Monday, 20 May 2024
WEEKEND NEWS

"บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์" เป็นเจ้าภาพงานสวดอภิธรรมกระดูก (คุณอาแสงสุรีย์)

เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2564  ที่ผ่านมา "บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์" ได้เดินทางมายัง ณ.วัดยางพรานนก หลังจากเสร็จภารกิจมอบถุงยังชีพให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนในชุมชนหัวบ้านบางคลองเลา เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมานี้  และพร้อมด้วยทีมเจ้าหน้าที่ของ "มูลนิธิร่วมกตัญญู" เพื่อมาช่วยจัดเตรียมสถานที่ในงานสวดอภิธรรมกระดูกของ "นายเฉลียว ไกอ่ำ" อายุ 68 ปี หรือชื่อในวงการเพลงลูกทุ่ง “แสงสุรีย์ รุ่งโรจน์” อดีตนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ที่เสียชีวิตลงอย่างสงบเมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. ของวันที่ 10 กันยายน 2564 อาการปอดอักเสบรุนแรง อันเนื่องมาจากโรคประจำตัว และภายหลังได้รับเชื้อโควิด-19 

"อาจารย์ก้อนคํา ลำโขง" จัดพิธีอัญเชิญบารมีหัวใจ และบรรจุหัวใจ "พญานาค" วันที่ 9 เดือน 9 พ.ศ 2564 วันดี วันศรีมงคล

เมื่อ​ 9​ ก.ย.64​ ที่ผ่านมา ณ.วังนาคินทร์ (คำชะโนด) อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี "อาจารย์ก้อนคํา ลำโขง" นักเขียนตำนาน "พญานาค" จัดพิธีบวงสรวงเปิด "คุ้มคำชะโนด" วันพฤหัสบดีที่ 9 เดือน 9 เป็นจุดเชคอินแห่งใหม่ ณ.วังนาคินทร์ คำชะโนด อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี 

ในการนี้ได้เชิญ "ดร .พนธ์พันธ์ เลิศจันทรางกูร" ผู้ช่วยเลขานุการในองค์หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภานุพันธ์ และตำแหน่งที่ปรึกษาสมเด็จพระสังฆราช ราชอานาจักรกัมพูชา เป็นประธานพิธีเปิด "คุ้มคำชะโนด" พร้อมด้วยนักร้องขื่อดัง (เบิ้ล) ปทุมราช / อ.ชิสนุ (โน๊ต) / คุณธิชา Ceo อนันตนา ทั้งคณะอาจารย์และอาร์ต บิลลี่ เบียร์ นายเเบบ/ศิลปินดารานักเเสดงลูกหลานพญานาคทุกคน​ "คุ้มคำชะโนด" เป็นคุ้มเฮือนแฝดไม้เก่าเสาอายุราวๆ 100 กว่าปี ที่อนุรักษ์ความเป็นเฮือนอีสาน สายพญานาคหนึ่งเดียว ที่สืบทอดจิตวิญญาณแห่งคำชะโนดที่หาดูได้ยาก

ดังนั้น จึงอยากขอเชิญชวนและขอแนะนำผู้เดินทางมายังเกาะคำชะโนด เขิญแวะมาเยี่ยมชม และเช็คอินที่นี่ ซึ่งอยู่ใกล้ๆ ห่างกันเพียงแค่ 300 เมตร

“คนปากน้ำโดดเดี่ยว” โควิดระบาดไร้วี่แววผู้นำท้องถิ่น ด้าน ”คนสื่อ” ผนึกกำลัง “พันธมิตรจิตอาสา” เป็นสะพานบุญตระเวนส่งข้าวกล่องปันอิ่ม ช่วยต่อชีวิตผู้ป่วยพื้นที่สีแดงเข้ม

เกาะติดภารกิจครัวปันอิ่ม วันที่ 11 กันยายน ที่ชมรมผู้สูงอายุ ภายในชุมชนชาวมหาวงษ์ ต.สำโรงกลาง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ นายสมชาย จรรยา อุปนายก สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย ร่วมกับพันธมิตรจิตอาสา นำโดย มูลนิธิสหชาติ และบริษัท สหธาราวัฒน์ จำกัด นำข้าวกล่องอุ่นร้อนพร้อมทาน โครงการ "ครัวปันอิ่ม ร้อยเรียงใจสู้ภัยโควิด-19" บริษัทในเครือซีพี พร้อมหน้ากากอนามัย และน้ำดื่ม ส่งมอบให้กับ นายเยื้อน จิ๋วนอก ประธานชุมชน นางเบญจวรรณ หวานสนิท รองประธาน และชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ต้องกักตัวอยู่ภายในบ้าน ผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ เด็ก และผู้ว่างงาน

