Saturday, 28 June 2025
ค้นหา พบ 49068 ที่เกี่ยวข้อง

‘ตรีชฎา’ ซัด ‘ทิพานัน’ ใช้ตำแหน่งสาดโคลนเพื่อไทย ถาม!! หนุนคนทำรัฐประหาร ไม่ละอายใจบ้างหรือ?

‘ตรีชฎา’ สมเพช ‘ทิพานัน’ ใช้ตำแหน่งโทรโข่ง รบ.สาดโคลนใส่ร้ายพท. โวมีแต่นายกฯ จากการเลือกตั้ง ถามกลับยืนข้างคนทำรัฐประหารไม่อายบ้างหรือ

(16 พ.ย. 65) น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณีที่ น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวหาพรรคพท.ว่าด้อยค่าการจัดประชุมเอเปค 2022 ของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ พร้อมใส่ร้ายความเท็จผู้อื่น เอาดีเข้า พล.อ.ประยุทธ์ว่าไม่ใช้เวทีประชุมเอเปคเพื่อหาผลประโยชน์เข้าตนเอง หรือ ตระกูลใดตระกูลหนึ่งที่เคยโกงชาติไปว่า เป็นอีกครั้งที่น.ส.ทิพานันใช้ตำแหน่งทีมโฆษกรัฐบาลสาดโคลนโจมตีทางการเมือง น่าสมเพช หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลจะไม่แต่งตั้งโฆษกแบบนี้เพื่อมาทำงานลักษณะนี้ ความจริงเรื่องการทำหน้าที่ประธานในการจัดการประชุมเอแปค 2022 ภาคประชาสังคมและพรรคเพื่อไทยชี้แนะให้รัฐบาลใช้โอกาสการเป็นเจ้าภาพให้ประชาชนได้ประโยชน์ เช่น วิธีการและเป้าหมายในการบรรลุข้อตกลงร่วมแบบทวิภาคีกับกลุ่มประเทศสมาชิกเอเปคเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ตกต่ำ เป็นหนึ่งในวิธีดึงดูดเม็ดเงินการลงทุนจากประเทศสมาชิก เพื่อให้คุ้มค่ากับเงินลงทุนที่ประเทศต้องสูญเสียจากการจัดงาน เป็นต้น 

น.ส.ตรีชฎา กล่าวต่อว่า แต่ความคิดที่ฝังแน่นและท่องจำจนเป็นนิสัยติดตัว ที่พยายามใส่ร้ายและพาดพิงถึงอดีตนายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน เป็นการใส่ร้ายที่น่าเวทนาเป็นอย่างยิ่ง จึงขอฉายภาพให้น.ส.ทิพานันได้เห็นการทำหน้าที่ประธานในการจัดการประชุมเอเปคเมื่อปี 2545 ที่มีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และรัฐบาลในขณะนั้นทำหน้าที่จัดงาน ผู้นำแต่ละประเทศเห็นความสำคัญกับวาระการจัดงานของประเทศไทย ตอนนั้นผู้นำเขตเศรษฐกิจมาครบครัน ทั้งผู้นำสหรัฐฯ ผู้นำรัสเซีย รวมทั้งผู้นำของประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจมากมาย มีการจัดการประชุมอย่างสมบูรณ์แบบทุกด้าน เกิดผลการเจรจาจนสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจให้กับประเทศมากมาย จากนั้นยังใช้โอกาสฟื้นฟูหลังโรคซาร์ส คนไทยรู้ดีว่าเขตการค้าเสรีทำเพื่อคนไทยทั้งประเทศ มีแต่ น.ส.ทิพานันที่ไม่ว่าจะก้มหน้าหรือเงยหน้า ก็ท่องจำแต่เรื่องการทำเพื่อประโยชน์ของตระกูลใดตระกูลหนึ่ง พรรคเพื่อไทยไม่ได้ด้อยค่าการเป็นเจ้าภาพของประเทศไทย แต่สั่งสอนให้รู้ว่ามืออาชีพเขาทำอย่างไรมากกว่า และยังกังวลว่ารัฐบาลนี้จะสามารถเป็นเจ้าภาพได้ดี และคุ้มค่ากับสิ่งที่คนไทยไดัรับในการจัดการประชุมหรือไม่

‘โรม’ ประณามตร.จับ 3 นักศึกษามุสลิมช่วงเอเปก ชี้!! จับแบบเลื่อนลอย-ไร้หลักเกณฑ์ ขายขี้หน้าชาวโลก

