Wednesday, 18 June 2025
ค้นหา พบ 48869 ที่เกี่ยวข้อง

ส่งออกอัญมณีพลิกบวกครั้งแรก คาดคนซื้อเป็นของขวัญปลายปี

นายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) เปิดเผยยอดการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทยเดือนตุลาคม พ.ศ.2563 ว่า ยอดการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทยที่ไม่รวมทองคำกลับมาฟื้นตัวต่อเนื่องโดยพลิกกลับมาเป็นบวกครั้งแรกในรอบหลายเดือน โดยมีมูลค่า 524.94 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นถึง 23.29%

เป็นผลมาจากผู้บริโภคในหลายประเทศเริ่มกลับมาจับจ่ายใช้สอยเพิ่มมากขึ้น หลังจากอัดอั้นมานานในช่วงของการล็อกดาวน์ประเทศ และเลือกซื้อเป็นของขวัญในช่วงเทศกาลสำคัญปลายปี มีตลาดสำคัญที่ส่งออกเพิ่ม คือ สหรัฐอเมริกา ฮ่องกง เยอรมนี อินเดีย และออสเตรเลีย

ส่วนแนวโน้มการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทยในไตรมาส 4 ปีนี้ มองว่า จากมาตรการเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจในหลายประเทศทั่วโลก ถือเป็นปัจจัยบวกที่จะช่วยกระตุ้นความต้องการซื้อสินค้าของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น

และมีการซื้อเพื่อนำไปใช้เป็นของขวัญในช่วงเทศกาลสำคัญปลายปี และสต๊อกเป็นสินค้าสำหรับจำหน่ายในปีหน้า ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยผลักดันให้การส่งออกฟื้นตัวดีขึ้น

รมว.ยุติธรรม ดันสินค้าฝีมือผู้ต้องขังขายออนไลน์ ปลื้มกระแสตอบรับดี

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ฝีมือของผู้ต้องขังผ่านช่องทางออนไลน์ ว่า วัตถุประสงค์ของโครงการดังกล่าวเพื่อเพิ่มช่องทางในการจำหน่ายสินค้าให้ตรงกับยุคสมัย

ประชาชนส่วนใหญ่ในขณะนี้มักจะนิยมซื้อของผ่านช่องทางออนไลน์ เพราะสะดวก เลือกซื้อและดูรูปแบบสินค้าได้โดยไม่ต้องเดินทางไปร้าน นอกจากนี้เรายังต้องการสร้างแบรนด์ใหม่ให้ทันสมัยในการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ เป็นการสนับสนุนการกลับคืนสู่สังคมของผู้ที่ก้าวพลาด และยังเป็นการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการกระบวนการด้านเทคโนโลยีของหน่วยงานด้วย โดยขณะนี้เราได้นำสินค้าขายบนตลาดออนไลน์แล้ว ผ่านทาง Shopee และ Lazada ในชื่อแบรนด์ "วันสุข" ตามคอนเซปต์ สุขที่ได้ให้โอกาส

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เรามีสินค้าจากงานฝีมือของผู้ต้องขังหลายรายการ ทั้งกระเป๋า รองเท้า ผ้าขาวม้า ผ้าทอ ผ้าถุง ซึ่งเรากำลังทยอยเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆเข้าไปเรื่อยๆ โดยตอนนี้ สินค้าที่ขายดีมาก คือ กระเป๋ายีนส์ปักลาย และกระเป๋าสายรุ้ง เป็นงานฝีมือของ ทัณฑสถานบำบัดพิเศษหญิง โดยมีผู้ซื้อที่สนใจสินค้าในปริมาณมากด้วย บางครั้งแชทติดต่อเข้ามาสั่งซื้อ 20 - 30 ใบเลย ถือเป็นเรื่องที่น่าดีใจมาก

โดยยอดรวมของการผ่านทางออนไลน์ขายในช่วงที่ผ่านมาเรามียอดขายไปแล้ว 30 ชิ้นมูลค่าเกือบ 5,000 บาท ยอดขายเฉลี่ยต่อผู้ซื้ออยู่ที่ 500 กว่าบาท โดยรายได้ทั้งหมดนี้เมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้วบริษัทที่ปรึกษาจะทำการโอนให้แก่กรมราชทัณฑ์เพื่อแบ่งให้กับผู้ต้องขังต่อไป

