Friday, 27 June 2025
ค้นหา พบ 49051 ที่เกี่ยวข้อง

‘นายกสมาคมนักประดิษฐ์และนวัตกรรมแห่งประเทศไทย’ ลากไส้ ‘แจ็ค หม่า’ เจ้าของอาลีบาบา ชี้ใช้ช่องว่างกฎหมายขายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาผ่านเว็บ เผยเหตุผลที่ตนฟ้องร้อง เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของคนไทย

นายภณวัชร์นันท์ ไกรมาตย์ นายกสมาคมนักประดิษฐ์และนวัตกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวถึง แจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้ง อาลีบาบา อี-คอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ ที่ไม่ปรากฏตัวในที่สาธารณะมานานกว่า 2 เดือน ว่า ตนเห็นว่า แจ็ค หม่า หรือ หม่า หยุ่น คือ ต้นแบบของนักธุรกิจที่สร้างภาพ อวดตัวเองว่าเก่งอย่างโน้นอย่างนี้  โดยถูกยกย่องจากโซเซียลมีเดียมากจนเกินจริง ซึ่งผมเคยเตือนว่า เหรียญด้านที่สองของสังคมโซเชียลมีเดีย มักจะมีด้านดีด้านไม่ดีปรากฏอยู่เสมอ

อีกทั้งยังเตือนว่าคนไทยอย่าชื่นชมคนรวยที่พอรวยจะใช้เงินสร้างภาพมาตลอด ซึ่งพฤติกรรมของเขานั้นจะเขียนเว็บไซต์ขึ้นมาในยุคที่รัฐบาลต่างๆ ยังสร้างเกาะคุ้มกันคือกฎหมายออกมาไม่ทัน ก็ปล่อยให้สินค้าที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งสมัยก่อนไม่กล้านำออกมาขาย เพราะเจ้าหน้าที่รัฐไล่จับ

ดังนั้น คนที่ต้องการขายสินค้าประเภทดังกล่าว ก็จะใช้วิธีขายผ่านเว็บไซต์จองแจ็ค หม่า โดยในช่วยแรกจะให้สมัครขายได้ฟรี เพื่อสร้างความน่าสนใจจากคนจำนวนมากที่ต้องการจะขายสินค้า จากนั้นจึงเริ่มเก็บค่าธรรมเนียมรายปี หากใครไม่จ่าย เว็บของแจ็ค หม่า ก็จะฝังสินค้าเหล่านั้นไปอยู่ใต้ดินของเว็บ ซึ่งหากใครเป็นเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาร้องเรียนไป ขอเอกสารโน่นนี่นั่น หลอกเอาเอกสารส่งให้สุดท้ายเงียบ แต่กลับมีสินค้าที่ยังมีสิทธิบัตรเพิ่มขึ้นจาก 1 กลายเป็นสิบเป็นร้อยเป็นพัน จนผู้คิดค้นหรือเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญา เริ่มล้มหายเหลือแต่สินค้าละเมิดเกลื่อนในเว็บของเขาไปหมด .

“ผมอยากให้คนไทยมองแล้วคิดให้ดีๆ อย่ามองแต่ภายนอกเองรวย ทุกวันนี้เว็บของเขาถูกฟ้องหลายคดี เช่น เคอริง เอสเอ ผู้แทนจำหน่ายสินค้าแบรนด์หรู อาทิ กุชชี่ และ อีฟว์ แซงต์ โลร็อง ได้ฟ้องร้องกล่าวหาว่าเว็บไซต์ของอาลีบาบา ซึ่งเป็นตลาดการค้าออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีน ไม่ยอมจัดการปัญหาของผู้ค้าสินค้าปลอมลอกเลียนแบบ

ทั้งนี้ ในช่วงปีเมษายน 2559 ผมได้ยื่นฟ้องบริษัท หางโจว อาลีบาบา แอดเวอร์ไทซิ่ง จำกัด และ แจ็ค หม่า ผู้อยู่เบื้องหลังเว็บขายสินค้าออนไลน์ระดับโลก “ALIBABA” และ “ALIEXPRESS” ฐานโฆษณาและประกาศขายสินค้าปลอม ละเมิดสิทธิบัตรการประดิษฐ์ มีแต่คนไทยด่าผมว่า เห็นเขารวยฟ้องอยากได้เงิน ผมจึงถามว่า ผมไม่ใช่คนไทยหรือเมื่อผมเป็นคนไทย และถูกกระทำผมไม่มีสิทธิที่จะปกป้องสิทธิของผมหรือครับ หรือว่าคนไทยเป็นเหยื่อของสื่อโซเชียลที่มีคนเอาไปสร้างภาพ และปัจจุบันคดีผมก็ยังในระหว่างการพิจารณาของศาลไทย

