Monday, 30 June 2025
ค้นหา พบ 49099 ที่เกี่ยวข้อง

'โซเชียล' แซะ Hyperllop อนาคตใหม่ที่ 'ธนาธร' เคยชู เร็วกว่าถูกกว่ารถไฟความเร็วสูง สุดท้ายเป็นที่จอดรถ

(11 พ.ย.65) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Samanya Akkawootwanich ได้โพสต์แชร์มุมมองในฐานะคนเรียนฟิสิกส์เกี่ยวกับโครงการ Hyperloop ของ Space X (อีลอน มัสก์) ที่กำลังถูกรื้อถอน เพื่อใช้พื้นที่ทำเป็นลานจอดรถ กระทบชิ่งไปถึงนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่เคยกล่าวถึงโครงการนี้ว่าเป็นอนาคตใหม่แห่งการเดินทางที่ดีกว่ารถไฟความเร็วสูง ว่า...

ในฐานะคนเรียนฟิสิกส์

Hyperloop ตามความคิดของ Elon Musk เขาลืมคิดถึงหลักสำคัญไปอย่างหนึ่ง คือ...

แรงดึงดูดของโลก Gravity แรงเสียดทาน Friction  มีผลต่อการถ่วงความเร็ว มากกว่าอากาศมาก

หลักแรงผลักของแม่เหล็กไฟฟ้าที่ดันให้รถไฟความเร็วสูงลอยบนรางคือ หลักการที่มีประสิทธิภาพที่สุด 

โครงการรถไฟทางคู่ ‘ขอนแก่น-หนองคาย’ เส้นทางสำคัญ เชื่อม ‘ไทย-ลาว-จีน’ กระจายสินค้าสู่ภูมิภาค

เมื่อวานนี้ (10 พ.ย. 65) เพจ ‘โครงสร้างพื้นฐาน ประเทศไทย Thailand Infrastructure’ ได้โพสต์เรื่องราวเกี่ยวกับ โครงการรถไฟทางคู่ ขอนแก่น-หนองคาย ซึ่งถือเป็นเส้นทางที่สามารถเชื่อมโยง ‘ไทย-ลาว-จีน’ ในการกระจายสินค้าออกสู่ภูมิภาค ไว้อย่างน่าสนใจว่า…

โครงการรถไฟทางคู่ ขอนแก่น-หนองคาย
จิ๊กซอว์ตัวสำคัญ ของการเชื่อมโยง ไทย-ลาว-จีน กระจายสินค้าสู่ภูมิภาค

จากที่ไม่ได้พูดถึงเรื่องการพัฒนาเส้นทางรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 มานาน ขอกลับมาพูดถึงโครงการรถไฟทางคู่ ขอนแก่น-หนองคาย ซึ่งถูกวางแผนไว้เป็นโครงการลำดับที่ 1 ที่เตรียมจะอนุมัติก่อสร้าง ภายในปีหน้า (2566) เพื่อเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ ในการเชื่อมโยงโครงการรถไฟระหว่างประเทศ ไทย-ลาว-จีน ในการขนส่งสินค้า และเปลี่ยนถ่ายจากรถไฟลาว-จีน ที่เป็นรางขนาด 1.435 เมตร (European Standard Gauge) เข้าสู่รางรถไฟไทย 1 เมตร (Meter Gauge) 

โดยมีจุดเปลี่ยนถ่าย (Transhipment Yard) ที่ สถานีนาทา รายละเอียดเดิมตามโพสต์นี้
https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=1061909740914171&id=491766874595130&mibextid=nJa2DX

>> รายละเอียดการโครงการ
ตามรูปแบบการพัฒนารถไฟทางคู่ คือจะมีการก่อสร้างทางรถไฟใหม่ จำนวน 1 ทาง คู่ขนานกับทางรถไฟเดิม เพื่อให้สามารถรองรับการเดินทางได้ปริมาณมากขึ้น และไม่ต้องรอหลีกรถไฟที่สถานี

มีระยะทางรวมทั้งหมด 167 กิโลเมตร แบ่งเป็น
- ทางระดับดิน 153 กิโลเมตร
- ทางยกระดับ 14 กิโลเมตร

