Monday, 30 June 2025
ค้นหา พบ 49099 ที่เกี่ยวข้อง

‘บิ๊กป้อม’ ตรวจความพร้อมรับ APEC 2022 กำชับทุกหน่วยไม่ประมาท ยึดหลักปฏิบัติสากล

‘บิ๊กป้อม’ ลงตรวจความพร้อมการดูแลความปลอดภัยประชุม APEC ย้ำตระหนักตื่นตัวไม่ประมาท เข้มปฏิบัติยึดหลักสากลและมีส่วนร่วม

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม มช.กห.และคณะ ลงตรวจความพร้อมการดูแลความปลอดภัยในการจัดประชุม APEC ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยดูการเตรียมความพร้อมและแผนเผชิญเหตุของการรักษาความปลอดภัย ทั้งบุคคล สถานที่ เส้นทางการจราจร ไซเบอร์ รวมทั้งการป้องกันการก่อการร้ายสากล และการสนับสนุนทางการแพทย์และสาธารณสุข  โดยมี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ, ปลัดกระทรวงมหาดไทย, ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ,ปลัดกระทรวงกลาโหม, ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้แทน ผบ.เหล่าทัพ ให้การต้อนรับ

ความจริง!! จากปากคนแคลิฟอร์เนีย เมื่อ ‘สหรัฐอเมริกา’ ไม่น่าอยู่อีกต่อไป

เมื่อเร็ว ๆ นี้ โลกออนไลน์ได้แชร์คลิปวิดีโอ (https://fb.watch/gINmbtDpUc/) ของ ‘น้องแตงโม’ หรือ ‘จูเลียน’ หนุ่มหล่อชาวอเมริกันที่อาศัยอยู่ในไทย กว่า 5 ปี ผู้มีพื้นเพเป็นชาวเมืองซานฟานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยเขาชื่อเล่น ‘แตงโม’ ให้กับตัวเอง เพราะเรียกง่าย พร้อมเล่นมุกว่า "ไม่อยากเป็นฝรั่งแล้ว อยากเป็นแตงโมแทน" จนกลายเป็นที่ติดตามของคนไทยในโลกโซเชียลเป็นจำนวนมาก

โดยคลิปดังกล่าวพาดหัวข้อว่า ‘แตงโมรู้สึกยังไงบ้างที่ได้กลับมาไทยหลังจากกลับไปเมกามา 2 เดือน’ ซึ่งในคลิปนั้นมีการพูดถึงความรู้สึกของ แตงโม ที่ทำให้เขารู้สึกหมดหวังกับการใช้ชีวิตที่ประเทศบ้านเกิด และมองว่าประเทศไทย สังคมไทย คนไทย เป็นอะไรที่ดีที่สุดแล้ว

“ถามว่าคิดถึงไหม คิดถึงแน่นอน เพราะไม่ได้กลับอเมริกามา 4 ปี แต่ว่ารอบล่าสุดที่โมกลับอเมริกา กูว่าไม่มีความหวังกับประเทศกูแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ยังมีหวังอยู่นิดนึง แต่กลับไป กูได้เห็นอะไรหลายๆ อย่าง แบบทำไมเป็นอย่างงี้วะ

เป็นเพราะว่า ล่าสุดอยู่อเมริกา กูยังเด็ก กูยังไม่รู้เรื่องอะไร หรือว่าเพราะเป็นบ้านเมืองแย่ลง ก็มีส่วนแหละ

ผู้นำตอนนี้ก็หลาย ๆ เรื่อง เรื่องการเมือง เรื่องค่าครองชีพ อาหารก็แพง ที่ไทยก็แพงขึ้น แต่ที่อเมริกาก็แพงขึ้นหลาย ๆ เท่า 

อย่างที่บ้านกู เอาง่าย ๆ โจรก็เยอะขึ้น ค่ารองชีพก็แพงขึ้น กฎหมายก็เข้มขึ้น คนไร้บ้านก็เยอะขึ้น เหมือนความยุติธรรม ความเสรีที่เป็นของอเมริกา (Freedom) มันแทบจะไม่มีแล้ว 

