Sunday, 18 May 2025
ค้นหา พบ 48168 ที่เกี่ยวข้อง

'หมอศิริราช' ชี้!! พบสายพันธุ์ ‘เดลต้า’ ‘เกินครึ่ง’ ใน ‘รพ.ศิริราช’

นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล แพทย์โรงพยาบาลศิริราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า…

Officially COVID-ICU attending physician from June 28 to July 4, 2021

เป็นวันแรกของเดือนนี้ที่กลับมาเป็นอาจารย์ประจำการหอผู้ป่วยไอซียูโควิดแห่งแรกของศิริราชรวม 7 เตียง ขณะนี้กิจการเราดีมาก จึงขยายไปอีกสองที่ ที่ละ 6 เตียง รวมทั้งหมดจึงเป็น 19 เตียง ซึ่งเต็มมาเกือบตลอดเดือนนี้ และคาดว่าจะเป็นแบบนี้ในเดือนหน้าอีกทั้งเดือน ถ้าเป็นเชิงพาณิชย์สงสัยอัตราการเติบโตของมูลค่าเพิ่มนับว่าก้าวกระโดด2

ข้อมูลจากการสุ่มตรวจเมื่อราวสิบวันก่อน ในศิริราชพบสายพันธุ์เดลต้าประมาณ 30% ถ้าถึงวันนี้น่าจะเกินครึ่งไปแล้ว สัปดาห์นี้จะลองส่งตรวจในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงดูว่าจะพบคิดเป็นสัดส่วนเท่าไร สายพันธุ์นี้นอกจากจะแพร่ได้ง่ายไปสู่ทั้งเด็ก คนท้อง และคนชรา ยังอาจจะเกิดปอดอักเสบได้เร็วและได้แรงกว่าสายพันธุ์เดิม ๆ ที่เราคุ้นเคย นี่เป็นตัวแปรหนึ่งที่ทำให้เรียกการระบาดช่วงนี้เป็นระลอกสี่ และเป็นตัวชี้ขาดหนึ่งในความยากง่ายของการควบคุมโรคภายหลังเริ่มใช้มาตรการต่าง ๆ ที่เผยโฉมให้ชัดเจนวันนี้ คงต้องลุ้นกันตัวโก่งเหมือนบอลยูโรที่มาได้ครึ่งทางของรอบ 16 ทีมแล้ว

ในบรรดาผู้ป่วยทั้ง 7 รายที่ดูแลอยู่ตอนนี้ สองในเจ็ดน่าจะมาจากสายพันธุ์เจ้าปัญหา วันนี้ย้ายผู้ป่วยเก่าได้สองรายและนำรายใหม่เข้ามาแทน คาดว่าเจ้าตัวร้ายคงกลายเป็นขาใหญ่ของที่นี่แทนคือ 4 จาก 7 ราย ที่น่าสนใจคือผู้ป่วย 3 รายเป็นอาจารย์อาวุโสของผมเอง ทุกท่านแม้อยู่ในวัยเกือบหรือเกิน 80 แล้ว แต่ยังแข็งแรงดีและไม่มีโรคหรือภาวะเสี่ยงชัดเจน ที่สำคัญคือทั้งหมดหาต้นตอคนนำเชื้อมาให้ได้ไม่ชัดเจน แสดงถึงมีการลุกลามของเชื้อเข้าไปในชุมชนวงกว้าง ซึ่งเป็นอีกสัญญาณบ่งชี้ของการระบาดระลอกสี่ ภาวนาให้เหล่าครูทุกท่านได้รับผลดีของการดูแลรักษาโดยไม่มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรงหรือเรื้อรัง นี่ช่วยตอกย้ำอีกครั้งว่า วัคซีนที่กำลังจะได้มาในเดือนหน้า จะต้องเร่งฉีดให้กับผู้สูงอายุและผู้มีโรคเรื้อรังเป็นอันดับต้น ๆ

