Saturday, 17 May 2025
ค้นหา พบ 48168 ที่เกี่ยวข้อง

‘สกลธี’ เดือด ‘ตะวัน-แบม’ ป่วนเวทีปราศรัย ลั่น!! พปชร. พร้อมฟัง แต่มาให้ถูกกาลเทศะ ครั้งหน้าจ่อเพิ่มการ์ด

(1 เม.ย.66) ที่สวนสาธารณะใต้สะพานพระราม 8 นายสกลธี ภัททิยกุล กรรมการบริหารพรรค และหัวหน้าทีมกทม. ให้สัมภาษณ์ภายหลังเหตุการณ์ชุลมุน ‘ตะวัน’ ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และ ‘แบม’ อรวรรณ ภู่พงษ์ นักกิจกรรมอิสระ พร้อมกลุ่มได้มาทำกิจกรรมเคลื่อนไหวที่เวทีปราศรัยย่อยพลังประชารัฐ ว่า พรรคพลังประชารัฐตั้งใจมาปราศรัยพบปะพี่น้องชาวกรุงเทพฯ ซึ่งพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ได้พูดเสมอถึงการก้าวข้ามความขัดแย้งและรับฟังทุกฝ่าย ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ถูกกาลเทศะ เพราะเป็นการทำกิจกรรมของนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตย การรับฟังและการพูดคุยน่าจะใช้เวทีอื่น และมาในลักษณะที่สงบและเป็นมิตรมากกว่านี้ หากพูดถึงมารยาทตนคิดว่าเป็นการขาดมารยาทในขณะที่พรรคการเมืองหนึ่งหาเสียงและมีคนมาป่วนเวที ในขณะที่ต้องการเสนอนโยบายให้ประชาชน ถ้ามาเบาๆก็ยังคุยกันได้ แต่นี่มาในลักษณะเหมือนกับการก่อกวนไม่ต้องการพูดคุยกัน และมีลักษณะที่เกิดความรุนแรงขึ้นด้วย ตนได้รับรายงานว่าการ์ดเวทีเจ็บไป 4 คน ซึ่งต้องขอปรึกษากับผู้ใหญ่ก่อนว่าทางพรรคจะดำเนินการอย่างไร และส่วนตัวของการ์ดก็จะไปแจ้งความ

นายสกลธี กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามเราต้องเอาการจัดงานครั้งนี้เป็นบทเรียน ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้เพราะเข้าสู่การเลือกตั้งแล้ว การจัดเวทีที่ผ่านมาก็ไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ในวันนี้ทางผู้บริหารพรรคก็จะเอาเหตุการณ์นี้ไปเป็นบทเรียนโดยอาจจะมีการจัดการ์ดมากขึ้น และแจ้งตำรวจท้องที่ในเวลาที่มาทำกิจกรรม เพราะไม่อยากให้เกิดภาพการปะทะ ขอให้มาแข่งด้วยการหาเสียงด้วยนโยบายดีกว่าเพื่อให้ประชาชนตัดสินเอง

แถลงข่าว โชว์ผลการปฏิบัติการจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญ พร้อมของกลาง ยาไอซ์ ๕๐ กก. พร้อมยาบ้า ๒,๐๐๐ เม็ด ขานรับนโยบายรัฐบาลให้มีการปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจังในพื้นที่ภาคใต้

(1 เม.ย.66) เวลา 15.00 น. ที่ สภ.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พล.ต.ต.อนุรุธ อิ่มอาบ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส น.อ.ธัชธรรม์ ณ สงขลา รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดนราธิวาส และ พ.ต.ท.อรรถพล สลับเพชร สว.สภ.ปะลุกาสาเมาะ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมแถลงข่าวการจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญได้ จำนวน ๑ เครือข่าย ผู้ต้องหา จำนวน ๕ คน, ของกลาง ยาไอซ์ น้ำหนักประมาณ ๕๐ กก., ยาบ้า จำนวน ๒,๐๐๐ เม็ด ตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับ การกระทำผิดมูลค่าประมาณ 1,200,000 บาท (อยู่ระหว่างการตรวจสอบเพิ่มเติม) 