นางเบญจวรรณ หวานสนิท เปิดเผยว่า ชุมชนแห่งนี้มีผู้พักอาศัย 800 ครัวเรือน มีประชากรกว่า 1,500 คน ซึ่งไม่รวมประชากรแฝงที่ทำงานในพื้นที่ ช่วงเกิดการแพร่ระบาดเชื้อโควิด พบมีผู้ติดเชื้อ 85 ครัวเรือน ล้วนไปติดจากลูกหลาน ที่ติดเชื้อมาจากด้านนอก ส่วนมาตรการการป้องกัน ใครที่เข้าระบบจะส่งไปรักษาที่อนามัย โดยการฉีดวัคซีน และการตรวจหาเชื้อโควิด-19 (Swab)ส่วนผู้ที่ไม่เข้าระบบต้องกักตัวอยู่ในบ้าน ทางชุมชนได้รับความอนุเคราะห์จากผู้ใหญ่ใจดีนำอาหารกล่องมาให้ แล้วคณะกรรมการจะนำไปวางไว้หน้าบ้าน จากนั้นจะโทรแจ้งให้เขาออกมาเอาไปทาน  

นางเบญจวรรณ กล่าวย้ำ ชุมชนมหาวงษ์ไม่มีภาครัฐ หรือผู้นำท้องถิ่นดูแล จะมีก็พียงโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพสต.) มีเจ้าหน้าที่เพียง 6 คน มาทำงานร่วมกับชมรมผู้สูงอายุชาวมหาวงษ์ เพื่อช่วยคัดกรอง ส่วนพระครูปลัดเพลิน วชิโร วัดมหาวงษ์  ท่านได้มอบเงินส่วนตัวให้ซื้อผงฟ้าทะลาย นำมาบรรจุแล้วนำไปแจกจ่ายให้กับผู้ป่วยที่ติดเชื้อ ส่วนเครื่องตรวจหาเชื้อโควิด (Swab) พระครูวัดสำโรงเหนือ ท่านมอบให้ จุดนี้ต้องดูแลประชากรถึง 2 หมู่  คือ หมู่ 7 และหมู่ 8 

“ขอบอกตรงๆเลยว่า ไม่ได้อะไรจากภาครัฐ เราต้องช่วยตัวเอง แต่วันนี้ได้รับความอนุเคราะ์จากเครือซีพี และกลุ่มพันธมิตรจิตอาสา นำน้ำดื่ม นำข้าวกล่อง นำหน้ากาก มามอบให้  ซึ่งเป็นกลุ่มแรกที่ห่วงใยและปันสุขให้กับชาวชุมชนมหาวงษ์  ขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง” รองประธานชุมชน กล่าว

รายงานสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ประจำวัน ของศูนย์ ศบค. พบมีผู้ป่วยรายใหม่ 15,191 ราย แบ่งเป็น ผู้ป่วยจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 12,647ราย ผู้ป่วยจากการค้นหาเชิงรุก 1,812 ราย จากเรือนจำ 726 ราย และผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 6 ราย 

​​​​​​

ตำรวจทางหลวงโคราช จับกุมหนุ่มตกงานดัดแปลงคอนโซลรถซุกยาบ้า 20,000 เม็ด หวังตบตาเจ้าหน้าที่ แต่ไม่รอด

(11 ก.ย.2564) พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล, พ.ต.อ.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ, พ.ต.อ.จตุพล เร่งถนอมทรัพย์ รอง ผบก.ทล, พ.ต.อ.พิชญ์รุจ กุลวิมลประทีป ผกก.6 บก.ทล ให้ พ.ต.ท.วิษณุ คำโนนม่วง สว.ส.ทล.1 กก.6 บก.ทล. และ ร.ต.อ.ยรรยง เทวโลก รอง สว.ส.ทล.1 กก.6 บก.ทล. พร้อมตำรวจทางหลวงนครราชสีมา ตั้งจุดตรวจสกัดยาเสพติดบนถนนมิตรภาพ กม.74 ต.หนองสาหร่าย จ.นครราชสีมา

พบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ ฮอนด้า สีขาว หมายเลขทะเบียน 8 กจ 7142 กรุงเทพมหานคร​ ขับขี่ส่ายไปมาท่าทางมีพิรุธ จึงเรียกให้หยุดเพื่อขอตรวจสอบ พบ นายพงษ์ศักดิ์ เทินสระเกษ อายุ 36 ปี เป็นผู้ขับขี่ จากการตรวจค้นตัว พบยาไอซ์ซุกซ่อนในกระเป๋ากางเกงจำนวนหนึ่ง ซึ่ง นายพงษ์ศักดิ์ รับว่าซื้อมาเพื่อเสพ และได้เสพไปแล้วจำนวนหนึ่ง

และขณะที่ตรวจสอบผู้ต้องหาอยู่นั้น พ.ต.ท.วิษณุฯ สังเกตเห็นท่าทางพิรุธ​ จึงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงตรวจสอบรถโดยละเอียด พบว่า คอนโซลด้านหน้าข้างผู้โดยสาร มีความผิดปกติ โดยพบว่าถูกดัดแปลงเป็นอย่างดี หากไม่สังเกตจะไม่พบความผิดปกติ และต้องใช้กุญแจไขออกหลายชั้น กระทั่งพบยาบ้า จำนวน 2 ห่อๆ ละ 10,000 เม็ด รวม 20,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่

จากการสอบถาม นายพงษ์ศักดิ์ ให้การรับสารภาพว่า ได้รับว่าจ้างจากชายไทย (ไม่ทราบชื่อ) ให้ไปขับรถคันดังกล่าวจาก อ.บางกรวย จ.นนทบุรี เพื่อนำยาบ้าไปส่งที่ จ.ขอนแก่น ในราคา 15,000 บาท โดยตนเองตกงาน ไม่มีรายได้ จึงติดต่อไปยังเพื่อนที่เคยค้ายาเสพติดด้วยกันให้หางานให้ทำ กระทั่งมีคนโทรศัพท์มาให้ขับรถส่งยาเสพติด ส่วนรถนั้นได้มีการดัดแปลงคอนโซลอย่างดี เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ และที่ทำไปคิดว่าคงไม่มีเจ้าหน้าที่ตรวจจับกุมได้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงนำผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่ง พนักงานสอบสวน สภ.หนองสาหร่าย ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมกับสืบสวนขยายผลไปยังผู้ว่าจ้างต่อไป

ทั้งนี้ จากกรณีดังกล่าว ตำรวจทางหลวง จะดำเนินการอย่างเข้มงวดเพื่อกวดขันผู้กระทำความผิดบนเส้นทางหลวงอย่างเคร่งครัด หากประชาชนพบเห็นการกระทำความผิด สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1193 ตำรวจทางหลวง

'ผู้นำคนพิการระดับประเทศ'​ ขอเป็นหนึ่งกำลังใจให้ ท่านอดีต สส.เป้า (จิรวุฒิ สิงห์โตทอง) คนดี บ้านบึง ชลบุรี

(11 ก.ย.​ 64)​ ณ​ สมาคมกลุ่มอาชีพการเกษตรชลบุรี อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี "นายณรงค์ ไปวันเสาร์" นายกสมาคมคนพิการภาคตะวันออก / นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล นายกสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทย / นางสาวภัสวรินทร์ กิตติโชคกุลพัทธ์ นายกสมาคมส่งเสริมและพัฒนาคนพิการไทย พร้อมคณะ เข้าพบ "นายจิรวุฒิ สิงห์โตทอง" อดีต (สส.เป้า) อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี และอดีต เลขานุการว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อขอเป็นหนึ่งกำลังใจให้แก่ผู้ที่สร้างคุณงามความดี ตอบแทนสังคม และประเทศชาติ

โดยงานนี้ได้มีการนำข้าวสารจำนวน 500 กิโลกรัม มามอบเพื่อช่วยสมทบให้​ ภายหลัง​ นายจิรวุฒิ​ ดำริมอบอาคารโรงเรียนเก่า เพื่ออุทิศเป็นสถานที่ 'ศูนย์พักคอยผู้ติดเชื้อโควิด-19'​ พร้อมทั้งได้กล่าวอัพเดทล่าสุดของโรงพยาบาลที่ได้จัดสร้างขึ้นเพื่อคนจังหวัดชลบุรี 90% ว่า... 

