Wednesday, 14 May 2025
ค้นหา พบ 48047 ที่เกี่ยวข้อง

‘ดิสนีย์’ ประกาศปลดพนักงานครั้งใหญ่ 7,000 คน หลังกำไรธุรกิจสตรีมมิ่งไม่ปังตามเป้า

ดิสนีย์ประกาศปลดพนักงาน 7,000 คน เพื่อควบคุมต้นทุนให้เกิดสภาพคล่องมากขึ้นในธุรกิจ หลังดิสนีย์ เข้าไปลงแข่งในวงการสตรีมมิ่ง และทำกำไรไม่ได้ตามเป้า 

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า บ็อบ ไอเกอร์ CEO ของวอลท์ ดิสนีย์ (Walt “Disney”) ออกจดหมายถึงพนักงานว่า ดิสนีย์ประกาศการปลดพนักงานจำนวน 7,000 คน โดยจะเริ่มแจ้งพนักงานกลุ่มแรกในอีก 4 วันข้างหน้า ส่วนในรอบที่ 2 ซึ่งจะเป็นการประกาศครั้งใหญ่จำนวนหลายพันคน จะมีในเดือนเมษายน

และรอบสุดท้ายจะประกาศก่อนช่วงฤดูร้อน ทั้งนี้ การประกาศดังกล่าว เป็นการตัดสินใจยากลำบากของบริษัท เนื่องจาก พนักงานหลายคนเลือกมาทำงานที่นี่ ด้วยความหลงใหลในดิสนีย์ที่มีมาตลอดชีวิต

สถานทูตไทยในลอนดอน เตือน ให้ระวังมากขึ้น หลังไอร์แลนด์เหนือ ยกระดับเตือนภัยก่อการร้าย

สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงลอนดอน ออกประกาศเตือนว่า ไอร์แลนด์เหนือยกระดับการแจ้งเตือนภัยคุกคามจากการก่อการร้ายเป็นระดับ 4 แล้ว ขอให้คนไทยระมัดระวังขึ้น

(29 มี.ค. 66) สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงลอนดอน ของสหราชอาณาจักร ออกประกาศฉับใหม่ เพื่อแจ้งเรื่องการยกระดับการเตือนภัยคุกคามจากการก่อการร้ายภายในไอร์แลนด์เหนือ โดยมีเนื้อหาดังนี้

“ด้วยเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2566 นายคริส ฮีตัน-แฮริส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอร์แลนด์เหนือ ได้ประกาศยกระดับการแจ้งเตือนภัยคุกคามจากการก่อการร้ายในไอร์แลนด์เหนือ จากระดับ 3 ‘Substantial’ (เป็นไปได้ที่จะเกิดการโจมตี) เป็นระดับ 4 ‘Severe’ (เป็นไปได้สูงที่จะเกิดการโจมตี) โดยเป็นผลจากการประเมินสถานการณ์ของหน่วยข่าวกรองภายในประเทสของสหราชอาณาจักรจากเหตุการณ์ทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้อาจเกิดความไม่ปลอดภัยต่อเด็กและประชาชนในพื้นที่สาธารณะ”

“ในการนี้ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน ขอให้คนไทยที่พำนักอยู่ในไอร์แลนด์เหนือหรือเดินทางไปไอร์แลนด์เหนือในระยะนี้ โปรดใช้ความระมัดระวัง ไม่ตื่นตระหนัก หากพบเป็นเหตุการณ์หรือสิ่งที่ไม่น่าไว้วางใจ ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และติดตามข่าวสารของทางการสหราชอาณาจักรอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน ได้ที่สายด่วนฉุกเฉิน +44 7918 651720 หรืออีเมล [email protected]
 

“อลงกรณ์”ฉายภาพนโยบายเศรษฐกิจพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งเป้าเศรษฐกิจเติบโตอย่างน้อย5% ภายใต้ 3 นโยบายเรือธง(Flagship Policy)และระบบเศรษฐกิจใหม่พร้อมแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ 1 ล้านล้านและแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอีก1ล้านล้านบาท

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคในฐานะทีมเศรษฐกิจพรรคประชาธิปัตย์ชี้แจงถึงผลการประชุมว่าด้วยแนวทางนโยบายเศรษฐกิจของพรรคประชาธิปัตย์ระหว่างนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคกับทีมเศรษฐกิจวันนี้(29มีนาคม)ว่า พรรคประชาธิปัตย์กำหนดกรอบนโยบายเศรษฐกิจบน3นโยบายเรือธง(Flagship Policy)ได้แก่

 1.เศรษฐกิจฐานราก พรรคประชาธิปัตย์ให้ความสำคัญกับการพัฒนาภาคการเกษตรและภาคการท่องเที่ยวด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมเนื่องจากเป็น2ภาคเศรษฐกิจที่เป็นศักยภาพของประเทศโดยเฉพาะเกษตรถือเป็นดีเอ็นเอ(DNA) ของประเทศครอบคลุมสาขาพืช ประมง และปศุสัตว์ เช่นเดียวกับการท่องเที่ยวรวมทั้งธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(SME)ซึ่งเป็นธุรกิจสร้างงานสร้างอาชีพใหญ่ที่สุดของประเทศ
ตลอดจนการยกระดับภาคแรงงานในทุกสาขาซึ่งถือเป็นเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ

2.เศรษฐกิจมหภาค ทีมเศรษฐกิจพรรคประชาธิปัตย์กำหนดเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างมีเสถียรภาพและยั่งยืนไม่น้อยกว่า5%ต่อปีมุ่งกระจายรายได้กระจายความเจริญลดความเหลื่อมล้ำและเพิ่มการลงทุนในประเทศและต่างประเทศ พัฒนาตลาดทุนยุคใหม่ ส่งเสริมอุตสาหกรรมเกษตร อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและ12อุตสาหกรรมใหม่(12 S-Curves) รวมถึงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษในภูมิภาคและการลงทุน
โครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์ทั้งระบบขนส่งมวลชน ระบบราง ระบบถนน ระบบขนส่งทางน้ำและทางอากาศภายใต้ยุทธศาสตร์เขื่อมไทย เชื่อมโลก ตลอดจนการปูทางสร้างโอกาสด้วยความตกลงการค้าเสรี(FTA-Mini-FTA)โดยเฉพาะความตกลงว่าด้วยหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระดับภูมิภาค(RCEP)

3.เศรษฐกิจทันสมัยหรือเศรษฐกิจอนาคต พรรคประชาธิปัตย์เร่งวางรากฐานใหม่ให้ประเทศโดยสร้างเครื่องยนต์ตัวใหม่ทางเศรษฐกิจเพื่อเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศได้แก่เศรษฐกิจดิจิตอล (Digital Economy) เศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) เศรษฐกิจสูงวัย(Silver Economy) เศรษฐกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) เศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy)และเศรษฐกิจคาร์บอน(Carbon Economy) เป็นต้น

คืบหน้า สถานีรถไฟความเร็วสูงสระบุรี ล่าสุด ระบบฐานราก – เสาอาคาร คืบแล้ว 60%

(29 มี.ค. 66) เพจโครงสร้างพื้นฐาน ประเทศไทย Thailand Infrastructure ได้โพสต์ความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพ - นครราชสีมา ช่วงสระบุว่า ความคืบหน้าสถานีรถไฟความเร็วสูง สถานีแรกที่เริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว คือ สถานีรถไฟความเร็วสูงสระบุรี 

ซึ่งสถานีรถไฟความเร็วสูงสระบุรี มีการย้ายตำแหน่งสถานีจาก บริเวณจุดตัดถนนพหลโยธิน ไปอยู่บริเวณจุดตัดเลี่ยงเมืองสระบุรี ด้านหลังห้าง โรบินสันสระบุรี

ซึ่งมีการศึกษาและเปรียบเทียบ ประโยชน์ และปัญหาต่างๆ ของ ตำแหน่งเดิม และตำแหน่งใหม่ไว้ใน EIA ตามลิ้งค์นี้
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=630481400723676&id=491766874595130

รูปแบบโครงสร้างสถานี
ชั้นที่ 1 ชานชลารถไฟทางไกล (อนาคต)
ชั้นที่ 2 พื้นที่ขายตั๋วและเปลี่ยนถ่ายผู้โดยสาร
ชั้นที่ 3 พื้นที่รอคอยรถไฟความเร็วสูง
ชั้นที่ 4 ชานชลารถไฟความเร็วสูง

การเปลี่ยนประเทศของพรรคก้าวไกล คือเวลาเป็นฝ่ายค้านมักจะพูดปัญหา แต่ไม่มีโซลูชัน

การเปลี่ยนประเทศของพรรคก้าวไกล คือเวลาเป็นฝ่ายค้านมักจะพูดปัญหา แต่ไม่มีโซลูชัน แต่สิ่งที่คนทำอยู่เขากำลังพยายามแก้ทำให้มันดีขึ้นตลอด ไม่ใช่อยู่ ๆ ก็เปิดประเด็นจะเลือกตั้งผู้ว่าฯ ทุกจังหวัดทั่วประเทศเอย หรือพรรคนี้เขาบอกว่าเขาไม่ได้เปลี่ยนรัฐบาลนะเขาจะเปลี่ยนประเทศ คิดอะไรที่ไกลเกินไปคนไทยรับไม่ได้ 

ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ 
รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
กล่าวในรายการ เลือกตั้ง 66 'เปลี่ยนใหม่หรือไปต่อ' 
ตอน "ตัวตึง!"

28 มี.ค.66 เวลา 22:30 น.- 23:30 น.
•ดำเนินรายการโดย นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา 

•ผู้ร่วมรายการ
1.นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ พรรคเพื่อไทย
2.นายธนกร วังบุญคงชนะ พรรครวมไทยสร้างชาติ
3.นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ พรรคพลังประชารัฐ
4.นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร พรรคก้าวไกล
5.นายศุภชัย ใจสมุทร พรรคภูมิใจไทย

https://fb.watch/jyN6eyr2Sx/?mibextid=v7YzmG


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top