Thursday, 10 July 2025
NEWS FEED

รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปปง.ตร.พอใจผลการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ เกี่ยวกับ พ.ร.บ.ฟอกเงิน ให้ข้าราชการตำรวจทั่วประเทศ ตอบโจทย์การทำงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

จากการดำเนินคดีอาชญากรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจในหลายคดี มักมีการเกิดอาชญากรรมรูปแบบของการฟอกเงินตามมา มีทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดจำนวนมาก ซึ่งคดีในลักษณะนี้มีความแตกต่างจากคดีทั่วไป เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติต้องมีความรู้ความสามารถเฉพาะทาง ดังนั้น พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ศปปง.ตร. จึงได้อนุมัติให้ ศปปง.ตร.จัดโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจ เกี่ยวกับพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พุทธศักราช 2542 ขึ้น เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงิน และมูลฐานความผิดที่เชื่อมโยงถึงการฟอกเงิน รวมถึงนายทุนและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกรายอย่างจริงจังต่อเนื่องเด็ดขาด เพื่อให้ได้ผลการปฏิบัติเป็นรูปธรรมต่อไป

ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ศปปง.ตร. จึงได้ดำเนินโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจ เกี่ยวกับพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พุทธศักราช 2542 ประจำปีพุทธศักราช 2566 ขึ้น 2 รุ่น โดยรุ่นแรก วันที่ 19-22 มิถุนายน 2566 และรุ่นที่ 2 วันที่ 27-30 มิถุนายน 2566 โดยมีข้าราชการตำรวจจากหน่วยต่าง ๆ ทั่วประเทศ เข้ารับการฝึกอบรม รุ่นละ 116 ราย ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง.

วันนี้ (30 มิ.ย.66) เวลา 14.00 น. พล.ต.ต.ศักดิ์ศิรา เผือกอ่ำ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ในฐานะผู้ช่วยผู้อำนวยการ ศปปง.ตร. เป็นประธานปิดโครงการ ฯ ฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจ เกี่ยวกับพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พุทธศักราช 2542 ประจำปีพุทธศักราช 2566 รุ่นที่ 2 พร้อมมอบประกาศนียบัตรแก่ผู้เข้ารับการอบรม ณ ห้องประชุม โรงแรมคลาสสิก คามีโอ อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง มีผู้เข้ารับการฝึกอบรมจากตำรวจภูธรภาค 3 , ภาค 4 , ภาค 5 , ภาค 5 , กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง , กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง รวมทั้งสิ้นจำนวน 116 นาย 

ทั้งนี้ พล.ต.ต.ศักดิ์ศิรา กล่าวว่า ศปปง.ตร.ได้รายงานผลการฝึกอบรมข้าราชการตำรวจทั่วประเทศ เกี่ยวกับ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 กับ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศปปง.ตร. ซึ่ง ผบ.ตร. และรอง ผบ.ตร. พอใจผลการฝึกอบรมดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง มั่นใจว่าข้าราชการตำรวจที่ผ่านการอบรมทุกนาย จะนำความรู้ดังกล่าวไปเสริมสร้างทักษะในการปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพ และจะเป็นครูต้นแบบที่จะนำความรู้ไปถ่ายทอดให้กับข้าราชการตำรวจในหน่วยงานสังกัดของตนต่อไป 

เลขาฯ ศอ.บต. ลงพื้นที่  ติดตามความคืบหน้าการทำลายเรือประมง ภายใต้โครงการนำเรือประมงออกนอกระบบฯ จ.ปัตตานี พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ทำงานอย่างเต็มที่

พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ลงพื้นที่ ท่าเรือคานเบอร์ 5 บริษัท อุตสาหกรรมประมงจังหวัดปัตตานี ติดตามความคืบหน้าการทำลายเรือตามมาตรการลดจำนวนเรือประมง เพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายใต้โครงการนำเรือประมงออกนอกระบบเพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืนพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้กรณีเร่งด่วน (เรือชุดที่ 1) พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ 

