Monday, 7 July 2025
ค้นหา พบ 49261 ที่เกี่ยวข้อง

วันนี้เมื่อปีที่แล้ว เกิดเหตุระทึกขวัญที่ผู้คนทั้งประเทศต่างติดตามกันตลอดทั้งวัน เมื่อสถานีข่าวแทบทุกสำนัก รายงานข่าวว่า มีชายผู้หนึ่งนำอาวุธชนิดร้ายแรง ไล่กราดยิงผู้คนจนถึงแก่ความตายเป็นว่าเล่น

เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นที่จังหวัดนครราชสีมา โดยผู้ก่อเหตุมีชื่อว่า จ่าสิบเอก จักรพันธ์ ถมมา เป็นทหารสังกัดกองพันสรรพาวุธ ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ จังหวัดนครราชสีมา เจ้าตัวเกิดบันดาลโทสะ ยิงหัวหน้าสังกัดของตัวเองตาย ก่อนจะบุกเข้าไปขโมยอาวุธร้ายแรงในค่ายเพิ่มเติม แล้วออกเที่ยวไล่ยิงผู้คนที่ผ่านไปมา

ต่อมาเขาเดินทางไปยังห้างเทอมินอล 21 โคราช แล้วนำอาวุธกราดยิงผู้คน พร้อมกับใช้เฟซบุ๊กในการจับความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ภายนอก และจับตัวประกันเอาไว้ 16 คน

เมื่อเวลาผ่านไปกว่าค่อนคืน เจ้าหน้าที่ตัดสินใจนำกำลังบุกเข้าไปช่วยเหลือตัวประกันในห้าง พร้อมยิงปะทะกับคนร้าย สุดท้ายคนร้ายถูกวิสามัญได้ในที่สุด เจ้าหน้าที่สามารถเข้าควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้ก่อนฟ้าสางของวันใหม่

จากเหตุการณ์ระทึกขวัญกว่า 17 ชั่วโมงนี้ มีผู้เสียชีวิตกว่า 31 ราย (นับรวมทั้งเจ้าหน้าที่, ประชาชน และผู้ก่อเหตุ) และมีจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 57 ราย นับเป็นเหตุการณ์รุนแรงที่หลายฝ่ายต้องหันกลับทบทวนเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย ตลอดจนดูแลคนใกล้ตัวเรื่องปัญหาสภาพจิตใจ เพื่อไม่ให้ก่อเหตุการณ์ร้ายๆ และสังคมต้องพบกับความสูญเสียเช่นนี้อีก

กระบี่-ปลุกพนักงานโรงแรมดัง สู้ ไวรัสโควิด - 19 นำเมนูอาหารก้นครัว เปิดตลาดนัดขายในราคาต้นทุน สร้างรายได้ช่วงนักท่องเที่ยวหดหาย

พนักงาน รร.โซฟิเทล กระบี่ โภคีธรา กอล์ฟ แอนด์ สปา รีสอร์ท จ.กระบี่ ได้ร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ รวมตัวกันนำสินค้าชนิดต่าง ๆ ทั้งอาหาร คาวหวาน เปิดตลาดนัด ริมชายหาดเกาะกวาง ม.3 ต.หนองทะเล อ.เมือง จำหน่ายให้แก่นักท่องเที่ยว และประชาชน ที่ผ่านไปมา โดยอาหารที่ได้รับความสนใจ จากนักท่องเที่ยว เป็นร้านจำหน่ายอาหาร ของโรงแรมโซฟิเทล ที่ได้นำขนม ซึ่งเป็นเมนูเด็ดของโรงแรม มาจำหน่ายราคาต้นทุน โดยมีนายอนุวรรตน์ โหมดพริ้ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายชัยวุฒิ บัวทอง นายอำเภอเมืองกระบี่ ได้เดินทางมาเยี่ยมชมตลาดนัดและให้กำลังใจ

