Saturday, 5 July 2025
ค้นหา พบ 49200 ที่เกี่ยวข้อง

แพทย์ พยาบาล นักวิชาการสาธารสุขหลายจังหวัดภาคเหนือทั้งลำพูน พิษณุโลก พิจิตร อาสาร่วมทีมปฏิบัติการฉุกเฉินมุ่งหน้าช่วยสมุทรสาครสู้ภัยโควิด-19 ก่อนเริ่มประจำการ 1 กุมภาฯ นี้

หลังจากมีการตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ในสมุทรสาครเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กระทรวงสาธารณสุขจึงได้ร้องขอทีมปฏิบัติการควบคุมโรคติดต่อ (CDCU) เข้าร่วมสนับสนุนควบคุมการระบาดจากจังหวัดต่างๆ โดยสุดสัปดาห์นี้ทีมนักรบชุดขาวจากหลายจังหวัดภาคเหนือที่สถานการณ์โควิดคลี่คลายได้อาสาเข้าร่วมปฏิบัติการ

ล่าสุดในส่วนของจังหวัดลำพูนนั้น ปฏิบัติการฉุกเฉินทางการแพทย์ในภาวะภัยพิบัติ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 นำโดย นพ.สุริยพงษ์ สุริยะพงฑากุล รองนายแพทย์ สสจ.ลำพูน พร้อมเภสัชกร พยาบาล และเจ้าหน้าที่สนับสนุน เข้าร่วมปฏิบัติการดูแลผู้ป่วยในโรงพยบาลสนาม ศูนย์ห่วงใยคนสาครแห่งที่ 4 ในวันที่ 1-12 กุมภาพันธ์ เริ่มออกเดินทางตั้งแต่ 30 ม.ค. ที่ผ่านมา

และหลังจากปฏิบัติภารกิจเสร็จสิ้น ทั้งหมดจะเดินทางกลับมาจังหวัดลำพูนแล้วเข้ากักตัว (local quarantine) เป็นเวลาอีก 14 วัน มีการตรวจตามมาตรฐานก่อนที่จะออกจาก local quarantine เพื่อสร้างความมั่นใจว่าปลอดภัยจาก COVID-19

ขณะที่พิษณุโลกได้จัดทีมปฏิบัติการควบคุมโรคติดต่อ (CDCU), ทีมรักษาพยาบาล (Case management) และทีมช่วยเหลือเยียวยาจิตใจผู้ประสบภาวะวิกฤต (MAT) ร่วมสนับสนุนการปฏิบัติงานที่จังหวัดสมุทรสาคร ประกอบด้วย แพทย์ พยาบาล นักวิชาการสาธารณสุข เจ้าพนักงานสาธารณสุขทั้งในระดับจังหวัด ระดับอำเภอ และระดับตำบล รวมทั้งสิ้น 250 คน

ทั้งนี้ นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าฯ พิษณุโลก นายแพทย์ ไกรสุข เพชระบูรณิน นายแพทย์ สสจ.พิษณุโลก, คณะกรมการโรคติดต่อจังหวัดพิษณุโลก และบุคลากรทางการแพทย์และสาธรารณสุข จ.พิษณุโลก ได้นิมนต์พระราชรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ประพรมน้ำมนต์ และแจกวัตถุมงคลให้แก่ผู้ไปปฏิบัติงานทุกราย ก่อนที่จะปล่อยขบวนออกเดินทางจากพิษณุโลกมุ่งหน้าสมุทรสาครตั้งแต่วันศุกร์ที่ 29 ม.ค. ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ยังมีนักรบชุดขาวทั้งพยาบาลวิชาชีพ นักวิชาการสาธารณสุข จากหลายโรงพยาบาลในจังหวัดพิจิตร ที่สมัครใจเข้าร่วมปฏิบัติการควบคุมโรคโควิดสมุทรสาครเป็นทีมแรกอีก 8 ราย เริ่มออกเดินทางจากพิจิตรตั้งแต่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา กำหนดเข้าประจำการปฏิบัติการสอบสวนโรค ช่วยเหลือสนับสนุนทีมสาธารณสุขของสมุทรสาครระหว่างวันที่ 1-7 กุมภาพันธ์

น.ส.เสาวลักษณ์ วิชัยรัตน์ พยาบาลวิชาชีพ รพ.วังทรายพูน หนึ่งในทีมนักรบชุดขาวของพิจิตร กล่าวว่า การเดินทางไปครั้งนี้ตนและทีมรู้ดีว่ามีความเสี่ยง แต่ก็ขอสมัครใจไปปฏิบัติงานที่ จ.สมุทรสาคร ในฐานะข้าราชการสาธารณสุข จะตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุด และเมื่อภารกิจสิ้นสุดก็จะต้องกลับมาตรวจและกักตัว 14 วัน ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขต่อไป