ซึ่งเป็นไปตามนโยบายรัฐบาลให้มีการปราบปรามยาเสพติด อย่างจริงจังโดยให้ถือเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ เป็นแหล่งแพร่ระบาด เป็นจุดพักยา และเป็นเส้นทางลำเลียงไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ระดมสรรพกำลังเพื่อขับเคลื่อนนโยบายในการ แก้ปัญหายาเสพติดอย่างจริงจังและต่อเนื่องตลอดมา ต่อมาได้มีการกำหนดแผนปฏิบัติการปิดล้อม ตรวจค้น จับกุม ทำลายโครงสร้างเครือข่าย กระบวนการผู้ค้ายาเสพติดและในห้วงตั้งแต่วันที่ ๒๐ - ๓๑ มี.ค. ๖๖ ที่ผ่านมา

โดยพล.ต.ต.อนุรุธ อิ่มอาบ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ได้แถลงข่าวพอสรุปใจความว่าเมื่อวันที่ ๓๐ มี.ค.๖๖ ที่ผ่านมา ได้ร่วมกันทำการจับกุมผู้ต้องหา 5 ราย ได้แก่ 1.นายอาเฟนดี นิมะ บ้านเลขที่ ๑๒๙/๕ ม.๕ ต.ฆอเลาะ อ.แว้ง จ.นราธิวาส ๒. นายอิบรอเฮม การียา บ้านเลขที่๑๑๔/๒ ม.๑๐ ต.สากอ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ๓. นายอะหะหมัด ดอเลาะ บ้านเลขที่ ๒๐/๔ ม.๓ ต.ปะกาฮะรัง อ.เมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี ๔. นายอาซฮา อูเซ็ง บ้านเลขที่๑๐๓ ม.๑ ต.โละจูด อ. แว้ง จ.นราธิวาส ๕. นางสาวซีลาวาตี กือจิ บ้านเลขที่๑๗๔ ม.๑ ต. โละจูด อ.แว้ง จ.นราธิวาส พร้อมด้วยของกลาง ดังนี้ 1.ยาเสพติด(เมทแอมเฟตามีนหรือยาไอซ์) น้ำหนัก ประมาณ ๕๐ กิโลกรัม บรรจุอยู่ในลังกระดาษ และ กระเป๋ากระสอบลายสีรุ้ง  ๒. ยาเสพติด(เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) จำนวน ๑ มัด จำนวน  (๒,๐๐๐ เม็ด) บรรจุอยู่ในห่อกระดาษ สีขาว ๓. รถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นแคมรี่ สีขาว หมายเลขทะเบียน ๘กผ ๘๕๔๓ กรุงเทพมหานคร ๔. รถยนต์ ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร่ สีขาว หมายเลข ทะเบียน ขร ๓๕๗๒ สงขลา ๕. รถยนต์ ยี่ห้อฟอร์ด รุ่นฟอร์ดเรนเจอร์ สีขาวหมายเลขทะเบียน กจ ๙๘๘๓ นราธิวาส และ โทรศัพท์มือถือ จำนวน 6 เครื่อง เหตุเกิดริมถนนทางหลวงหน้าด่านกองร้อยทหาร พรานนาวิกโยธินที่ ๑๑ ม.๑ กาสาเมาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส

'ปลอดประสพ' แนะแนวทางแก้ปัญหา 'ขยะ-กากอุตสาหกรรม' ลั่น!! ถ้าได้เป็น รบ. พร้อมเดินสายกำจัดขยะรอบ กทม.

