Monday, 20 May 2024
WEEKEND NEWS

“วรวัจน์”ปิ๊งไอเดีย ‘ข้าวหลามตามสั่ง’ จับมือเชฟดัง จัดแข่งแปรรูปอาหารไทยใส่กระบอกข้าวหลามสร้างรายได้ปชช.

เมื่อวันที่ 3 กันยายน นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล คณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า ตน ร่วมกับนายชุมพล แจ้งไพร เชฟมิชลินสตาร์ 2 ดาว คิดพัฒนาแปรรูปอาหารไทยโดยเฉพาะอาหารสตรีทฟู๊ดให้ออกมาในรูปแบบของข้าวหลามกระบอกเล็กๆ เพราะทำให้สามารถพกพาง่าย นำขึ้นเครื่องบินได้ง่าย ติดตัวเดินทางได้สะดวก และสามารถนำมาอุ่นรับประทานได้ทุกที่ ทุกเวลา ซึ่งการคิดพัฒนาแปรรูปอาหารไทยครั้งนี้สืบเนื่องจากการสำรวจความต้องการของตลาดทั้งไทย และต่างประเทศ พบว่าปัจจุบันประชากรที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ทั่วโลกจำนวนมากอาศัยอยู่บนอาคาร ตึกแถว และคอนโดมิเนียมที่มีกฏห้ามใช้เตาแก๊สในการประกอบอาหาร หรือที่อยู่อาศัยไม่เอื้ออำนวยต่อทำอาหารที่มีกลิ่นรับประทาน ทำให้เกิดความต้องการอาหารสำเร็จรูปอย่างมาก ซึ่งตนเห็นว่า นี่เป็นทางหนึ่งในการเพิ่มรายได้ และเพิ่มช่องทางในการทำเงินให้กับพี่น้องประชาชน นอกจากนี้ เรามีแนวคิดที่จะใช้นวัตกรรม “ไนโตรเฟรช” ซึ่งเป็นการใช้ไนโตรเจนเหลวคงความสดใหม่ของอาหารให้อร่อยเหมือนเพิ่งปรุงเสร็จใหม่ และเก็บได้ยาวนานกว่า 2 ปี เข้ามาแก้ปัญหาเรื่องการเก็บรักษาอาหาร เพื่อให้ประชาชนสามารถนำข้าวหลามไนโตรเฟรชส่งออกไปขายทั่วโลกได้ในอนาคตด้วย

'หมอเหรียญทอง' เปิดวิธีการตบทรัพย์ 'เกรียนคีย์บอร์ด' อย่างถูกต้องตามกฎหมาย หารายได้พิเศษแบบ ‘งานอดิเรกลาภ’

4 ก.ย.2565 – พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า

“การตบทรัพย์พวกเกรียนคีย์บอร์ดอย่างถูกต้องตามกฎหมาย” คือ ‘งานอดิเรกลาภ’ สำหรับผู้ที่มีความประสงค์ต้องการหารายได้จากผู้แชร์เฟคนิวส์หรือหมิ่นประมาท พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา มีขั้นตอนและวิธีการปฏิบัติดังนี้

1] ขอให้ท่านเลือกเฉพาะคนที่ปรากฎชื่อ-นามสกุล มีตัวตนชัดเจน พวกอวตารอย่าไปเสียเวลา

2] จากนั้นดูโปรไฟล์ หากเป็นคนที่มีการงาน มีการศึกษา มีอนาคต คนกลุ่มนี้จะสามารถจ่ายเงินเจรจายอมความ ยิ่งถ้ามีวิชาชีพ มีตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือเป็นเจ้าของกิจการด้วยแล้ว ยิ่งดี เพราะจะเจรจายอมความด้วยเงินจำนวนมาก ทีมงานของผมเคยกดหมอ 2 คนจนได้รับเงินเจรจายอมความมากถึง 50,000 บาทต่อคน จากกรณีแพทย์หมิ่นประมาทผม

3] เมื่อดำเนินการตามข้อ 1] และ 2] แล้ว ผมขอให้ท่านไปศึกษาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความผิด พ.ร.บ.คอมฯ ว่าบุคคลที่ท่านจะดำเนินการนั้นเข้าข่ายมาตราใดเสียก่อน จากนั้นค่อยดูต่อว่าเข้าข่ายหมิ่นประมาทอีกหรือไม่ หากเข้าข่ายแค่ พ.ร.บ.คอมฯ จากแชร์เฟคนิวส์ ก็ดำเนินการแค่นั้น (แค่นี้ก็หนักหนาต้องติดคุกแล้ว) การที่ผมขอให้ท่านศึกษาข้อกฎหมายจะทำให้ท่านมีความเข้าใจเป็นพื้นฐาน ท่านสามารถศึกษาได้จากกูเกิ้ล ไม่ต้องถึงกับเรียนนิติศาสตร์กันจนจบหรอกครับ หากินง่ายๆอย่างนี้แหละ ลูกน้องผมคนหนึ่งเลิกรับจ้างทวงหนี้ เปลี่ยนมาหารายได้พิเศษจากการไล่ล่าอย่างนี้ดีกว่า ทั้งยังถูกต้องตามกฎหมายด้วย

4] เมื่อชัดเจนตามข้อ 1] 2] และ 3] แล้วให้ติดต่อ 02-574-5000 ต่อ 8800 สนง.ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ

