส่วนบริษัทจำกัดและองค์กรอื่น เป็นกรรมการของ บจ.เอพีซี อินเตอร์เนชั่นแนล ตั้งแต่ปี 2554 ถึงปัจจุบัน กรรมการและผู้บริหารสูงสุดทางการเงินของ บจ.แฟรคชั่น (ประเทศไทย) ตั้งแต่ปี 2563 ถึงปัจจุบัน และกรรมการของ Masan Consumer Holdings ตั้งแต่ปี 2565 ถึงปัจจุบัน

‘การบินไทย’ วุ่น!! เจอผู้โดยสารแพนิก พยายามเปิดประตู ทำ ‘สนบ.เชียงใหม่’ หลายเที่ยวดีเลย์ - หนีไปลงลาว

เมื่อวานนี้ (7 ก.พ. 67) ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ โพสต์ภาพเมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. ระบุว่า เกิดเหตุผู้โดยสารคนหนึ่งเกิดอาการตื่นตระหนก (Panic) บนเที่ยวบินที่กำลังจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานเชียงใหม่ มายังท่าอากาศยานดอนเมือง และลุกขึ้นพยายามเปิดประตู ทำให้เครื่องบินไม่สามารถออกเดินทางได้

ทีมข่าวไทยพีบีเอสตรวจสอบพบว่า ในช่วงเวลาดังกล่าว มีเที่ยวบินจำนวนมากอยู่ระหว่างเตรียมลงที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ หลายลำต้องบินวน เพื่อรอลงจอด ขณะที่บางลำเช่น สายการบินโคเรียนแอร์ ที่มาจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ต้องเปลี่ยนมาลงที่สุวรรณภูมิแทน หรือบางลำเปลี่ยนไปลงที่เวียงจันทน์ ประเทศลาว

ขณะที่เที่ยวบินขาออกจากสนามบินเชียงใหม่ บางเที่ยวบินสามารถออกเดินทางได้ โดยใช้ทางขับเคลื่อนเส้นอื่น และใช้ทางวิ่งที่สั้นลงในการบินขึ้น

ล่าสุด การบินไทยได้ออกมาชี้แจงเหตุที่เกิดขึ้นแล้ว โดยระบุว่าเที่ยวบินทีจี 121 เส้นทางเชียงใหม่-กรุงเทพฯ วันที่ 7 ก.พ.ทำการบินด้วยเครื่องบินแอร์บัส A 320 ขณะเครื่องบินอยู่ระหว่างไลน์ อัพ (line up) เพื่อรอทำการวิ่งขึ้นบนรันเวย์ มีผู้โดยสารเปิดประตูเครื่องบิน

หลังจากเจ้าหน้าที่ช่างได้ทำการตรวจสอบและแก้ไขตามมาตรฐานความปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว จึงสามารถออกเดินทางได้ในเวลา 23.34 น. ของวันที่ 8 ก.พ. โดยผู้โดยสาร นักบินและลูกเรือ ทุกคนปลอดภัย

เหตุการณ์เปิดประตูเครื่องบินของผู้โดยสารบนเครื่อง เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา โดยเฉพาะในเดือน ม.ค. เมื่อวันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา มีกรณีที่ผู้โดยสารเดินขึ้นเครื่องบินแต่กลับไม่ไปที่นั่ง แล้วไปเปิดประตูเครื่องบินฝั่งที่อยู่ตรงข้าม ตกลงไปบริเวณลานจอดจนได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่สนามบินโตรอนโต เพียร์สัน ประเทศแคนาดา

จากนั้นวันที่ 21 ม.ค.ยังมีกรณีผู้โดยสารสูงอายุที่พยายามเปิดประตูเครื่องบิน เที่ยวบินจากลอนดอน ไปโตรอนโต ขณะที่กำลังบินอยู่เหนือมหาสมุทรแอตแลนติก

นอกจากนี้ ในวันที่ 25 ม.ค.เกิดเหตุผู้โดยสารเปิดประตูเครื่องบินขณะกำลังจะบินขึ้น แล้วไปเดินอยู่บนปีก ที่ประเทศเม็กซิโก