(1 เม.ย.66) ปลอดประสพ สุรัสวดี ประธานคณะทำงานด้านสิ่งแวดล้อม พรรคเพื่อไทย กล่าวบนเวทีทางออกปัญหามลพิษขยะอุตสาหกรรม ทางสถานีโทรทัศน์ Thai PBS เมื่อวันที่ 31 มีนาคม ที่ผ่านมา ถึงปัญหาขยะและกากขยะจากโรงงานอุตสาหกรรมในภาคตะวันออก โดยมุ่งใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดในการควบคุม ใช้เทคโนโลยีในการติดตามตรวจสอบการจัดเก็บขยะกากอุตสาหกรรม และเน้นย้ำว่าส่วนมากการกำจัดขยะเหล่านี้อยู่ภายใต้อิทธิพลของบ้านใหญ่รอบๆ กรุงเทพมหานครทั้งนั้น เพราะเกี่ยวพันการเมืองจึงแก้ไขไม่ได้ ถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลจะขอจองเดือนแรกเดินสายกำจัดขยะรอบกรุงเทพมหานครให้หมดสิ้น

ปลอดประสพ สุรัสวดี กล่าวว่า โรงงานอุตสาหกรรมในภาคตะวันออกมีมากกว่า 70,000 โรงงาน ซึ่งผลิตขยะอุตสาหกรรมทุกวัน แต่เรามีโรงบำบัดหรือกำจัดแค่ 2,000 โรงเท่านั้น ซึ่งไม่เพียงพอ จึงเกิดปัญหาตามข่าวคือแอบเอาขยะไปทิ้ง เอาน้ำเสียสารมีพิษไปปล่อยกระจัดกระจายไปหมด แต่ก่อนเรายังมีกฎหมายผังเมืองคอยควบคุมขอบเขตการจัดตั้งโรงงานแต่เพราะมีคำสั่งของ คสช. ไปยกเลิกจึงทำให้กลุ่มโรงงานกระจัดกระจายออกไป ดังนั้น ต้องไปแก้คำสั่ง คสช. เป็นเบื้องแรก

นโยบายพรรคเพื่อไทย ยืนบนหลักชีวิตและความปลอดภัยของประชาชนต้องมาก่อนสิ่งอื่น ดังนั้นอุตสาหกรรมต้องปรับตัวเปลี่ยนแปลงให้เป็น เซอร์คูลาร์อีโคโนมี (Circular Economy) หรือเศรษฐกิจหมุนเวียน หลักการของเศรษฐกิจหมุนเวียนคือการมุ่งใช้ทรัพยากรให้เกิดคุณค่าสูงสุด ลดปริมาณขยะให้เหลือน้อยที่สุด และสามารถบริหารจัดขยะ รีไซเคิลขยะนำกลับมาใช้ให้ได้มากที่สุด ต้องสามารถตรวจสอบขยะอันตรายย้อนหลังได้ว่าแหล่งที่มาจากไหน เคลื่อนย้ายไปเก็บพักกำจัดไว้ที่ใด และใครคือผู้รับผิดชอบ

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงจักรเจษฎา | THE STATES TIMES STORY EP.113

วันนี้ THE STATES TIMES Story จะพาคุณไปรับฟัง
เรื่องราวประวัติศาสตร์ของ ‘สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงจักรเจษฎา’ มีพระนามเดิมว่าลา เป็นพระโอรสพระองค์น้อยของสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก (ทองดี) ประสูติปีมะโรง พ.ศ. 2303 กับเรื่องเล่าของพระองค์เมื่อทรงพระเยาว์
ไปติดตามกันได้ใน THE STATES TIMES Story ใน EP. นี้ได้เลย

รับชม THE STATES TIMES STORY ตอนอื่นๆ ได้ที่ : https://youtube.com/playlist?list=PL60bae1syuyLbSZPZIUmXvd6NiToeX5qW

🎥 ช่องทางรับชม
Facebook: THE STATES TIMES PODCAST
YouTube: THE STATES TIMES PODCAST
TikTok: THE STATES TIMES PODCAST

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าฯ ทรงพระราชทาน ‘เข้าเฝ้า-รับรางวัล’ แก่เยาวชนคนเก่ง ภายในงานการประชุมวิชาการ สวทช. ประจำปี 2566

