Wednesday, 9 July 2025
NEWS FEED

สำนักข่าวเกียวโดนิวส์รายงานว่ายอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ในญี่ปุ่น อยู่ที่ 7,246 คน มากที่สุดนับจากวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา

สำนักข่าวเกียวโดนิวส์รายงานว่ายอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ในญี่ปุ่น อยู่ที่ 7,246 คน มากที่สุดนับจากวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา ขณะที่การระบาดระลอกที่ 4 เริ่มลุกลามไปยังพื้นที่ซึ่งยังไม่อยู่ภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือได้ผ่อนคลายมาตรการลงบางส่วน

นั่นจึงทำให้ทางรัฐบาล ที่เคยประกาศสิ้นสุดสถานการณ์ฉุกเฉินรอบ 3 ในวันที่ 11 พฤษภาคมนี้ ต้องขยายประกาศออกไปจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม ซึ่งครอบคลุม 15 จังหวัดจากทั้งหมด 47 จังหวัด หลังมียอดผู้ติดเชื้อใหม่มากเป็นประวัติการณ์ เช่น ไอจิ, ฟุกุโอกะ, ฮอกไกโด ที่มีผู้ติดเชื้อ 575, 519 และ 403 คน ตามลำดับ

อย่างไรก็ดี ประชาชนชาวญี่ปุ่นบางคนไม่คิดว่าการขยายประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินจะช่วยอะไรได้ เพราะยอดผู้ติดเชื้อยังคงเพิ่มขึ้น แถมยังพบผู้ติดเชื้อไวรัสเป็นแบบสายพันธุ์ใหม่อีกด้วย ทั้ง ๆ ที่ตอนนี้ทุกคนต่างสวมหน้ากากอนามัย แต่กลับกันผู้คนยังคงเดินทางและใช้ชีวิตไปกับสถานการณ์การระบาดแบบเคยชิน จนไม่รู้สึกว่าเป็นวิกฤติอีกต่อไป


ที่มา: https://www.naewna.com/inter/571787

ครั้งแรก! ประเทศไทยออกมาตรฐานเรือนำเที่ยว

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมการท่องเที่ยวได้ออกมาตรฐานเรือรับจ้างนำเที่ยวเป็นครั้งแรก ภายใต้มาตรฐานการท่องเที่ยวไทย (ไทยแลนด์ ทัวร์ริซึม สแตนดาร์ด) เพื่อช่วยยกระดับการให้บริการด้านการท่องเที่ยว โดยเรือรับจ้างนำเที่ยวที่ได้รับรองมาตรฐานเรือรับจ้างนำเที่ยว ถือว่ามีความพร้อมในการให้บริการ ทั้งในด้านสภาพทางกายภาพ ด้านบุคลากร ด้านคุณภาพการให้บริการ ด้านความเป็นธรรม ด้านสิทธิมนุษยชน ด้านมาตรการเกี่ยวกับเรือ และด้านมาตรการเกี่ยวกับแผนหรือกิจกรรมการท่องเที่ยว ทำให้นักท่องเที่ยวมั่นใจในการเข้ารับบริการยิ่งขึ้น

สำหรับการกำหนดมาตรฐานเรือรับจ้างนำเที่ยว นั้น กรมการท่องเที่ยว กำหนดว่า ต้องเป็นเรือบรรทุกผู้โดยสารครอบคลุมทั้งที่แล่นอยู่ในลำน้ำหรือทะเล มีด้วยกัน 3 ประเภท คือ เรือกลลำน้ำ เรือกลเดินทะเลเฉพาะเขต เละเรือโดยสารประเภทอื่น ๆ ที่ได้รับการจดทะเบียนให้บรรทุกคนโดยสาร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการนำเที่ยว ซึ่งตามมาตรฐานนี้แบ่งเป็น 3 ขนาด ตามจำนวนการบรรทุกผู้โดยสาร คือ เรือขนาดเล็ก บรรทุกไม่เกิน 15 คน, เรือขนาดกลาง บรรทุกไม่เกิน 16-70 คน และเรือขนาดใหญ่ บรรทุกไม่เกิน 71 -150 คน 