การที่ แจ็ค หม่า ไม่ยอมสู้คดีก็เพราะผลประโยชน์ในเชิงธุรกิจในไทย ด้วยความคิดอย่างกินรวบไม่แบ่งให้สังคม ได้แต่สร้างภาพ จึงสร้าง แอนท์ กรุ๊ป เพราะต้องการกินรวบ เพื่อให้ตัวเองรวยแล้วรวยอีก เพราะรัฐบาลจีนเริ่มมองเห็นว่าการทำธุรกิจกินรวบคนเดียวไม่แบ่งปันให้เพื่อนร่วมโลก มันอยู่ไม่ได้ จึงให้สำนักงานกำกับดูแลตลาดแห่งชาติจีน หรือ State Administration for Market Regulation (SAMR) เริ่มการสืบสวนบริษัท อาลีบาบา ว่ามีพฤติกรรมผูกขาดหรือไม่ และสั่งให้ แอนท์ กรุ๊ป ปรับโครงสร้างการดำเนินกิจการใหม่ ก่อนที่นายหม่าจะถูกเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเชิญตัวไปสอบสวน ปัจจุบันยังคงอยู่ในการดูแลของรัฐบาลจีน

เพราะฉะนั้น ผมจึงอยากจะบอกไปยังคนไทย ควรทำหน้าที่ตัวเองปกป้องคนไทยที่มีจำนวนมากเพื่อให้คนไทยได้มีเกียรติศักดิ์ศรีความเป็นคนไทย ได้รับสิทธิเท่าเทียม ปกป้องคนไทยด้วยกัน อย่าเห็นแต่คนมีเงินแล้วสร้างภาพให้ตรวจสอบว่าคนคนนั้นมาจากไหน ทำอะไร มองให้ไกลๆ คนเก่งต้องสร้างด้วยตนเอง ทำมันขึ้นมาและประสบความสำเสร็จ และดูแลสังคมให้เกิดความเท่าเทียมกันนั้นแหละคนเก่งจริงๆ” นายภณวัชร์นันท์ กล่าว

พรรคเพื่อไทย ย้ำเงินเยียวยาต้องได้ทั้งประเทศ ไม่จำกัดแค่ 28 จังหวัดพื้นที่สีแดง จี้  3 เหล่าทัพตัดงบปี 65 ช่วยประชาชนก่อน เหน็บกองทัพอากาศ ทุ่มงบฯสร้างสถานีอวกาศ เพื่อ? ขนาดเครื่องบินยังไม่ค่อยมีคนขึ้น ส่วนกองทัพเรือควรหยุดซื้อเรือดำน้ำ

นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พร้อมด้วยนายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ส.ส.นนทบุรี และนายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ รวมกันแถลง โดยนายยุทธพงศ์ กล่าวว่า การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 รอบนี้ถือว่าหนักกว่าปีที่แล้ว ประชาชนเดือดร้อนทั้งประเทศ  ซึ่งรัฐบาลตัดงบลงทุนออกแบบนี้ไม่มีใครเขาทำกัน เพราะเป็นงบฯกระต้นเศรษฐกิจ ขณะที่ประชาชนจ่ายเงินเยียวยาเพียง เดือนละ 3,500 บาท 2 เดือนเท่านั้นเมื่อเทียบกับการแก้ปัญหาปีที่แล้วท่านให้น้อยลง ทั้งที่การแพร่ระบาดครั้งนี้หนักกว่าเดิม ทั้งยังบอกว่าจะให้แค่ 28 จังหวัด เพราะไม่มีเงินแล้ว

