Sunday, 25 May 2025
SPECIAL

ขอนแก่น - หอการค้าขอนแก่น ประกาศฉีดวัคซีนทางเลือกให้กับบุคลากรด่านหน้าด้านเศรษฐกิจ หลังราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์จัดสรร ชิโนฟาร์ม ให้ 2,400 โดส “ชาญณรงค์” ย้ำชัด ไทยเปิดประเทศ ทุกคนต้องเตรียมพร้อม เร่งประสาน สธ. พิจารณาจุดออกพาสต์ปอร์ตวัคซีนในระดับภูมิภาค ครอบคล

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 25 มิ.ย.2564 นายชาญณรงค์  บุริสตระกุล ประธานหอการค้า จ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้แจ้งยืนยันในการจัดสรรวัคซีนชิโนฟาร์มให้กับหอการค้าขอนแก่นแล้วจำนวน 2,400 โดส สำหรับการฉีดให้กับบุคลากรในองค์กร 1,200 คน โดยคาดว่าวัคซีนดังกล่าวนี้นั้น หอการค้าจะได้รับภายในสุดสัปดาห์นี้และเตรียมที่จะดำเนินการฉีดได้ภายในสัปดาห์หน้า โดยที่ได้มีการประสานงานร่วมกับ รพ.ราชพฤกษ์ ในการเป็นจุดให้บริการฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรในองค์กรตามที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์กำหนด ทำให้ขณะนี้คณะทำงานด้านวัคซีนหอการค้า จ.ขอนแก่น จะมีการประชุมพิจารณาบุคลากรที่จะเข้ารับวัคซีนดังกล่าวเป็นการเร่งด่วนเพื่อจัดส่งรายชื่อให้กับราชวิทยาลัยฯรวมทั้ง รพ.ราชพฤกษ์ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ตามแนวทางและนโยบายที่รัฐบาลกำหนด โดยผู้ที่จะเข้ารับวัคซีนนั้นจะเน้นหนักในกลุ่มบุคลากรด่านหน้าด้านเศรษฐกิจ

“รัฐบาลมีนโยบายที่ชัดเจนในการเปิดประเทศภายใน 120 วัน ขณะที่ มาตรการผ่อนคลาย จาก ศบค.และคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ ได้มีมติออกมาอย่างต่อเนื่อง จากสถานการณ์ที่คลี่คลายลงและประชาชนได้รับการฉีดวัคซีน จนนำมาสู่ภูมิคุ้มกันหมู่ที่เกิดขึ้นแล้วในหลายพื้นที่ และยังคงมีประชาชนที่รอขั้นตอนการฉีดตามการจัดสรรวัคซีนตามที่รัฐกำหนด ขณะที่แผนการกระตุ้นเศรษฐกิจในด้านต่าง ๆ เมื่อทุกอย่างผ่อนคลาย ภาคธุรกิจเอกชน การค้า และการลงทุน จะต้องทำทันที

ดังนั้นการจัดสรรวัคซีนทางเลือกนั้นจะเน้นหนักไปในกลุ่มบุคลากรด่านหน้าด้านเศรษฐกิจ ที่จะต้องเดินทางติดต่อประสานงาน ในธุรกิจที่เกี่ยวข้องที่เป็นสมาชิกของหอการค้าขอนแก่น กลุ่มนักธุรกิจที่จะต้องเดินทางไปต่างประเทศหลังจากการเปิดประเทศทันที กลุ่มธุรกิจขนส่งต่าง ๆ รวมไปถึงนักธุรกิจในกลุ่มที่เกี่ยวเนื่องกับด้านการค้าการลงทุนที่ต้องได้รับการฉีดวัคซีนและได้รับเอกสารยืนยันในการที่จะสามารถติดต่อ สื่อสาร เจรจาธุรกิจ และการลงทุนต่าง ๆ ทำให้ในระยะนี้คือการเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆของผู้ประกอบการที่จะก้าวเดินต่อไปข้างหน้าหลังสถานการณ์ต่าง ๆ ได้คลี่คลายลง”

นายชาญณรงค์ กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้การได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม เริ่มมีอย่างแพร่หลายแล้ว ซึ่งจะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่เกิดขึ้นครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วทั้งประเทศภายใต้มาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด อย่างไรก็ดีหอการค้าจะมีการประสานงานร่วมกับสำนักงานสาธารณสุข จ.ขอนแก่น ในการพิจารณาการออกพาสปอร์ตวัคซีนระดับภูมิภาค เนื่องจากขณะนี้การออกเอกสารดังกล่าวยังคงสามารถดำเนินการได้เฉพาะในเขตกรุงเทพฯ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และดอนเมือง

ดังนั้นเพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดและการลดการเดินทางเข้าพื้นที่เสียง ภาคธุรกิจเอกชนพร้อมที่จะให้การสนับสนุนคณะทำงานในการออกเอกสารดังกล่าวในระดับภูมิภาค ซึ่งอาจจะเน้นไปในพื้นที่จังหวัดหลักตามขออำนาจหน้าที่ที่กระรวงต่างประเทศรับผิดชอบที่มีการออกหนังสือเดินทางหรือพาสปอรต์อยู่แล้ว ให้สามารถออกพาสปอร์ตวัคซีนได้ควบคู่กันไปด้วยตามระเบียบที่กำหนด โดยอาจจะเริ่มจากขอนแก่น-เชียงใหม่และสงขลา ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานหนังสือเดินทางรวมทั้งสถานกงสุลจากนานาประเทศอยู่แล้ว

"ครูใหญ่" นำม็อบคณะราษฎรขอนแก่น ปักหมุดสะท้อนแสงกลางอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ประกาศชวนคนอีสานร่วมร่าง รธน.ฉบับคนอีสาน ต้นแบบ รธน.ไทยที่มาจากประชาชน พร้อมระบุลิเกโรงใหญ่ที่ทุกพรรคกำลังทำ ประชาชนต้องมีส่วนร่วมและวิจารณ์ได้อย่าหมกเม็ด

เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 24 มิ.ย. 2564 ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จ.ขอนแก่น ภายในศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเขตเทศบาลนครขอนแก่น. นายอรรถพล. บัวพัฒน์ หรือครูใหญ่ แกนนำกลุ่มราษฎรขอนแก่น พร้อมด้วยภาณุพงศ์ ศรีธนานุวัฒน์ หรือ ไนซ์ ดาวดิน นำกลุ่มผู้ชุมนุมจากเครือข่ายต่าง ๆ ในชื่อกลุ่มคณะราษฎรขอนแก่น อาทิ กลุ่มคนเสื้อแดงขอนแก่น,กลุ่ม ภาคีเครือข่ายนักเรียน KKC , กลุ่มขอนแก่น พอกันที และกลุ่มดาวดิน ได้รวมตัวกันจัดกิจกรรมคู่ขนานกับการชุมนุมใหญ่ที่กรุงเทพฯ โดยมีผู้ร่วมชุมนุมจากเครือข่ายต่าง ๆ เข้าร่วมชุมนุมอย่างพร้อมเพรียง ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบจำนวนมาก

โดยการจัดกิจกรรมนอกจากจะมีการร่วมลงรายชื่อคัดค้านร่างรัฐธรรมนูญแล้ว ยังคงมีการร่วมแสดงความคิดเห็นลงในป้ายผ้าตามการแสดงออกตามระบอบประชาธิปไตย การจัดโรงทานของผู้ให้การสนับสนุน การแสดงละครเชิงสัญลักษณ์ แต่ที่ได้รับความสนใจที่สุดคือการที่กลุ่มผู้ชุมนุมได้พร้อมใจร่วมกันปักหมุดคณะราษฎร์แบบสะท้อนแสงลงใจกลางอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อแสดงจุดยืนตามข้อเรียกร้อง 3 ข้อคือการให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา นายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่ง การแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญให้เป็นฉบับประชาชนและการปฎิรูปสถาบันกษัตริย์

นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือครูใหญ่ กล่าวว่า การชุมนุมวันนี้นอกจากจะเป็นการจัดกิจกรรมคู่ขนานกับการชุมนุมที่กรุงเทพฯแล้วมยังคงเป็นการประกาศความชัดเจนในการที่คนอีสานจะพร้อมใจร่วมกันร่างรัฐธรรมนูญฉบับของคนอีสาน ที่จะเป็นต้นแบบและโมเดลที่แสดงให้เห็นถึงว่ารัฐธรรมนูญของคนอีสานนั้นคือรัฐธรรมนูญที่มาจากประชาชนและเป็นของประชาชน โดยจากนี้ไปคณะทำงานร่วมทุกฝ่ายจะลงพื้นที่ตามแนวทางที่กำหนด

"ร่างรัฐธรรมนูญ ทั้ง 13 ร่างที่พรรคการเมทองเสนอมานั้ยยอมรับว่าบางส่วนนั้นเป็นไปตามข้อเรียกร้องแต่ก็ไม่ทั้งหมด  ซึ่งทุกคนก็รู้อยู่ว่าอะไรบ้างที่เราเรียกร้องและมีการรับฟังเสียงประชาชนหรือไม่ ซึ่งในการโหวตของ สส.และ สว.ต่อร่างรัฐธรรมนูญที่ที่ประชุมกำลังพิจารณานั้นก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นลิเกโรงใหญ่ ที่เหล่า สว. และ สส. ที่เป็นผู้ทรงเกียรตทั้งหลายกำลังต้มคนดูทั้งประเทศ"

นายอรรถพล กล่าวต่ออีกว่า เมื่อลิเกกำลังเล่น โดยมีประชาชนทั้งประเทศเป็นผู้ชม จะเล่นโรงเล็ก โรงใหญ่ผลการโหวตออกมาก็ชัดเจนอยู่แล้ว ดังนั้นคนดูก็จะวิจารณ์การเล่นลิเกละครโรงนี้ได้ทุกวัน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขลงพื้นที่สำรวจเหตุคนร้ายเป็นชาย ก่อเหตุบุกยิงโรงพยาบาลสนาม ภายในสถาบันธัญรักษ์ จ.ปทุมธานี

เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2564 เวลา 09.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ตรวจสอบคนร้ายบุกยิงที่โรงพยาบาลสนาม โดยมีนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี พลตำรวจโทคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ร้อยตำรวจเอก ดร.ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง นายกเทศมนตรีนครรังสิต ลงพื้นที่ร่วมสำรวจเหตุการณ์ หาหลักฐานเพิ่มเติม

จากกรณีคนร้ายเป็นชาย ก่อเหตุบุกยิงโรงพยาบาลสนาม ภายในสถาบันธัญรักษ์ จ.ปทุมธานี เป็นเหตุให้มีผู้ป่วยโควิด-19 เสียชีวิต 1 ราย ก่อนขับรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็กซ์ สีขาว 4 ประตู 3ฒข 6233 หนีไป โดยพบว่า วันเดียวกัน ยังก่อเหตุบุกยิงพนักงานร้านสะดวกซื้อเสียชีวิตในพื้นที่ ใกล้ปากซอยลาดพร้าว 25 ถนนลาดพร้าว แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร​ กทม. ล่าสุดเมื่อเวลา 12.20 น. นายกวิน มอบตัวกับตำรวจ พร้อมปืนพก 2 กระบอก หลังจากนั้นตำรวจได้คุมตัวไปสอบสวนต่อไป


ภาพ/ข่าว ประภาพรรณ ขาวขำ รายงาน

ระยอง - ผงะพบนมโรงเรียน เกือบ 1 พันกล่อง ถูกนำมาทิ้งไว้ในป่า ต.ห้วยโป่ง ระยอง

เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2554 ได้รับรายงานว่าจาก เหตุการณ์ ที่ผ่านมา พบนมกล่องจำนวนมากถูกขนมาทิ้งในซอยสุขุมวิท16 ต.ห้วยโป่ง โดย วันนี้ได้ลงพื้นที่บริเวณที่พบ เป็นลานกว้างไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ ติดกับกำแพงข้างโรงเรียนระยองวิทยาคม จากการสอบถามเบื้องต้นไม่ได้เป็นนมของโรงเรียนระยองวิทยาคม เพราะเป็นระดับมัธยม คาดว่าโรงเรียนที่แจกนมให้เด็กไม่หมด หรือเก็บไว้จนหมดอายุ ซึ่งจึงนำมาทิ้งไว้ จริงๆแล้วถ้าหากว่ามีการบริหารจัดการที่ดี นมเหล่านี้ไม่น่าจะถูกนำมาทิ้งอย่างไร้ค่าแบบนี้ เพราะนมเหล่านี้ก็คืองบประมาณที่ถูกจัดสรรมา เพื่อจัดซื้อนมให้เด็ก ๆ ได้ทานกัน ก็ควรแจกให้เด็ก ๆ ได้นำไปทานกันให้หมด หรือถ้าผู้ปกครองมารับไม่หมด ก็ควรมอบให้เด็กในโรงเรียนหรือคนยากจน น่าจะมีประโยชน์มากกว่านี้ 

