Saturday, 10 May 2025
WORLD

หมู่เกาะโกโก ฝันที่ไม่เคยเป็นจริงของอเมริกา กับการจับตา ‘จีน-เมียนมา’ แบบไร้มารยาท

มีบทความที่เขียนโดย John Pollock และ Damien Symon ตีพิมพ์ลงในเว็บไซต์ Chatham House ในวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา มีใจความน่าสนใจว่า...

“มีภาพถ่ายเมื่อเดือนมกราคม 2566 โดย Maxar Technologies ซึ่งเชี่ยวชาญด้านภาพถ่ายดาวเทียม แสดงให้เห็นกิจกรรมการก่อสร้างบนเกาะ Great Coco ระดับใหม่ สิ่งที่มองเห็นได้คือ โรงเก็บเครื่องบินใหม่ 2 โรง ทางหลวงใหม่ และสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นที่พัก ซึ่งทั้งหมดนี้จะมองเห็นได้ในบริเวณใกล้เคียงกับรันเวย์ และนอกจากนี้ ยังมีสถานีเรดาร์ที่ปรับปรุงใหม่ยาว 2,300 เมตร มองเห็นได้ในช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ปลายด้านใต้ของเกาะ Great Coco (หมู่เกาะโกโก) ซึ่งอยู่เลยทางหลวงที่เชื่อมระหว่างเกาะ เป็นหลักฐานของความพยายามในการเคลียร์ที่ดิน ซึ่งบ่งชี้ว่างานก่อสร้างกำลังจะเกิดขึ้น โดยมีการยึดโยงว่าจีนทำการลงทุนเปลี่ยนเกาะ Great Coco เป็นจุดยุทธศาสตร์ทางตะวันตกของจีน เพื่อใช้สอดแนมฝั่งมหาสมุทรอินเดีย”

อ่านจบถึงตรงนี้แล้ว ต่อให้กองทัพเมียนมาจะสมคบคิดกับกองทัพจีนหรือไม่ แต่สิ่งหนึ่งที่ได้เกิดขึ้นแล้วคือ กองทัพสหรัฐฯ กำลังจับตาความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นบนเกาะนี้อยู่ 

ย้อนกลับไปในปี 2012 ทาง Sydney Morning Herald เคยลงข่าวว่ากองทัพอเมริกาเคยวางแผนที่จะใช้เกาะ Great Coco มาเป็นจุดยุทธศาสตร์สำหรับการสอดแนมในมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งเชื่อได้ว่าแผนดังกล่าวนี้น่าจะสำเร็จลุล่วงหากไม่มีรัฐประหารเกิดขึ้นเสียก่อน เพราะมีข่าวแว่วออกมาจากทางเนปิดอว์ว่า ในตอนนั้น นางอองซาน ซูจี เตรียมจรดปากกายกเกาะให้อเมริกาเช่าเป็นฐานทัพ แต่ติดที่กองทัพเมียนมาไม่เห็นด้วย

‘จีน’ เปิดปฏิบัติการทางทหาร 3 วันรอบไต้หวัน ลั่น!! เป็นการเตือน  ล่าสุด ไต้หวันตรวจพบเรือรบจีน 8 ลำ-เครื่องบิน 42 ลำ

จีนเปิดฉากการฝึกซ้อมทางทหารในช่องแคบไต้หวันเป็นเวลา 3 วัน ย้ำเป็นการเตือนอย่างจริงจังต่อรัฐบาลไต้หวัน หลังจากปธน."ไช่ อิงเหวิน"พบกับประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ล่าสุดพบจีนส่งเรือรบ 8 ลำ เครื่องบินรบ 42 ลำล้อมเกาะไต้หวันแล้ว

(8 เม.ย.66) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กองทัพภาคตะวันออกของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนหรือพีแอลเอ (PLA) แถลงว่า การฝึกซ้อมทางทหารที่มีชื่อว่ายูไนเต็ดชาร์ปซอร์ด (United Sharp Sword) จะดำเนินไปตั้งแต่วันนี้จนถึงวันจันทร์

สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานอ้างโฆษกพีแอลเอว่า การฝึกซ้อมทางทหารจะเกิดขึ้นทั้งในน่านน้ำและน่านฟ้าของช่องแคบไต้หวัน นอกชายฝั่งทางเหนือและทางใต้ของไต้หวัน และทางตะวันออกของไต้หวัน เพื่อเป็นการเตือนอย่างจริงจังต่อการที่กองกำลังแยกดินแดนหาทางแยกไต้หวันเป็นเอกราชคบคิดกับกองกำลังต่างชาติ และการดำเนินกิจกรรมยั่วยุ การฝึกซ้อมนี้จำเป็นต่อการปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนแห่งชาติของจีน ด้านหน่วยงานทางทะเลของมณฑลฝูเจี้ยนที่อยู่ตรงข้ามกับไต้หวันแจ้งว่า จะมีการฝึกซ้อมทางทหารด้วยกระสุนจริงในน่านน้ำนอกชายฝั่งในวันจันทร์ ขอให้เรือต่าง ๆ หลีกเลี่ยง