"สำหรับความคืบหน้าในทำโรงบาลสนาม อาจจะคลาดเคลื่อนนิดหนึ่ง อยากพูดกับประชาชนทราบอย่างนี้ว่า อาคารชุดแห่งนี้ ปล่อยทิ้งร้างว่างเปล่า 30 กว่าปี ดังนั้นการจะทำให้ดีและสมบูรณ์ที่สุด ต้องเริ่มตั้งแต่อาคาร ขัดถูล้าง ทาสีใหม่หมด ห้องน้ำรีโนเวทหมด สมัยก่อนเป็นแบบนั่งยอง ผมสั่งเปลี่ยนเป็นแบบนั่งซักโครก ร่วมทั้งอุปกรณ์ในห้องน้ำต้องทันสมัย ปูพื้นด้วยกระเบื้องอย่างดี ระบบไฟรื้อถอนของเก่าออกทั้งหมด ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากโครงการ #fixitcenter "วิทยาลัยเทคนิคชลบุรี" วางระบบสายไฟ อุปกรณ์ต่างๆ มีความทันสมัยสวยงาม ไฟเป็นแบบประหยัดไฟ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การขัดถูพื้นต้องใช้คนงานหลายชีวิต เตียงสนามทำขึ้นมาแบบแข็งแรงทนทาน ใช้ได้ชั่วลูกหลาน

"ตลอดทั้งมีหลายๆ องค์กรสนับสนุนเข้ามา บริเวณรอบปรับปรุงใหม่หมด เพื่อความสวยงามร่มรื่น ด้านหลังอาคารทำเป็นสวนสมุนไพร ปลูก ขิงข่า ฟ้าทะลายโจร ขมิ้น และอื่นๆ​ ที่ทานได้ ได้รับประโยชน์เต็มๆ จากพื้นที่ ด้านหน้าเป็นสนามหญ้า ผมสั่งทำให้เป็นสนามฟุตบอล มาตรฐานครบเหมาะต่อการออกกำลังกาย หญ้าตัดทุกจุดที่มีความสูงรก คูน้ำสั่งลอกหมดเพื่อความสะดวกของทางน้ำไหล ระบบไฟฟ้าเพิ่มหม้อแปลงใหม่ใหญ่กว่าเดิม นี่คือความตั้งใจผมออกมาจากใจผมจริงๆ เพื่อพี่น้องประชาชนคนชลบุรีครับ"

#คนจริงไม่ทิ้งพวก #ทำด้วยใจยังไงก็ดี

สตม. มอบอาหารกล่องพร้อมน้ำดื่ม 500 ชุด ให้แก่ชุมชนเคหะร่มเกล้าโซน​ 11 ตามโครงการ "ตำรวจห่วงใย ใส่ใจประชาชน"

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด–19  ให้หน่วยงานในสังกัดช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และยึดมั่นในหน้าที่ “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” อยู่เคียงข้างไม่ทอดทิ้งประชาชน และปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถให้ประชาชนรู้สึกว่าตำรวจสามารถพึ่งพาได้ 

(10 ก.ย.64) พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. มอบหมายให้ พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุเมธ เมฆขจร ผบก.ตม.6 และ พ.ต.อ.ศุภชัชจ์ เปี่ยมมนัส รอง ผบก.ตม.6 ร่วมกับ พล.ต.ต.อรรถวิทย์ สายสืบ ผบก.น.3, พ.ต.อ.พรเทพ สูติปัญญา รอง ผบก.น.3 และ สน.ร่มเกล้า โดย พ.ต.อ.นันทภูมิ เรืองรุ่ง ผกก.สน.ร่มเกล้า มอบอาหารกล่อง,น้ำดื่ม จำนวน 500 ชุด 

โดยทั้งหมดได้ร่วมกันมอบสิ่งของดังกล่าวให้แก่ชุมชนเคหะร่มเกล้าโซน11 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กทม. โดยมีคุณอุทัย รุ่งน้อย ตัวแทนชุมชนมาเป็นผู้รับมอบ ซึ่งจะนำไปแจกจ่ายให้แก่สมาชิกในชุมชนผู้ได้รับความเดือดร้อนจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ต่อไป

พล.ต.ต.อาชยนฯ กล่าวว่า โครงการ "ตำรวจห่วงใย ใส่ใจประชาชน" ครั้งนี้ เป็นการสนองนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งในครั้งนี้ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ร่วมกับ กองบังคับการตำรวจนครบาล3 และ สน.ร่มเกล้า ร่วมกันให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อนจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และได้เน้นย้ำให้ประชาชนตระหนักถึงความร้ายแรงของสถานการณ์นี้และปฏิบัติตามมาตรการของกรมควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งให้กำลังใจเพื่อให้สามารถก้าวผ่านวิกฤติในครั้งนี้ไปด้วยกัน

