Saturday, 5 July 2025
ค้นหา พบ 49212 ที่เกี่ยวข้อง

ครม.ปรับเกณฑ์ ‘เราชนะ’ อีกรอบ เปิดให้ร้านธงฟ้า - รถเร่ขายของ - สามล้อถีบ ร่วมโครงการได้ ลงทะเบียนถึง 12 ก.พ. แต่ห้ามใช้ซื้อทองคำ - อัญมณี

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.รับทราบมาตรการเยียวยาประชาชนในโครงการ "เราชนะ" ซึ่งทางสภาพัฒน์ฯได้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงรายละเอียดเล็กน้อย โดยสาระสำคัญคือ เดิมผู้ประกอบการที่เป็นธงฟ้าอาจจะมีข้อที่ทำให้เกิดความไม่ชัดเจนว่า ถ้าเป็นนิติบุคคลจะสามารถเข้าร่วมโครงการได้หรือไม่ เพื่อให้เกิดความชัดเจนถ้าเป็นธงฟ้าในรูปนิติบุคคล สามารถเข้าร่วมโครงการได้

นอกจากนี้ ร้านค้าในโครงการคนละครึ่งสามารถเข้าร่วมโครงการเราชนะได้ และผู้ประกอบการของกองทุนหมู่บ้าน กองทุนชุมชนเมือง หรือผู้ประกอบการของชุมชนก็สามารถเข้าร่วมโครงการได้เช่นเดียวกัน รวมถึงผู้ประกอบการที่สามารถตรวจสอบหลักแหล่งได้แต่เป็นประเภทรถ เช่น สามล้อถีบก็สามารถเข้าร่วมได้ ซึ่งทั้งหมดสามารถไปลงทะเบียนร่วมโครงการได้ที่เว็บไซต์เราชนะตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม - 31 มีนาคม 2564 นี้

นายอนุชา กล่าวว่า "สำหรับกรณีที่จะใช้เงินในโครงการเราชนะไปซื้อสินค้า เช่น ทองคำ หรือร้านค้าที่ขายของประเภทของเก่าที่ขายพวกเพชร พลอย ทอง นาค เงิน หรืออัญมณี อันนี้ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการเราชนะได้ เนื่องจากดูแล้วไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่จะช่วยเหลือเรื่องค่าครองชีพ"

EXIM BANK แจงรัฐประหารในเมียนมา ยังไม่ส่งผลกระทบต่อลูกค้า และการค้าการลงทุนไทย - เมียนมา

นางวรรธนา มงคลศรี รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า EXIM BANK ได้ติดตามสถานการณ์รัฐประหารในเมียนมาอย่างใกล้ชิด และพบว่ายังไม่มีลูกค้า EXIM BANK ได้รับผลกระทบ เนื่องจากผู้ประกอบการไทยส่วนใหญ่เข้าไปลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศของเมียนมา

นอกจากนี้ EXIM BANK ยังมีบริการประกันการส่งออกคุ้มครองความเสี่ยงแก่ผู้ส่งออกไทยจากการไม่ได้รับชำระเงินค่าสินค้าจากผู้ซื้อหรือธนาคารผู้ซื้อในต่างประเทศ ทั้งจากสาเหตุทางการค้าและการเมือง รวมทั้งบริการประกันความเสี่ยงการลงทุน (Investment Insurance) คุ้มครองความเสี่ยงทางการเมือง

กรณีโครงการลงทุนได้รับความเสียหายจากการดำเนินนโยบาย กฎระเบียบ หรือการดำเนินการใด ๆ ของรัฐบาลในประเทศที่เข้าไปลงทุน จนมีผลกระทบในทางลบต่อโครงการและความสามารถในการชำระคืนเงินกู้ของนักลงทุน

ทั้งนี้ ในปี 2563 ไทยและเมียนมามีมูลค่าการค้าระหว่างกัน 6,593 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แบ่งเป็นการส่งออกจากไทยไปเมียนมา 3,798 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และการนำเข้าของไทยจากเมียนมา 2,795 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเมียนมาเป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับที่ 17 ของไทย คิดเป็นสัดส่วน 1.6% ของมูลค่าส่งออกรวม ในปี 2563 ที่ผ่านมามูลค่าส่งออกของไทยไปเมียนมาหดตัว 13% เนื่องจากวิกฤตโควิด-19 ทำให้การค้าชายแดนมีอุปสรรคในการขนส่งสินค้าและความต้องการบริโภคของเมียนมาชะลอตัวลง