นายสมศักดิ์ เตบบุตร ผู้ใหญ่บ้าน ม.3 ต.หนองทะเล กล่าวว่า ในช่วงการระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ กระทบกับการท่องเที่ยวอย่างหนัก ทำให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวกระบี่ มีจำนวนน้อยมาก ส่งผลให้โรงแรมที่พักหลายแห่งในจังหวัดกระบี่และในพื้นที่ชายหาดเกาะกวาง ต้องปิดกิจการ หรือต้องเลิกจ้างพนักงาน และบางแห่งก็มีการลดเงินเดือนพนักงานเพื่อความอยู่รอดของสถานประกอบการ จึงทำให้พนักงานหลายคนต้องประสบกับความเดือดร้อนเงินเดือนไม่พอกับค่าครองชีพในแต่ละเดือน จึงได้มีการพูดคุยกับผู้บริหารโรงแรมโซฟิเทลฯ เพื่อเปิดพื้นที่ให้พนักงานโรงแรมและชาวบ้าน ได้มีรายได้เพิ่ม จึงได้ขออนุญาต จากทางหลวงชนบท ใช้ฟุตบาทถนนริมชายหาด เปิดเป็นตลาดนัด ทุกวันเสาร์ เวลา 16.00 น. เปิดมาได้ 2 ครั้ง ได้รับความสนใจจากพนักงานโรงแรมและชาวบ้าน นำสินค้ามาจำหน่ายกันอย่างคึกคัก

นายจักรภัทร พิมลเกตุ ผู้จัดการฝ่ายบุคคล รร.โซฟิเทลฯ กล่าวว่า ตอนแรกตั้งใจจะให้พนักงานเปิดตลาดนัดภายในโรงแรม โดยนำเมนูอาหารของโรงแรมมาจำหน่ายซึ่งรายได้ก็จะแบ่งกับให้พนักงานแต่หลังจากที่มีการพูดคุยกับผู้นำในพื้นที่ก็ได้ข้อตกลงกันว่าเปิดในพื้นที่สาธารณะดีกว่าเพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาจับจ่ายสินค้าได้อย่างสะดวก จึงได้ทำการขออนุญาตเปิดริมฟุตบาตของชายหาดที่อยู่หน้าโรงแรม แจ้งเบื้องต้นก็ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวและประชาชนที่ผ่านไปมาเลือกซื้ออาหารและสินค้าที่จำหน่ายกันอย่างคึกคัก

สำหรับเมนูอาหารที่ทางพนักงานของโรงแรมนำมาจำหน่าย จะเป็นเมนูที่ขึ้นชื่อของโรงแรมโดยจำหน่ายในราคาต้นทุน เพื่อให้ทุกคนสามารถจับต้องได้บาท ซึ่งเงินที่ได้ทางโรงแรมก็จะจัดสรรปันส่วนแบ่งให้กับพนักงานเพื่อเป็นรายได้ต่อไป


กระบี่ /// ณัฏฐพงษ์ ศรีปล้อง รายงาน

‘อลงกรณ์’ ชี้เลือกตั้งซ่อมนครศรีธรรมราช เขต 3 พิสูจน์ 3 ศรัทธา ย้ำประชาธิปัตย์ ยึดกติกาประชาธิปไตยสุจริต ชูผลงานยุคทำได้ไวทำได้จริง มั่นใจรัฐบาลรักษาเสียงส.ส. ได้

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรค กล่าวว่า เลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนครศรีธรรมราช เขต 3 จะเป็นการพิสูจน์ 3 ศรัทธาของประชาชน คือ ศรัทธาต่อรัฐบาล ศรัทธาต่อพรรค และศรัทธาต่อผู้สมัคร ซึ่งเชื่อว่ารัฐบาลจะยังสามารถรักษาเสียงส.ส.ได้เช่นเดิม เมื่อพิจารณาจากผลงานของรัฐบาลในช่วงวิกฤตการณ์โควิด19 และวิเคราะห์จากผลการเลือกตั้งส.ส.ของนครศรีธรรมราช เขต 3 ผู้สมัครในสังกัดรัฐบาลมีคะแนนอยู่ในอันดับที่ 1 ถึง 3 โดยพรรคประชาธิปัตย์ได้รับเลือกตั้งเป็นส.ส.คือนายเทพไท เสนพงศ์

