Friday, 27 June 2025
ค้นหา พบ 49068 ที่เกี่ยวข้อง

เปิด 7 วิธี ปรับธุรกิจรอรับ ‘นทท.แดนมังกร’ หลังทางการจีน จ่อปลดล็อกนโยบาย Zero Covid

การจัดประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ปี 2565 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม มีสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจมากคือ ‘สี จิ้นผิง’ ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ด้วย เพราะอย่าลืมว่า ก่อนที่จะมีโควิดระบาด คนจีน คือ นักท่องเที่ยวหลักที่เดินทางมาท่องเที่ยวในไทย

แม้ขณะนี้ ยังไม่มีทีท่าว่าประเทศจีนจะผ่อนคลายให้คนเดินทางออกนอกประเทศ ตามนโยบาย ‘โควิดเป็นศูนย์’ (Zero Covid ) ซึ่งก่อนหน้านี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ออกมายอมรับว่า จากการประเมินในสถานการณ์ปัจจุบันยังไม่เห็นแนวโน้มที่นักท่องเที่ยวจีนจะเดินทางมายังประเทศไทยเป็นจำนวนมาก  

แต่ทว่า การที่ไทยได้เป็นเจ้าภาพการประชุมผู้นำเอเปคในครั้งนี้ จึงคาดหวังว่าจะมีการหารือแบบทวิภาคี ระหว่าง สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน กับ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ของไทย โดยการเจรจาคาดว่าจะเน้นไปในทิศทางให้ทางการจีนพิจารณาผ่อนคลายมาตรการเข้าออกพรมแดนในบางมณฑล เพื่อเปิดทางให้นักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้ามายังประเทศไทยอีกครั้ง

ซึ่งหากจีนมีการผ่อนคลายมาตรการเข้าออกพรมแดน ธุรกิจไทยควรเตรียมตัวอย่างไรบ้างตั้งแต่เนิ่น ๆ วันนี้ทีมข่าว The States Times จะสรุปให้อ่านกัน

จากผลสำรวจล่าสุดจาก Hotels.com™ ได้ศึกษาถึงพฤติกรรมที่มีผลต่อการท่องเที่ยวชาวจีนยุคใหม่ได้น่าสนใจ ดังนี้

- นักท่องเที่ยวชาวจีนยุคใหม่ หรือยุคมิลเลนเนียม (ผู้ที่เกิดหลังปี 2533 เป็นต้นไป) ใช้จ่ายเพิ่มขึ้นสูงอย่างเห็นได้ชัดระหว่างเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งเพิ่มขึ้นสูงถึงร้อยละ 80 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

- ประเทศไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีนดีที่สุดเป็นอันดับสอง เป็นรองแค่ประเทศญี่ปุ่น เนื่องมาจากความคล่องตัวในการใช้จ่ายผ่านแพลตฟอร์มการชำระเงินที่ครอบคลุมสำหรับนักท่องเที่ยวจีนและความสะดวกสบายในการติดต่อสื่อสารที่รองรับภาษาจีน เช่น ป้ายข้อมูลบอกทางต่าง ๆ เป็นต้น

- นักท่องเที่ยวชาวจีนรุ่นใหม่คำนึงถึงเรื่องความปลอดภัย (ร้อยละ 61) ในขณะที่อาหารท้องถิ่นก็มีความสำคัญไม่แตกต่างกัน 

- สิ่งที่มีอิทธิพลในการตัดสินใจออกเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวจีน ได้แก่ ทีวี ภาพยนตร์ และโซเชียลมีเดีย 

- นักท่องเที่ยวจีนชอบการเข้าพักในที่พักไฮเทค และชอบการลองทำกิจกรรมสุดแปลกแหวกแนว ชื่นชอบการสัมผัสประสบการณ์จริง 

- นักท่องเที่ยวชาวจีนรุ่นใหม่นิยมใช้จ่ายเงินไปกับการรับประทานอาหารเป็นส่วนใหญ่ โดยเลือกชิมอาหาร
ท้องถิ่นที่ไม่สามารถหารับประทานที่ไหนได้ (ร้อยละ 69) และเลือกเดินตามท้องถนนเพื่อชิมอาหารท้องถิ่นแท้ ๆ (ร้อยละ 43) มากกว่าการเลือกซื้อสินค้าราคาแพง (ร้อยละ 38) 

