Wednesday, 9 July 2025
ค้นหา พบ 49314 ที่เกี่ยวข้อง

‘ยูเครน’ คว่ำบาตรบริษัทจีน 5 แห่ง กล่าวหาส่งชิ้นส่วนโดรนให้ ‘รัสเซีย’ มาถล่ม

(9 ก.ค. 68) ประธานาธิบดียูเครน โวโลดีมีร์ เซเลนสกี ลงนามในคำสั่งคว่ำบาตร 5 บริษัทจากจีน หลังพบว่าบริษัทเหล่านี้ส่งชิ้นส่วนที่ใช้ในโดรนรุ่น Shahed ซึ่งรัสเซียใช้โจมตียูเครน โดยคำสั่งนี้มีขึ้นหลังจากหน่วยความมั่นคงยูเครนตรวจพบชิ้นส่วนจากจีนในซากโดรนที่ถูกยิงตกในกรุงเคียฟเมื่อ 4 กรกฎาคม

บริษัทที่ถูกคว่ำบาตร ได้แก่ Central Asia Silk Road International Trade, Suzhou Ecod Precision Manufacturing, Shenzhen Royo Technology, Shenzhen Jinduobang Technology และ Ningbo BLIN Machinery โดยรายชื่อทั้งหมดถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ของประธานาธิบดี

โดรนรุ่นชาเฮด (Shahed) เป็นอาวุธที่รัสเซียใช้โจมตียูเครน โดยสร้างขึ้นจากแบบของอิหร่าน และประกอบด้วยชิ้นส่วนจากหลายประเทศ ซึ่งยูเครนเตือนว่า ยังมีบางประเทศที่ไม่ได้ร่วมคว่ำบาตรรัสเซีย และปล่อยให้ชิ้นส่วนเหล่านี้ส่งไปถึงรัสเซีย

ขณะที่ เจ้าหน้าที่ยูเครนระบุว่า รัสเซียยังผลิตอาวุธต่อไปได้ เพราะได้รับชิ้นส่วนและวัสดุจากจีน ซึ่งถือเป็นพันธมิตรสำคัญของรัสเซียในช่วงสงคราม โดยก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีเซเลนสกีเคยกล่าวหาว่า “จีนไม่ยอมขายโดรนให้ยูเครน แต่กลับส่งให้รัสเซียแทน”

ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับจีนยังคงแน่นแฟ้น ล่าสุดมีรายงานว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เตรียมเดินทางเยือนจีนในเดือนกันยายนนี้ เพื่อพบปะหารือกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง

‘หม่อมไกรสร’ ไพรีผู้พินาศ ประมาทเพราะอำนาจ พลาดจนตัวตาย | THE STATES TIMES Story EP.175

หากจะพูดถึงเจ้านายที่ชีวิตขึ้นสุด ลงสุด หรือก็คือมีอำนาจวาสนาถึงสูงสุด มียศศักดิ์ได้ทรงกรมถึง ‘กรมหลวง’ และลงต่ำสุดถูกถอดยศเหลือแค่ ‘หม่อม’ ก่อนถูกประหารชีวิตด้วยท่อนจันทน์ในยุคกรุงรัตนโกสินทร์คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ‘พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าไกรสร กรมหลวงรักษ์รณเรศ’ ทรงเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และเจ้าจอมมารดาน้อยแก้ว

เรื่องราวและความผิดของ ‘หม่อมไกรสร’ จะเป็นอย่างไร วันนี้ THE STATES TIMES Story ได้รวบรวมมาเล่าให้ฟังแล้ว ถ้าพร้อมแล้ว ไปฟังกัน…

กองทุนอนุรักษ์ฯ เปิดเกณฑ์เข้มจัดสรรงบ 2.7 พันล้าน เน้นชัดเจน-โปร่งใส ยกระดับมุ่งผลสัมฤทธิ์และความยั่งยืน

(9 ก.ค. 68) กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานเปิดหลักเกณฑ์เงื่อนไขสำคัญที่หน่วยงานหรือองค์กรที่ขอรับจัดสรรงบประมาณปี 2568 จากกองทุนจะต้องรับทราบและดำเนินการให้ครบถ้วนตามเกณฑ์ เดินหน้าจัดสรรงบโครงการอนุรักษ์พลังงานภายใต้หลักเกณฑ์ชัดเจนและโปร่งใส ยกระดับเน้นผลสัมฤทธิ์และความยั่งยืน

