Saturday, 5 July 2025
ค้นหา พบ 49226 ที่เกี่ยวข้อง

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ มีรัฐมนตรีมาขอคำปรึกษาเรื่องกฎหมายหรือไม่ว่า อีกหน่อยอาจจะมา แต่ขณะนี้ยังไม่มี

ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้มีความเป็นห่วงเรื่องญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่มีการเกี่ยวข้องกับสถาบัน จำเป็นต้องประชุมลับหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ก็ยังไม่เกิดเหตุอะไรขึ้นมา เอาไว้มีสัญญาณเมื่อเกิดเหตุ การดำเนินการอย่างนั้นก็คงต้องคิดกัน

แต่ยังไม่ค่อยห่วงมาก เพราะมีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร และข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรอยู่ หากมีความจำเป็นสามารถขอให้ประชุมลับได้ แต่ประชาชนอาจจะอึดอัดนิดหน่อย เพราะอยากฟังว่าเขาพูดอะไรกัน แต่หากมีความจำเป็นก็ต้องประชุมลับ เพราะข้อบังคับและรัฐธรรมนูญเปิดไว้

เมื่อถามว่า ในอดีตเคยมีการขอเปิดอภิปรายลับหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า อาจจะมี แต่ตนนึกไม่ออก ซึ่งอาจจะเกี่ยวข้องกับประเด็นความมั่นคงของชาติ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เช่น ข้อพิพาทเรื่องปราสาทเขาพระวิหาร เป็นเรื่องธรรมดา

นอกจากนี้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และ ส.ว.บางส่วน สนับสนุนญัตติของนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค พปชร. ที่ให้ส่งเรื่องต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ว่าการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) แก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับทำได้หรือไม่ ว่า มีญัตติของนายไพบูลย์ค้างไว้ 3 - 4 เดือนแล้ว

ซึ่งก็ต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรเพื่อโหวตกันอยู่แล้ว ตามระเบียบวาระเข้าใจว่าจะเข้าสภาฯ สัปดาห์หน้า ส่วนสภาฯจะลงมติให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความหรือไม่ เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งตนไม่ทราบ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตามเจตนารมณ์แล้ว ส.ส.ร.สามารถยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ได้ทั้งฉบับหรือไม่ นายวิษณุ ปฏิเสธว่า ตนขอไม่ตอบ

ทำเนียบรัฐบาล นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าร่วมหารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และทีมเศรษฐกิจว่า ได้เสนอต่อที่ประชุมให้ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ได้รับเงินเยียวยาเช่นเดียวกับโครงการเราชนะ

โดยลดเงื่อนไขเกณฑ์อัตราเงินเดือนไม่เกิน 25,000 บาททิ้ง ให้เหลือเพียงเงื่อนไขผู้ที่มีเงินฝากเกิน 500,000 บาท จะไม่ได้รับการเยียวยา โดยหลังจากนี้ตนจะหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอีกครั้งที่กระทรวงการคลังในวันเดียวกันนี้ ด้วยวิธีการใช้ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังค์

ดังนั้น จึงคาดว่าจะมีผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ได้รับสิทธิ์เกือบทั้งหมด และคิดว่าอย่างเร็วสุด จะสามารถนำเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุม ครม. สัปดาห์หน้า หรืออย่างช้าไม่เกินสัปดาห์ต่อไป ส่วนจะเป็นวงเงินที่ได้รับเยียวยาเท่าไรนั้น จะมีการพิจารณากันอีกครั้ง

เจ้ากระทรวงศึกษาฯ นั่งหัวโต๊ะ บัญชาการประชุมบอร์ดชาติ กศน. แนะ ต่อจากนี้ ‘กศน.’ ต้องจัดการศึกษาให้เซ็กซี่ ทิ้งภาพเก่า เรียนแค่เอาวุฒิฯ สู่การเรียนรู้ เพื่อสร้างอาชีพ-รายได้จริง

นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริม สนับสนุน และประสานงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ครั้งที่ 1/2564 ณ ห้องประชุมราชวัลลภ อาคารราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ

อนึ่งในการประชุมฯ ครั้งนี้มีผูบริหารระดับสูง อาทิ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะรัฐมนตรีที่กำกับดูแลขับเคลื่อนงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ร่วมประชุมด้วย พร้อมทั้งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และคณะกรรมการโดยตำแหน่งเข้าร่วมประชุม และมีนายวรัท พฤกษาทวีกุล เลขาธิการ กศน.เป็นกรรมการและเลขานุการ รายงานผลการดำเนินงานของสำนักงาน กศน. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 และชี้แจงโครงสร้างสำนักงาน กศน.รวมถึงโครงการสำคัญตามพระราชบัญญัติรายจ่ายงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2564

ทั้งนี้ คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ ประกอบด้วย คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา ศาสตราจารย์พิเศษธงทอง จันทรางศุ นายกล้า สมตระกูล นางวัชรี ปรัชญานุสรณ์ นางสาวพรทิพย์ อึ้งสมรรถโกษา และนายวัชรินทร์ จำปี ด้านผู้แทนภาคเอกชน มีพระครูบูรพาธรรมบัณฑิต ตลอดจนสื่อมวลชนทุกแขนงเข้าร่วม

เจ้ากระทรวงศึกษาฯ กล่าวว่าตอนหนึ่งว่า กศน. ต้องจัดการศึกษาให้ ‘เซ็กซี่’ ต้องน่ามอง น่าเรียนรู้และน่าค้นหา เน้นการขับเคลื่อนการศึกษาตลอดชีวิตเชื่อมต่อศักยภาพคนไทย ภาพในอดีตของ กศน. คือการเรียนเพื่อวุฒิการศึกษา หรือเรียนเพื่อการเทียบวุฒิ ซึ่งก้าวต่อไปของ กศน. ควรจัดการศึกษาด้านวิชาชีพ เพื่อเน้นสร้างงาน สร้างรายได้ พัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น รวมทั้งสอนการค้าออนไลน์เพื่อเพิ่มศักยภาพ และความมั่นคงในการดำรงชีวิตให้แก่ประชาชน

ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ กล่าวว่า จุดเน้นในการจัดการศึกษา กศน. ใน ปีงบประมาณ 2564 ได้วางแผนและเตรียมการ จัดการศึกษาด้านอาชีพไว้แล้ว โดยให้ กศน. ทุกแห่งจัดการศึกษาด้านอาชีพตามบริบทของท้องถิ่นและสำรวจความต้องของประชาชนว่า มีความสนใจ และต้องการเรียนอาชีพอะไร พร้อมเดินหน้าเต็มสูบในการเปิดตลาดการค้าออนไลน์ ของ กศน.ทั่วประเทศ

จากการประชุมครั้งนี้ ทางเจ้ากระทรวงฯ ได้มอบหมายให้คณะทำงานชุดย่อยรับหัวข้อต่างๆ ไปดำเนินการ แล้วนำเสนอกลับมาเร็วที่สุดภายใน 1 เดือน ส่วนบางประเด็นต้องใช้เวลามากประมาณ 2 เดือน โดยหวังว่าจะช่วยให้แนวทางการขับเคลื่อน กศน.มีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น ในด้านของงบประมาณที่เตรียมไว้ แบ่งเป็น 2 ส่วน ทั้งของผู้สูงวัยและวัยรุ่นหรือวัยทำงาน เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับการเปลี่ยนอาชีพ ส่วนเรื่องของการปรับหลักสูตรให้ทันสมัยนั้น คณะอนุกรรมการที่ดูแลเรื่องนี้ได้เสนอว่าหลักสูตรที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดิจิทัล หรือเรื่องทักษะภาษา จะต้องเชื่อมโยงสอดคล้องกับการศึกษาขัเนพื้นฐานและอาชีวศึกษาด้วย