ปันน้ำใจส่งข้าวกล่องปันอิ่ม ช่วยคนเลี้ยงช้างอโยธยา หลังรายได้วูบหายช่วงวิกฤติโควิด ขณะที่พันธมิตรจิตอาสา เดินหน้าข้ามจังหวัดช่วยคนในพื้นที่สีแดง โดยไม่มีวันหยุด

จากเหตุการณ์ช้างพังคำหล้าอายุ 89 ปี ช้างจากปางช้างอโยธยา ต.ไผ่ลิง  อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ล้มป่วยจนไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้ จึงต้องใช้เชือกรัดที่ลำตัว แล้วคล้องกับรถแม็คโครขนาดใหญ่ ของเทศบาลเมืองอโยธยา เพื่อช่วยพยุงดึงร่างให้ลุกขึ้นยืนทรงตัวอยู่ได้ สาเหตุขาดอาหารกินที่ไม่เพียงพอ ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ประกอบกับมีอายุมาก ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น 

วันที่ 5 กันยายน​ 2564 ที่หมู่บ้านช้างอโยธยา นายสมชาย จรรยา อุปนายก สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นายเกียรติยศ ศรีสกุล ประธานชมรมช่างภาพสื่อมวลชนพระนครศรีอยุธยา และผู้แทนมูลนิธิสหชาติ นำข้าวกล่องพร้อมทาน จาก ”ครัวปันอิ่ม” พร้อมหน้ากากผ้า และสเปรย์ฉีดแอลกอฮอล์ มอบแก่ควาญช้าง และครอบครัว เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ ได้มีแรงต่อสู้ที่กับวิกฤติโควิด-19 

น.ส.บุณยาพร บุญเกิด พนักงานต้อนรับหมู่บ้านช้าง เปิดเผยว่า ช่วงสถานการณ์ Covid-19 ระบาด ตลาดน้ำอโยธยา ปิดให้บริการ ทำให้ผู้ดูแลช้างไม่มีรายได้ นักท่องเที่ยวไม่ได้มาเที่ยว ขาดทุนทรัพย์ในการซื้ออาหารมาเลี้ยงช้าง แต่ยังมีผู้ใจบุญนำอาหารมาเลี้ยงอยู่บ้าง ก็ยังไม่เพียงพอ เนื่องจากช้างมีหลายเชือก ต้องนำอาหารมาแบ่งปันกัน จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พังคำหล้า ได้รับอาหารไม่เพียงพอ และขาดสารอาหาร ทำให้หมดแรงและล้มป่วยลง และนอกจากช้างแล้ว ผู้ที่ได้รับผลกระทบหนักสุดคือ คนเลี้ยงช้าง หรือ ควาญช้าง ที่มีครอบครัวอยู่หลายคน ขาดรายได้ จึงวิงวอนผู้เกี่ยวข้องช่วยลงมาดูพวกเขาด้วย  

ด้าน นางสอน คำสุข อายุ 85 ปี เจ้าของช้างพังคำหล้า กล่าวว่า วันนี้พังคำหล้าได้ลุกขึ้นยืนด้วยตัวเองได้ หลังจากที่ได้รับอาหารจากผู้ใจบุญที่นำมาบริจาคให้ได้กิน ช่วงโควิดจะนำพังคำหล้าไปปล่อยให้กินหญ้าซึ่งได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ จนร่างกายผอมโซล้มป่วยลง พรุ่งนี้ได้รับแจ้งจะมีเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จะมาตรวจเช็คร่างกายให้

วันเดียวกัน ที่ศาลาประชาคม หมู่ 3 ต.แคตก อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา นายสมชาย จรรยา อุปนายก สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยตัวแทนนักศึกษา หลักสูตรประกาศนียบัตรสิทธิมนุษยชนสำหรับนักบริหารระดับสูง รุ่น 1 (ปสม.) สถาบันพระปกเกล้า นำโดย นางถวิล เพิ่มเพียรสิน อดีตรองอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน นางสาวพรทิพย์ เตชะสมบูรณา กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัทในเครือ เวิลด์เมดิคอลซัพพลาย จำกัด นายภูริวัจน์ ปุณยวุฒิปรีดา กรรมการผู้จัดการ บจก.เอสพีวี ปิโตรเลียม นายประเสริฐ เพิ่มเพียรสิน และนางสุกัญญา จรรยา ผู้จัดการ มูลนิธิสหชาติ ร่วมส่งมอบข้าวกล่องพร้อมทาน “ครัวปันอิ่ม ร้อยเรียงใจ สู้ภัยโควิด-19” ของเครือซีพี พร้อมถุงยังชีพส่งความสุขและความห่วงใย  อาทิ ข้าวสาร ปลากระป๋อง น้ำปลา มาม่า ไข่ น้ำดื่ม หน้ากากผ้า สเปรย์ฉีดแอลกอฮอล์ และเครื่องตรวจวัดออกซิเจนปลายนิ้ว มอบแด่ชาวบ้านชุมชนหมู่ 3 ต.แคตก ซึ่งเป็นพื้นที่สีแดง ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด โดยมีนายแพทย์ ศุภกร จิบสมานบุญ ผู้อำนวยการศูนย์โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลแคตก พร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านร่วมรับมอบ 