โดย เลขาธิการ ศอ.บต. ได้ให้แนวทางการทำลายเรือแก่เจ้าหน้าที่ หากมีส่วนประกอบของเรือบางลำที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่อได้ ก็อยากให้ดำเนินการ เช่น การนำไปสร้างบ้านให้แก่ผู้ยากไร้ ซึ่งต้องดำเนินการภายหลัง จากกรมเจ้าท่าได้เข้ามาตรวจสอบและยืนยันว่าเรือไม่สามารถใช้การต่อได้ พร้อมทั้งขอบคุณและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ได้เดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ ทางศูนย์ประสานงานโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบเพื่อการจัด การทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืน พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้กรณีเร่งด่วน (เรือชุดที่ 1) นำโดย ศอ.บต. ผู้แทนกรมเจ้าท่าและกรมประมงได้มีการลงพื้นที่ตรวจสอบความถูกต้องตามคุณสมบัติของเรือประมงในพื้นที่จังหวัดปัตตานี จำนวน 86 ลำและเมื่อสำรวจเสร็จสิ้นเจ้าหน้าที่มีการจัดทำแบบรายงานผลการตรวจสอบความถูกต้องของคุณสมบัติเรือประมงรายลำ และจัดทำลงนามสัญญาเงินเยียวยาเรือประมง เพื่อขอรับเงินเยียวยา งวดที่ 1 เสนอต่อคณะทำงานด้านการจ่ายเงินเยียวยาเรือประมงพิจารณาให้ความเห็นชอบสัญญาและแจ้งมายัง ศอ.บต. ดำเนินการเบิกจ่ายเงินงวดที่ 1 ให้แก่ผู้ประกอบการและเจ้าของเรือประมงที่ประสงค์จะออกนอกระบบ สำหรับการทำลายเรือประมง ศอ.บต. บูรณาการร่วมกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้าในการจัดทำลาย

นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

ททท. เปิดรับสมัครนักเรียนในระดับอุดมศึกษา เพื่อร่วมกิจกรรมชิงเงินรางวัล ผ่านการสร้างเส้นทางท่องเที่ยวกว่า 70,000 บาท

เปิดรับสมัครแล้ววันนี้ พร้อมกันทั่วประเทศ !!!!

โอกาสของเยาวชนทั่วประเทศไทย 
ในการสร้างสรรค์เส้นทางท่องเที่ยวแบบ Low carbon  ททท. ขอเชิญชวนน้อง ๆ เยาวชนในระดับอุดมศึกษา เข้าร่วม STGs Youth Camp : ยัง ยั่ง ยืน  

ภายใต้โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ Responsible Tourism (ททท.) ในธีม "สร้างสรรค์ เส้นทางสีเขียวสัมผัสการท่องเที่ยวแบบ Low Carbon" พร้อมร่วมกิจกรรมชิงเงินรางวัล ผ่านการสร้างเส้นทางท่องเที่ยวกว่า 70,000 บาทbสมัครได้ที่ STGsyouthcamp.com

สำนักงานอัยการสูงสุด จัดกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) เนื่องในโอกาสครบรอบ 130 ปี การสถาปนาองค์กรอัยการ 

เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2566 ท่านนารี ตัณฑเสถียร อัยการสูงสุด เป็นประธานเปิดโครงการบริจาคโลหิต สำนักงานอัยการสูงสุด ครั้งที่ 14 โดยสำนักงานอัยการสูงสุด ร่วมกับ สมาคมภริยาอัยการ และโรงพยาบาลวชิรพยาบาล (สภากาชาดไทย) จัดกิจกรรมบริจาคโลหิต