โดยการออกแบบ มีมาตรการการออกแบบเพื่อรองรับความเร็วสูงสุดที่ 160 กิโลเมตร/ชั่วโมง เทียบเท่ามาตรฐานของรถไฟฟ้าสายสีแดง ซึ่งในเส้นทางปัจจุบัน จำเป็นต้องปรับปรังรัศมีวงเลี้ยว ให้เหมาะสม กับการออกแบบความเร็ว ใน 3 จุดคือ
- เทศบาลศิลา 
- โนนพยอม
- โนนสะอาด

พร้อมกับมีการยกระดับสถานีรถไฟเพื่อแก้ปัญหาจุดตัดทางรถไฟช่วงผ่านเมือง 2 จุดคือ
- สถานีน้ำพอง
- สถานีอุดรธานี

ในโครงการมีสถานีทั้งหมด 14 สถานี แบ่งเป็น 5 ระดับ คือ สถานียกระดับ, สถานีชั้น 1, สถานีชั้น 2, สถานีชั้น 3  และที่หยุดรถ ได้แก่
- สถานีสำราญ (ชั้น 3) สถานีเดิมรักษาไว้
- ที่หยุดรถห้วยไห สถานีเดิมรักษาไว้
- สถานีห้วยพยอม (ชั้น 3) สถานีเดิมรักษาไว้
- ที่หยุดรถบ้านวังชัย สถานีเดิมรักษาไว้
- สถานีน้ำพอง (สถานียกระดับ) สถานีก่อสร้างใหม่
- ที่หยุดรถห้วยเสียว สถานีเดิมรักษาไว้
- สถานีเขาสวนกวาง (ชั้น 2) สถานีก่อสร้างใหม่
- สถานีโนนสะอาด (ชั้น 2) สถานีก่อสร้างใหม่
- สถานีห้วยเกิ้ง (ชั้น 3) สถานีเดิมรักษาไว้
- สถานีกุมภวาปี (ชั้น 2) สถานีก่อสร้างใหม่
- สถานีห้วยสามพาด (ชั้น 3) สถานีเดิมรักษาไว้
- สถานีหนองตะไก้ (ชั้น 2) สถานีก่อสร้างใหม่
- ที่หยุดรถคำกลิ้ง สถานีเดิมรักษาไว้
- สถานีหนองขอนกว้าง (ชั้น 3) สถานีเดิมรักษาไว้
- สถานีอุดรธานี (สถานียกระดับ) สถานีก่อสร้างใหม่
- สถานีนาพู่ (ชั้น 3) สถานีเดิมรักษาไว้
- สถานีนาทา (ชั้น 2) สถานีก่อสร้างใหม่
- สถานีหนองคาย (ชั้น 1) สถานีเดิมรักษาไว้

โดยการรักษาสถานีเดิมไว้เพื่อการอนุรักษ์ และลดการลงทุนไม่ให้มากเกินไป แต่เพิ่มระบบสาธารณูปโภค และการให้บริการแก่คนทุกกลุ่ม (Universal Design) ในการอำนวยความสะดวกกับผู้โดยสาร เช่น สะพานลอยข้ามชานชาลา และลิฟต์โดยสารเพื่อข้ามชานชาลา พร้อมกับการยกระดับความสูงชานชาลา เป็นรูปแบบชานสูง 1.10 เมตร ตามมาตรฐานใหม่ของการรถไฟ

นอกจากการทำสถานีสำหรับผู้โดยสารแล้ว ก็ยังมีการทำสถานีสำหรับสินค้า หรือลานกองเก็บตู้สินค้า (Containers Yard : CY) เพื่อรองรับการขนส่งสินค้าได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยมีการก่อสร้างใน 3 จุดคือ
- สถานีโนนสะอาด
- สถานีหนองตะไก้
- สถานีนาทา (จุดเปลี่ยนถ่ายสินค้า Transhipment Yard) 

ในโครงการจะมีการทำโรงรถจักร เพื่อใช้ในการให้บริการและซ่อมบำรุงของรถจักร และตู้โดยสาร ก่อนและหลังให้บริการ โดยมีการก่อสร้างที่ สถานีนาทา