พร้อมทั้งกำหนดรายละเอียดด้านต่าง ๆ คือ ด้านกายภาพ เรือมีใบอนุญาตตามกฎหมาย ทางขึ้น-ลงสะดวก มีป้ายเลขทะเบียน ระบุจำนวนผู้โดยสาร ป้ายแนะนำการปฏิบัติตนขณะโดยสารและเกิดเหตุฉุกเฉินชัดเจน มีพื้นที่เก็บสัมภาระเพียงพอ สะดวก มีห้องน้ำ ห้องส้วม ถูกสุขลักษณะ มีอุปกรณ์สื่อสาร ติดตั้งโคมไฟเดินเรือ หรืออื่น ๆ มีระบบระบายอากาศ เก็บเชื้อเพลิงเหมาะสมปลอดภัย มีอุปกรณ์ช่วยชีวิต มีชูชีพพร้อมใช้งาน เบาะนั่งครบตามจำนวนผู้โดยสาร วางในจุดที่เหมาะสม มีน้ำยาดับเพลิง มียาสามัญประจำบ้าน ชุดปฐมพยาบาล และมีน้ำดื่มสะอาดสำรอง 

หวั่นก่อการร้าย!! ศุลกากรเมียนมาประกาศห้ามนำเข้ารถจักรยานยนต์จากไทยแล้ว หลังเกรงผู้ก่อความไม่สงบ นำไปสร้างสถานการณ์

เพจ LOOK Myanmar ได้โพสต์ข้อชี้แจ้งข้อมูลหลังจากล่าสุดศุลกากรเมียนมา ได้ประกาศห้ามนำเข้ารถจักรยานยนตร์จากไทยแล้วว่า... 

1. ประกาศดังกล่าว เป็นบังคับการนำเข้าจักรยานยนต์จากทุกประเทศ ไม่ใช่แค่ไทย

2. ตอบคำถามที่สงสัย มีความเห็นจากผู้รู้บอกว่า การก่อการในเมืองใหญ่ที่สร้างความปั่นป่วนในขณะนี้ ผู้ก่อความไม่สงบได้ใช้พาหนะเป็นจักรยานยนต์ จึงเป็นเหตุให้มีการสั่งห้ามนำเข้าจักรยานยนตร์ใหม่ๆ เข้ามา แต่อาจต้องดูว่าจักรยานยนตร์เหล่านี้ จะรวมถึงจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่ความเร็วไม่สูงเท่าแบบใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงหรือไม่ด้วยอีกที

3. ประกาศยกเลิกนี้นำเข้านี้ เป็นประกาศชั่วคราวจนกว่าจะมีประกาศใหม่เปลี่ยนแปลง

ที่มา: https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=3942214699179991&id=621374414597386

คนละไม้_คนละมือ’ ‘โอวาทเมด’ เดินหน้าโครงการ CSR ต่อเนื่อง พ่นยาฆ่าเชื้อไวรัส Coronavirus (Covid-19) ให้กับทาง ‘มูลนิธิออทิสติกไทย’ 

นายสุชาติ โอวาทวรรณสกุล (ผู้ปกครองคนพิการ)ใจบุญ  และ ‘โอวาทเมด’ ร่วมกัน คนละไม้_คนละมือ ‘พ่นฆ่าเชื้อโควิด-19’  ให้เด็กออทิสติกปลอดภัย ฟรี!!!!

พื้นที่ประมาณ 800 ตารางเมตร ซึ่งถือได้ว่าเป็นกิจกรรม ‘CSR’ ที่เป็นสาธารณกุศล อีกหนึ่งรูปแบบ เพื่อพ่นยาฆ่าเชื้อไวรัส Coronavirus (Covid-19) ให้กับทาง ‘มูลนิธิออทิสติกไทย’ 

โดยทาง ‘โอวาทเมด’ ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็น ‘Food Grade’ ช่วยลดความเสี่ยง ในการที่จะมีเชื้อไวรัส หรือ เชื้อโรคอื่นที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ 

อีกทั้ง ‘โอวาทเมด’ ยังมีความห่วงใยในสุขภาพอนามัยของประชาชน ช่วงสถานการณ์โควิด _19 ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างมากในขณะนี้ ต่อพี่น้องประชาชน บุคคลทั่วไป คนพิการ และ ผู้ด้อยโอกาส จึงจัดกิจกรรม ‘พ่นฆ่าเชื่อโรค’ ดังกล่าว เพื่อเป็นกุศล

ทั้งนี้ หากประชาชน หรือ บริษัท ห้าง ร้าน สถานประกอบการ หน่วยงานภาครัฐ โรงเรียน ที่พักอาศัย โรงแรม รีสอร์ท สามารถติดต่อสอบถาม สำนักงาน ‘โอวาทเมด’ ได้ 

'ผู้นำคนพิการภาคตะวันออก'​ ใจถึง-พึ่งได้ ลงพื้นที่ มอบถุงยังชีพ สร้างขวัญกำลังใจให้กับคนพิการ และหน่วยงานของรัฐ