- นักท่องเที่ยวชาวจีนชื่นชอบผลิตภัณฑ์ และงานฝีมือที่มีชื่อเสียง (ร้อยละ 56) ส่วนมากจะซื้อไปเป็นของฝาก

นี่ชี้ให้เห็นแล้วว่าพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวจีนเป็นแบบไหน แล้วธุรกิจไทยควรเตรียมตัวอย่างไรบ้าง

1. ผู้ประกอบการ SME ไทยในด้านโรงแรมและที่พัก และธุรกิจร้านค้าต่าง ๆ ควรจัดหาสิ่ง
อำนวยความสะดวก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจ่ายเงินที่สะดวกรวดเร็วด้วยมือถือ หรือแอปพลิเคชัน WeChat เช่น ปริ้นต์ QR Code การจ่ายเงินผ่านการสแกนติดไว้หน้าร้าน หรือเคาน์เตอร์จ่ายเงิน

2. ติดป้ายบอกข้อมูลบอกทาง หรือข้อมูลสินค้าต่าง ๆ สินค้านั้นควรมีเรื่องราวดึงดูดหรือน่าสนใจ ให้นักท่องเที่ยวจีนเห็นแล้วอยากซื้อ

'จุรินทร์' โชว์วิชั่นกลางวงผู้นำเข้าข้าวโลกกว่า 1,000 ราย ดันข้าวไทยเป็นแหล่งผลิตแปรรูป-ส่งออก สร้างความมั่นคงทางอาหารคุณภาพโลก พร้อมย้ำ!ไทยส่งเสริมการค้าข้าวเสรีทั้งตลาดในและต่างประเทศ

(16 พ.ย.65) เวลา 10.30 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่วมประชุมและกล่าวปาฐกถาพิเศษการประชุมข้าวโลก ครั้งที่ 14 (14th World Rice Conference) พร้อมด้วย Mr.Jeremy Zwinger ประธานกรรมการบริหารนิตยสาร The Rice Trader นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยและผู้ประกอบการค้าข้าวทั้งในและต่างประเทศ ที่โรงแรมดวงจิตต์ รีสอร์ท แอนด์ สปา จังหวัดภูเก็ต โดยในงานนายจุรินทร์ได้กล่าวว่า ขอบคุณ Mr.Jeremy Zwinger และนิตยสาร The Rice Trader ที่ให้เกียรติกับประเทศไทยเป็นครั้งที่ 3  เพราะเคยจัดที่ไทยมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกที่จังหวัดเชียงใหม่ปี 2016 ครั้งที่สองที่จังหวัดภูเก็ตปี 2010 และครั้งนี้ครั้งที่สาม 2022 จังหวัดภูเก็ตเป็นเกาะเชื่อมกับจังหวัดพังงา ซึ่งเป็นเขตเลือกตั้งของตน การที่มาจัดการประชุมข้าวโลกที่ภูเก็ต หวังว่าทุกท่านจะได้มีโอกาสข้ามสะพานท้าวเทพกระษัตรีไปยังจังหวัดพังงาและจังหวัดอื่นในอันดามัน ทั้งภูเก็ตและกระบี่ ขอต้อนรับผู้ประกอบการข้าวจากทั่วโลกที่ได้มีโอกาสมาเยือนภูเก็ต

สำหรับสถานการณ์ข้าว ถือเป็นธัญพืชที่เพาะปลูกมากเป็นลำดับ 3 ของโลก รองจากข้าวโพด และข้าวสาลี ภูมิภาคที่บริโภคข้าวมากที่สุดในโลกคือทวีปเอเชีย มากกว่า 90% ของผลผลิตทั้งโลก ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์พบว่าปีนี้ 2022  ความต้องการข้าวโลกจะมากขึ้นประมาณ 3.5% เทียบจากปีที่แล้วที่ 517 ล้านตัน สูงสุดในรอบ 10 ปี เพราะปัญหาความวิตกกังวลเรื่องความมั่นคงทางอาหารจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน เศรษฐกิจโลกและความเปลี่ยนแปลงทางด้านภูมิอากาศ ส่งผลให้หลายประเทศที่เป็นผู้นำเข้าข้าวหันมาปลูกข้าวเพิ่มขึ้น เช่น อินโดนีเซียเซเนกัล ออสเตรเลีย ทั้งที่เป็นผู้นำข้าวมาก่อน ทำให้เกิดการแข่งขันด้านการตลาดข้าวรุนแรงตามไปด้วย