กองทัพเดินด้วยท้องฉันใด ทีมของเราหลังจากตรวจเยี่ยมผู้ป่วยกันเรียบร้อยแล้ว วันนี้งานไม่ยุ่งมาก จึงสั่งพิซซ่าและโค้กมาปลุกขวัญลูกทีม เรามีแพทย์ 7 คน กับพยาบาล 12 คนสำหรับดูแลผู้ป่วย 7 ราย แต่ในโรงพยาบาลที่พร้อมน้อยกว่าเรานั้น ปริมาณงานเท่ากันนี้ เขาอาจใช้คนแค่ครึ่งเดียวของเราหรืออาจไม่ถึงเสียด้วยซ้ำ คิดดูแล้วกันว่ามันจะหนักหนาสาหัสขนาดไหน แล้วอย่างนี้จะใจดำไม่ควบคุมโรคจริงจังให้กับพวกเขาพอจะได้มีโอกาสผ่อนคลายบ้างเลยหรือ

ในยามที่กรุงเทพกำลังจะถูกข้าศึกโควิดสายพันธุ์ภารตะตีแตก ได้มีการระดมทหารใหม่ที่เพิ่งสำเร็จการฝึกฝนเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมาเสริมทัพ พวกเขาเหล่านี้ถูกส่งตัวจากหัวเมืองมาร่ำเรียนในเมืองหลวง เพื่อหวังกลับไปเป็นกำลังสำคัญดูแลสุขภาพพี่น้องประชาชนในต่างจังหวัด การกะเกณฑ์เขามาช่วยงานก่อนส่งตัวกลับที่ตั้ง ควรเป็นไปโดยความยินยอมของทั้งตัวเขา หัวหน้างานเขา และที่สำคัญประชาชนในพื้นที่เขาหากสถานการณ์โควิดที่นั่นยังเบาบางอยู่ วอนผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องทั้งหลายอย่ารานน้ำใจผู้น้อยมากไปนักเลย สายงานแพทย์เราใช้ระบบอาวุโสและคุณธรรมในการร้อยรัดพวกเราเข้าด้วยกันไว้ มากกว่าการใช้อำนาจสั่งการตามระดับบังคับบัญชาเหมือนวิชาชีพอื่น

อย่าปล่อยให้เรื่องเล็กน้อยกลายเป็นไฟไหม้ฟางก่อความบาดหมางใจกันโดยใช่เหตุ ที่จริงเราน่าจะช่วยกันประสานเสียงว่า การแก้ไขหลักของสถานการณ์ในกรุงเทพต้องเน้นการควบคุมโรคให้อยู่หมัด มากกว่าการขยายเตียงโควิดในโรงพยาบาลต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด

 

 

ที่มา : https://www.thaipost.net/main/detail/107988


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ม็อบสาวอะโกโก้ บาร์ อาบนวด บุกทำเนียบ ร้องรัฐบาลขอเยียวยา 5 พัน หลังถูกสั่งปิดกิจการ

เมื่อเวลา 09.00 น. ที่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล มูลนิธิเอ็มพาวเวอร์ และตัวแทนพนักงานบริการในสถานบริการ อาบอบนวด อะโกโก้ บาร์ คาราโอเกะ และพนักงานบริการอิสระออนไลน์ ยื่นหนังสือ ถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผ่านนายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรี ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษก ประจำศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เพื่อเรียกร้องให้ภาครัฐดำเนินการเยียวยาพนักงานบริการ เนื่องจากคำสั่งปิดสถานบริการตามมาตรการของรัฐและศบค. เป็นจำนวนเงิน 5,000 บาทต่อเดือน จนกว่าสถานการณ์จะกลับมาปกติ

นอกจากนี้ ทางกลุ่มยังได้จัดกิจกรรม "สั่งปิดได้ต้องเยียวยาด้วย ตบส้นสูงพบกันหน้าทำเนียบ" โดยนำรองเท้าส้นสูงจำนวน 30 คู่ มีข้อความโดยแต่ละคู่นั้นจะเขียนข้อความติดไว้ อาทิ การเยียวยารัฐไม่แก้ปัญหา แต่แก้ผ้าเอาหน้ารอด, สั่งปิดร้านอาหาร สามารถขายเหล้าเบียร์ได้ แต่บาร์ถูกสั่งปิดต่อ คุณเอาส่วนไหนคิด, ภาษีเราก็เสียเหมือนคนอื่น ทำไมไม่เยียวยาเราบ้าง, ควรหยุดล่อซื้อเพื่อป้องกันโควิด 

รวมถึงมีการนำชุดบิกินี มาโชว์ ถือเป็นสัญลักษณ์ของพนักงานบริการ แต่ไม่ได้ใช้เนื่องจากถูกสั่งปิดกิจการ เพราะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 แล้วยังไม่ได้รับการเยียวยาจากรัฐบาลและศบค.