(16 พ.ย. 65) ‘รังสิมันต์ โรม’ โฆษกพรรคก้าวไกล แสดงความเห็นต่อกรณีที่มีนักศึกษามุสลิมจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง 3 คนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าค้นที่พักก่อนควบคุมตัวไปที่ สน.หัวหมาก โดยทางตำรวจอ้างเหตุว่าอาจก่อความไม่สงบระหว่างการประชุม APEC ต่อมาเมื่อทั้ง 3 คนติดต่อทนายความส่วนตัวได้แล้ว ทางตำรวจแจ้งว่าหากลงลายมือชื่อยินยอมให้เข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและบันทึกประจำวันก็จะปล่อยตัวภายในวันนี้ (ล่าสุดได้รับการปล่อยตัวแล้ว)

รังสิมันต์ระบุว่า การเข้าค้นดังกล่าวนั้นเจ้าหน้าที่อ้างว่ามีหมายค้น ซึ่งทราบมาว่าสุดท้ายแล้วไม่พบสิ่งของที่เป็นความผิดหรือต้องสงสัยว่าจะไปก่อเหตุใด ๆ ได้ แต่การที่ตำรวจนำตัวนักศึกษาไปยัง สน.หัวหมากด้วยนั้นเป็นสิ่งที่เกินเลยกว่าเรื่องการค้นไปแล้ว เพราะอาจเข้าข่ายเป็นการจับ ซึ่งไม่มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ที่เข้าค้นนั้นมีหมายจับนักศึกษาทั้ง 3 คน และทั้ง 3 คนนี้ก็ไม่เคยมีคดีความมั่นคงมาก่อน การที่จะจับโดยที่ไม่มีหมายนั้นจึงต้องเป็นกรณีที่พบการกระทำความผิดซึ่งหน้าเท่านั้น

17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2514 ‘จอมพลถนอม กิตติขจร’ ก่อการรัฐประหารตัวเอง หลังไม่อาจคุมสถานการณ์ในสภาฯ ได้อีกต่อไป

เหตุการณ์เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2514 เป็นการรัฐประหารยึดอำนาจตัวเองอีกครั้งในประวัติศาสตร์ชาติไทย เหมือนรัฐประหาร พ.ศ. 2494 ของจอมพล ป. พิบูลสงคราม

การรัฐประหารในครั้งนี้ สาเหตุสืบเนื่องจากการที่สมาชิกพรรคสหประชาไทยของจอมพลถนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งในปี พ.ศ. 2512 ได้เรียกร้องผลประโยชน์ตอบแทนต่าง ๆ ตามที่จอมพลถนอมได้เคยสัญญาไว้ในช่วงเลือกตั้ง เมื่อไม่ได้รับการตอบแทนดังที่สัญญาไว้ ส.ส.เหล่านี้ได้ต่างพากันเรียกร้องต่าง ๆ นานา บ้างก็ขู่ว่าจะลาออก เป็นต้น ซึ่งเหล่านี้เป็นเหตุให้ จอมพลถนอม หัวหน้าพรรคและนายกรัฐมนตรีซึ่งได้รับฉายาสมัยนั้นว่า 'นายกฯคนซื่อ' ไม่อาจควบคุมสถานการณ์ในสภาฯ ได้ จึงทำการยึดอำนาจตนเองขึ้น โดยไม่มีชื่อเรียกคณะรัฐประหารในครั้งนี้โดยเฉพาะเหมือนการรัฐประหารที่เคยมีมาในอดีต แต่เรียกตัวเองเพียงแค่ว่า คณะปฏิวัติ

โดยมีคำปรารภในการยึดอำนาจตัวเองครั้งนี้ว่า ภัยที่คุกคามประเทศและราชบัลลังก์ สถานการณ์ความวุ่นวายทั้งภายในและภายนอกสภานิติบัญญัติ การนัดหยุดงานของกรรมกร การเดินขบวนของนักศึกษา การแก้ไขสถานการณ์ถ้าจะดำเนินการตามวิถีทางรัฐธรรมนูญย่อมไม่ทันต่อเหตุการณ์ จึงจำเป็นต้องใช้การยึดอำนาจการปกครองเพื่อให้สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้โดยเฉียบขาดและฉับพลัน 

จากนั้นคำสั่งของคณะรัฐประหารได้สั่งให้ยกเลิกรัฐธรรมนูญปี พ.ศ. 2511 ที่ใช้อยู่ก่อนหน้านั้น และยกเลิกรัฐสภา ยกเลิกพรรคการเมืองและประกาศห้ามมั่วสุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป

คณะปฏิวัติได้ครองอำนาจมาถึงวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2515 จึงประกาศใช้ธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พ.ศ. 2515 ให้ข้าราชการประจำดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้และตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ มีมติให้จอมพลถนอมเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป ซึ่งในธรรมนูญการปกครองฯ ฉบับนี้มีการนำเอารัฐธรรมนูญมาตรา 17 กลับมาใช้อีกครั้งเหมือนยุคของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ที่ให้อำนาจนายกรัฐมนตรีเต็มที่ในการสั่งการใด ๆ อันเนื่องจากเหตุที่กระทบต่อความมั่นคงของราชอาณาจักร โดยไม่ต้องผ่านการพิจารณาของสภาฯ หรือ มีกฎหมายฉบับใด ๆ มารองรับ