สำหรับประเทศไทย ถือเป็นประเทศที่ผลิตข้าวรายสำคัญของโลกปีนี้ ประเทศไทยผลิตข้าวเป็นลำดับ 4 ของโลก ประเทศที่ผลิตมากที่สุดในโลกคือ จีน 147 ล้านตัน อินเดีย 124 ล้านตัน เวียดนาม 27 ล้านตันและไทยผลิตได้ 20 ล้านตัน สำหรับการส่งออก 9 เดือนแรกของปีนี้ ม.ค.-ก.ย.ประเทศไทยส่งออกข้าวแล้ว 2,796 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 35.5% ปีที่แล้วส่งออกได้ 6.1 ล้านตัน ปีนี้คาดว่าจะส่งออกได้ถึง 7.5 ล้านตันโดยประมาณ  ด้านคุณภาพในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะตัวแทนรัฐบาลไทย ขอยืนยันว่าข้าวไทยเป็นข้าวที่มีคุณภาพดีที่สุดในโลกชนิดหนึ่งหรือประเทศหนึ่ง ดูจากผลการประกวดข้าวโลกของนิตยสาร The Rice Trader ซึ่งจัดมา 13 ครั้งประเทศไทยได้แชมป์ข้าวโลกถึง 7 ครั้ง เกินกว่าครึ่งหนึ่งของการจัดประกวด คือเครื่องการันตีว่าข้าวไทยเป็นข้าวที่มีคุณภาพมากที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง สำหรับนโยบายของรัฐบาลไทย 1. ประเทศไทยมียุทธศาสตร์ข้าวไทย ว่า 5 ปีตั้งแต่ปี 2020-2024 มีเป้าหมายสำคัญทำให้ประเทศไทยเป็นผู้นำด้านการผลิตด้าน การตลาดและด้านผลิตภัณฑ์ข้าวที่มีคุณภาพของโลกใช้ยุทธศาสตร์ 'ตลาดนำการผลิต' เพื่อสนองความต้องการของตลาดโลก กำหนดเป้าหมายแต่ละด้านชัดเจน เช่น ภายใน 5 ปี จะเพิ่มพันธุ์ข้าวใหม่ให้ได้อย่างน้อย 12 พันธุ์ วันนี้ปี 2022 มีข้าวพันธุ์ใหม่ที่ได้รับการรับรองแล้ว 6 พันธุ์ และคาดว่าไม่เกินปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า จะได้ข้าวพันธุ์ใหม่เพิ่มอีก 6 พันธุ์ รวมเป็น 12 พันธุ์ใหม่สนองความต้องการของตลาดโลกต่อไป 

ข้าวพันธุ์ใหม่ประกอบด้วยข้าวพื้นนุ่ม 4 พันธุ์ ข้าวพื้นแข็ง 4 พันธุ์ ข้าวหอม 2 พันธุ์ รวมทั้งข้าวคุณสมบัติพิเศษ เช่น ข้าวสี ข้าวเพื่อการบริโภค ข้าว Functional Food อีก 2 พันธุ์ วันนี้สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยกับกระทรวงพาณิชย์นำมาแสดงและให้ทุกท่านได้ชิม 2. นโยบายประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ดำเนินการมา 3 ปีเต็ม และปีนี้เป็นปีที่ 4 ปลายอายุของรัฐบาลนี้ จะหมดวาระประมาณเดือนมีนาคมปีหน้า  เมื่อวานคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเดินหน้าต่อนโยบายประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวใช้เงิน 81,200 ล้านบาท ให้ชาวนาในประเทศไทยมีรายได้เพียงพอกับการยังชีพ ถ้าราคาตกต่ำกว่ารายได้ที่ประกันจะมีเงินส่วนต่างช่วยชดเชยให้สามารถเลี้ยงชีพได้ ไม่เลิกอาชีพปลูกข้าวเพื่อทำให้ประเทศไทยมีข้าวบริโภคและเป็นส่วนหนึ่งด้านความมั่นคงทางอาหารของโลกดำรงอยู่ต่อไปได้ ด้วยฝีมือชาวนาไทยที่มีส่วนสำคัญ และทำให้ประเทศไทยเป็นครัวโลกหรือ Kitchen of the World เป็นแหล่งสำรองอาหารให้กับโลกโดยเฉพาะข้าวได้ต่อไป