ทางด้านนายแพทย์ศุภกร จิบสมานบุญ เปิดเผยว่า ตำบลแคตกมีประชากร 1,200 คน และมีผู้ติดเชื้อโควิด 40 คน โดยได้ทำการรักษาจนหาย แล้วกลับไปทำงานบ้างแล้ว สำหรับมาตรการป้องกันได้เชิญชวนประชาชนทุกคนไปรับการฉีดวัคซีน ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนกันมากแล้ว อีกทั้งยังรณรงค์ให้ทุกคนตระหนักการ์ดอย่าตก กินร้อนช้อนกลาง และขอขอบพระคุณ ผู้ใหญ่ใจดี กลุ่มพันธมิตรจิตอาสา ที่นำสิ่งขอมาแบ่งปันความสุขถึงท้องถิ่นห่างไกลในครั้งนี้ 

​​​​​​

รวมพลังพันธมิตรจิตอาสา ปันน้ำใจ คลายทุกข์ 'ชาวชุมชนคลองเตย-สื่อภาคสนาม' ร่วมสู้ภัยโควิดก้าวผ่านวิกฤติไปด้วยกัน

(4 ก.ย.​ 64) ที่ลานหน้าสำนักงานมูลนิธิรวมน้ำใจ ถนนพระราม 4 เขตคลองเตย นางสาวสุดทินี แสงดี ประธานชุมชนริมคลองสามัคคี คลองเตย นางมาเรียม ป้อมดี ประธานชุมชนพัฒนาใหม่ พร้อมด้วยคณะกรรมการชุมชน และอาสาสมัครป้องกันภัยเขตคลองเตย ร่วมรับมอบอาหาร "ครัวปันอิ่ม ร้อยเรียงใจสู้ภัยโควิด-19" เพื่อส่งต่อให้ผู้พักอาศัยในชุมชนได้ปันอิ่ม โดยจัดแบ่งเป็น 3 ส่วน เพื่อแจกจ่ายให้กับชุมชนริมคลองสามัคคี ชุมชนพัฒนาใหม่ และอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) เขตคลองเตย  

โดยมี นายสมชาย จรรยา อุปนายก สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย นำทีมพันธมิตรจิตอาสา จากองค์กรต่างๆ อาทิ มูลนิธิสหชาติ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เว็บไซต์ข่าว จั่นเจา canchaonews.com หนังสือพิมพ์ ดีดี โพตส์นิวส์ ร่วมส่งมอบสิ่งของเครื่องใช้ในการบรรเทาทุกข์ อาทิ ข้าวกล่องปันอิ่มหลากหลายเมนู ขนมครัวซอง หน้ากากผ้า หน้ากากอนามัย พร้อมสเปรย์ฉีดแอลกอฮอล์ 

นางสาวสุดทินี แสงดี เปิดเผยว่า ชุมชนของเรามีผู้พักอาศัย 700 คน ตั้งแต่เกิดการแพร่ระเบิดเชื้อโควิด มีผู้ติดเชื้อ 170 คน และทำการรักษาจนหายดี ปัจจุบันเหลือเพียง 10 คน ส่วนการดูแลเป็นไปตามระบบของสาธารณสุข ขอขอบคุณพันธมิตรจิตอาสา และเครือซีพี ที่ร่วมแบ่งปันห่วงใย มอบความสุขช่วยคลายทุกข์ ให้คนในชุมชนแห่งนี้ 

