Sunday, 18 May 2025
ค้นหา พบ 48172 ที่เกี่ยวข้อง

พิจิตร - นราพัฒน์ผู้ช่วย รมต.เกษตรลงพื้นที่เร่งชลประทาน ก่อสร้าง ปตร.ในแม่น้ำยม

สภาพแม่น้ำยมยังคงวิกฤตแห้งขอดแต่เป็นโอกาสของงานก่อสร้างของกรมชลประทานที่กำลังดำเนินการสร้างประตูระบายน้ำทั้ง4 แห่งในเขตพื้นที่พิษณุโลก-พิจิตร ล่าสุด นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วย รมต.เกษตรฯ ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าของการก่อสร้างที่คืบหน้าไปแล้ว 50-60% คาดปลายปี 66 หรือต้นปี 67 สร้างเสร็จแน่ นาข้าวกว่า 3 แสนไร่ ได้ประโยชน์เต็ม ๆ แน่นอน

วันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2564 ความคืบหน้าของสถานการณ์แม่น้ำยมในเขตพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก-พิจิตร สภาพของแม่น้ำยมยังคงวิกฤตแห้งขอด แต่ในวิกฤตก็ยังเป็นโอกาสให้กรมชลประทานเร่งมือในการก่อสร้างประตูระบายน้ำในแม่น้ำยมเพื่ออนาคตของเกษตรกร ล่าสุด นายนราพัฒน์  แก้วทอง ผู้ช่วย รมต.เกษตรและสหกรณ์  ได้ลงพื้นที่เพื่อเร่งรัดการดำเนินการก่อสร้างของกรมชลประทาน โดยมี นายเกรียงไกร ภาคพิเศษ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 3 และ นายเสกโสม  เสริมศรี ผู้อำนวยการก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 3 พร้อมด้วยส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับโดยจุดแรกไปดูโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำท่านางงาม ซึ่งตั้งอยู่ที่หมู่ 10 ต.ท่านางงาม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 460 ล้านบาท พื้นที่รับประโยชน์ประมาณ 5 หมื่นไร่เศษ จุดที่ 2 ไปดูโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำท่าแห ซึ่งตั้งอยู่ที่ ต.กำแพงดิน อ.สามง่าม จ.พิจิตร ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 350 ล้านบาท พื้นที่รับประโยชน์ประมาณ 8 หมื่นไร่เศษ จากนั้นจุดที่ 3 ไปดูโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำวังจิกซึ่งตั้งอยู่ที่ ต.โพธิ์ประทับช้าง อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 231 ล้านบาทเศษ พื้นที่รับประโยชน์ประมาณ 37,397 ไร่ รวมถึงไปดูประตูระบายน้ำสามง่าม ซึ่งเป็นฝายไฮดรอลิกพับได้ ที่สร้างเสร็จสมบูรณ์และใช้งานได้แล้ว

โดย นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรมต.เกษตรและสหกรณ์  ได้ให้สัมภาษณ์ว่า สถานการณ์น้ำในขณะนี้ต้องยอมรับว่าเกิดฝนทิ้งช่วงน้ำเหนือเขื่อนมีน้อยยังไม่สามารถส่งน้ำให้เกษตรกรได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยแต่ก็ได้ประสานให้กรมฝนหลวงบินขึ้นทำฝนเทียมเหนือเขื่อนในทุกวันแล้ว ส่วนการลงพื้นที่ในครั้งนี้จะไปติดตามเร่งรัดการสร้าง ปตร.ทั้งหมด 7 แห่ง ในเขต พิษณุโลก  พิจิตร นครสวรรค์  ซึ่งขณะนี้การก่อสร้างรุดหน้าไปแล้ว 50-60% ซึ่งคาดว่าปลายปี 66/67 ทั้งหมดจะก่อสร้างแล้วเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่นาข้าวกว่า 3 แสนไร่ ได้รับประโยชน์เต็ม ๆ อีกด้วย