นายรัฐฉัตร ศิริพานิช ผู้จัดการสำนักงานบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน (ส.กทอ.) เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่กองทุนฯ ประกาศเปิดรับข้อเสนอเพื่อสนับสนุนโครงการด้านการอนุรักษ์พลังงาน หรือการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมจากการอนุรักษ์พลังงาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ไปแล้ว งบประมาณรวม 2,750 ล้านบาท โดยมีระยะเวลาเปิดรับข้อเสนอ 2 เดือนตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายน – 18 สิงหาคม 2568 ซึ่งปีนี้กฎเกณฑ์จะแตกต่างไปจากที่ผ่านมาหลายประการ ประกอบกับกองทุนไม่ได้ให้การสนับสนุนจัดสรรงบตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 เพราะคณะกรรมการกองทุนมีข้อกังวลเรื่องการปฏิบัติตามกฎหมายและกฎเกณฑ์เกี่ยวข้อง จึงปรับปรุงเงื่อนไขให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานมากขึ้น และเพื่อให้หน่วยงานหรือองค์กรที่จะขอรับการสนับสนุนได้เข้าใจหลักเกณฑ์เงื่อนไขในการขอรับการจัดสรรให้ดียิ่งขึ้น ส.กทอ. ได้สรุปสาระสำคัญของหลักเกณฑ์เงื่อนไขที่ผู้ขอรับจัดสรรเงินทุนต้องรับทราบและมีให้ครบถ้วน ดังนี้

ผู้ขอรับการสนับสนุนจะต้องมีคุณสมบัติตามเกณฑ์  โดยเป็นผู้ได้รับจัดสรรเงินหมุนเวียนเงินช่วยเหลือ เงินอุดหนุน ที่เป็นส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ สถาบันการศึกษา หรือองค์กรเอกชนที่ไม่แสวงหาผลกำไรโครงการจะต้องสอดคล้องกับ 2 มาตราคือ มาตรา 25 (1) ตาม พ.ร.บ. ส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ.2535 และที่แก้เพิ่มเติม โดยหน่วยงานขอรับการสนับสนุนต้องเป็นส่วนราชการลงทุนและดำเนินการด้านการลดใช้พลังงานด้วยกลไกดำเนินการของบริษัทจัดการพลังงาน (Energy Service Company : ESCO) เพื่อรับประกันผลประหยัดพลังงาน  และการสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีเพื่ออนุรักษ์พลังงานในพื้นที่พิเศษ และสอดคล้องมาตรา (3) ตาม พ.ร.บ.ฯ เช่น โครงการด้านการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม งานด้านวิจัย พัฒนา สาธิต ฝึกอบรม สื่อสารเผยแพร่ 

ประเภทโครงการที่ไม่พิจารณา ได้แก่ เปลี่ยนเครื่องปรับอากาศ เปลี่ยนหลอดไฟ LED และการติดตั้งโคมไฟถนนพลังงานแสงอาทิตย์ในพื้นที่ที่ไฟฟ้าเข้าถึง 

กรณีไม่พิจารณาคำขอ ได้แก่ ข้อเสนอไม่สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ที่กำหนด เอกสารไม่ครบถ้วน ไม่ถูกต้อง ยื่นคำขอไม่ทันภายในกำหนด เป็นหน่วยงานที่เคยสร้างความเสียหายในการดำเนินโครงการปีงบประมาณ       พ.ศ.2564 – 2565 ไม่ปฏิบัติตามหนังสือยืนยันการขอรับเงินสนับสนุน ไม่ปฏิบัติตามระเบียบคณะกรรมการกองทุน เพิกเฉยหรือละทิ้งโครงการ ขอยุติ/ยกเลิก/คืนโครงการโดยไม่มีเหตุอันควร และไม่ยื่นข้อเสนอผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ www.enconfund.go.th 