ตนอยากเรียกร้องว่า ผลกระทบจากโควิด ไม่ได้มีแค่ 28 จังหวัด หากท่านจะพิจารณาให้เงินช่วยเหลือก็ควรช่วยชาวบ้านทั้งประเทศ เพราะเดือดร้อนกันหมด ดังนั้นในการจัดทำงบประมาณปี 65 โดยเฉพาะงบของทั้ง 3 เหล่าทัพ โดยงบประมาณของกองทัพเรือ ที่มีการจัดซื้อเรือดำน้ำจีน 2 ลำ จำนวน 2.5 หมื่นล้านบาท ทั้งที่ในการจัดทำงบปี 64 ก็ชะลอการจัดซื้อออกไปเพราะการระบาดของโควิด19  ซึ่งการระบาดรอบ2 ถือว่าหนักกว่า ก็ควรที่จะชะลอการจัดซื้อออกไปแล้วนำเงินมาช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิดก่อน

จึงขอถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ไม่ตัดสินใจยกเลิกการจัดซื้อเรือดำน้ำ เพราะสถานการณ์ประเทศขณะนี้เรือดำน้ำยังไม่จำเป็น ท่านควรทำเงินตรงนี้มาช่วยเหลือประชาชนก่อนดีหรือไม่

 นายยุทธพงศ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้งบปี 65 ของกองทัพบก มีรายการที่ต้องใช้งบประมาณใหญ่ คือ 1.โครงการจัดหาเฮลิคอปเตอร์โจมตี วงเงินกว่า 4,200 ล้านบาท  2. โครงการจัดหาระยานเกาะจำนวนกว่า 1 พันล้านบาท และ 3. โครงการจัดหายานเกาะล้อยางเพื่อเสริมสร้างการรบรูปแบบใหม่ จำนวน 900 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ทั้งหมดยังไม่จัดซื้อ เหตุใด พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะรมว.กลาโหมจึงไม่สั่งให้เลื่อนหรือชะลอการซื้อสิ่งเหล่านี้ 

ส่วนงบฯกองทัพอากาศ มีรายการใหม่ที่ยังไม่ได้จัดซื้อ คือโครงการจัดหาเครืองบินโจมตีเบา 4,500 ล้านบาท  โครงการสร้างคลังอาวุธและจัดหาอาวุธ กระสุน วัตถุระเบิดวิกฤต จำนวน 900 ล้านบาท และโครงการพัฒนาปฏิบัติการในห่วงอวกาศ จำนวน 1,470 ล้านบาท

 “ผมขอถามว่า ท่านจะไปทำอะไรในห้วงอาวกาศในช่วงนี้ เพราะแค่ลำพังเครื่องบินของสายการบินในประเทศช่วงนี้ยังไม่มีคนนั่งเลย ดังนั้น สิ่งเหล่านี้สามารถชะลอได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อผมนำงบประมาณที่สามารถชะลอได้ของทั้ง 3 เหล่าทัพมาคำนวณแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 3.8 หมื่นล้านบาท หากเอาไปช่วยเหลือประชาชนคนละ 3,500 บาท คนละ 2 เดือน จะช่วยประชาชนได้อีก 5.43 ล้านคน

และเมื่อท่านบอกว่างบประมาณในปีนี้ไม่เพียงพอท่านก็ต้องรู้จักประหยัด ขณะนี้ที่ท่านสั่งให้หน่วยงานอื่นหั่นงบประมาณแหลกลาน ตัดงบฯลงทุนที่จะสร้างงานในต่างจังหวัดให้กับประชาชน แต่ท่านกลับไม่แตะงบฯกองทัพเลย” นายยุทธพงศ์ กล่าว

 

‘นายกสมาคมนักประดิษฐ์ และนวัตกรรมแห่งประเทศไทย’ ลากไส้ ‘แจ็ค หม่า’ เจ้าของอาลีบาบา ชี้ใช้ช่องว่างกฎหมายขายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาผ่านเว็บ เผยเหตุผลที่ตนฟ้องร้อง เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของคนไทย

นายภณวัชร์นันท์ ไกรมาตย์ นายกสมาคมนักประดิษฐ์และนวัตกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวถึง แจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้ง อาลีบาบา อี-คอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ ที่ไม่ปรากฏตัวในที่สาธารณะมานานกว่า 2 เดือน ว่า ตนเห็นว่า แจ็ค หม่า หรือ หม่า หยุ่น คือ ต้นแบบของนักธุรกิจที่สร้างภาพ อวดตัวเองว่าเก่งอย่างโน้นอย่างนี้ โดยถูกยกย่องจากโซเซียลมีเดียมากจนเกินจริง ซึ่งผมเคยเตือนว่า เหรียญด้านที่สองของสังคมโซเชียลมีเดีย มักจะมีด้านดีด้านไม่ดีปรากฏอยู่เสมอ