ภาพ/ข่าว  สิทธิพจน์  พิจิตร

“กรณ์” ห่วงสถานการณ์โควิดกระทบเศรษฐกิจยาว หวั่นเปิดประเทศไม่ได้ใน 120 วัน หากไม่เพิ่มจำนวนการฉีดวัคซีน เสนอรัฐอัดฉีดเงินเยียวยาลูกจ้าง และผู้ประกอบการเอสเอ็มอีต่อเนื่อง 3 เดือน ชี้เม็ดเงินน้อยนิดเมื่อเทียบกับเงินกู้ 5 แสนล้านที่รัฐมีอำนาจในมือ

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก แสดงความเป็นห่วงต่อสถานการณ์โควิด ที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นแตะเกือบห้าพันรายต่อวัน ในขณะที่มีผู้หายป่วยออกจากโรงพยาบาลมีจำนวนประมาณ 3,000 ราย นั่นหมายความว่าจำนวนเตียงที่ว่างติดลบไปถึง 2,000 เตียง พรรคกล้าและอีกหลาย ๆ องค์กรที่ได้พยายามเป็นผู้ประสานหาเตียงให้ผู้ป่วยทราบดีว่ามีความยากลำบากมาก โดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาหลายครอบครัวต้องเป็นทุกข์กับการรอเตียง

หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวว่า สถานการณ์ในขณะนี้ ทำให้เราสัมผัสได้ว่า จำเป็นต้องปรับยุทธศาสตร์ และทัศนคติที่มีต่อไวรัสแน่นอนว่า คำตอบสุดท้ายคือ การฉีดวัคซีน ซึ่งในปัจจุบันมีการฉีดวัคซีน 250,000 เข็มต่อวัน ซึ่งเท่ากับ 7.5 ล้านเข็มต่อเดือน และภายในสิ้นปีก็จะฉีดได้ประมาณ 40 ล้านเข็ม เมื่อเทียบกับเป้าหมายที่จะไปให้ถึง 100 ล้านเข็ม จึงยังห่างไกล ต้องปรับการฉีดให้ได้วันละ 500,000 เข็ม จึงจะเข้าเป้า และครอบคลุม

นอกจากนี้สิ่งที่น่าห่วง คือ การเปิดประเทศภายใน 120 วัน ตามที่นายกรัฐมนตรีประกาศไว้ ซึ่งหมายความว่าภายใน 4 เดือน ประชาชนคนไทยจะต้องเข้าถึงวัคซีนได้แล้ว 70% แต่หากยังฉีดกันในจำนวน 250,000 เข็มต่อวัน ไม่มีทางทันแน่นอน วันนี้รัฐบาลจึงต้องประเมินตามสถานการณ์ความเป็นจริง หากไม่ยอมรับความจริงก็จะไม่สามารถเตรียมมาตรการได้ทัน และจะเกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจที่จะตามมา หากเราเปิดประเทศได้ช้า

“หมดเวลาที่เราจะพยายามนำเสนอข่าวให้เข้าหู ว่าเป็นข่าวดี แต่เป็นจังหวะที่ผู้นำต้องกล้าที่จะพูดความจริงกับประชาชน เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐ เร่งเตรียมตัว ในส่วนของการฉีดวัคซีน ถ้าเราจะเปิดประเทศให้ได้ ต้องฉีด 70% ของประชากร แต่อัตราที่ฉีดปัจจุบันไม่มีทางถึงแน่นอน และการฉีดเพียงเข็มเดียวก็ยังไม่สมควร

ประเด็นที่ท้าทาย คือ รัฐบาลจะบริหารจัดการให้เพียงพอและทันท่วงทีได้อย่างไร โดยเฉพาะสถานการณ์ผู้ป่วยที่เพิ่มสูงขึ้น เตียงขาดแคลน ซึ่งเป็นภาวะที่หนักหนาสาหัสต่อระบบสาธารณสุขอย่างมาก เราจึงต้องมาปรับความคิดกัน แนวโน้มการทำมาหากินของคนไทยที่ต้องทนความยากลำบากกันไปอีกเท่าไร และจะต้องปรับตัวกันอย่างไร ต่อสัญญาณที่รัฐบาลส่งออกมา” นายกรณ์ กล่าว

