Monday, 23 June 2025
ค้นหา พบ 48959 ที่เกี่ยวข้อง

'ทักษิณ' ฟาด 'บิ๊กตู่' จะอยู่เป็นเจ้าภาพ APEC เพื่อ? ชี้ ปท.ไทยยังไม่พร้อม ส่วน 'ดอน' ก็หมดไฟ - ไม่ฉลาด

'ทักษิณ' ฟาดแหลก 'ประยุทธ์' จะอยู่เป็นเจ้าภาพ APEC เพื่ออะไร อย่าเป็นเลย ความไม่พร้อมของประเทศไทยสูงมาก 'ดอน'คงหมดไฟแล้ว เครื่องบินพม่ารุกล้ำเข้าไทย เรายังไม่เห็นคำขอโทษจากพม่าเลย ไทยแก้ตัวให้หมด ชี้ต้องเรียกทูตมาประท้วง

(6 ก.ค. 2565) เฟซบุ๊กแฟนเพจ CARE คิด เคลื่อน ไทย เผยแพร่คำพูดของ นายทักษิณ ชินวัตร หรือ โทนี วู้ดซัม อดีตนายกรัฐมนตรี ในรายการ CareTalk x Care ClubHouse หัวข้อ "ผู้นำต้องทำงาน ไม่ใช่ผลาญแต่ภาษี" เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2565 ตอนหนึ่งว่า

“...ประยุทธ์จะอยู่เป็นเจ้าภาพ APEC เพื่ออะไร เพราะความไม่พร้อมของประเทศไทยสูงมาก...”

กรณีที่คุณดอน (รมว.ต่างประเทศ) ขอโทษแทนพม่า ต้องยอมรับว่าคุณดอนคงหมดไฟแล้ว เพราะขนาดไปประชุมระดับโลกยังใช้ที่ปรึกษาไปแทนเลย พอการต่างประเทศของไทยเป็นแบบนี้ เอาจริง ๆ ผมมองไม่ออกเลยว่า ท่านประยุทธ์จะอยู่เป็นเจ้าภาพ APEC ไปเพื่ออะไร หรือแค่อยากจะแข่งกับผม เห็นผมเป็นเลยอยากเป็นบ้าง ผมไม่เคยคิดแข่งกับใคร

แต่ว่านะ ท่านอย่าเป็นเลย ความไม่พร้อมของประเทศไทยสูงมากสำหรับการประชุม APEC เพราะมีภาวะแทรกซ้อนระหว่างประเทศสูงมาก และรัฐมนตรีการต่างประเทศต้องฉลาด ต้องคล่องตัวและมีความสัมพันธ์กับหลายประเทศ เราจะรับมือยังไง วันนี้การต่างประเทศไทยไม่แข็งแรง พาณิชย์กับคลังก็ไม่แข็งแรง นายกฯนี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ถ้า 2-3 ขานี้ไม่แข็งแรง นายกฯก็จะยิ่งเปลี้ยใหญ่

จีน สุดล้ำ! พัฒนาชุดโต๊ะ - เก้าอี้แบบพิเศษ เปิดมิติใหม่แห่งการงีบให้เด็กนักเรียน

เพจเฟซบุ๊ก Jeenthainews – จีนไทยนิวส์ ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความถึงชุดโต๊ะ-เก้าอี้ที่ทำขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อให้เด็กนักเรียนในจีนได้งีบในช่วงกลางวัน ว่า หมดยุคฟุบกับโต๊ะเพื่องีบยามบ่าย เพราะพี่ #จีน เราล้ำกว่านั้นมาก!

หลายคนอาจเคยได้ยินเรื่องวัฒนธรรมการ “#นอนกลางวัน” ของชาวจีนมาบ้าง แต่นี่คือปี 2022 เพราะฉะนั้นหมดยุคงีบยามบ่ายด้วยการฟุบหัวลงบนโต๊ะให้ปวดคอแล้ว!

