Tuesday, 29 April 2025
ค้นหา พบ 47725 ที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลทหารเมียนมา สั่งหยุดยิงทั่วประเทศ จนถึง 22 เม.ย. เปิดทางช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวรุนแรง

(3 เม.ย. 68) รัฐบาลทหารเมียนมาประกาศหยุดยิงชั่วคราวทั่วประเทศจนถึงวันที่ 22 เมษายน 2568 เพื่อเปิดทางให้หน่วยกู้ภัยสามารถให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุ แผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.7 เมื่อวันที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างหนักในหลายพื้นที่ของประเทศ

แถลงการณ์จากกองทัพเมียนมาระบุว่า “รัฐบาลทหารตระหนักถึงความเดือดร้อนของประชาชน และต้องการให้การช่วยเหลือดำเนินไปอย่างเต็มที่” โดยในช่วงเวลาหยุดยิงนี้ หน่วยงานบรรเทาสาธารณภัย และองค์กรด้านมนุษยธรรมทั้งภายในและต่างประเทศจะสามารถเข้าถึงพื้นที่ภัยพิบัติได้ง่ายขึ้น

ข้อมูลล่าสุดจากทางการเมียนมาเผยว่า มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 3,000 ราย บาดเจ็บกว่า 4,500 ราย และยังมีผู้สูญหายอีกหลายร้อยชีวิต ขณะที่อาคารบ้านเรือน โครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงถนนและสะพานได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออกของประเทศ

เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตตามซากอาคารที่พังถล่ม ท่ามกลางความท้าทายจาก ดินถล่ม ไฟฟ้าดับ และเส้นทางคมนาคมที่ถูกตัดขาด ในหลายพื้นที่ ซึ่งเมื่อวานนี้ (2 เม.ย.) ทีมข้อมูลสภาบริหารแห่งรัฐของเมียนมารายงานว่าพนักงานโรงแรม วัย 26 ปี ได้รับการช่วยเหลือออกมาจากซากโรงแรมที่พังถล่มในกรุงเนปิดอว์ หลังติดอยู่ใต้ซากนาน 5 วัน

ด้านกองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์หลายกลุ่ม ซึ่งมีการปะทะกับรัฐบาลทหารในช่วงที่ผ่านมา แสดงท่าทีตอบรับคำสั่งหยุดยิง เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยสามารถดำเนินไปได้โดยไม่มีอุปสรรค 

อย่างไรก็ตาม ผู้สังเกตการณ์ระบุว่า สถานการณ์ยังคงเปราะบาง และอาจเกิดการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงได้

ขณะเดียวกัน องค์การสหประชาชาติ (UN), สภากาชาด, อาเซียน และรัฐบาลหลายประเทศ กำลังเตรียมให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่เมียนมา โดยเฉพาะ อาหาร น้ำดื่ม ยารักษาโรค และที่พักชั่วคราว เพื่อรองรับผู้พลัดถิ่นหลายหมื่นคน

แม้ว่าการหยุดยิงครั้งนี้จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว แต่หลายฝ่ายกังวลว่า เมื่อหมดกำหนดในวันที่ 22 เมษายน ความขัดแย้งระหว่างกองทัพเมียนมาและกองกำลังชาติพันธุ์อาจปะทุขึ้นมาอีกครั้ง

‘พีระพันธุ์’ ระบุ คนไทยมีภาระมาก รัฐควรแบกรับส่วนต่างค่าไฟแทน ชี้ กรอบเป้าหมายไม่เกิน 3.99 บาทต่อหน่วย

คนไทยมีภาระมาก รัฐควรแบกรับส่วนต่างค่าไฟแทน ชี้ กรอบเป้าหมายไม่เกิน 3.99 บาทต่อหน่วย

ผู้ช่วย รมว. กระทรวง อว.ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานขับเคลื่อนงานด้าน อววน.และ ”Kick off “เพื่อขับเคลื่อน Soft Power ด้านมวยไทย” ในพื้นที่จังหวัดราชบุรี

(3 เม.ย. 68) นวัตกรรม ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานขับเคลื่อนงานด้าน อววน. และ ”Kick off “การส่งเสริมงานด้าน อววน. เพื่อขับเคลื่อน Soft Power ด้านมวยไทย” ในพื้นที่จังหวัดราชบุรี  ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏ หมู่บ้านจอมบึง เมืองราชบุรี 