"สินค้าส่วนใหญ่ของกรมราชทัณฑ์เป็นงานฝีมือที่ราคาไม่แพง แต่ผมก็ได้เน้นย้ำว่าให้ทำสินค้าออกมาให้มีมาตรฐาน และรักษาคุณภาพงานฝีมือ เพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นที่สนใจและเป็นที่ยอมรับของประชาชน และผมขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนลองมาเลือกซื้อสินค้าของเราซึ่งมีหลากหลายผลิตภัณฑ์ และเรากำลังทยอยอัพเดทเรื่อย ๆ

ทั้งนี้ผมหวังว่าโครงการนี้จะช่วยพัฒนาศักยภาพฝีมือของผู้ต้องขัง เพิ่มโอกาสในการหางานทำและมีรายได้หลังการพ้นโทษ เพื่อให้พวกเขากลับคืนสังคมอย่างมีคุณภาพและไม่กลับไปกระทำผิดซ้ำอีก" นายสมศักดิ์ กล่าว

'หญิงหน่อย' ควง 'วิชัย สามิต' อ้อนพี่น้องหนองบัวฯ หนุนนั่ง นายกฯ อบจ. มั่นใจพร้อมดันนโยบายเกษตรปลอดภัย กำหนดราคาเอง ส่งขายทั่วประเทศ การันตี 1 ปี เกษตรกรหนี้ลด

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภูอีกครั้ง เพื่อพบปะประชาชน สอบถามถึงความทุกข์ยาก และความลำบากในการดำเนินชีวิต หลังต้องเผชิญปัญหาในหลายด้าน โดยเฉพาะคุณภาพชีวิตที่ลดลง จากผลกระทบ ที่มาจากราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง และปัญหาหนี้สินที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

สำหรับการลงพื้นที่ครั้งนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ ปราศรัยขอคะแนนสนับสนุน ให้นายวิชัย สามิต ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองบัวลำภู หมายเลข 6 พรรคเพื่อไทย และทีมงานผู้สมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด หนองบัวลำภู เข้าไปทำหน้าที่

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า เกษตรกร เป็นอาชีพเดียวที่ไม่สามารถกําหนดราคา สินค้าเกษตรของตัวเองได้ พ่อค้าคนกลางกำหนดราคาเท่าใดก็ได้เท่านั้น แต่หลังจากนี้เราจะมาร่วมกันปลดแอก โดยใช้กลไก อบจ.เดินหน้าสนับสนุนนโยบายเกษตรปลอดภัยสร้างแหล่งน้ำ

เพื่อเปิดทางให้เกษตรกร กำหนดราคาขายด้วยตนเอง พร้อมส่งสินค้าเกษตร ที่มีคุณภาพ จากจังหวัดหนองบัวลำภู ออกไปขายทั่วประเทศและทั่วโลก โดยมั่นใจว่า หนึ่งปีต่อจากนี้เกษตรกร หนี้สินลดลงอย่างแน่นอน

"ทั้งหมดเป็นความตั้งใจของนายวิชัย ที่ได้พูดคุยกับตนเองและมีความตั้งใจอย่างที่สุดว่า จะแก้เจ็บแก้จน ให้พี่น้องประชาชนให้พี่น้องเกษตรกร มีความปลอดภัยไร้ โรค ดังนั้นนายวิชัย ซึ่งเป็นเกษตรกรเช่นกัน จึงมีความเข้าใจในเรื่องเหล่านี้ จะขอโอกาสเข้ามาดูแลให้พี่น้องหายจน" คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว

ดร.กนก เน้นวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม​ ยกระดับเกษตรกรชุมชนเป็นเถ้าแก่ท้องถิ่น

ศ.ดร.กนก วงษ์ตระหง่าน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้นำเสนอรูปแบบแนวทางในการปรับเปลี่ยน "เกษตรกร" ไปสู่ "การเป็นผู้ประกอบการ" ผ่านโครงการที่มีชื่อว่า "สมุทรปราการโมเดล" ในการลงพื้นที่ร่วมไปกับคณะกรรมาธิการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิจัยและนวัตกรรม สภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายนายอัครวัฒน์ อัศวเหม ประธานคณะ กมธ. ชุดนี้ และดร.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมเดินทางไปด้วย

รองประธานคณะกรรมาธิการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิจัยและนวัตกรรม คนที่หนึ่ง กล่าวว่า “กว่า 40 ปี พื้นที่สมุทรปราการถูกปรับเปลี่ยนจากการเป็นชนบท มีรายได้จากการปลูกข้าว ปลูกผักผลไม้ และเลี้ยงปลาสลิด ไปสู่การเป็นพื้นที่โรงงานอุตสาหกรรมทุกประเภท และการทำธุรกิจค้าปลีกในด้านต่างๆ ซึ่งทิศทางของเศรษฐกิจอันขับเคลื่อนด้วยอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรมดังกล่าวนั้น สร้างรายได้มหาศาลผ่านการส่งออกและการค้าระหว่างประเทศ

