Saturday, 17 May 2025
ค้นหา พบ 48168 ที่เกี่ยวข้อง

"สุทิน" ตำหนิ "ประยุทธ์" ใช้อารมณ์ ข่มขู่สมาชิก ซัด ไม่เคยมีนายกฯคนไหนทำแบบนี้

ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการอภิปรายพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดระลอกใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 วงเงินไม่เกิน 5 แสนล้านบาท หรือพ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ว่าพอใจในการทำงานสมาชิกพรรคฝ่ายค้านที่ได้ชี้ให้เห็นข้อที่น่าจะเป็นปัญหาของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นวินัยการเงินการคลัง หรือจุดล่อแหลมที่อาจทำให้เกิดการทุจริต หรือการใช้เงินที่ไม่เป็นไปตามแผน สิ่งสำคัญคือเกรงว่าเงินก้อนนี้จะถูกนำมาใช้โดยไม่บรรลุผลและไม่ตอบโจทย์ นั่นคือการแก้ปัญหาโควิดและเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังเป็นการกู้แบบไม่มีแผนงานโครงการ และรัฐบาลก็ตอบได้คลุมเครือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องแผนงานที่จะนำไปใช้ 

นายสุทิน กล่าวต่อว่า เมื่อวานนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ใช้อารมณ์มากจึงบดบังเรื่องสาระ ทั้งยังมีท่าทีและคำพูดที่ตีความได้ว่าเป็นการข่มขู่สมาชิก ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ต้องระมัดระวังให้มาก เพราะการทำงานของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นเอกสิทธิ์ หากผู้นำประเทศใช้กิริยาเช่นนี้เป็นการคุกคามสิทธิ เสรีภาพของประชาชน ตนขอตำหนิกิริยาท่าทีเมื่อคืนนี้ ในอดีตไม่เคยมีนายกรัฐมนตรีคนใดใช้ท่วงทำนองในการข่มขู่สมาชิก

นายสุทิน กล่าวว่า วันนี้จะเป็นการอภิปรายสรุปโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย หลังจากอภิปรายเสร็จจะเป็นการลงมติซึ่งสมาชิกบางส่วนการพูดคุยกันว่าอาจจะขอยื่นเรื่องให้มีกลไกในการตรวจสอบงบประมาณก้อนนี้ ซึ่งมีความเห็นเป็น 2 ส่วนว่าจะใช้คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญชุดที่ตรวจสอบเงิน 1 ล้านล้านบาท อีกส่วนคิดว่ากมธ.ชุดนั้นค่อนข้างล้มเหลว การตรวจสอบถูกขัดขวาง และการทำงานในชุดนั้นค่อนข้างมีปัญหา ควรจะตั้งชุดใหม่ขึ้นมา แต่กระบวนการจะเกิดขึ้นหลังจากพ.ร.ก.ฉบับนี้ผ่านหรือไม่ และพ.ร.ก.ฉบับนี้ยังต้องผ่านการพิจารณาของส.ว.อีกครั้งหนึ่ง

ศบค.ชุดเล็ก ให้ สธ. เคาะ เปิดเทอม​ 14​ มิ.ย.ได้หรือไม่​ แย้ม​ อาจต้องเรียนออนไลน์​ต่อ ระบุ วันนี้เริ่ม ส่งทหาร-ตร.​-เทศกิจ​ สนธิกำลัง เฝ้าแคมป์ คนงานทั่วกรุง หลัง ตัวเลขคลัสเตอร์พุ่ง 