นายศุภชัย ใจสมุทร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เปิดเผยว่า 
มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง มีแนวทางที่ดีในการพัฒนาหลักสูตรที่ตอบโจทย์ชุมชนและภาคอุตสาหกรรม ทำให้บัณฑิตสามารถเข้าสู่ตลาดแรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งกระทรวง อว. เองก็ได้มีนโยบายในการส่งเสริมและสนับสนุนให้สถาบันการศึกษา สร้างความร่วมมือกับสถานประกอบในการร่วมผลิตบัณฑิตที่ตอบโจทย์สถานประกอบการภายใต้โครงการสหกิจศึกษาและการศึกษาเชิงบูรณาการกับการทำงาน (Cooperative and Work Integrated Education หรือ CWIE) ทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ เพื่อเพิ่มโอกาสฝึกงานและสร้างเครือข่ายการจ้างงานที่กว้างขึ้น นอกจากนี้มหาวิทยาลัยได้บูรณาการการทำงานกับหน่วยงานการศึกษาในจังหวัดได้เป็นอย่างดี เพื่อพัฒนาเด็กและเยาวชนให้มีคุณภาพทั้งสติปัญญา กาย ใจ ด้วยการพัฒนาหลักสูตร สื่อ และกิจกรรมการเรียนรู้ที่เหมาะสม รวมถึงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้สัมมาชีพในชุมชน เพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาผ่านประสบการณ์การทำงาน
 
มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง มีโครงการที่มุ่งเน้นเศรษฐกิจฐานรากและอุตสาหกรรมเกษตรถือเป็นจุดแข็งที่ช่วยยกระดับท้องถิ่นได้จริง และอยากให้มหาวิทยาลัยเร่งผลักดันงานวิจัยให้เกิดการใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์มากขึ้น โดยการพัฒนาแพลตฟอร์มกลางเพื่อเชื่อมโยงนักวิจัย ผู้ประกอบการ และนักลงทุน ซึ่งกระทรวง อว. มีผู้เชี่ยวชาญและเครือข่ายหลายหน่วยงานที่พร้อมและยินดีให้คำปรึกษา รวมทั้งงบประมาณการสนับสนุนการดำเนินงานอย่างเต็มที่
 
ด้าน Soft Power มวยไทย การจัดตั้งศูนย์เรียนรู้และฝึกอบรมด้านมวยไทยเป็นแนวคิดที่ดีที่ช่วยอนุรักษ์ สืบสานต่อยอดมรดกวัฒนธรรมของชาติ และแปลงมาสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ ผ่านกิจกรรมทั้งการกีฬา และการท่องเที่ยว อยากให้มหาวิทยาลัยได้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง และเป็นศูนย์กลางในเรื่องนี้ ขยายผลไปยังสถาบันอื่นที่สนใจร่วมขับเคลื่อนให้กระจายทั่วทุกภูมิภาค รวมถึงขยายกิจกรรมสู่ระดับนานาชาติ เช่น การจัดการแข่งขันหรือหลักสูตรแลกเปลี่ยนด้านมวยไทย เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย
 
จากการลงฟื้นที่ติดตามผลการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง ในวันนี้ ทางกระทรวงอว. ได้เห็นศักยภาพของมหาวิทยาลัยและจุดเด่นของมหาวิทยาลัยโดยเฉพาะมวยไทยซึ่งเป็น Soft Power ที่สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ผ่านอุตสาหกรรมกีฬา ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และสื่อบันเทิงซึ่ง กระทรวง อว. เล็งเห็นว่าในอนาคตอาจร่วมกันพัฒนาบ่มเพาะธุรกิจสตาร์ทอัพเกี่ยวกับมวยไทย โดยนำองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้ามาช่วยพัฒนา เช่น ฟิตเนสเพื่อสุขภาพ การพัฒนาอุปกรณ์กีฬา เทคโนโลยีการฝึกซ้อม หรือศาสตร์การแพทย์แผนไทย สื่อดิจิทัลเกี่ยวกับมวยไทยหรือการพัฒนาแพลตฟอร์มเรียนรู้มวยไทยออนไลน์ โดยเร่งประสานความร่วมมือกับภาคเอกชนและนักลงทุน เพื่อขยายโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยนำมวยไทยไปสู่ตลาดต่างประเทศ 

แต่อย่างไรก็ตามการพัฒนากำลังคนที่มีคุณภาพเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ และเป็นอีกหนึ่งเป็นยุทธศาสตร์สำคัญ กระทรวง อว. จะเร่งผลักดันให้เกิดโครงการอบรมและรับรองมาตรฐานครูมวยไทยระดับสากล เพื่อส่งเสริมให้ครูมวยไทยสามารถไปทำงานในต่างประเทศได้สนับสนุนให้นักศึกษามีโอกาสฝึกงานกับค่ายมวย สถานที่ท่องเที่ยว หรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างทักษะการทำงานที่ตรงกับความต้องการของตลาด และส่งเสริมให้เยาวชนและนักศึกษาที่สนใจมวยไทยสามารถเข้าถึงแหล่งทุน ทุนการศึกษา หรือโครงการแลกเปลี่ยน เพื่อพัฒนาตนเองสู่ระดับสากลได้ต่อไป
 