“แต่ที่น่าเสียดายก็คือ จำนวนรายได้ที่เกิดขึ้นอยู่ในสัดส่วนของนักธุรกิจจำนวนหนึ่งเท่านั้น ส่งผลให้เกษตรกรที่ถูกผลักเข้าไปอยู่ในภาคแรงงานตามโรงงานหรือร้านค้าต่างๆ ด้วยความจำเป็นจากการถูกแทนที่ด้วยภาคอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ ได้รับความเดือดร้อนในเรื่องของรายได้ ที่เป็นส่วนแบ่งอันน้อยนิดจากเจ้าของธุรกิจ ในสถานการณ์ที่ความเจริญได้ยกระดับค่าครองชีพในพื้นที่ให้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ด้วยเหตุผลนี้เองที่ทำให้ผม และคณะกรรมาธิการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิจัยและนวัตกรรม สภาผู้แทนราษฎร เดินทางลงพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการในเขตอำเภอเมือง และอำเภอบางบ่อ เพื่อไปช่วยกันค้นหาทางออกจากความยากจนของชาวสมุทรปราการ ว่าควรมีแนวทางอย่างไร”

ด้วยเหตุผลเบื้องต้น อดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีท่านนี้ จึงสรุปแนวทางในการบริหารจัดการการพลิกฟื้นเกษตรกรในจังหวัดสมุทรปราการผ่านรูปแบบแผนงานที่มีชื่อว่า “จังหวัดโมเดล” ดังนี้

1.) กลุ่มวิสาหกิจชุมชนจากสมุทรปราการจะเข้าร่วมโครงการกับพวกเราจำนวน 25 แห่ง โดยจะเริ่มต้นด้วยการวิเคราะห์ความต้องการของตลาดในปัจจุบัน และศักยภาพของคู่แข่งขัน

เพื่อค้นหาเป้าหมายที่ต้องไปให้ถึงด้วยการนำนวัตกรรมทางการผลิต และองค์ความรู้มาใช้ ผ่านผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และสถาบันอาหารของกระทรวงอุตสาหกรรม เข้ามาช่วยกัน "พาทำ" ผ่านการสนับสนุนเครื่องมือจากหน่วยงานของรัฐ และความใส่ใจของชาวบ้านในชุมชน

2.) การเลี้ยงปลาสลิดสำหรับชาวบางบ่อ มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการจำนวน 26 ราย ส่วนใหญ่เป็นเจ้าของที่ดินเอง (นอกเหนือจากการแบ่งขายไปบางส่วน) รวมๆ กันแล้วประมาณ 300 ไร่ ซึ่งต้องทำให้พวกเขามีรายได้พอที่จะไม่ต้องขายที่ดินทำกินเพื่อเลี้ยงครอบครัวอีกต่อไป ดังนั้น การยกระดับในด้านราคาจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ

โดยทีมอาจารย์จากมหาวิทยาลัย และสถาบันอาหาร จะเข้ามาเติมเต็มด้วยการสร้างความสมบูรณ์ของอาหารให้กลายเป็นสินค้าที่มีมูลค่าสูง อาทิ การทำปลาสลิดทอดกรอบให้ไม่มีกลิ่นหืนเมื่อเก็บไว้นาน จนถึงไม่มีน้ำมันตกค้างในปลาสลิดทอดกรอบ เป็นต้น รวมไปถึงการเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขันด้านการตลาด ที่มีแผนงานในการสร้างอัตลักษณ์ให้กับสินค้าที่มีความเฉพาะถิ่นเอาไว้แล้ว

"นี่คือแนวทางของสมุทรปราการโมเดล ที่ไม่ได้เริ่มต้นจากการพัฒนากระบวนการผลิตขั้นพื้นฐาน เหมือนกับสกลนครโมเดล กระบี่โมเดล และจันทบุรีโมเดล ที่ผมได้ดำเนินการไปแล้ว แต่เป็นการใช้องค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม มายกระดับเกษตรกรของชุมชน ให้กลายเป็น ผู้ประกอบการสำหรับท้องถิ่น

ซึ่งจะเป็นรากแก้วให้แก่ความยั่งยืนในแต่ละพื้นที่ชนบททั่วประเทศไทย ทั้งในด้านเศรษฐกิจ และสังคม ตามความตั้งใจของผม และทีม กมธ.วิทย์ฯ ที่ได้ร่วมกันวางเจตนารมณ์เอาไว้" ศ.ดร.กนก กล่าวทิ้งท้าย