ด้าน นายสมชาย จรรยา เปิดเผยว่า พันธมิตรจิตอาสาเดินหน้าลงพื้นที่ชุมชนต่างๆอย่างต่อเนื่อง ไม่มีวันหยุด ในการทำหน้าที่เป็นสะพานบุญ นำสิ่งของเครื่องใช้ ที่ได้รับการสนับสนุนจ อาทิ ขนมครัวซองต์ จากร้าน Susan Croissant เอกมัย สเปรย์ฉีดแลกอฮอล์ กองพิทักษ์สิทธิเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม หน้ากากผ้า มูลนิธิสหชาติ รวมทั้งอาหารพร้อมทานจาก ”น้องเทนนิส” ที่ส่งกำลังใจผ่านข้าวกล่อง “ครัวปันอิ่ม ร้อยเรียงใจ สู้ภัยโควิด-19” ผนึกกำลังบริษัทในเครือซีพี และห้างสรรพสินค้า โลตัส ส่งถึงมือผู้ได้รับความเดือดร้อน ผู้ที่ต้องแยกกักตัวที่บ้าน เพื่อได้มีอาหารที่ดีได้รับประทาน 

นอกจากนี้ พันธมิตรจิตอาสา ยังบรรเทาทุกข์คนสื่อภาคสนามที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 มอบสิ่งของเครื่องใช้ เครื่องตรวจออกซิเจนปลายนิ้วแก่นายสุรเชษฐ ศิลานนท์ ผู้สื่อข่าว หนังสือพิมพ์พิมพ์ไทย และมอบอาหารให้กับคุณยายและหลาน ที่ได้รับความเดือดร้อน ยืนเช็ดกระจกรถเวลาติดไฟแดงบริเวณหน้ากรมศุลกากร

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดพิธีทิ้งกระจาดครั้งยิ่งใหญ่ สู้ภัยมหาวิกฤตโควิด-19

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดพิธีทิ้งกระจาดครั้งยิ่งใหญ่ สู้ภัยมหาวิกฤตโควิด-19 ยกทัพคาราวานเครื่องอุปโภคบริโภค รวมมูลค่า 15 ล้านบาท ลงพื้นที่แจกจ่ายแก่ประชาชนในพื้นที่ 50 เขตกรุงเทพฯ 

(4 ก.ย.​ 64) ณ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการฯ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย ดร.สุทัศน์ เตชะวิบูลย์ รองประธานกรรมการ นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ และคณะกรรมการมูลนิธิฯ ร่วมในพิธีปล่อยคาราวานเครื่องอุปโภคบริโภค ประกอบด้วย ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง น้ำมันพืช น้ำปลา น้ำพริก เจลแอลกอฮอล์ บรรจุถุงผ้าดิบ พร้อมเงินสดที่ในปีนี้กลุ่มบริษัท นันยางเท็กซ์ไทล์ จำกัด ได้ร่วมบริจาคทำบุญ นำออกแจกจ่ายให้กับประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร (รวม 50 เขต) เขตละ 500 ชุด รวมจำนวน 25,000 ชุด รวมมูลค่าเป็นเงินทั้งสิ้น 15 ล้านบาท

โดยมี นายชวลิต ตวงสิทธิสมบัติ ประธานบริษัท นันยางเท็กซ์ไทล์ จำกัด นายชาติชาย กุละนำพล ผู้อำนวยการเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย นายพันธ์ศักดิ์ เจริญสุข ผู้อำนวยการเขตสาทร นายยุทธนา ป่าไม้ ผู้อำนวยการเขตภาษีเจริญ  พ.ต.อ มนัส รุ่งนาค ผู้กำกับสถานีตำรวจพลับพลาไชย 1  พ.ต.อ.พนม เชื้อทอง ผู้กำกับสถานีตำรวจพลับพลาไชย 2 พร้อมด้วย อาสาสมัครกิตติมศักดิ์ อาสาสมัครศิลปิน อาสาสมัครกู้ภัย และแขกผู้มีเกียรติ ร่วมในพิธีปล่อยคาราวาน ณ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ

นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เปิดเผยว่า ในปีนี้ ด้วยวิกฤตการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19) ที่รุนแรง มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้เพิ่มชุดเครื่องอุปโภคบริโภคจากปีที่แล้วอีก 10,000 ชุด การแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคในปีนี้ มูลนิธิฯ ได้ประสานงานกับสำนักงานเขตทุกเขต ในการจัดเตรียมสถานที่และชุมชนในพื้นที่ เพื่อจัดระเบียบ ตั้งจุดคัดกรองประชาชนในแต่ละจุดตามหลักการในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) รวมทั้งจัดกำลังอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ในทุกๆ จุด ทั่วกรุงเทพมหานคร รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิฯ เพื่อเป็นตัวแทนผู้มีจิตศรัทธาในการลงพื้นที่แจกจ่ายสิ่งของ 

