Sunday, 22 June 2025
ค้นหา พบ 48959 ที่เกี่ยวข้อง

รวบอินเดียทนแรงคิดถึงสาวไทยไม่ไหว แก้ไขข้อมูลเพื่อหลบ Blacklist

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ 

สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทย หรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด 

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ณฐพล     แสวงกิจ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.กฤษฎา กาญจนอลงกรณ์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.มานัด ศรีวงษา ผบก.ตม.3, พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ ผบก.สส.สตม, พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.ตม.6 ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญโดยมีรายละเอียดดังนี้ 

เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สส.สตม. ได้รับแจ้งจากสายลับว่านายเอ็ม(นามสมมติ) อายุ 58 ปี สัญชาติ อินเดีย ซึ่งอยู่กินฉันท์สามีภรรยากับหญิงไทย โดยพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.แกลง จว.ระยอง มีพฤติกรรมน่าสงสัยว่าเข้ามาในประเทศไทยโดยฝ่าฝืน พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522  กก.1 บก.สส.สตม. จึงได้ไปตรวจสอบยังสถานที่ดังกล่าวและเชิญตัวมาที่ กก.1 บก.สส.สตม. เพื่อตรวจสอบข้อมูลในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ สตม. ผลการตรวจสอบพบว่า นายเอ็ม (นามสมมติ) เป็นบุคคลเดียวกับ นายม้า (นามสมมติ) ซึ่งถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหา เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (จำนวน 60 วัน) และเป็นบุคคลห้ามเข้ามาในราชอาณาจักรตามคำสั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ 1/2558 ลงวันที่ 27 พฤศจิกายน 2558 เป็นเวลา 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2561 ถึงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 

รวบไต้หวัน OVERSTAY พบประวัติหนีคดีฉ้อโกงบิตคอยน์กว่า 200 ล้านบาท

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ 

สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทย หรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด 

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.กฤษฎา กาญจนอลงกรณ์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.มานัด ศรีวงษา ผบก.ตม.3, พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ ผบก.สส.สตม, พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.ตม.6 ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญโดยมีรายละเอียดดังนี้ 

เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สส.สตม. ได้รับแจ้งจากสายลับว่าได้พบเห็นชายชาวต่างชาติมีตำหนิรูปพรรณคล้ายกันกับผู้ต้องหาตามประกาศทางเว็บไซต์ของตำรวจไต้หวัน ชื่อนายซี(นามสมมติ)กระทำความผิดฐานฉ้อโกงเงินซื้อขายบิตคอยน์ โดยสายลับได้พบเห็นนายซี (นามสมมติ) ในซอยอาภาศิริ แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สส.สตม. จึงได้ประสานงานสอบถามไปยังสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย รับแจ้งว่านายซี (นามสมมติ) เป็นบุคคลเดียวกันกับที่ทางการไต้หวันต้องการตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สส.สตม. จึงได้ตรวจสอบในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ตม. พบว่า นายจางเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2562 วีซ่านักท่องเที่ยว 60 วัน ได้รับอนุญาตให้อยู่ในประเทศไทยถึงวันที่ 5 พฤษภาคม 2565 ซึ่งการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรได้สิ้นสุดลงแล้ว 

20 ล้านใบไม่พอแล้วมั้ง? หลังสลากดิจิทัล 5.17 ล้าน ขายวันเดียวหมด!! | NEWS GEN TIMES EP.59

✨ 20 ล้านใบไม่พอแล้วมั้ง? หลัง C5.17 ล้าน ขายวันเดียวหมด!!

✨ TikTok เสี่ยงถูกแบน จาก Play Store และ App Store หรือนี่จะเป็นเกมการเมืองที่สหรัฐฯ จะดัน IG Reel ของ Facebook เข้ามาแทนที่?

✨ นักกีฬาหญิง (แท้) มีเฮ!! สหพันธ์ว่ายน้ำนานาชาติ ประกาศห้าม 'คนข้ามเพศ' ลงแข่งขันในรายการต่าง ๆ ของผู้หญิงอีกต่อไป!!