กระทรวง อว. มุ่งมั่นสนับสนุนการนำวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมมาใช้พัฒนาพื้นที่ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพของชุมชน และยกระดับอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ เราเชื่อว่าการพัฒนาเชิงพื้นที่ที่ขับเคลื่อนด้วยองค์ความรู้ จะช่วยให้เกิดการเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับโลก ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยเป็นกระบอกเสียงในการเผยแพร่แนวทางเหล่านี้ และหวังว่าจะได้ร่วมมือกันต่อไปในการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ นวัตกรรม การศึกษา และเศรษฐกิจ รวมทั้งมวยไทยเพื่อสร้างโอกาสให้กับคนไทย และขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เวทีโลก

นางสาวประภารัตน์ นาคผจญ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดราชบุรี กล่าวว่า  ในนามของจังหวัดราชบุรี รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสต้อนรับท่านและคณะ ในโอกาสที่ได้กรุณาเดินทางลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานด้านการขับเคลื่อน งานอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เพื่อการพัฒนาจังหวัดราชบุรี ตลอดจนการส่งเสริมอัตลักษณ์ การสืบสานภูมิปัญญา และมรดกทางวัฒนธรรมของท้องถิ่นและของชาติ ผ่านแนวคิดซอฟต์พาวเวอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การนำศิลปะมวยไทยมาสร้างคุณค่าและเพิ่มพูนศักยภาพกำลังคน 

ซึ่งมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึงได้มีบทบาทสำคัญในการสืบสาน ต่อยอด และเชื่อมโยงองค์ความรู้
สู่การพัฒนาเศรษฐกิจระดับพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม
จังหวัดราชบุรีให้ความสำคัญกับการพัฒนาในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา และสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งเน้นการบูรณาการองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมให้สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนอย่างยั่งยืนข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่า จากการลงพื้นที่ในครั้งนี้ ท่านและคณะคงได้เห็นถึงศักยภาพอันหลากหลายของจังหวัดราชบุรี ทั้งในด้านเกษตรกรรม อุตสาหกรรมการแปรรูปอาหาร และการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ซึ่งล้วนเป็นฐานรากสำคัญที่สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ตามนโยบายของรัฐบาล

ในส่วนของมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง ซึ่งเป็นสถาบันอุดมศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น ได้มีบทบาทสำคัญในการนำองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมมาขับเคลื่อนการพัฒนาจังหวัดราชบุรีอย่างเป็นรูปธรรม โดยบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมในพื้นที่ ผ่านการให้บริการวิชาการ งานวิจัย และการพัฒนานวัตกรรม เพื่อยกระดับและเพิ่มมูลค่าให้กับทรัพยากรของจังหวัดโดยเฉพาะอย่างยิ่ง 

โครงการที่เกี่ยวข้องกับ “มวยไทย” ซึ่งถือเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ทรงคุณค่าของประเทศไทย มหาวิทยาลัยฯ ได้สืบสานและต่อยอดองค์ความรู้ดังกล่าวสู่การพัฒนาในมิติต่าง ๆ ทั้งด้านกีฬา    การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และการศึกษาตลอดช่วงวัย ซึ่งล้วนเป็นแนวทางที่สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ที่มุ่งส่งเสริมให้สถาบันอุดมศึกษาเป็นศูนย์กลางการพัฒนาองค์ความรู้ และเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากในระดับพื้นที่

หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การลงพื้นที่ของท่านในครั้งนี้ จะเป็นโอกาสสำคัญในการแลกเปลี่ยนแนวคิด และเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานระดับพื้นที่กับกระทรวง อว. เพื่อนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนของจังหวัดราชบุรีต่อไป

นายทัศนา แช่มสะอาด นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเบิกไพร กล่าวว่า ขอขอบพระคุณ ที่ท่านได้ให้เกียรติมาเยี่ยมชมบูธนิทรรศการเกี่ยวกับโครงการ "ต้นกล้ามวยไทยตำบลเบิกไพร"  เป็นโครงการที่มุ่งเน้นการส่งเสริมและขับเคลื่อนศิลปะมวยไทยในระดับชุมชนศิลปะมวยไทยเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง ทั้งในด้านศิลปะการต่อสู้ การออกกำลังกาย และการส่งเสริมคุณธรรมวินัยแก่เยาวชน 