ก่อนหน้านี้ ช่วงกลางเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ได้รายงานว่า พฤติกรรมของผู้โดยสารเครื่องบินที่ไม่เชื่อฟังกฎระเบียบ เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญช่วงหลังสถานการณ์โควิด-19

ข้อมูลจากสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) ที่รวบรวมตั้งแต่ปี 2022 ระบุว่าเหตุการณ์ก่อกวนของผู้โดยสารส่วนใหญ่ เกี่ยวข้องกับการที่ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด การใช้วาจา-คำพูดไม่สุภาพ และการมึนเมา ซึ่งแม้ว่าเหตุการณ์เหล่านี้อาจดูแรงไม่มาก แต่จัดว่าเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยในการบิน

เปิดปาก!! มือเปิดประตูฉุกเฉินเครื่องการบินไทยกลางรันเวย์ อ้าง!! หวาดกลัวองค์กรใต้ดินตามทำร้าย จึงพยายามหลบหนี

หนุ่มจีนสัญชาติแคนาดาที่ก่อเหตุเปิดประตูเครื่องการบินไทยกลางรันเวย์สนามบินเชียงใหม่ยอมเปิดปาก อ้างลงมือก่อเหตุเนื่องจากความหวาดกลัว ถูกองค์กรใต้ดินติดตามปองร้ายตั้งแต่ไปเที่ยวเวียดนาม จึงต้องพยายามหลบหนี ขณะที่ตำรวจคุมไปตรวจหาสารเสพติดในร่างกายแต่ไม่พบ เบื้องต้นแจ้งดำเนินคดี 2 ข้อหาหนัก

ความคืบหน้ากรณีเมื่อวันที่ 7 ก.พ. 67 ที่ผู้โดยสารในเที่ยวบิน TG121 เส้นทาง เชียงใหม่-สุวรรณภูมิ ของสายการบินไทย ก่อเหตุเอะอะโวยวายและเปิดประตูเครื่องบินระหว่างที่เครื่องบินเตรียมที่จะทำการวิ่งขึ้น ทำให้เบาะสไลด์กาง จนส่งผลให้อากาศยานไม่สามารถทำการบินได้ และจอดค้างอยู่กลางทางวิ่ง (Runway) ทั้งนี้ส่งผลให้เที่ยวบินอื่นๆ ไม่สามารถทำการขึ้น-ลง ณ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้ชั่วขณะ โดยมีเที่ยวบินที่ได้รับผลกระทบ 13 เที่ยวบิน และผู้โดยสารทั้งสิ้น 2,296 คน 

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบทราบว่าผู้โดยสารที่ก่อเหตุชื่อ นาย Wong Sai Heung อายุ 40 ปี เชื้อชาติจีน สัญชาติแคนาดา ซึ่งหลังจากที่ก่อเหตุแล้วทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการควบคุมตัวนำส่งสถานีตำรวจภูธรภูพิงคราชนิเวศน์ โดยจากการค้นในตัวพบยารักษาโรคจำนวนหนึ่ง ขณะที่ช่วงสายวานนี้ (8 ก.พ. 67) พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวทำการสอบสวนผ่านล่าม เบื้องต้นทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นวิศวกรคอมพิวเตอร์ อ้างว่าก่อเหตุเนื่องจากหวาดกลัวว่าจะถูกทำร้าย เนื่องจากถูกองค์กรมืดติดตามล่าตัวและจะทำลายเครื่องบินที่ตนเองนั่ง จึงพยายามจะเปิดประตูเครื่องบินเพื่อหลบหนี

รายงานข่าวแจ้งว่า ล่าสุดช่วงบ่ายวานนี้ (8 ก.พ. 67) ที่สถานีตำรวจภูธรภูพิงคราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวนาย Wong Sai Heung ออกจากห้องขัง นำไปตรวจสอบหาสารเสพติด อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่าไม่พบสารเสพติดในร่างกายแต่อย่างใด 