ที่ทำเนียบรัฐบาล​ พล.อ.ณัฐพล​ นาคพาณิชย์​ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ​ (สมช.)​ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19​ (ศปก.ศบค.)​ ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนในการเปิดภาคเรียนในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด​ จะยังคงกำหนดการเดิมในวันที่​ 14​ มิ.ย.นี้หรือไม่​ เนื่องจากยังมีตัวเลขผู้ติดเชื้อจำนวนมากอยู่ว่า กำลังรอกระทรวงสาธารณสุขประเมินสถานการณ์ในภาพรวมอยู่ โดยวันที่ 10 มิ.ย.นี้จะเริ่มมาตรการควบคุมโรคในพื้นที่แคมป์คนงานก่อสร้าง ให้มีความเข้มข้นมากขึ้น เพื่อจะทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อลดลง ดังนั้น​ เราจึงต้องรอฟังการประเมินของกระทรวงสาธารณสุขก่อน ทั้งนี้​ แม้จะเปิดการเรียนการสอนได้ แต่ก็เป็นการเรียนผ่านระบบออนไลน์ หากกระทรวงสาธารณสุขประเมินว่าสามารถเปิดภาคเรียนได้ก็จะเปิดตามกำหนดการเดิม แต่จะให้เป็นการเรียนการสอนผ่านระบบออนไลน์

ผู้สื่อข่าวถามว่า พื้นที่ที่มีการฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรทางการศึกษาแล้ว เช่น​ ครู​ อาจารย์ จะสามารถเปิดการเรียนการสอนที่สถานศึกษาได้หรือไม่​ พล.อ.ณัฐพล​ กล่าวว่า​ จากการฟังรายงานของกระทรวงสาธารณสุข เห็นว่าพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดยังมีความน่าเป็นห่วง แต่หากเป็นการเรียนผ่านระบบออนไลน์ก็มีความเป็นไปได้ที่จะมีการเปิดภาคเรียนในวันที่ 14 มิ.ย.

เมื่อถามว่า การพบผู้ติดเชื้อในหลายคัตเตอร์โดยเฉพาะในแคมป์คนงานก่อสร้างจะยังสามารถบล็อคพื้นที่ไว้ได้อยู่ใช่หรือไม่​ พล.อ.ณัฐพล​ กล่าวว่า เราได้เริ่มมาตรการตั้งแต่วันเดียวกันนี้โดยได้ขอกำลังจากหน่วยงานความมั่นคง​ ทั้งตำรวจและทหาร ให้มาช่วยควบคุม เนื่องจากพบว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมาแรงงานไทยและแรงงานต่างด้าวตามแคมป์คนงานต่างๆ ยังมีการเคลื่อนย้ายไปยังแคมป์คนงานอื่นๆ ทั้งที่มีการติดเชื้อในแคมป์ดังกล่าวแล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจึงต้องใช้ความเข้มข้นมากขึ้น ด้วยการนำกำลังจากฝ่ายความมั่นคงไปช่วยกรุงเทพมหานครตามที่มีการร้องขอมา ประกอบกับคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขที่ระบุให้เพิ่มความเข้มข้นมากขึ้น

เมื่อถามว่า เหตุที่ยังมีการเคลื่อนย้ายแรงงานอยู่เป็นเพราะนายจ้างหรือผู้ประกอบการยังไม่ให้ความร่วมมือใช่หรือไม่ พล.อ.ณัฐพล​ กล่าวว่า ไม่ได้เรียกว่าไม่ให้ความร่วมมือแต่เขาอาจจะไม่เข้าใจ เพราะเห็นว่ามีผู้ติดเชื้อแค่บางส่วน จึงนำคนงานที่ยังไม่ติดเชื้อไปทำงานในแคมป์คนงานอื่น ทั้งนี้ เราเข้าใจดีว่าระบบงานก่อสร้าง แรงงานจะไม่ได้อยู่ประจำที่ ต้องมีการเคลื่อนย้ายไปทำงานยังที่ต่างๆอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามในกรุงเทพฯมีแคมป์คนงานก่อสร้างทั้งหมด 409 แห่ง และหลายแห่งเป็นบริษัทเดียวกัน เป็นธรรมดาที่เขาจะหมุนเวียนแรงงานไปมา แต่ในระยะนี้เราจำเป็นต้องควบคุมไม่ให้มีการเคลื่อนย้าย เพื่อให้การติดเชื้อน้อยลง

