Monday, 30 June 2025
ค้นหา พบ 49099 ที่เกี่ยวข้อง

Swap & Go เปลี่ยนแบตฯ ‘ทันใจ-ไม่ต้องชาร์จ’ ตอบโจทย์ไรเดอร์สายพันธุ์ใหม่ หัวใจอีวี

แม้ทุกวันนี้กระแสรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอีวีจะมาแรงแค่ไหน แต่ก็อย่าลืมว่ารูปแบบพาหนะในเมืองไทยที่หลายคนใช้กันในชีวิตประจำวัน ก็ไม่ได้มีเพียงแค่รถยนต์ 4 ล้อ เท่านั้น หากแต่ยังมีสายไรเดอร์ 2 ล้อ ที่หวังอยากจะมีโอกาสสัมผัสอีวีสองล้อที่ตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์การขับขี่แบบไม่สะดุดรวมอยู่ด้วย

อย่างไรก็ตาม ปัญหาเล็ก ๆ ที่อาจจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ในบางเวลาของไรเดอร์ที่หันมาซบสองล้ออีวี คือ ความเร่งรีบที่สวนทางกับความไม่ทันใจในการเติมพลังงานสะอาด 100% นี้ เพราะทุกนาทีในการรอชาร์จ อาจทำให้พวกเขาผิดพลาดหรือหลุดโอกาสจากภารกิจต่างๆ ที่รัดตัวเอาได้ง่ายๆ

ทว่า ปัญหานี้ถูกคลี่คลาย หลังจากไม่นานมานี้ Swap & Go โดย บริษัท สวอพ แอนด์ โก จำกัด บริษัทย่อยของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการเครือข่าย Battery Swapping หรือ การสลับแบตเตอรี่ที่ได้มาตรฐานสากลแก่ผู้ใช้งานรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแบบไม่ต้องรอชาร์จ ได้กลายคำตอบที่จะช่วยไรเดอร์อีวีได้อย่างชัดเจนขึ้น หลังจาก Swap & Go ได้เปิดให้บริการเหล่าไรเดอร์เปลี่ยนแบตฯ ได้ตลอดวัน 

ส่วนวิธีการใช้งานนั้น ก็ง่ายมากๆ แค่เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Swap & Go และเชื่อมต่อกับ รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เพื่อตรวจสอบปริมาณแบตเตอรี่ จากนั้นก็ค้นหาตำแหน่งของสถานี (ปตท.) โดยในแอปฯ จะมีระบบนำทางเราไปยังสถานีที่อยู่ใกล้ตัวเรามากที่สุด 

ชาวออฟฟิศควรรู้!! 3 ท่าโยคะง่ายๆ ทำได้ระหว่างวัน ใช้เวลาน้อย - ลดอาการ ‘ปวดเมื่อย’

เนื่องจากช่วงนี้ได้มีการประกาศการผ่อนคลายมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (covid-19) แล้ว ส่งผลให้หลายออฟฟิศประกาศยกเลิกการอนุญาตให้ทำงานจากที่บ้าน (work from home) และกลับมาทำงานที่ออฟฟิศกันตามปกติ

ดังนั้นเพื่อเป็นการเตรียมสภาพร่างกายและจิตใจให้พร้อมรับมือกับการกลับมาทำงานที่ออฟฟิศอีกครั้ง วันนี้จึงขอเสนอการทำ ‘Office yoga’ หรือโยคะง่ายๆ ที่สามารถทำได้ในที่ทำงาน ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและลดอาการปวดเมื่อยที่เกิดจากการทำงานนานๆ โดยไม่เปลี่ยนอิริยาบทได้

Office yoga หรือโยคะง่ายๆ ที่สามารถทำได้ในที่ทำงาน สามารถทำได้ทุกเวลาและใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที เช่น เวลาพักเที่ยง หรือ ช่วงเวลาว่างก่อนเข้าประชุม นอกจากช่วยผ่อนคลายความเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อแล้วยังช่วยให้ระบบต่างๆ ของร่างกายทำงานอย่างเป็นปกติด้วย เช่น ระบบย่อยอาหาร ระบบภูมิคุ้มกัน เป็นต้น