ขณะเดียวกันกระทรวงกลาโหมไต้หวันแถลงว่า ตรวจพบเรือรบของจีน 8 ลำ เครื่องบินขับไล่ของจีน 42 ลำ อยู่รอบไต้หวันในช่วงก่อนเที่ยงของวันนี้ หลังจากจีนประกาศฝึกซ้อมทางทหารรอบไต้หวันเป็นเวลา 3 วัน

เปิดปูม ‘Cynthia Maung’ ผู้ได้รับรางวัล The People Award 2023 หมอแห่ง ‘แม่ตาวคลินิก’ คลินิกฟรีนอกสารบบแพทยสภา

ในงาน The People Award 2023 คงมีแต่คนที่จับจ้อง ‘แบม’ กับ ‘ตะวัน’ ที่ได้รับรางวัล แต่ใครจะรู้ว่าในวันนั้นมีอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นที่น่าสนใจอย่างยิ่ง

วันนี้เอย่าขอนำเสนอเรื่องราวของแพทย์หญิง Cynthia Maung (ซินเทีย หม่อง) คุณหมอแห่ง ‘แม่ตาวคลินิก’ ซึ่งเป็นคลินิกที่ตั้งอยู่ในอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก...ลองมาดูเรื่องราวของแพทย์หญิงและคลินิกแห่งนี้กัน

เรื่องราวของแพทย์หญิง Cynthia Maung เธอเป็นชาวเมียนมาที่เกิดจากบิดาที่เป็นชาวกะเหรี่ยงและมารดาที่เป็นชาวเมียนมาที่อาศัยอยู่ในย่างกุ้ง เธอเติบโตขึ้นในเมืองเมาะละแหม่งกับพี่น้องรวมกัน 6 คน และเธอได้จบจากโรงเรียนแพทย์ที่ย่างกุ้งและน่าจะมีชีวิตที่ดีหลังจากเรียนจบแพทย์  

>> แต่ด้วยความใฝ่ประชาธิปไตยของเธอ : เมื่อ 19 กันยายน พ.ศ. 2531 กองทัพพม่าในขณะนั้นเข้ายึดอำนาจ อันเป็นเรื่องราวการปฎิวัติที่คนเมียนมารู้จักกันในนาม ปฏิวัติ 8888 นั้น เธอและเพื่อน ๆ ได้ตัดสินใจหนีเข้าป่าและหนีมากบดานในประเทศไทยและเธอได้เริ่มเป็นหมอรักษา โดยเริ่มจากเป็นหมออาสาในค่ายผู้ลี้ภัยจนสุดท้ายได้มาทำงานในแม่ตาวคลินิก ซึ่งเป็นฟรีคลินิกที่ช่วยรักษาชนกลุ่มน้อย จนทำให้คุณหมอได้รับรางวัลต่าง ๆ มากมาย เช่น...

Jonathan Mann Award ในปี 1999 รางวัลแมกไซไซ ในปี 2002 ได้ Times’s Asian Heroes ในปี 2003, รางวัล Sydney Peace Prize ในปี 2013 และ UNDP's N-Peace Award ในปี 2018 และรางวัลล่าสุด The People Award ในปี 2023 ซึ่งดู ๆ ไปแล้ว คุณหมอท่านนี้น่าจะเป็นคนทรงคุณค่าท่านหนึ่งเลยทีเดียว

กลับมาที่แม่ตาวคลินิกกันสักนิด หากมาดูว่าคลินิกนี้เป็นของใคร เมื่อเข้าไปดูในเว็บไซต์ ก็พบชื่อมูลนิธิแห่งหนึ่ง ที่ชื่อว่า ‘มูลนิธิสุวรรณนิมิต’ ซึ่งในเว็บไซต์ระบุว่า...

“มูลนิธิสุวรรณนิมิต จดทะเบียนเป็นองค์กรการกุศล ให้การสนับสนุนแม่ตาวคลินิกในด้านการคุ้มครองทางกฎหมาย การเสริมสร้างศักยภาพเจ้าหน้าที่เพื่อพัฒนาคุณภาพการทำงาน ทั้งยังช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบสาธารณสุขไทย มีการทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐในการผลักดันด้านนโยบายด้านสุขภาพของประชากรข้ามชาติและการคุ้มครองเด็กเคลื่อนย้าย”  

นั่นแสดงว่ามูลนิธินี้ น่าจะเป็นมูลนิธิที่ช่วยก่อตั้งแม่ตาวคลินิกหรือไม่? และเมื่อหาข้อมูลต่อไป เอย่าก็พบว่ามูลนิธินี้คือ มูลนิธิอะไร?...

มูลนิธิสุวรรณนิมิตร เป็นมูลนิธิของไทยที่ทำงานผ่านการเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับพันธมิตรในการให้บริการที่จำเป็นแก่ชุมชนชายขอบที่อาศัยอยู่ตามชายแดนไทย (จังหวัดตาก) – เมียนมา เอย่าจึงคิดขึ้นมาทันทีว่าหากเป็นมูลนิธิที่ถูกต้องจริง จะต้องมีการจดมูลนิธิให้เป็นไปตามการประกาศกำหนดให้เป็นองค์การหรือสถานสาธารณกุศล ตามมาตรา 47(7)(ข) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งจะถูกคุ้มครองโดยกฎหมายไทย