นอกจากการก่อสร้างงานโยธา ของทางคู่และอื่นๆ ในการปรับปรุงระบบอาณัติสัญญาณ ซึ่งเป็นตัวที่จะเพิ่มประสิทธิภาพของการให้บริการรถไฟทางคู่ ก็เป็นส่วนสำคัญ โดยการพัฒนารถไฟทางคู่ในปัจจุบัน มีการยกระดับระบบอาณัติสัญญาณใหม่ เป็นมาตรฐาน ETCS Level 1 ซึ่งเป็นมาตรฐานกลางของยุโรป เพื่อให้รองรับรถไฟหลากหลายมาให้บริการ

ดึงสติแกนนำ 3 นิ้ว ก่อนปลุกม็อบป่วน APEC ระวังคอตกเข้าคุก เหมือน ‘เสื้อแดง’ ปี 52

ยังเจ็บไม่พอ จะขออีกสักทีหรือไง..ย้อนรอย 10 ปีล้มการประชุมอาเซียน 
ในขณะที่คนไทยทุกคนต่างตื่นเต้นกับเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค (APEC 2022) ที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า แต่คนกลุ่มหนึ่งกลับวางแผนการและระดมพล เพื่อขัดขวางไม่ให้การประชุมในครั้งนี้ดำเนินไปอย่างราบรื่น  

การเคลื่อนไหวของกลุ่มสามนิ้ว เพื่อขัดขวางการประชุมปรากฎในเพจสำนักข่าวราษฎร กลุ่มราษฎรหยุด APEC2022 นำโดยสมบูรณ์ กำแหง, ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล และจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา ว่าจะจัดการชุมนุมคู่ขนานการประชุม APEC 2022 โดยอ้างว่านายกรัฐมนตรีไร้ความชอบธรรม ไม่คู่ควรเป็นประธานเอเปค หยุดอ้างเอเปคเพื่อผลักดันนโยบายสร้างหายนะแก่ประชาชน และมีข้อกล่าวหาตามมาอีกมากมาย แต่สรุปคือกลุ่มนี้จะก่อม็อบในช่วงที่มีการประชุมเอเปกนั่นเอง 

การแถลงข่าวของแกนนำสามนิ้วกลุ่มนี้จัดที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ โดยมีแนวร่วมอย่าง Amnesty International Thailand เคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน นั่นคือระดมพลเรียกให้ชาวเมียนมาในไทยออกมาประท้วงในการประชุมเอเปกหนนี้ มีการพ่วงโยงเข้ากับสถานการณ์ในพม่า และร่วมลงชื่อ เพื่อนำรายชื่อไปยื่นให้กับรัฐบาลไทย โดยเรียกร้องให้รัฐบาลไทยหาแนวทาง “หยุดการนองเลือดในเมียนมา” 

รัฐบาลเมียนมาถึงกับออกประกาศเตือนชาวเมียนมาในไทยห้ามเคลื่อนไหวในช่วงการประชุม APEC 2022 นับเป็นการแตะเบรกเรื่องนี้ทันทีทันควัน  

หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมถึงต้องมีการโยงเรื่องเมียนมาด้วย อเมริกานั้นหนุนหลังม็อบพม่าผ่านเอ็นจีโอที่เคลื่อนไหวในไทย การเคลื่อนไหวของ NGO สายพันธุ์เมียนมา ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวอยู่ในประเทศไทย ที่มักรายงานความเคลื่อนไหวและกิจกรรมในเมียนมาต่อผู้สื่อข่าวตะวันตก โดยใช้ประเทศไทยเป็นสถานที่จัดแถลงข่าว  

เงินบริจาคจากบางองค์กรตะวันตกไหลเข้ามาทางประเทศไทย เพื่อใช้ในกิจกรรมที่จัดขึ้นในเมืองไทยหรือไหลไปชายแดน ขั้นตอนที่งบประมาณผ่านทางเมืองไทยนี่แหละ ที่ NGO สายพันธุ์ไทยเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ว่าเป็นผู้ร่วมจัดกิจกรรม หรือประสานงานให้กิจกรรมเกิดขึ้นมา พอมองเห็นภาพแล้วใช่ไหมล่ะ

คนเหล่านี้ไม่เคยคิดถึงผลเสียต่อประเทศชาติ เหมือนไม่เคยเรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่ม็อบเสื้อแดงบุกล้มการประชุมนานาชาติอาเซียนที่พัทยา แม้จะผ่านมากว่า 10 ปีแล้ว แต่เชื่อว่าคนไทยทุกคนยังไม่ลืมเลือน เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นในเวลานั้นทำลายภาพลักษณ์ของชาติอย่างย่อยยับ 