‘เทมส์ ไกรทัศน์’ วอนอย่าทำเสียบรรยากาศเอเปค ชี้ เป็นโอกาสสำคัญฟื้นท่องเที่ยวหลังวิกฤตโควิด

นายเทมส์ ไกรทัศน์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภูเก็ต  พรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า วันนี้เราคงรู้กันดีอยู่แล้วว่า เรากำลังเข้าสู่ห้วงเวลาสัปดาห์การประชุมสุดยอดผู้นำเอเปค #APEC2022THAILAND เป็นเวลาและโอกาสสำหรับประเทศไทยที่จะได้แสดงศักยภาพของประเทศ รวมถึงการเน้นย้ำความเป็นผู้นำโลกในเรื่องของการต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองระดับสำคัญและผู้มาเยือนจากทั่วโลก 

ขณะเดียวกัน ห้วงเวลานี้ของภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยและโดยเฉพาะชาวภูเก็ตที่เป็นธุรกิจท่องเที่ยวและบริการทั้งจังหวัดเกือบ 100% เรากำลังมีการเปิดฤดูการท่องเที่ยว ที่จะเป็น High Season แรกที่เราจะทำมาหากินกันได้อย่างเต็มที่ หลังวิกฤตการระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา 

'บช.น.' แจ้งหลีกเลี่ยงเส้นทางในการประชุมเอเปค วันที่ 17 พ.ย.2565 เวลา 18.00 น. – 20.00 น.และ เวลา 21.00 น. – 23.00 น.


​​

​​พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น./โฆษก บช.น. และ พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ 
รอง ผบช.น./รอง โฆษก บช.น. ขอประชาสัมพันธ์ข่าวสารให้ประชาชนทราบ ตามที่รัฐบาลไทยเป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมเอเปค ครั้งที่ 29 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ กองบัญชาการตำรวจนครบาล รับผิดชอบภารกิจการรักษาความปลอดภัยและจัดการจราจรให้แก่ผู้นำประเทศ และผู้เข้าร่วมประชุม เพื่อเป็นการรักษาความปลอดภัยให้เป็นไปตามแผนการปฏิบัติในการจัดการจราจรดังกล่าว จึงมีความจำเป็นต้องปิดการจราจร ในวันพฤหัสบดีที่ 17 พ.ย. 2565 เวลา 18.00 น. – 20.00 น. และ เวลา 21.00 น. – 23.00 น. ในบางเส้นทาง และบางช่วงบางเวลา จึงอาจส่งผลกระทบต่อการเดินทางของพี่น้องประชาชน จึงแจ้งมาเพื่อเป็นข้อมูลในการเตรียมความพร้อมและวางแผนการเดินทาง ดังนี้ 
1. เส้นทางที่อาจได้รับผลกระทบ  
1.1) เส้นทาง (พื้นราบ) ฝั่งขึ้น/ลง ด่วนพระราม 4-2
1) ถ.เพลินจิต (แยกราชประสงค์ - แยกเพลินจิต )
2) ถ.สุขุมวิท (แยกเพลินจิต – ซอยสุขุมวิท 22 )
3) ถ.ราชดำริ (แยกราชประสงค์ – แยกศาลาแดง)
​4) ถ.วิทยุ (แยกเพลินจิต - แยกวิทยุ)
​5) ถ.รัชดาฯ (แยกอโศกมนตรี – แยกพระราม4)
6) ถ.พระราม4  (แยกศาลาแดง - แยกพระราม 4)
7) ถ.สาทร (แยกวิทยุ - แยกนรินธร )
1.2)  เส้นทางที่ได้รับผลกระทบ (พื้นราบ) ฝั่งขึ้น/ลง ด่วนยมราช
1) ถ.เพชรบุรี (แยกอุรุพงษ์  - แยกยมราช )
2) ถ.พิษณุโลก (แยกยมราช – แยกสวนมิสกวัน )
3) ถ.ราชดำเนินนอก (แยกสวนมิสกวัน – แยกจปร.)
4) ถ.วิสุทธิกษัตริย์​
​5) ถ.อรุณอัมรินทร์ (ตลอดสาย)
6) สะพานพระราม 8

1.3) เส้นทางทางด่วน
​1) ทางขึ้นด่วนสุรวงศ์ ​​​5) ต่างระดับพญาไท – ต่างระดับมักกะสัน
 ​2) ทางลงด่วนสีลม ​​​6) ทางขึ้น/ลงด่วนเพลินจิต
 ​​3) ทางลงด่วนอุรุพงษ์ ​​​7) ทางขึ้น/ลงด่วนพระราม 4/2
​​4) ทางขึ้น/ลงด่วนยมราช


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top