แต่เมื่อเอย่าเช็กในรายชื่อมูลนิธิหรือสมาคมที่ได้รับการประกาศกำหนดให้เป็นองค์การหรือสถานสาธารณกุศล ตามมาตรา 47(7)(ข) แห่งประมวลรัษฎากร กลับไม่พบชื่อของ ‘มูลนิธิสุวรรณนิมิต’ 

เอาละสิ!! เมื่อเป็นเช่นนั้น เอย่าจึงเริ่มหาข้อมูลเพิ่มขึ้นโดยเข้าไปค้นหาชื่อของแม่ตาวคลินิกในฐานข้อมูลสถานพยาบาลในกระทรวงสาธารณสุขกลับพบว่า ไม่มีชื่อ ‘แม่ตาวคลินิก’ ในฐานข้อมูลของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพกระทรวงสาธารณสุข อีกทั้งเมื่อได้เช็กข้อมูลคลินิกจากกองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ก็ไม่มีชื่อของแม่ตาวคลินิก หรือ คลินิกแม่ตาว ทำให้เอย่าคิดได้ว่า อ้าว!!….ถ้าเป็นแบบนี้คลินิกแม่ตาวก็คือ ‘คลินิกเถื่อน’ น่ะสิ!!

ทั้งนี้หากมาดูที่ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 ได้มีการระบุไว้ในมาตรา 16 ว่า ห้ามมิให้บุคคลใดประกอบกิจการสถานพยาบาล เว้นแต่ได้รับใบอนุญาตจากผู้อนุญาต และสุดท้ายเมื่อตรวจสอบรายชื่อจากแพทยสภาแล้ว ไม่พบชื่อ แพทย์หญิง Cynthia Maung ในรายชื่อของแพทยสภาในประเทศไทยด้วย

ร่วมใจอนุรักษ์ เกร็ดน่ารู้ ‘ก่อเจดีย์ทราย’ ประเพณีร่วม ‘ไทย-เมียนมา’ ร่องรอยมรดกจากอยุธยา ที่ผ่านไป 200 ปีก็ยังมิเลือน

ในช่วงสงกรานต์ หรือ ตะจ่าน ของทุกปี ชาวบ้านในหมู่บ้านสุขะ เมืองมัทดายามัน ภูมิภาคมัณฑะเลย์จะมีประเพณี ‘ก่อพระเจดีย์ทราย’ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว การก่อเจดีย์ทรายนั้น ไม่มีกระทำกันสำหรับวัดในเมียนมา หากแต่การก่อเจดีย์ทรายของที่นี่ คือ มรดกทางวัฒนธรรมจากสมัยอยุธยาที่สืบมาจนถึงปัจจุบัน

ในประเทศไทยนั้น ประเพณีก่อพระเจดีย์ทรายถือว่าเป็นประเพณีหนึ่ง ที่มีที่มาเกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาโดยตรง โดยคนไทยผูกโยงประเพณีนี้เข้ากับคติความเชื่อเรื่องเวรกรรมในพระพุทธศาสนา มีการก่อพระเจดีย์ทรายถวายวัดเพื่อนำเศษดินทรายที่ติดเท้าออกจากวัดไปมาคืนวัดในรูปพระเจดีย์ทราย และเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาให้เป็นกุศลอานิสงส์

นอกจากประเพณีเพื่อเป็นพุทธบูชาแล้ว ยังเป็นกุศโลบายของคนในอดีต ให้มีการรวมตัวของคนในชุมชนเพื่อร่วมกันจัดประเพณีรื่นเริงเป็นการสังสรรค์สร้างความสามัคคีของคนในชุมชนด้วย

แต่สำหรับการก่อเจดีย์ทรายในเมียนมานั้น มีความเชื่อเรื่องพระเจดีย์ทราย ที่ต่างจากไทย โดยทางเมียนมามีความเชื่อว่าเม็ดทราย เสมือนตัวแทน ผู้สำเร็จพระอรหันต์ในพระพุทธศาสนา จำนวน นับไม่อาจประมาณได้เมื่อก่อกองทรายเสร็จ ก็กราบไหว้บูชา เสมือน พระเจดีย์ ในวัด ทั่วไป จนกว่ากองทราย จะยุบและพังในที่สุดโดยกองทรายที่ยุบและพังไปนั้นทางชาวบ้าน ก็นำไปเทไว้ตามธรรมชาติ หรือเทไว้ที่ริมตลิ่งแม่น้ำเพื่อให้ทรายกลับคืนสู่ธรรมชาติต่อไป

การก่อพระเจดีย์ทรายฝั่งเมียนมาอาจจะใช้เวลาประมาณ 2-3วัน เพราะต้องมีพิธีสวดอัญเชิญ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และ พระอรหันต์ มาสถิตย์อยู่ เสมือนเป็นเจดีย์ทั่วไป ซึ่งในบางชุมชนที่ไม่มีกำลังจะสร้างวัด หรือเจดีย์ เพื่อเฉลิมฉลองวันปีใหม่ ก็จะใช้ก่อพระเจดีย์ทรายขึ้นมา เพื่อเป็นการเคารพบูชาแทน พระพุทธเจ้า ไว้กราบไหว้ ในชุมชนนั้นๆ ซึ่งจะแตกต่างจากประเพณีของฝั่งไทยที่เป็นการขนทรายเข้าวัด เพื่อไปก่อสร้างเจดีย์เท่านั้น