5] ทีมงานของผมจะตรวจสอบความสมบูรณ์ถูกต้องแล้วจะแจ้งให้ทราบภายใน 7 วัน

6] หากตรวจสอบแล้วอยู่ในหลักเกณฑ์แจ้งความดำเนินคดีได้ ทีมงานของผมจะส่ง’หนังสือมอบอำนาจ’ ไปให้ท่านทางไปรษณีย์ โดยทีมงานของผมจะระบุวิธีการปฏิบัติ เช่น ให้ใช้การแจ้งความกับ ตร.ที่ สน. หรือหากท่านเป็นทนายความเองก็ให้ฟ้องศาล เป็นต้น ทั้งนี้ทีมงานของผมจะระบุรายละเอียดอื่นๆให้ท่านสามารถปฏิบัติได้

7] เมื่อท่านได้รับ’หนังสือมอบอำนาจ’ จากผมแล้ว ท่านก็ดำเนินการตามข้อ 6]

8] เมื่อตำรวจมีหมายถึงผู้ต้องหาแล้ว หากผู้ต้องหาไม่ไกล่เกลี่ย ก็จะส่งอัยการ ดังนั้นการไกล่เกลี่ยในขั้นตอนนี้ ท่านสามารถรับการเจรจายอมความ อัตราเงินที่ส่วนใหญ่จะยอมไม่ต่ำกว่า 5,000-6,000 บาท หากเลยชั้นตำรวจไปยังอัยการกอัตราเงินยอมความก็จะสูงขึ้น 7,000-8,000 บาท และเมื่อส่งตัวฟ้องศาล ซึ่งผู้ต้องหาหรือ/จำเลยจะต้องประกันตัวโดยใช้เงินมากถึง 10,000 บาท เมื่อถึงขั้นตอนนี้จำเลยก็มักจะยอมจ่ายเงิน 8,000-9,000 บาท เพื่อยอมความ เพราะดีกว่าต้องเสียเงินประกันตัวศาล 10,000 บาทแถมยังต้องจ้างทนายความสู้คดีในชั้นศาลอีก ยังไม่นับรวมหากศาลพิพากษาจำคุกก็ยิ่งลากยาวไปอีกนาน

9] เงินที่ผู้ต้องหาหรือจำเลยเจรจายอมความ ให้ท่านรับไปทั้งหมด ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ประจำปี

10] ในกรณีที่ท่านเป็นทนายความและต้องการฟ้องตรง ก็ขอให้ดำเนินการตามข้อ 2] ให้เลือกรายที่มีฐานะดีๆ ท่านจะได้ลาภลอยครับ

ท่ามกลางวิกฤติราคาพลังงานที่แผ่ขยายไปทั้่วโลก หลากหลายมาตรการถูกงัดมาใช้รับมืออย่างเต็มที่ ประเทศไหนทำอะไรบ้าง ไปดูกัน

จากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ทางสหภาพยุโรปได้ประกาศคว่ำบาตรรัสเซีย ขณะที่รัสเซียได้ตอบโต้โดยการไม่ส่งก๊าซธรรรมชาติและน้ำมันไปให้ในหลายประเทศยุโรป ส่งผลให้เกิดวิกฤติพลังงานในยุโรปและส่งผลกระทบไปทั่วโลกในขณะนี้ 

แม้กระทั่งประเทศในภูมิภาคเอเชีย ต่างก็เผชิญกับความท้าทายจากวิกฤติการณ์พลังงานครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี ในบางประเทศราคาพลังงานพุ่งสูงเป็นประวัติการ รวมถึงขาดแคลนพลังงาน โดยเฉพาะน้ำมันอย่างหนัก ยกตัวอย่าง เช่น ศรีลังกา เป็นต้น

แน่นอนว่า วิกฤติราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ หลายๆ ประเทศ จึงมีมาตรการประหยัดพลังงานออกมาช่วยบรรเทาสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

ไทย – รณรงค์ประหยัดพลังงานผ่านแนวทาง 4ป. 3ช.

สำหรับประเทศไทยเอง มีมาตรการด้านการประหยัดพลังงานออกมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ การกำหนดมาตรฐานเครื่องใช้ไฟฟ้า เบอร์ 5 

ล่าสุด ภายใต้แคมเปญ 'ทราบแล้วเปลี่ยน' เป็นการรณรงค์ให้ทุกคนประหยัดพลังงาน ผ่านภาพยนตร์โฆษณาที่สื่อสารออกมาตรงๆ เลยว่า “ไม่ต้องประหยัดพลังงานเพื่อใคร ให้ประหยัดพลังงานเพื่อตนเอง” 

โดยแนะนำเคล็ดลับประหยัดพลังงานที่เรียกว่า 4 ป. 3 ช. ซึ่งเป็นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้พลังงานที่ทุกคนสามารถทำตามได้ง่ายๆ แต่จะช่วยประหยัดพลังงานได้อย่างมหาศาล ดังนี้...