นายณรงค์ ไปวันเสาร์ นายกสมาคมคนพิการภาคตะวันออก และผู้นำคนพิการด้านการสร้างงาน สร้างอาชีพ ระดับชาติ เดินทางไปยังพื้นที่ต่างๆในจังหวัดชลบุรี และ เขตภาคตะวันออก เพื่อมอบถุงยังชีพให้กับ คนพิการ /องค์กรคนพิการ /ผู้นำท้องถิ่น และหน่วยงานภาครัฐ จำนวนกว่า 500 ถุง เพื่อมอบเป็นขวัญกำลังใจ ในช่วงที่สถานการณ์เชื้อไวรัสโควิค 19 ที่แพร่ระบาดไปทั่วโลก และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการแพร่ระบาดรอบ 3 ที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยนั้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของพี่น้องประชาชน รวมถึงคนพิการ และครอบครัวคนพิการเป็นอย่างมาก 

ทั้งนี้ นายณรงค์​ ยังได้กล่าวถึงการดำเนินกิจกรรม "มอบถุงยังชีพ" นี้ ว่า อยากจะเป็นส่วนหนึ่งช่วยเหลือภาครัฐที่ได้ทำงานอย่างหนัก ในการดูแลคุณภาพด้านสาธารณสุขของประชาชน และยังคงต้องดูแลในเรื่องของการประกอบอาชีพของประชาชน เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจมากนัก

แม้เราจะเป็นเพียง "คนพิการ" แต่เราก็อยากจะร่วมกับรัฐบาลในการสร้างคุณงามความดี ตอบแทนพี่น้องประชาชน และประเทศชาติ ตามกำลังที่ทางสมาคมฯ พอจะช่วยเหลือได้ในยามที่คนไทยตกทุกข์ได้ยาก

ห้วงเวลานี้​ เราทุกคนควรจะจับมือกันและก้าวข้ามผ่านวิกฤติการณ์อันเลวร้ายนี้ไปด้วยกัน ด้วยการลงมือทำแบบ​ ​'คนละไม้_คนละมือ'​

'ตำรวจสอบสวนกลาง'​ ไม่ทอดทิ้งประชาชน และห่วงใย มอบน้ำใจแก่วิทยาลัยเทคโนโลยีพระมหาไถ่ พัทยา

พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบช.ก. พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.มานะ กลีบสัตบุศย์ ผบก.อก.บช.ก. พ.ต.อ.ณัฐกร ประภายนต์ รอง ผบก.อก.บช.ก. และ​ พ.ต.อ.ณัฐพล ลิปิพันธ์​ ผกก.ฝอ.5.บก.อก.บช.ก.

ได้มอบหมายให้ พ.ต.ต.เลอศักดิ์ พิเชษฐไพบูลย์ สว.ฝอ.5 บก.อก.บช.ก. พร้อมกำลังพลจิตอาสา บก.อก.บช.ก. เป็นตัวแทน ร่วมกันมอบวัตถุดิบประกอบอาหาร เครื่องดื่ม โดยการสนับสนุนจากเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) และอุปกรณ์ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) แก่วิทยาลัยเทคโนโลยีพระมหาไถ่ พัทยา (มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ)  

ซึ่งประกอบด้วย... 

1.ข้าวสาร จำนวน 220 กิโลกรัม
2.น้ำดื่ม จำนวน 100 แพค 
3.ไข่ไก่สด จำนวน1,000 ฟอง
4.หน้ากากอนามัย จำนวน 2,500 ชิ้น
5.เอทิลแอลกอฮอล์ จำนวน 60 ลิตร

โดยมี ซิสเตอร์ภาวิณี พิชัยศรีสวัสดิ์ ผู้จัดการวิทยาลัยเทคโนโลยีพระมหาไถ่ พัทยา  พร้อมคณะเป็นผู้รับมอบ ณ วิทยาลัยเทคโนโลยีพระมหาไถ่ พัทยา จ.ชลบุรี
http://www.cib.police.go.th/2016/news.php?id=882

ทยอยช่วยคนพิการ!! 'ภาครัฐ'​ ผนึก​ 'เอกชน'​ ขับเคลื่อนทีม 'เรามีเรา'​ ส่งมอบของบริจาค​ ช่วยคนพิการช่วงโควิดระบาดหนัก

ณ อาคาร 60 ปี บ้านราชวิถี กรมประชาสงเคราะห์ กรุงเทพมหานคร 'นางสาวสราญภัทร อนุมัติราชกิจ'​ อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.)​ รับมอบแพมเพิส ถุงอเนกประสงค์ ถุงยังชีพ ข้าวสารและน้ำดื่ม พร้อมเงินบริจาค จากภาคเอกชนและภาคีเครือข่าย เพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนกลุ่มเปราะบาง อาทิ คนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาสในสังคม ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์​ (พม.) ที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนและความยากลำบากจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในขณะนี้ 