พัทยา พร้อมรองรับนักท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร จ.นนทบุรี และ จ.สมุทรปราการ ช่วงวันหยุดพิเศษ การประชุม APEC 2022

จากที่ ครม. อนุมัติให้วันที่ 16-18 พ.ย. 2565 เป็น 'วันหยุดราชการเป็นกรณีพิเศษ' เฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จ.นนทบุรี และ จ.สมุทรปราการ ในการประชุม APEC 2022 ซึ่งเมืองพัทยา รวมถึงสถานท่องเที่ยวเมืองพัทยาหลายแห่งได้มีความเตรียมพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวทั้ง 3 จังหวัด กทม. นนทบุรี สมุทรปราการ ในช่วงวันหยุดพิเศษ

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง เช่น เกาะล้าน มีการจองห้องพักในช่วงวันหยุด รวมถึงโรงแรมต่างๆในพัทยาก็มีการจองห้องพักจากนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวเช่น สวนนงนุชพัทยา มีการร่วมเฉลิมฉลองกับการประชุม APEC โดยนำต้นเฟื้องฟ้ามาประดับตกแต่งให้มีสีสันสวยงาม เพื่อตอนรับนักท่องเที่ยว ซึ่งในสวนนงนุชพัทยามีสายพันธุ์ต้นเฟื่องฟ้าที่มากที่สุดในโลก

จัดงาน ‘Asia International Hemp Expo 2022’ ปักหมุดไทย สู่ศูนย์กลางอุตสาหกรรมกัญชง

สมาคมการค้าอุตสาหกรรมกัญชงไทย จับมือ เอ็น. ซี. ซี. เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ กลุ่มสมาคมพันธมิตรและผู้ประกอบการในธุรกิจ อุตสาหกรรม เดินหน้าการจัดงานแสดงสินค้า Asia International Hemp Expo งานแสดงเทคโนโลยี นวัตกรรมและผลิตภัณฑ์จากพืชกัญชงนานาชาติครั้งแรกของประเทศไทย มุ่งสร้างมาตรฐานขับเคลื่อนธุรกิจ ย้ำจุดยืนการเป็นงานแสดงสินค้าสำหรับภาคอุตสาหกรรมและการแพทย์ คาดมูลค่าการซื้อขายไม่ต่ำกว่า พันล้านบาท 

นายพรชัย ปัทมินทร นายกสมาคมการค้าอุตสาหกรรมกัญชงไทย (TIHTA) เผยว่า จากพันธกิจที่สมาคมได้มีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการเมื่อ 1 ปีที่ผ่านมา ในการขับเคลื่อนพืชกัญชงสู่ภาคเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม และประกาศการจัดงานนิทรรศการและการแสดงสินค้านานาชาติ ที่ทางสมาคมจะร่วมจัดกับพันธมิตรจากต่างประเทศ ตอนนี้ทางสมาคมมีความพร้อมอย่างมากที่จะเรียนเชิญทุกท่านให้มาร่วมงาน Asia International Hemp Expo 2022 และ 2nd International Hemp Environmental Forum ภายใต้แนวคิด ‘Hemp For All’ เพราะกัญชงเป็นพืชสำหรับทุกคน และเป็นพืชที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วนโดยไม่เหลือทิ้งในหลากอุตสาหกรรม 

ซึ่งภายในงานนี้จะมีการนำเอานวัตกรรมต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมกัญชงมาจัดแสดงให้องค์ความรู้ เช่น วัสดุทางการแพทย์จากกัญชง รถไฟฟ้าจากไฟเบอร์กัญชงคันแรกของประเทศไทย ส่วนประกอบอากาศยาน และยานยนต์ รวมไปถึง ยา อาหารแห่งอนาคต 