>> 4 ป. ได้แก่ ปิดไฟ ปรับแอร์ ปลดปลั๊ก เปลี่ยนเป็นเบอร์ 5 
>> และ 3 ช. ได้แก่ เช็กรถ ชัวร์เส้นทาง ใช้รถสาธารณะ

แคนาดา-จัดเก็บภาษีรถยนต์ที่ไม่ประหยัดพลังงาน

รัฐบาลแคนาดา ได้จัดทำข้อตกลงระหว่างรัฐต่าง ๆ ให้ออกมาตรการประหยัดพลังงานของอาคาร และอุปกรณ์พลังงานต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนเป้าหมายการอนุรักษ์พลังงานของประเทศ 

ขณะที่ในภาคขนส่งได้ออกกฎหมาย (Green Lavy) เพื่อจัดเก็บภาษีรถยนต์ที่ไม่ประหยัดพลังงาน เช่น รถประเภท Station Wagons รถเอสยูวี เป็นต้น โดยการคำนวณภาษีจะขึ้นอยู่กับอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันของรถดังกล่าว

ฝรั่งเศส-ห้ามเปิดไฟป้ายโฆษณาช่วงตี 1 ถึง 6 โมงเช้า

เนื่องจากฝรั่งเศสพึ่งพาก๊าซจากรัสเซียถึง 1 ใน 5 ดังนั้นเมื่อช่วงกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา รัฐบาลได้ประกาศแผนพลังงาน energy sobriety โดยอยู่ระหว่างการดำเนินการร่างแผนงานที่เกี่ยวข้องเพื่อผลักดันให้เกิดมาตรการประหยัดพลังงานในฝรั่งเศส โดยตั้งเป้าหมายลดการใช้พลังงานลงร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับปี 2019 ภายในปี 2024

นอกจากนี้ รัฐบาลยังออกมาตรการประหยัดพลังงานโดยให้ห้างร้านต่างๆ ร่วมมือกันปิดประตูเข้าออก ในขณะเปิดเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความร้อน และห้ามเปิดใช้ป้ายโฆษณาที่ใช้ไฟส่องสว่างในทุกเมืองระหว่างช่วงเวลา 1.00 น. ถึง 6.00 น. ซึ่งเป็นมาตรการที่บังคับใช้กับเมืองที่มีประชากรน้อยกว่า 800,000 คน 

เยอรมนี-อาคารสาธารณะ ห้ามเปิดฮีตเตอร์เกิน 19 องศา

ภายหลังสหภาพยุโรปคว่ำบาตรรัสเซีย ทำให้เยอรมนีปรับลดการนำเข้าก๊าซจากรัสเซียลงเหลือเพียง 35% จากเดิมที่พึ่งพาการนำเข้ามากถึง 55% พร้อมทั้งให้คำมั่นว่าจะยุติการนำเข้าทั้งหมด แน่นอนว่า ย่อมส่งผลกระทบต่อพลังงานภายในประเทศอย่างหนัก และรัฐบาลได้ออกมาตรการประหยัดพลังงานสำหรับช่วงฤดูหนาว โดยจะจำกัดการใช้ไฟฟ้าภายในอาคารสาธารณะและอาคารสำนักงานต่างๆ ให้ปิดเครื่องทำความร้อนในห้องที่ไม่คนใช้งาน 

และนับตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นไป อาคารสาธารณะนอกเหนือจากโรงพยาบาล จะต้องจำกัดอุณหภูมิเครื่องทำความร้อนอยู่ที่ 19 องศาเซลเซียส

สเปน-แนะเอกชนเลิกผูกเนกไทไปทำงาน ช่วยประหยัดพลังงาน 

นายเปโดร ซานเชซ นายกรัฐมนตรีของประเทศสเปน เรียกร้องให้รัฐมนตรี เจ้าหน้าที่ของรัฐ และพนักงานบริษัทเอกชนเลิกผูกเนกไทไปทำงานเพื่อช่วยประหยัดพลังงาน รวมถึงการรณรงค์ให้บริษัทต่าง ๆ ปิดประตูเพื่อกันความร้อนจากอากาศด้านนอกเข้ามาภายในอาคาร ช่วยลดการทำงานของเครื่องปรับอากาศ

อินเดีย-สิ่งปลูกสร้างใหม่ ต้องเป็นไปตามข้อกำหนดด้านประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
.
รัฐบาลอินเดีย ได้ออกมาตรการสำหรับการปลูกสร้างอาคารที่พักอาศัยใหม่ โดยจะกำหนดให้ อาคารที่พักอาศัยปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ซึ่งคาดว่าจะประหยัดไฟฟฟ้าได้ราว 120,000 ล้านรูปี ภายในยปี 2573 เพื่อลดการผลิตไฟฟ้า 3 แสนล้านหน่วย

‘สันติธาร เสถียรไทย’ โพสต์ 3 ข้อคิดความต่างระหว่างเจน ชี้ ความแตกต่างระหว่างวัยมีมากกว่าที่คิด ต้องฝึกฝนความเข้าใจคนต่างรุ่น เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้ง

สืบเนื่องจากกรณีประเด็นดราม่าที่เกิดขึ้น ภายหลังจาก ‘หนุ่ย - พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์’ พิธีกรด้านไอทีชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กถึงพฤติกรรมของนักศึกษาฝึกงานในบริษัท พร้อมติดแฮชแท็ก #ฝึกงานแบไต๋ ว่ามีน้องสองคนที่มาฝึกงานไม่ทักทาย ไม่มีปฏิสัมพันธ์กับใครในบริษัทตลอด 3 เดือน แม้จะทำงานที่ได้รับมอบหมายได้ดี แต่ดูเหมือนตั้งใจจะไม่สื่อสาร และไม่ใส่ใจกับคนอื่น จนประเด็นดังกล่าวถูกแชร์ต่อ และมี ดราม่า ถกเถียงในโลกออนไลน์ สุดท้าย ทำให้สุดท้าย หนุ่ย พงศ์สุข ต้องออกมาขอโทษ ที่ทำการสื่อสารเรื่องราวนี้อย่างไม่สมควรด้วยประการทั้งปวง

ล่าสุด นายสันติธาร เสถียรไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่ Sea Grou บุตรชาย นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตนักการเมืองชื่อดัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘สันติธาร เสถียรไทย – Dr Santitarn Sathirathai’ เรื่องความต่างระหว่างรุ่น (Gen-เจน) โดยได้เสนอ 3 ข้อคิดที่น่าสนใจว่า..