เมื่อถามว่า สถานการณ์ขณะนี้ต้องถึงขั้นต้องออกคำสั่งให้ระงับการก่อสร้างทุกไซต์งานในกรุงเทพฯและปริมณฑลเป็นการชั่วคราวหรือไม่​ พล.อ.ณัฐพล​ กล่าวว่า ยังไม่ถึงขั้นนั้น​ ตอนนี้เราจะใช้มาตรการเพิ่มความเข้มข้นก่อน หากทำไปได้สักระยะหนึ่งแล้วสถานการณ์ดีขึ้น ก็ไม่จำเป็นต้องทำอะไรมากขึ้นกว่านี้ เพราะศบค.เรามีความระมัดระวังในเรื่องของเศรษฐกิจ ถ้ามีการออกคำสั่งให้หยุดทำอะไร ก็อาจจะส่งผลต่อภาคเศรษฐกิจ ซึ่งตอนนี้ก็มีปัญหามากอยู่แล้ว จึงพยายามจะทำให้ดีที่สุดเพื่อผ่อนคลายสถานการณ์โดยรวม

เมื่อถามว่า จะใช้กำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเข้าไปช่วยกรุงเทพฯ ในการตรวจแคมป์คนงานก่อสร้างมากน้อยแค่ไหน​ พล.อ.ณัฐพล​ กล่าวว่า ในการตรวจพื้นที่ย่อยเราจะใช้กำลังเจ้าหน้าที่ประมาณ 4-5 คน เป็นกำลังทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่เทศกิจ ทำงานร่วมกัน อย่างไรก็ตาม สำหรับมาตรการกรณีผู้ประกอบการมีความย่อหย่อนนั้น ทางกรุงเทพฯและศบค. มีมาตรการที่บังคับใช้อยู่แล้ว ทั้งในด้านมาตรการป้องกัน การตรวจตลาด การตรวจแคมป์ก่อสร้าง ในส่วนมาตรการเฝ้าระวัง มีการสุ่มตรวจผู้ติดเชื้อ​รวมถึงยังมีมาตรการควบคุมอีก

เมื่อถามว่า ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตหลายรายที่เกิดขึ้นหลังการฉีดวัคซีน จะส่งผลกระทบต่อแผนการกระจายวัคซีนที่ตั้งเป้าไว้หรือไม่​ พล.อ.ณัฐพล​ กล่าวว่า ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (อีโอซี)​ กระทรวงสาธารณสุข​ กำลังมีการประชุมเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวต้องแยกเป็น 2 ส่วน คือ กรณีที่มีผู้เสียชีวิต กระทรวงสาธารณสุขกำลังดำเนินการสอบสวน ว่าสาเหตุการเสียชีวิตมาจากอะไร และเรื่องการเยียวยา เราจะดำเนินการเยียวยาให้ทันที ไม่ต้องรอให้การสอบสวนสิ้นสุดก่อน ซึ่งสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ​ (สปสช.)​ แนวทางเรื่องการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนอยู่แล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าผู้เสียชีวิตทั้งหมดมีสาเหตุมาจากการฉีดวัคซีน แต่เป็นการช่วยเหลือเยียวยาไปก่อน

สอน. แจง บริษัท น้ำตาลกุมภวาปี จำกัด ที่อุดรธานี ปิดโรงงานน้ำตาล ไม่กระทบอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย ย้ำในฤดูการผลิตปี 64/65 ผลผลิตอ้อยมีแนวโน้มเติบโตขึ้น พร้อมเร่งเยียวยาพนักงานถูกเลิกจ้าง

นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมในฐานะประธานกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏข่าวเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2564 กรณี บริษัท น้ำตาลกุมภวาปี จำกัด อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี มีมติหยุดกิจการน้ำตาลอย่างเป็นทางการ โดยบริษัทจะโอนย้ายสัญญาซื้อขายอ้อยไปยัง บริษัท น้ำตาลเกษตรผล จำกัด ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทเดียวกัน ที่มีกำลังการผลิตได้ถึง 30,000 ตันอ้อยต่อวัน เพื่อรองรับชาวไร่อ้อยคู่สัญญาจาก บริษัท น้ำตาลกุมภวาปี จำกัด และขอเรียนว่าไม่มีผลกระทบต่อภาพรวมของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายของไทย เนื่องจากในฤดูการผลิตปี 2564/2565 มีแนวโน้มผลผลิตอ้อยและราคาน้ำตาลของตลาดโลกจะสูงขึ้นจากในฤดูการผลิตปี 2563/2564 จึงมั่นใจได้ว่าผลประกอบการโรงงานน้ำตาลอีก 56 โรงงาน จะมีแนวโน้มในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างแน่นอนถือเป็นสัญญาณที่ดีท่ามกลางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทั่วโลก

ด้านนายเอกภัทร วังสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัท น้ำตาลกุมภวาปี จำกัด มีชาวไร่อ้อยคู่สัญญา จำนวน 1,195 ราย ในฤดูการผลิตปี 2563/2564 หีบอ้อยได้ 716,862.94 ตัน และผลิตน้ำตาลได้ 82,977.23 ตัน โดยการปิดโรงงานดังกล่าวจะไม่กระทบกับชาวไร่อ้อยคู่สัญญา ในขณะเดียวกันนี้สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ได้ประสานไปยัง บริษัท น้ำตาลกุมภวาปี จำกัด ให้ดำเนินการตามระเบียบข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อเยียวยาช่วยเหลือแก่พนักงานประจำโรงงาน และจะดำเนินการติดตามการจ่ายเงินค่าอ้อยขั้นสุดท้ายให้กับชาวไร่อ้อยคู่สัญญาอย่างใกล้ชิด ซึ่งคาดว่าจะมีการประกาศราคาอ้อยขั้นสุดท้ายในช่วงเดือนตุลาคม 2564 รวมไปถึงตรวจสอบภาระหนี้ของบริษัทฯ กับกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย เพื่อไม่ให้กระทบกับระบบอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย และการปิดกิจการจะไม่กระทบต่อการจ่ายเงินช่วยเหลือตามโครงการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 แต่อย่างใด


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

เปิดโครงการเยียวยาจากรัฐ ครึ่งปีหลัง 2564 ช่วยเหลือประชาชนอะไรบ้าง?

ผ่านนน! กำลังพูดถึงเหล่ามาตรการเยียวยาของรัฐ มิได้หมายถึงการอนุมัติงบประมาณการกู้แต่อย่างใด แฮ่! อย่างที่มีข่าวเผยแพร่ออกมา รัฐ นำโดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เตรียมมาตรการช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยในครึ่งปีหลัง ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-ธันวาคม ได้อนุมัติ 4 โครงการ ที่จะเป็นการลดภาระค่าครองชีพ และฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบของโควิด-19 งานนี้ครอบคลุมประชาชนกว่า 51 ล้านคน และคาดว่าจะช่วยรักษากำลังซื้อในระบบเศรษฐกิจ จากการเติมเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ จำนวนกว่า 473,000 ล้านบาท งั้นไปดูกันหน่อยว่า ‘ตัวช่วย’ เหล่านั้น มีอะไรกันบ้าง?