ส่วนท่าโยคะที่ควรใช้นั้นจะมีท่าแบบไหนบ้าง มาดูกัน…

1.) ท่าพรหมมุทรา (ท่าหมุนคอ) ช่วยผ่อนคลายความเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อรอบคอและบ่า สามารถทำได้ง่ายๆ ดังนี้
(1) ขณะนั่งเก้าอี้ หลังพิงพนักด้วยความรู้สึกผ่อนคลาย
(2) หมุนคอ หันศีรษะไปทางซ้ายช้าๆ จนกระทั่งคางอยู่เหนือไหล่ซ้ายจนรู้สึกตึงมากที่สุด กลั้นหายใจสักครู่แล้วหายใจออกช้าๆพร้อมคืนศีรษะกลับมาที่ท่าเริ่มต้น
(3) หมุนคอ หันศีรษะไปทางขวาช้าๆ จนกระทั่งคางอยู่เหนือไหล่ขวาจนรู้สึกตึงมากที่สุด กลั้นหายใจสักครู่แล้วหายใจออกช้าๆพร้อมคืนศีรษะกลับมาที่ท่าเริ่มต้น
(4) เงยศีรษะขึ้น ยกคางขึ้นจนรู้สึกตึงมากที่สุด กลั้นหายใจสักครู่แล้วหายใจออกช้าๆพร้อมคืนศีรษะกลับมาที่ท่าเริ่มต้น
(5) ก้มศีรษะลง ให้คางจรดที่ทรวงอกจนรู้สึกตึงมากที่สุด กลั้นหายใจสักครู่แล้วหายใจออกช้าๆพร้อมคืนศีรษะกลับมาที่ท่าเริ่มต้น
(6) ทำซ้ำประมาณ 3-5 รอบ ห้ามยกไหล่ขณะทำและระวังอย่าให้เกิดความเจ็บปวด
  

2.) ท่าวฤกษ์ชาซัน (ท่าต้นไม้) ช่วยฝึกการทรงท่าของกล้ามเนื้อแนวกลางลำตัวและกระตุ้นกล้ามเนื้อขา สามารถทำได้ง่ายๆ ดังนี้
(1) ในท่ายืนตรงและถอดรองเท้า
(2) ยกเท้าขวาขึ้นยันกับต้นขาด้านในข้างซ้ายให้แนบชิดมากที่สุด
(3) พยายามทรงตัวให้มั่นคงด้วยการยืนบนขาข้างเดียว 
(4) พนมมือทั้ง 2 ข้างไว้ที่หน้าอก หายใจเข้าและหายใจออก 3-5 ครั้ง ลดขาและวางมือลง
(5) เปลี่ยนสลับทำอีกข้างอย่างช้าๆ
(6) หากทรงตัวไม่มั่นคงให้ใช้มือข้างหนึ่งจับที่โต๊ะหรือเก้าอี้ได้

3.) ท่าภาวตะซัน (ท่าภูเขา) ช่วยลดความตึงของกล้ามเนื้อคอ, ไหล่และกล้ามเนื้อที่มีส่วนช่วยการหายใจ สามารถทำได้ง่ายๆ ดังนี้
(1) ขณะนั่งเก้าอี้ หลังพิงพนักด้วยความรู้สึกผ่อนคลาย
(2) ยกมือทั้ง 2 ขึ้นพนมมือเหนือศีรษะ 
(3) หายใจเข้าช้าๆ พร้อมกับเหยียดแขนขึ้นให้สุดจนรู้สึกตึงมากที่สุด กลั้นหายใจสักครู่แล้วหายใจออกช้าๆพร้อมลดแขนลงวางไว้เหนือศีรษะในท่าเริ่มต้น
(4) ทำซ้ำประมาณ 3-5 รอบ ห้ามยกไหล่ขณะทำและระวังอย่าให้เกิดความเจ็บปวด