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“เลขาฯสมช.” แจง ออกคำสั่ง ตีหนึ่ง เพราะต้องหารือให้รอบคอบ ยัน แจ้งผู้ประกอบการก่อสร้าง-ร้านอาหารรับทราบก่อนแล้ว ชี้ การสื่อสารอาจไม่ทั่วถึง แย้ม คลายไซต์ก่อสร้างเฉพาะที่จำเป็น รับ สธ. เตรียมระบบรักษาตัวที่บ้าน ย้ำทุกอย่างต้องรอบคอบ

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) กล่าวถึงมาตรการชดเชยเยียวยาหลังออกข้อกำหนดฉบับที่ 25 ไปแล้ว ว่า ต้องหารือว่ามาตรการที่ออกไปแล้วบางอย่างต้องมีการผ่อนคลาย เช่น การหยุดก่อสร้าง อาจจะมีอันตรายในเชิงวิศวะ หรือกระทบกับส่วนอื่น เช่น การเร่งก่อสร้างสถานพยาบาล ถ้าหยุดแคมป์ไปก็จะทำให้การหยุดก่อสร้างหยุดไปด้วย เป็นต้น ทั้งนี้หากมีความจำเป็นที่ต้องดำเนินการก่อสร้างก็อาจจะอนุญาต ให้ดำเนินการได้ในบางแคมป์ 

พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า สำหรับข้อกำหนดก่อนที่ประกาศออกไป เราประชุมกันในวันที่ 25 มิ.ย. จนถึงช่วงเย็น จากนั้นในวันที่ 26 มิ.ย.ยังมาประชุมกันต่อ จากนั้นร่างคำสั่งเสร็จได้เสนอให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ลงนามในเวลา 21.00 น. ก่อนประกาศลงราชกิจจานุเบกษาในเวลา 01.00 น. ของวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา นี่คือสาเหตุที่ว่า ทำไมคำสั่งถึงประกาศกลางคืน แสดงให้เห็นว่าเราทำงานตลอดเวลา เพื่อให้คำสั่งออกเร็วที่สุด ในแง่ของความเร็ว ความช้า ศบค.ก็ถูกตำหนิ เช่น ร้านอาหาร ก็ต้องขอภัยที่ออกคำสั่งช้า ทำให้เตรียมตัวไม่ทัน ส่วนเรื่องแรงงานก็ถูกต่อว่าว่าบอกเร็วไป ทำให้เขาหนีไปก่อน เรื่องนี้ต้องมองให้หลายมุม ยืนยันว่าศบค. พยายามหาจังหวะที่เหมาะสม และการออกคำสั่งต้องทำอย่างรอบคอบ ขอให้สื่อดูว่าข้อกำหนดฉบับดังกล่าว มีรายละเอียดรัดกุม นั่นคือผ่านการหารือจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมกับ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย กทม. และสำนักการโยธาธิการและผังเมือง ดังนั้นเราจะรีบไม่ได้ หรือช้าเกินไปก็ไม่ทันการ ขอให้เข้าใจตรงนี้และช่วยทำความเข้าใจต่อไปด้วย 

เมื่อถามว่า จะมีมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการร้านอาหารเพิ่มเติมหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า เรื่องนี้พูดคุยเรียบร้อยไปแล้ว โดยมาตรการเยียวยาจะอยู่ในความรับผิดชอบของ ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ หรือศบศ. ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ที่ได้ประชุมและมีมาตรการไปแล้ว 