โครงการ  "ต้นกล้ามวยไทยตำบลเบิกไพร" จึงเกิดขึ้นเพื่อต่อยอดการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพของเยาวชนในพื้นที่ โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ตลอดจนชุมชนในท้องถิ่น เพื่อให้มวยไทยเป็นที่แพร่หลายและได้รับการอนุรักษ์สืบทอดอย่างยั่งยืนเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า การสนับสนุนจากกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จะช่วยส่งเสริมและขยายโอกาสให้เยาวชนได้เข้าถึงการเรียนรู้ศิลปะมวยไทยอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น

“พล.ต.อ.กรไชยฯ” ตรวจสอบอาคารที่ทำการ สตม. และ บช.สอท. รวมทั้ง อาคารศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากร และสวัสดิการ สตม. สร้างความเชื่อมั่นให้กับตำรวจและผู้ติดต่อราชการ

(1 เม.ย. 68) เวลา 10.30 น. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะ ได้ร่วมสำรวจความเสียหายของอาคารเฉลิมพระเกียรติฯ (อาคาร 30 ชั้น) ที่ทำการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) และกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี และอาคารที่พักอาศัยของข้าราชการตำรวจ จากกรณีเเกิดเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยมี พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. , พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. , พล.ต.ต.สมิทธิ สุวรรณสุขโรจน์ ผู้บังคับการกอง
โยธาธิการ และคณะผู้เชี่ยวชาญ ร่วมตรวจสอบ

นอกจากนี้ วานนี้ (31 มีนาคม 2568) เวลา 14.00 น. พล.ต.อ.กรไชยฯ พร้อมคณะ ได้ร่วมตรวจสอบอาคารศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากร และสวัสดิการ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคาร 32 ชั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมี พล.ต.ต.ภาณุวัฒน์ ร่วมรักษ์ รองผู้บัญชาการสำนักงานส่งกำลังบำรุง , ผู้บังคับการกองโยธาธิการ และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมตรวจสอบ

พล.ต.อ.กรไชยฯ กล่าวว่า ได้ลงพื้นที่สำรวจอาคารที่ทำการและที่พักอาศัย หน่วยงานในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับข้าราชการตำรวจผู้ปฏิบัติงาน ผู้ที่พักอาศัยในอาคาร และประชาชนที่ติดต่อราชการต่อไป

เชียงใหม่-ผบช.ภ.5 แถลงผลการปฏิบัติระดมกวาดล้างอาชญากรรม ในห้วงก่อนเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2568

(2 เม.ย. 68) ตำรวจภูธรภาค 5 ระดมกวาดล้างอาชญากรรม เป้าหมายผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน และสืบสวนจับกุมกุมบุคคลตามหมายจับในห้วงก่อนเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี พ.ศ.2568

วันอังคารที่ 1 เมษายน 2568 เวลา 13.00 น.พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 เป็นประธานการแถลงผลการปฏิบัติระดมกวาดล้างอาชญากรรม เป้าหมายผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน และสืบสวนจับกุมกุมบุคคลตามหมายจับ ในห้วงก่อนเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี พ.ศ.2568 (ห้วงวันที่ 21-30 มี.ค.68) ดังนี้

1. การสืบสวนขยายผลปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายผู้ค้าอาวุธปืนออนไลน์ของ ภ.5 จำนวน  4 เครือข่าย
2. ผลการสืบสวนขยายผลการจับกุมผู้ค้าอาวุธปืนออนไลน์ 4 เครือข่าย ในพื้นที่ ภ.5 จับกุมจำนวน 28 ราย 27 คนขยายผลในพื้นที่ ภ.2 จับกุมจำนวน 2  ราย 2 คน รวม 30  ราย 29 คน ของกลาง 21 รายการ
3.ผลระดมกวาดล้างอาวุธปืน On Ground ในพื้นที่ ภ.5 จับกุมจำนวน 356 ราย 334 คน ของกลาง 6 รายการ
4. สรุปผลระดมกวาดล้างอาวุธปืน Online และ On Ground ในพื้นที่ ภ.5 จับกุมจำนวน 61 คน
5. ผลการจับกุมบุคคลตามหมายจับ ทั้งหมด 1,409 หมาย แบ่งเป็นหมายจับ ตร. จำนวน 1,026 หมาย แยกเป็นหมายใน ภ.5 จำนวน 964 หมาย / นอก บช. 57 หมาย / หมายนอก 383 หมาย

โดยมี พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.ยุทธนา แก่นจันทร์ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่, พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5 และ ผกก.สภ.พื้นที่ ร่วมแถลงผลการจับกุม ณ ห้องประชุมพระพุทธประทานยศบารมี ชั้น 2 อาคารตำรวจภูธรภาค 5 อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top