"ผู้ว่าฯโคราช" สั่งยกเลิกคอนเสิร์ต "บิ๊กเมาน์เท่น" เหตุเสี่ยงสูง สธ.ยันไม่มีคนติดโควิด-19 ร่วมงาน ด้านทีมงานคอนเสิร์ตยังปฏิบัติงานต่อ รอผลสรุปสุดท้ายเย็นนี้

สืบเนื่องจากกระแสข่าวว่ามีผู้ติดเชื้อเข้าร่วมงานคอนเสิร์ตบิ๊กเมาน์เท่น (Big Mountain) ครั้งที่ 11 ที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยจากการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า หญิงรายหนึ่งอายุ 43 ปี เดินทางมาจากเชียงใหม่พร้อมเพื่อนอีก 7 คน โดยการนั่งเครื่องบินลงที่สนามบินดอนเมือง และต่อรถตู้ไปยัง จ.นครราชสีมา เพื่อร่วมชมคอนเสิร์ต มีโรคประจำตัวคือกล้ามเนื้ออ่อนแรง มีอาการที่กระทบต่อระบบทางเดินหายใจ เมื่อมาถึงปากช่องก็มีอาการ แต่หลังจากการตรวจหาเชื้อโควิด-19 หญิงรายนี้ พร้อมเพื่อนและคนขับรถตู้แล้วพบว่า มีผลเป็นลบทั้งหมด ซึ่งขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา

แต่อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของคอนเสิร์ตเมื่อคืนวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ.2563 ที่ผ่านมา พบว่ามีข้อร้องเรียนจำนวนมากเกี่ยวกับมาตรการควบคุม COVID-19 ที่ไม่สามารถจำกัดจำนวนคน และควบคุมการสวมหน้ากาก รวมถึงมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมได้

โดยเรื่องนี้ ทางด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การจัดงานเมื่อคืนวันที่ 12 ธ.ค. ที่ผ่านมา จากการส่งเจ้าหน้าที่ติดตาม กำกับ พบว่า มีผู้คนหนาแน่น และแออัด โดยเฉพาะจุดเสี่ยงคือหน้าเวที บางคนไม่สวมหน้ากาก ทางสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา จึงเข้าไปตักเตือน ขอให้แก้ไข เนื่องจากการมีผู้คนแออัดหนาแน่นเช่นนี้มีความเสี่ยงสูง ต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ภายหลังจากการตักเตือนแล้ว แต่พบว่าไม่มีการแก้ไข ลดความแออัดแต่อย่างใด ทำให้สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา เสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาแล้ว พิจารณาว่า ต้องสั่งยุติคอนเสิร์ตดังกล่าว โดยจะออกประกาศ ให้ยกเลิกการจัดคอนเสิร์ตบิ๊กเม้าท์เท่น ที่จะมีอีกในคืนนี้ เนื่องจาก มีความเสี่ยงสูง

ด้านนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดงานคอนเสิร์ตบิ๊กเมาน์เท่น (Big Mountain) ครั้งที่ 11 ก่อนจะมีผลสรุปออกมาว่า “ในการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อมีมติเอกฉันท์ สั่งปิดคอนเสิร์ตบิ๊กเมาน์เท่น ครั้งที่ 11 หลังพบปัญหาร้องเรียนไม่มีมาตรการควบคุมโควิด-19” ผวจ.นครราชสีมา กล่าว

ภายหลังที่มีการประกาศ และเผยแพร่ข่าวออกไป ขณะนี้ยังไม่ได้รับความชัดเจนจากทีมงานผู้จัดคอนเสิร์ตว่าได้รับทราบในข้อคำสั่งครั้งนี้หรือไม่ เนื่องจากแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับการจัดงานแจ้งว่า ทีมงานคอนเสิร์ตก็ยังเตรียมงานสำหรับค่ำคืนนี้ตามปกติต่อไป

ด้าน ‘ป๋าเต็ด’ หรือนายยุทธนา บุญอ้อม หัวเรือใหญ่ของการจัดงานบิ๊กเมาน์เท่น ก็ยังไม่มีทีท่าใด ๆ จากคำสั่งที่ออกมา ซึ่งขณะนี้นักข่าวได้พยายามโทรศัพท์เข้าไปสอบถาม แต่เจ้าตัวปิดโทรศัพท์มือถือ ไม่สามารถติดต่อได้ จึงต้องรอผลสรุปสุดท้ายว่า ทีมงานผู้จัดงานจะสรุปเรื่องราวออกมาอย่างไรภายในเย็นวันนี้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top