สำหรับยุทธศาสตร์การเลือกตั้งของพรรคประชาธิปัตย์ จะยึดกติกาการเลือกตั้งบนแนวทางสุจริตยุติธรรม มุ่งนำเสนอวิสัยทัศน์นโยบายและผลงานทั้งระดับชาติและจังหวัด ในยุคทำได้ไวทำได้จริง ภายใต้การนำของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ หัวหน้าพรรคและนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค

ทั้งนี้ ตนได้นัดประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคในวันพฤหัสบดีที่ 11 ก.พ.นี้เวลา 14.00 น. ที่สำนักงานใหญ่พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อกำหนดแนวทางการทำงานสนับสนุนการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งซ่อมส.ส.ครั้งนี้ โดยเน้นการเข้าถึงประชาชนทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์ นำเสนอวิสัยทัศน์ใหม่ ๆ และผลงานพรรคจากอดีต ปัจจุบันและอนาคต เช่น

1. การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและกระจายความเจริญสู่ภูมิภาคเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันเช่นโครงข่ายถนนสี่เลน, รถไฟ 4 รางทางคู่ทั่วประเทศ การส่งเสริมการลงทุนในภูมิภาค การพัฒนาสนามบินและท่าเรือในภูมิภาค การขยายโครงข่ายไอซีที โครงการพัฒนาเซาเทิร์นซีบอร์ดสู่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้(Southern Economic Corridor)และระเบียงเศรษฐกิจฮาลาล

2. การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ยกระดับคุณภาพชีวิตและกระจายโอกาส ลดเหลื่อมล้ำ เช่น โครงการมหาวิทยาลัยในภูมิภาคโครงการนมโรงเรียน, โครงการอาหารกลางวันนักเรียน, กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) การเรียนฟรีอย่างมีคุณภาพ, โครงการเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ,เริ่มต้นค่าตอบแทน อสม.เดือนละ 600 บาท, ยกฐานะโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล (รพ.สต.) การพัฒนาฝีมือแรงงานและคุณวุฒิวิชาชีพ การส่งเสริมการออม การส่งเสริมความเท่าเทียมกันทางเพศ (LGBT)

3. การพัฒนาทัองถิ่นชนบทและพัฒนาประชาธิปไตยฐานรากโดยนโยบายกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นยกฐานะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจากสภาตำบลเป็นองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) จากสุขาภิบาลเป็นเทศบาลและเลือกตั้งนายกอบจ.และสมาขิกสภาโดยตรงจากประชาชน

4. การพัฒนาเศรษฐกิจใหม่ (New Economy) เช่น เศรษฐกิจดิจิทัล เศรษฐกิจสร้างสรรค์ เศรษฐกิจ BCG เศรษฐกิจบนฐานพลังงานหมุนเวียน เช่น โครงการเอทานอล

5. การลดความเหลื่อมล้ำโดยกระจายการถือครองที่ดินให้เกษตรกรและชุมชนโดยมาตรการโฉนดชุมชน ธนาคารที่ดิน และการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกร

6. การปฏิรูปภาคเกษตรด้วยโครงการประกันรายได้เกษตรกร การจัดตั้งและขับเคลื่อนศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม 77 จังหวัด เพื่ออัพเกรดภาคเกษตรด้วยวิทยาการและเทคโนโลยี โครงการประมงชุมชนและชลประทานชุมชนและการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรรายย่อยโดยกลไกกองทุนกฟก.