3 ข้อคิดเรื่องความต่างระหว่างรุ่น (Gen)

เมื่อปีก่อนผมได้มีโอกาสได้ทำงานกลุ่มศึกษาเรื่องความขัดแย้งระหว่างรุ่นในประเทศไทย โดยโปรเจ็คนี้เป็นการบ้านสำหรับโปรแกรมที่ผมเข้าไปเรียนชื่อ Rule of Law for Development (RoLD) จัดโดยสถาบันเพื่อการยุติธรรมประเทศไทย (TIJ)

การศึกษาครั้งนั้นทำให้ผมได้เปิดหูเปิดตาหลายประเด็นที่ไม่เคยรู้มาก่อนและคิดว่าอาจจะพอมีประโยชน์สำหรับการเข้าใจความต่างระหว่างรุ่นที่มีการพูดคุยกันในสังคมช่วงนี้ จึงอยากหยิบข้อคิดบางส่วนที่ได้มาแชร์ตรงนี้ 3 ข้อ

1.ความขัดแย้งระหว่างรุ่นไม่ได้มีแต่ในเรื่องการเมืองเท่านั้น

ในช่วงปีก่อนพอมีคนรู้ว่าทำการศึกษาเรื่องขัดแย้งระหว่างรุ่นบางคนจะถามทันทีว่า “ทำไมถึงคิดว่าความขัดแย้งทางการเมืองถึงเป็นเรื่องระหว่างรุ่น มันอาจจะเป็นเรื่องความต่างอื่นๆไม่เกี่ยวกับรุ่นก็ได้” ซึ่งสะท้อนแนวคิดของคนช่วงนั้นว่าหัวข้อเรื่องระหว่างรุ่นนั้นต้องเกี่ยวกับมิติการเมืองแน่ ๆ แต่เราพบว่ามันเป็นคนละเรื่องกัน เรื่องการเมืองอาจไม่เกี่ยวกับรุ่นเลยและเรื่องช่องว่างระหว่างรุ่นก็อาจไม่เกี่ยวกับการเมืองเลยเช่นกัน หรือพูดอีกอย่างก็คือต่อให้ไม่มีเรื่องการเมืองเลยความแตกต่างระหว่างรุ่นก็มีพอที่ในบางครั้งบางโอกาสอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด ขัดแย้งขึ้นได้ในองค์กรต่างๆ หรือในสังคม

กลุ่มเราศึกษาจึงเจาะเรื่องความต่างระหว่างรุ่นที่ไม่ได้เกี่ยวกับประเด็นทางการเมือง (ไม่งั้นกลัวยาวเรียนไม่จบ)

อัปเดตราคา 'หมู-เนื้อ-ไก่'

อัปเดตราคาอาหารสดวันนี้ มาดูกันว่าตามท้องตลาด ราคาอาหารสด ประจำวันที่ 4 กันยายน 2565 จะเพิ่มขึ้นหรือลดลงแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็น ราคาหมู ราคาไก่ ราคาไข่ไก่ รวมไปถึงราคาผักสด เช็กกันเลย...

‘อนุชา’ เผย ก่อสร้างรถไฟฟ้า 3 สาย คืบ “สายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง -สายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี เล็งทดสอบเดินรถ ต.ค.นี้ ก่อนเปิดใช้ปี 66 

เมื่อวันที่ 4 ก.ย.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการก่อสร้างรถไฟฟ้า 3 สาย ในกทม.และปริมณฑล ว่า โครงการรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (โมโนเรล) สายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว - สำโรง ดำเนินงาน งานโยธา 94.99% งานระบบรถไฟฟ้า M&E มีความก้าวหน้า 93.99% ความก้าวหน้าโดยรวม 94.56% ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย - มีนบุรี ดำเนินงาน งานโยธา 91.74% งานระบบรถไฟฟ้า M&E มีความก้าวหน้า 89.39% ความก้าวหน้าโดยรวม 90.55% 

โดยทั้งสองมีแผนสำหรับการทดสอบเดินรถเสมือนจริง ภายในเดือน ต.ค.นี้ ก่อนจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบทั้งสองเส้นทางในปี 2566  ขณะที่โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) มีความก้าวหน้าผลการดำเนินงาน 95.94% เร็วกว่าแผน 0.24%

ธรรมะประจำวันอาทิตย์ที่ 4 กันยายน 2565 : หลวงปู่ดุล อตุโล

ศัตรู ก็คือ ใจของเรานั่นเอง
อยากจะชนะสิ่งใด
จงชนะใจตนเองให้ได้ก่อน
เป็นนายของใจตนเองให้ได้ก่อน
ชีวิตจะพบกับ
ความสำเร็จได้ไม่ยากเลย

หลวงปู่ดุล อตุโล

ผู้บัญชาการทหารเรือ ส่งสารเชิดชูเกียรติอดีตนักดำเรือดำน้ำ ครบรอบ 85 ปี “วันเรือดำน้ำ” ประจำปี 2565

