Friday, 16 May 2025
ค้นหา พบ 48131 ที่เกี่ยวข้อง

นครพนม​ -​ตชด.237 ท่าอุเทน รวบยกแก๊ง ยึดยาบ้า 200,000 เม็ด เตรียมส่งเข้าประเทศ

ตามนโยบายการป้องกัน สกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ชายแดน Seal Stop Safe  ของรัฐบาล และนโยบายเน้นหนักด้านปราบปรามยาเสพติดของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.,พล.ต.ท.นิตินัย หลังยาหน่าย ผบช.ตชด., พลโทบุญสิน  พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2,  พล.ต.ท.ฉัตรชัย สุรเชษฐพงษ์ ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.กิตติศักดิ์ ปลาทอง ผบก.ตชด.ภาค 2 ,พล.ต.ต.ศักดิ์ชาย สาดมะเริง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ได้เปิดยุทธการพิทักษ์ริมน้ำโขง ซึ่งมีกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 21 – 24 เป็นหน่วยปฏิบัติ เพื่อปราบปราม สกัดกั้นยาเสพติดที่จะเข้ามาทางชายแดนริมฝั่งแม่น้ำโขง  

เมื่อวันที่ (14 พ.ค. 68) เวลาประมาณ 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 237 ได้สืบสวนหาข่าวจนทราบว่า ในห้วงเวลาตั้งแต่ 18.00 น.เป็นต้นไป จะมีกลุ่มขบวนการลักลอบขนลำเลียงยาเสพติดจะลักลอบนำยาเสพติดจำนวนมากมาส่งมอบกันที่บริเวณจุดกลับรถใต้สะพานลำห้วยด่านชุม บ้านพนอมเหนือ หมู่ 5 ต.พนอม อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เมื่อทราบข้อมูลดังกล่าวจึงได้นำเรียนผู้บังคับบัญชาทราบ และประชุมวางแผนและจัดวางกำลังเพื่อจับกุม

ต่อมาเวลาประมาณ 20.00 น. มีบุคคลต้องสงสัยจำนวน 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์มาจอดที่บริเวณใต้สะพานลำห้วยด่านชุม และได้นำวัตถุขนาดใหญ่บางอย่างลงมาวางไว้ที่บริเวณตอหม้อสะพานฯ เจ้าหน้าที่ที่เฝ้าซุ่มสังเกตการณ์ จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวบุคคลต้องสงสัยทั้ง 2 คนไว้ได้ ทราบชื่อต่อมาคือ นายจิรสิน (สงวนชื่อ-สกุล) และ นายวิศณุรักษ์ (สงวนชื่อ-สกุล) ตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบกระสอบปุ๋ยสีฟ้า จำนวน 1 กระสอบ วางอยู่ที่ตอหม้อสะพานฯ เมื่อเปิดตรวจสอบพบว่าเป็นยาบ้าจำนวนหนึ่ง ผู้ต้องหาสารภาพว่า ตนเองได้รับว่าจ้างมาจากคนลาวชื่อก้องให้ไปรับเอายาบ้าจากพื้นที่บ้านนากะเสริม ต.พนอม อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม และให้นำมาวางไว้ที่บริเวณใต้สะพานลำห้วยด่านชุม จากนั้นจะมีคนมารับเอายาเสพติดดังกล่าวไป เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวนายจิรสินฯและนายวิศณุรักษ์ฯ มานั่งรอที่บริเวณศาลาพักคอยผู้โดยสาร  ในระหว่างที่กำลังพูดคุยสอบถามอยู่นั้น เวลาประมาณ 20.10 น. นายราตรี (สงวนชื่อ-สกุล) ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ HONDA รุ่น WAVE บีบแตรเสียงดังมาจอดที่ศาลาพักคอยผู้โดยสาร ด้วยอาการมึนเมาสุรา เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวเอาไว้ 