และนี่คือมรดกอีกชิ้นหนึ่งที่ยังคงดำรงไว้ให้ลูกหลานแม้เวลาจะผ่านไปนับ 200 กว่าปีแล้วก็ตาม

เรื่อง: AYA IRRAWADEE

‘สเปซเอ็กซ์’ ส่งดาวเทียมสู่อวกาศพร้อม ‘เทมโป’ ตัวตรวจมลภาวะ เพื่อตรวจวัดคุณภาพอากาศ - มลพิษทั่วทั้งทวีปอเมริกาเหนือ

(8 เม.ย. 66) เว็บไซต์ ยูพีไอ รายงานว่า ‘สเปซเอ็กซ์’ บริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่ ที่ทำธุรกิจทางด้านธุรกิจการขนส่งทางอวกาศ ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ทำการส่งดาวเทียมตรวจวัดคุณภาพอากาศขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (นาซา) ขึ้นสู่อวกาศได้สำเร็จเมื่อวันที่ 7 เม.ย.

โดยระบุว่า ‘จรวดฟอลคอน 9’ ของบริษัทสเปซเอ็กซ์ ถูกปล่อยขึ้นสู่อวกาศจากฐานยิงจรวดสเปซ ลอนช์ คอมเพล็กซ์ รัฐฟลอริดาของสหรัฐ เมื่อเวลา 12.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น

เพื่อนำดาวเทียมอินเทลแซท 40 อี (Intelsat 40e) ดาวเทียมโคจรพ้องคาบโลกขั้นสูง ซึ่งมีเครื่องมือ ‘เทมโป’ (TEMPO-Tropospheric Emissions: Monitoring of Pollution) ตัวตรวจวัดมลภาวะในชั้นบรรยากาศของนาซา ขึ้นสู่วงโคจรในอวกาศเหนือเส้นศูนย์สูตรเพื่อตรวจสอบมลพิษในอากาศทั่วทวีปอเมริกาเหนือ

‘เทียนจิน’ เปิดเส้นทางขนส่ง ‘ตู้คอนเทนเนอร์’ สายใหม่ เชื่อมท่าเรือสำคัญในยุโรป เพิ่มประสิทธิภาพการส่งออก

เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 66 สำนักข่าวซินหัว, เทียนจิน รายงานว่า ‘เอชเอ็มเอ็ม’ (HMM) บริษัทขนส่งชั้นนำในเกาหลีใต้ เปิดบริการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ เส้นทางตรง เชื่อมระหว่างเทศบาลนครเทียนจินทางตอนเหนือของจีนกับท่าเรือสำคัญหลายแห่งของยุโรป โดยจะใช้เรือขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ขนาดใหญ่พิเศษ 24,000 ทีอียู (TEU : หน่วยนับตู้คอนเทนเนอร์ยาว 20 ฟุต) จำนวน 12 ลำ ออกปฏิบัติงานทุกสัปดาห์

เส้นทางการขนส่งดังกล่าวจะเชื่อมต่อเทียนจินกับหลายท่าเรือสำคัญ ได้แก่ ท่าเรืออัลเจซิราสในสเปน ท่าเรือรอตเทอร์ดามในเนเธอร์แลนด์ ท่าเรือฮัมบวร์กในเยอรมนี และท่าเรือแอนต์เวิร์ปในเบลเยียม โดยมุ่งอำนวยความสะดวกและบริการการขนส่งที่มีประสิทธิภาพสำหรับการส่งออกอุปกรณ์เครื่องกลและไฟฟ้า และสิ่งของจำเป็นในชีวิตประจำวันที่ผลิตในจีน

ลีจูมยอง ประธานเอชเอ็มเอ็ม (ไชน่า) จำกัด (HMM (China) Co.) กล่าวว่าสินค้าที่ผลิตในจีน อาทิ เครื่องจักร ชิ้นส่วนรถยนต์ และเฟอร์นิเจอร์ สามารถจัดส่งถึงยุโรปรวดเร็วขึ้นผ่านเส้นทางดังกล่าว โดยลดระยะเวลาการขนส่งเกือบร้อยละ 15 จึงประหยัดต้นทุนด้านโลจิสติกส์สำหรับลูกค้า

อนึ่ง ท่าเรือเทียนจินเป็นท่าเรือสำคัญในภูมิภาคตอนเหนือของจีน โดยมีปริมาณการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์มากกว่า 21 ล้านทีอียูเมื่อปีที่แล้ว ครองอันดับที่ 8 ของโลก


ที่มา : https://www.xinhuathai.com/china/350018_20230407

อดีตพนักงาน แฉ!! ข้อมูลส่วนตัวจากกล้องในรถ ‘เทสลา’ ถูกแชร์ให้ว่อน!! ผ่านระบบส่งข้อความภายในองค์กร

สื่อดังต่างประเทศ เผย อดีตพนักงานเทสลาสามารถดูภาพและคลิปจากกล้องในรถลูกค้าได้ และนำมาแชร์ดูกันภายในด้านเทสลายันความเป็นส่วนตัวของลูกค้าสำคัญยิ่ง