“สำหรับวิสัยทัศน์ จังหวัดนครศรีธรรมราช คือนครแห่งอารยธรรม น่าอยู่ น่าเที่ยว การเกษตรและอุตสาหกรรมยั่งยืน ซึ่งได้พัฒนาต่อเนื่องมีศักยภาพพร้อมทุกด้านที่จะต่อยอดให้เป็นศูนย์กลางการพัฒนาของภาคใต้ตอนกลางทั้งด้านการศึกษาการค้าการท่องเที่ยวโลจิสติกส์และเกษตรอุตสาหกรรม(Agroindustry) เช่น โครงการนิคมอุตสาหกรรมยาง(Rubber Valley) โครงการศูนย์แห่งความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีเกษตรอาหารและผลไม้โดยมีมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์เป็นศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรมที่ทีบทบาทสำคัญยิ่ง อนาคตของนครศรีธรรมราชเป็นหนึ่งเดียวกับอนาคตของพรรคประชาธิปัตย์มาโดยตลอดและเป็นอีกครั้งที่พรรคประชาธิปัตย์จะขอโอกาสในการทำงาน เพื่อสร้างอนาคตร่วมกันกับพี่น้องชาวนครศรีธรรมราชด้วยวิสัยทัศน์และการทำงานแนวใหม่โดยคนรุ่นใหม่คือนายพงศ์สินธุ์ เสนพงศ์เป็นตัวแทนพรรคลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้” นายอลงกรณ์กล่าวในที่สุด

แท็กซี่จอดต่อแถวเรียงราย บริเวณถนนตัดใหม่ พรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 ขาเข้า รอรับของจากผู้ใจบุญ มาแจกให้คนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

เพจ “FM91 Trafficpro” เผยภาพแท็กซี่จำนวนมากจอดต่อแถวเรียงราย บริเวณถนนตัดใหม่ พรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 ขาเข้า ก่อนถึงแยกไฟฉาย หลังมีผู้นำของมาแจกให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

ขณะของใกล้จะหมดแล้ว พร้อมระบุข้อความว่า “ถนนตัดใหม่ พรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 ขาเข้า ก่อนถึงแยกไฟฉาย มีผู้ขับขี่แท็กซี่ต่อแถวรอรับของช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ที่มีผู้นำมาช่วยเหลือจำนวนมาก ทำให้รถชะลอตัว มีจราจร สน.บางขุนนนท์ คอยอำนวยการจราจร”


ที่มา : https://mgronline.com/onlinesection/detail/9640000012209

https://www.facebook.com/172059279471277/posts/4210454625631702/v

'นักรบชุดขาวชาวเชียงใหม่' ออกเดินทางสนับสนุน สับเปลี่ยนกับบุคลากรทางการแพทย์ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ ต่อสู้โควิด -19 จ.สมุทรสาคร ญาติพี่น้องร่วมส่ง พร้อมให้กำลังใจคับคั่ง

ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ นายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในการส่งทีมบุคลากรสาธารณสุขอาสาสมัครเดินทางไปช่วยปฏิบัติงานในสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งทีมที่เดินทางในวันนี้เป็นทีมแรกจากทั้งหมด 4 ทีม โดยทีมนี้ประกอบด้วย พยาบาล, นักวิชาการสาธารณสุข และพนักงานขับรถ จากโรงพยาบาลสันป่าตอง, โรงพยาบาลอมก๋อย, โรงพยาบาลไชยปราการ, โรงพยาบาลวัดจันทร์, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านปางเฟือง อำเภอเชียงดาว และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลแม่นะ อำเภอเชียงดาว