ประเภทโครงการที่ขอสงวนสิทธิ์อื่นๆ ได้แก่ ไม่สนับสนุนโครงการที่ซ้ำซ้อนกับที่เคยดำเนินการ/ดำเนินการอยู่ เว้นแต่เป็นการพัฒนาต่อยอด สนับสนุนไม่เกินกรอบวงเงินตามประกาศ ไม่สนับสนุนโครงการที่ได้รับงบประมาณจากแหล่งอื่นแล้ว ระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์บ่อบาดาลจะสนับสนุนเฉพาะที่ผ่านกรมทรัพยากรน้ำบาดาลเท่านั้น

“ในการพิจารณาจัดสรรงบประมาณจะนำข้อสังเกตและคำแนะนำของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มาปรับใช้เป็นแนวทางในการกำกับดูแลโครงการให้มีความรัดกุม รอบคอบ โปร่งใส และเกิดประสิทธิภาพสูงสุดตามวัตถุประสงค์ของกองทุนฯ เพื่อให้โครงการบรรลุผลสัมฤทธิ์ และความยั่งยืนในระยะยาวต่อไป” ผู้จัดการ ส.กทอ. กล่าว

หน่วยงานที่สนใจสามารถยื่นเอกสารข้อเสนอโครงการผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น ที่เว็บไซต์ www.enconfund.go.th หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทรศัพท์ 02 – 158 – 1460  ต่อ 1206 , 1211 ในวันและเวลาราชการ

‘เอกนัฏ’ ส่งทีมสุดซอย บุกจับโรงงานเถื่อนในที่ดินป่าไม้ ลอบนำเข้าเศษยางจากกัมพูชาแปรรูปส่งออกต่างประเทศ

(9 ก.ค.68) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้นางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และหัวหน้าชุดตรวจการณ์สุดซอย หรือ ทีมสุดซอย กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) เจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง นำหมายค้นจากศาลจังหวัดระยอง เข้าตรวจสอบโรงงานร้างแห่งหนึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่เขตป่า ตรวจสอบภายในโรงงานพบเป็นที่ตั้งของ บริษัท ฟูด้า รับเบอร์ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 71 หมู่ที่ 2 ต.ขำฆ้อ อ.เขาชะเมา จ.ระยอง หลังได้รับรายงานว่ามีการลักลอบตั้งประกอบกิจการโรงงานรีไซเคิล บดย่อยยางรถยนต์ และมีการนำเข้า เศษยางรถยนต์จากกัมพูชามาลักลอบแปรรูปส่งออก

นางสาวฐิติภัสร์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่าโรงงานดังกล่าวมีการประกอบกิจการรีไซเคิลยางรถยนต์เก่า พบกองวัตถุดิบประเภทยางรถที่ใช้แล้ว เศษยางรถบดย่อย เศษลวดจากยางรถเป็นจำนวนมาก เพื่อมารีดทำยางแผ่นส่งออกต่างประเทศ และยังพบเครื่องจักรที่ใช้ในการประกอบกิจการ ซึ่งเข้าข่ายเป็นการตั้งและประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าหน้าที่จึงทำการยึดอายัดของกลาง และจับกุม นายฉี เร่อเทียน สัญชาติจีน และนายรังสฤษดิ์ หวานฤดี ชาวไทย ในข้อหาร่วมกันประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต และจับแรงงานชาวพม่าลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายจำนวน 2 ราย ส่งดำเนินคดีที่สถานีตำรวจภูธรเขาชะเมา 

จากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่าที่ดินแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตป่าที่ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) สำหรับให้อยู่ทำกินเพื่อการเกษตร ซึ่งผู้ถือครองสิทธิ์คือ นางเบญจพร หอมขจรทรงวศิน ต่อมา นายฉี เร่อเทียน มีการทำสัญญาเช่าที่ดินแปลงดังกล่าวกับ นายกิตติ ทรงวศิน เพื่อประกอบธุรกิจ ทำให้ผิดวัตถุประสงค์ในการใช้ที่ดินในเขตป่าตามอนุญาต คทช. เพราะไม่ได้ใช้ประโยชน์เพื่อทำกินและการเกษตร แต่กลับปล่อยให้ชาวต่างชาติมาเช่าช่วงต่อ และลักลอบตั้งโรงงานเถื่อนทำธุรกิจรีไซเคิล บดย่อยเศษยาง และพบว่ากิจการแห่งนี้มีความเชื่อมโยงขบวนการนำเข้าเศษยางรถยนต์มาจากกัมพูชา มาบดย่อยแปรรูปเป็นยางแผ่น เพื่อส่งออกไปจีนอีกด้วย

