Wednesday, 2 July 2025
ค้นหา พบ 49158 ที่เกี่ยวข้อง

‘นพดล’ ยุติบทบาท กลุ่มพสกนิกรปกป้องสถาบันฯ ผิดหวัง หลังถูกกล่าวหาโหนสถาบันฯ

นพดล พรหมภาสิต โพสต์ประกาศยุติบทบาทของกลุ่มพสกนิกรปกป้องสถาบันฯ และกิจกรรมทุกอย่างที่เคยทำมา เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเพจเฟซบุ๊กของ Nopadol Prompasit มีข้อความที่นายนพดล โพสต์ประกาศยุติบทบาทของกลุ่มพสกนิกรปกป้องสถาบันฯ และกิจกรรมทุกอย่างที่เคยทำมา โดยข้อความดังกล่าวระบุว่า

เมื่อสถาบันกำลังมีภัย เราจึงลุกขึ้นมาเพื่อปกป้องทุกวิถีทาง แต่สิ่งที่ได้รับคือถูกกล่าวหาว่าโหนสถาบัน ชอบแอบอ้างสถาบัน และอื่นๆที่สาดโคลนใส่ ดังนั้นต่อไปนี้จึงขอยุติบทบาทของกลุ่มพสกนิกรปกป้องสถาบันฯ และกิจกรรมทุกอย่างที่เคยทำมา

หลังจากข้อความถูกโพสต์ออกไปเพียงครึ่งชั่วโมงปรากฎว่ามีผู้เข้ามาให้กำลังใจกันเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่ส่งกำลังใจให้สู้ต่อ ในขณะที่นายนพดลได้ตอบคำถามใต้โพสต์ว่า มีโอกาสพูดคุยกับใครบางคนเมื่อคืนทำให้ failed มาก


ที่มา : https://www.facebook.com/moommuan/posts/5496213900390970

พบ 'พระป่า' ดำรงสมณเพศอย่างสันโดษ ห่มจีวรจากเศษผ้า ไม่ฉันเนื้อสัตว์ - ไม่รับปัจจัย

เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีพระภิกษุพำนักอยู่ในสำนักสงฆ์ โดยดำรงเพศสมณะ ด้วยการใช้เศษผ้าเหลือใช้ ผ้าบังสุกุล หรือผ้าห่อศพนำมาเย็บต่อกัน นำไปย้อมด้วยรากไม้ แล้วนำมานุ่งห่ม อีกทั้งยัง ฉันภัตตาหารมื้อเดียว ไม่ฉันเนื้อสัตว์ และไม่รับปัจจัย  

เมื่อเดินทางไปยังสำนักสงฆ์ดังกล่าว พบพระรูปดังกล่าว คือ พระปัญญา มังคะโล ประธานสงฆ์สำนักสงฆ์สวนกัน ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 13 ตำบลโพสังโฆ อำเภอค่ายบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี  

พระปัญญา เล่าว่า ได้อุปสมบท เพื่อดำเนินตามรอยคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยใช้สถานที่แห่งนี้เป็นที่ปฏิบัติติธรรม ซึ่งโยมพ่อถวายที่แห่งนี้ให้เป็นสำนักสงฆ์มากว่า 20 ปี ปัจจุบันมีพระสงฆ์ 3 รูป มีโยมอุบาสก อุบาสิกา คอยหมุนเวียนมาปฏิบัติธรรมและอยู่ช่วยงาน

เมื่อถามถึงการปฏิบัติธรรมว่าพระคุณเจ้านิกายใด ปฏิบัติธรรมเช่นไร ได้คำตอบว่า ปฏิบัติมหานิกาย โดยยึดมรรค 8 ยึดตามหลักคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า การรู้สภาวะกายและจิต อบรมจิต อบรมกายตน รู้พูด รู้เดิน รู้การกระทำ และไม่ฉันเนื้อสัตว์ หรือวัตถุดิบจากสัตว์ การฉันมื้อเดียวในบาตร จากการเดินบิณฑบาต ซึ่งญาติโยมในพื้นที่จะทราบดีว่าพระที่นี่ฉันมังสวิรัติ ไม่มีเนื้อสัตว์ ไม่รับกิจนิมนต์ ไม่รับสวด (นอกจากญาติโยมที่เคยมาปฏิบัติที่นี้มาขอให้สวด) และไม่รับปัจจัย 