ซึ่งนายราตรีฯ ให้การยอมรับว่าตนเองได้รับจ้างวานให้มาดูต้นทาง เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวบุคคลทั้ง 3 เอาไว้ ต่อมาเวลาประมาณ 20.30 น. ได้มีโทรศัพท์ โทรมาหานายจิรสินฯ และสอบถามจุดที่วางยาบ้าของกลาง เจ้าหน้าหน้าที่จึงกระจายกำลัง เพื่อรอจับกุมผู้ที่จะมารับเอายาบ้าของกลางดังกล่าว ต่อมาเวลาประมาณ 21.00 น.ได้มีรถยนต์ (รถเก๋ง) ยี่ห้อ NISSAN รุ่น AMIRA สีบรอนซ์ กษ 8832 นครสวรรค์ ขับมาจอดที่บริเวณจุดวางกระสอบยาบ้าของกลาง จากนั้น นายอิทธิวัฒน์ (ทราบชื่อภายหลัง) ได้เปิดประตูลงมาจากรถและยกเอากระสอบยาบ้าของกลาง ขึ้นไปไว้ในรถบริเวณประตูด้านหลังคนขับ เจ้าหน้าที่ที่ซุ่มดูอยู่จึงได้เข้าแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อจับกุม แต่นายอิทธิวัฒน์ฯ รีบวิ่งขึ้นรถและขับขี่ออกไปจากจุดเกิดเหตุอย่างรวดเร็ว 

เจ้าหน้าที่จึงขับรถไล่ติดตามไปอย่างกระชั้นชิด ระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร จนกระทั่งรถของนายอิทธิวัฒน์ เสียหลักพุ่งลงข้างทาง เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปควบคุมตัว สอบถามนายอิทธิวัฒน์ฯ ให้การยอมรับสารภาพว่าตนเองได้รับว่าจ้างจากนายเป้ ราษฎร์ สปป.ลาว ให้มารับเอายาบ้าของกลางดังกล่าว และจะนำไปกระจายต่อ ในพื้นที่ จ.กาฬสินธ์, มหาสารคาม และ ขอนแก่น เจ้าหน้าที่จึงทำการควบคุมตัวไว้ทั้ง 4 คนและตรวจยึดของกลางทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาว่า“ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย” นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พ.ต.อ.วุทธยา สิงห์กิ้ง ผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 23 กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้เปิดปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ชายแดน Seal Stop Safe และนโยบายเน้นหนักด้านปราบปรามยาเสพติดของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.นิตินัย หลังยาหน่าย ผบช.ตชด. พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ทางกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 2 จึงได้เปิดปฏิบัติการพิทักษ์ริมน้ำโขง ป้องกันปราบปรามยาเสพติดจากแนวชายแดนริมฝั่งแม่น้ำโขง ซึ่งดำเดินการใน 3 ด้าน คือ ด้านการข่าว การลาดตระเวนเฝ้าตรวจชายแดน และการตั้งจุดตรวจจุดสกัดในจุดเสี่ยงต่างๆ ในครั้งนี้ต้องชื่นชมทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ที่มีการสืบสวนหาข่าว ติดตามผู้ค้ายาเสพติดและมีผลการจับกุมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการจับกุมครั้งนี้ได้ร่วมบูรณาการจาก ตชด.,กกล.สุรศักดิ์มนตรี , นบ.ยส.24 ,ฝ่ายปกครอง ,ภ.จว.นครพนม เพื่อสกัดกั้น และป้องกันไม่ให้มีการนำเข้ายาเสพติด สู่พื้นที่ตอนในประเทศต่อไป

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติสั่งการโรงพยาบาลตำรวจ ตรวจร่างกาย 'ด.ต.นิสาธิตฯ' อย่างละเอียด หลังพบมีอาการผิดปกติ ตามองไม่ชัด ยืนยันดูแลตำรวจทุกนายเต็มที่

เมื่อวานนี้ (15 พ.ค.68) พล.ต.ต.หญิง ศิริกุล ศรีสง่า พยาบาล (สบ 6) โรงพยาบาลตำรวจ/โฆษกโรงพยาบาลตำรวจ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) โรงพยายาลตำรวจ ตรวจเช็คร่างกายของ 'ด.ต.นิสาธิต คงเทพ' ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 43 อย่างละเอียด ณ โรงพยาบาลตำรวจ ภายหลังถูกทำร้ายร่างกายขณะปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณหน่วยเลือกตั้งที่ 7 หมู่ 2 ตำบลพะวง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เนื่องจากพบว่าผู้ป่วยมีอาการตามองไม่ชัด ปวดบริเวณโหนกแก้มข้างขวา

จากการตรวจโดยทีมแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ พบว่าผู้ป่วยมีอาการฟกช้ำบริเวณหน้าผากขวา รอบดวงตาขวา สะบักหลังขวา ใบหน้าฝั่งขวาดูบวมและไม่สมมาตรกับฝั่งซ้าย กระดูกใต้ตาขวามีลักษณะยุบลง ส่งผลให้การมองเห็นลดลงตั้งแต่วันเกิดเหตุ แพทย์ได้ทำการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ทั้งสมองและกระดูกใบหน้า ผลไม่พบเลือดออกในสมองหรือกระดูกหัก