โดยท่านพรชัย ชลวาณิชกุล อัยการอาวุโสประธานโครงการบริจาคโลหิต สำนักงานอัยการสูงสุด ท่านศศนันท์ เจตน์เจริญรักษ์ นายกสมาคมภริยาอัยการ ซึ่งสํานักงานอัยการสูงสุด และ สมาคมภริยาอัยการ ร่วมกันจัดงานนี้ขึ้น โดยมีข้าราชการอัยการเข้าร่วมงานจำนวนมากอาทิเช่น นายวิรุฬห์ ฉันท์ธนนันท์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ,นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด, นายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการคดีพิเศษ,นายสุรเชษฐ์ งามวงศ์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร ว่าที่ร้อยโท ประเวช รุ่งเจริญทอง อัยการพิเศษฝ่าย สำนักงานคดีเศรษฐกิจและทรัพยากรพร้อมด้วยคณะข้าราชการอัยการระดับสูง พร้อมด้วยคณะแขกผู้ทรงคุณวุฒิ อาทิเช่น ดร.ฉวีวรรณ คำพา นายกสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ดร.พรทิพย์ วงษ์นครินทร์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสังคม กต.ตร.กทม. ดร.ณิชาภา สิงห์ณรงค์ ประธานมูลนิธิคุ้มเกล้าเยาวชนคนสร้างชาติ กรรมการสภากาชาดไทย คุณสรวีย์ รัฐพิทักษ์ถิรดา คณะกรรมาธิการติดตามการบริหารงบประมาณ วุฒิสภา และ คุณเอิร์ท-ณัฐนันท์ คุณวัฒน์  แอ้ม-ศิรประภา สุขดำรงค์ ดารา-ศิลปิน นางงามเข้าร่วมกิจกรรมอย่างพร้อมเพรียง

โครงการบริจาคโลหิต สำนักงานอัยการสูงสุดมีวัตถุประสงค์เพื่อบรรเทาวิกฤตเลือดในคลังไม่เพียงพอ และช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีความต้องการเลือด โดยกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 – 28 มิถุนายน 2566 เวลา 08.30 - 15.30 น. ณ อาคารสมาคมภริยาอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพมหานคร 

ข้อมูลข่าว: สมาคมสื่อมวลชนเพื่อสังคม

รักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ‘ชัยวุฒิ’ พิจารณาเห็นชอบแผนปฏิบัติการดิจิทัลระยะ 5 ปี  จัดให้มีช่องทางรับเรื่องร้องเรียน แก่ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และประชาชน

เมื่อวานนี้ (วันศุกร์ที่ 30 มิ.ย. 66) เวลา 13.30 น. นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะประธานกรรมการบริหารสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์(กบส.) ได้ร่วมประชุม กบส. ครั้งที่ 2/2566 

โดยในการประชุม คณะกรรมการฯ ได้พิจารณาให้ความเห็นชอบ  (ร่าง) แผนปฏิบัติการดิจิทัลระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566 - 2570) ของสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) และ (ร่าง) แผนปฏิบัติการดิจิทัลประจำปี พ.ศ. 2566 รวมทั้งการปรับแผนการปฏิบัติงานของสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 (รอบ 6 เดือน) และได้รับทราบผลการดำเนินงานของ สกมช. ในด้านต่าง ๆ ได้แก่

1. รายงานเหตุการณ์ภัยคุกคามไซเบอร์ และผลการดำเนินการของสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ 
2. รายงานผลการดำเนินงานด้านงบประมาณและการก่อหนี้ผูกพัน (วันที่ 1 ตุลาคม 2565 ถึงวันที่ 15 มิถุนายน 2566) ของสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ
3.  ผลการประเมินองค์การมหาชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565

4. การจัดทำคู่มือการจัดวางระบบการควบคุมภายในและการประเมินผลการควบคุมภายใน
5. รายงานผลการดำเนินงานด้านการต่างประเทศของสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (1 มกราคม - 30 พฤษภาคม 2566)
6. รายงานการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร

7. ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ หรือข้อกำหนดเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลและการบริหารงานทั่วไป และมีการประกาศให้ทราบทั่วทั้งองค์กร
8. รายงานผลการจัดการความรู้ขององค์กร
9. รายงานผลการสื่อสารกับประชาชน

