Wednesday, 25 June 2025
ค้นหา พบ 49000 ที่เกี่ยวข้อง

สแกนเสื้อผ้าหน้าผม ‘นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน’ อยากเป๊ะแบบคุณหมอ ต้องทำอย่างไร?

ใครเอ่ย เจอกันบ่อยยิ่งกว่าแฟน? หมอทวีศิลป์ไง จะใครล่ะ แฮ่!! ขออนุญาตหยอกคุณหมอทวีศิลป์เพื่อเป็นการผ่อนคลายสักเล็กน้อย เพราะเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีประเด็นร้อนเกิดกับคุณหมอมากมาย ทางเราก็ขอเป็นกำลังใจให้คุณหมอทวีศิลป์ รวมไปถึงผู้ปฏิบัติหน้าที่ในสถานการณ์โควิด-19 ระบาดทุกท่าน สู้ ๆ นะค้า

กลับมาที่การเจอหน้าคุณหมอทวีศิลป์อยู่บ่อยๆ อีกครั้ง เพราะเวลานี้ ประชาชนคนไทยต้องรอดู LIVE สด การแถลงสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ของคุณหมอทุกวัน งานนี้ถ้าสังเกตกันดูดี ๆ ลุคคุณหมอเริ่มเป๊ะปังขึ้นทุกวันๆ The States Times เลยขออนุญาต ‘ส่องคุณหมอ’ เอิ่ม หมายถึง ส่องลุคค่ะ เราไปสแกนเสื้อผ้าหน้าผมของคุณหมอออกมาเป็นที่เรียบร้อย อยากจะแต่งแบบลุคคุณหมอทวีศิลป์ต้องแต่งอย่างไรนั้น ตามไปดูในภาพนี้กันเลย

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งสอบ ‘เคนมผง’ ยาเสพติดสายพันธุ์ใหม่ ที่ระบาดอย่างหนัก ชี้เป็นสารสุดอันตราย หลังพบผู้เสพตายนับสิบ เบื้องต้นคาดส่วนผสมเพียบ

พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจ เปิดเผยถึงกรณีมีผู้เสียชีวิตจากการเสพยาเสพติดถึง 9 คน เป็นที่รู้จักกันในกลุ่มนักเสพคือ “เคนมผง”ว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำศพผู้เสียชีวิตเพื่อชั้นสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่ รพ.จุฬาลงกรณ์

ซึ่งกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ให้ข้อมูลมาว่ายาตัวนี้น่าจะมาจากการผสมระหว่าง เฮโรอีน เคตามีน ไอซ์และยานอนหลับชนิดหนึ่ง ซึ่งมีฤทธิ์กดประสาท และกระตุ้นประสาททำให้เกิดผลต่อร่างกายประมาณหนึ่ง เป็นเรื่องการทดลองของกลุ่มผู้เสพยา อยากลองของใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายพอสมควร ส่วนผู้เสียชีวิต เบื้องต้นคาดว่าน่าจะมาจากสาเหตุระบบหายใจและหมุนเวียนโลหิต แต่จะเสียชีวิตจากยาเสพติดหรือไม่นั้น ต้องรอผลการตรวจวิเคราะห์อย่างละเอียดจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ส่วนยาเสพติดตัวนี้จะมีส่วนผสมอะไรบ้าง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) อยู่ระหว่างนำไปตรวจวิเคราะห์ น่าจะทราบผลในเร็วๆ นี้ ภายหลังทราบเรื่อง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ บช.ปส. แม่งานเรื่องยาเสพติดไปสุ่มตรวจสอบตามสถานที่คาดว่ายาเสพติดตัวนี้จะแพร่ระบาด พร้อมกันนี้ได้สั่งการให้ทุกพื้นที่ตรวจสอบสถานบริการที่คาดว่ายาเสพติดตัวนี้ จะแพร่ระบาดและให้เร่งดำเนินการกวาดล้างทันที

พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวว่า ยาเสพติดตัวนี้จะน่าเป็นการทดลองผสมผสาน เนื่องจากวัฒนธรรมของผู้เสพยา จะนำไอ้โน้นไอ้นี่มาผสมกัน เพื่อเสพทดลองรสชาติที่แปลกใหม่ ส่วนกลุ่มผู้เสพที่เสียชีวิตหลายคน จะรู้จักคุ้นเคยกันหรือไม่ ยังตอบไม่ได้ อยู่ระหว่างการสอบสวนของ บช.ปส. ที่ต้องสอบพยานแวดล้อม คือผู้เสพที่ยังไม่เสียชีวิต ฝากไปยังกลุ่มวัยรุ่นยาเสพติดจะผสมอะไรหรือไม่ก็เป็นเรื่องที่ไม่ดีอยู่แล้ว ทำลายสุขภาพตัวเองและผิดกฎหมาย