นอกจากนี้ ต้องยอมรับว่าต้นตอการแพร่เชื้อส่วนใหญ่เกิดจากกิจกรรมใต้ดิน และในส่วนของแคมป์คนงานก็เป็นเรื่องที่พวกเราได้ตักเตือนเจ้าหน้าที่ของรัฐมาหลายเดือนว่าให้ระมัดระวังว่าจะเป็นแหล่งแพร่เชื้อสำคัญ ซี่งหละหลวมมากในการตรวจสอบ กทม.ควรต้องมาตรวจสอบเชิงรุกว่ามีใครอาศัยอยู่ในแคมป์บ้าง ห้ามเข้าออก ห้ามเปลี่ยนคนงาน แต่ที่ผ่านมาก็ไม่ได้เข้มงวด จนทำให้กลายเป็นคลัสเตอร์การแพร่เชื้อ และการประกาศมาตรการกึ่งล็อกดาวน์ที่รัฐประกาศออกมาล่าสุด ก็สร้างความอึดอัดให้กับประชาชนและผู้ประกอบการร้านอาหาร ที่เขารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมเพราะไม่ใช่ความผิดเขาที่ระวังตัวกันมาตลอด แต่ต้องมารับเคราะห์กรรมจากมาตรการ ที่ทำให้เขาขาดรายได้อีกรอบ และเป็นการประกาศอย่างฉับพลัน ทำให้ร้านค้า ร้านอาหารตั้งตัวแทบไม่ติด เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก ดังนั้นการจะเปิดประเทศภายใน 120 วัน หรือ 4 เดือน จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเตรียมพร้อม

อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวด้วยว่า มาตรการเยียวยาผู้ประกอบการ เริ่มมีนโยบายที่เข้าเป้า พรรคกล้าเรียกร้องมาโดยตลอดโดยเฉพาะผู้ประกอบการร้านอาหาร วันนี้รัฐบาลตั้งงบไว้ที่ 7,500 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็นงบจากกองทุนประกันสังคมที่มีผู้ประกันตนอยู่เกือบเจ็ดแสนคน ตามกฎหมาย โดยกำหนดให้พวกเขาได้รับสิทธิชดเชยรายได้ 50 เปอร์เซ็นต์ ชดเชยรายได้สูงสุดไม่เกิน 7,500 บาท รวมถึงการจัดสรรเงินจาก เงินกู้ พ.ร.ก.ห้าแสนล้าน เพิ่มเติมให้รายละ 2,000 บาท ซึ่งเป็นการจ่ายให้แค่ครั้งเดียวและเดือนเดียว

นอกจากนี้ รัฐจะเยียวยาให้ผู้ประกอบการเพิ่มเติมตามรายหัวลูกจ้าง โดยคำนวณตามสูตร ลูกจ้างจะได้รับเยียวยา 3,000 บาท เพดานสูงสุดไม่เกิน 200 คน หรือไม่เกิน 600,000 บาทต่อกิจการ เพื่อผ่อนหนักเป็นเบาในแง่ภาระค่าใช้จ่าย ซึ่งก็สมเหตุสมผล เพราะเป้าหมายหลักที่เราเรียกร้องคือ เอสเอ็มอี ผู้ประกอบการรายเล็ก ก็มีลูกจ้างแค่หลักหน่วยหลักสิบ เพดานดังกล่าว น่าจะครอบคลุมได้ทั้งหมด