"EXIM BANK โดยสำนักงานผู้แทนในย่างกุ้ง เมียนมา จะติดตามสถานการณ์ในเมียนมาอย่างใกล้ชิดต่อไป เพื่อประเมินผลกระทบในระยะสั้นและระยะถัดไปต่อการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับเมียนมา และช่วยเหลือดูแลด้านการเงิน

รวมถึงเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงทางการค้าและการลงทุน เพื่อให้ลูกค้าและผู้ประกอบการไทยสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนเพื่อผ่อนคลายผลกระทบจากสถานการณ์การเมืองและการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปัจจุบัน" นางวรรธนา กล่าว

คนจะซวย ช่วยไม่ได้จริง ๆ เมื่อหนุ่มไต้หวัน ที่ขอเปิดเผยแค่ว่าชื่อนายเฉิน ถูกทางการไต้หวันปรับเงินถึง 1 ล้านเหรียญไต้หวัน เนื่องจากฝ่าฝืนมาตรการกักตัว 14 วัน หลังจากที่เขาเพิ่งกลับจากฮ่องกงในวันที่ 30 ตุลาคมปีที่แล้ว

แต่ทว่า เรื่องราวนี้คดีพลิก เพราะนายเฉินอ้างว่าตัวเขาคือเหยื่อ ไม่ใช่จำเลยสังคมที่อยู่ดีๆก็ออกมาเดินเพ่นพ่านทั้ง ๆ ที่อยู่ในช่วงกักตัว

นายเฉินเล่าว่า ตัวเขาเพิ่งเดินทางกลับจากฮ่องกง และทำเรื่องว่าจะไปกักตัวเอง 14 วันที่บ้านเพื่อนในเมืองหนานโถว

แต่ระหว่างที่อยู่บ้านเพื่อน กลับพบนักทวงหนี้ จึงรู้ว่าเพื่อนของเขากำลังหนีเจ้าหนี้นอกระบบ แล้วนักทวงหนี้ก็เข้าใจว่าตัวเขาคือลูกหนี้ จึงเข้ามาข่มขู่รีดไถเอาเงิน และก็ยังทำร้ายร่างกายเขาอีก บังคับให้เขาจ่ายเงินให้ได้

นายเฉิน บอกว่านักทวงหนี้บีบให้เขาต้องรีบเดินทางกลับบ้านตัวเองเพื่อไปเอาเงิน และยังประกบติดตามตัวเขาตลอดเวลา หลังจากที่จ่ายเงินบางส่วนไป ก็เขารีบไปหาตำรวจ แต่กลับถูกจับ ปรับเงิน 1 ล้านเหรียญข้อหาฝ่าฝืนมาตรการกักตัว

สำหรับกฎระเบียบเรื่องการกักตัว 14 วันในไต้หวันถือเป็นกฎเหล็กสุดเข้ม หากใครฝ่าฝืนมีโทษปรับ 1 ล้านเหรียญไต้หวันทุกกรณี โดยไม่มีข้ออ้างว่าจะออกจากสถานที่กักตัวนานแค่ไหน และเพื่ออะไร

ดังตัวอย่างเช่น คนงานฟิลิปปินส์ที่ถูกกักตัวในโรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองเกาสง แค่เดินออกจากห้องแต่ 8 วินาที ก็โดนปรับ 1 ล้านทันทีโดยไม่มีข้อโต้แย้ง

แต่สำหรับเคสของนายเฉิน ทางการไต้หวันยังพอปรานีอยู่บ้าง ที่จะยกเว้นโทษปรับให้ จากคำให้การว่าเขาถูกบีบบังคับ และลักพาตัวให้ออกจากสถานที่กักตัว และกลายเป็นครั้งแรกที่ไต้หวันจะละเว้นโทษปรับนับล้านจากการฝ่าฝืนมาตรกสรกักตัวให้