(7 เม.ย.66) รอยเตอร์ รายงานการสัมภาษณ์อดีตพนักงานเทสลา 9 คนว่า ในระหว่างปี 2562-2565 เผยว่า กลุ่มพนักงานได้นำภาพและคลิปที่บันทึกโดยกล้องติดรถยนต์ของลูกค้าไว้มาแชร์ผ่านระบบส่งข้อความภายในองค์กร ซึ่งคลิปบางส่วนมีความเป็นส่วนตัวหรืออ่อนไหวสูง โดยอดีตพนักงานกล่าวถึงคลิปลูกค้าชายคนหนึ่งเดินมาที่รถของตัวเองในสภาพเปลือยกายล่อนจ้อน

ขณะที่อดีตพนักงานอีกราย เล่าอีกว่า ภายในยังมีการแชร์คลิปเจ้าของรถขับขี่ด้วยความเร็วสูงในย่านที่พักอาศัยแล้วชนเด็กกำลังขี่จักรยาน จนเด็กลอยกระเด็นไปไกล วิดีโอดังกล่าวแพร่กระจายอย่างรวดเร็วไปทั่วสำนักงานของเทสลาใน รัฐแคลิฟอร์เนีย ผ่านการแชทส่วนตัวแบบตัวต่อตัว

นอกจากนี้ ยังมีการแชร์ภาพอื่น ๆ อย่าง ภาพสุนัขและป้ายถนนตลก ๆ ที่พนักงานสร้างเป็นมีมด้วยการเขียนคำบรรยายตลก ก่อนจะโพสต์ลงในแชทกลุ่มส่วนตัว แม้ว่าบางโพสต์จะถูกแชร์ระหว่างพนักงานสองคนเท่านั้น แต่โพสต์อื่น ๆ ก็มีพนักงานหลายคนที่ได้รับชม

ด้านเทสลาระบุใน ประกาศความเป็นส่วนตัวของลูกค้า ทางออนไลน์ว่า ภาพและคลิปที่บันทึกจากกล้องติดรถจะไม่มีการเปิดเผยตัวตน แต่อดีตพนักงาน 7 คนระบุว่า โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่พวกเขาใช้ในการทำงานสามารถแสดงตำแหน่งของภาพและคลิป ซึ่งอาจทำให้ทราบตำแหน่งที่อยู่ของเจ้าของรถได้

‘นครฉงชิ่ง’ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ลงนาม 70 โครงการใหญ่ ครอบคลุมอุตสาหกรรมหลักในพื้นที่ มูลค่าทะลุ 2 แสนล้านหยวน

เมื่อวันที่ (6 เม.ย. 66) สำนักข่าวซินหัว, ฉงชิ่ง รายงานว่า ทางการท้องถิ่นเทศบาลนครฉงชิ่ง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน รายงานว่า ฉงชิ่งได้ลงนามโครงการขนาดใหญ่ 70 โครงการ มูลค่าการลงทุนตามสัญญารวมกว่า 2.08 แสนล้านหยวน (ราว 1.02 ล้านล้านบาท) ในช่วงไตรมาสแรก (มกราคม-มีนาคม) ของปีนี้

พิธีลงนามร่วมถูกจัดขึ้นวันพฤหัสบดี (6 เม.ย.) ในเขตจิ่วหลงโพของฉงชิ่ง โดยการลงทุนใหม่เหล่านี้ จะครอบคลุมอุตสาหกรรมหลักต่าง ๆ อาทิ ยานยนต์พลังงานใหม่ (NEV) เชิงอัจฉริยะและเชื่อมต่อกับเครือข่าย แผงวงจรรวม ชีวการแพทย์ ซอฟต์แวร์ และนวัตกรรมวิทยาศาสตร์-เทคโนโลยี

เปลี่ยนป้ายทะเบียนรถในเมียนมา นัยป้องปรามการก่อความไม่สงบ

หลังจากเกิดรัฐประหารในเมียนมา เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ก็มีประกาศหนึ่งออกมาในเดือนกรกฎาคมปี 2564 คือ ประกาศให้เจ้าของรถยนต์ทุกคันต้องทำเรื่องจดแจ้งเพื่อเปลี่ยนทะเบียนรถจากแบบเดิมเป็นแบบใหม่ทั้งหมด โดยรถยนต์สาธารณะได้นำร่องให้เปลี่ยนก่อน ซึ่งเพิ่งจะสิ้นสุดเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมานี่เอง

ส่วนรถยนต์ส่วนบุคคล รวมถึงรถจักรยานยนต์จะต้องเปลี่ยนให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนเมษายนนี้ 

เรื่องนี้มีนัยสำคัญอะไร? มีแน่นอน!! แต่ก่อนจะไปถึงตรงนั้น วันนี้ เอย่า จะพาไปดูวิวัฒนาการของป้ายทะเบียนในเมียนมากันก่อน...