พร้อมส่งต่อความห่วงใยมอบสิ่งของบริจาคจำนวน 300 ชุด ให้กับองค์กรคนพิการ 7 แห่ง ได้แก่ สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย สมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย, สมาคมผู้ปกครองออทิสซึม (ไทย), สมาคมคนหูหนวกแห่งประเทศไทย, สมาคมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญาแห่งประเทศไทย, สมาคมเพื่อผู้บกพร่องทางจิตแห่งประเทศไทย, สมาคมสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย เพื่อนำไปแจกจ่ายสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นให้กับคนพิการที่ได้รับผลกระทบในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ต่อไป

นอกจากนี้ ทาง พก. ยังได้จัดให้มีคณะทำงานช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมาย ภายใต้ชื่อ 'ทีมเรามีเรา'​ ประกอบด้วย นักสังคมสงเคราะห์, นักพัฒนาสังคม และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานให้ความช่วยเหลือคนพิการ ซึ่งเป็นบุคลากรของ พก. จำนวน 15 ทีม เพื่อรับแจ้งเหตุ ประสานส่งต่อ และดำเนินการช่วยเหลือคนพิการที่ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และส่วนภูมิภาค โดยประสานงานผ่านศูนย์บริการคนพิการประจำจังหวัดทั่วประเทศ 

อธิบดี พก. กล่าวว่า สำหรับขั้นตอนการดำเนินงานประกอบด้วย 

1) การเฝ้าระวังและคัดกรองข่าวสารคนพิการที่ต้องการความช่วยเหลือ จากสื่อออนไลน์ สายด่วนศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 และสายด่วนคนพิการ รวมทั้งได้รับการประสานงานจากภาคีเครือข่าย  

2) การประสานงาน โดยการประสานข้อมูล (Fact Finding) ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จากนั้น จึงให้ความช่วยเหลือ 

และ 3) การติดตามผลให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง  

ทั้งนี้ มีการแบ่งคนพิการออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่... 

กลุ่มแรก คนพิการที่ติดเชื้อ ช่วยเหลือโดยการประสานหาโรงพยาบาล โรงพยาบาลสนาม และ Hospitel  

กลุ่มที่ 2 คนพิการที่อยู่ในครอบครัว ที่มีคนติดเชื้อ ช่วยเหลือโดยประสานตรวจเชื้อ และความช่วยเหลืออื่นๆ 

และกลุ่มที่ 3 คนพิการที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง มีความวิตกกังวล ช่วยเหลือโดยให้คำปรึกษาคลายกังวล และแนะนำการปฏิบัติตนอย่างถูกวิธี

ทั้งนี้ทาง​ พม. และ​ พก. ยังได้แสดงความขอบคุณเครือข่ายและพันธมิตรในการขับเคลื่อนภารกิจงานครั้งนี้ และหากพบคนพิการที่มีภาวะความเสี่ยงจาก COVID - 19 ติดต่อ 1300 / 1479 หรือ ศูนย์บริการคนพิการจังหวัดทั่วประเทศ 

นอกจากนี้​ หากมีความประสงค์จะร่วมบริจาคสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นสำหรับคนพิการในหน่วยงานสังกัด พก. สามารถติดต่อสอบถามได้ที่หน่วยงานทั้ง 22 แห่ง ทั่วประเทศ โทร 0 2354 3388 และ 1479 หรือเว็บไซต์ www.dep.go.th และ เฟสบุ๊กกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ

ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง!! 'กัญจนา ศิลปอาชา' เดินหน้าช่วยเหลือผู้พิการไทย ควักเงินล้าน​ หนุนผ่าน "องค์การคนพิการระดับชาติ"

'กัญจนา ศิลปอาชา'​ ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง มอบเงินช่วยเหลือคนพิการไทย ผ่าน 'องค์การคนพิการระดับชาติ'

วันศุกร์ที่ 7 พฤษภาคม  2564 ณ มูลนิธิออทิสติกไทย คุณกัญจนา ศิลปอาชา (คุณนา) ประธาน 'มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย'​ (มพพท) มอบเงินให้กับ 'มูลนิธิออทิสติกไทย'​ จำนวน 1​ ล้านบาท 'สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย' จำนวน 2 แสนบาท รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 1,200,000 บาท เพื่อดำเนินจัดถุงยังชีพมอบให้แก่คนพิการและครอบครัว โดยมอบหมายให้ 'สภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศ' และ 'องค์การคนพิการระดับชาติ' รับหน้าที่ส่งมอบถุงยังชีพให้แก่คนพิการ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ซึ่งเป็นพื้นที่สีแดงเข้ม และเป็นพื้นที่ควบคุม ในช่วงสถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด19 ที่แพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ จำนวนรวม 1,500 ชุด 