มีคลิปด้วยนะ ใครสนใจตามไปดูได้ที่ https://www.jeenthainews.com/china-news/43193_20220705

'บุ๋ม ปนัดดา' ชี้!! ครูก็เป็นคน สิทธิส่วนบุคคลควรมี ลั่น!! ถึงยุคที่สมควรเปลี่ยนกฎนางงามเสียที

‘บุ๋ม ปนัดดา’ มองประเด็น ‘ครูจุ๊บแจง’ ถอนตัวประกวดมิสยูนิเวิร์สเพราะผิดระเบียบรับราชการครู ลั่นเป็นกฎที่ควรจะเปลี่ยนได้แล้วยันควรจะเคารพสิทธิส่วนบุคคลบ้าง เพราะครูก็เป็นคน ถ้าไม่ได้ทำอะไรเสื่อมเสียหรือผิดกฎของสถานศึกษา 

หลังจากที่เกิดกรณีของ “จุ๊บแจง กนกวรรณ ชูสุข” ครูสาวที่เข้าประกวดเวทีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2022 ต้องสละสิทธิถอนตัวจากการประกวดแบบกะทันหัน เพราะถือว่าผิดกฎของกระทรวงศึกษาธิการ ที่ออกกฎว่าห้ามครูสตรีเข้าประกวดนางงาม ซึ่งเป็นกฎที่ตั้งแต่เมื่อปี 2506 ก็เลยเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก ล่าสุด “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” ในฐานะที่เป็นอดีตนางสาวไทย และเคยเป็นอาจารย์เช่นกัน จึงได้ออกมาเผยความรู้สึกถึงเรื่องนี้ว่า เป็นเรื่องที่เซนซิทีฟมาก และควรจะเปลี่ยนกฎเก่า ๆ ให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนไปได้แล้ว

“มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเซนซิทีฟนะคะ และเป็นประเด็นที่พูดคุยกันมานาน และจริง ๆ แล้วปีที่บุ๋มประกวดมันไม่มีชุดว่ายน้ำบนเวที มันก็เลยยังมีข้อยกเว้นแบบที่พอจะคุยกันได้มั้ง เขาก็คงจะรู้สึกว่ามันก็คงจะไม่ได้แรงมากขนาดนั้นมั้ง เพราะไม่มีชุดว่ายน้ำบนเวที แต่มีใส่ให้กรรมการดู ตอนรอบต่างหากในห้อง เพื่อเขาจะได้ดูผิวของเราว่ามีผิวแตกลายมั้ยอะไรมั้ย"

"แต่ในส่วนของการประกวดบุ๋มว่า คือในความรู้สึกบุ๋ม ยุคสมัยมันก็เปลี่ยนไปแล้ว และที่สำคัญคือครูเองถ้าเขาจัดการเรื่องของเวลา คือเข้าใจว่าไม่ว่าจะอาชีพอะไรก็ตาม แต่ถ้ามันเสียเวลางาน เราต้องขาดลางานโดยที่ไม่สามารถลาได้ อันนั้นถือว่าผิดกฎอยู่แล้ว อันนั้นถือว่าคุณต้องจัดการตัวเองให้ได้ ไม่ว่าจะอาชีพอะไรก็ตาม ยิ่งเป็นระบบราชการอันนี้เราเข้าใจ อาจจะเป็นข้อที่ทำให้ทางต้นสังกัดเขาติงหรือว่ามาได้"

กฏเก่าควรเปลี่ยนได้แล้ว..."แต่ด้วยกฎระเบียบของการเป็นครู และกฎนี้มันมีมานานแล้วตั้งแต่สมัยพ.ศ.2506 ก่อนบุ๋มจะเกิดอีก คือมันควรจะปรับได้แล้ว เพราะยุคสมัยมันเปลี่ยน และควรเคารพสิทธิส่วนบุคคล คือถ้าเขาจัดการตัวเองได้โดยไม่ได้เสียเวลางาน และทำตามความฝัน โดยไม่ได้ทำให้ภาพลักษณ์ คือเขาไม่ได้ใส่ชุดว่ายน้ำไปสอนหนังสือ หรือเอาไปโพสต์อะไรที่มันดูยั่วยวนจนเกินงาม หรือทำให้มันเสื่อมเสียหรือโพสต์อะไร" 

