Saturday, 28 June 2025
ค้นหา พบ 49068 ที่เกี่ยวข้อง

‘ทิพานัน’ เผย ประชาชนให้ความสนใจ APEC 2022 พร้อมชู ‘BCG โมเดล’ พัฒนาศก.ไทย กระจายรายได้สู่ฐานราก

‘ทิพานัน’ เผยประชาชนตื่นตัวให้ความสนใจการเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปก โชว์ศักยภาพไทยพัฒนาเศรษฐกิจ BCG โมเดล กระจายรายได้สู่ฐานราก โต้เพื่อไทยชูทักษิณนักโทษหนีคดีเป็นแบบอย่างน่าอายไปทั่วโลก

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนและช่องทางสื่อสารในสังคมออนไลน์ มีพี่น้องประชาชนให้ความสนใจและตื่นตัวในการเป็นเจ้าภาพที่ดี ต้อนรับการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก หรือ เอเปก 2022 ในช่วงสัปดาห์นี้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะประโยชน์ที่จะได้รับจากการนำเสนอประเทศไทยในมิติต่าง ๆ รวมถึง ‘เป้าหมายกรุงเทพฯ ว่าด้วยเศรษฐกิจ BCG’ เพื่อให้เอเปกมีทิศทางการทำงานที่ชัดเจน สร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่สมดุลและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในระยะยาว 

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า โดยเฉพาะโมเดลเศรษฐกิจ BCG ที่รัฐบาล ภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เร่งผลักดันและส่งเสริมนั้น ได้รับความสนใจจากนานาชาติ โดยเฉพาะศักยภาพทางด้านการออกแบบสินค้าเชิงสร้างสรรค์จากวัสดุเหลือใช้ในภาคอุตสาหกรรม การสร้างระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่หลายผลิตภัณฑ์ของไทยได้มาตรฐานสากลและวางจำหน่ายในยุโรปบางประเทศแล้ว ซึ่งจะทำให้เกิดการจ้างงาน การกระจายรายได้ในชุมชนถึงรากหญ้า 

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า กระแสโมเดลเศรษฐกิจ BCG ยังปลุกให้บรรดาสตาร์ตอัปในประเทศให้ความสนใจและเข้าใจโมเดล BCG มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้เมนูอาหารของผู้นำเอเปกที่นำวัตถุดิบชั้นดีจากทั่วประเทศมาประกอบอาหาร กลายเป็นสินค้าขายดี นำเสนอซอฟต์พาวเวอร์อย่างเห็นผล สร้างรายได้ตั้งแต่ยังไม่เริ่มการประชุมอย่างเป็นทางการนับเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง ที่สำคัญการประชุมเอเปกยังเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วม โดยคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ทั้งสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และหอการค้าไทย และสมาคมธนาคารไทย ได้ทำหน้าที่ร่วมกันเป็นเจ้าภาพหลัก จัดการประชุมสุดยอดซีอีโอแห่งภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก 2022 หรือ ‘เอเปก ซีอีโอ ซัมมิท 2022’ ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-18 พ.ย.65 ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเวทีสำคัญที่มีภาคเอกชน ผู้นำและซีอีโอระดับชั้นนำของภูมิภาคมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่จะมีการนำประเด็นโมเดลเศรษฐกิจ BCG เข้ามาแลกเปลี่ยนเพื่อต่อยอดกัน โดยเป้าหมายหลักจะเน้นในเรื่องของการส่งเสริมการเปิดเขตเสรีการค้าและการลงทุน รวมถึงความร่วมมือด้านสังคมและการพัฒนาในทุกมิติ

'พระเกจิสายกรรมฐาน' ร่วมพิธีตรึงหมุดมณฑป ครอบครัว 'จิรรัตน์จรัสธร' ร่วมสร้างถวายอดีตพระเกจิชื่อดังแห่งเชียงใหม่ 'หลวงปู่สังข์ สังกิจฺโจ'

เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 ผู้บริหาร บริษัท ฐาปนินทร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเหล็กสเตนเลส ตั้งอยู่ภายในซอย ส.มณีรัตน์ ถนนเทพารักษ์ กม.11 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โดย นายขจรศักดิ์ จิรรัตน์จรัสธร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐาปนินทร์ จำกัด และ กรรมการ กต.ตร.จ.สมุทรปราการ พร้อมด้วย ครอบครัวจิรรัตน์จรัสธร และ พนักงานบริษัท ฐาปนินทร์ จำกัด ร่วมกันดำเนินการจัดสร้างมณฑปขนาดใหญ่ เพื่อน้อมถวายสรีระหลวงปู่สังข์ สังกิจฺโจ พระอริยเจ้าแห่งวัดป่าอาจารย์ตื้อ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เพื่อน้อมถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา เป็นถาวรวัตถุและสมบัติของพระพุทธศาสนา และเพื่อความเป็นสิริมงคลสืบไป

ซึ่งภายในพิธี ได้รับความเมตตาจากพระเถรานุเถระ โดย พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์สายกรรมฐาน จากวัดต่างๆ จำนวนกว่า 30 รูป ที่มีความเกี่ยวข้องกับหลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม ศิษย์พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต อาทิ พระราชวชิรกิจโสภณ (หลวงปู่บุญจันทร์ สีลคุโณ) เจ้าอาวาสวัดป่ามณีโคตมวงศ์ จ.อุดรธานี ได้เมตตามาเป็นประธานในพิธีสงฆ์ พร้อมด้วย พระครูวิโรจน์ธรรมาจารย์ เจ้าอาวาสวัดพุมุด จ.กาญจนบุรี พระวิมลศีลาจาร เจ้าอาวาส วัดบรมนิวาส ราชวรวิหาร กทม. พระอาจารย์สามเรือน ปุญญสโก เจ้าอาวาสวัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ และ พระราชวชิรธรรมาจารย์ เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี เป็นต้น นอกจากนี้ พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ จากวัดต่างๆ ทั่วประเทศ จำนวน 31 รูป ได้เมตตาออกเดินรับบิณฑบาตโปรดญาติโยม ภายใน บริษัท ฐาปนินทร์ จำกัด เพื่อความเป็นสิริมงคล อีกด้วย

โดยในพิธี การจัดสร้างมณฑป ในครั้งนี้ โดยนายขจรศักดิ์ จิรรัตน์จรัสธร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐาปนินทร์ จำกัด และ กรรมการ กต.ตร.จ.สมุทรปราการ ได้เป็นผู้ดำเนินการจัดสร้างมณฑป พร้อมทั้ง เป็นประธานฝ่ายฆราวาส โดยมี นายมนต์ชัย จิรรัตน์จรัสธร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐาปนินทร์ จำกัด พล.ต.ต.ดร.พัลลภ แอร่มหล้า ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ นายสุดใจ จิรยาภากร ประธานที่ปรึกษา กต.ตร.จ.สมุทรปราการ นายฉะโอด รุ่งเรือง อดีตนายก อบต.บางพลีใหญ่ และ คณะกรรมการ กต.ตร.จ.สมุทรปราการ คณะ กต.ตร.สภ.บางพลี ครอบครัวจิรรัตน์จรัสธร และ พนักงานบริษัท ฐาปนินทร์ จำกัด ตลอดจนแขกผู้มีเกียรติและผู้มีจิตศรัทธาร่วมในพิธีครั้งนี้

'กองทัพเรือ' แถลงข่าวเตรียมกิจกรรมครบรอบวันสิ้นพระชนม์ 100 ปี พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เพื่อเทิดพระเกียรติ 'องค์บิดาของทหารเรือไทย'

วันอังคารที่ 15 พฤศจิกายน 2565 เวลา 10.00 น. กองทัพเรือจัดงานแถลงข่าว เตรียมจัดกิจกรรมครบรอบวันสิ้นพระชนม์ 100 ปี พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เพื่อเทิดพระเกียรติ โดยมี พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในการแถลงข่าว ร่วมด้วย นายวิสาห์ พูลศิริรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร, หม่อมราชวงศ์ จิยากร อาภากร เสสะเวช ประธานมูลนิธิราชสกุลอาภากร , พลเรือเอก จุมพล ลุมพิกานนท์ ประธานมูลนิธิกรมหลวงชุมพรหาดทรายรี และ พลเรือโท ชาติชาย ทองสะอาด รองเสนาธิการทหารเรือ ร่วมแถลงข่าว ณ ห้องชมวัง อาคารราชนาวิกสภา ถ.อรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร 