โดยวันต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ได้พบเห็นกล่องที่ถูกนำมาทิ้งไว้หลังจากที่เป็นกระแสโซเชียลก็ได้ถูกเก็บและขนย้ายออกไปทิ้งบริเวณอื่นเพื่อทำลายหลักฐานหรือไม่แต่ก็ยัง คงเหลืออยู่ โดยเฉพาะหลอดที่มากับนม พบวางถูกทิ้งไว้ เกลื่อนกลาด ต่อมาได้มีการขุดคุ้ยในหลุมลึกก็ยังพบนมกล่องอยู่จำนวนมาก คาดว่าน่าจะรีบมีการขนย้ายออกจากพื้นที่ดังกล่าว ในกรณีเร่งด่วน โดยไม่ทราบว่ามาจากที่ใด
เบื้องต้น นาย ชาญชนะ เอื่ยมแสงผู้ว่าราชการจังหวัดระยองทราบเรื่องแล้ว โดยได้สั่งการไปที่ นายถวิล โพธิบัวทอง นายกเทศมนตรีเมืองมาบตาพุด ได้ลงมาตรวจสอบ แล้วจะ ดำเนินการหาข้อมูลตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป


ภาพ/ข่าว นายราชัญ กองทอง ผู้สื่อข่าวจังหวัดระยอง / ธีรวัฒน์ อินธิพันธ์ รายงาน

กระบี่- นายอำเภอคลองท่อม สั่งปิดโรงเรียนและศูนย์พัฒนาเด็กเล็กทุกโรงเรียน ในเขตตำบลคลองท่อมใต้ จ.กระบี่ หลังพบครูและเด็กนักเรียนติดเชื้อโควิด-19

จากคลัสเตอร์งานฌาปนกิจ ที่วัดคลองที่อม อ.คลองท่อม จ.กระบี่ พบผู้ติดเชื้อแล้ว 23 ราย ขณะที่ยอดติดเชื้อสะสมทั้งจังหวัด 388 ราย

นายไพศาล ศรีเทพนายอำเภอคลองท่อม ได้ออกประกาศแจ้งปิดโรงเรียนและศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เนื่องด้วยสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 คลัสเตอร์ใหม่พบผู้ป่วยจำนวนมากในกลุ่มผู้ที่มาร่วมงานบำเพ็ญกุศลศพที่วัดคลองท่อม ต.คลองท่อมใต้ อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ระหว่างวันที่ 12-17 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมาและมีความเชื่อมโยงระหว่างการระบาดไปยังผู้ปกครองครูพี่เลี้ยงเด็กและผู้ที่ไปร่วมงานบำเพ็ญกุศลศพตามวันเวลาสถานที่ดังกล่าว เพื่อเป็นการป้องกันและควบคุมการระบาดโรคไวรัสโคโรนา 2019 ไม่ให้เกิดการระบาดในวงกว้าง และเพื่อลดความเสี่ยงของการระบาดคัตเตอร์ในกลุ่มครูบุคลากรทางการศึกษานักเรียนครูพี่เลี้ยงเด็กวัยก่อนเรียน ผู้ปกครองนักเรียนทางอำเภอคลองท่อมจึงขอความร่วมมือในการปิดโรงเรียนทุกโรงทุกสังกัดและศูนย์พัฒนาเด็กเล็กทุกแห่งในเขตตำบลคลองท่อมใต้ตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน ถึงวันที่ 6 กรกฎาคม 2564

สำหรับคลัสเตอร์งานบำเพ็ญกุศลศพที่วัดคลองท่อม ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกระบี่ ทำการค้นหาเชิงรุก ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง และผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ ทั้งหมดในพื้นที่กว่า 500 ราย ตั้งแต่วันที่ 21 -23 มิ.ย. ที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อสะสมแล้วจำนวน 23 ราย ซึ่งในซึ่งในจำนวนนี้มี ครู นักเรียน ผู้ปกครอง และมีนักเรียนที่ต้องไปกักตัวในสถานที่รัฐอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งอยู่ระหว่างรอผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19

ส่วนคลัสเตอร์จากมัรกัสยะลา พบผู้ติดเชื้อสะสม ทั้งหมด 22 ราย แยกเป็นนักเรียนฮาฟิซ 18 คน  และชาวบ้านที่มาจากพื้นที่ในจ.ยะลา 4 คน ซึ่งได้มีการกักตัวกลุ่มเสียผู้สัมผัสเสียงสูงเป็นเวลา 14 วัน

อย่างไรก็ตามจะสถานการณ์ที่มีการระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ในจังหวัดกระบี่ พบผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 388 ราย  รักษาตัวที่รพ. 73 ราย รักษาหายและออกจาก รพ.315 ราย


ภาพ/ข่าว  ณัฏฐพงษ์ ศรีปล้อง รายงาน

ระยอง - "คลัสเตอร์ฟาร์มเห็ดติดโควิดพุ่ง 105 ราย" พ่อเมืองระยอง สั่งตั้ง รพ.สนามในฟาร์มเห็ด พร้อมเร่งตรวจคัดกรองเชิงรุกหาผู้ติดเชื้อในพื้นที่ ป้องกันการแพร่ระบาด

เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.2564 ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอแกลง อ.แกลง จ.ระยอง นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผวจ.ระยอง เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอแกลง เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัด และอำเภอแกลง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ใน บ.ฟาร์มเห็ดระยองแอนด์วีวีไบโอเท็ค จำกัด ม.5 ต.เนินฆ้อ อ.แกลง  ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อที่เป็นแรงงานทั้งชาวไทย กัมพูชา และพม่าแล้ว รวม 105 ราย ก่อนจะเดินทางไปตรวจสถานที่ฟาร์มเห็ด และตรวจความพร้อมสถานที่ที่จะใช้เป็นที่กักตัวเฝ้าระวังผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อภายในฟาร์มเห็ดดังกล่าว 2 แห่ง คือสถานปฏิบัติธรรม มณฑป ม.3 ต.เนินฆ้อ และโรงแรมแห่งหนึ่งริมชายหาดแหลมแม่พิมพ์ ต.กร่ำ ซึ่งเจ้าของเป็นญาติกับเจ้าของฟาร์มเห็ด

นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผวจ.ระยอง กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับฟังรายงานสถานการณ์ พบฟาร์มเห็ดดังกล่าว มีแรงงานทั้งชาวไทยและต่างด้าว ทำงานอยู่ จำนวน 159 คน ซึ่งสภาพสถานที่ทำงานเป็นห้องแอร์ แออัด เหมาะกับแพร่เชื้อ โดยพบผู้ติดเชื้อแล้ว จำนวน 105 รายแล้ว ได้มีการนำตัวเข้ารักษาเรียบร้อยแล้ว ส่วนคนงานที่เหลือ และผู้สัมผัสใกล้ชิด จำนวน 71 คน ซึ่งส่วนใหญ่ไปเช่าบ้านพักนอกฟาร์มเห็ด เนื่องจากในฟาร์มเห็ด ไม่มีที่พัก ทั้งนี้ได้สั่งการให้ตามตัวเข้ามารับการกักตัวภายใน รพ.สนามที่ฟาร์มเห็ด และสถานที่กักตัวทั้ง 2 แห่งที่เตรียมไว้โดยด่วนแล้ว รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่เร่งคัดกรองชาวบ้านใกล้ฟาร์มเห็ด 2 หมู่บ้าน คือ ม.5 ต.เนินฆ้อ และ ม.3 ต.กร่ำ และหมู่บ้านอื่นตำบลใกล้เคียงด้วย ซึ่งหากมีความจำเป็นก็ต้องมีการปิดหมู่บ้าน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดต่อไป

นอกจากนี้ยังมีการสั่งปิดตลาดนัดทั่วทั้งอำเภอ ยกเว้นตลาดที่มีมาตรฐาน และปิดโรงเรียนอีก 3 แห่ง คือ โรงเรียนวัดกลางกร่ำ โรงเรียนวัดพลงช้างเผือก และโรงเรียนวัดเขากระโดน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในวงกว้างอีกด้วย


ภาพ/ข่าว  วฐิต กลางนอก / ธีรวัฒน์ อินธิพันธ์ รายงาน

อุทัยธานี - จัดกิจกรรมจิตอาสาภัยพิบัติ อำนวยความสะดวก และดูแลการดำเนินงานฉีดวัคซีนโควิด-19

ผู้ช่วยศาสตราจารย์พิเศษ ดร. อลงกต วรกี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ร่วมกับ นาย จงโปรด เขตต์กรณ์ นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ ดำเนินการจัดกิจกรรมจิตอาสาภัยพิบัติ อำนวยความสะดวก และดูแลการดำเนินงานฉีดวัคซีนโควิด-19 จังหวัดอุทัยธานี ณ ศูนย์กีฬาเยาวชนเทศบาลเมืองอุทัยธานี ตำบลอุทัยใหม่ อำเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี

ดำเนินการ โดยมีผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด 19 รวมจำนวน 290 คน  โดยมีประชาชนจังหวัดอุทัยธานี มีความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี และเกิดความจงรักภักดี สถาบันชาติ สถาบันศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์


ภาพ/ข่าว  ภาวิณี ศรีอนันต์ รายงาน

ชลบุรี - พัทยาเปิดตัวโครงการ "พัทยาพร้อม" ให้ ปชช.ลงทะเบียนจองฉีดวัคซีน 28 มิ.ย.- 2 ก.ค.64

วันที่ 24 มิ.ย.64 ที่ห้องประชุมศาลาว่าการเมืองพัทยา จ.ชลบุรี นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา และคณะผู้บริหารเมืองพัทยา ร่วมแถลงข่าวโครงการ "เมืองพัทยาพร้อม" ที่เปิดให้ประชาชนจองฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม หลังจากเมืองพัทยาได้ประสานงานสั่งจองวัคซีนซิโนฟาร์ม จากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์จำนวน 1 แสนโดส รองรับประชาชนชาวเมืองพัทยาจำนวน 5 หมื่นคน

สำหรับช่องทางการให้บริการประชาชนเข้ารับฉีดวัคซีน ทั้งแบบฟอร์มออนไลน์ผ่าน google from "พัทยาพร้อม "https://sites.google.com/view/pattayaready และบริการลงทะเบียนให้ประชาชนที่ไม่มีความชำนาญเรื่องการลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์

รวมทั้งสิ้น 8 จุดลงทะเบียน ประกอบด้วย การกำกับดูแลของสำนักสาธารณสุขเมืองพัทยา จะมี 4 จุดลงทะเบียน คือ 1.บริเวณหน้าห้องกลุ่มกฎหมาย ชั้น 1 อาคาร 2 ศาลาว่าการเมืองพัทยา 2.โรงพยาบาลเมืองพัทยา 3.ศูนย์แพทย์ชุมชน วัดบุณย์กัญจนาราม และบริเวณริมชายหาด ตรงข้ามซอย 6 ถนนเลียบชายหาดเมืองพัทยา

ในส่วนของการกำกับดูแลของสำนักการพัฒนาสังคม ได้ร่วมกับ อสม. ลงพื้นที่ตั้งหน่วยรับลงทะเบียน 4 จุด คือ 1.โรงเรียนเมืองพัทยา 2 (เจริญราษฎร์อุทิศ) 2.โรงเรียนเมืองพัทยา 5 (บ้านเนินพัทธยาเหนือ) 3.โรงเรียนเมืองพัทยา 8 (พัทธยานุกูล) และ 4.โรงเรียนเมืองพัทยา 11 (สาธิตอุดมศึกษา)

สำหรับจุดรับลงทะเบียนวัคซีนทางเลือก จะทำการตั้งแต่ 9.00-15.00 น. เพื่อสนับสนุนการอำนวยความสะดวกให้บริการประชาชนได้รับทราบและเข้าถึงการให้บริการวัคซีนซิโนฟาร์มได้อย่างครอบคลุม โดยประชาชนชาวเมืองที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตเมืองพัทยาอย่างน้อย 1 ปี จะสามารถลงทะเบียนพัทยาพร้อม ได้ตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย.ถึงวันที่ 2 ก.ค.64

นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา กล่าวว่า เมืองพัทยาได้หาทางจัดสรรให้ประชาชนได้รับบริการวัคซีนทั้งที่มีชื่ออยู่ในเขตเมืองพัทยา และประชากรแฝงที่มาทำงานในเขตเมืองพัทยา และพื้นที่ใกล้เคียง รวมแล้วกว่า 3 แสนคน โดยมีช่องทางต่าง ๆ ที่ทำให้ได้รับการสนับสนุนวัคซีนอย่างต่อเนื่อง ทั้งการลงทะเบียนหมอพร้อม และกลุ่มประกันสังคม

สำหรับวัคซีนทางเลือก วัคซีนซิโนฟาร์มที่เมืองพัทยาได้สั่งไปนั้น เป็นการสนับสนุนการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้กับประชาชนที่ชื่อมีทะเบียนบ้านอยู่ในเมืองพัทยาอย่างน้อย 1 ปี เพื่อเตรียมพร้อมเปิดประเทศตามแนวทางรัฐบาล เพราะเป็นกลุ่มที่มีบัญชีรายชื่อตามทะเบียนราษฎร์อยู่แล้ว