10. การกำหนดนโยบายและวิธีปฏิบัติในการจัดการข้อร้องเรียน และการจัดให้มีช่องทางรับเรื่องร้องเรียนให้แก่ผู้รับบริการ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และประชาชนทั่วไป
11. รายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการตรวจสอบ
12. รายงานผลการลงนามบันทึกความเข้าใจของสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ ช่วงเดือนตุลาคม 2565 ถึงปัจจุบัน

"เชียงราย" โครงการขยายเขตระบบไฟฟ้าพื้นที่ทำกินทางการเกษตรอำเภอแม่จัน"

เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2566ที่ผ่านมานาย ดุสิต วิยาภรณ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเขต1ภาคเหนือเชียงใหม่ได้ให้เกียตรมาเป็นประธานพิธีเปิดโครงการขยายเขตไฟฟ้าให้พื้นที่ทำกินทางการเกษตรระยะที่2(คขก.2)บ้านหนองอ้อหมู่11 ตำบลป่าซางอำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย โดยมีนาย ประสงค์ น้อยหมอ ผู้จัดการการ

ไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาอำเภอแม่จัน นาย วรายุทธ ค่อมบุญ นายอำเภอแม่จัน พันตำรวจโท เอกรินทร์ ปันญานะ รองผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรแม่จันและเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและหน่วยงานราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชนได้เข้าร่วมภายในงานในครั้งนี้สืบเนื่องการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้มีนโยบายให้เกษตรกรทุกพื้นที่ที่ประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำสำหรับทำกินทางเกษตรทั่วประเทศดังนั้นการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(PEA)จึงได้ทำโครงการขยายเขตไฟฟ้าให้พื้นที่ทำกินทางการเกษตรระยะที่2(คขก.2)โดยได้สนับสนุนค่าใช้จ่ายการขยายเขตไฟฟ้าทางการเกษตรและได้ให้หน่วยงานส่วนท้องถิ่นสำรวจพื้นที่หมู่บ้านที่ประสบปัญหาดังกล่าวจัดส่งข้อมูลให้การ

ไฟฟ้าส่วนภูมิภาคดำเนินการสำรวจขยายเขตพื้นที่รับผิดชอบของเทศบาลตำบลป่าซางอำเภอแม่จันได้ตรวจสอบพบว่าบ้านหนองอ้อหมู่11ตำบลป่าซางยังมีไฟฟ้าให้เกษตรไม่ครบทุกพื้นที่และเข้าหลักเกณฑ์ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจึงได้จัดส่งข้อมูลและจัดเข้าโครงการขยายเขตไฟฟ้าให้พื้นที่ทำกินทางการเกษตรและประชาชนจำนวน34ครัวเรือนต่อไป

สันติ วงศ์สุนันท์/ผู้สื่อข่าวเชียงราย

โอกาสเฉิดฉายความสามารถ ‘กอ.รมน.’ จัดโครงการ ‘บทเพลงเพื่อชาติ และราชบัลลังก์’ ครั้งที่ 2  เปิดรับสมัครแล้ว หนุนใช้ดนตรีเป็นสื่อกลางสร้างความสามัคคี

จากความสำเร็จของกิจกรรม ‘บทเพลงเพื่อชาติ และราชบัลลังก์’ ครั้งที่ 1 ประจำปีพุทธศักราช 2565 ซึ่งทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) มีวัตถุประสงค์ในการก่อตั้งเพื่อเสริมสร้างให้ประชาชนได้ตระหนักในหน้าที่ ที่ต้องพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึงเสริมสร้างความรัก ความสามัคคีของคนในชาติ โดยใช้ดนตรีเป็นสื่อกลาง ซึ่งเปิดโอกาสให้นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไปที่มีความชื่นชอบและมีความสามารถทางดนตรี ทั้งร้อง เล่น และแต่งเพลง ได้แสดงความคิด กิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ ผ่านการประกวดบนเวทีที่ได้แสดงผลงานคุณภาพและเป็นประโยชน์ต่อสังคม ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวได้รับความสนใจและตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มเป้าหมายทั่วประเทศ