NEWS GEN TIMES ชวนคิด กับ กิตติธัช

โดย อ.ต้อม - กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ นักวิชาการอิสระและอาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

'อรุณี' ถาม ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลไม่แสดงตนร่างกฎหมายประกอบการเลือกตั้ง คิดแต่รักษาอำนาจ ทำลายรัฐธรรมนูญ อย่าอ้างทำเพื่อประชาชน พฤติกรรมฟ้องค้ำยันอำนาจเผด็จการ 

ดร.อรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการผ่านร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ทั้ง 2 ฉบับที่กำลังพิจารณากันอยู่ในสภาผู้แทนราษฎรในขณะนี้ว่า ท่าทีที่ชัดเจนของพรรคร่วมรัฐบาลจะลงมติไปในการหาร 500 เนื่องจาก ส.ส.หลายคนในฝั่งรัฐบาลพร้อมใจกันไม่แสดงตนจำนวนมากทั้งที่อยู่ในสภาผู้แทนราษฎรซึ่งเป็นหน้าที่ในการพิจารณากฎหมายที่สำคัญเป็นกติกาในการปกครองประเทศ กลับละเลยเลยเล่นเกมการเมือง เพียงเพื่อต้องการรักษาอำนาจให้คงอยู่ในการเลือกตั้งครั้งหน้า 

ดร.อรุณี กล่าวต่ออีกว่า การกระทำของ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค คือการแสดงเจตนารมณ์อย่างชัดแจ้งในการไม่เคารพในรัฐธรรมนูญอันเป็นกฎหมายสูงสุดในการปกครองประเทศ โดยเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ มาตรา 91 กำหนดไว้ชัดเจนว่าคะแนนที่เลือกพรรคการเมืองต้องเป็นสัดส่วนสัมพันธ์กันโดยตรง ต้องใช้สูตรการคำนวนหาร 100 ใน ส.ส ระบบบัญชีรายชื่อ เท่ากับสิ่งที่พรรคร่วมรัฐบาลคิดจะทำอยู่กำลังทำลายเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ การที่พรรคร่วมฝ่ายค้านอาจต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความในเรื่องนี้กรณีสูตรหาร 500 สะท้อนชัดเจนว่า พรรคร่วมรัฐบาลมั่นใจในอำนาจที่มากล้น เพราะคิดว่าจะแทรกแซงองค์กรอิสระได้ ใช่หรือไม่ โดยไม่สนใจหลักการและความถูกต้องรวมถึงหลักนิติรัฐและนิติธรรมตลอดระยะ 8 ปีที่ผ่านมา 

เริ่มต้นผิด หมดสิทธิ์ไปต่อ!! Drive your business with data insights ลองมาเข้าใจลูกค้าเชิงลึกด้วย Data กันเถอะ

“Customer Insights ของเรื่องนี้คืออะไร!?!” 

คำถามที่เรามักจะได้ยินบ่อยๆ ไม่ใช่เฉพาะแค่ในเอเจนซี่โฆษณาเท่านั้น แต่จะเกิดขึ้นกับคนที่อยู่ในระบบนิเวศของการทำธุรกิจ ที่ล้วนแล้วแต่ต้องหาสิ่งที่เรียกว่า Customer Insights ให้เจอกันแทบทั้งนั้น!! 

แน่นอนว่า เวลาเราจะตีโจทย์การตลาด เรามักจะเริ่มจากความเข้าใจตลาด เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคก่อน เพราะถ้าไม่เข้าใจคนซื้อ ก็ขายของยาก ทำให้ขายของได้ไม่ตรงจุด 

นั่นจึงมีสิ่งที่เรียกว่า Customer Insights ออกมาอยู่คั่นกลาง เพื่อให้เราไปทำความเข้าใจผู้บริโภค ‘เชิงลึก’ ก่อน ต้องรู้ว่าพฤติกรรมผู้บริโภคเป็นอย่างไร เขาชอบหรือไม่ชอบอะไร เขาคิดอะไรอยู่ อะไรที่จะทำให้กระตุ้นให้เขาซื้อสินค้าของเรา 

แต่ทั้งหมดที่พูดมา ไม่ใช่แค่รู้ในภาพรวมของตลาดที่ใคร ๆ ก็รู้อยู่แล้ว ต้องเจาะลงไประดับผู้บริโภคแต่ละกลุ่มย่อย ๆ หรือให้ดีต้องรู้จักผู้บริโภคเป็นรายคนเลย เพื่อให้เราสามารถนำเสนอสินค้าที่ตรงจุดตรงใจ และถูกที่ถูกเวลาให้กับผู้บริโภคได้