ที่มา : https://mgronline.com/local/detail/9640000009604

รองนายกรัฐมนตรี ‘สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์’ เผยยอดขอส่งเสริมการลงทุนในอีอีซี ปี 63 มีทั้งสิ้น 453 โครงการ มูลค่าลงทุนกว่า 2 แสนล้าน ขณะที่นักลงทุนญี่ปุ่น เข้ามาลงทุนสูงสุดกว่า 5 หมื่นล้าน ตั้งเป้าปี 64 ดึงดูดเม็ดเงินลงทุน 3 แสนล้าน

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการบริหารการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กบอ.) ว่า ได้รับทราบภาพรวมการขอรับส่งเสริมการลงทุนใน อีอีซี

ในปี 2563 มีทั้งสิ้น 453 โครงการ มูลค่าลงทุน 2.08 แสนล้านบาท คิดเป็น 43% ของมูลค่าการขอรับส่งเสริมการลงทุนทั้งประเทศ เป็นการลงทุนจากต่างประเทศรวม 1.15 แสนล้านบาท คิดเป็น 55% ของมูลค่าขอรับส่งเสริมทั้งหมดใน อีอีซี

โดยนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น เข้ามาลงทุนใน อีอีซี สูงสุด มูลค่าการลงทุน 50,455 ล้านบาท คิดเป็น 44% และอันดับสองเป็นนักลงทุนจากจีน มูลค่าการลงทุน 21,831 ล้านบาท ส่วนโครงการที่ยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนในอีอีซี ปี 63 จาก 453 โครงการ ได้อนุมัติคำขอแล้ว 292 โครงการ ออกบัตรส่งเสริมแล้ว 172 โครงการ และได้เริ่มโครงการแล้ว 79 โครงการ

อย่างไรก็ตาม ในปี 2564 แม้จะมีสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่รัฐบาลยังคงนโยบายปฏิบัติการเชิงรุกเพื่อดึงดูดการลงทุน ทั้งในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี และพื้นที่อื่นทั่วประเทศ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเป้าหมาย

ด้วยการใช้ทุกองคาพยพ ทั้งสำนักงานอีอีซี และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ ร่วมกันคัดเลือกกลุ่มนักลงทุน แก้ปัญหา และพิจารณาสิทธิประโยชน์อย่างเต็มที่ โดยตั้งเป้าหมายดึงดูดการลงทุนในอีอีซี ให้ได้ 3 แสนล้านบาท ในปี 2564 เพิ่มจากปีก่อน 50%

จากเฟซบุ๊ก Geng Sittipong Sirimaskasem ได้เรียบเรียง Speech ของ ‘ทิม คุก ซีอีโอ Apple’ ที่ตรงไปตรงมา ชัดเจน และดีที่สุดครั้งหนึ่ง...จนหลายคนที่ได้อ่าน อาจจะรู้สึกว่าวันนี้ ‘อิสรภาพของเรากำลังหายไปหรือไม่ จากเทคโนโลยีที่คอยล้วงข้อมูลชีวิตเราทุกลมหายใจ’

เราเชื่อว่าเทคโนโลยีที่ควรจะเป็นคือ เทคโนโลยีที่ทำงานเพื่อคุณ เป็นเทคโนโลยีที่จะทำให้คุณนอนหลับได้ ไม่ใช่กระตุ้นให้คุณตื่นอยู่เสมอ เป็นเทคโนโลยีที่บอกให้คุณพอได้แล้ว ให้คุณมีเวลาสำหรับสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ได้วาดรูป ได้เขียน หรือได้เรียนรู้ ไม่ใช่ขอให้คุณ refresh อีก ดูอีก

มันต้องเป็นเทคโนโลยีที่ทำงานอย่างเงียบๆ ขณะที่คุณกำลังปีนเขา หรือว่ายน้ำ แต่มันจะเตือนคุณเมื่อหัวใจคุณทำงานผิดปกติ และช่วยคุณได้เมื่อคุณเกิดอุบัติเหตุล้มลง

และทั้งหมดหมายถึงการเก็บ ความลับ ความเป็นส่วนตัวที่ถือเป็นความสำคัญที่สุดลำดับที่หนึ่ง เพราะไม่ควรมีใครได้สิทธิ์ส่วนตัวของคุณไปใช้ในการสร้างโปรดักส์ที่ดี

คุณจะเรียกว่าเราไร้เดียงสาก็ได้ แต่เรายังเชื่อในเทคโนโลยีที่สร้างโดยคน เพื่อคน และทำให้คนอยู่อย่างเป็นสุข ซึ่งเรื่องเหล่านี้ยากที่เราจะไม่สนใจ เพราะเราเชื่อว่าเทคโนโลยีที่ดี วัดผลได้จากความเป็นอยู่ของมนุษย์ที่ดีขึ้น

ถ้าเรารับได้ว่าเรื่องการโดนล้วงข้อมูลเป็นเรื่องธรรมดาและหลีกเลี่ยงไม่ได้ และคิดว่าทุกอย่างของเรานั้นสามารถรวบรวมนำไปขายได้ สุดท้ายแล้วเราไม่ได้จะเสียแค่ข้อมูล แต่เรากำลังจะเสียอิสระภาพของความเป็นคนด้วย..