โดยมีผู้สมัครเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 1,000 คน ทางหน่วยงานได้คัดเลือกอย่างเข้มข้น โดยกรรมการผู้เชี่ยวชาญด้านดนตรีแถวหน้าของประเทศ ที่ร่วมขับเคี่ยวและเฟ้นหาดาวดวงใหม่ จนได้ 11 ผู้ชนะเลิศที่พร้อมเติบโตและเปล่งประกายในเส้นทางสายดนตรีที่เหมาะสม อีกทั้งยังเป็นสะพานให้พวกเข้าก้าวไปสู่เป้าหมายในการพัฒนาศักยภาพและเป็นศิลปินมืออาชีพต่อไปในอนาคตอีกด้วย

เพราะเชื่อว่าดนตรีมีบทบาท และอิทธิพลต่อสังคมในหลากหลายมิติ นอกจากให้ความสุขสนุกสนาน สะท้อนถึงวิถีชีวิตของชุมชน รวมถึงเป็นเอกลักษณ์ของชาติแล้ว ยังมีส่วนช่วยเสริมสร้างความสามัคคีของคนในสังคมได้เป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) จึงรวมพลังกับศิลปินชั้นนำของประเทศ ทั้งนักร้อง นักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์ ไปจนถึงค่ายเพลง สานต่อการประกวดกิจกรรม ‘บทเพลงเพื่อชาติ และราชบัลลังก์’ ซึ่งได้จัดต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 2 ประจำปีพุทธศักราช 2566 เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของหน่วยงานภาครัฐกับภาคประชาชน และส่งเสริมเสรีภาพทางการแสดงออกเชิงบวกผ่านงานดนตรี ซึ่งกิจกรรมการประกวดเวทีนี้จะแตกต่างจากเวทีอื่นๆ เพราะเป็นการประกวดรวมทั้งประเทศ ทั้งการแต่งเนื้อร้อง การขับร้อง และการแสดงวงดนตรี โดยเน้นบทเพลงที่มีเนื้อหาสร้างสรรค์และการมีคุณค่าทางสังคม มุ่งหวังเปิดพื้นที่เพื่อสส่งต่อโอกาสดีๆ ให้กับทุกคนที่มีความฝัน ไม่เคยย่อท้อ พร้อมทำความฝันให้เป็นจริง โดย พลเอก อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ เลขาธิการ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และประธานดำเนินโครงการ กล่าว

การประกวดดังกล่าว เปิดโอกาสให้เยาวชน นักเรียน นักศึกษาและประชาชนทั่วไป ได้มีส่วนร่วม เพื่อเฟ้นหาบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่มีความสามารถ 3 ประเภท ทั้งด้านการขับร้อง การแต่งเพลง และการแสดงทางดนตรี โดยในครั้งนี้ได้ทำการแบ่งรุ่นการแข่งในแต่ละประเภทออกเป็น การประกวดด้านการขับร้องและการแต่งเพลง ซึ่งในปีนี้จะมีด้วยกัน 5 รุ่น ได้แก่ ระดับประถม, ระดับมัธยมต้น, ระดับมัธยมปลาย, ระดับอุดมศึกษาหรือเทียบเท่าและระดับบุคคลทั่วไป ส่วนการประกวดด้านการแสดงดนตรี จะมี 4 รุ่น ได้แก่ ระดับประถมและมัธยมต้น, ระดับมัธยมปลาย, ระดับอุดมศึกษาหรือเทียบเท่า และระดับบุคคลทั่วไป โดยมีเงินรางวัลรวมมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 2,000,000 บาท