อีกทั้งยังเตือนว่าคนไทยอย่าชื่นชมคนรวยที่พอรวยจะใช้เงินสร้างภาพมาตลอด ซึ่งพฤติกรรมของเขานั้นจะเขียนเว็บไซต์ขึ้นมาในยุคที่รัฐบาลต่างๆ ยังสร้างเกาะคุ้มกันคือกฎหมายออกมาไม่ทัน ก็ปล่อยให้สินค้าที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งสมัยก่อนไม่กล้านำออกมาขาย เพราะเจ้าหน้าที่รัฐไล่จับ

ดังนั้น คนที่ต้องการขายสินค้าประเภทดังกล่าว ก็จะใช้วิธีขายผ่านเว็บไซต์จองแจ็ค หม่า โดยในช่วยแรกจะให้สมัครขายได้ฟรี เพื่อสร้างความน่าสนใจจากคนจำนวนมากที่ต้องการจะขายสินค้า จากนั้นจึงเริ่มเก็บค่าธรรมเนียมรายปี หากใครไม่จ่าย เว็บของแจ็ค หม่า ก็จะฝังสินค้าเหล่านั้นไปอยู่ใต้ดินของเว็บ ซึ่งหากใครเป็นเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาร้องเรียนไป ขอเอกสารโน่นนี่นั่น หลอกเอาเอกสารส่งให้สุดท้ายเงียบ แต่กลับมีสินค้าที่ยังมีสิทธิบัตรเพิ่มขึ้นจาก 1 กลายเป็นสิบเป็นร้อยเป็นพัน จนผู้คิดค้นหรือเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญา เริ่มล้มหายเหลือแต่สินค้าละเมิดเกลื่อนในเว็บของเขาไปหมด

“ผมอยากให้คนไทยมองแล้วคิดให้ดีๆ อย่ามองแต่ภายนอกเองรวย ทุกวันนี้เว็บของเขาถูกฟ้องหลายคดี เช่น เคอริง เอสเอ ผู้แทนจำหน่ายสินค้าแบรนด์หรู อาทิ กุชชี่ และ อีฟว์ แซงต์ โลร็อง ได้ฟ้องร้องกล่าวหาว่าเว็บไซต์ของอาลีบาบา ซึ่งเป็นตลาดการค้าออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีน ไม่ยอมจัดการปัญหาของผู้ค้าสินค้าปลอมลอกเลียนแบบ

ทั้งนี้ ในช่วงปีเมษายน 2559 ผมได้ยื่นฟ้องบริษัท หางโจว อาลีบาบา แอดเวอร์ไทซิ่ง จำกัด และ แจ็ค หม่า ผู้อยู่เบื้องหลังเว็บขายสินค้าออนไลน์ระดับโลก “ALIBABA” และ “ALIEXPRESS” ฐานโฆษณาและประกาศขายสินค้าปลอม ละเมิดสิทธิบัตรการประดิษฐ์ มีแต่คนไทยด่าผมว่า เห็นเขารวยฟ้องอยากได้เงิน ผมจึงถามว่า ผมไม่ใช่คนไทยหรือเมื่อผมเป็นคนไทย และถูกกระทำผมไม่มีสิทธิที่จะปกป้องสิทธิของผมหรือครับ หรือว่าคนไทยเป็นเหยื่อของสื่อโซเชียลที่มีคนเอาไปสร้างภาพ และปัจจุบันคดีผมก็ยังในระหว่างการพิจารณาของศาลไทย

.