นี่คือส่วนหนึ่งของ Speech โดย ทิม คุก CEO ของ Apple ที่พูดไว้ในงาน Privacy & Data Protection conference เมื่อวันที่ 28 ที่ผ่านมา

เนื้อหาค่อนข้างตรงไปตรงมา และแทงใจบริษัทอย่าง Facebook โดยตรง แต่ในฐานะ Apple users รู้สึกว่า นี่คือการยืนยันที่จะเป็น ผู้นำในการป้องกันข้อมูลส่วนบุคคล ที่นอกจากจะได้ภาพด้านนี้แล้ว ยังสร้าง Branding ที่ดีให้กับ Apple ได้อีกด้วย

ถือว่าเป็น speech ที่ยอดเยี่ยม...

ทั้งนี้ Apple ยังได้ปล่อยเอกสารที่ชื่อว่า ‘A Day in the Life of Your Data’ ซึ่งเปิดด้วย quote ของ Steve Jobs ที่เขียนว่า..

“เราเชื่อว่ามนุษย์เรานั้นฉลาด และหลายคนก็ต้องการจะแชร์ข้อมูลส่วนตัวให้คนอื่น แต่ขอให้ถามเขาก่อน ถามเขาทุกครั้ง ถามจนกว่าเขาจะบอกให้หยุดถามเมื่อเขาเริ่มเบื่อกับคำถามของเรา ให้เรารู้ชัด ๆ ว่าคุณกำลังจะทำอะไรกับข้อมูลของเขา”

“I believe people are smart and some people want to share more data than other people do. Ask them. Ask them every time. Make them tell you to stop asking them if they get tired of your asking them. Let them know precisely what you're going to do with their data.”

ส่วนด้านล่างนี่คือ speech ของ ทิม คุก ช่วงที่ผมตัดมานะครับ

We believe that ethical technology is technology that works for you. It’s technology that helps you sleep, not keeps you up. That tells you when you’ve had enough, that gives you space to create, or draw, or write or learn, not refresh just one more time. It’s technology that can fade into the background when you’re on a hike or going for a swim, but is there to warn you when your heart rate spikes or help you when you’ve had a nasty fall. And that all of this, always, puts privacy and security first, because no one needs to trade away the rights of their users to deliver a great product.

Call us naive. But we still believe that technology made by people, for people, and with people’s well-being in mind, is too valuable a tool to abandon. We still believe that the best measure of technology is the lives it improves.


ที่มา:

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=10158974172635070&id=570720069

บัญชีเฟซบุ๊กที่ได้รับการยืนยันของพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ได้เผยแพร่คำแถลงในนามของนางอองซานซูจี ที่ถูกควบคุมตัวว่า ประชาชนไม่ควรยอมรับการรัฐประหารของกองทัพและควรประท้วง

พรรค NLD ระบุว่า คำแถลงที่ถูกอัปโหลดขึ้นบนหน้าเพจเฟซบุ๊กที่พรรคใช้ระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งในวันนี้ (1) ได้เขียนขึ้นก่อนที่การรัฐประหารในวันจันทร์ (1) จะเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม รอยเตอร์ไม่สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ของพรรค NLD เพื่อขอความคิดเห็นได้

ซูจีไม่ปรากฏตัวให้เห็นในที่สาธารณะตั้งแต่เธอถูกควบคุมตัวในช่วงเช้ามืดพร้อมกับบุคคลสำคัญของพรรคและนักเคลื่อนไหวจำนวนหนึ่ง

“การกระทำของกองทัพเป็นการกระทำที่ทำให้ประเทศถอยกลับมาอยู่ภายใต้การปกครองระบบเผด็จการ เราขอเรียกร้องให้ประชาชนไม่ยอมรับสิ่งนี้ ตอบสนองและประท้วงอย่างเต็มที่ ต่อต้านการรัฐประหารโดยกองทัพ” คำแถลงที่มีชื่อของซูจี แต่ไม่ใช่ลายเซ็น ระบุ

คำแถลงดังกล่าวออกโดยวิน เต็ง หัวหน้าพรรค NLD ที่ยังมีข้อความที่เขียนด้วยลายมืออยู่บริเวณด้านล่าง เน้นย้ำว่า ถ้อยแถลงเหล่านี้เป็นความจริงและสะท้อนถึงความประสงค์ของซูจี โดยระบุว่า “ผมขอสาบานว่าคำร้องต่อประชาชนนี้เป็นถ้อยแถลงที่แท้จริงของอองซานซูจี”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top