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจโดยจักษุแพทย์ พบว่ามีเลือดออกในนัยน์ตาดำ จึงให้ยา และแนะนำให้งดกิจกรรมที่อาจทำให้ดวงตาสั่นสะเทือน เช่น การออกแรงหรือกระแทก เนื่องจากเสี่ยงต่อการเลือดออกมากขึ้นหรือจอประสาทตาหลุดลอก นอกจากนี้ แพทย์ยังประเมินว่าผู้ป่วยอาจเผชิญภาวะเครียดหลังประสบเหตุการณ์รุนแรง (PTSD) จึงขอให้เฝ้าระวังอาการ เช่น นอนไม่หลับ วิตกกังวล หรือความเครียด หากมีอาการดังกล่าว สามารถขอรับคำปรึกษาผ่านเพจ “Because Depress We Care” หรือสายด่วน 081-932-0000 ตลอด 24 ชั่วโมง ก่อนอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลกลับไปพักฟื้นที่บ้าน

สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอยืนยันว่า จะดูแลข้าราชการตำรวจทุกนายอย่างดีที่สุด ทั้งในด้านร่างกาย จิตใจ และสิทธิที่พึงมี เพื่อให้ตำรวจทุกนายปฏิบัติหน้าที่เพื่อประชาชนได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยที่สุด

ศูนย์ประชาสัมพันธ์ สื่อสารองค์กร และโฆษกโรงพยาบาลตำรวจ ขออนุญาตเผยแพร่ภาพและข่าวประชาสัมพันธ์ที่มีภาพบุคคลในกิจกรรมดังกล่าว เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบการดูแลอย่างใกล้ชิดจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

“ศูนย์กลางข่าวสาร ประสานฉับไว ใส่ใจบริการ เพื่อตำรวจและประชาชน”

ผอ.ศปป.3 กอ.รมน. เป็นประธานพิธีปิดการอบรมเสริมแกร่งเครือข่ายต้านอาชญากรรมข้ามชาติในพื้นที่ขอนแก่น

ขอนแก่น- เมื่อวานนี้ (15 พ.ค.68) ที่โรงแรมแก่นนคร โฮเต็ล อำเภอเมืองขอนแก่น พลโท ชนินทร์ สิงหนาทนิติรักษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 3 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ศปป.3 กอ.รมน.) ได้ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีปิดการอบรมพัฒนาเครือข่ายเฝ้าระวังและแจ้งเตือนอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13–15 พฤษภาคมที่ผ่านมา

การอบรมครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมจำนวน 90 คน ประกอบด้วยสมาชิกอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อผศ.) ผู้นำชุมชน และประชาชนจากพื้นที่ต่าง ๆ ในจังหวัดขอนแก่น โดยมีเป้าหมายหลักในการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ และการตระหนักถึงภัยคุกคามจากอาชญากรรมข้ามชาติ พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายภาคประชาชนที่สามารถร่วมมือกับภาครัฐในการเฝ้าระวัง วิเคราะห์ และแจ้งเตือนภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

พลโท ชนินทร์ กล่าวแสดงความชื่นชมต่อผู้เข้าร่วมทุกคนที่แสดงออกถึงความมุ่งมั่นในการร่วมสร้างความมั่นคงในพื้นที่ พร้อมเน้นย้ำว่า “เครือข่ายภาคประชาชนถือเป็นด่านหน้าในการรับรู้สถานการณ์และแจ้งเตือนภัยในชุมชน หากประชาชนเข้มแข็ง เจ้าหน้าที่รัฐก็สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น”

จากการอบรม พบว่าผู้เข้าร่วมมีความรู้ความเข้าใจที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน สามารถประยุกต์ใช้ทักษะและองค์ความรู้ในการป้องกันและรับมือกับอาชญากรรมข้ามชาติในพื้นที่ของตนอย่างเหมาะสม ถือเป็นก้าวสำคัญของการสร้าง 'ชุมชนปลอดภัย' ภายใต้ความร่วมมือของทุกภาคส่วน 

‘เงินดอลลาร์’ ร่วงแตะระดับต่ำสุดในประวัติการณ์!! หลายประเทศแห่เทขาย หันถือเงินเยน-ทองคำ แทน

(16 พ.ค. 68) รายงานจากนิกเคอิเอเชียเผยว่า สัดส่วนการถือครอง 'เงินดอลลาร์สหรัฐ' ในทุนสำรองเงินตราต่างประเทศทั่วโลก ลดลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 57.8% ณ สิ้นปี 2567 สะท้อนแนวโน้มที่ประเทศต่าง ๆ ทยอยกระจายความเสี่ยงโดยหันไปถือครองสินทรัพย์ทางเลือกแทนดอลลาร์