แต่ทั้งนี้ ข้ออ้างเรื่องการถูกนักทวงหนี้ข่มขู่ทำร้ายร่างกาย และรีดไถเงิน จะยังคงสืบสวนต่อว่าเป็นความจริงหรือไม่

หากไม่มีหลักฐานยืนยันว่าคำบอกเล่าของนายเฉินเป็นเรื่องจริงหล่ะก็ คงได้คดีพลิกอีกรอบ และนายเฉิน ก็เปิดบ้านรองานเข้าได้เลย เพราะนอกจากต้องจ่ายเงินล้านแล้ว ยังมีสิทธิ์คิดคุกข้อหาแจ้งความเท็จอีกกระทงด้วย


อ้างอิง

https://www.taiwannews.com.tw/en/news/4113852

https://edition.cnn.com/travel/article/taiwan-quarantine-kidnap-intl-hnk-scli/index.html

ทำเสียชื่อกันสุด ๆ เมื่อพบแก๊งมิจฉาชีพชาวจีนแอบผลิตวัคซีน Covid-19 ปลอม โดยใส่น้ำเกลือธรรมดา อ้างสรรพคุณเป็นวัคซีน Covid-19 เตรียมจำหน่ายทั้งในจีน และต่างประเทศ

หลังจากที่มีการพบวัคซีนปลอม กระจายเกลื่อนในหลายเมืองของจีน ตำรวจจากมณฑลเจียงซู ปักกิ่ง และ ซานตง ได้ร่วมสรรพกำลังสืบสาวจนถึงต้นตอ เพื่อทลายแก๊งวัคซีนปลอมให้ได้ ล่าสุดพบตัวแล้ว สามารถจับกุมตัวได้มากกว่า 80 พร้อมของกลางที่ยึดได้พร้อมส่งอีกกว่า 3,000 โดส

แต่สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือ แก๊งวัคซีนปลอม มาจากโรงงานผลิตวัคซีนแห่งหนึ่ง ที่แหล่งข่าวจีนไม่ได้ระบุชื่อ และเริ่มทำธุรกิจหลอกขายวัคซีนปลอมมาตั้งแต่กันยายน 2020 ที่ผ่านมาแล้ว โดยใช้น้ำเกลือแทนตัวยาที่เป็นวัคซีนจริงๆ และจัดส่งไปขายแล้วหลายเมือง ในราคาสูง แถมเตรียมที่จะผลิต ล็อตใหญ่ส่งออกต่างประเทศด้วย โดยมีเป้าหมายที่จะแอบลักลอบส่งวัคซีนปลอมไปขายในทวีปแอฟริกา

ซึ่งยังโชคดีที่ช่วงนี้ทางการจีนยังเข้มงวดเรื่องการเดินทางเข้า-ออก นอกประเทศ จึงเชื่อว่ายังไม่น่ามีวัคซีนปลอมกระจายออกไปยังตลาดต่างประเทศ

ส่วนวัคซีนปลอมที่กระจายส่งภายในจีน ทางการจีนยืนยันว่าติดตามได้หมดแล้ว และหากแก๊งวัคซีนปลอมใช้น้ำเกลือในการผลิตทั้งหมด ก็จะไม่มีอันตรายกับผู้ที่รับวัคซีนปลอมไปแล้ว แต่ก็เป็นข่าวที่สั่นคลอนความเชื่อมั่นไม่น้อยทีเดียว

เนื่องจากก่อนหน้าที่แก๊งวัคซีนปลอมจะถูกจับ ได้ส่งขายวัคซีนปลอมออกขายไปแล้วไม่ทราบจำนวน รวมๆไปกับวัคซีนแท้ ที่อาจเล็ดลอดการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ เนื่องจากตอนนี้อยู่ในช่วงที่วัคซีน Covid-19 มีความต้องการสูงมากในท้องตลาด ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้มีข่าวว่า มีชาวญี่ปุ่นออกมาร้องเรียนว่าได้วัคซีน Covid-19 ที่เชื่อได้ว่าเป็นของปลอมจากจีน ที่เคยมีเรื่องมีราวกับทางสถานทูตจีนมาแล้ว ที่ออกมาตอบโต้ว่าไม่เป็นความจริง