ผบ.ตร.มอบรางวัลให้พลเมืองดี และตำรวจนาจอมเทียน ช่วยเหลือเด็กหญิงสาวถูกลักพาตัว รวมถึง สวป.มักกะสัน เจรจาต่อรองหนุ่มพม่า จะกระโดดสะพาน ในโครงการ 'ทำดี มีรางวัล'

(16 พ.ย. 65) เวลา 10.30 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้มอบรางวัลโครงการ 'ทำดี มีรางวัล' 2 ราย รายแรกเป็นกรณี พลเมืองดี และตำรวจ เข้าช่วยเหลือ ด.ญ.วัย 13 ปี จากการถูกลุงแท้ ๆ กำลังพาไปกระทำอนาจาร ส่วนอีกราย สวป.มักกะสัน เกลี่ยกล่อมหนุ่มชาวเมียนมาที่พยายามจะกระโดดสะพานยกระดับฆ่าตัวตาย 

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ เปิดเผยว่า กรณีปรากฎคลิป 2 เหตุการณ์ จนมีกระแสชื่นชมการปฏิบัติงานของตำรวจ และพลเมืองดีในสื่อสังคมออนไลน์นั้น 

กรณีแรก เมื่อวันที่ 12 พ.ย.65 เวลาประมาณ 15.00 น. นายสุขุม ผาติเสนะ อายุ 25 ปี พลเมืองดี ขณะขับรถจักรยานยนต์ผ่านมาประสบเหตุเด็กหญิงวัย 13 ปี ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ มีชายสูงวัยอายุราว 50 ปี เป็นผู้ขับขี่ เด็กหญิงได้ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ “ช่วยด้วย ช่วยด้วย” บริเวณถนนชุมชนยายร้า อ.บ้านฉาง จว.ระยอง จึงได้โทรศัพท์แจ้งเหตุ 191 พร้อมกับขับขี่รถไล่ติดตามไปอย่างกระชั้นชิด จากนั้นได้มี ส.ต.ต.พีรพัฒน์ เอี่ยวศิริ และ ส.ต.ต.สุรศักดิ์ ชัยชุมพร ผบ.หมู่ (ป.) สภ.นาจอมเทียน สายตรวจรถจักรยานยนต์ สภ.นาจอมเทียน จว.ชลบุรี เข้าระงับเหตุติดตามสกัดจับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว และขับขี่ประกบกับคนร้ายได้ รวมระยะทางกว่า 40 กิโลเมตร โดยขณะคนร้ายลดความเร็วเพื่อกลับรถหลบหนี เด็กหญิงจึงใช้จังหวะดังกล่าวกระโดดลงจากรถจักรยานยนต์ แล้ววิ่งหลบไปพักอยู่ในรถกับเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจได้ขับไล่ติดตามคนร้ายต่อไป และพยายามจะสกัดรถของคนร้าย จนเฉี่ยวชนกันทำให้รถจักรยานยนต์สายตรวจเสียหลักคว่ำไป เป็นเหตุให้ตำรวจสายตรวจทั้ง 2 นาย ได้รับบาดเจ็บแต่คนร้ายสามารถประคองรถ แล้วขับหลบหนีต่อไปได้  ปัจจุบันเด็กหญิงได้อยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็กและครอบครัว จว.ระยอง ของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

จากเหตุการณ์ดังกล่าว สํานักงานตํารวจแห่งชาติ ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า การปฏิบัติหน้าที่ของนายสุขุม ผาติเสนะ พลเมืองดี ส.ต.ต.พีรพัฒน์ เอี่ยวศิริ  และ ส.ต.ต.สุรศักดิ์ ชัยชุมพร ผบ.หมู่ (ป.) สภ.นาจอมเทียน สมควรได้รับการเชิดชูเกียรติ ยกย่องสรรเสริญ เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ข้าราชการตำรวจและสังคม