(3 ก.ย.65) ที่บริเวณหน้ากองบัญชาการ กองเรือดำน้ำ กองเรือยุทธการ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พลเรือเอก สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ มอบหมายให้ พลเรือเอก สุวิน แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เป็นผู้แทนอ่านสารและจัดกิจกรรมเนื่องใน “วันเรือดำน้ำ” ครบรอบปีที่ 85 เพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติ ให้แก่อดีตทหารเรือ ที่เป็นนักดำเรือดำน้ำ และรำลึกถึงอดีตนักดำเรือดำน้ำผู้ล่วงลับไปแล้ว ตลอดจนรำลึกประวัติศาสตร์ การมีเรือดำน้ำของกองทัพเรือ โดยมี พลเรือตรีพงษ์ศักดิ์ สมบุญ ผู้บัญชาการกองเรือดำน้ำ กองเรือยุทธการ นำกำลังพลและญาติของอดีตนักดำเรือดำน้ำ ร่วมให้การต้อนรับ

โดยสารจาก ผู้บัญชาการทหารเรือ มีใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า ในวาระที่วันเรือดำน้ำ เวียนมาบรรจบครบรอบ ปีที่ 85 ในวันที่ 4 กันยายน พ.ศ.2565 นี้ ขอเชิญชวนท่านทั้งหลายน้อมรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ และจอมพลเรือ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ที่ได้ทรงวางรากฐานกิจการเรือดำน้ำ ให้แก่กองทัพเรือและพร้อมใจกันร่วมเชิดชูเกียรติประวัติของกำลังพลประจำเรือดำน้ำ แห่งราชนาวีไทยในอดีต ที่ปฏิบัติหน้าที่โดยกล้าหาญ ทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจ กำลังสติปัญญาสละเลือดเนื้อและชีวิตให้กับกองทัพเรือ และอธิปไตยของประเทศชาติ

ปัจจุบัน ประเทศไทยมีผลประโยชน์ทางทะเล นับเป็นหลายล้านล้านบาทต่อปี และนับวันจะทวีมูลค่ามากขึ้นในอนาคต ดังนั้นการปกป้องผลประโยชน์ของชาติทางทะเล โดยการเสริมสร้างกำลังทางเรือจึงเป็นความจำเป็น เพื่อให้มีกำลังทางเรือที่สมดุลทัดเทียมกันในภูมิภาค หรือเพื่อให้มีศักยภาพในการรบที่ใกล้เคียงกันหรือเหนือกว่า ทั้งนี้ ในปัจจุบันประเทศต่างๆ ในภูมิภาค ได้เสริมสร้างกำลังทางเรือเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะกำลังเรือดำน้ำ ทำให้เมื่อเปรียบเทียบขีดความสามารถของกำลังทางเรือแล้ว กองทัพเรือ มีความเสียเปรียบอย่างยิ่ง จึงมีความจำเป็นต้องจัดหาเรือดำน้ำเข้าประจำการ จึงจะรักษาสมดุลย์กำลังทางเรือ ในการรักษาความมั่นคงทางทะเลในปัจจุบันได้ โดยเรือดำน้ำ ถือเป็นเรือรบที่มีศักยภาพสูงที่สุดในบรรดาเรือรบด้วยกัน เป็นอาวุธที่มองไม่เห็น ตรวจจับยาก ปฏิบัติการได้ไกล และมีอำนาจการทำลายรุนแรง สามารถสร้างความยำเกรงให้กับฝ่ายตรงข้ามที่มีกำลังทางเรือเหนือกว่าอย่างมากได้ เรือดำน้ำจึงจะเข้ามาเสริมเติมเต็ม ให้กองทัพเรือ มีขีดความสามารถครบทุกมิติ คือ ผิวน้ำ ใต้น้ำ และ ในอากาศ ซึ่งจะเป็นหลักประกันในการรักษาอธิปไตยและผลประโยชน์ของชาติอย่างมั่นคงสืบไป

3 กันยายน 2565 งานวันคล้ายวันสถาปนาสำนักงานประกันสังคม ครบรอบ 32 ปี

วันที่ 3 กันยายน 2565 สำนักงานประกันสังคม (สปส.) (สำนักงานใหญ่) ถนนติวานนท์ จังหวัดนนทบุรี ได้จัดงานวันคล้ายวันสถาปนาสำนักงานประกันสังคมครบรอบ 32 ปี โดยในเวลา 09.30 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่ ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อสำนักงานประกันสังคม และรางวัลสถานพยาบาลในดวงใจ โดยมีนายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน คณะผู้บริหารกระทรวงแรงงาน เข้าร่วมในพิธี พร้อมกันนี้ นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม และคณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่สำนักงานประกันสังคมให้การต้อนรับ ในโอกาสนี้ “นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวแสดงความยินดี และชื่นชมถึงพัฒนาการของสำนักงานประกันสังคมที่พัฒนางานให้ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องเป็นที่พึ่งและหลักประกันความมั่นคงในการดำรงชีวิต แก่แรงงานมาตลอด 32 ปี พร้อมก้าวสู่ปีที่ 33 เพื่อสร้างสรรค์ หลักประกันชีวิต ให้แรงงานมีคุณภาพชีวิตที่ดีและยั่งยืน”