ในส่วนของประชาชนผู้ที่ลงทะเบียนไว้ก่อนแล้ว แต่อยากมาลงทะเบียนพัทยาพร้อม ก็สามารถมาลงทะเบียนเพิ่มเติมได้เลย ทางระบบจะมีการจัดการข้อมูลการจัดสรรและให้บริการวัคซีนตามความเหมาะสม และจะมีช่องทางการลงทะเบียนสำหรับประชาชนที่มีทะเบียนบ้านอยู่ในเมืองพัทยา แต่อาศัยไม่ถึง 1 ปี และประชาชนที่ไม่มีทะเบียนบ้านในเขตเมืองพัทยา เพื่อเป็นข้อมูลในการจัดสรรวัคซีนตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม สำหรับชาวต่างชาติและต่างด้าว ตอนนี้จะมีบริการวัคซีน ในพื้นที่การแพร่ระบาดเท่านั้น ซึ่งเมืองพัทยา จะมีการเปิดรับลงทะเบียน สำหรับกลุ่มนี้ด้วยเช่นกัน แต่ต้องรอการลำดับในการจัดการให้เสร็จสิ้นก่อน


ภาพ/ข่าว  นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี

กระบี่ - แม่ค้าขายทุเรียน โดนเอง สั่งซื้อทุเรียนพันธุ์หมอนทอง จากล้งทุเรียนรายใหญ่ 3 รอบ เจอทุเรียนอ่อนปะปนมากกว่า 500 กก.

วันที่ 24 มิ.ย.64 หลังจากที่สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดกระบี่ ได้บูรณาการกำลังเจ้าหน้าที่ สุ่มตรวจแผงจำหน่ายทุเรียน ในพื้นที่ จ.กระบี่ เพื่อป้องกันการนำทุเรียนอ่อน ออกมาจำหน่าย ได้รับการร้องเรียนจากแม่ค้าบางรายว่า ถูกพ่อค้าทุเรียนรายใหญ่ ขายทุเรียนอ่อนปะปนมากับทุเรียนแก่ เมื่อนำมาขายให้กับลูกค้า ก็ถูกลูกค้าเอาทุเรียนมาคืน เนื่องจากรับประทานไม่ได้ ทำให้ขาดทุนแล้วหลายหมื่นบาท 

นางอรจิตร พันทรภาค แม่ค้าทุเรียนรายย่อย ในพื้นที่ จ.กระบี่ กล่าวว่า หลังจากที่ตนได้สั่งซื้อทุเรียนพันธุ์หมอนทองจากล้งทุเรียนรายใหญ่ ในพื้นที่จังหวัดชุมพร มาประมาณ 3 ครั้ง ในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมาเพื่อมาจำหน่ายให้กับลูกค้าในพื้นที่ครั้งละ 1-2 ตันพบว่ามีทุเรียนอ่อนปะปนมาด้วยทุกครั้ง รวมแล้วกว่า 500 กิโลกรัม คิดเป็นเงินกว่า 60,000 บาท

นางอรจิตร กล่าวอีกว่า สำหรับแม่ค้ารายย่อย ไม่ได้มีเจตนาจะจำหน่ายทุเรียนอ่อน และหากว่าลูกค้าที่ซื้อทุเรียนไปเจอทุเรียนอ่อนตนก็จะให้นำมาคืนทุกราย ซึ่งปัญหาทุเรียนอ่อนที่พบอยู่ทำแผงขายทุเรียนปัญหาเกิดจากต้นทางก็คือล้งทุเรียนรายใหญ่ เพราะทุกครั้งที่พวกตนสั่งซื้อไม่สามารถที่จะเข้าไปเลือกทุเรียนได้ ทางล้งหรือพ่อค้ารายใหญ่ก็จะเป็นคนจัดการให้ทั้งหมด

นางสมถวิล กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ได้กำชับให้คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ประจำจังหวัด เฝ้าระวังและติดตามการจำหน่ายทุเรียนด้อยคุณภาพ (ทุเรียนอ่อน) เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับความเป็นธรรมจากการซื้อสินค้าดังกล่าว โดยพบว่าทุเรียนที่พ่อค้าแม่ค้า นำมาจำหน่ายตามแผงขาย ได้สั่งซื้อมาจากล้งในจังหวัดชุมพร โดยมีทุเรียนอ่อนปะปนมาด้วย แต่พบว่าพ่อค้า แม่ค้า ได้ทำการเก็บไม่ได้นำออกมาจำหน่าย และเตรียมส่งคืนให้กับล้ง เบื้องต้นได้กำชับห้ามนำออกจำหน่ายอย่างเด็ดขาด


ภาพ/ข่าว  ณัฏฐพงษ์ ศรีปล้อง รายงาน

เชียงใหม่ - เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ต้อนรับการเปิดให้บริการ เชิญชมสมาชิกใหม่ พร้อมประกวดตั้งชื่อ “ลูกเลียงผา" (Serows) หนึ่งในสัตว์ป่าสงวนของประเทศไทย

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 24 มิถุนายน 2564 สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) โดยสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ต้อนรับการเปิดให้บริการอีกครั้ง ด้วยสมาชิกใหม่ “ลูกเลียงผา" (Serows) เป็นสัตว์ 1 ใน 15 สัตว์ป่าสงวนของประเทศไทย จำนวน 1 ตัว พร้อมเชิญชวนร่วมประกวดตั้งชื่อ ลุ้นรับรางวัลจากเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี

นายเบญจพล นาคประเสริฐ กรรมการบริหาร ปฏิบัติหน้าที่แทน ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร เปิดเผยว่า หลังจากที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีได้กลับมาเปิดให้บริการตามปกติแล้วนั้น วันนี้เชียงใหม่ไนท์ซาฟารียังได้สมาชิกใหม่ “ลูกเลียงผา" (Serows) แห่งโซนซาวันน่า ซาฟารี  จำนวน 1 ตัว ยังไม่ทราบเพศ เกิดเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2564 เกิดจาก “พ่อตองหก" และ “แม่ปริฉัตร" ขณะนี้ลูกเลียงผามีสุขภาพร่างกายแข็งแรง และได้รับการเลี้ยงดูแบบธรรมชาติจากแม่ปริฉัตร โดยอยู่ภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่ ในส่วนจัดแสดงซาวันน่า ซาฟารี ซึ่งปัจจุบันเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี มีเลียงผาทั้งหมด 7 ตัว และนักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมความน่ารักของ “ลูกเลียงผา" ได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 13.00 – 20.00 น.