ส่วนกรณีที่มีการกล่าวถึงการแยกตัวของ กศน. นั้น เจ้ากระทรวงศึกษา กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นในการแยกกรมออกมา ในทางกลับกันต้องการให้หน่วยงานมารวมกันเพื่อความกระชับในการทำงาน และเดินไปในทิศทางเดียวกัน ถึงแม้ว่างบประมาณจะแยกออกมา แต่ก็ยังอยู่ภายใต้ ศธ. ดังนั้นหากสามารถทำให้เกิดประสิทธิภาพผ่านกระบวนการพัฒนาโรงเรียนคุณภาพประจำชุมชน จะทำให้มีโรงเรียนเครือข่ายที่ปรับตัวเป็นศูนย์การเรียนรู้ ซึ่งเป็นการใช้งบประมาณและทรัพยากรอย่างคุ้มค่ามากขึ้น

‘ผบ.ทบ.’ ลงเยี่ยมให้กำลังใจทหารที่บาดเจ็บ ชี้!! กองทัพบกไม่ทอดทิ้งกำลังพล ‘บาดเจ็บ – เสียชีวิต’ พร้อมวอนคนไทย ร่วมระลึกวีรกรรมทหารกล้าใน ‘วันทหารผ่านศึก’

พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า ในโอกาสวันทหารผ่านศึก ตั้งใจที่จะมาให้กำลังใจกับผู้ได้รับบาดเจ็บในระหว่างพักรักษาตนเอง พร้อมชื่นชมในความเสียสละ ทุ่มเท ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ เพื่อแสดงให้เห็นว่ากองทัพบกมีความห่วงใยไม่ทอดทิ้งกำลังพลไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่หรือผู้ที่เสียชีวิตรวมถึงญาติของผู้ที่เสียชีวิต ที่ทบ.ได้ให้การดูแลอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุดคือกรณีของ ยายบวน โล่ห์สุวรรณ มารดาของกำลังพลที่เสียชีวิต ทางมณฑลทหารบกที่ 21 (มทบ.21) เข้าไปช่วยเหลือและวันนี้ ส่วนกรณีนายเอี้ยง นาคสิงห์ อดีตทหารผ่านศึก กองทัพภาคที่ 3 จะไปช่วยเหลือเรื่องที่พักอาศัย ซึ่งก็เป็นไปตามเจตนารมณ์ที่ให้หน่วยทหารในทุกพื้นที่เข้าไปดูแลกำลังพลหรือทหารผ่านศึกที่ได้รับบาดเจ็บ อย่างต่อเนื่อง

จากนั้น ผบ.ทบ.เข้าเยี่ยมกำลังพลที่บาดเจ็บจากเหตุการสู้รบในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จชต.) 4 รายคือ ส.อ.วัชรา ไชยแก้ว ถูกยิงที่ใบหน้าด้ายซ้ายกระดูกใบหน้าแตก ได้รับการผ่าตัดแล้ว, ส.ท.อนุชา ดาลาด ถูกยิงบริเวณกระดูกต้นคอทับเส้นประสาทไม่สามารถขยับร่างกายได้, ส.ท.สุพจน์ เจริญสุข บาดเจ็บจากการถูกสะเก็ดระเบิดที่ศีรษะไม่รู้สึกตัว อยู่ระหว่างการบำบัดฟื้นฟู, จ.ส.อ.ชัยวัตน์ จันทร์เอ้ย กระดูกสันหลังทับเส้นประสาทขาอ่อนแรงอยู่ระหว่างกายภาพบำบัด โดยอาการบาดเจ็บที่เป็นอยู่ ทางทีมแพทย์จะให้การรักษาพยาบาลให้ทุเลาหรือสามารถกลับมาเป็นปกติและดูแลอย่างเต็มที่ ซึ่งในระหว่างพักรักษาอาการในโรงพยาบาลได้รับเงิน ช่วยเหลือบำรุงขวัญเป็นรายเดือน และผู้บังคับบัญชาหมุนเวียนกันเข้าเยี่ยมเยียนรวมถึงสมาคมแม่บ้านทหารบก โดยหากแพทย์ลงความเห็นว่าเป็นทหารผ่านศึกที่ปลดพิการ นอกเหนือจากจะได้รับสิทธิเงินช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการและจากมูลนิธิต่างๆ แล้วยังจะได้รับการบรรจุทายาททดแทนเข้ารับราชการอีกด้วย