ด้วยวันที่ 19 พฤษภาคม ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ของพลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ กองทัพเรือได้เทิดพระเกียรติและขนานนามพระองค์เป็น 'องค์บิดาของทหารเรือไทย' และกำหนดให้วันที่ 19 พฤษภาคม ของทุกปี เป็น 'วันอาภากร' โดยในวันที่19 พฤษภาคม 2566 นี้ จะเป็นวันครบรอบวันสิ้นพระชนม์ 100 ปี กองทัพเรือ จึงกำหนดจัดกิจกรรมเพื่อเทิดพระเกียรติและน้อมรำลึกในพระกรุณาธิคุณของพระองค์ท่านในส่วนของกองทัพเรือ ตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2565 ถึง 19 พฤษภาคม 2566 ประกอบด้วย

1. กิจกรรมร่วมร้องเพลงพระนิพนธ์นำเข้าสู่การจัดกิจกรรม 100 ปี วันสิ้นพระชนม์ ในวันที่ 19 ธันวาคม 2565 โดยมีการจัดพิธีเปลี่ยนธงราชนาวี เปลี่ยนธงพระยศ การติดตราสัญลักษณ์ '100 ปี วันสิ้นพระชนม์ฯ' กิจกรรมแปรขบวน และถ่ายภาพกำลังทางเรือ และกิจกรรมร่วมร้องเพลงพระนิพนธ์ ในพื้นที่หลัก ณ เขาแหลมปู่เจ้า อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ร่วมกับพื้นที่อื่น ๆ ของ ทร. และพื้นที่ ศรชล.จังหวัดทั้ง 23 จังหวัด พื้นที่ที่มีศาล พระรูป และพระอนุสาวรีย์ ตั้งอยู่ 

2. กิจกรรมเทิดพระเกียรติวันคล้ายวันประสูติ ในวันที่ 19 ธันวาคม 2565 โดยมีการทำบุญตักบาตร กิจกรรมจิตอาสาบูรณะศาล พระรูป และพระอนุสาวรีย์ กิจกรรมบริจาคโลหิต กิจกรรมบริการประชาชน กิจกรรมหน่วยแพทย์หมอพรเคลื่อนที่ กิจกรรมแสดงดนตรี กิจกรรมแสดงแสงสีเสียง โดยจัดขึ้น ณ บริเวณหนองตะเคียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี

3. กิจกรรมกองทัพเรือเพื่อประชาชน (CSR) ในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพเรือ จำนวน 5 ครั้ง ใน 5 พื้นที่ ได้แก่ ทัพเรือภาคที่ 1 ทัพเรือภาคที่ 2 ทัพเรือภาคที่ 3 กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด และหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง โดยจัดหน่วยแพทย์หมอพรเคลื่อนที่ทั้งทางบกและทางน้ำ การแสดงดนตรีจากวงดุริยางค์ทหารเรือ และการจัดนิทรรศการแสดงพระประวัติฯ 

4. การปรับปรุงบูรณะศาล พระรูป และพระอนุสาวรีย์ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เปลี่ยนธงราชนาวี และธงพระยศ 270 ศาล ทั่วประเทศ

รู้จัก ‘Supercomputer’ ของไทย ที่แรงติดอันดับโลก กับประโยชน์มหาศาล ช่วยหนุนงานวิจัยเชิงลึก

จากที่ ศาสตราจารย์ (พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวถึงข่าวการจัดอันดับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ TOP500 ซึ่งเป็นการจัดอันดับเพื่อจัดเก็บข้อมูลเชิงสถิติของระบบซูเปอร์คอมพิวเตอร์จากทั่วโลก รวมทั้งยังถูกนำไปใช้ในการแสดงศักยภาพด้านการคำนวณ 