ด้าน พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ผบช.ปส.) เผยว่า เคนมผงตัวดังกล่าวเป็นยาที่ผสมขึ้นเอง ในหมู่ของผู้เสพเฉพาะกลุ่ม เพื่อให้ยามีฤทธิ์แรงขึ้นสนุกมากขึ้น และเพิ่มมูลค่าของตัวยาให้มีราคาสูงมากขึ้น ทั้งนี้พบว่ายาตัวดังกล่าวน่าจะมีที่มาจากแหล่งในจังหวัดปทุมธานี เนื่องจากจุดดังกล่าวเป็นแหล่งพักยาและสามารถหาส่วนผสมทั้งหมดได้ง่าย

ทั้งนี้ ส่วนผสมของยาดังกล่าวมี 4 ตัว คือ เฮโรอีน เคตามีน ไอซ์ และยานอนหลับ จากการวิเคราะห์ในเบื้องต้นพบว่าตัวยาที่อันตรายที่สุดคือเฮโรอีน เนื่องจากยาเสพติดชนิดดังกล่าวมีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดอาการโอเวอร์โดสจนถึงขั้นเสียชีวิตได้มากที่สุด โดยมียานอนหลับเป็นตัวประสานตัวยาและตัวเร่งฤทธิ์ของยาทั้งหมด โดยผู้เสพจะมีอาการมึนเมาเหมือนคนเมาเหล้าแต่จะไม่มีกลิ่นสุรา และจะมีอาการสะลึมสะลือ โดยอาการที่อันตรายที่สุดคืออาการปากเขียวคล้ำ และมีเลือดออกทางจมูก เนื่องจากอาการดังกล่าวแปลว่าผู้เสพมีอาการเสพยาเกินขนาด จนร่างกายไม่สามารถรับได้ หรือน็อคยา หากพบอาการดังกล่าวให้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ยาเสพติดประเภทดังกล่าว หากเสพเพียงครั้งเดียวก็อาจถึงแก่ชีวิตได้ เพราะเป็นยาที่มีขนาดค่อนข้างรุนแรง

ส่วนสาเหตุที่มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากในพื้นที่ สน. วัดพระยาไกร จากการวิเคราะห์ของชุดสืบสวนเชื่อว่าในจุดดังกล่าวเป็นจุดที่มีอพาร์ทเม้นท์แหล่งท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก จึงเป็นจุดที่ผู้ใช้ยาแต่ละคนนำยากลับมาเสพในที่พักของตนเอง ทั้งนี้คาดว่าผู้เสียชีวิตทั้งหมดน่าจะมีความเชื่อมโยงกันไม่ทางตรงก็ทางอ้อมจึงสามารถนำยาชนิดดังกล่าวมาเสพในกลุ่มและกระจายกลับไปในพื้นที่ของตนเอง

เบื้องต้นตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้ขอตัวอย่างยาที่พบในที่เกิดเหตุส่งให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาหรือ อย. นำไปตรวจสอบแยกสารประกอบและตรวจสอบองค์ประกอบว่ามีตัวยาส่วนผสมชนิดใดมากที่สุดและยาเสพติดตัวใดที่ทำให้ถึงแก่ชีวิต

สถานการณ์ COVID-19 ประเทศไทยและอาเซียน (11 มกราคม พ.ศ. 2564)

ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวัน โดยประเทศไทยพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 249 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมอยู่ที่ 10,547 ราย รวมยอดผู้เสียชีวิต 67 ราย รักษาหายเพิ่ม 138 ราย รวมผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 6,566 ราย ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 3,914 ราย

ทั้งนี้ ผู้ป่วยรายใหม่ 205 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ จากสหราชอาณาจักร 2 ราย ,สวิตเซอร์แลนด์ 2 ราย ,สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 ราย ,ตุรกี 1 ราย ,ฮังการี 1 ราย ,สหรัฐอเมริกา 1 ราย ,บาห์เรน 1 ราย ,เดนมาร์ก 1 ราย และมาเลเซีย 1 ราย

เดินทางมาจากต่างประเทศ ผ่านเส้นทางธรรมชาติเป็นคนไทย 13 ราย สัญชาติเมียนมา 1 ราย จากเมียนมา เข้ารับการรักษาตัวใน รพ.แม่สอด

ผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 176 ราย

ติดเชื้อจากการตรวจคัดกรองเชิงรุก 48 ราย

ขณะเดียวกันสถานการณ์ COVID-19 ของประเทศในกลุ่มอาเซียนมีการอัพเดทดังนี้

ประเทศบรูไน ดารุสซาลาม ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 173 ราย รักษาหายแล้ว 153 ราย เสียชีวิต 3 ราย

ประเทศกัมพูชา ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 391 ราย รักษาหายแล้ว 374 ราย ไม่มียอดผู้เสียชีวิต

ประเทศอินโดนีเซีย ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 8.28 แสน ราย รักษาหายแล้ว 6.81 แสน เสียชีวิต 24,129 ราย

ประเทศลาว ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 41 ราย รักษาหายแล้ว 40 ราย ไม่มียอดผู้เสียชีวิต

ประเทศมาเลเซีย ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 1.36 แสน ราย รักษาหายแล้ว 1.08 แสน ราย เสียชีวิต 551 ราย

ประเทศพม่า ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 1.31 แสน ราย รักษาหายแล้ว 1.14 แสน ราย เสียชีวิต 2,846 ราย

ประเทศฟิลิปปินส์ ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 4.88 แสน ราย รักษาหายแล้ว 4.58 แสน ราย เสียชีวิต 9,405 ราย

ประเทศสิงคโปร์ ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 58,907 ราย รักษาหายแล้ว 58,636 ราย เสียชีวิต 29 ราย

ประเทศเวียดนาม ยอดรวมติดเชื้อ 1,514 ราย รักษาหายแล้ว 1,361 ราย เสียชีวิต 35 ราย

ส.ส.พรรคก้าวไกล ‘อภิชาติ ศิริสุนทร’ กังขาผลเจรจาคดี "เหมืองทองอัครา" ส่อเค้าอาจไม่ต้องเสียค่าโง่ จี้รัฐบาลชี้แจงข้อเท็จจริง พร้อมตั้งคำถามเอา ‘เรื่องอะไร’ ไปเจรจา แลกเปลี่ยนด้วยอะไร ทำให้ไม่ต้องจ่าย 3 หมื่นล้าน

จากกรณีมีการนำเสนอรายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยความคืบหน้ากรณีข้อพิพาทเหมืองทองคำอัครา ระหว่างบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดตเต็ด ลิมิเต็ด บริษัทสัญชาติออสเตรเลียกับรัฐบาลไทย ที่อยู่ในกระบวนการอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ ว่า ล่าสุดกระทรวงอุตสาหกรรม ได้รายงานความคืบหน้าให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดยผลการเจรจากับ บริษัท คิงส์เกตฯ ค่อนข้างมีความชัดเจนว่า จะจบลงด้วยดี มีแนวโน้มการถอนฟ้องรัฐบาลไทย และกลับมาลงทุนในไทยอีกครั้ง ภายใต้นโยบายและแผนยุทธศาสตร์ในการบริหารจัดการทรัพยากรแร่ทองคำ พ.ศ. 2560 และ พ.ร.บ.แร่ฉบับใหม่ พ.ศ. 2560 โดยบริษัท คิงส์เกตฯ อาจจับมือกับนักลงทุนไทยเพื่อลงทุนครั้งใหม่นี้ด้วย นั้น

.

นายอภิชาติ ศิริสุนทร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล และ ประธานกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ตามที่ทราบข่าวจากรายงาน ที่บอกว่าแนวโน้มการเจรจาเป็นไปด้วยดี และจะไม่มีการจ่ายค่าเสียหายใด ๆ ทั้งสิ้นทุกกรณี ให้รู้สึกแปลกใจ ว่าจบกันง่ายๆ แบบนี้เลยเหรอ ซึ่งเรื่องนี้ตนคิดว่ารัฐบาลต้องรีบออกมาชี้แจงกับประชาชนให้ชัดเจน เพราะตามวิสัยของนักลงทุน ของนายทุนแล้ว การที่เขาไม่ได้ดำเนินกิจการมาตั้งแต่ปลายปี 2559 ด้วยคำสั่งตาม ม.44 ของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนี้ด้วย

.

ระยะเวลาจากวันนั้นจนถึงวันนี้กว่า 3 ปี ที่เขาไม่มีรายได้ และสูญเสียอะไรหลายๆ อย่าง รวมทั้งการสู้คดีกับรัฐบาลไทยจนเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต ข้อพิพาทลุกลามไปจนต้องต่อสู้คดีในคณะอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศและศาลในต่างประเทศ การที่เรื่องจะจบง่ายๆ โดยที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายจึงเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ยากเหลือเกิน จนนำมาซึ่งคำถามว่า รัฐบาลไทยเอาเรื่องอะไรไปเจรจาต่อรอง มีเรื่องใดแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ด้วยหรือไม่ คิดว่าประชาชนคงอยากได้รับความชัดเจน เพราะท้ายที่สุด สิ่งที่ถกเถียงกันต่อไปถ้าเกิดต้องเสียงค่าโง่ในครั้งนี้คือ ใครจะเป็นคนรับผิดชอบ รัฐบาลไทย หรือ พล.อ.ประยุทธ์

.