หนึ่งในทางเลือกสำคัญคือ 'ทองคำ' ซึ่งได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรทางการเงินของสหรัฐ เช่น รัสเซีย ที่ปัจจุบันมีทองคำสำรองราว 2,300 ตัน คิดเป็น 32% ของทุนสำรองทั้งหมด เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าในรอบทศวรรษที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน 'เงินเยน' สกุลเงินของญี่ปุ่น เริ่มได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีสัดส่วนอยู่ที่ 5.82% เพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นปีที่ 3 ส่วนหนึ่งเป็นผลจากธนาคารกลางญี่ปุ่นปรับดอกเบี้ยให้สูงกว่า 0% ทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรญี่ปุ่นน่าดึงดูดขึ้น

นักวิเคราะห์หลายรายมองตรงกันว่า โลกกำลังก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านระบบการเงินระหว่างประเทศจากที่พึ่งพาเงินดอลลาร์เพียงสกุลเดียว ไปสู่ระบบใหม่ที่มีหลายสกุลเงินหลัก เช่น ยูโร เยน และทองคำ เข้ามาแบ่งบทบาทมากขึ้น โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียที่มีเงินทุนสำรองรวมเกือบครึ่งของโลก

รทสช. พร้อมโหวตผ่านร่างงบฯ ปี 69 วาระแรก หนุนรัฐบาลเดินหน้าแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน

รทสช. พร้อมโหวตรับหลักการ พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 69 หนุนรัฐบาลแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน พร้อมร่วมปรับลดงบที่เกินจำเป็นออกในวาระ 2

(16 พ.ค.68) นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดราชบุรี เขต 4 ในฐานะโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยถึงการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปี พ.ศ. 2569 ที่จะมีการพิจารณาระหว่างวันที่ 29-31 พฤษภาคมนี้ ว่า 

พรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมลงมติรับหลักการในร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปี พ.ศ. 2569 เนื่องจากรัฐบาลมีความจำเป็นที่จะต้องมีงบประมาณในการบริหารราชการแผ่นดินและใช้งบประมาณแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนที่สำคัญ ร่างพ.ร.บ.งบประมาณนี้ มีการพิจารณากลั่นกรองของหลายหน่วยงานที่พิจารณาอย่างรอบคอบ รวมทั้งคณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบในร่างกฎหมายงบประมาณรายจ่ายประจำปีนี้แล้วเพื่อให้สภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณาออกเป็น พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2569

รวมทั้งจากการลงพื้นที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติยังพบว่า พี่น้องประชาชนต่างสนับสนุนให้ผ่านงบประมาณรายจ่ายประจำปีเพื่อให้งบประมาณเหล่านี้ในการพัฒนาประเทศและให้ส่วนราชการได้นำงบประมาณไปแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน รวมทั้งรัฐบาลยังสามารถใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐอีกด้วย 

ซึ่งหากร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปี พ.ศ. 2569 ไม่ผ่านจะส่งผลกระทบกับทั้งการบริหารราชการแผ่นดินในภาวะเช่นนี้ รวมทั้งไม่ส่งผลดีต่อการแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน การลงมติไม่เห็นชอบในร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปี พ.ศ. 2569 จึงไม่เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ และพี่น้องประชาชนอย่างสิ้นเชิง 

ดังนั้นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติจะร่วมลงมติรับหลักการในร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปี พ.ศ. 2569  ทั้ง 36 เสียง เพื่อให้สามารถใช้ได้ในวันที่ 1 ตุลาคม 2568 ให้รัฐบาลได้บริหารประเทศชาติอย่างราบรื่นแต่อย่างไรก็ดี ในการพิจารณาในวาระที่ 2 ตัวแทนของพรรครวมไทยสร้างชาติในตำแหน่งกรรมาธิการงบประมาณจะพิจารณางบประมาณอย่างละเอียดรอบคอบ และพร้อมจะปรับลดงบประมาณในส่วนที่เห็นว่าโครงการใดที่ไม่เป็นประโยชน์ ออกจากร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปี พ.ศ. 2569 

"ตนเชื่อว่าในการลงมติในร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปี พ.ศ. 2569 นี้จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และสามารถผ่านในวาระที่ 1 รับหลักการ เพื่อให้กรรมาธิการงบประมาณพิจารณาในวาระ 2 ต่อไปได้" นายอัครเดช กล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top