การที่ แจ็ค หม่า ไม่ยอมสู้คดีก็เพราะผลประโยชน์ในเชิงธุรกิจในไทย ด้วยความคิดอย่างกินรวบไม่แบ่งให้สังคม ได้แต่สร้างภาพ จึงสร้าง แอนท์ กรุ๊ป เพราะต้องการกินรวบ เพื่อให้ตัวเองรวยแล้วรวยอีก เพราะรัฐบาลจีนเริ่มมองเห็นว่าการทำธุรกิจกินรวบคนเดียวไม่แบ่งปันให้เพื่อนร่วมโลก มันอยู่ไม่ได้ จึงให้สำนักงานกำกับดูแลตลาดแห่งชาติจีน หรือ State Administration for Market Regulation (SAMR) เริ่มการสืบสวนบริษัท อาลีบาบา ว่ามีพฤติกรรมผูกขาดหรือไม่ และสั่งให้ แอนท์ กรุ๊ป ปรับโครงสร้างการดำเนินกิจการใหม่ ก่อนที่นายหม่าจะถูกเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเชิญตัวไปสอบสวน ปัจจุบันยังคงอยู่ในการดูแลของรัฐบาลจีน

เพราะฉะนั้น ผมจึงอยากจะบอกไปยังคนไทย ควรทำหน้าที่ตัวเองปกป้องคนไทยที่มีจำนวนมากเพื่อให้คนไทยได้มีเกียรติศักดิ์ศรีความเป็นคนไทย ได้รับสิทธิเท่าเทียม ปกป้องคนไทยด้วยกัน อย่าเห็นแต่คนมีเงินแล้วสร้างภาพให้ตรวจสอบว่าคนคนนั้นมาจากไหน ทำอะไร มองให้ไกลๆ คนเก่งต้องสร้างด้วยตนเอง ทำมันขึ้นมาและประสบความสำเสร็จ และดูแลสังคมให้เกิดความเท่าเทียมกันนั้นแหละคนเก่งจริงๆ” นายภณวัชร์นันท์ กล่าว

พรรคเพื่อไทย ย้ำเงินเยียวยาต้องได้ทั้งประเทศ ไม่จำกัดแค่ 28 จังหวัดพื้นที่สีแดง จี้ 3 เหล่าทัพตัดงบปี 65 ช่วยประชาชนก่อน เหน็บกองทัพอากาศ ทุ่มงบฯ สร้างสถานีอวกาศ เพื่อ? ขนาดเครื่องบินยังไม่ค่อยมีคนขึ้น ส่วนกองทัพเรือควรหยุดซื้อเรือดำน้ำ

นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พร้อมด้วยนายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ส.ส.นนทบุรี และนายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ รวมกันแถลง โดยนายยุทธพงศ์ กล่าวว่า การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 รอบนี้ถือว่าหนักกว่าปีที่แล้ว ประชาชนเดือดร้อนทั้งประเทศ ซึ่งรัฐบาลตัดงบลงทุนออกแบบนี้ไม่มีใครเขาทำกัน เพราะเป็นงบฯกระต้นเศรษฐกิจ ขณะที่ประชาชนจ่ายเงินเยียวยาเพียง เดือนละ 3,500 บาท 2 เดือนเท่านั้นเมื่อเทียบกับการแก้ปัญหาปีที่แล้วท่านให้น้อยลง ทั้งที่การแพร่ระบาดครั้งนี้หนักกว่าเดิม ทั้งยังบอกว่าจะให้แค่ 28 จังหวัด เพราะไม่มีเงินแล้ว

ตนอยากเรียกร้องว่า ผลกระทบจากโควิด ไม่ได้มีแค่ 28 จังหวัด หากท่านจะพิจารณาให้เงินช่วยเหลือก็ควรช่วยชาวบ้านทั้งประเทศ เพราะเดือดร้อนกันหมด ดังนั้นในการจัดทำงบประมาณปี 65 โดยเฉพาะงบของทั้ง 3 เหล่าทัพ โดยงบประมาณของกองทัพเรือ ที่มีการจัดซื้อเรือดำน้ำจีน 2 ลำ จำนวน 2.5 หมื่นล้านบาท ทั้งที่ในการจัดทำงบปี 64 ก็ชะลอการจัดซื้อออกไปเพราะการระบาดของโควิด19 ซึ่งการระบาดรอบ2 ถือว่าหนักกว่า ก็ควรที่จะชะลอการจัดซื้อออกไปแล้วนำเงินมาช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิดก่อน

จึงขอถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ไม่ตัดสินใจยกเลิกการจัดซื้อเรือดำน้ำ เพราะสถานการณ์ประเทศขณะนี้เรือดำน้ำยังไม่จำเป็น ท่านควรทำเงินตรงนี้มาช่วยเหลือประชาชนก่อนดีหรือไม่