สิ่งสำคัญของการทำ Office yoga หรือโยคะง่ายๆ ที่สามารถทำได้ในที่ทำงานคือ ห้ามกลั้นหายใจ ขณะทำ ควรหายใจลึกๆ ช้าๆ ให้เป็นจังหวะสอดคล้องกับการเคลื่อนไหว และหากเกิดความเจ็บปวดมากขึ้นให้หยุดทำทันที 

สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองขยายการผลจับกุมค้นบ้าน นักลงทุนต่างชาติสวมบัตรประชาชนไทย

ตามที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุมระดับผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค หรือความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิก (Asia-Pacific Economic Cooperation : APEC) ประจำปี พ.ศ.2565 (APEC 2022 Thailand) ในห้วงระหว่างวันที่ 14 - 19 พ.ย.2565 ประกอบกับนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมี พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ที่กำชับให้ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองดำเนินการระดมกวาดล้าง สืบสวนจับกุม ผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 โดยเน้นการกระทำความผิดเกี่ยวกับการอยู่เกินกำหนดอนุญาต (Overstay) และความผิดอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อเป็นการตอบสนองนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมในการดูแลรักษาความปลอดภัยในการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ที่กำลังจะมีขึ้นในระยะเวลาอันใกล้ อีกทั้งทำให้การปฏิบัติงานด้านการป้องกันปราบปราม สืบสวนจับกุม เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม 

วันนี้ (11 พ.ย. 65) สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง  โดยพล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ธนิต  ไทยวัชรามาศ ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง ผกก.1 บก.สส.สตม. และ พ.ต.อ.ณภัทรพงศ  สุภาพร ผกก.ปอพ.บก.สส.สตม. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการขยายผลจับกุม ค้นบ้านนักลงทุนชาวต่างชาติ ซึ่งสวมบัตรประชาชนคนไทย

จากการสืบสวนขยายผลวันนี้ สตม. ได้เข้าทำการตรวจค้นบ้านนายเชา (นามสมมุติ) บริเวณริมถนนภายใน หมู่ ๙ ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จว.ปทุมธานี สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย พร้อมด้วยของกลาง ดังนี้

ก.แรงงาน ทอดผ้าป่าพระราชทาน สมทบทุนโครงการทุนเล่าเรียนหลวง สำหรับพระสงฆ์ไทย ประจำปี 2565

วันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 เวลา 09.09 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานผ้าไตรประกอบพิธีทอดผ้าป่า เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต และสมทบทุนโครงการทุนเล่าเรียนหลวงสาหรับพระสงฆ์ไทย ณ วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร โดยมี นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานพิธีทอดผ้าป่า และนางสาวบุปผา เรืองสุด รองปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยผู้บริหาร เจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงาน เข้าร่วมพิธีในครั้งนี้ด้วย ซึ่งมียอดผ้าป่าพระราชทานโครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย กระทรวงแรงงาน จำนวน 575,671 บาท

วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก เริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2538 ตามแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีพระราชประสงค์ให้เป็นแบบอย่างในการก่อสร้างวัดเล็กๆ เพื่อเป็นศูนย์รวมแห่งจิตใจของชุมชน ที่ตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียง และเพื่อใช้เป็นสถานที่ประกอบกิจกรรมต่างๆ ในการเผยแผ่ศีลธรรม และจริยธรรมเพื่อการพัฒนาชุมชน เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2539 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ แทนพระองค์ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์อุโบสถ วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก และวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2543 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จทรงประกอบพิธีฝังลูกนิมิต ตามประเพณี

เจอะเจอคุณอา เมื่อความเกรงใจแบบคนไทย ต้องแพ้พ่ายต่อที่พักที่เกินจะรับไหว

หลังจากที่คุณอาผู้หญิงได้ยินชื่อเต็มซึ่งรวมทั้งนามสกุลของเราท่านก็บอกโอเปอเรเตอร์ว่า ท่านยินยอมจ่ายเงินค่าโทรศัพท์ที่จะคุยกับเรา ทางโอเปอเรเตอร์เลยสับสายให้เราได้คุยกับคุณอา คุณอาเริ่มต้นบทสนทนาถามไถ่สารทุกข์สุกดิบของครอบครัวเราและตัวเรา 