สำหรับ สิ่งของที่ญาติโยมมาถวายส่วนใหญ่ คือ อาหารมังสวิรัติ น้ำดื่ม พระสงฆ์ที่สำนักสงฆ์สวนกันจะสีข้าวเปลือกเอง มียุ้งข้าว ทำน้ำซีอิ้วเต้าเจี้ยวเอง ปลูกพืชสมุนไพร ใช้น้ำบาดาล มีไฟฟ้าใช้เฉพาะจำเป็นและเปิดปิดตามเวลาโดยค่าไฟในแต่ละเดือนอยู่ที่ 40 บาท 

ส่วนผ้าจีวร ใช้เศษผ้าเหลือใช้ จากผ้าบังสุกุล หรือผ้าห่อศพ มาเย็บต่อกัน จากนั้นนำเปลือกไม้ต้นประดู่มาแช่น้ำในโอ่ง 1 คืน แล้วนำผ้าจีวรที่เย็บแล้วนั้นไปหมักโคลนอีก 1 คืน จนได้เป็นจีวร (พระทำเองทุกขั้นตอน)

Road trip UTAH

สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศกว้างใหญ่ไพศาล ประกอบด้วยห้าสิบรัฐ พื้นที่แต่ละรัฐกว้างพอ ๆ หรืออาจจะกว้างกว่าประเทศไทยด้วยซ้ำ 

ดังนั้น ความหลากหลายทางภูมิประเทศและภูมิอากาศจึงมากตามไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ราบลุ่ม ชายทะเลทั้งฝั่งแอตแลนติกและแปซิฟิก ทะเลทราย เทือกเขาสูงทอดตัวยาว ภูเขาหิมะ ทุ่งหญ้า ป่าหลากประเภท มีบริเวณอากาศร้อนชื้นไปจนถึงหนาวจัดสุดขั้วก็มี สถานที่ท่องเที่ยวสวยงามมากมายจึงกระจายทั่วประเทศ นักเดินทางต่างจึงมีทางเลือกเยอะมากในการปักหมุดหมายตามความชอบความต้องการ รวมถึงปริมาณเวลาว่างที่มี

  
ช่วงก่อนหน้านี้สามสี่เดือน ผมเดินทางในอเมริกาด้วยจักรยาน ปั่นท่องเที่ยวเลาะไปตามชายฝั่งทะเลแปซิฟิกในรัฐแคลิฟอร์เนีย โอเรกอน และรัฐวอชิงตัน อยากลองเปลี่ยนบรรยากาศ สลับสับเปลี่ยนรูปแบบการเดินทางมาเป็นการขับรถเที่ยวดูบ้าง พอดีรู้จักกับเพื่อนสองคนซึ่งปกติอยู่ไทย แต่กลับมาเที่ยวที่นี่ จึงเป็นเรื่องประจวบเหมาะ ชักชวนกันทำโร้ดทริป 

‘เน้ท’ เป็นคนอเมริกัน บ้านอยู่ที่โคโลราโด (และที่เชียงใหม่) ส่วน ‘เยา’ ผู้เป็นภรรยานั้นคือสาวไทย นัดแนะกันว่าจะพบกันที่บ้านพวกเขาบนเทือกเขาร็อกกี้ในรัฐโคโลราโด แล้วจะขับรถไปเที่ยวรัฐยูทาห์ซึ่งอยู่ติดกัน (พื้นที่ทางตอนกลางของสหรัฐ) 