“นโยบายลักษณะนี้ มาถูกทาง แต่ไม่น่าเพียงพอ สำหรับลูกจ้าง การได้รับเงินชดเชย จากกองทุนประกันสังคมสูงสุด 7,500 บาท และเมื่อร่วมกับเงินสมทบทุนอีก 2,000 บาท หากคิดเป็นสัดส่วนรายได้เฉลี่ย 20,000 บาทต่อเดือน ก็ยังต่ำกว่าครึ่ง ไม่น่าเพียงพอ ต่อภาระค่าใช้จ่ายที่ทุกคนต้องมี และยิ่งมาตรการที่ประกาศให้เพียงแค่ 1 เดือน ยิ่งทำให้ผู้ประกันตนมีความกังวลว่าเมื่อพ้นเดือนไปแล้วเขาจะอยู่อย่างไร

ดังนั้น จึงอยากฝากไปถึง ครม.เศรษฐกิจ ที่พิจารณาเรื่องนี้ว่า ขอให้ขยายวงเงินและขยายเวลาในการช่วยเหลือ โดยวงเงินสมทบที่เหมาะสม คือ 5,000 บาท บวกกับเงินชดเชยรายได้สูงสุด 7,500 บาท ก็จะเป็นเงิน 12,500 บาท ก็น่าจะพอประทังชีวิตให้กับครอบครัวช่วงนี้ ผมคำนวณแล้ว ในแง่ภาระต่องบประมาณของรัฐเป็นวงเงินที่น่าจะแบกรับไว้ได้ เพราะวงเงินที่รัฐจัดสรรไว้เพื่อการชดเชยให้ผู้ประกันตน และผู้ประกอบการโดยรวมมีเพียงแค่ประมาณ 4,000 ล้านบาท งบที่รัฐบาลประกาศไว้รวมกับกองทุนประกันสังคมเป็นเงิน 7,500 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเงินกู้ 5 แสนล้าน มันน้อยมาก นี่คือวิธีการที่จะเยียวยาที่ถูกจุด ตรงเป้าที่สุด และต้องขยายเวลาไปเป็นสามเดือน และถ้าเป็นไปอย่างที่ผมเสนอขยายวงเงินจาก 2,000 เป็น 5,000 บาท รัฐจะต้องจัดสรรเงินเพิ่มเป็น 5,000 ล้านบาท ต่อเดือน ภาระค่าใช้จ่ายของรัฐ ก็จะเพิ่มเป็น 15,000 ล้าน จาก 5 แสนล้าน ซึ่งเป็นอำนาจในมือที่รัฐบาลสามารถดำเนินการได้ และจะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนที่ไม่ได้เป็นต้นเหตุของการแพร่เชื้อในรอบปัจจุบันแต่ต้องมารับเคราะห์แทน” นายกรณ์ กล่าว

หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวถึง ภาพยาวที่รัฐบาลต้องเตรียมการไว้เพิ่มเติมสำหรับการเยียวยาพี่น้องประชาชนและผู้ประกอบการ คือ เท่าที่ดูสถานการณ์ โอกาสที่เราจะอยู่สถานภาพที่จะเปิดประเทศได้ใน 120 วัน อย่างเก่งคือ 50:50 อย่างที่กล่าวข้างต้นแล้วว่า โอกาสจะไปอยู่ที่ในจุดนั้นน้อยมาก และหากวัคซีนมาช้า ภายในสิ้นปีก็อาจไม่ทัน และอาจทอดยาวถึงต้นปี หรืออาจจะถึงกลางปีหน้า เราต้องอดทนไปนานถึง 6 เดือน ถ้าโชคร้ายก็เป็นปี ในสถานการณ์ที่เป็นจริงเช่นนี้ รัฐบาลมีมาตรการอะไร เพื่อที่ประชาชนจะคลายความกังวลและสบายใจในการต่อสู้ได้บ้าง งบประมาณ 5 แสนล้านต้องใช้อย่างสมเหตุสมผล ซึ่งเพียงพอในระดับที่มีความน่าเชื่อถือ ต้องคิดให้รอบด้านเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับประชาชนว่ารัฐคิดเผื่อไว้สำหรับสถานการณ์ที่อาจเลวร้าย จังหวะนี้ การเข้าถึงข้อมูลข้อเท็จจริง เรื่องของการสื่อสาร เรื่องของแนวโน้มโอกาส และการเตรียมมาตรการที่ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ

นอกจากนี้ นายกรณ์ ยังได้หยิบยก ข้อเสนอ 5 ข้อ ที่พรรคกล้า ได้เคยนำเสนอไปแล้วเพื่อให้รัฐบาลดำเนินการต่อเนื่องเพื่อลดผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวม ซึ่งประกอบไปด้วย

1.) ควรเร่งเจรจากับ Platform online ที่ร้านอาหารทั้งหลายใช้เป็นช่องทางขายและจัดส่งอาหารอยู่ในปัจจุบัน ไม่ให้คิดค่าธรรมเนียมการใช้บริการหรือ GP เกินร้อยละ 15 อย่างน้อยก็ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด เพื่อแบ่งเบาภาระให้ผู้ประกอบการและประชาชน

2.) รัฐควรช่วยเหลือเยียวยาค่าจ้างเงินเดือนของพนักงานในร้านอาหารเหล่านี้ร้อยละ 50 ในช่วงที่รัฐบาลประกาศห้ามมีลูกค้านั่งในร้านอาหาร

3.) งดการจัดเก็บภาษีในรอบระยะเวลาบัญชี 1 ปีที่ผ่านมา ให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่ง

4.) ผ่อนผันการผ่อนชำระเงินกู้และดอกเบี้ยของผู้ประกอบการร้านอาหาร ด้วยมาตรการงดผ่อนต้นผ่อนดอก ไปอีกอย่างน้อย 6 เดือน

และ 5.) ในกรณีที่ร้านอาหารมีค่าเช่าพื้นที่ เช่น ร้านอาหารในห้างสรรพสินค้า เจ้าของพื้นที่ควรลดค่าเช่าให้ด้วย อย่างน้อยร้อยละ 50 และเจ้าของพื้นที่สามารถนำส่วนลดที่ให้กับร้านอาหารเหล่านั้น ไปขอลดหย่อนภาษีจากทางรัฐบาลได้ ในรอบบัญชีถัดไป เพื่อเป็นการชดเชยและลดค่าใช้จ่ายให้ร้านอาหารที่ต้องเสียค่าเช่าทุกเดือน

“อยากฝากบอกว่า พรรคกล้า เราจะติดตามและเสนอแนะรัฐบาลอย่างสร้างสรรค์ เพื่อช่วยคลี่คลายสถานการณ์ เราเปิดโอกาสให้ประชาชนแสดงความเห็น เสนอแนะวิธีการที่จะช่วยให้เขาอยู่รอดได้ มีวิธีใดได้บ้าง บางส่วนก็นำไปสู่การปฏิบัติ บางส่วนก็ยังไม่ได้ทำ” นายกรณ์ กล่าวทิ้งท้าย


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ปฏิบัติราชการแทนเลขาธิการ (อย.) ทำหนังสือด่วนที่สุด เรื่องแจ้งเตือนเฝ้าระวังการเก็บรักษาวัคซีน CoronaVac เลขทะเบียน 1C 3/64 (NBC) หรือ วัคซีนซิโนแวค

วันนี้ (29 มิ.ย. 64) นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ปฏิบัติราชการแทนเลขาธิการ (อย.) ทำหนังสือด่วนที่สุด เรื่องแจ้งเตือนเฝ้าระวังการเก็บรักษาวัคซีน CoronaVac เลขทะเบียน 1C 3/64 (NBC) หรือ วัคซีนซิโนแวค โดยระบุว่า…

เรียนนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด/ผู้อำนวยการโรงพยาบาล ด้วยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้รับรายงานวัคซีน CoronaVac รุ่นการผลิต C202105079 เลขทะเบียน 1C 3/64 (NBC) รุ่นการผลิต C202105079 วันที่ผลิต 10.05.2021 วันหมดอายุ 09.11.2021 มีลักษณะสารละลายของวัคซีนมีการรวมตัวเป็นเจลใส ติดบริเวณด้านในของขวดวัคซีนและเจลดังกล่าวไม่หายไปหลังการเขย่า ซึ่งจากรายงานพบเพียงในแหล่งฉีดวัคซีนบางแห่งเท่านั้น

ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา พิจารณาแล้วเห็นว่า ปัญหาดังกล่าวอาจเกิดจากกระบวนการเก็บรักษาและการขนส่งที่ไม่ควบคุมอุณหภูมิให้เป็นไปตามที่ได้รับอนุมัติในทะเบียนตำรับยา คือ 2-8 องศาเซลเซียส

ดังนั้น เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับวัคซีนที่มีคุณภาพ ประสิทธิภาพ และปลอดภัย อย.จึงเห็นควรให้แจ้งเตือนเฝ้าระวังการเก็บรักษาวัคซีนให้เป็นไปตามแนวทางการบริหารจัดการวัคซีน ของกรมควบคุมโรคซึ่งระบุคำแนะนำสำหรับการเก็บรักษาวัคซีนโควิด-19 ของบริษัท Sinovac Life Sciences จำกัด ให้เก็บไว้ที่ชั้นกลางหรือชั้นที่ 2 ของตู้เย็น และห่างจากจุดปล่อยความเย็น ทั้งนี้ หากท่านพบลักษณะของปัญหาดังกล่าว ขอให้ระงับการฉีดวัคซีนรุ่นการผลิตที่พบและแจ้งให้ อย.ทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป

 

 

ที่มา : https://www.tnnthailand.com/news/covid19/83899


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

รักสนุก แต่ไม่ผูกพัน| คิดเพลิน Learn & Play Talk EP.51

คุณอยู่กับ Podcast face to face รายการ “คิดเพลิน Learn & Play Talk” ฟังง่ายได้สาระ  

พูดคุยประเด็นต่างๆ แบบเพลินๆ พบกันทุกวันจันทร์ - อาทิตย์ เวลา 22.00 น. 

ติดตามชมรายการ “คิดเพลิน Learn & Play Talk” ได้ทาง YouTube และ Facebook Fanpage ของ THE STATES TIMES 

อย่าลืม! กดไลก์ กดแชร์ กด Subscribe

.

.


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

คุณไอซ์ ปราชญ์ เทวานฤมิตรกุล | THE STUDY TIMES STORY EP.52

บทสัมภาษณ์ คุณไอซ์ ปราชญ์ เทวานฤมิตรกุล นักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา, ได้รับทุนธนาคารแห่งประเทศไทย ศึกษาต่อสาขาเศรษฐศาสตร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา
ไม่ต้องเรียนให้หนัก แต่ให้เรียนในสิ่งที่รัก แล้วจะทำได้ดี

คุณไอซ์จบชั้นมัธยมจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ในแผนการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ โดยอยู่ในห้องของเด็กโครงการความสามารถพิเศษทางคณิตศาสตร์ หรือ Gifted Math

จุดเริ่มต้นความสนใจในวิชาคณิตศาสตร์ คุณไอซ์เล่าว่า เริ่มต้นมาตั้งแต่ช่วงเด็กๆ ผ่านการฝึกจากผู้ปกครอง โดยการหลอกล่อให้ฝึกทำวิชาคณิตศาสตร์ ด้วยวิธีการที่หลากหลาย จนเกิดเป็นความชอบนับแต่นั้นมา

ส่วนวิชาที่คุณไอซ์มีความสนใจและชื่นชอบมาตั้งแต่แรก คือ วิชาประวัติศาสตร์ มีการอ่านหนังสือ ถ่ายทอดประวัติศาสตร์ออกมาในรูปแบบของตัวเลข จำเหตุการณ์เป็นปี  รู้สึกว่าประวัติศาสตร์เป็นการจดจำตัวเลขในรูปแบบหนึ่ง หลังจากได้อ่านไปเรื่อยๆ เริ่มเชื่อมโยงเหตุการณ์ ดูบริบททางประวัติศาสตร์มากขึ้น 