ทั้งนี้ ผู้ผ่านเข้ารอบทั้งประเภทบุคคลเดี่ยวและกลุ่มบุคคล จะได้รับการฝึกอบรมจากวิทยากรผู้คร่ำหวอดและมีชื่อเสียงในวงการบันเทิง อาทิ ดี้ นิติพงษ์ ห่อนาค, เพชร มาร์, ชนะ เสวิกุล, พิเชษฐ์ บัวขำ และ อิน บูโดกัน ซึ่งผู้เข้าร่วมแข่งขันทุกคนจะได้เรียนรู้ทักษะด้านดนตรีในหัวข้อสำคัญๆ เช่น เทคนิคการร้อง และการแสดงสดในรูปแบบวงดนตรี วิธีเขียนเพลงและการแต่งเพลง รวมไปถึงการเตรียมความพร้อมในการเป็นศิลปิน

นอกจากนี้ ยังมีวิทยากรอบรมด้านจิตอาสาและความสามัคคี ได้แก่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษก กอ.รมน. และ พันเอกหญิง นุชระวี แจ่มจำรัส รองโฆษก กอ.รมน.โดยในงานแถลงข่าว ‘กิจกรรมบทเพลงเพื่อชาติ และราชบัลลังก์ ครั้งที่ 2 ประจำปี 2566’ จะจัดขึ้นวันพฤหัสบดีที่ 29 มิถุนายน 2566 เวลา 09.00 - 11.00 น. ณ ตึกเบญจรังสฤษฎิ์ (ห้องเบญจพัชร ชั้น 2) ททบ.

ผู้ที่สนใจสามารถลงสมัครและส่งผลงานได้ที่ Facebook : บทเพลงเพื่อชาติและราชบัลลังก์  ตั้งแต่วันนี้ – 29 กรกฎาคม 2566
 

ศึกชิงตำแหน่งประธานสภาฯ

ศึกชิงตำแหน่งประธานสภาฯ ระหว่างก้าวไกลและเพื่อไทยยังคงลอยเป็นกระแสในโลกโซเชียลอยู่ กองเชียร์ของทั้ง 2 พรรคต่างก็มีเหตุผลมาหนุนให้พรรคในดวงใจได้นั่งเก้าอี้ประธานสภาฯ 
.
โดยตัวเต็งของเพื่อไทย คือ ‘สุชาติ ตันเจริญ’ อดีตรองประธานสภาฯ คนที่ 1 (ปี 2548 และ 2562) และอดีต ส.ส. 9 สมัย มีประสบการณ์ทางการเมืองมากกว่า 30 ปี 
.
ทางฟากก้าวไกลก็คือ ‘หมออ๋อง’ ปดิพัทธ์ สันติภาดา อดีตสัตวแพทย์ อดีต ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ (ก่อนเป็นก้าวไกล) หนึ่งในมืออภิปรายทุจริตกองทัพ ต้นตอกราดยิงโคราช
.
วันนี้ THE STATES TIMES สรุปประวัติคร่าวๆ ของตัวเต็งทั้ง 2 พรรคมาให้แล้ว จะโดดเด่น เหมาะสมกับตำแหน่งแค่ไหน มาดูกัน!!
 

นั่งเชียร์กีฬาแบบฉบับ ‘คนดังระดับโลก’ ถ้ากล้องจับ ‘โบกมือ-ยิ้มแล้วจบ’ ไม่หวงแสง

(30 มิ.ย.66) ภาพนักการเมืองหนุ่มพร้อมคณะเข้าไปชมการแข่งขันวอลเลย์บอลระหว่างทีมชาติไทยกับตุรกีเมื่อวันก่อน ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี เพราะภาพของคนรุ่นใหม่ถูกฉายทับกับการกีฬานั้น ไม่ว่ามองมุมไหนก็ต้องบอกว่า ‘งดงาม’

แต่ทว่า 'เขา' คนนั้นกลับแสดงออกจน ‘เกินงาม’