งานประเพณีทิ้งกระจาด เป็นงานบุญประเพณีสำคัญของชาวพุทธที่ปฏิบัติสืบทอดกันมาแต่สมัยพุทธกาลกว่าสองพันปี กำหนดจัดขึ้นในเดือน 7 ตามจันทรคติของจีน เป็นการทำบุญใหญ่ด้วยการอุทิศส่วนกุศลให้ดวงวิญญาณผู้ล่วงลับไปแล้วพร้อมกับการแจกทานให้ผู้ยากไร้ เป็นงานบุญที่ครบพร้อมทั้งการทำบุญและทำทาน โดยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้บำเพ็ญบุญประเพณีนี้ต่อเนื่องมาเป็นประจำทุกปีกว่า 80 ปี 

ตลอดระยะเวลากว่า 110 ปี มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขอขอบคุณผู้มีจิตศรัทธาทุกท่านที่ได้ช่วยกันบริจาค และสนับสนุนกิจกรรมสาธารณกุศลของมูลนิธิฯ ตลอดมา ทำให้มูลนิธิฯ สามารถขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ  ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลายๆ ทาง รวมถึงการพัฒนาด้านการศึกษา เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธานมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง “ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”

#ป่อเต็กตึ๊ง ยึดมั่นอุดมการณ์ อยู่เคียงข้างทุกวิกฤต

“มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”

#มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง110ปีความดีที่ยั่งยืน

#แอปพลิเคชัน และ #สายด่วน ป่อเต็กตึ๊ง1418

#ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน

'เฉลิมชัย'​ ระบุผลคะแนนไว้วางใจ สะท้อนความเป็นปึกแผ่นของพรรคร่วม วอน!! ให้แก้ไขปัญหาประเทศให้จบไปก่อน ช่วยกันทำให้โควิดเบาลงให้ได้

(4 ก.ย. 64)​ ที่อาคารรัฐสภา​ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังได้รับคะแนนเสียงไว้วางใจสูงที่สุดในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า... 

"ก็ต้องถือว่ารัฐบาลได้รับการไว้วางใจทั้งหมด ส่วนคะแนนที่ออกมา ต้องขอไปตรวจสอบคะแนนดูก่อน คิดว่าคะแนนที่ออกมาอย่างนี้ถือว่าพรรคร่วมรัฐบาลยังเป็นปึกแผ่น และทุกคนผ่านการตรวจสอบครั้งนี้ทั้งหมด" 

ส่วนที่ผู้สื่อข่าวระบุว่า จากการที่นายเฉลิมชัย ได้คะแนนไว้วางใจมากที่สุด และมีเสียงสนับสนุนจากโลกโซเชียลให้เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น นายเฉลิมชัย รู้สึกประหลาดใจ และฝากขอบคุณ พร้อมกับปฏิเสธว่าไม่หรอก ซึ่งคะแนนที่ออกมาในวันนี้ก็เป็นภาพที่ชัดเจนว่ารัฐบาลยังเป็นปึกแผ่น เหนียวแน่น และเชื่อมั่นในตัวนายกรัฐมนตรี 

สำหรับการที่มีบางส่วนเรียกร้องให้ยุบสภานั้น นายเฉลิมชัย ระบุว่า ก็ต้องดูสถานการณ์ทุกอย่างว่าเหมาะสม หรือสมควรหรือไม่ ตรงนี้ท่านนายกฯ ท่านมีวิจารณญาณอยู่แล้ว ถ้าจะถามยุบสภาตนก็ตอบไม่ได้ เพราะไม่ใช่อำนาจของตน แต่คิดว่าวันนี้ควรแก้ไขปัญหาประเทศให้จบไปก่อน ช่วยกันทำให้โควิดมันเบาลงให้ได้ หรืออยู่ในสถานการณ์ปกติให้ได้ แล้วสถานการณ์อื่นๆ ก็ว่ากันอีกเรื่องนึง แต่ก็ยืนยันว่าวันนี้พรรคร่วมรัฐบาลเป็นปึกแผ่น

ผู้สื่อข่าวสอบถามความรู้สึกถึงการถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทั้งที่ไม่น่าจะถูกอภิปรายในครั้งนี้ นายเฉลิมชัย ตอบว่า ก็ดี ได้มีโอกาสชี้แจง เพราะบางครั้งถ้ามีเรื่องอะไรที่ยังคาใจอยู่ แล้วเราไม่มีโอกาสได้ชี้แจง มันก็จะยังคาใจอยู่อย่างนั้น แต่ถ้าเราได้ชี้แจงโดยชัดเจนแล้ว มันก็จะมีคำตอบให้คนฟังเขาได้คิดดูว่าอะไรถูกอะไรผิด 

​​​​​


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top