หลายคนคงจะสงสัยว่า Supercomputer มันคืออะไร แล้วไทยจำเป็นต้องซื้อมาด้วยหรือ แล้วคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ เหล่านั้น มันจะซื้อมาทำไม มันจะทำงานอย่างไร มันจะเหมือนที่เราเห็นในหนังไซไฟหรือไม่ แล้วในโลกของความเป็นจริง Supercomputer จะทำได้เหมือนในหนังหรือ แค่เพียงดีดนิ้วปุ๊บ ทุกอย่างก็จะประมวลผลออกมาเลยหรือ 

คำตอบก็คือ มันยังไม่ล้ำถึงขนาดในหนังหรอก แต่ Supercomputer นั้นก็จะถูกนำไปใช้งานในเรื่องต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่นงานวิจัยพันธุกรรมดีเอ็นเอต่าง ๆ เรื่องยา การแพทย์ การเกษตร โดยทีมนักวิจัยนั้นก็จะใช้ Supercomputer ในการประมวลผล วิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะรวดเร็วขึ้นมาก 

นอกจากนั้นก็จะนำไปใช้จำลองสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างเช่น ภัยพิบัติสึนามิ ถ้าจะเกิดขึ้นอีกจะเกิดขึ้นในลักษณะไหน และเราควรจะอพยพกันแบบใด Supercomputer ก็จะช่วยเราประมวลผลได้ล่วงหน้า หรือ นำ Supercomputer มาใช้ร่วมกันกับ Ai ซึ่ง Ai นั้นก็เป็นสิ่งที่เราคุ้นเคยกันอยู่แล้ว มันเป็นสิ่งที่ช่วยเราประมวลผล แต่ก่อนที่มันจะประมวลผลได้ มันก็จะต้องทำงานโดยมีฐานข้อมูลจำนวนมาก ซึ่งต้องอาศัย Supercomputer นั่นเอง 

และที่จริงนั้น ประเทศไทย เรามี Supercomputer กันตั้งนานแล้ว มีมาตั้งแต่เมื่อ 30 ปีที่แล้ว โดย Supercomputer เครื่องแรกในไทยนั้น คือ IBM RS/6000 ซึ่งใช้พยากรณ์อากาศอยู่ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา เครื่องนี้มีความเร็วอยู่ที่ 12.96 GFLOP

ซึ่งคอมพิวเตอร์ทั่วไปความเร็วจะไม่ถึง 0.5  GFLOP ด้วยซ้ำไป และต่อมา ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ หรือ NECTEC ก็ได้ซื้อ  Supercomputer มาใช้ในงานวิจัยต่าง ๆ เช่น การจัดการข้อมูลน้ำของประเทศ ออกมาเป็นศูนย์รวมข้อมูลด้านการจัดการน้ำของประเทศ ให้สามารถขึ้นมาดูได้ในหน้าเดียว ในคลังข้อมูลน้ำแห่งชาติ ให้หน่วยงานต่าง ๆ นำไปใช้ประโยชน์ได้ 

และในปัจจุบันก็ได้พัฒนาเป็นแอป Thai water ต่อมา TNGC ก็นำ Supercomputer มาใช้ความเร็วอยู่ที่ 2.5 Teraflop แรงกว่า Supercomputer เครื่องแรกที่กรมอุตุนิยมวิทยา 200 เท่า ต่อมาก็เป็นระบบอิคลิปส์คลัสเตอร์ ซึ่งตั้งอยู่ที่ ศูนย์ไบโอเทค และก็มีเครื่องศิลาคลัสเตอร์ ตั้งอยู่ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ต่อมาสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ก็มีอีกเครื่องชื่อว่า ชาละวัน ในปี 2016 เครื่องนี้ความเร็วอยูที่ 16 Teraflop และในปี 2019 ประเทศไทยก็ได้จัดตั้งศูนย์ Supercomputer ขึ้นมา มีระบบชื่อว่า ธารา เป็น CPU 4,320 cores โดยทางจุฬาฯ เคยใช้เครื่องนี้ช่วยประมวลผลการวิจัยสารต้านโควิด จากที่เคยต้องประมวลผลประมาณ 1 สัปดาห์  เจ้าเครื่องนี้ก็ประมวลผลให้เสร็จภายใน 2 ชั่วโมง  