มนต์เสน่ห์แห่งการท่องเที่ยวด้วยรถยนต์ผ่านภูมิประเทศแห้งแล้งกึ่งทะเลทรายจึงเริ่มต้นขึ้น จุดหมายปลายทางคือ อุทยานแห่งชาติอันเลื่องชื่อ อย่างอุทยานแห่งชาติ Arches National Park นั่นเอง 

จะว่าไป ส่วนตัว ผมไม่ได้รู้จักพื้นที่แถบนี้ดีเท่าไหร่นัก อารมณ์จับพลัดจับผลูได้มาเที่ยวเพราะมีเพื่อนเป็นคนแถวนี้มากกว่า ข้อดีก็คือไม่ต้องวางแผนการกินการนอน ไม่ต้องค้นหาว่าจะไปแวะเที่ยวที่ไหนบ้างระหว่างทาง สบายไปแปดอย่างสิบอย่างเพราะมีเพื่อนเป็นมัคคุเทศก์นำทางนั่นเอง


ทริปสบาย ๆ แบบไม่ได้กะเกณฑ์อะไรมาก เห็นอะไรสวยก็จอดแวะดูแวะถ่ายรูป คนขับง่วงก็หลบริมทางงีบ คุยสัพเพเหระอะไรกันไปขณะอยู่ในรถ โดยมีวิวสวยสองข้างทางสร้างความรื่นรมย์ ยิ่งเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วงแบบนี้พวกต้นไม้ใบหญ้าแข่งกันประชันขันแข่งสีสันสดใส สร้างความตะลึงพรึงเพริดแก่คนพบเห็น

ข้อดีของอเมริกาอย่างหนึ่ง คือทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนจัดสรรลานพักแรมกระจายอยู่ทั่วไปให้แก่นักท่องเที่ยว ทั้งพวกที่ขับรถบ้าน รถกระบะหรือเก๋ง นักบิดมอเตอร์ไซค์ นักปั่นจักรยาน รวมถึงคนแบกเป้ทั้งหลายด้วย นับเป็นความสะดวกสบายอย่างหนึ่ง พวกเราจึงมักอาศัยพักแรมตามลานกางเต็นท์ประเภทนี้ ไม่ก็หาพื้นที่หลบมุมกางเต็นท์ด้วยบ้างเช่นกัน 

แวะเที่ยวไปเรื่อย ทำให้กว่าจะถึงจุดหมายก็ปาเข้าไปสองวัน เมืองท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้ Arches National Park คือเมืองโมอับ เป็นเมืองเล็ก แต่ความสะดวกสบายครบครันตามแบบฉบับเมืองที่ต้อนรับนักท่องเที่ยว ทั้งร้านค้าร้านอาหาร (มีแม้กระทั่งร้านอาหารไทย) ร้านขายของที่ระลึก โรงแรมหลายระดับ บริษัททัวร์ พิพิธภัณฑ์ก็มีด้วย พวกเราไม่ได้เลือกพักโรมแรม ส่วนหนึ่งเพราะต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย และไหน ๆ ก็แบกเต็นท์ เครื่องนอน เตาไฟ สำรับอาหารสดอาหารแห้งกันมาเกือบเต็มคันรถ ไฉนจึงไม่หาที่พักแรมสวยๆ ดื่มด่ำความงามของธรรมชาติโดยรอบ ซึ่งดีกว่านอนในห้องหับกว่ากันเป็นไหนๆ จริงไหมครับ

“อุตตม”  โพสต์ยินดี “ชัชชาติ” แนะ แก้ด่วนเรื่องเศรษฐกิจให้คนเมือง “ลดค่าใช้จ่ายเดินทาง - ค่าที่อยู่อาศัย” 

“ด้าน “สนธิรัตน์” ระบุ ปชต. ไม่ได้จบแค่กากบาทในคูหา ชี้คำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ตอนหาเสียง จะเป็นเงาตามตัว ตรวจวัดความสำเร็จในการทำงานเพื่อมหานครกรุงเทพฯ 

นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า ขอแสดงความยินดีกับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่ได้รับความไว้วางใจจากชาวกรุงเทพฯ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครจากการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยกรุงเทพฯเป็นมหานครที่มีประชากรอาศัยมากถึง 10 ล้านคน เฉพาะในทะเบียนราษฎรราว 6 ล้านคน และมีประชากรแฝง อีกประมาณ 4 ล้านคน ที่มาอยู่อาศัยประกอบอาชีพ เรียนหนังสือ ฯลฯ และไม่เฉพาะแค่คนไทยเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงชาวต่างชาติ ที่เข้ามาทำงาน ทำธุรกิจ และท่องเที่ยว สร้างรายได้เข้าประเทศในแต่ละปีจำนวนมาก ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงกรุงเทพฯให้ดีขึ้น จึงมิใช่แค่คนกรุงเทพฯ แต่เพื่อคนไทยทุกคนด้วยเช่นกัน

นายอุตตม กล่าวว่า สิ่งที่ประชาชนอยากเห็นความเปลี่ยนแปลง หรือได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เป็นปัญหาเดิมๆ เช่น ปัญหาจราจร น้ำท่วม มลพิษและสิ่งแวดล้อม ที่ล้วนส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่มาตลอดหลายสิบปี ที่สำคัญปัจจุบันยังต้องเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจปากท้องต้นทุนค่าครองชีพเพิ่มขึ้นอีกประการหนึ่ง และคนกรุงเทพฯกำลังเดือดร้อนจากปัญหาเศรษฐกิจปากท้องอย่างหนัก เช่นเดียวกับคนไทยทั่วประเทศ ดังนั้นกทม.ต้องยกระดับเรื่องเศรษฐกิจขึ้นมาเป็นภารกิจหลักและเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือประชาชน เช่น ช่วยหาทางลดค่าใช้จ่ายด้านการเดินทางให้กับประชาชน ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านที่อยู่อาศัยให้ผู้มีรายได้น้อย ทั้งสองเรื่องนี้คือต้นทุนชีวิตส่วนใหญ่ของคนเมือง นอกจากนี้ กทม.ต้องสร้างโอกาสในการหารายได้เพิ่มให้ประชาชนด้วย ซึ่งกทม.มีกลไกและทรัพยากรพร้อมที่จะทำงานในเรื่องทั้งหมดนี้อยู่แล้ว

การยกระดับเศรษฐกิจชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน คือจุดเริ่มของเส้นทางที่จะสร้างให้กรุงเทพฯ เป็นมหานครแห่งความหวังและความสุขของทุกคน  ขอเป็นกำลังใจให้นายชัชชาติ ในการทำงานเพื่อนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงของกรุงเทพมหานครครั้งใหม่นี้

ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวแสดงความยินดีกับ ‘ชัชชาติ สิทธิพันธุ์’ เมื่อ 22 พฤษภาคม 2565

‘เอ้ สุชัชวีร์’ โทรสายตรงยินดี ‘ชัชชาติ’ ศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. หลังทราบผลคะแนนไม่เป็นทางการนำโด่ง

เมื่อ 22 พฤษภาคม นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่ากทม.จากพรรคประชาธิปัตย์ ที่ผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ สูสีกับนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร จากพรรคก้าวไกล ที่อันดับ 2 และ 3 ให้สัมภาษณ์เพียงสั้น ๆ หลังยอมรับความพ่ายแพ้ โดยบอกว่าได้โทรศัพท์หานายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เพื่อแสดงความยินดี

ก็ได้คุยกัน ยินดีกับพี่เขาจริงๆ ครับ โทร.ไปแล้วก็บอกว่า ‘พี่ชัชชาติ เอ้ แสดงความยินดีกับพี่นะ สุดยอดจริงๆ มีอะไรให้เอ้ช่วยพร้อมเสมอครับ แล้วเราก็เป็นพี่น้องกัน เพราะเราเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันครับ’ นายสุชัชวีร์ กล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top