>> Insights ผิด ชีวิตเปลี่ยน พาธุรกิจไปผิดทาง

แต่ปัญหาคือ เราจะหา Customer Insights เหล่านี้มาได้ยังไง เพราะมันก็ไม่ได้หาได้ทั่วไป 

โดยปกติแล้ว Insight ที่แม่นยำ มักจะเกิดจากความเข้าใจในตัวผู้บริโภค ตัวบุคคล หรือกลุ่มนั้นๆ ซึ่งต้องขอบอกว่ามาจากประสบการณ์ที่ได้สัมผัส ในแบบที่หลาย ๆ ครั้งก็หาอ่านก็ไม่ได้ 

เราต้องเจอ ต้องลอง ต้องเจ็บก่อนถึงจะเข้าใจ 

แต่คำถาม คือ แล้วถ้าเราไม่ได้มีประสบการณ์ตรง จะมีวิธีไหนที่ทำให้เราเข้าถึง Insights ได้บ้าง? 

คนที่จะบอก Insights กับเราได้ดีที่สุดก็คือผู้บริโภคเองนั่นแหละ แต่วันนี้มันมีวิธีที่ง่ายขึ้น คือ Customer Insights ไหลเวียนอยู่รอบตัวเรา แค่คลิกเชื่อมต่อเข้าหาโลกอินเทอร์เน็ต

ปัจจุบัน ข้อมูลพฤติกรรมต่างๆ เริ่มถูกบันทึกเข้าไปในโลกออนไลน์ ผ่านการทำธุรกรรมในโลกดิจิทัลไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง โดยข้อมูลพวกนี้ จะกลายเป็นข้อมูลที่มีค่าอย่างยิ่งต่อเอเจนซี่และนักการตลาด เช่น... 

ข้อมูลจากแคชเชียร์ หรือที่มักจะเรียกว่า Point of Sale (POS) ที่บ่งบอกได้ว่า เราขายของอะไรไป ขายเมื่อไร ขายเท่าไร ขายใครไปบ้าง ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สามารถนำไปวิเคราะห์ต่อให้เกิด Insights ได้มากมาย และตราบใดที่ธุรกิจมีปฏิสัมพันธ์กับผู้บริโภค เราก็จะสามารถมองเห็นพฤติกรรมของเค้าได้จากสิ่งนี้มากขึ้นๆ ไม่ว่าจะผ่านหน้าร้าน, เว็บไซต์, ไลน์, โซเชียลมีเดีย ฯลฯ เพียงแค่เราต้องจัดวางเครื่องมือการเก็บข้อมูล Insights นั้นๆ ให้ถูกวิธี

ยกตัวอย่างในช่วงโควิด เราเห็นการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคกับการสั่งอาหารอย่างมาก โดยพฤติกรรมหลายๆ อย่างยังคงเหมือนเดิม แม้จะเปิดเมืองแล้วก็ตาม เช่น เราพบว่าพฤติกรรมของคนที่ชอบสั่งอาหารให้มาส่งที่บ้าน แตกต่างกับคนที่ชอบสั่งแล้วไปรับหน้าร้านอย่างมาก คือ กลุ่มที่ชอบสั่งอาหารให้มาส่งมักจะสั่งเป็นเวลาและสั่งสำหรับกินกันหลายคน ส่วนอาหารที่สั่งก็จะไม่ซ้ำกันในแต่ละครั้ง 

...หรือ สิ่งที่ลูกค้าสั่งมากที่สุดอย่างหนึ่งในข้อมูลที่เราเห็น คือ ซอสมะเขือเทศเป็นซองๆ โดยเฉพาะการสั่งกลับบ้าน (ไม่ชอบกินซอสมะเขือเทศมากก็น่าจะขอเพิ่มเพื่อเก็บไว้ใช้กับอย่างอื่น) แต่ถ้ารับกลับบ้าน ลูกค้ากลับไม่ขอซอสมะเขือเทศเพิ่มเยอะเท่า เป็นต้น 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top