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้แถลงข่าวกับสื่อมวลชนว่า กระทรวงแรงงาน ได้ดำเนินการตามนโยบายของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาการนายกรัฐมนตรี ที่ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนประเทศ โดยเฉพาะการเร่งฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจภายหลังสถานการณ์โควิด 19 คลี่คลายลง รวมทั้งบูรณาการ การทำงานร่วมกันในทุกภาคส่วนและมุ่งเน้นทำงานเชิงรุก โดยยึดกฎหมายและข้อบังคับ เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนได้ตรงจุด ทันท่วงที และมุ่งมั่นที่จะผลักดันนโยบายด้านแรงงานต่างๆ ทั้งการให้ผู้ประกอบอาชีพอิสระเข้าถึงระบบหลักประกันทางสังคม การปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย เพื่อพัฒนาสิทธิประโยชน์ให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน การปรับปรุงและพัฒนาการให้บริการทางการแพทย์เพื่อให้ผู้ประกันตนได้รับบริการเชิงรุกให้ความช่วยเหลือลูกจ้าง ผู้ประกันตน อย่างทันท่วงที ส่งเสริมการให้บริการภาครัฐไปสู่ระบบอิเล็กทรอนิกส์ และสร้างเครือข่ายประกันสังคมทั่วประเทศในการให้บริการกับนายจ้าง ลูกจ้าง และผู้ประกันตน นอกจากนี้ รมว.แรงงาน ได้มอบนโยบายในปี 2566 เพื่อเป็นของขวัญและช่วยเหลือผู้ประกันตน ลูกจ้างและนายจ้าง สำนักงานประกันสังคมมีแนวทางในการดำเนินงาน ดังนี้

1. เพิ่มสิทธิประโยชน์กองทุนประกันสังคม โดยการปรับปรุง พ.ร.บ. ประกันสังคม ฉบับที่ ... พ.ศ. ... ได้แก่ การขยายความคุ้มครองให้กับผู้ประกันตน เพื่อรองรับผู้สูงอายุ โดยขยายอายุขั้นสูงของ ผู้ประกันตน มาตรา 33 ให้ผู้รับเงินบำนาญชราภาพและสามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนได้ ให้ผู้รับเงินบำนาญชราภาพ สามารถขอรับเงินบำนาญจ่ายล่วงหน้าได้ การแก้ไขเพิ่มเติมสิทธิประโยชน์ กรณีชราภาพ อันเกิดจากข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ใช้แรงงาน 3 ขอ (ขอเลือก ขอคืน และขอกู้) การแก้ไขเพิ่มเติมสิทธิประโยชน์อื่นๆ ได้แก่ เงินสงเคราะห์การหยุดงาน เพื่อการคลอดบุตร จากเดิมจ่าย 90 วัน เป็น 98 วัน เงินทดแทนการขาดรายได้ กรณีทุพพลภาพ จากเดิมจ่าย ร้อยละ 50 เป็นร้อยละ 70 กรณีสงเคราะห์บุตรให้ได้รับการคุ้มครองต่อไปอีก 6 เดือน นับแต่วันที่สิ้นสภาพการเป็นผู้ประกันตน ปรับปรุงเงื่อนไขในการสมัครเข้าเป็นผู้ประกันตน มาตรา 39 และกำหนดให้เงินเพิ่มของผู้ประกันตน มาตรา 39 จะต้องไม่เกินเงินสมทบที่ต้องจ่าย เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ประกันตนได้มีหลักประกันทางสังคมและได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้น ผู้ประกันตน สูงอายุได้รับโอกาสในการทำงานที่เหมาะสม ซึ่งจะนำไปสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดีและยั่งยืน

2. ยกระดับการบริการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคเชิงรุก โดยปรับปรุงรายการสุขภาพ ได้แก่ ขยายช่วงอายุ เพิ่มความถี่ในการตรวจ เพิ่มรายการตรวจ สุขภาพ เช่น การซักประวัติ การประเมินวัยทำงาน (คัดกรองโรคซึมเศร้า ประเมินความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด) การคัดกรองไวรัสตับอักเสบซี (Anti HCV Rapid) การทำงานของตับ (SGOT, SGPT) เพิ่มการให้คำแนะนำและปรับพฤติกรรมกลุ่มเสี่ยง พัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อพัฒนาระบบสุขภาพรายบุคคล ผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศให้ผู้ประกันตนสามารถเข้าถึงบริการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคเชิงรุกและสามารถพิสูจน์ตัวบุคคล ที่มีสิทธิได้อย่างถูกต้องและเชื่อมโยงข้อมูลและจัดเก็บข้อมูลเพื่อจัดทำสมุดสุขภาพของผู้ประกันตน รวมถึงการขับเคลื่อนความร่วมมือด้านการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค

3. พัฒนาและเพิ่มช่องทางรับเงินสมทบ – จ่ายประโยชน์ทดแทนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้นายจ้างและผู้ประกันตน ได้รับบริการที่สะดวก รวดเร็ว และลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง โดยเพิ่มช่องทางการรับชำระเงินสมทบผู้ประกันตนมาตรา 39 และมาตรา 40 ผ่าน Mobile Application กับธนาคารและหน่วยบริการอื่นๆ เพิ่มช่องทางการชำระเงินสมทบกองทุนประกันสังคมและกองทุนเงินทดแทน ผ่านคิวอาร์โค้ด โดยการสแกนจ่าย ด้วยMobile Banking Application ของธนาคารต่างๆ โดยมีธนาคารกรุงไทย เป็นตัวกลางในการรวบรวมและนำส่งข้อมูลการชำระเงินและเงินที่รับชำระจากนายจ้าง/ ผู้ประกันตน ส่งให้กับสำนักงานประกันสังคม อีกทั้งเพิ่มธนาคาร ธ.ก.ส. เป็นหน่วยบริการในการรับชำระเงินสมทบของนายจ้าง และ ผู้ประกันตนมาตรา 33 ผ่านระบบ e-Payment จากเดิม 13 แห่ง เป็น 14 แห่ง ทั้งนี้ ได้มีการพัฒนาระบบเพื่อให้ผู้ประกันตน และนายจ้างสามารถยื่นขอรับสิทธิประโยชน์กองทุนประกันสังคม รูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ หากดำเนินการแล้วเสร็จ สามารถอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกันตนได้เข้าถึงข้อมูลของตนเองได้ทุกที่ทุกเวลา และได้รับประโยชน์ทดแทนที่ถูกต้อง รวดเร็ว เป็นต้น