เมื่อถามย้ำว่าผู้ประกอบการ ต่อว่าศบค. ทางโซเชียลที่ออกมาตรการช้า จะขอโทษผู้ประกอบการ และประชาชนอย่างไรบ้าง พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า เราได้คุยกับสมาคมผู้ประกอบการก่อสร้าง และชี้แจงทำความเข้าใจไปแล้ว และเขาก็รับทราบก่อนที่จะออกคำสั่ง เช่นเดียวกับร้านอาหารทางนายกสมาคมภัตตาคารไทย ระบุว่าได้รับแจ้งแล้วเช่นกัน แต่การสื่อสารอาจจะไม่ทั่วถึง ก็ต้องขออภัยที่ทำให้เกิดความเดือดร้อน และประชนได้รับผลกระทบไปบ้าง ขณะเดียวกันก็ต้องขอความร่วมมือ จากผู้ประกอบการเหล่านี้ เพราะเราไม่อยากใช้มาตรการที่เข้มข้น ไม่อยากให้ประชาชนเดือดร้อน แต่ในเมื่อคณาจารย์แพทย์อาวุโส และเป็นระดับคณบดีแพทย์ศิริราช และมหาวิทยาลัยต่างๆ มาเสนอแนะด้วยตนเอง ศบค. ก็ต้องรับฟัง และปรับตามมาตรการที่เสนอ โดยจะพยายามดูให้ดีที่สุด ยืนยันว่าเราทำให้ดีที่สุด

เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ เพราะขณะนี้มีผู้ติดเชื้อกระจายไปตามต่างจังหวัดบ้างแล้ว พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ยอมรับว่ากังวล แต่กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่าจะให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด กำกับ เน้นย้ำ และควบคุมให้คนที่เดินทางไปจาก

กทม.เข้ารับการกักกัน หรือคุมไว้สังเกต ตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ ด้านกระทรวงสาธารณสุข ได้แจ้งผ่านสาธารณสุขจังหวัด ให้ช่วย ควบคุม และเตรียมการป้องกันการแพร่เชื้อในพื้นที่ โดยต่อ จากนี้สธ. จะต้องประเมินสถานการณ์ว่า เมื่อครบ 15 วันแล้วสถานการณ์เป็นอย่างไร และอาจจะมีการผ่อนคลายได้ในบางกิจการ 

เมื่อถามว่า มีเสียงสะท้อนจากบุคลากรทางการแพทย์จากต่างจังหวัดต้องการความช่วยเหลืออะไรเพิ่ม เพื่อรองรับแรงงานที่กระจายเข้าไปในพื้นที่บ้างหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ตอนนี้ยัง เพราะเขาเตรียมพร้อมกันอยู่แล้ว โดยเราแจ้งเตือนไปตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายนแล้ว 

ผู้สื่อข่าวถามถึงมาตรการดูแลรักษาตัวเองที่บ้าน โดยแพทย์ให้คำแนะนำผ่านแอพพลิเคชั่น พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า มี เริ่มพิจารณาแล้ว แต่แนวทางของเราคือตั้งโรงพยาบาลสนามเพิ่มเติม เวลานี้สถานที่และอุปกรณ์มีเพียงพอ แต่ปัญหาคือบุคลากรทางการแพทย์ ถ้าเราไปดึงจากต่างจังหวัด อาจจะทำให้พื้นที่นั้นขาดความพร้อม ส่วนแนวทางการรักษาตัวที่บ้านต้องมีมาตราการที่รอบคอบ เพราะถ้าไม่รอบคอบอาจมีอาการหนักขึ้น ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขเป็นห่วงตรงนี้ และเวลานี้ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ประกาศหลักเกณฑ์แล้ว เหลือแค่พิจารณาระบบที่จะรองรับ เพราะทุกมาตรการที่จะออกไป ศบค. และศบศ. จะต้องทำอย่างรอบด้าน 

เมื่อถามว่าศบค. ได้หารือถึงการรับเรื่องร้องเรียน อาจมีการรวมตัวเกินกว่าที่กำหนดหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ได้หารือ เหมือนกัน แต่ทุกครั้งทุกคณะที่มายื่นเรื่อง เราก็รับตลอด ทั้งพนักงานนวดแผนโบราณ หรือศิลปะการบันเทิง เรารับฟังตลอด อะไรที่ผ่อนคลายได้ก็ดำเนินการ อะไรที่เยียวยาได้ ก็ฝาก ศบศ. ดำเนินการ เราพยายามดูแลทั้ง 2 มิติ และสามารถมายื่นได้ตลอด ส่วนผู้ประกอบการร้านอาหารก็ได้รับการเยียวยาอยู่แล้ว แต่อาจจะไม่ครบตามที่เสนอมาเท่านั้น และยืนยันว่าครั้งนี้ดูแลมากกว่าทุกครั้ง 