แต่ทั้งนี้ ยังไม่มีการยืนยันว่าจะมีบทลงโทษอย่างไรกับผู้ต้องหาคดีวัคซีนปลอมในครั้งนี้ แต่หากอ้างอิงจากฎหมายว่าด้วยเรื่องยา และวัคซีนฉบับใหม่ของจีนระบุโทษไว้ว่า ผู้ที่ผลิตและจำหน่ายยา หรือวัคซีนปลอมมีโทษปรับสูงตั้งแต่ 15 - 50 เท่าของมูลค่าสินค้า ที่ต้องมาพิสูจน์กันอีกทีว่าจำหน่ายไปแล้วกี่ชุด

ซึ่งก็เคยมีคดีศึกษาของการผลิตยา หรือซีนที่ต่ำกว่ามาตรฐาน ที่เกิดขึ้นในบริษัทยาฉางชุน ฉางเฉอ ในมณฑลซานตง ในการผลิตวัคซีนป้องกันโรคคอตีบจำนวน 250,000 ชุด ก็โดนโทษปรับไป 3.4 ล้านหยวน ซึ่งถือว่าเล็กน้อยมากหากเทียบกับผลกำไรของบริษัทต่อปีที่สูงถึง 566 ล้านหยวน

ดังนั้นรัฐบาลจีนจึงมีการปรับแก้กฎหมายใหม่เพิ่มโทษปรับให้สูงขึ้น แล้วก็โดนกับบริษัทยาเจ้าเดิม ที่ผลิตวัคซีนพิษสุนัขบ้าไม่ได้มาตรฐาน คราวนี้เจอโทษปรับไปถึง 9 พันล้านหยวน ซึ่งผู้บริหารก็ถูกจับกุม ดำเนินคดีด้วย

ก็หวังว่าจีนจะเอาจริง ตามจับแก๊งวัคซีน Covid ปลอมได้หมดจดจริง ๆ ไม่อย่างนั้นเสียชื่อสถาบันจีนหมด


อ้างอิง

https://www.globaltimes.cn/page/202102/1214637.shtml

https://www.scmp.com/news/china/politics/article/3120083/chinese-police-detain-80-selling-fake-covid-19-vaccines

https://edition.cnn.com/2021/02/01/asia/china-fake-covid-vaccines-intl/index.html

สภาอุตสาหกรรมจังหวัดตาก ยันรัฐประหารในประเทศเมียนมา ไม่ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจ ธุรกิจ การค้าชายแดนฝั่งไทย ย้ำผู้ประกอบการค้า การพาณิชย์ และการอุตสาหกรรมยังคงประกอบกิจการตามปกติ ไม่มีผลกระทบใด ๆ

นายชัยวัฒน์ วิทิตธรรมวงศ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตาก กล่าวถึงการรัฐประหารในประเทศเมียนมา ว่ายังไม่ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจ ธุรกิจ การค้าชายแดนฝั่งไทย

ซึ่งในช่วงนี้ผลผลิต พืชไร่ ในเมียนมากำลังจะมีการนำเข้ามาฝั่งไทย และในส่วนของภาคอุตสาหกรรมนั้น ผู้ประกอบการค้า การพาณิชย์ และการอุตสาหกรรมยังคงประกอบกิจการตามปกติ ไม่มีผลกระทบใด ๆ

นายสุชาติ ตรีรัตน์รัตนา ที่ปรึกษาหอการค้าจังหวัดตาก และผู้ประกอบการค้ารายใหญ่ในพื้นที่ชายแดนแม่สอด กล่าวว่า ระยะแรก ไม่ส่งผลกระทบใด ๆ กับระบบเศรษฐกิจธุรกิจ ที่ชายแดน อ.แม่สอด จ.ตาก ส่วนระยะยาวคงต้องดูสถานการณ์อีกครั้งหนึ่ง

สำหรับสถานการณ์ในเมียนมา ล่าสุดเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ได้มีประชาชนได้มีการประท้วงกองทัพอย่างสงบ โดยแสดงออกถึงสัญญาลักษณ์การต่อต้านเท่านั้น


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top