เมื่อไม่นานนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยัง อาคารศูนย์ประชุมอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ทรงเปิดการประชุมวิชาการ สวทช. ประจำปี 2566 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 ถึง 31 มีนาคม 2566 ภายใต้แนวคิด ‘สวทช. : ขุมพลังหลัก วทน. เร่งการขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจ BCG สู่ความยั่งยืน’ ตามนโยบายรัฐบาลในการขับเคลื่อนประเทศด้วยโมเดลเศรษฐกิจใหม่ BCG Economy Model เพื่อเป็นเวทีในการนำเสนอผลงานของบุคลากรด้านงานวิจัยและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และเรียนรู้จากเครือข่ายพันธมิตรทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน สนับสนุนให้เกิดการพัฒนาและขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคมและการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล มั่นคง และยั่งยืน

โอกาสนี้ มีพระราชดำรัสเปิดการประชุมและทรงตัดแถบแพรเปิด ‘นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไทย’ และ ‘นิทรรศการความก้าวหน้าทางงานวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี’ ของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ

สำหรับนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ จัดแสดงโครงการต่างๆ อาทิ นิทรรศการ ‘18 ปี ภาคีวิศวกรรมชีวการแพทย์ไทย’ ที่เน้นการสร้างผลงานไปสู่การใช้ประโยชน์ เช่น การพัฒนาเข็มขนาดไมโครเมตรสำหรับการรักษาและตรวจวินิจฉัยโรค ที่ช่วยให้การแพร่กระจายของยาหรือสารชีววัตถุเข้าสู่ผิวหนังดีขึ้น ชุดทดสอบประสิทธิภาพการฆ่าเชื้อในหม้อนึ่งความดันไอน้ำ ช่วยลดต้นทุนการผลิต ใช้งานง่ายและอ่านผลได้ด้วยตาเปล่า

‘โครงการภาคีโครงสร้างพื้นฐานระดับชาติด้าน e-Science’ เป็นโครงการตามพระราชดำริ ในด้านการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูง เพื่อเป็นโครงสร้างพื้นฐานสนับสนุนงานวิจัยด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรม และสนับสนุนความร่วมมือด้านฟิสิกส์อนุภาคพลังงานสูงระหว่างประเทศไทยและสภาวิจัยนิวเคลียร์แห่งยุโรปอันสามารถยกระดับงานวิจัยของประเทศไทยให้เท่าเทียมงานวิจัยระดับนานาชาติ

‘โครงการฝึกทักษะถอดความเสียงพูด เพื่อจัดทำคำบรรยายแทนเสียง สำหรับผู้มีปัญหาทางการได้ยิน’ ซึ่ง สวทช.ร่วมกับมูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และทัณฑสถานบำบัดพิเศษหญิงปทุมธานี จัดทำขึ้น เพื่อพัฒนาทักษะด้านการพิมพ์สัมผัสและถอดความเสียงพูดแก่ผู้ต้องขัง ซึ่งจะสามารถพัฒนาเป็นอาชีพภายหลังพ้นโทษได้ และ ‘NSTDA core business’ ซึ่งเป็นการแสดงผลงานการวิจัยด้านเศรษฐกิจและสังคม ที่ สวทช. มุ่งพัฒนาและขับเคลื่อนในยุค NSTDA 6.0 ในปี 2566 ให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยการนำงานวิจัยที่ตอบโจทย์ความต้องการของสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ 4 เรื่องคือ แพลตฟอร์มบริหารจัดการปัญหาเมือง แพลตฟอร์มบริการทางการแพทย์ดิจิทัล แพลตฟอร์มให้บริการผลิตอาหารแห่งอนาคต ผลิตภัณฑ์เวชสำอาง และผลิตภัณฑ์กลุ่มสารให้ประโยชน์เชิงหน้าที่ ในรูปแบบ One stop service และแพลตฟอร์มสนับสนุนอุตสาหกรรม 4.0

เวลา 14.31 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออก ณ วังสระปทุม พระราชทานพระราชวโรกาสให้นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำคณะผู้บริหารและข้าราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เฝ้าทูลละอองพระบาท ถวายพระพรชัยมงคลและทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ วันที่ 2 เมษายน 2566


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top