ทั้งนี้ระหว่างที่ถูกควบคุมตัวไปนั้น นาย Wong Sai Heung เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวถึงกรณีที่ก่อเหตุ โดยยืนยันว่ากระทำไปเนื่องจากเกิดความหวาดกลัวว่าถูกติดตามจะทำร้าย จากการที่ก่อนหน้านี้ได้เดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศเวียดนามแล้วเกิดเหตุการณ์ที่รู้สึกว่าถูกคุกคามและปองร้ายจากกลุ่มองค์กรใต้ดิน ซึ่งติดตามจะมาทำร้ายตัวเอง และจะทำลายเครื่องบินลำที่ตัวเองโดยสาร จึงเกิดความหวาดกลัวและพยายามจะหลบหนีด้วยการวิ่งไปเปิดประตูเครื่องบินดังกล่าว

ขณะที่ พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ น้อยสอน รองผู้กำกับการสืบสวน สถานีตำรวจภูธรภูพิงคราชนิเวศน์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนทำการแจ้งข้อหา 2 ข้อหาหนักต่อผู้ต้องหารายนี้ ได้แก่ ข้อหากระทำด้วยประการใดๆ ให้อากาศยานอยู่ในลักษณะอันน่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคล ตาม ป.อาญา มาตรา 232(1) และข้อหาเป็นผู้อยู่ในอากาศยานระหว่างการบินฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้ควบคุมอากาศยานหรือเจ้าหน้าที่ประจำอากาศยาน ซึ่งสั่งในนามผู้ควบคุมอากาศยาน (เปิดประตูฉุกเฉินเครื่องบินโดยไม่มีเหตุอันควร) ที่สั่งเพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่อากาศยานหรือแก่บุคคลหรือทรัพย์สินในอากาศยาน ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ. 2558 มาตรา 7 วรรค 2 อย่างไรก็ตาม อาจจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีกเกี่ยวกับความผิดตามพระราชบัญญัติอากาศยาน ซึ่งรอผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินการ นอกจากนี้ในส่วนของความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเครื่องบิน และเที่ยวบินทั้ง 13 เที่ยวบินที่ได้รับผลกระทบนั้น ทางสายการบินแต่ละแห่งอาจจะมาดำเนินการแจ้งความเพิ่มเติมอีก

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับผู้ต้องหารายนี้นั้น เบื้องต้นข้อมูลระบุว่าเป็นคนเชื้อชาติจีน สัญชาติแคนาดา ประกอบอาชีพเป็นวิศวกรคอมพิวเตอร์ โดยเดินทางเข้าประเทศไทยเมื่อวันที่ 3 ก.พ. 67 ก่อนที่จะเดินทางมาเที่ยวเชียงใหม่ และในช่วงที่ก่อเหตุกำลังจะเดินทางด้วยเที่ยวบินดังกล่าวจากเชียงใหม่ไปกรุงเทพฯ เพื่อต่อเครื่องบินกลับประเทศ

'สุริยะ' ห่วงภาระคุ้มทุน หลัง 'การบินไทย' เล็งซื้อเครื่องบินฝูงใหญ่ แจง!! รัฐไม่อาจก้าวล่วง ต้องปล่อยผู้บริหารแผนฟื้นฟูดำเนินการ

(13 ก.พ. 67) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีสื่อต่างชาตินำเสนอว่าบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) มีแผนจัดซื้อเครื่องบินฝูงใหม่จำนวน 45 ลำ ว่าถ้ายังจำได้การบินไทยอยู่ในแผนการฟื้นฟูกิจการ เพราะฉะนั้นผู้บริหารแผนฟื้นฟูเป็นผู้ดำเนินการ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกระทรวงคมนาคม เพราะมีอำนาจในเรื่องนี้ เราเองก็พยายามจะถามว่า การจัดซื้อเมื่อลงทุนไปแล้วคุ้มค่าหรือไม่ แต่อำนาจของเราไม่มีไม่สามารถไปล้วงลูกในส่วนนี้ได้ เป็นเรื่องที่เขาต้องทำตามแผนฟื้นฟู 