สุดท้ายท่านถามว่าเราพักอยู่ที่ไหน เราตอบท่านตรงๆ ว่าเราอยู่หอพักนักศึกษา แต่ต้องแบ่งห้องกับรุ่นน้องที่เรียนปริญญาตรีที่เรายังไม่ได้ทำความรู้จัก ท่านถามต่อว่าเราซื้อฟูกนอนแล้วหรือ เราก็งงเต็กนึกว่าทางมหาวิทยาลัยจะจัดที่นอนให้เรียบร้อยเหมือนโรงแรม เพราะเราแค่เข้าไปนอน 

คุณอาบอกว่าเป็นหน้าที่ของเราที่ต้องซื้อฟูก หมอน และผ้าห่ม เราก็เลยยอมรับกับท่านไปว่า เราโง่สนิทไม่ได้รู้มาก่อนเลยว่าเราต้องเตรียมเครื่องนอนก่อนที่จะเข้าหอพัก ท่านเลยอาสาว่าท่านกับสามีจะมารับเราไปซื้อของเข้าห้อง แต่ก่อนวางสายท่านถามเราว่าจะมาอยู่กับท่านก่อนไหม แล้วค่อยย้ายออกเมื่อเราเจอที่พักที่ถูกใจ 

เราเพิ่งมาจากประเทศไทย ก็ติดนิสัยเกรงใจกลัวว่าเราจะกวนท่านและครอบครัว เลยอ้ำอึ้ง ตอบท่านอย่างกระอ้อมกระแอ้มว่า ไม่เป็นไรเราอยู่หอพักได้ ท่านคงจับความลังเลในน้ำเสียงของเราได้ ท่านเลยบอกว่าท่านมาอยู่ที่อเมริกาเกินกว่า 20 ปีแล้ว ท่านคิดอย่างคนอเมริกัน เราต้องการอะไรอย่าอ้อมค้อมเพราะความเกรงใจ ตอบมาตรงๆ ท่านจะได้ทราบความจริงแล้วจัดการให้เรียบร้อยก่อนที่จะดึกเกินไป 

เมื่อได้ยินท่านพูดเช่นนั้น เราเลยยอมรับกับท่านไปว่า สงสัยจะอยู่หอพักไม่ได้ เพราะกลัวการแชร์ห้องน้ำกับคนอื่น แถมห้องนอนก็ทั้งเล็กทั้งเก่า ท่านเลยให้เราไปรอท่านมารับหน้าหอพัก

ประมาณ 30 นาทีผ่านไป ก็มีรถเก๋ง 4 ประตูสีขาวมาจอด สตรีชาวเอเชียผมม้าเต่อใส่แว่นเปิดประตูรถลงมาแล้วมองรอบๆ แบบงงๆ เนื่องจากเราเจอคุณอาครั้งสุดท้ายเมื่อ 8 ปีที่แล้ว ส่วนคุณอาก็เจอเราตอนที่เราอายุ 14 ช่วงที่กำลังอวบสุดๆ น้ำหนักประมาณ 90 กิโล ตอนที่เรามาถึงบอสตันเราน้ำหนักประมาณ 70 

ทั้งเราทั้งคุณอาก็ต่างจำกันไม่ได้ เราเดาๆ ว่าสตรีผู้นั้นน่าจะใช่คุณอา เลยเดินเข้าไปไหว้ทัก โชคดีที่ใช่คุณอา เลยต่างคนต่างดีใจที่ได้เจอกัน คุณอาได้แนะนำให้รู้จักกับสามีท่าน เมื่อทักทายกันพอหอมปากหอมคอแล้วคุณอาทั้งสองท่านก็พาไปทานอาหารไทยในไชน่าทาวน์ สมัยนั้นร้านไทยชื่อสยามสแควร์ ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยร้านเดียวในไชน่าทาวน์และเป็นที่รู้จักดีของเหล่าคนไทยในบอสตัน เพราะทำอาหารไทยรสชาติแบบคนไทยทาน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top