"แต่นี่คือการประกวดที่เขามีสิทธิที่เขาจะได้เป็นตัวแทนประเทศไทยด้วยซ้ำไป บุ๋มว่ามันควรจะเปลี่ยนได้แล้ว ครูก็คนนะ ควรมีชีวิตส่วนตัวนะ แม้กระทั่งเรื่องใส่ชุดว่ายน้ำไปเที่ยวทะเลหรืออะไรก็ตาม ครูก็คน เพียงแต่ว่าไม่ได้โพสต์ทะลึ่งตึงตัง หยาบคายจนเกินงาม บุ๋มเข้าใจคำว่าเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับคนอื่น อันนี้เข้าใจ แต่บางทีมันต้องเปลี่ยนไปตามยุคบ้างค่ะ”

บอกครูไม่จำเป็นต้องเสียสละทุกอย่าง แม้กระทั่งชีวิตส่วนตัว

“ความเป็นครูในยุคสมัยนี้ ถามว่าขอบเขตควรอยู่ขนาดไหน ก็อาจจะต้องมีความน่าเชื่อถือมากกว่าอาชีพอื่น อันนี้เป็นเรื่องที่เราเข้าใจได้ ความน่าเชื่อถือ ความน่าเกรงใจมากกว่าอาชีพอื่น แต่ครูไม่ใช่ว่าจะต้องเสียสละทุกสิ่งทุกอย่างแม้กระทั่งชีวิตส่วนตัว นี่ความรู้สึกบุ๋มนะ เพราะถ้าแม้กระทั่งชีวิตส่วนตัวของตัวเองก็ยังไม่มีเนี่ย บุ๋มว่าไม่ใช่" 

"ทุกคนสามารถมีความฝัน มีชีวิตส่วนตัวของตัวเองได้ เพียงแต่ว่าเรายังอาจจะอยู่ในยุคการผสมผสานของคนรุ่นใหม่และคนรุ่นเก่าที่ยังไม่สามารถที่จะปรับเปลี่ยนได้ทุกสิ่งทุกอย่างได้ทันที นี่ก็อาจจะเป็นประเด็นและการเปิดประเด็นได้ ก็ต้องขอแสดงความเสียใจกับน้องจุ๊บแจงด้วยค่ะ"

"ถ้ามองถึงการผลักดันให้มีการเปลี่ยนแปลงเนี่ย บุ๋มมองว่าเป็นเรื่องของกฎการกระทรวงที่เขาต้องคุยกันได้แล้ว อะไรที่มันล้าหลัง อย่างเช่นตอนนั้นที่บุ๋มทำกฎหมายข่มขืน นั่นมัน 33 ปีเลยนะที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง นานมาก บุ๋มยังตกใจเลย พอมาศึกษาเรื่องนี้จริงจัง ว่าทำไมมันยังแค่ 8,000 บาทเอง ข่มขืนทั้งที ทำไมมันน้อยจังเลย" 

"ยิ่งพอมานั่งศึกษามัน 33 ปีที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเลย มันก็ต้องมีคนที่ลุกขึ้นสู้ และต้องทำตรงนี้ให้มันเปลี่ยนแปลงและปรับให้มันทันสมัยขึ้น ถ้าไม่มีประเด็นบางทีก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรค่ะ ประเทศไทยเรามักจะเป็นอย่างนี้”