นอกจากนี้ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีขอเชิญชวนร่วมประกวดตั้งชื่อให้ “ลูกเลียงผา” (Serows) ลุ้นรับรางวัลบัตรเข้าชม จำนวน 1 รางวัล (2 ใบ) และเสื้อยืด ลาย Limited จากเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี โดยสามารถร่วมตั้งชื่อได้ที่ Facebook : เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี Chiang Mai Night Safari ตั้งแต่บัดนี้ - วันที่ 30 มิถุนายน 2564 และประกาศผลวันที่ 1 กรกฎาคม 2564

สำหรับ “เลียงผา" (Serows) เป็น 1 ใน 15 ชนิด ของสัตว์ป่าสงวนของประเทศไทย เป็นสัตว์ที่มีประสาทหู ตา และรับกลิ่นได้ดี เมื่อโตเต็มที่มีความสูงที่ไหล่ประมาณ 1 เมตร ขายาวและแข็งแรง ใบหูยาวคล้ายใบหูลา ขนตามลำตัวค่อนข้างยาว หยาบและมีสีดำ ด้านท้องขนสีจางกว่า มีขนเป็นแผงยาวบนสันคอและสันหลัง มีเขาทั้งในตัวผู้และตัวเมีย เขามีลักษณะตอนโคนกลม หยักเป็นวงแหวนโดยรอบค่อยๆ เรียวไปทางปลายเขาโค้ง ไปทางด้านหลังเล็กน้อย เลียงผากินพืชต่างๆ ทุกชนิด และผสมพันธุ์ในช่วงปลายเดือนตุลาคม โดยใช้เวลาตั้งท้องราว 7 เดือน

ทั้งนี้ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีได้เน้นย้ำมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด - 19 ที่มีการเฝ้าระวังมาอย่างต่อเนื่องและเคร่งครัด เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว รวมทั้งเพื่อความปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด - 19 นักท่องเที่ยวต้องปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด โดยต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้ง พร้อมตรวจคัดกรองผ่านกล้องโทรทัศน์วงจรปิดชนิดตรวจวัดอุณหภูมิความร้อน และนักท่องเที่ยวต้องลงทะเบียนจองคิวนั่งรถชมสัตว์ก่อนเข้าใช้บริการในช่องทางออนไลน์เท่านั้น โดยทำการจองได้ที่ www.chiangmainightsafari.com และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ Facebook : เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี Chiang Mai Night Safari หรือ Line OA : nightsafari หรือ IG และ Tiktok : chiangmainightsafari หรือ โทร. 053 - 999000


ภาพ/ข่าว  นภาพร/เชียงใหม่

"กลุ่มราษฎรขอนแก่น" จัดฟรีม็อบชิมลาง วันแรก คู่ขนานเวทีชุมนุมใหญ่ นักเรียน-นักศึกษา ร่วมชุมนุมคึกคัก ขณะที่แกนนำเผยชุมนุมใหญ่พรุ่งนี้ที่ขอนแก่นสนุกแน่ !!

เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 23 มิ.ย.2564  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณด้านหน้าศูนย์อาหารและบริการ 1 มหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือ คอมเพล็กซ์ มข. กลุ่มราษฎรขอนแก่น ได้จัดกิจกรรมการชุมนุมในชื่อ "ทวงคืนวันชาติหยุดผูกขาดรัฐธรรมนูญ" ด้วยการตั้งโต๊ะให้ผู้ที่มาร่วมชุมนุมได้ลงชื่อคัดค้านร่างรัฐธรรมนูญ ที่กำลังพิจารณา รวมทั้งการเชิญชวนให้นักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ลงชื่อเพื่อให้มหาวิทยาลัยขอนแก่นเยียวยาลดค่าเทอม 30% จากการจัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กำลังเกิดขึ้น รวมทั้งการเชิญชวนให้ชาวขอนแก่นได้ออกมาร่วมชุมนุมใหญ่ ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ภายในศาลเจ้าพ่อหลักเมืองขอนแก่น คู่ขนานกับการชุมนุมใหญ่ที่กรุงเทพฯในวันพรุ่งนี้ ( 24 มิ.ย.)ท่ามกลางความสนใจของชาวขอนแก่น นักเรียน นักศึกษาเข้าร่วมชุมนุมเป็นจำนวนมาก

นายภาณุพงศ์ ศรีธนานุวัตร หรือ ไนซ์ดาวดิน กล่าวว่า การชุมนุมวันแรกวันนี้ ต้องเรียงแบบแยกประเด็นเริ่มจากประเด็นการทวงคืนค่าเทอม 30 % เนื่องจากสถานการณ์โควิด ซึ่งมหาวิทยาลัยจัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์ ดังนั้นค่าเทอมที่จ่ายไปจะมีค่าบำรุงรักษาสถานที่ที่ไม่ต้องใช้อะไร ดังนั้นในส่วนนี้ก็ควรจะคืนให้กับนักศึกษา ในประเด็นต่อมาคือเรื่องการบริหารสถานการณ์โควิดที่รัฐบาลล้มเหลวอย่างเห็นได้ชัด

"ประเด็นที่ 3 เป็นประเด็นของนักเรียน ว่าด้วย พรบ.การศึกษาที่ถูกวางยุทธศาสตร์ให้กดขี่นักเรียนกดขี่ยัดเยียดสิ่งที่รัฐต้องการให้นักเรียน ประเด็นที่ 4 เป็นประเด็นเรื่องการพิพากษาร่างรัฐธรรมนูญของพรรคพลังประชารัฐที่จะถูกยื่นเข้าไปในการประชุมสัปดาห์นี้ ประเด็นที่ 5 เป็นเรื่องรัฐธรรมนูญของประชาชนที่จะเป็นของประชาชน และสุดท้ายคือจุดยืนในสถานการณ์การบริหารบ้านเมืองแบบนี้ที่ทุกคนจะร่วมกันต่อสู้ต่อไป อย่างไรก็ดีสำหรับแกนนำผู้ชุมนุม ซึ่งส่วนใหญ่คือกลุ่มเพื่อนของเราที่โดนคดีไปหลาย ทำให้การเคลื่อนไหวของพวกเราสะดุด ซึ่งเราเชื่อว่าสิ่งที่เราทำเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพราะเป็นสิ่งที่เรียกร้องความเป็นธรรมให้กับประเทศกลับคืนมา"

นายภาณุพงศ์ กล่าวต่ออีกว่า การเคลื่อนของเราจะไม่สะดุดหายไปเป็นเพราะสถานการณ์โควิคที่เราพยายามจะออกมาจัดกิจกรรมให้เกิดการรวมตัวกันน้อยที่สุด ขณะที่การจัดกิจกรรมในวันนี้และวันพรุ่งนี้ (24 มิ.ย.) เป็นการจัดกิจกรรมคู่ขนานกับกรุงเทพฯ ที่ทุกคนจะออกมาประกาศจุดยืนของกลุ่มราษฎรขอนแก่นออกมาประกาศจุดยืนว่าร่างรัฐธรรมนูพรรคพลังประชารัฐที่ยื่นเข้าไปไม่ยึดโยงกับประชาชน จึงเป็นสิ่งที่คณะราษฎรขอนแก่นขอประกาศจุดยืนตรงนี้