ส่วนภูมิศาสตร์ คุณไอซ์เริ่มต้นมาจากความชอบในสถานที่สวยๆ รอบโลก เลยหาความรู้และลองไปเข้าค่ายที่เกี่ยวกับภูมิศาสตร์ เพื่อศึกษามากยิ่งขึ้น จนรู้สึกว่าวิชานี้มีอะไรมากกว่าที่คิด ต้องใช้ความจำ 45% ส่วนอีก 55% เป็นการวิเคราะห์และคำนวณ  สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้ พาร์ทที่คุณไอซ์ชื่นชอบที่สุดคือภาคสนาม ลงพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูลนำมาวิเคราะห์ เป็นพาร์ทที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลายจากการนั่งทำข้อสอบในห้อง

คุณไอซ์เรียนจบจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ด้วยเกรดเฉลี่ย 3.96 สำหรับเทคนิคการเรียนนั้น คุณไอซ์ยกตัวอย่างวิชาวิทยาศาสตร์ที่ตัวเองไม่ถนัด ว่าจะต้องมีการอ่านหนังสือ ทำข้อสอบย้อนหลัง การฝึกทำข้อสอบคือวิธีที่ดีที่สุด พยายามทำทุกอย่างให้ดี พยุงเกรดให้ได้ 

คุณไอซ์ถือเป็นเด็กสายแข่งขันที่กวาดรางวัลมามากมาย เช่น ช่วงมัธยมต้นแข่งคณิตศาสตร์โอลิมปิกระดับชาติ ได้รางวัลเหรียญทอง ช่วงมัธยมปลายแข่งภูมิศาสตร์โอลิมปิกระดับชาติ ได้รางวัลเหรียญทอง และตอนนี้ยังได้เป็นผู้แทนประเทศไปแข่งขันภูมิศาสตร์โอลิมปิก นอกจากนี้ยังเคยไปแข่งแต่งบทร้อยกรองทั้งในระดับโรงเรียนและระดับประเทศ

คุณไอซ์เป็นคนที่ชอบทำกิจกรรมจิตอาสาเพื่อสังคม ตอนแรกก็มีความรู้สึกเหนื่อย และไม่ได้ชอบในการทำกิจกรรม จนได้ลองทำกิจกรรมอาสาแล้วรู้สึกว่าตัวเองมีประโยชน์ มีความสุขที่ได้ทำประโยชน์ต่อสังคม จึงพยายามหากิจกรรมทำมากยิ่งขึ้น ออกไปช่วยทำจิตอาสาหลายๆ งาน โดยกิจกรรมหลักที่ประทับใจ คือ ได้ไปสอนวิชาคณิตศาสตร์ให้เด็กๆ ที่โรงเรียนแถวบ้าน เพื่อเป็นการเตรียมสอบเข้าม.1 และอีกที่หนึ่งคือ ไปช่วยงานที่ศูนย์ฉีดวัคซีนของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ช่วยต้อนรับ ร้องเพลง แบ่งเบาภาระให้กับพี่ๆ ทีมงาน 

หลังเรียนจบจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา คุณไอซ์สอบชิงทุนและได้รับทุนธนาคารแห่งประเทศไทย ไปศึกษาต่อสาขาเศรษฐศาสตร์ ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา คุณไอซ์ฝากทิ้งท้ายไว้ว่า สิ่งสำคัญที่สุดในการเรียน คือ แรงบันดาลใจและหาจุดเริ่มต้นของตัวเองให้เจอ จุดเริ่มต้นของสิ่งที่ตัวเองรักอยู่ตรงไหน ซึ่งจุดนี้ยากที่สุด ถ้าหาเจอแล้วจะรู้สึกว่าตัวเองสามารถทำงานได้โดยที่ไม่ฝืน ไม่ต้องทำอะไรเยอะ หรือฝืนตัวเอง ให้แรงบันดาลใจเป็นตัวขับเคลื่อนไป
.

.

.

.


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top