การเข้าเยี่ยมทหารบาดเจ็บเนื่องในโอกาส ‘วันทหารผ่านศึก’ ในวันนี้เป็นไปตามนโยบายของทบ.ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลทหารผ่านศึก ที่ถือว่าเป็นผู้ที่เสียสละประโยชน์สุขส่วนตนปฏิบัติหน้าที่เพื่อส่วนรวมและประเทศชาติจนได้รับบาดเจ็บ พิการหรือเสียชีวิต จึงนับเป็นวาระสำคัญที่คนไทยจะได้ร่วมกันระลึกวีรกรรมของทหารกล้าจากทุกสมรภูมิรบและร่วมกันเชิดชูเกียรติทหารผ่านศึกในคุณความดีที่ยอมสละเลือดเนื้อและชีวิตเพื่อปกป้องแผ่นดินไทยไว้ให้เราได้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุขมาจนทุกวันนี้

ม.อุบลฯ ลงพื้นที่ ‘โคกหนองนา’ เป็นพี่เลี้ยงนำองค์ความรู้ สู่เด็กนักเรียนในพื้นที่

มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี โดยนายพรนเรศ มูลเมืองแสน หัวหน้าสำนักงานพัฒนาคุณภาพการศึกษา พร้อมบุคลากร ลงพื้นที่จัดกิจกรรมการเรียนรู้โคกหนองนา ณ โรงเรียนศรีแสงธรรม อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี ภายใต้โครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาและการพัฒนาท้องถิ่นโดยมีสถาบันอุดมศึกษาเป็นพี่เลี้ยง

โดยกิจกรรมแบ่งออกเป็น 2 ช่วง โดยในช่วงเช้า ได้จัดให้มีการเรียนรู้และฝึกปฏิบัติการลงแขกปลูกทานตะวัน ดาวกระจายและมันม่วง โดยมีมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีเป็นพี่เลี้ยง ในการสอน ทั้งการปลูกพันธุ์ไม้ และการดูแลรักษาพันธุ์ไม้ อีกทั้งกิจกรรมการในช่วงบ่าย จัดให้มีการเรียนรู้ทฤษฎีและการปฏิบัติในการเพาะเมล็ดพันธุ์ดอกทานตะวัน ดาวกระจาย และถั่วลิสง พร้อมนี้นักเรียนจะได้สามารถลงมือปฏิบัติจริงและเรียนรู้ ฝึกทักษะวิธีการเพาะปลูกจริงอีกด้วย เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา

โดยทาง มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีได้สนับสนุนพันธุ์ไม้ และบุคลากรในการเป็นวิทยากร ให้ความรู้ในการเพาะปลูกและการขยายพันธุ์ไม้ต่าง ๆ และได้ลงพื้นที่จัดกิจกรรมมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนักเรียนและครูที่เข้าร่วมกิจกรรมจะได้เรียนรู้โดยตรงกับผู้เชี่ยวชาญจากทางมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี

นับเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ทางมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ได้นำองค์ความรู้ถ่ายทอดได้จริงสำหรับด้านการเกษตร เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ชุมชนและสังคม ซึ่งมหาวิทยาลัยดำเนินการตามพันธกิจมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยเป้าหมายที่สำคัญคือการเป็น “มหาวิทยาลัยในดวงใจของชุมชน” และสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ที่จะเป็น “มหาวิทยาลัยชั้นนำในอาเซียนที่มุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิตและนวัตกรรม”


กิตติภณ เรืองแสน / ข่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top