ในโอกาสนี้ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้กล่าวขอบคุณและให้กำลังใจผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ประกันสังคม รวมถึงภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ที่ทุ่มเทเสียสละ ร่วมมือร่วมใจในการขับเคลื่อนพัฒนาระบบประกันสังคมให้เป็นที่ “ยอมรับ เชื่อมั่น และไว้วางใจ” ภายใต้ “ครอบครัวประกันสังคม” และอยู่เคียงข้างเป็นหลักประกันความมั่นคงในการดำรงชีวิตของสังคมไทย ตลอดไป

ด้านนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการ สปส. กล่าวว่า สำนักงานประกันสังคมมีภารกิจในการสร้างหลักประกันความมั่นคงในการดำรงชีวิตให้แก่ลูกจ้างและผู้ประกันตน จวบจนวันนี้เป็นเวลา 32 ปีแล้ว ปัจจุบันมีผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมจำนวน 24.03 ล้านคน และเงินกองทุนเติบโตเพิ่มขึ้นเป็น 2.23 ล้านล้านบาท “ผมให้ความสำคัญกับเรื่อง “SSO TRUST” ในการขับเคลื่อนสำนักงานประกันสังคมไปสู่ความสำเร็จ และเป็นที่ “ยอมรับ เชื่อมั่น และไว้วางใจ” ในการสร้างหลักประกันความมั่นคงในการดำรงชีวิตให้กับผู้ประกันตน” ซึ่งใน ปีที่ผ่านมาประเทศไทยได้เผชิญกับสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นวงกว้าง กระทรวงแรงงาน สำนักงานประกันสังคมได้ร่วมมือกับทุกภาคส่วน นายจ้าง ลูกจ้าง ผู้ประกันตน และภาคีเครือข่าย “ครอบครัวประกันสังคม” เพื่อแก้ไขปัญหาภายใต้แนวทาง “แรงงาน.. เราสู้ด้วยกัน” เพื่อก้าวผ่านวิกฤตในครั้งนี้ ไปด้วยกัน โดยได้ดำเนินมาตรการให้ความช่วยเหลือเยียวยา ลดภาระค่าใช้จ่าย และบรรเทาความเดือดร้อนของนายจ้าง ลูกจ้าง ผู้ประกันตน ที่ได้รับผลกระทบ รวมทั้งพัฒนาสิทธิประโยชน์ และเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ เพื่อขับเคลื่อนงานประกันสังคมให้เป็นที่ยอมรับ เชื่อมั่น ไว้วางใจ นำสู่ความสำเร็จ พร้อมมุ่งมั่นพัฒนางานประกันสังคมอย่างต่อเนื่อง สำหรับผลงานในปี 2565 ที่ผ่านมา สำนักงานประกันสังคมได้ลดอัตราเงินสมทบตามพระราชกฤษฎีกาประกาศลดอัตราเงินสมทบให้กับผู้ประกันตนตามมาตรา 40 เหลือร้อยละ 60 ของเงินสมทบ เป็นระยะเวลา 12 เดือน ตั้งแต่งวดวันที่ 1 สิงหาคม 2564 – 31 มกราคม 2565 และในงวดวันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 31 กรกฎาคม 2565 พร้อมดำเนินการจ่ายคืนเงินสมทบผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ที่นำส่งเงินไว้เกินจำนวนที่ต้องชำระ พร้อมได้ดำเนินการคืนเงินสมทบของผู้ประกันตนมาตรา 40 ที่นำส่งเงินสมทบไว้เกินจำนวนที่ต้องชำระ โดยวิธีการโอนเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชน รอบแรกไปแล้วเมื่อวันที่ 8 – 11 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยโอนเงินคืนเข้าบัญชีพร้อมเพย์ผู้ประกันตนมาตรา 40 ไปแล้ว จำนวน 2,884,909 ราย โอนเงินสำเร็จ คิดเป็นเงินจำนวน 402,289,546 และจะโอนเงิน อีกในรอบ 2 ระหว่างวันที่ 14 – 16 กันยายน 2565

เพิ่มช่องทางการให้บริการจ่ายเงินประโยชน์ทดแทนกรณีเจ็บป่วย คลอดบุตร ทุพพลภาพ ตาย และว่างงาน ผ่านบริการพร้อมเพย์ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกันตนสามารถเข้าถึงบริการรับเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว มีความโปร่งใส ลดความผิดพลาด โดยผู้ประกันตนไม่ต้องยื่นสำเนาหน้าบัญชีเงินฝากธนาคารกับสำนักงานประกันสังคมในการขอรับประโยชน์ทดแทนดังกล่าว อีกทั้งเป็นการลดการใช้กระดาษ (Paperless) ตามนโยบายรัฐบาลอีกด้วย ทั้งนี้ผู้ประกันตนดำเนินการลงทะเบียนพร้อมเพย์ด้วยเลขบัตรประจำตัวประชาชนกับธนาคารที่ผู้ประกันตนเปิดบัญชีไว้ได้ทุกธนาคาร และติดต่อขอรับประโยชน์ทดแทนได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา ทั่วประเทศ เริ่มให้บริการภายในเดือนกันยายน 2565 เป็นต้นไป