อันนี้เราพูดถึง แคลิฟอร์เนีย หรือ นิวยอร์ก หรือพวกรัฐใหญ่ ๆ ดัง ๆ จะแย่กว่ารัฐกลาง ๆ ที่ยังมีความ slow life อยู่ แต่เชื่อเถอะว่า อีกไม่นาน ทุกรัฐก็จะแย่ตาม เพราะแต่ละรัฐมีผู้นำแยกกันไปอีก 

เอาเป็นว่า กูไม่มีความหวังกับประเทศกูแล้ว มันไม่น่าอยู่เลย บ้านกูอ่ะ กลับกันไม่มีอะไรที่กู ทำในไทยไม่ได้ เผลอ ๆ ในไทยอาจจะมีกิจกรรมให้ทำเยอะกว่า ไทยเสรีกว่า น่าอยู่มาก

กูไม่เอ่ยชื่อนะ มีรุ่นพี่อยู่คนนึง ไปมาหลายประเทศแล้ว เขาพูดอังกฤษได้ เขาพูดไทยได้ เขาก็เก่งแล้ว เขาก็ไปหลายที่ เขายังบอกอยู่ว่า ประเทศไทยน่าอยู่ที่สุดแล้ว

เขาเคยไปอเมริกา เขาบอกว่า อเมริกาไม่เหมือนอย่างที่คิด ไม่เห็นอย่างที่เหมือนใน Social พวก YouTuber ที่ไปถ่าย สุดท้ายเขาบอกว่า ประเทศไทยน่าอยู่ที่สุดแล้ว

คนอเมริกาเขาเก่ง ฝรั่งเขาเก่ง สิ่งที่เห็นใน Social เป็นด้านแบบ โลกสวย!!

ส่วนคนไทยที่ไป Work and Travel อยู่กับ Agency ก็จะอยู่กับคนไทย และทำงานร้านอาหารไทย เค้าจะอยู่แบบรัฐกึ่ง ๆ กลาง ๆ ซึ่งความจริงในความคิดเห็นส่วนตัว คุณไม่ได้ Experience อเมริกาของจริง มันก็เหมือนกับ ฝรั่งที่ย้ายมาอยู่ไทยแล้วอยู่สุขุมวิท ก็อยู่แต่ตรงนั้น หรือ พัทยา คือ เขาอยู่แค่ตรงนั้น จะไม่ได้สัมผัสกับ Culture ที่แท้จริงของอเมริกา

แต่ถ้าลองไปอยู่จริง ๆ ส่วนใหญ่ก็จะคิดเหมือนกัน คือ คุณจะคิดถึงไทย เพราะตอนผมกลับไปค่าครองชีพตกวันละ 60-100 เหรียญ ผมใช้เงินวันละร่วม 3 พันบาท แต่อย่าไปอ้างว่าที่นั่นให้เงินเดือนเยอะนะ มันไม่เกี่ยวกันเลย ตอนนี้มันแพงจริง แต่ก่อนข้าวจานนึงแค่ 10 เหรียญ ประมาณ 200 – 300 บาท อันนั้นเข้าใจ เอาเป็นว่าอยู่เมืองไทยเงิน 1 พันบาท กูอยู่ได่ 2-3 วัน

เอาง่าย ๆ ตอนนี้ ขนาดคนอเมริกายังเดือดร้อน อย่างคนบ้านกูอ่ะ คนย้ายออกจากรัฐแคลิฟอร์เนีย ไปรัฐอื่น ที่ภาษีลดลง แต่ทุกรัฐจะพังทลายไปหมด เชื่อกูดิ กูมั่นใจอีก 5 ปี นอกจากเปลี่ยนผู้นำ คนที่ไม่ใช่ ‘ไบเดน’ คนที่ดีกว่านั้น กูพูดงี้เลย ไปเที่ยวยุโรปก่อน 

ฉะนั้นสำคัญคนไทยที่อยากไปอเมริกา ก็พูดยาก ถ้าอยากหาประสบการณ์ที่อเมริกา เพื่อที่จะฝึกภาษา หาเพื่อนใหม่ หางาน มันก็ได้แหละ แต่ความเป็นจริง คุณต้องนึกถึงตั้งหลายอย่าง เรื่องความปลอดภัยของคุณ ที่อเมริกา ก็ไม่ได้ปลอดภัยตอนนี้