เมื่อถามว่า การประชุมรัฐสภา สามารถดำเนินการได้ปกติ หรือต้องขออนุญาตจากศบค. หรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ศบค. อนุญาตไว้แล้ว ส่วนจะประชุมหรือไม่ขึ้นอยู่กับสภา ไม่เกี่ยวกับศบค. เราก็อนุญาตไปแล้ว

Critical Thinking หรือ การคิดแบบมีวิจารณญาณ ทักษะที่เด็กทุกคนต้องมี

คุณแม่ติ๊ด เจ้าของเพจเลี้ยงลูกให้ยอดเยี่ยม มีความสนใจในเรื่องของการพัฒนาเด็ก ได้มาร่วมพูดคุยถึง Critical Thinking ที่ถือเป็นทักษะสำคัญมากในยุคที่ข่าวสารล้นโลก 

Critical Thinking หรือการคิดแบบมีวิจารณญาณ คือ การคิดแบบที่มีการใตร่ตรองก่อน ไม่ใช่เห็นปุ๊บเชื่อเลย แชร์เลย สามารถวิเคราะห์สิ่งที่เห็น สิ่งที่ได้ยิน สิ่งที่อ่าน ด้วยเหตุผล มองในหลายแง่มุม อย่าเชื่อเพียงเพราะมันตรงกับความเชื่อเดิมของเรา เพราะจะทำให้เราตัดสินใจได้ไม่ถูกต้อง 

4C ทักษะที่ควรมีในศตวรรษที่ 21 ได้แก่ Creativity ความคิดสร้างสรรค์, Critical Thinking การคิดแบบมีวิจารณญาณ, Communication การสื่อสาร และ Collaboration การทำงานร่วมกับผู้อื่น ซึ่ง Critical Thinking ถือเป็นทักษะที่ฝึกยากที่สุด เนื่องจากต้องอาศัยทักษะอื่นๆ มาช่วยด้วย เช่น เด็กที่จะมี Critical Thinking ต้องมี Creativity ด้วยในระดับหนึ่ง 

ที่สำคัญที่สุดคือ Self-Awareness ความตระหนักรู้ในตนเอง เพราะหลังจากรับรู้ข้อมูลมาแล้ว จะต้องกลับมามองตัวเองอย่างเป็นกลางที่สุด ไม่ด่วนตัดสิน เพราะฉะนั้นการที่จะมี Critical Thinking ได้ดี จะต้องทำตัวว่างๆ เป็นกลาง ไม่นำความคิดของตัวเองมาตัดสินข้อมูลที่ได้รับมา

ปัจจัยหลัก 3 อย่างที่ส่งผลต่อการมี Critical Thinking ได้แก่ 1.) ตัวของเด็ก 2.) คุณพ่อคุณแม่ และการเลี้ยงดู 3.) โรงเรียน หรือระบบการศึกษา โดยทั้งสามปัจจัยหลักต้องสอดคล้อง ส่งเสริมไปด้วยกัน 

โดยพ่อแม่มีความสำคัญมาก เพราะสามารถทุ่มเทกับลูกได้มากกว่าคุณครูที่โรงเรียน และด้วยระบบการศึกษาที่ล้าสมัยไม่สามารถสร้างทักษะบางอย่างที่เป็นทักษะในอนาคตได้ทันเวลา การทำให้เป็นวิถีชีวิต เป็นการเรียนรู้แบบเป็นธรรมชาติมากกว่าการสอน พ่อแม่ในยุคนี้จึงต้องพัฒนาตัวเอง เพราะเด็กคนหนึ่งไม่ได้เกิดมาโดยการมี Critical Thinking เลย  ต้องมีพ่อแม่ที่คอยช่วยชวนพูดคุย ตั้งคำถามปลายเปิดให้ลูกได้แสดงความคิดเห็น 