ทั้งนี้ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ได้นำกราบไหว้พระพุทธรูปประจำสำนักงานสาธารณสุข เพื่อความเป็นสิริมงคล พร้อมทั้งกล่าวให้โอวาทและกำลังใจ ตลอดจนเน้นย้ำเรื่องการปฏิบัติงานด้วยว่านอกจากมุ่งให้ความช่วยเหลือผู้อื่นแล้ว ต้องคำนึงถึงการดูแลป้องกันตัวเองด้วยเพื่อให้ยังสามารถช่วยเหลือผู้อื่นต่อไปได้ ขณะที่ครอบครัวและญาติของบุคลากรสาธารณสุขอาสาสมัคร รวมทั้งประชาชนพื้นที่อำเภออมก๋อยที่แต่งกายในชุดประจำชนเผ่าได้มาร่วมกันส่งและให้กำลังใจทีมบุคลากรสาธารณสุขอาสาสมัครด้วย โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่น

น.ส.มัณฑณี ราชพิบูลย์ นักวิชาการสาธารณสุขปฏิบัติการ โรงพยาบาลไชยปราการ หนึ่งในทีมบุคลากรสาธารณสุขอาสาสมัครซึ่งมีครอบครัวมาร่วมส่งด้วย เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์โควิด-19 ของจังหวัดสมุทรสาคร รู้สึกเป็นห่วงเป็นอย่างมาก และตั้งใจอย่างยิ่งที่ต้องการจะลงพื้นที่ไปช่วยเหลือ เมื่อมีการเปิดรับอาสาสมัครจึงเข้าร่วมทันที ทั้งนี้ ครอบครัวมีความเป็นห่วงแต่เข้าใจดีและให้การสนับสนุน ขณะที่นางบุญนำ ใจดี อายุ 56 ปี แม่ของ น.ส.มัณฑณี บอกว่ารู้สึกเป็นห่วงลูกสาวที่ต้องลงพื้นที่ แต่เข้าใจดีและสนับสนุนลูกเป็นอย่างดี โดยเชื่อมั่นและภูมิใจในตัวลูกที่เสียสละในครั้งนี้

ด้านนางพราวเดือน เนตรวิชัย พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ โรงพยาบาลสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ หัวหน้าทีมที่ 1 เปิดเผยว่า ติดตามสถานการณ์ที่จังหวัดสมุทรสาครอยู่อย่างต่อเนื่อง และมีความเป็นห่วงเป็นใย ทั้งประชาชนและเพื่อนร่วมวิชาชีพที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่อย่างหนักในพื้นที่ ทั้งนี้ เมื่อสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่เปิดรับอาสาสมัครจึงไม่ลังเลใจที่จะเข้าร่วมทันที เพราะเดิมมีความตั้งใจอยู่ตั้งแต่แรกแล้วที่อยากจะไปช่วยแบ่งเบาภาระให้เพื่อร่วมวิชาชีพ ซึ่งได้มีการเตรียมตัวและเตรียมความพร้อมทุกอย่างไว้แล้วอย่างดี ส่วนความเป็นห่วงของครอบครัวนั้น เข้าใจดีและมีความเชื่อมั่นว่าตัวเองสามารถดูแลทำงานและดูแลตัวเองได้เป็นอย่างดีแน่นอน

สำหรับบุคลากรสาธารณสุขอาสาสมัครของจังหวัดเชียงใหม่นั้น ประกอบด้วย แพทย์ พยาบาล นักวิชาการสาธาณสุข นักจิตวิทยา และพนักงานขับรถ จำนวน 33 คน แบ่งเป็น 4 ทีม ทีมละ 8-9 คน เพื่อส่งไปช่วยสนับสนุนการปฏิบัติงานในสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร โดยทีมที่ 1 กำหนดปฏิบัติหน้าที่ระหว่าง 8-14 ก.พ. 64 ขณะที่ทีมที่ 2 กำหนดปฏิบัติหน้าที่ระหว่าง 15-21 ก.พ. 64, ทีมที่ 3 กำหนดปฏิบัติหน้าที่ระหว่าง 22-28 ก.พ. 64 และทีมที่ 4 กำหนดปฏิบัติหน้าที่ระหว่าง 1-6 มี.ค. 64


ที่มา : https://mgronline.com/local/detail/9640000012182


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top