ข้อควรรู้ ‘ขับขี่มือใหม่’ สายพลังงานสะอาด ‘ชาร์จ’ รถ EV ต้องทำแบบนี้ ‘ปลอดภัย-ไฟแรง’

ปัจจุบันระบบนิเวศของยานยนต์ไฟฟ้า EV ได้เริ่มไหลเวียนเข้ามาสู่ชีวิตประจำวันของผู้คนอย่างเรา ๆ ได้ใช้งานมากขึ้นเรื่อย ๆ

แต่อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องตระหนักไม่น้อยไปกว่าเฟสของ ‘การใช้งาน’ ในผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในตลาด เช่น ตัวรถยนต์ มอเตอร์ แบตเตอรี่ หรือแม้แต่ที่ชาร์จ ก็คือ เรื่องของมาตรฐานของห่วงโซ่ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับ EV

ไม่นานมานี้ ท่านสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ก็สั่งเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบาย EV อย่างต่อเนื่อง โดยเร่งรัดให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) นำมาตรฐานแบตเตอรี่ไฟฟ้า ทั้งมอเตอร์ไซค์ และรถยนต์ รวมทั้งสถานีชาร์จ เสนอบอร์ดเพื่อขอความเห็นชอบในการบังคับใช้มาตรฐาน โดยกำหนดให้เป็นสินค้าควบคุมเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค

สาระสำคัญที่น่าสนใจในเฟสนี้ คงอยู่ที่เรื่องของพลังงานเสียมาก โดยเฉพาะในส่วนของสถานีชาร์จ หรือแม้แต่ที่ชาร์จตามบ้าน ซึ่งหากใช้อย่างไม่รู้เท่าทัน แทนที่รถยนต์ไฟฟ้าจะช่วยปันเงินส่วนต่างที่แพงหูฉี่จากน้ำมันมาเข้ากระเป๋า อาจทำให้เราต้องควักเงินเพิ่มเพื่อไปดูแล อุปกรณ์เกี่ยวเนื่องต่อการใช้งานอีวีนั้น ๆ ก็เป็นได้

วันนี้ ผมเลยถือโอกาสแนะแนวทางการชาร์จแบตฯ รถยนต์ไฟฟ้าที่ควรรู้สำหรับทุกท่านที่เริ่มเข้าสู่สังคมพลังงานสะอาด 100% กันสักเล็กน้อยครับ 

สำหรับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้านั้น หลัก ๆ ก็จะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 แบบ คือ…

>>การชาร์จแบบธรรมดา (Normal Charge)
เป็นการชาร์จไฟฟ้าจากตัวเต้ารับโดยตรง และเต้ารับต้องติดตั้งใหม่เฉพาะการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น โดยเป็นการใช้ไฟบ้านที่เป็นกระแสสลับ (AC) ใช้ระยะเวลาในการชาร์จประมาณ 12 ถึง 16 ชั่วโมง

‘ศิริกัญญา’ หอบหลักยื่น ป.ป.ช. เอาผิด กสทช. ปล่อยควบรวม True-DTAC ผิดมาตรา 157

‘ศิริกัญญา’ ยื่นหนังสือ ป.ป.ช. ให้เอาผิด กสทช. เสียงข้างมากที่ปล่อยควบรวม True-DTAC พร้อมหอบหลักฐานมีกรรมการ กสทช. บางคนมีรับผลประโยชน์จากซีพี

ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินทางไปยังอาคารสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช) สนามบินน้ำ จังหวัดนนทบุรี เพื่อยื่นหนังสือให้มีการไต่สวนและตรวจสอบกรณีการปล่อยให้มีการควบรวมทรู-ดีแทค ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 การปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หลังกสทช.มีการลงมติเพียงแค่รับทราบการควบรวมกิจการ 2 ค่ายมือถือ โดยทำการยังยั้งการควบรวมตามอำนาจหน้าที่ที่ตนเองมี