ในยุคที่ข้อมูลมีความหลากหลาย รวดเร็ว เข้าถึงง่าย การฝึกลูกให้มีทักษะ Critical Thinking  เพื่อปกป้องลูกให้รู้เท่าทัน ไม่ถูกชักจูง สิ่งสำคัญคือ การสอนว่าอย่าเชื่อสิ่งที่เห็นในครั้งแรก ฝึกลูกให้เป็นเด็กช่างสงสัย เวลาที่ได้รับสารอะไรมา ไม่ต้องเชื่อทุกอย่าง หากอยากรู้ค่อยมาทดลองหรือพิสูจน์ หาข้อมูลจากหลายๆ แห่ง บางครั้งหากลูกไม่มี Critical Thinking อาจทำให้ mindset ผิดเพี้ยนไป

นอกจากนี้การที่เด็กได้อ่านหนังสือเยอะ หากทำให้เป็นวิถีของเขา จะฝึกในเรื่องของ Critical Thinking ได้ง่ายขึ้น เนื่องจากมีคลังข้อมูลความรู้เยอะ และการมี Critical Thinking ยังทำให้สามารถเชื่อมโยงความคิดได้ดี 

ในส่วนของการเรียนรู้จากประสบการณ์ที่พบเจอ หากพ่อแม่ใช้วิถีชีวิตแบบชวนกันคิดแก้ปัญหา ชวนแชร์มุมมอง เป็นการเรียนรู้แบบธรรมชาติ ก็เป็นส่วนที่ช่วยให้เกิด Critical Thinking ประสบการณ์ประจำวันเหล่านี้ล้วนอยู่ในชีวิตประจำวันที่พ่อแม่สามารถหยิบยกขึ้นมาสอนลูกได้

การฝึกทักษะให้ลูก ไม่ได้ฝึกด้วยการผลักให้ลูกต้องทำเรื่องนี้ให้ได้ จนกลายเป็นความเครียดในครอบครัว การฝึกทักษะต่างๆ หากฝึกด้วยความรู้สึกสนุก หรือเป็นธรรมชาติโดยที่เด็กไม่รู้ตัว ย่อมดีกว่าการที่จะไปสร้างสภาพแวดล้อมให้เด็กจนเกิดความเครียด เด็กแต่ละคนมีจุดแข็งจุดอ่อนแตกต่างกัน เด็กที่มีโอกาสฝึก Critical Thinking ได้ดี ต้องเป็นเด็กที่ชอบคิด แต่ไม่ใช่เด็กทุกคนที่มีธรรมชาติแบบนี้ เพราะฉะนั้นเด็กสามารถไปโดดเด่นด้านอื่นได้ ไม่จำเป็นต้องโดดเด่นครบทั้ง 4C 


สามารถย้อนไปฟังการ LIVE หัวข้อที่น่าสนใจเหล่านี้เพิ่มเติมได้ที่ เพจดีต่อลูก
หัวข้อ : Critical Thinking ทักษะที่เด็กทุกคนต้องมี
Link : https://www.facebook.com/299800753872915/videos/435405360869716
เขียนและเรียบเรียงเรื่องโดย: ภารวี สุภามาลา

กลุ่มไทยไม่ทน เปิดธรณีกันแสง อ้าง ประจานศพ พิษโควิด ล้อ ‘บิ๊กตู่’ นะจ๊ะๆ ท่ามกลางเสียงร้องไห้ประชาชน จตุพร นัด รวมตัวขอพรศาลหลักเมือง พรุ่งนี้ ก่อน เสาร์ ยังนัด ผ่านฟ้าเวลาเดิม

กลุ่มไทยไม่ทน นำโดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช. ยื่นหนังสือที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน ทำเนียบรัฐบาล พร้อมกับอ่านประกาศ #ไทยไม่ทน ความทุกข์ร้อนของประชาชน เพื่อให้นายกรัฐมนตรีหยุดยินดีปรีดา หัวเราะร่า ท่ามกลางคราบน้ำตา และงานศพของประชาชน โดยได้มีการแสดงกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ นอนราบกับพื้น คลุมด้วยผ้าขาวบาง เปรียบเสมือนคนตายสามศพจาก การติดเชื้อ โควิด-19 ไม่ได้รับวัคซีน และพิษเศรษฐกิจ พร้อมสาดน้ำแดง เปรียบเสมือนเลือดประชาชน ขณะเดียวกันมีบุคคลแต่งกายสวมหน้ากากเป็นใบหน้าของพล.อ.ประยุทธ์ ล้อเลียนเสียงของนายก ประโยคการอ่านข้อกำหนดฉบับที่ 25 และได้มีการเอ่ยคำว่านะจ๊ะออกมา พร้อมกันนี้ได้เปิดเพลงคำนี้กันแสงควบคู่ไปด้วย