"จริงๆ กระทรวงคมนาคมเป็นห่วงมาก เรื่องซื้อเครื่องบินมันมีภาระคุ้มทุนหรือไม่อย่างไร" นายสุริยะ กล่าว

เมื่อถามว่า ภาระดังกล่าวเกี่ยวเนื่องกับงบประมาณของรัฐบาลหรือไม่ หากซื้อมาแล้วเกิดขาดทุน? นายสุริยะ กล่าวว่า "เรื่องนี้การบินไทยในช่วงที่เป็นรัฐวิสาหกิจ ซึ่งหลังจากนั้นการบินไทยผลประกอบการไม่ดี เป็นช่วงที่รัฐบาลที่แล้วไปขอเงินเพื่อจะมาซื้อเครื่องบิน แต่ทางรัฐบาลสมัยนั้นไม่อนุญาตที่จะเพิ่มทุน ทางการบินไทยก็เลยล้มละลาย และเข้าสู่กระบวนการตามศาล ล้มละลาย ผู้บริหารจึงได้จัดทำแผนฟื้นฟูยื่นต่อศาลล้มละลาย เพราะฉะนั้นกระบวนการตอนนี้ก็อยู่ที่ศาลฯ โดยรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ถึงแม้เราจะมีความเห็นใดไปก็ตาม ถามว่าเราสบายใจหรือไม่ เราก็เป็นห่วง แต่เราไม่มีอำนาจตรงนั้น"

เมื่อถามว่า ข้อห่วงใยตรงนี้สะท้อนนอกจากที่รัฐบาลได้สะท้อนไปแล้ว ยังสามารถดำเนินการอย่างอื่นได้หรือไม่ หรือต้องให้เป็นไปตามแผนฟื้นฟูกิจการ? นายสุริยะ กล่าวว่า "ใช่ครับ อำนาจเราไม่มี"

'ผู้โดยสาร' โวย!! เจอที่นั่งชั้นธุรกิจการบินไทยปรับเอน-นอนไม่ได้ 'ผจก.เที่ยวบิน' รับ!! เสียมาเดือนกว่า แต่ไม่เข้าใจทำไมยังปล่อยขาย

(28 เม.ย. 67) นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส อดีตนักการเมือง รองเลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการบริหารบริษัท นิว เอ็นเนอร์จี พลัส โซลูชั่นส์ จำกัด หรือ NEPS ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กเกี่ยวกับ การเดินทางด้วย เครื่องบินของสายการบินไทย ชั้นธุรกิจ โดยได้ระบุว่า ...

วันนี้ผมมีกำหนดการพาลูกค้าไปดูงานที่ปักกิ่ง โดยตั้งใจอุดหนุนการบินไทย เลือกเดินทางชั้นธุรกิจ จำนวน 6 ท่าน มูลค่าตั๋วหลายแสนบาท
และแจ๊คพ็อตก็เกิดขึ้นกับผม ระหว่างเดินขึ้นเครื่อง ทางฝ่ายภาคพื้นเข้ามาแจ้งว่า 2 ที่นั่งของผมและลูกค้าผมเสีย ไม่สามารถปรับเอน หรือปรับนอนได้แม้แต่น้อย และเอาเงินใส่ซองมาให้ 5,500 บาท พร้อมให้เซ็นยินยอม เสมือนปิดปาก (ปกติราคาค่าตั๋วเครื่องบินชั้นธุรกิจไปปักกิ่งเที่ยวละ 33,000 บาท)

เมื่อขึ้นเครื่องฯ หัวหน้าผู้จัดการบนเที่ยวบินได้เดินมาขอโทษและแจ้งว่า 

“สองที่นั่งนี้เสียมาเดือนกว่าแล้ว และพวกเราก็แจ้งแล้วว่าอย่าปล่อยตั๋ว และไม่เข้าใจว่าทำไม การบินไทยยังขายตั๋ว 2 ที่นั่งนี้ เพราะสุดท้ายพวกผมก็ต้องเป็นคนรับหน้า โดนลูกค้าต่อว่า”