บอกควรจะไปดูครูที่ประพฤติตัวไม่ดีต่อนักเรียน ดีกว่าจะมาจับจุดยิบๆ ย่อยๆ

“เรื่องที่ครูมาเล่นติ๊กต๊อกแล้วโดนวิจารณ์ อันนี้บุ๋มก็เห็นคุณครูหลายคนมาเล่นกับเด็ก ชวนเด็กเฮฮา แล้วเด็กรู้สึกรักคุณครูด้วยซ้ำไป แล้วเขาก็รู้สึกอยากมีส่วนร่วม อยากไปเรียน บุ๋มว่าเดี๋ยวนี้ยุคมันเปลี่ยนไปแล้ว มองที่ความตั้งใจ มองที่ผลงานมากกว่ามองแค่การกระทำอยู่ไม่กี่อย่าง แล้วเอามาตัดสินคนทั้งคน บุ๋มว่ามันไม่ถูกต้อง ถ้าดูที่ผลงาน เขาทำงานได้ดี สอนหนังสือเด็กได้ดี ทำไมไม่มองในจุดนั้น มากกว่ามองในจุดยิบๆ ย่อยๆ"

เตือน เอาสลากดิจิทัลมาขายต่อ ถูกจับดำเนินคดี

พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยถึงกรณีที่มีข่าวว่ามีการนำสลากดิจิทัล มาจำหน่ายต่อเกินราคาบนสื่อสังคมออนไลน์ว่า สำนักงานสลากฯ ขอแจ้งเตือนประชาชนที่จะซื้อสิทธิสลากดิจิทัลจากผู้อื่น ให้เพิ่มความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการซื้อต่ออย่างเด็ดขาด เพราะในระบบการจำหน่ายสลากดิจิทัล ผ่านแอปเป๋าตัง จะบันทึกชื่อผู้ซื้อไว้อย่างชัดเจน และให้สิทธิการเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ซื้อที่เป็นเจ้าของบัญชีแอปเป๋าตังเท่านั้น 

ดังนั้นเมื่อถูกรางวัล เงินรางวัลจะโอนเข้าบัญชีผู้ซื้อ ไม่สามารถโอนสิทธิเปลี่ยนมือการขึ้นรางวัลไปให้บุคคลอื่นได้  หรือกรณีหากจะมารับสลากฯ ที่สำนักงานฯ ก็จะต้องใช้ชื่อผู้ซื้อยืนยันตัวตนในการมารับสลากฯ ดังนั้น ถ้าใครหลงเชื่อ ซื้อสลากดิจิทัลที่มีการนำมาประกาศขายต่อ หากถูกรางวัลอาจเกิดปัญหาตามได้ ซึ่งเรื่องนี้ สำนักงานสลากฯ ได้มีประกาศชัดเจน และออกมาแจ้งเตือนอยู่ตลอดเวลา จึงขอให้ประชาชนซื้อสลากดิจิทัลโดยตรงผ่านแอพเป๋าตังเท่านั้น ซึ่งระบบมีความปลอดภัย และสามารถขึ้นเงินรางวัลได้อย่างแน่นอน

ศาลฎีกา พิพากษาจำคุก 2 ปี ‘เทพไท-น้องชาย’ พร้อมตัดสิทธิการเมือง 10 ปี คดีโกงเลือกตั้งนายกอบจ.

ศาลฎีกาพิพากษา ยืนจำคุก 2 ปี-ไม่รอลงอาญา เทพไท-น้องชาย คดีทุจริตเลือกตั้งนายกอบจ. พร้อมตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปีด้วย ก่อนคุมตัวเข้าเรือนจำทันที

วันที่ (6 ก.ค.65) ที่ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ศาลฎีกานัดอ่านคำพิพากษาในคดีทุจริตการเลือกตั้งนายกอบจ.นครศรีธรรมราช ที่มีนายพิชัย บุญเกียรติ อดีตนายกอบจ.นครศรีธรรมราช น้องชายนายชินวรณ์ บุญเกียรติ สส.นครศรีธรรมราช เป็นโจทก์ ในคดีทุจริตเลือกตั้งนายกอบจ.นครศรีธรรมราช ยื่นฟ้องนายมาโนช เสนพงศ์ เป็นจำเลยที่ 1 และนายเทพไท เสนพงศ์ เป็นจำเลยที่ 2 โดยมีการต่อสู้คดีอย่างยาวนานอยู่ในชั้นการพิจารณาของอัยการรวม 4 ปี แต่ไม่ได้ส่งฟ้องต่อศาล


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top