นอกจากนี้ก็ยังใช้เครื่องนี้ในการวิจัย คาดการณ์ P.M. 2.5 จากที่เคยใช้เวลา 12 ชั่วโมง ก็เหลือแค่ 45 นาที และบอกเตือนล่วงหน้าได้ถึง 3 วัน และตัวที่แรงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งมีชื่อว่า ลันตา นั้นความเร็วอยู่ที่ 13 Petaflop มี CPU 31,744 cores แรงขึ้นกว่าระบบ ธารา 30 เท่า หรือเทียบได้กับ iPhone 14 pro max 6,500 เครื่อง

บิ๊กป้อม ย้ำต้องไม่มีใครมาขัดขวางการประชุม APEC 2022 ขอบทุกฝ่ายปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศ ย้ำ ผบ.ตร.เพิ่มความเข้มการักษาความปลอดภัย และอำนวยการจราจร 

วันนี้ (16 พ.ย. 65) เวลา 09.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการฯ ได้มอบหมาย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร./รอง ผอ.กอร. เป็นประธานประชุมขับเคลื่อนกองอำนวยการร่วมฯ ติดตามสถานการณ์ด้านการข่าว สภาพภูมิอากาศ และแผนการปฏิบัติรักษาความปลอดภัยและการจราจรประจำวัน บูรณาการทุกภาคส่วน รวมกว่า 30 หน่วยงาน

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ เปิดเผยว่า ภาพรวมการปฏิบัติมีความพร้อมทุกภาคส่วน และเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งนี้สถานการณ์ด้านการข่าวทั้งในและนอกพื้นที่ กทม. ยังคงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งทุกฝ่ายได้เตรียมแผนการปฏิบัติรองรับไว้แล้ว และ สภาพการจราจรในวันนี้ ปริมาณรถน้อยเคลื่อนตัวได้อย่างคล่องตัว เนื่องจากเป็นวันหยุดราชการตามที่รัฐบาลกำหนด ทั้งนี้ ได้มีประกาศราชกิจจาลงวันที่ 14 พ.ย. 65 ประกาศข้อบังคับหัวหน้าเจ้าพนักงานจราจรในเขต กทม. ว่าด้วยการจัดการจราจรการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค พ.ศ.2565 มีผลบังคับใช้ในวันที่ 16 - 19 พ.ย.65 ดังนี้
1. ห้ามรถทุกชนิดเดินรถในถนนตลอดเวลา ถนนรัชดาภิเษก (ตั้งแต่แยกอโศกมนตรี ถึงแยกพระรามที่ 4) และถนนดวงพิทักษ์ (ตลอดสาย)
2. ห้ามรถทุกชนิดเดินรถในถนนเฉพาะเวลา 18.00 น. – 06.00 น.(ของวันรุ่งขึ้น) ถนน 5 สาย
3. ให้เดินรถทางเดียวในถนนเฉพาะเวลา 18.00 น. – 06.00 น.(ของวันรุ่งขึ้น) ถนน 3 สาย

งดการใช้สถานีรถไฟฟ้า MRT ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตั้งแต่วันที่ 16 – 19 พ.ย.65 และกำหนดพื้นที่ควบคุมการเดินเรือเป็นการเฉพาะคราวแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่วันที่ 17 พ.ย.65  สำหรับการลงทะเบียนของผู้พักอาศัยบริเวณถนนที่งดการใช้การจราจรขณะนี้มีกว่า 48,000 รายในพื้นที่ สน.ลุมพินี และ สน.ทองหล่อ และได้เปิดให้ลงทะเบียนต่อเนื่องจนถึงวันที่ 19 พ.ย.65 กรณีเจ้าหน้าที่ขนส่งพัสดุ ไปรษณีย์ อาหารหรือเอกสารต่างๆ สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณจุดตรวจและแสดงเอกสารหลักฐานเพื่อขอเข้าพื้นที่ได้ตามแต่กรณี


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top