งานในครั้งนี้​ ได้​ คุณนิกร จำนง กรรมการมูลนิธิฯและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 'พรรคชาติไทยพัฒนา'​ เข้าร่วมเป็นเกียรติมอบเงิน​

รวมไปถึง อ.ชูศักดิ์ จันทยานนท์ นายกสมาคมสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทยคุณสุชาติ โอวาทวรรณสกุล นายกสมาคมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญาแห่งประเทศไทย, คุณเอกกมล แพทยานันท์ นายกสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย, คุณกิตติพงษ์ หาดทวายกาญจน์ กรรมการสมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย, อ.ปราโมทย์ ธรรมสโรช, คุณกิจจาพร ชื่นบุญ มูลนิธิออทิสติกไทย, คุณธิติวัฒน์ สิทธิพูนปวีร์ ผู้แทนเครือข่าย สมาคมเพื่อผู้บกพร่องทางจิตแห่งประเทศไทย, คุณชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล นายกสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทย ที่ได้เข้าร่วมงานการรับบริจาคดังกล่าวด้วย

สำหรับ คุณกัญจนา ถือเป็นผู้ผลักดันและส่งเสริมสิทธิคนพิการมาโดยตลอด ตั้งแต่ปี 2538 ในสมัยพรรคชาติไทย ฯพณฯบรรหาร ศิลปอาชา นายกรัฐมนตรีคนที่ 21 รับผิดชอบงานด้านการศึกษา ได้ริเริ่มนโยบาย 'คนพิการทุกคนที่อยากเรียนต้องได้เรียน'​ ต่อมาจนกลายเป็นนโยบาย และสโลแกนระดับประเทศ เกิดการปฎิรูปการจัดการศึกษาคนพิการ มีการจัดสร้างศูนย์การศึกษาพิเศษทั่วประเทศ ให้ความสำคัญกับ 'นโยบายเรียนร่วม/เรียนรวม'​ ที่ให้คนพิการสามารถเรียนร่วมในโรงเรียนทั่วไปได้ ทำให้คนพิการจำนวนมากได้เรียนจากหลักปีละหมื่นคน เป็นปีละกว่าสี่แสนคน จนถึงปัจจุบัน

ท้ายนี้ 'ผู้นำคนพิการ' ได้เข้าขอบคุณ คุณกัญจนา  ศิลปอาชา คณะกรรมการมูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย ที่มอบโอกาส และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ในการช่วยเหลือคนพิการต่อไป

"แม้เงินจำนวนดัวกล่าว อาจจะช่วยเหลือคนพิการ ที่มีมากกว่า 2 ล้านคนทั่วประเทศไม่ได้ครบทุกคน แต่อย่างน้อย ก็ยังเป็นการแสดงออกถึงความห่วงใย จากผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง และเป็นส่วนหนึ่งที่จะสร้างแรงจูงใจ ให้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคสังคม มาร่วมกัน​ 'คนละไม้_คนละมือ'​ เพื่อสร้างสรรค์สังคมไทยให้น่าอยู่ สืบไป" กัญจนา​ กล่าว

สปสช.พร้อมเยียวยา! ผู้ได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิดทุกคน

ประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 และมีอาการไม่พึงประสงค์ แม้จะพบในสัดส่วนที่น้อย รัฐบาลก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือทุกกรณี

ล่าสุด บอร์ด สปสช. แจ้งว่าพร้อมช่วยเหลือดูแลคนไทยทุกสิทธิ ไม่ว่าจะเป็นสิทธิประกันสังคม บัตรทอง สิทธิข้าราชการ และบุคลากรสาธารณสุข ที่เป็นผู้ได้รับความเสียหายจากการฉีดวัคซีนโควิด-19

โดยจะเริ่มคุ้มครอง ตั้งแต่วัคซีนเข็มแรกที่ฉีดให้คนไทยเมื่อวันที่ 28 ก.พ. ที่ผ่านมา ดำเนินการช่วยเหลือตามมาตรา 41 พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545

ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 สามารถยื่นเรื่องได้ที่โรงพยาบาล สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และเขต สปสช. ซึ่งจะมีคณะกรรมการพิจารณาอัตราช่วยเหลือเยียวยาภายใน 5 วัน


ที่มา : https://www.facebook.com/154553218343826/posts/1169099976889140/


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top