"ผมคิดว่าประชาชนคงเกิดคำถามว่า ทำไมเรื่องนี้มันจบง่ายจัง เพราะเท่าที่ติดตามข่าวมา บริษัท คิงส์เกตฯ เรียกค่าเสียหายไว้ประมาณ 3 หมื่นล้าน และในการสู้คดีนั้นรัฐบาลไทยก็ใช้เงินไปมากมายมหาศาล ซึ่งพรรคก้าวไกลเคยตรวจสอบตัวเลขนี้แล้วคือ เมื่อปี 2562 จำนวน 60 ล้านบาท, ปี 2563 จำนวน 218 ล้านบาท และในงบประมาณปี 2564 ตั้งไว้จำนวน 111 ล้านบาท รวมแล้ว ใช้งบในการดำเนินการเกี่ยวกับเหมืองทองคำอัคราสูงถึง 389 ล้านบาท ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงมากเพื่อใช้แก้ปัญหาให้บุคคลเดียวคือ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ใช้อำนาจตาม ม. 44 อย่างไม่รับผิดชอบ และนี่ยังไม่พูดถึงการที่จะมีการกลับมาทำเหมืองรอบใหม่ซึ่งทำเหมือนที่ผ่านมาไม่มีอะไรเกิดขึ้น คำถามคือข้อร้องเรียนจากชาวบ้านเรื่องปัญหาสิ่งแวดล้อมจะมีแนวทางแก้ไขอย่างไร และผลการเจรจาที่บอกว่า บริษัท คิงส์เกตฯ อาจจับมือกับนักลงทุนไทยเพื่อลงทุนครั้งใหม่ เป็นนักลงทุนกลุ่มทุนไหน เชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศคงรอฟังคำตอบเหล่านี้" นายอภิชาติ กล่าว

รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ‘พิพัฒน์ รัชกิจประการ’ รับฟังปัญหาข้อเสนอจากภาคเอกชน ฟื้นการท่องเที่ยว หามาตรการบรรเทาผลกระทบ เตรียมเสนอนายกรัฐมนตรีในการประชุมครม. 12 ม.ค. นี้

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ได้เชิญเอกชนภาคการท่องเที่ยว 5 สมาคม คือ สมาคมโรงแรมไทย สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ สมาคมการแสดงสินค้า (ไทย) และ สมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติไทย มารับฟังปัญหาข้อเสนอและหามาตรการ เพื่อบรรเทาผลกระทบ โดยกระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะรวบรวมข้อเสนอทั้งหมดเสนอให้นายกรัฐมนตรี รับทราบในการประชุมครม.วันที่ 12 ม.ค.นี้

สำหรับข้อเสนอสำคัญที่ภาคเอกชนนำเสนอ มีทั้งการขอให้สนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ หรือซอฟท์โลน ง่ายมากขึ้นกว่าเดิม การเสนอให้ลดค่าไฟฟ้าสำหรับโรงแรมลง 15% การเสนอขอหยุดพักชำระหนี้ ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยไปก่อนเป็นเวลา 1 ปี การยืดระยะเวลาการยื่นภาษีในปีภาษี 63 ออกไป และการขอให้รัฐร่วมจ่ายค่าจ้างให้แรงงานในภาคการท่องเที่ยว 50% เพื่อพยุงการจ้างงานพนักงานไว้

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ยังเตรียมคุยกับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเสนอให้ใช้โรงแรม รวมถึงรีสอร์ท เป็นสถานที่กักตัวสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งเรียกว่า โฮเทล ควอรันทีน ในลักษณะเดียวกับที่ทำกับสนามกอล์ฟ หรือกอล์ฟ ควอรันทีน คือสามารถอยู่ในพื้นที่บริเวณของโรงแรมได้ หากทำได้ในช่วงที่รอวัคซีนมาถึง คงทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาไทยได้มากกว่ากรณีที่รัฐบาลเปิดให้ใช้วีซ่าประเภทพิเศษ หรือเอสทีวี ปีก่อน ซึ่งมีต่างชาติมาเพียงแค่ 1,300 คนเท่านั้น แต่ต้องเป็นไปตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข มหาดไทย และผ่านการเห็นชอบจากที่ประชุม ศบค.ก่อน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top