และเชื่อมั้ยครับว่า นี่คือครั้งที่สองของผม ที่โดนแบบนี้ในระยะเวลาไม่ถึง 6 เดือน
ฉะนั้นเมื่อขนาดข้อความจากหัวหน้าลูกเรือยังไปไม่ถึงผู้บริหารการบินไทย และสินค้ายังเสียซ้ำแล้วซ้ำเล่า ครั้งนี้ผมจึงเลือกไม่เขียนเอกสาร Complain แบบที่เคยทำอีกต่อไป เพราะพวกคุณคงจะเพียงรับมันแล้วซุกไว้ใต้โต๊ะอีก จึงตัดสินใจเขียนโพสต์นี้เปิดผนึกถึงผู้บริหารการบินไทย

โปรดอย่าเอาคำว่ารักคุณเท่าฟ้า ให้เป็นเพียงวาทกรรม โกหกปลิ้นปล้อน หลอกลวง > ผมในฐานะผู้โดยสารเลือกเดินทางกับการบินไทย เพราะคาดหวังในสินค้า และบริการของการบินไทย และอยากอุดหนุนสายการบินของชาติ

แม้ค่าตั๋วคุณแพงกว่าคนอื่น ผมก็ยังซื้อและอุดหนุน แต่ผู้บริหารคุณกลับไม่มีจิตใจที่เอาความสะดวกสบายของลูกค้าเป็นตัวตั้งเลย

เพราะหากคุณคิดถึงหัวใจของลูกค้า คุณจะไม่มีทางขายตั๋วสินค้า defect เหล่านี้ และมันตอกย้ำถึงการไร้ Service Mind ของผู้บริหารอย่างมาก เพราะคิดแต่จะขายๆๆๆ เอารายได้เข้าบริษัทอย่างเดียว แม้สินค้าจะเจ๊ง ลูกน้องจะเตือน ก็ช่างมัน

ฉะนั้นวันนี้ผมจะเป็นผู้โดยสารที่จะขอไม่รับเงินค่าชดเชย และไม่เซ็นเอกสารยินยอมใดๆทั้งสิ้น

> เพื่อไม่ให้ผู้โดยสารท่านอื่นต้องมาเจออะไรแบบนี้
> เพื่อไม่ให้นทท.ที่มาเที่ยวไทย ต้องเจอสินค้าที่พัง
> เพื่อให้คุณรู้จักรับฟังเสียงของลูกเรือมากกว่านี้
> เพื่อให้คุณหยุดหลอกลวง โฆษณาเกินจริง โดยต้องพัฒนาและตรวจเช็คสินค้าให้ดีกว่านี้

1.) ผมจะดำเนินการฟ้องร้องทางกฎหมายกับผู้บริหารการบินไทย เพื่อเรียกร้องให้ผู้บริหารชุดนี้แสดงความรับผิดชอบโดยการลาออก เพราะเคยเขียน report complain แล้ว > แต่ไม่แก้ไข พนักงานบนเครื่องตกเป็นแพะ > ผู้บริหารองค์กรไม่เคยต้องรับผิดชอบใดๆ
2.) ผมจะดำเนินการร้องเรียนคณะกรรมาธิการคมนาคม ให้ตรวจสอบสินค้าที่เป็น defect ของเครื่องการบินไทย รวมถึงแนวทางป้องกันแก้ไข / จากที่ผมได้พูดคุยสอบถามพนักงานต้อนรับบนเครื่อง ทราบว่ามีเหตุการณ์เช่นนี้ประจำหลายเที่ยวบิน ไม่ว่าจะเก้าอี้เสีย, IFE เสีย หรืออุปกรณ์อื่นๆเสีย จนลูกเรือเอือมระอา ต้องโดนผู้โดยสารต่อว่า เสียความรู้สึกทั้งพนักงานและผดส. และส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของการบินไทยอย่างมาก
> ช่วยการบินไทยประหยัดเงินค่าชดเชย  
> เอาผู้บริหารที่ห่วยแตกลาออกยกชุด  
> เงินสายการบินชาติอยู่ครบ พร้อมได้คนใหม่ที่ดีกว่ามาบริหารแทน  

ด้วยความปรารถนาดี
ตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top