นายยุทธพงศ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้งบปี 65 ของกองทัพบก มีรายการที่ต้องใช้งบประมาณใหญ่ คือ 1.โครงการจัดหาเฮลิคอปเตอร์โจมตี วงเงินกว่า 4,200 ล้านบาท 2. โครงการจัดหาระยานเกาะจำนวนกว่า 1 พันล้านบาท และ 3. โครงการจัดหายานเกาะล้อยางเพื่อเสริมสร้างการรบรูปแบบใหม่ จำนวน 900 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ทั้งหมดยังไม่จัดซื้อ

เหตุใด พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะรมว.กลาโหมจึงไม่สั่งให้เลื่อนหรือชะลอการซื้อสิ่งเหล่านี้ ส่วนงบฯกองทัพอากาศ มีรายการใหม่ที่ยังไม่ได้จัดซื้อ คือโครงการจัดหาเครืองบินโจมตีเบา 4,500 ล้านบาท โครงการสร้างคลังอาวุธและจัดหาอาวุธ กระสุน วัตถุระเบิดวิกฤต จำนวน 900 ล้านบาท และโครงการพัฒนาปฏิบัติการในห่วงอวกาศ จำนวน 1,470 ล้านบาท

“ผมขอถามว่า ท่านจะไปทำอะไรในห้วงอาวกาศในช่วงนี้ เพราะแค่ลำพังเครื่องบินของสายการบินในประเทศช่วงนี้ยังไม่มีคนนั่งเลย ดังนั้น สิ่งเหล่านี้สามารถชะลอได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อผมนำงบประมาณที่สามารถชะลอได้ของทั้ง 3 เหล่าทัพมาคำนวณแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 3.8 หมื่นล้านบาท หากเอาไปช่วยเหลือประชาชนคนละ 3,500 บาท คนละ 2 เดือน จะช่วยประชาชนได้อีก 5.43 ล้านคน และเมื่อท่านบอกว่างบประมาณในปีนี้ไม่เพียงพอท่านก็ต้องรู้จักประหยัด ขณะนี้ที่ท่านสั่งให้หน่วยงานอื่นหั่นงบประมาณแหลกลาน ตัดงบฯลงทุนที่จะสร้างงานในต่างจังหวัดให้กับประชาชน แต่ท่านกลับไม่แตะงบฯกองทัพเลย” นายยุทธพงศ์ กล่าว

คณะกรรมาธิการ(กมธ.)การคมนาคม เห็นค้านกทม. ขึ้นค่าโดยสารรถไฟสายสีเขียว 104 บาท ชี้ ซ้ำเติมวิกฤติประชาชน ระบุขอให้กทม.ชี้แจงการคำนวณราคาตั้งแต่พ.ย.ปีก่อน แต่ยังไม่ได้ข้อมูล เชื่อทำราคาได้ต่ำกว่า 65 บาท จ่อเรียกชี้แจง 21 ม.ค.นี้

นายโสภณ ซารัมย์ ประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ทางกรุงเทพมหานครออกประกาศปรับอัตราค่าโดยสารของรถไฟฟ้าสายสีเขียวตลอดสายอยู่ที่ 104 บาท ว่า เป็นการซ้ำเติมประชาชน ในช่วงวิกฤติ Covid-19 กมธ.การคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร ไม่เห็นด้วยกับการคิดอัตราค่าโดยสาร สายสีเขียว ตลอดสาย 65 บาท พร้อมขอให้ กทม. ชี้แจงที่มาของการคำนวณราคา ตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน ปีที่แล้ว จนบัดนี้ ยังไม่ได้รับ ข้อมูล แต่กลับข่มขู่ประชาชน ว่าจะขึ้นราคา 104 บาท ในเดือนหน้า

นายโสภณ กล่าวว่า ที่ผ่านมา กมธ.การคมนาคม ได้มีข้อเสนอแนะในเรื่องนี้ไว้อย่างชัดเจนว่า การคิดอัตราค่าโดยสาร นั้นต้องเปิดเผยที่มา การคิดราคาอย่างโปร่งใส และเชื่อว่า สามารถคิดราคาได้ถูกกว่า 65 บาทตลอดสาย และควรกำหนดอัตราค่าโดยสารที่ถูกที่สุดสำหรับประชาชนที่ใช้บริการ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยมาใช้บริการ  โดยกมธ.คมนาคมมีความเห็นคือ