นอกจากที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมและตำรวจ บก.ปทส. ดำเนินคดีกับชาวจีนและหุ้นส่วนชาวไทย ข้อหาประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาตแล้ว ชุดสุดซอยจะทำรายงานเพื่อเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อมอบหมายให้อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมประสานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง และกรมป่าไม้ พิจารณาทบทวนการให้สิทธิ์เช่าที่ดินทำกินในที่ดินป่าไม้ ว่ามีการกระทำที่ผิดวัตถุประสงค์ในการให้คนไทยเช่าใช้ที่ดินทำกินและการเกษตรหรือไม่ เพื่อบูรณาการความร่วมมือตรวจสอบ บังคับใช้กฎหมาย และป้องกันไม่ให้เกิดการกระทำความผิดของผู้ลักลอบใช้พื้นที่ป่าไม้ฝ่าฝืนทำผิดกฎหมายอื่น ๆ ต่อไป

สหรัฐฯ ยืมชื่อยูเครนเสริมแกร่งโรงงานอาวุธในประเทศ ใช้งบ 1.6 พันล้าน!! ปลุกอุตสาหกรรมอาวุธอเมริกัน

(9 ก.ค. 68) เอกสารงบประมาณล่าสุดของกองทัพบกสหรัฐฯ ระบุว่า รัฐบาลได้ใช้งบช่วยเหลือยูเครนกว่า 1.6 พันล้านดอลลาร์ (ราว 58,400 ล้านบาท) เพื่อขยายฐานการผลิตกระสุนในประเทศ โดยเน้นการผลิตกระสุนปืนใหญ่ขนาด 155 มม. ซึ่งยูเครนใช้เป็นหลักในแนวรบ แต่กลับประสบภาวะขาดแคลนอย่างหนัก

ในจำนวนนี้กว่า 623 ล้านดอลลาร์ถูกนำไปสร้างโรงงานผลิตวัตถุระเบิด TNT แห่งใหม่ เพื่อผลิตปีละ 5 ล้านปอนด์ ลดการพึ่งพาผู้ผลิตต่างชาติที่มีความเสี่ยง ขณะที่อีก 600 ล้านดอลลาร์ใช้ขยายการผลิตวัตถุระเบิด IMX 104 ซึ่งมีเสถียรภาพมากกว่า และเป็นส่วนประกอบหลักของกระสุนรุ่นใหม่

มีการเปิดเผยว่าโรงงานในสหรัฐอเมริกา นำโดย Scranton Army Ammunition ได้รับงบอีก 80 ล้านดอลลาร์เพื่อเพิ่มกำลังผลิตชิ้นส่วนโลหะของกระสุนปืนใหญ่ รวมถึง 21 ล้านดอลลาร์ที่มอบให้บริษัท General Dynamics สำหรับติดตั้งเครื่องกดโลหะ เพื่อเร่งการผลิตกระสุนให้ทันกับความต้องการ

นอกจากนี้ ยังมีงบกว่า 90 ล้านดอลลาร์มอบให้โรงงาน Radford Army Ammunition เพื่อปรับปรุงโรงงานผลิตดินระเบิด และอีก 100 ล้านดอลลาร์ให้โรงงาน Lake City เพื่อผลิตกระสุนขนาดเล็ก 6.8 มม. รุ่นใหม่สำหรับกองทัพ รวมถึงงบเพิ่มเติมสำหรับระบบจัดการขยะอันตรายและผงดินดำ

แม้งบนี้จะระบุว่าเป็น “เงินช่วยเหลือยูเครน” แต่ส่วนใหญ่ถูกนำไปใช้สร้างโรงงานและเพิ่มกำลังผลิตอาวุธในสหรัฐฯ ทำให้ผลประโยชน์หลักตกอยู่กับอุตสาหกรรมภายในประเทศ มากกว่าการช่วยยูเครนโดยตรง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top