" กลุ่มราษฎรขอนแก่นจะทวงคืนวันชาติหยุดผูกขาดรัฐธรรมนูญก็จะเป็นวัตถุประสงค์เพื่อการรำลึกและการทวงคืนว่าวันชาติของฝั่งประชาธิปไตยคือวันนี้และอีกส่วนหนึ่งในวันพรุ่งนี้จะมีการประกาศขบวนร่างรัฐธรรมนูญของอีสานซึ่งตอนนี้เรามีหลักการใหญ่ๆคือต้องมีส่วนร่วมของประชาชน  ที่ตรวจสอบได้  โดยมีการรับฟังความต้องการของประชาชนทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่ต่อสู้เรื่องทรัพยากรธรรมชาติ,กลุ่มเสื้อแดงอีสานหรือกลุ่มนักเรียนนักศึกษา ซึ่งเราเน้นเรื่องกระบวนการการมีส่วนร่วมกระบวนการที่เราจะเข้าไปหาพี่น้องในแต่ละกลุ่มเพื่อที่จะระดมความคิดเห็นและนำมาจัดทำร่างขึ้นมาอีกครั้ง"

ด่วน !! ปปท.เขต 8 ควงปปช.พังงา ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการเสาไฟฟ้าประติมากรรมของเทศบาลเมืองพังงา พบเกือบ 200 ต้น วงเงินกว่า 24 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2564 นายณัฐรดา ศิริวัฒนกุล ผอ.กลุ่มงานป้องกันการทุจริตในภาครัฐ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เขต 8  (สำนักงาน ปปท. เขต 8) พร้อมด้วยนางอรดี ไกรยุทธศักดิ์ ผอ.สำนักงานปปช.ประจำจังหวัดพังงา นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบโครงการเสาไฟฟ้าประติมากรรมของเทศบาลเมืองพังงา หลังจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่าเป็นโครงการที่ไม่คุ้มกับเงินงบประมาณและไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้จริง โดยมีนายจงรัก ผิวขำ ปลัดเทศบาลเมืองพังงา นำเจ้าหน้าที่พร้อมด้วยเอกสารการจัดซื้อจัดจ้างเข้าชี้แจง

นายจงรัก ผิวขำ เปิดเผยว่า โครงการก่อสร้างเสาไฟฟ้าประติมากรรมเริ่มสร้างครั้งแรก 4 ต้นเป็นเสาไฟฟ้าประติมากรรมกินรี ที่วงเวียนเขาตาปู เมื่อปี 2547 จากนั้นในปี 2554 ได้สร้างเสาไฟประติมากรรมกินรีเพิ่มอีก3ต้นที่วงเวียนเขาตาปู สร้างเสาไฟประติมากรรมรูปช้างหมอบชูงวงอีก 54 ต้น รวม 4 สัญญา วงเงิน 9,599,190 บาท ในปี 2555 สร้างเสาไฟประติมากรรมรูปช้างหมอบชูงวง 39ต้น สร้างเสาไฟฟ้าเหล็กรีดปลาย 35 ต้น ติดตั้งเสาไฟฟ้าแสงสว่าง 36 ต้น รวม 4 สัญญา ราคา 5,750,000 บาท ในปี 2559 สร้างเสาไฟประติมากรรมรูปช้างหมอบชูงวง 69 ต้น รวม 3 สัญญา ราคา 12,279,850 บาทและในปี 2561 สร้างเสาไฟฟ้าประติมากรรมกินรี 8 ต้น 1สัญญาราคา 450,000 บาท รวมโครงการสร้างเสาไฟฟ้าประติมากรรมทั้งหมด 177 ต้น เสาไฟฟ้าแสงสว่างเหล็กรีดปลายอีก 71 ต้น งบประมาณรวมทั้งหมด 24,809,040 บาท ซึ่งโครงการทั้งหมดนี้เป็นโครงการที่ต้องการสร้างจุดเด่นส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่ และใช้ประโยชน์ได้จริง และจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบทางราชการทุกโครงการ

นายณัฐรดา ศิริวัฒนกุล เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบในวันนี้ในทางกายภาพเบื้องต้นพบว่าเสาไฟฟ้าประติมากรรมของทางเทศบาลเมืองพังงา มีความเหมาะสมติดตั้งอยู่บนถนนสายหลัก ระยะห่างก็เหมาะสมดี รวมทั้งสามารถใช้งานได้จริง ในส่วนของการจัดซื้อจัดจ้างนั้นทางสำนักงานปปช.ประจำจังหวัดพังงาจะเป็นหน่วยงานที่เข้าตรวจสอบว่ามีความโปร่งใส หรือจะมีการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้รับจ้างรายหนึ่งรายใดหรือไม่ สำหรับพื้นที่จังหวัดพังงามีการร้องเรียนให้ตรวจสอบเสาไฟฟ้ารวม 3 เทศบาล ประกอบด้วยเทศบาลเมืองพังงา เทศบาลเมืองตะกั่วป่า และเทศบาลตำบลทับปุด


ภาพ/ข่าว  อโนทัย งานดี /พังงา

ชลบุรี – ฐานทัพเรือสัตหีบ มอบรางวัลการประกวดบ้านพักให้กำลังพล ตามโครงการ ‘หน้าบ้านน่ามอง ในบ้านน่าอยู่ เหล่านาวีมีสุข’

วันนี้ 22 มิ.ย.64 พลเรือโท อนุชาติ อินทรเสน ผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ มาเป็นประธานในพิธีมอบรางวัลการประกวดบ้านพักและอาคารที่พักอาศัย ของฐานทัพเรือสัตหีบ (แบบ New Normal) ณ สโมสรสัญญาบัตร ฐานทัพเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยมี คณะผู้บังคับบัญชา ข้าราชการ ทหาร ตลอดจนผู้ที่ได้รับรางวัล เข้าร่วมในพิธี

ตามนโยบาย ผบ.ทร. ประจำปีงบประมาณ 2564 ด้านสวัสดิการ ดำเนินการจัดการ เรื่องสวัสดิการที่พักของ ทร.ทั้งบ้านพักหน่วยและบ้านพักส่วนกลางของ ทร.ต้องเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ถูกต้องตามระเบียบฯ และมีรูปแบบการบริหารจัดการที่มีความเป็นมาตรฐานเดียวกัน ตอบสนองต่อความมีสวัสดิการที่ดีของกำลังพล ทร.ในทุกระดับอย่างแท้จริง