ป้ายทะเบียนรถในยุคแรกๆ ช่วงปี 1937-1953 จะเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษ 2 ตัวตามด้วยเลข 4 ตัว หลังจากนั้นก็เปลี่ยนแบบเป็นตัวอักษรเมียนมาทับแล้วตามด้วยเลขพม่า 4 ตัว ก่อนจะมาปรับอีกเล็กน้อยในช่วงปี 1988 เป็นขึ้นต้นด้วย เลขพม่าก่อน ตามด้วยตัวอักษรพม่า ทับและตามด้วยเลขพม่า 4 ตัว 

ในปี 2013 มีการปรับอีกครั้งให้เป็น ตัวเลขอารบิก ตามด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษ ขีดกลาง แล้วต่อด้วยเลขอารบิก 4 ตัว กำกับบนทะเบียนด้วย อักษรย่อแสดงถึงภูมิภาคที่รถคันดังกล่าวจดทะเบียน เช่น ย่างกุ้ง, บะโก, อิรวดี, ฉาน, มัณฑะเลย์ เป็นต้น

‘นักวิจัย’ เผยพฤติกรรม ‘แมงมุมใยกรวย’ เพศเมียแกล้งตาย ลวงแมงมุมตัวผู้ผสมพันธุ์ คลายกังวลถูกจับกินหลังเสร็จกิจ

เมื่อไม่นานมานี้ งานวิจัยล่าสุดจากออสเตรเลียไขปริศนาพฤติกรรมแปลกประหลาดของแมงมุมใยกรวย (funnel weaving spider) เพศเมียที่แกล้งตายระหว่างการจับคู่ผสมพันธุ์ โดยพบว่าเป็นกลวิธีดึงดูดเพศผู้ให้มาจับคู่ผสมพันธุ์โดยไม่ต้องกลัวว่าจะถูกจับกินเป็นอาหารหลังเสร็จกิจ

งานวิจัยชิ้นนี้ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Current Zoology ระบุว่า การแกล้งตายดังกล่าวช่วยให้แมงมุมเพศผู้คลายความวิตกกังวล และทำให้เพศเมียสามารถเลือกคู่ผสมพันธุ์ที่ดีที่สุดได้

แมงมุมใยกรวยเป็นตระกูลหนึ่งของแมงมุมที่ทอเส้นใยดักเหยื่อเป็นรูปทรงกรวย และมีพฤติกรรมที่เพศเมียมักจับเพศผู้กินเป็นอาหารในช่วงก่อน ระหว่าง หรือหลังจากกิจกรรมการผสมพันธุ์ ที่เรียกว่า sexual cannibalism ซึ่งนี่ทำให้แมงมุมตัวผู้ไม่ค่อยกล้าเสี่ยงชีวิตจับคู่ผสมพันธุ์กับตัวเมีย

ด้วยเหตุนี้ แมงมุมใยกรวยบางชนิดพันธุ์จึงพัฒนาพฤติกรรมแกล้งตายที่เรียกว่า sexual catalepsy โดยการงอขาและอยู่นิ่งไม่ไหวติงราวกับตายไปแล้ว เพื่อให้แมงมุมตัวผู้เข้าจับคู่ผสมพันธุ์โดยไม่ต้องกลัวว่าจะตกเป็นอาหารอันโอชะของเพศเมียหลังเสร็จกิจ

นักวิทยาศาสตร์ทราบเกี่ยวกับพฤติกรรม sexual catalepsy มาระยะหนึ่งแล้ว แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่านี่คือพฤติกรรมที่แมงมุมเพศเมียยอมแกล้งตายเองเพื่อดึงดูดเพศผู้มาผสมพันธุ์ด้วย หรือเป็นการควบคุมของเพศผู้ผ่านการกระตุ้นทางพฤติกรรม หรือการส่งสัญญาณทางเคมีบางอย่าง


ที่มา : https://www.bbc.com/thai/articles/ckv3y804g19o
 

จับโป๊ะ!! สื่อ ปชต.ในเมียนมา อ้างพบผู้หลบภัยไปยังวัดพม่าในไทย แต่สุดท้ายเป็นลูกหลานชาวเมียนมาดั้งเดิมที่อาศัยในเชียงใหม่

สื่อเมียนมาที่กล่าวอ้างว่าเป็นฝั่งประชาธิปไตยอย่างสำนักข่าว Irrawaddy news ได้ลงบทความว่า “ชาวเมียนมาหลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้านเพื่อเฉลิมฉลอง Thingyan” โดยยกภาพการเฉลิมฉลองเทศกาล Thingyan แบบพม่าของ 'วัดทรายมูลพม่า' ใน จ. เชียงใหม่ เมื่อปี 2016 ซึ่งเป็นภาพก่อนเกิดรัฐประหารตั้งหลายปีมาตีแผ่

แต่ประเด็นหนึ่งที่สำคัญคือ งานเฉลิมฉลองของ 'วัดทรายมูลพม่า' มีมาก่อนที่จะมีก่อนรัฐประหาร และเจ้าภาพก็คือ ลูกหลานชาวเมียนมา รวมถึงชาวเมียนมาและไทใหญ่ที่อาศัยอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้หลบหนีแต่อย่างใด 

ที่สำคัญมากกว่านั้นคือ ประเทศไทยเปิดรับนักท่องเที่ยวทุกชาติ หากเดินทางเข้ามาในประเทศไทยอย่างถูกต้อง!!