รองต่อศักดิ์ลงพื้นที่ จ.ประจวบฯ-ชุมพร ตรวจเยี่ยมด่าน ตรวจความมั่นคง เน้นย้ำกำลังพลเพิ่มความเข้มในการปฎิบัติหน้าที่ช่วงการประชุมเอเปค 2022

เมื่อเวลา 9.30 น. วันที่ 16 พ.ย.2565 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร. ( ปป.) พล.ต.ต. ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ รองผบช.ก. เดินทางมาตรวจเยี่ยมกำลังพล จุดตรวจมั่นคงห้วยยาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมีพล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมารอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.วันชัย ธารณธรรม ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธุ์ พ.ต.อ.ภาคภูมิ โห้ใย รองผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์พ.ต.อ.นนท์ ภักดีพันธ์ ผกก.สภ.ห้วยยาง พ.อ.พรรณศักดิ์ เพรียวพานิช รอง ผบ.ฉก.จงอางศึก และ น.ส.วิยะรัตน์ หนูเอกปลัดฝ่ายความมั่นคง อ.ทับสะแก ให้การต้อนรับ พร้อมบรรยายสรุปภารกิจ โดยด่านตรวจแห่งนี้เป็นหนึ่งในหลายๆด่านตรวจถาวร ที่เป็นเส้นทางคมนาคมสายหลัก โดยมีการปฏิบัติร่วมกันหลายหน่วยงานทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองร่วมปฎิบัติหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะช่วงระหว่างเดือนตุลาคม 2565 จนถึง 20 พ.ย. 2565 ซึ่งเป็นช่วงที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค 2022 ด่านตรวจแห่งนี้ได้เพิ่มมาตรการในการตรวจค้น และเฝ้าระวังกลุ่มบุคคนที่เป็นเป้าหมายด้านความมั่นคงมากขึ้นเป็นพิเศษ

มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ กับสถาบันพัฒนาบุคลากรสาขาเทคโนโลยีการผลิตอัตโนมัติและหุ่นยนต์ (MARA)

(16 พ.ย.65) ที่ห้องการะเกด มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ ได้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการระหว่างสถาบันพัฒนาบุคลากรสาขาเทคโนโลยีการผลิตอัตโนมัติและหุ่นยนต์ (MARA) กับมหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ โดยมีผู้ช่วยศาสตราจารย์พิภัทรา สิมะโรจนา รองอธิการบดี ม.ราชภัฏราชนครินทร์ /นายสมเกียรติ อู่เงิน ผู้อำนวยการและทีมสถาบันพัฒนาบุคลากร สาขาเทคโนโลยีการผลิตอัตโนมัติและหุ่นยนต์ /นายเมธี พรมศิลา คณะบดีคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม /นายพิษณุพงษ์ พุ่มมะรินทร์ นักวิชาการพัฒนาฝีมือแรงงานชำนาญการ ร่วมลงนาม

ทั้งนี้จากที่คณะเทคโนโลยอุตสาหกรรม ร่วมกับ สถาบันพัฒนาบุคลากรสาขาเทคโนโลยีการผลิตอัตโนมัติและหุ่นยนต์ (MARA) กับ มหาวิทยาลัยราชภัฎราชนครินทร์ ได้หารือร่วมมือในการยกระดับศักยภาพบุคลากรและนักศึกษา ซึ่งทั้งนี้คณะฯ ได้มีหลักสูตรทางด้านวิศวกรรมอุตสาหกรรมที่รองรับในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) การพัฒนาศักยภาพ บุคลากร และนักศึกษาจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้อง Upskill/ Reskill ให้ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน 

การจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาหลักสูตรระยะสั้น เพื่อทบทวนทักษะ (Re-Skill) ยกระดับทักษะ (Up-skill) สนับสนุนการฝึกอบรม สนับสนุนบุคลากรและอุปกรณ์ ที่ใช้ในการอบรม สนับสนุนให้ศึกษา วิจัย ในด้านระบบอัตโนมัติ หุ่นยนต์ ยานยนต์ไฟฟ้า ปัญญาประดิษฐ์ และสมองกลชั้นสูง (AI) พร้อมออกใบรับรองให้ผู้ผ่านการฝึกอบรมในนามของสถาบันพัฒนาบุคลากรสาขาเทคโนโลยีการผลิตอัตโนมัติและหุ่นยนต์


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top