คณะทำงานจัดประกวดบ้านพักและอาคารที่พักอาศัย (จร.ทร.) ได้ดำเนินการโครงการ “หน้าบ้านน่ามอง ในบ้านน่าอยู่ เหล่านาวีมีสุข” โดยการจัดประกวดบ้านพักแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ประเภทแฟลต ประเภทเรือนแถว และประเภทบ้าน (บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด) และแบ่งการประกวดออกเป็น 2 ระดับ คือ ในระดับ ทร. และระดับพื้นที่ฐานทัพเรือสัตหีบ ได้ดำเนินการตามนโยบาย ผบ.ทร. โดยการจัดโครงการประกวดบ้านพักและอาคารที่พักส่วนกลางในระดับพื้นที่ ซึ่งขอให้หน่วยที่รับผิดชอบบ้านพักและอาคารที่พักอาศัยในเขตพื้นที่ ดำเนินการออกตรวจบ้านพักและให้คะแนนในรอบแรก เสร็จแล้วให้สรุปคะแนนส่งผลให้คณะกรรมการจัดประกวดบ้านพักของฐานทัพเรือสัตหีบทราบ หลังจากนั้น คณะกรรมการฯ ได้ออกตรวจบ้านพักและอาคารที่พักฯ เพื่อให้คะแนนในรอบสุดท้ายต่อไป ในการนี้ คณะกรรมการฯ ได้ตัดสินการประกวดฯ เสร็จเรียบร้อยแล้ว มีผู้ได้รับรางวัลการประกวดฯ รวมทั้งสิ้น 35 รางวัล

พลเรือโท อนุชาติ อินทรเสน กล่าวว่า ขอชื่นชมและขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับรางวัลการประกวดบ้านพักฯทุกท่านวันนี้ ทุกท่านได้แสดงความตั้งใจความร่วมมือร่วมใจกัน ของการเข้ามามีส่วนร่วมดำเนินกิจกรรมในโครงการฯจนบรรลุวัตถุประสงค์ตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารเรือซึ่งในอนาคตผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกท่านจะช่วยกันและดูแลบ้านพักและอาคารที่พักอาศัยให้มีความสะอาดเรียบร้อยอยู่เสมอตลอดไปเป็นตัวอย่างที่ดีแก่อาคารที่พัก อาศัยอื่น ๆ


ภาพ/ข่าว  นิราช ทิพย์ศรี / นันทพล  ทิพย์ศรี  อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม มอบนโยบายและสิ่งของบำรุงขวัญ แก่กำลังพลในสังกัดสำนักงาน ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก

ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก  อ.แม่สอด จ.ตาก พลตำรวจโท สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม มอบนโยบายและสิ่งของบำรุงขวัญ แก่กำลังพลในสังกัด สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก โดยมี พ.ต.อ.สัมพันธ์ เหลืองสัจจกุล ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตากพร้อมเจ้าหน้าที่กำลังพลให้การต้อนรับอย่างพร้อมเพรียง เริ่มจากการสักการะสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และไหว้พระภูมิเจ้าที่ ประจำสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก ตรวจกำลังพล พร้อมมอบสิ่งของบำรุงขวัญแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก และต่อด้วยการประชุมบรรยายสรุปของหน่วยงานและมอบนโยบายตามลำดับ

พลตำรวจโท สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กล่าวว่า การลงพื้นที่ในการตรวจเยี่ยมในครั้งนี้ตามคำสั่งของ ท่าน ผบ.ตร.ให้มากวดขันด้านการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง ซึ่งอาจนำเชื้อไวรัสโควิด-19 เข้ามาในประเทสไทยได้ โดยเป็นไปตามนโยบายของท่านพลเอกประยุทธน์  จันโอชานายกรัฐมนตรี ในวันนี้จึงลงพื้นที่มาดูการปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึง การปราบปรามบ่อนพนันออนไลน์ ตามนโยบายของรัฐบาล พร้อมกันนี้ยังได้นำสิ่งของมามอบเพื่อปลอบขวัญ บำรุงขวัญ เป็นไปตามนโยบายของ ผบ.ตร. ต้องขอบขอบคุณในการต้อนรับและความพร้อมในการปฏิบัติ ก็ต้องขอชมเชยและฝากให้ทุกคนระมัดระวังการปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วย


ภาพ/ข่าว  วรภา พันลุตัน จ.ตาก

มทบ.32 ร่วมปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมใน พท.ลำปาง

วันที่ 22 มิถุนายน 2564 ณ ลานหน้าสถานีตำรวจภูธรเมืองลำปาง ตำบลเวียงเหนือ อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง พลตรี อโณทัย ชัยมงคล ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 ร่วมปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม ประจำไตรมาสที่ 3 โดยมีพลตำรวจตรี นันทวิทย์ เทียมบุญธง เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยพันเอก โสภณ โสภณ นันทสุวรรณ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดลำปาง นายวาทิต ปัญญาคม นายอำเภอเมืองลำปาง ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดลำปาง ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ร่วมพิธีปล่อยแถว

ด้วยสถานการณ์ที่ผ่านมา มีการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 มาอย่างต่อเนื่อง เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ประชาชนไม่มีงานทำและขาดรายได้เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้มีแนวโน้มในการเกิดอาชญากรรมมาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงได้มีการสั่งการให้มีการระดมกวาดล้างอาชญากรรมและทำการปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมประจำไตรมาสที่ 3 ขึ้น เพื่อเป็นการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม ที่มีผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่จังหวัดลำปาง รวมทั้งเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบถึงมาตรการในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมดังกล่าว ตามสั่งการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและตำรวจภูธรภาค 5 ตำรวจภูธรจังหวัดลำปางจึงได้กำหนดให้มีการปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมประจำไตรมาสที่ 3 ขึ้นในวันนี้

ตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง จึงได้บูรณาการหน่วยงานภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ มณฑลทหารบกที่ 32 ,กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดลำปาง,ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดลำปาง,ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง,อำเภอเมืองลำปาง,ศบภ.จังหวัดลำปาง,สมาคมกู้ภัยลำปาง,สมาคมกู้ภัยสว่างนครลำปางธรรมสถาน ,อส.ตบ. จำนวน 200 นายเพื่อรวมพลังในการป้องกันปราบปราม และแก้ไขปัญหาอาชญากรรม เพื่อร่วมเดินหน้าเมืองลำปาง “สุข ทุกด้าน”


ภาพ/ข่าว  ภาวินันท์ บุตรหล้า รายงาน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top