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

นพ.ชลน่าน ส.ส.เพื่อไทย ร้องกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร ไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง กรณีไทยขายข้าวให้จีน ส่งผลให้ผู้ปลูกข้าว โรงสีไม่ได้รับความเป็นธรรม เร่งให้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.เพื่อไทย จ.น่าน เปิดเผยถึงกรณีปัญหาการค้าข้าวระหว่างประเทศไทยกับประเทศจีนส่อถึงความไม่โปร่งใส และไม่เป็นธรรมว่า จากกรณีที่พรรคเพื่อไทยได้แถลงข่าว เกี่ยวกับโครงการจัดซื้อข้าวระหว่างรัฐต่อรัฐ ซึ่งเป็นการซื้อ-ขายข้าวระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีน ไม่ได้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 ซึ่งได้มีประเด็นร้อนแรงขึ้นมาอีก เนื่องมาจากได้มีหนังสือจากสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา แจ้งให้สมาชิกดำเนินการเกี่ยวกับการส่งออกข้าวในช่วงเดือนมิถุนายน และเดือนกรกฎาคม โดยจะมีการรวบรวมข้าวและส่งข้าวไปยังประเทศจีนจำนวน 20,000 ตัน ซึ่งเป็นสัญญาต่อเนื่องครั้งนี้เป็นครั้งที่ 8 จากการที่จะต้องส่งข้าวไปยังประเทศจีน 2 ล้านตัน และได้มีการส่งข้าวไปแล้ว 1.7 ล้านตัน

นพ.ชลน่านกล่าวว่า ภายหลังจากได้มีการแถลงข่าวและได้มีการนำเสนอต่อสาธารณะไปแล้ว ปรากฏว่าประเด็นการจัดซื้อจัดจ้างระหว่างรัฐต่อรัฐ เป็นการดำเนินการโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ได้มอบให้สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการ โดยไม่ผ่านขบวนการตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 ในเรื่องนี้ได้สอบถามไปยังกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ พร้อมทั้งชี้แจงว่าการซื้อ-ขายข้าวในครั้งนี้เหมือนกับเป็นการผูกขาด ระหว่างกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยแต่เพียงผู้เดียว ทำไมไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯ ซึ่งได้รับคำตอบจากกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า วิธีการซื้อขายข้าวได้ทำมานานแล้วและถูกต้อง ไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯ

"จากการค้าขายข้าวกันมานาน ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 8 แล้ว เหมือนกับประเทศไทยซื้อรถไฟจีน และประเทศจีนก็ซื้อข้าวประเทศไทย แต่เมื่อ พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 ออกมาบังคับใช้ ควรที่จะมีการบังคับใช้ ส่วนที่ทำมานานอดีตก็ว่ากันไปตามกฎหมายเก่า เมื่อมีการซื้อ-ขายข้าวหลังจากที่กฎหมายออกมาแล้วก็ควรดำเนินการตามกฎหมายใหม่ ซึ่งในจุดนี้ไม่มีคำตอบใดๆ ที่ชัดเจน" นพ.ชลน่านกล่าวและว่า เมื่อมีการค้าขายระหว่างประเทศกันแล้ว ผู้ที่เกี่ยวข้องควรได้รับผลประโยชน์ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะชาวนา โรงสีข้าว ไม่ใช่เฉพาะสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยเท่านั้น

นพ.ชลน่านกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีประเด็นการจัดเก็บค่าดำเนินการส่งออกข้าวตันละ 150 บาท ของสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยกับผู้ประกอบการ ได้มีการนำเงินจำนวนดังกล่าวไปจ่ายส่วนใดบ้าง และโปร่งใสหรือไม่ รวมทั้งความต่างของราคาข้าวที่ซื้อมาและส่งออกไปขายซึ่งต่างกันมาก และผลประโยชน์ไปตกกับผู้ใด ซึ่งในเรื่องนี้ตนจะนำปัญหาดังกล่าวส่งให้กรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร ได้มีการพิจารณาข้อเท็จจริง เพื่อให้เกิดความธรรมกับทุกฝ่าย

ทางด้าน นายมานะ โลหะวณิชย์ ประธานกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎรกล่าวว่า ภายหลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนแล้ว จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง และจะเสนอให้รัฐบาลดำเนินการต่อไป


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top