นายไทกร พลสุวรรณ แกนนำไทยไม่ทน อ่านแถลงการณ์ระบุว่า มาตรการของรัฐบาลและศบค. ไม่เคยเห็นหัวประชาชน ไม่สามารถแก้ไขปัญหาการระบาดร้ายแรงของ โควิด-19 ได้ นับวันยิ่งมีผู้ติดเชื้อมากขึ้น จนน่าสงสัยว่าพาหะที่สำคัญของโคโรนา น่าจะเป็นหัวใจที่มืดบอดของพล.อ.ประยุทธ์ ที่แม้แต่ยาบำรุง คืออำนาจพิเศษตาม ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ก็ไม่สามารถนำประเทศฝ่าข้ามวิกฤตไปได้ นอกจากนี้ยังค้ากำไรส่วนเกินจากวัคซีนโควิด โดยใช้งบประมาณแผ่นดินไม่สนใจความเดือดร้อนของประชาชน กู้เงินในอนาคตมาจำนวนมหาศาลไม่ใหญ่ดีหนี้สินของลูกหลานที่จะต้องจ่ายในภายหน้า ซึ่งปัจจุบันมีคนตกงานและฆ่าตัวตายมากมายหลายวันท่ามกลางน้ำตาเสียงร้องไห้ที่กล้ำกลืนอุกอั่งคั่งแค้นในใจจนสุดจะทน แต่นายกและพวก กลับยืนยิ้มหัวเราะร่า อยู่ในทำเนียบท่ามกลางงานศพของประชาชนทั้งแผ่นดิน 

ด้านนายจตุพร กล่าวว่า การที่พล.อ.ประยุทธ์ระบุ ถูกต่อว่าด้วยถ้อยคำหยาบคายนั้นตนมองว่าพล.อ.ประยุทธ์ คือนายกฯที่พูดจาหยาบคายที่สุด ตั้งแต่ประเทศไทยเคยมีมา ถ้าอยากให้พูดเพราะตนจะขอพูดว่า พณฯ พลเอกประยุทธ์ โปรดลาออกได้แล้วนะจ๊ะ ส่วนที่บอกว่านายกทำงานหนัก และเจอปัญหาหนักกว่าประชาชนนั้น ตนมองว่าท่านหนักแผ่นดิน ไม่เข้าใจความรู้สึกประชาชนว่าทุกข์หนักขนาดไหน การประกาศข้อกำหนดลักหลับ โดยไม่รู้จักเวล่ำเวลา และได้แต่เสียงร้องไห้ของประชาชน ส่วนหลักคิดการปิดแคมป์กลาย เป็นการกระจายเชื้อไปทั่วประเทศ ไม่มีขณะนี้พล.อ.ประยุทธ์สายเกินแกงแล้วไม่มีทางเลือกอื่น ถ้าบริหารงานต่อไป ประชาชนจะเดินหน้าขับไล่ 

โดยในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ เวลา 13.00 น. นัดรวมตัวกันที่ลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์เพื่อเดินไปศาลหลักเมืองปกครองเพื่อขอพรให้คุ้มครองคนไทยให้รอดพ้นจากการปกครองระบอบประยุทธ์ เพราะถ้ายังบริหารต่อไปประเทศจะเกิดจราจล และยืนยันวันเสาร์ที่ 3 กรกฎาคมนี้ เวลา 16.00 น. จะรวมตัวกันที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศแล้ว เวลา 18.30 จะเดินขบวนมาที่ทำเนียบรัฐบาลอีกครั้ง

นอกจากนี้ขอเรียกร้องให้คนไทยทำฉันทามติ เพื่อเสนอชื่อบุคคล มาทำหน้าที่แทนพล.อ.ประยุทธ์ ขอให้เป็นใครก็ได้เพื่อมาแก้ปัญหา 3 ด้าน ได้แก่ ปัญหา โควิด-19 ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหารัฐธรรมนูญเพื่อให้เป็นของประชาชน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top