การปรับปรุงพัฒนาสิทธิประโยชน์มาตรา 40 สำนักงานประกันสังคมได้ศึกษาแนวทางการปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์ กรณีทุพพลภาพ สำหรับผู้ประกันตนตามมาตรา 40 เป็นเงินทดแทนการขาดรายได้ ทางเลือกที่ 1 และทางเลือกที่ 2 จากเดิมอัตราเดือนละ 500-1,000 บาท เป็นอัตราเดือนละ 1,000-2,000 บาท และทางเลือกที่ 3 จากเดิมอัตราเดือนละ 500-1,000 บาท เป็นอัตราเดือนละ 1500-หรือทุพพลภาพเพิ่มขึ้น โดยมีระยะเวลาความคุ้มครองตลอดชีวิตสำหรับทุกทางเลือก โดยส่งเสริมสนับสนุนการปฏิบัติงานให้แก่เครือข่ายประกันสังคมตามมาตรา 40 เพื่อเป็นสื่อกลางในการสร้างความรู้ ความเข้าใจ และเชิญชวนแรงงานภาคอิสระเข้าสู่ระบบประกันสังคม รวมถึงการสร้างการรับรู้ให้ผู้ประกันตนมาตรา 40 ได้เข้าใจสิทธิประโยชน์อันพึงได้รับตามกฎหมาย เพื่อส่งเสริมให้มีการนำส่งเงินสมทบอย่างต่อเนื่องและยกระดับเครือข่ายงานประกันสังคมมาตรา 40 ในฐานะผู้นำหมู่บ้าน-ชุมชน ที่เป็นตัวแทนเครือข่ายภายใต้โครงการ เพื่อพัฒนาสิทธิประโยชน์ประกันสังคมให้ สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป นับเป็นการสร้างหลักประกัน ทางสังคม และยกระดับแรงงานนอกระบบให้ดียิ่งขึ้น

'เฉลิมชัย' พอใจผลการเจรจาความร่วมมือยกระดับราคาข้าวระหว่างไทยกับเวียดนาม สั่งตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจเดินหน้าต่อทันที

'เฉลิมชัย' พอใจผลการเจรจาความร่วมมือยกระดับราคาข้าวระหว่างไทยกับเวียดนาม สั่งตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจเดินหน้าต่อทันที พร้อมระดมพลครั้งใหญ่จัดประชุมสมาคมชาวนาสันนิบาตสหกรณ์สมาคมโรงสีสมาคมผู้ส่งออกข้าวสภาธุรกิจไทย-เวียดนามหอการค้าไทยและสภาอุตสาหกรรมฯ เป็นการด่วน

ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เปิดเผยวันนี้ว่า พอใจกับผลการเจรจาขยายความร่วมมือด้านการเกษตรระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามโดยเฉพาะความตกลงในการยกระดับราคาข้าวในตลาดโลกที่มีความคืบหน้าสามารถตกลงกันได้อย่างเป็นรูปธรรมเป็นครั้งแรกโดยจะเดินหน้าต่อทันที ทั้งนี้จะมีการแต่งตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจระดับสูงที่มีนายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีฯ เป็นประธานทำหน้าที่ประสานงานการขับเคลื่อนความร่วมมือดังกล่าวและตนได้สั่งการให้จัดประชุมระหว่างกระทรวงเกษตรฯ กับสมาคมชาวนา ชุมนุมสหกรณ์การเกษตร สันนิบาตสหกรณ์ สมาคมโรงสีข้าว สมาคมผู้ค้าข้าว สมาคมผู้ส่งออกข้าว สภาธุรกิจไทย-เวียดนาม หอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อชี้แจงและรับฟังข้อเสนอแนะเกี่ยวกับถึงความตกลงระหว่างไทยกับเวียดนามรวมทั้งปรึกษาหารือถึงก้าวต่อไปทั้งเรื่องแนวทางและแผนดำเนินการในส่วนของฝ่ายไทยซึ่งทุกภาคีภาคส่วนจะต้องมาผนึกกำลังทำงานร่วมกันเพื่ออนาคตที่ดีกว่าของชาวนาและประเทศชาติ ความร่วมมือครั้งนี้เป็นโอกาสดีที่สุด

ถือเป็นบันไดขั้นแรกของความพยายามร่วมกันระหว่างไทยและเวียดนามที่จะช่วยเหลือชาวนาให้ได้ราคาข้าวที่เป็นธรรมจากกลไกการค้าข้าวในตลาดโลกโดยเฉพาะในภาวะที่ต้องเผชิญกับต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นเช่นราคาปุ๋ย ราคายาและราคาน้ำมันรวมทั้งวัตถุดิบอาหารสัตว์จากผลกระทบของวิกฤติซ้อนวิกฤติคือวิกฤติโควิด19 และสงครามรัสเซีย-ยูเครนแต่ราคาข้าวปรับตัวน้อยมากไม่สอดคล้องกับต้นทุนการผลิตข้าว


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top