ขณะนี้มีผู้ประกอบการที่ร่วมออกบูธจากทั่วโลกกว่า 300 ราย ในอุตสาหกรรมกัญชงตั้งแต่ต้นน้ำ ถึงปลายน้ำ และจากการดำเนินการเตรียมการจัดงานมาตลอดระยะเวลา 1 ปี ร่วมกับพันธมิตรนานาประเทศ ทำให้เห็นว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าจับตามองอย่างมากของผู้ประกอบการทั่วโลก โดยคาดว่าการจัดงานครั้งนี้จะสร้างรายได้หมุนเวียนในอุตสาหกรรมกัญชงไม่ต่ำกว่าพันล้านบาท และคาดว่ามูลค่าตลาดกัญชง กัญชา กระท่อมของไทยจะเติบโตขึ้นโดยเฉลี่ยร้อยละ 25 ต่อปี 

นอกจากส่วนแสดงสินค้าแล้ว ทางสมาคมการค้าอุตสาหกรรมกัญชงไทยได้มีความร่วมมือกับ International Hemp Environmental Committee (คณะกรรมการกัญชงและสิ่งแวดล้อมนานาชาติ) และ Japan Hemp Association (สมาคมกัญชงแห่งประเทศญี่ปุ่น) จัดสัมมนานานาชาติ ‘The 2nd Hemp Environmental Forum’ ในหัวข้อ ‘The New Innovation Landscape of Hemp’ เพื่อสร้างองค์ความรู้ และจุดประกายความคิดจากนวัตกรรมของกัญชงที่เป็นมิตรต่อชีวิตและสิ่งแวดล้อม และการนำมาใช้ประโยชน์ในชีวิตจริงของผู้คน ซึ่งเป็นการรวมองค์ความรู้และประสบการณ์ของผู้เชี่ยวชาญในวงการกัญชงทั่วโลกมาให้คนไทยในงานนี้ ถึง 14 หัวข้อตั้งแต่แนวโน้มตลาดกัญชงโลก โอกาสและความท้าทายของประเทศไทย หัวข้อสำหรับอุตสาหกรรมในแขนงต่างๆ โดยวิทยากร 38 ท่าน จาก 15 ประเทศ 

และเนื่องในวโรกาสพิเศษ ในการจัดงานครั้งนี้จะมีการจัดนิทรรศการพิเศษ ‘Golden Hemp’ จากประเทศญี่ปุ่น นับเป็นครั้งแรกในรอบ 150 ปีที่มีการจัดแสดงนอกประเทศ เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสเฉลิมพระชมมายุ 90 พรรษา ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้วยแรงบันดาลใจจากวิถีวัฒนธรรมของเส้นใยกัญชงสีทอง ซึ่งปลูกจากเมล็ดกัญชงสายพันธุ์โบราณ ที่ขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติชาติของประเทศญี่ปุ่น สำหรับใช้ผลิตเส้นใยเพื่อการทอเฉพาะในราชสำนักญี่ปุ่นเท่านั้น

นายศักดิ์ชัย ภัทรปรีชากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด เผยว่างาน ‘Asia International Hemp Expo 2022’ หรืองานแสดงเทคโนโลยี นวัตกรรมและผลิตภัณฑ์นานาชาติสำหรับอุตสาหกรรมกัญชง ที่จัดขึ้น ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ครั้งนี้ เป็นรูปแบบ Business to Business (B2B) ที่เราใช้ศักยภาพของงานแสดงสินค้าและการประชุมนานาชาติทุกด้าน ในการร่วมขับเคลื่อนอุตสาหกรรม และนำเสนอมาตรฐานสำหรับพืชเศรษฐกิจชนิดใหม่นี้ของประเทศไทยในมิติใหม่ ผ่านบริบทที่หลากหลายภายในงาน 

เริ่มตั้งแต่การใช้ศักยภาพของงานแสดงสินค้าเป็นเวทีในการนำเทคโนโลยีล่าสุดซึ่งเป็นโซลูชั่น ให้กับผู้ประกอบการธุรกิจกัญชง เพื่อให้สามารถผลิตวัตถุดิบ และผลิตภัณฑ์ ที่ได้มาตรฐาน ทั้งในเชิงของคุณภาพ และการบริหารจัดการต้นทุนการผลิต รวมไปถึงการเป็นเวทีทางการตลาดสำหรับผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิต ทั้งผลิตภัณฑ์กลุ่มสารสกัด เช่น เครื่องสำอาง อาหารและเครื่องดื่ม และกลุ่มเส้นใย เช่น แฟชั่น ชิ้นส่วนยานยนต์ เป็นต้น


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top