ช็อก!! ‘บ๊อบ ลี’ ผู้ก่อตั้งแอปฯ โอนเงิน Cash App ถูกแทงดับที่ซานฟรานซิสโก - ตร.เร่งสอบหาคนร้าย

‘บ็อบ ลี’ วัย 43 ปี ผู้ก่อตั้ง บริษัท Cash App ผู้ให้บริการแอปพลิเคชันโอนเงินออนไลน์ ถูกแทง 2 แผลที่หน้าอก เสียชีวิตที่ซานฟรานซิสโก ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งสืบสวนสอบสวนหาคนร้าย

ตำรวจ ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพียงแต่ระบุว่า พบว่า บ็อบ ลี มีบาดแผลถูกแทง ให้ความช่วยเหลือในจุดเกิดเหตุและนำส่งโรงพยาบาล San Francisco General Hospital แต่สุดท้ายเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุเกิดบนถนนในซานฟรานซิสโก เมื่อวันอังคาร (4 เม.ย.66) เวลา 02.35 ตามเวลาท้องถิ่น  

ครอบครัวของบ็อบ ลี นำโดย ลิค ลี โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ยืนยันว่า ลูกชายเสียชีวิตแล้ว เป็นการสูญเสียเพื่อนที่ดีที่สุด พร้อมทั้งขอบคุณคนที่ให้ความช่วยเหลือ  

ด้าน ทิม โอลิเวอร์ ลี น้องชาย ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กเช่นกันว่า พี่ชายเป็นคนที่ดีที่สุด โชคดีมากที่ได้เกิดและเติบโตมากับพี่ชาย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้เหมือนว่า ได้สูญเสียส่วนหนึ่งในชีวิตของตัวเองไป

ขณะที่มีอีกหลายคนโพสต์แสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น Bill Barhydt ซีอีโอของ Abra บริษัท cryptocurrency กล่าวบน Twitter ว่า บ็อบ ลี เป็นคนใจดีที่ไม่สมควรถูกฆ่า

อีลอน มัสก์ ผู้ก่อตั้งบริษัทเทสลา และเจ้าของทวิตเตอร์  ร่วมแสดงความเสียใจด้วย ระบุว่า เหตุอาชญากรรมความรุนแรงในซานฟรานซิสโกนั้นน่ากลัวมาก และเมื่อคนร้ายถูกจับกุม พวกเขาก็มักได้รับการปล่อยตัวทันที

รอน คอนเวย์ นักลงทุนร่วมทุนชื่อดัง ผู้ก่อตั้งบริษัทการลงทุน SV Angel ในซานฟรานซิสโก ทวีตข้อความขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของ บ็อบ ลี  และได้นึกถึงช่วงเวลาที่บ็อบ ลี พูดสร้างแรงบันดาลใจในงาน CEO Summit ในตอนนี้ เราได้สูญเสียนักประดิษฐ์ที่ยิ่งใหญ่ ภาวนาขอให้จับผู้ต้องสงสัยได้โดยเร็ว

ชุดนักเรียนไทย เสน่ห์ดึงดูดเมียนมา 'อยากใส่-อยากเรียน' ผลลัพธ์แห่ง Soft Power ที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่หมู่คนจีน

เราอาจจะเคยเห็นกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่แต่งตัวชุดนักเรียน ชุดนักศึกษา ตอนมาเที่ยวไทย จนกลายเป็นหนึ่งใน Soft Power ของไทยกันไปบ้างแล้ว

แต่ เอย่า ขอบอกเลยว่า ชุดนักเรียน-ชุดนักศึกษาไทย ไม่ได้บูมแค่ในหมู่คนจีนเท่านั้น หากแต่ยังเป็น Soft Power ที่ดังไกลมาถึงเมียนมาด้วยเช่นกัน

เอย่าขอยกเรื่องราว เช่นในปี พ.ศ. 2562 หลายปีก่อนที่ Soft Power ชุดนักเรียนจะเป็นที่รู้จักนั้น Han Lay ดารา และนางแบบสาวในเมียนมาก็เคยสวมชุดนักศึกษาไทยถ่ายแบบมาแล้ว  

หรือแม้เมื่อช่วงตุลาคมปีที่แล้ว (2565) May Thada Kyaw Phyu นางแบบวัยรุ่นที่ใครๆ รู้จักเธอในชื่อ Hillary Soe ก็สวมชุดนักเรียนไทยถ่ายแบบลงไอจีส่วนตัวของเธอ สร้างความฮือฮาให้แฟนคลับชาวไทยที่ติดตามเธออยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

แต่นอกจากเรื่องการสวมชุดเป็น Soft Power แล้ว ในทุกวันนี้สถาบันการศึกษาในไทยหลายแห่งเริ่มมีนักศึกษามาจากเมียนมาเข้ามาศึกษามากขึ้น ซึ่งต่างจากในอดีตที่นักศึกษาจากเมียนมาจะมาเรียนที่เอแบคหรือสถาบัน เอ ไอ ที หรือแม่ฟ้าหลวงเท่านั้น

นักชก 'สปป.ลาว' โร่แฉ ‘กัมพูชา’ โกงโบกาตอร์ ชิงแชมป์อาเซียน พร้อมโพสต์ระบาย!! “แพ้แบบไม่น่าเชื่อ ได้แต้มแต่ไม่ชนะ”

หลังจากที่มีข่าวว่า กัมพูชา ได้ จัดการแข่งขันกีฬา โบกาตอร์ ชิงแชมป์อาเซียน ครั้งที่ 1 เพื่อเป็นการทดสอบ และเตรียมความพร้อมก่อนที่จะจัดการแข่งขันในศึกซีเกมส์ 2023 ในครั้งนี้ 