ในหมู่ประเทศที่กีฬาได้รับความนิยมมากๆ เช่น อังกฤษ หรือ สหรัฐอเมริกา การมีคนดังเข้าไปนั่งเชียร์ถึงริมขอบสนามคือเรื่องธรรมดาสามัญ (มาก) รักเชียร์ทีมไหน กีฬาประเภทใด ก็ตามแต่กำลังใจ กำลังทรัพย์ของท่าน (เอง) บางคนได้ตั๋วเชิญ บ้างก็ลงทุนซื้อตั๋วรายปีเพื่อสนับสนุนทีมรักของตนอีกทาง

แทบทั้งหมดล้วนมีฐานะ 'แฟนคนหนึ่ง' เช่นเดียวกับ 'แฟนานุแฟนทั้งหลาย'

เพราะในงานกีฬา ‘พระเอก-นางเอก’ ก็คือ ‘นักกีฬา’

ไม่ว่าคุณจะยิ่งใหญ่คับโลกระดับ สตีเวน สปีลเบิร์ก, เอ็ดดี้ เมอร์ฟี่, แจ็ค นิโคลสัน, แมทธิว แม็คคอนนาเฮย์ หรือตัวมัม ริฮานนา กระทั่งอดีตและปัจจุบันประธานาธิบดี บารัก โอบามา & โจ ไบเดน ก็นั่งปะปนกับคนดูท่านอื่นข้างสนาม หรือเต็มที่ก็ริงไซด์ (แถวหน้า) กล้องจับขึ้นจอสนามก็โบกมือทักทายตามมารยาทสักที เท่านี้จบ ไม่มีวนรอบ 2 หรือ 3

ย้ำอีกทีว่าตัวเอกของทุก ๆ สเตเดียม คือ 'นักกีฬา'

ดารา นักร้อง นักแสดง นักการเมือง ต่างก็มีเวทีพร้อมแสงไฟสปอร์ตไลท์จับเป็นของตนเองอยู่แล้ว ตามธรรมเนียมปฏิบัติจึงไม่ควร 'หาซีน' แก่ตัว โดยช่วงชิงพื้นที่นักกีฬาผู้กำลังทำหน้าที่อย่างแข็งขัน

คนดูกีฬาก็เสมือนกำลังชมละครซึ่งปราศจากการแสดงนั่นเอง

หลายปีก่อนเคยมีนักร้องผิวสีคนหนึ่ง เข้าไปชมเกมบาสเกตบอลอย่างคนดูเกมปกติธรรมดา โดยเขาคนนั้นกำลังมีข่าวพัวพันเรื่องยาเสพติด แถมข้อหาทำร้ายร่างกายแฟนสาว โชคไม่ดีมีคนดูท่านอื่นจำ (เขา) ได้ เสียงโห่ไล่จนนักกีฬาหยุดเล่น สุดท้ายพ่อหนุ่มนักแรปรายนั้น ต้องเดินคอตกออกจากสนามไป...และไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าไม่มีกล้องตัวใดในสนามจับภาพเขาคนนั้นเลย

พลังของแฟน (คนดู) สนับสนุนกีฬานั้นยิ่งใหญ่และบริสุทธิ์เสมอ

เรื่อง: พรชัย นวการพิศุทธิ์
 

เข้าซื้อกิจการ Singco Trading เ

🔍 หลายวันก่อนมีข่าวว่า ‘ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล’ หรือ MINT เข้าซื้อกิจการ Singco Trading เจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาแบรนด์ร้านอาหาร Sizzler (ยกเว้นประเทศสหรัฐอเมริกา, กัวเตมาลา และเปอร์โตริโก้) หวังผลค่าสิทธิในการใช้สินทรัพย์ทางปัญญา รวมถึงโอกาส และความยืดหยุ่นในการขยายธุรกิจในอนาคต

วันนี้ THE STATES TIMES จะพาไปดู ‘อาณาจักรของ MINT’ ที่ไม่ได้มีแค่ธุรกิจอาหาร แต่มีทั้งธุรกิจโรงแรม สปา ไปจนถึงธุรกิจไลฟ์สไตล์ ส่วนจะมีอะไรบ้าง มาดูกัน!!
 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top