1.การต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว โดยคิดราคาค่าโดยสารสูงสุด 65 บาท กทม.ควรเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะ ว่ามีฐานการคิดคำนวณมาอย่างไร เนื่องจาก การสอบถามข้อมูลทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องแล้ว กระทรวงคมนาคม เห็นว่า ยังสามารถลดค่าโดยสารลงได้ต่ำกว่า 65 บาท กมธ.การคมนาคม จึงเห็นว่า ค่าโดยสารที่สามารถลดลงได้อีก เนื่องจากปริมาณการเดินทางในอนาคต จะมีมากขึ้น ต้นทุนต่อการเดินรถควรจะถูกลงอีก จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะประชาชนผู้มีรายได้น้อยจะสามารถเข้าถึงระบบขนส่งมวลชนได้มากขึ้น

2.ประชาชน ควรจะได้รับประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมมากกว่านี้ ในการต่อสัญญาสัมปทานครั้งนี้ เช่น การลดค่าแรกเข้าระบบ ที่ไม่ควรจะมีการคิดซ้ำซ้อน และไม่มีเงื่อนไขซึ่งจะเป็นภาระต่อผู้โดยสาร

3.หากยังไม่มีการต่อสัญญาสัมปทาน ซึ่งกำลังจะหมดลงในปี 2572 หรือในอีก 9 ปี ข้างหน้า และสินทรัพย์ทั้งหมด   จะตกกลับมาเป็นของรัฐ คือ กทม. จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน มากกว่า เนื่องจากรถไฟฟ้าสายสีเขียวมีกำไร หลังจากหักค่าจ้างเดินรถแล้ว จะมีกำไรไม่น้อยกว่าปีละ 5,000 ล้านบาทต่อปี และเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต กำไรดังกล่าวสามารถนำมาบริหารจัดการช่วยลดอุดหนุนเส้นทางรถไฟฟ้า อื่น ๆ ที่อยู่นอกเมือง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประชาชนผู้มีรายได้น้อยกว่า ได้ใช้รถไฟฟ้าในอัตราที่ถูกกว่า คนในใจกลางเมือง

การที่อ้างว่า กทม.ไม่มีความสามารถทางการเงินในการชำระหนี้ และบริหารจัดการไม่เป็นความจริง เนี่องจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวทั้งเส้นทาง มีศักยภาพทางธุรกิจที่ชัดเจน สามารถระดมเงินเพื่อบริหารจัดการ ได้จากแหล่งเงินต่าง ๆ เช่น ธนาคาร แหล่งทุน เนื่องจากมีรายได้มหาศาลที่ชัดเจน

4.การดำเนินการของคณะกรรมการฯ ตามคำสั่ง หัวหน้า คสช. ที่ 3/2562 ควรเปิดเผยรายงานการประชุม ต่อสาธารณะ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส และสร้างความเข้าใจให้กับประชาชน โดยทั่วไปได้ และ  5.การต่อสัญญาสัมปทานดังกล่าว ยังดำเนินการไม่ครบถ้วน เช่น พ.ร.บ. วินัยการเงินการคลัง 2562 และการตรวจสอบจากองค์กรอิสระต่าง ๆ ยังไม่แล้วเสร็จ

นายโสภณ กล่าวอีกว่า หาก กทม.ยังคงยืนยันการดำเนินการเรื่องรถไฟสายสีเขียวในยามวิกฤติความเดือดร้อนของประชาชนถือว่าเป็นการซำ้เติมสถานการณ์ของบ้านเมือง และยังไม่ฟังเสียงประชาชนและข้อทักท้วงจากส่วนราชการ และข้อแนะนำจากภาคประชาชน

"กมธ.การคมนาคมจะเชิญผู้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ในวันพฤหัสบดี (21 มค.) ที่จะถึงนี้เพื่อคัดค้านการขึ้นราคาอย่างไม่เป็นธรรมและแจ้งเรื่องการคัดค้านดังกล่าวไปยังรัฐบาล เพื่อสั่งให้ยุติวิกฤติความเดือดร้อนของประชาชนโดยเร็วที่สุด" นายโสภณ กล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top