ศิริกัญญา ได้พูดถึงปัญหาของการควบรวมกิจการไว้ว่าได้ทำการศึกษาราคาค่าบริการหลังควบรวมพบว่า ราคาค่าบริการจะสูงขึ้นและศักยภาพการให้บริการจะด้อยลง แตกต่างจากในตลาดมือถือที่มีการแข่งขันของรายใหญ่ 3 เจ้า แต่กสทช. ไม่ทำหน้าที่ของตนให้เหมาะสมในการยับยั้งความเสียหายที่จะเกิดขึ้น

นอกจากนี้ ในการลงมติของกสทช. ที่เป็นมติพิเศษ มีหลักเกณฑ์ว่า จะต้องได้เสียงกึ่งหนึ่งในการลงมติ และคณะกรรมการในครั้งนี้มีทั้งหมด 5 คน จึงจะต้องลงเสียงให้ได้คะแนน 3:2 แต่มติในครั้งนี้คือ 2:2:1 งดออกเสียงหนึ่งเสียง หากว่ากันตามข้อบังคับการประชุมจะต้องได้ทั้งหมด 3 เสียงขึ้นไป ดังนั้นกสทช. กำลังทำผิดกฎหมายที่ตนเองร่างขึ้นมา

กรมประมงโชว์ผลงานเด่นเพิ่มปูทะเลสำเร็จ 4 ปี 400% 'เฉลิมชัย' เร่งขยายผลปล่อยพันธุ์ปูทะเลอีก 1.3 ล้านตัวลงทะเลประจวบคีรีขันธ์ หวังเพิ่มทรัพยากรประมงให้แก่ชุมชนอย่างยั่งยืน

ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มอบหมายนายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการประมงไทยของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานพิธีปล่อยพันธุ์ปูทะเล 'โครงการฟื้นฟูทรัพยากรประมงบริเวณแหล่งก่อเกิดทรัพยากรสัตว์น้ำชายฝั่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประจำปีงบประมาณ 2566' โดยมีนายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายบัญชา สุขแก้ว รองอธิบดีกรมประมง นายถาวร ทันใจ รองอธิบดีกรมประมง นายประพันธ์ ลีปายะคุณ รองอธิบดีกรมประมง นายมานพ หนูสอน รองอธิบดีกรมประมง นายมนตรี ปาน้อยนนท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายณฐกร สุวรรณธาดา คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้แทนสมาคมประมงประจวบคีรีขันธ์เข้าร่วม ณ คลองเขาแดง (บริเวณวัดเขาแดง) อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

โดยกรมประมงร่วมกับจังหวัดประจวบคีรีขันธ์จัดขึ้น มีวัตถุประสงค์เพื่อให้พื้นที่บริเวณป่าชายเลนในเขตจังหวัดมีฐานทรัพยากรเพื่อการผลิต ทั้งในมิติของความหลากหลายของชนิดและปริมาณสัตว์น้ำที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้บริเวณพื้นที่ป่าชายเลนทำหน้าที่นิเวศบริการที่ดีแก่ชุมชน และเพื่อสนับสนุนให้ชุมชนร่วมมือในการบริหารจัดการทรัพยากรประมงของจังหวัดอย่างยั่งยืน รวมถึงเพิ่มผลผลิตปูทะเล สัตว์น้ำเศรษฐกิจในธรรมชาติ อันเป็นกลุ่มสัตว์น้ำที่มีบทบาทสำคัญในการประกอบอาชีพของคนในพื้นที่ อีกทั้งเป็นการขานรับนโยบายและข้อสั่งการของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มผลผลิตปูทะเลให้ได้ปริมาณ 5,000 ตัน ในปี 2566 โดยจากข้อมูลเดิมปี พ.ศ. 2561 มีผลผลิตปูทะเล เพียง 1,600 ตัน ปี พ.ศ. 2562 มีผลผลิต 3,000 ตัน ปี พ.ศ. 2563 มี 3,000 ตัน และในปี พ.ศ. 2564 ผลผลิตปูทะเลในภาพรวมทั้งประเทศ มีปริมาณเพิ่มขึ้นกว่า 6,000 ตัน หรือ4ปีเพิ่ม400%โดยเป็นผลผลิตปูทะเลจากการเพาะเลี้ยง จำนวน 3,400 ตัน และจากผลผลิตการจับจากธรรมชาติ 2,800 ตัน ซึ่งเกินเป้าหมายที่กรมประมงคาดการณ์ไว้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top