โดยชิงชัยทั้งหมด 21 เหรียญทอง และมีชาติที่เข้าร่วมแข่งขันทั้งหมด 4 ประเทศ คือ กัมพูชา,  สปป.ลาว, เวียดนาม และ ฟิลิปปินส์

กัมพูชา กวาดเหรียญไปเกินครึ่งโดยมีผลงาน 11 เหรียญทอง 10 เหรียญเงิน 12 เหรียญทองแดงขณะที่อันดับ 2 ลาว คว้าไปได้ 5 เหรียญทอง 7 เหรียญเงิน 12 เหรียญทองแดง ตามด้วยอันดับ 3 เวียดนาม คว้าได้ 3 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน 3 เหรียญทองแดง และอันดับ 4 ฟิลิปปินส์ คว้าได้ 2 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 3 เหรียญทองแดง

'จัสติน ซุน' ศิษย์ 'แจ็ก หม่า' ผู้มั่นใจในอนาคตเงินคริปโต ถูก ก.ล.ต สหรัฐฯ แจ้งจับคดีฉ้อโกงปั่นเหรียญ Tron

'จัสติน ซุน' หรือ 'ซุน หยู่เฉิน' เป็นหนึ่งในนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่ศรัทธาในมูลค่าของทรัพย์สินดิจิทัล และสามารถบริหารแพลตฟอร์มซื้อขายเงินคริปโตของตัวเองที่ชื่อ Bittorent Inc. ได้ในวัยยังไม่ถึง 30 ปี และยังเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งเงินคริปโตที่ชื่อว่า Tron (TRX) ในปี 2018 ทำให้เขายืนอยู่ในจุดที่นักธุรกิจ รุ่นใหม่อยากจะไปให้ถึง

แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้ จัสติน ซุน ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างชาติว่า เขามี แจ็ก หม่า เป็นไอดอล และพี่เลี้ยงในการสร้างธุรกิจจากศูนย์สู่หมื่นล้าน โดยแต่แรกเริ่ม จัสติน ซุน เองไม่ได้มีพื้นฐานในด้านธุรกิจ หรือ เทคโนโลยีใด ๆ มาก่อน เขาจบปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ในสาขาประวัติศาสตร์ และ ไปต่อปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย ในด้านเอเชียศึกษา ซึ่งเขาเริ่มรู้จัก และสนใจในการทำธุรกิจคริปโตระหว่างที่ศึกษาต่อในสหรัฐอเมริกานี่เอง

พอจบกลับมา เขาตัดสินใจไปเข้าคอร์สด้านการทำธุรกิจที่สถาบันศึกษาศาสตร์แห่งการเป็นผู้ประกอบการ ของแจ็คหม่า ที่มณฑลเจ้อเจียง และเรียนรู้ที่จะลงทุนในธุรกิจเงินดิจิทัลที่นั่น

แม้ จัสติน ซุน จะชื่นชมในตัวแจ็ก หม่า อย่างมากและเขาเรียนรู้วิธีสร้างอาณาจักรธุรกิจจากสถาบันอบรมของแจ็ก หม่า หลายอย่าง ทั้งการสร้างมูลค่าให้กับองค์กร ที่ส่งผลให้หุ้นมีราคาจนสามารถขยายบริษัทจากหนึ่ง เป็นเครือข่ายที่มีพนักงานหลายพันได้ในเวลาไม่นาน อาทิ โมเดลการสร้าง Alibaba ของเขา แต่มีอยู่จุดหนึ่งที่เขา และ แจ็ก หม่า มีมุมมองต่างกัน 

โดยคนรุ่น แจ็ก หม่า เคยเชื่อว่าธุรกิจที่มีโอกาสทำเงินได้มหาศาลคือ กลุ่ม E-Commerce, ด้านการเงิน และ อสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นมุมมองของนักธุรกิจรุ่นเก่า ที่ตอนนี้มันอิ่มตัวไปแล้ว 

ส่วนในความคิดของจัสติน ซุน เขาเชื่อว่าเงินสกุลคริปโต และ เทคโนโลยี AI จะขับเคลื่อนโลกทั้งใบ และโอกาสในการสร้างธุรกิจของคนรุ่นใหม่ๆ อย่างพวกเขาจะอยู่ที่นั่น ยิ่งเมื่อได้เห็นนโยบายของรัฐบาลจีนที่เข้ามาควบคุมบริษัท Fin Tech เพราะหวั่นเกรงที่จะสูญเสียอำนาจในการควบคุมระบบการเงินของภาครัฐ อีกทั้ง บริษัท Ant Group ของ แจ็ก หม่า ถูกระงับการเข้าตลาดหลักทรัพย์จีนด้วยแล้ว จัสติน ซุน จึงตัดสินใจย้ายประเทศ ทิ้งสัญชาติจีนไปถือพาสปอร์ตเกรนาดา แล้วไปตั้งบริษัทพัฒนาเหรียญคริปโตของตัวเองในสิงคโปร์ ด้วยความเชื่อมั่นในการเติบโตของกระแสเงินคริปโต และการถือพาสปอร์ตต่างชาติช่วยเรื่องการเดินทางที่คล่องตัวกว่าในฐานะพลเมืองโลก 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top