Friday, 4 July 2025
NEWS FEED

‘อรรถวิชช์’ เผย!! กฎหมายส่งเสริม การใช้ไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ ทะลุ!! ทุกขั้นตอน แจ้งที่เดียว วิศวกรเซ็นรับรอง ติดตั้งได้เลย

(11 ม.ค. 68) นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ประธานที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะผู้ยกร่างกฎหมายส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ เปิดเผยว่า

ร่างกฎหมายฉบับนี้มีที่มาจากการขออนุญาตติดตั้งโซลาร์เซลล์ค่อนข้างลำบากเนื่องจากต้องขออนุญาตหลายหน่วยงาน ถือถ้าเกิน 1,000 เมกะวัตต์จะต้องขออนุญาตมากถึง 5 หน่วยงาน ซึ่งใช้ระยะเวลาเกือบ 1 ปีถึงจะได้รับอนุญาต

ดังนั้นกฎหมายส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จะทะลุขั้นตอนการขออนุญาตหมดเลย เพียงแค่แจ้งที่เดียว และให้วิศวกรเซ็นรับรอง ซึ่งจะทำให้ความล่าช้าทั้งหมดหายไปทันที

ในขณะเดียวกันกระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างพัฒนาตัว Inverter ขนาด 5 กิโลวัตต์ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการทดสอบมาตรฐานซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้าย และเมื่อมีการผลิตมาวางจำหน่ายราคาจะลดลงครึ่งนึงจากสินค้าที่วางจำหน่ายในตลาด 

เมื่อราคาถูก ประกอบกับการขออนุญาตติดตั้งง่ายขึ้น ประชาชนก็จะมีการติดตั้งโซลาร์เซลล์มากยิ่งขึ้น เป็นช่วงกลางวันใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ช่วงกลางคืนเชื่อมต่อกับไฟฟ้าของการไฟฟ้านครหลวง หรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

AIS ผนึก ตำรวจไซเบอร์ ปฏิบัติการเชิงรุก ปราบ โจรจีนเทา จับเครื่องส่ง SMS ปลอม เตือน! ประชาชนอย่ากดลิงก์เด็ดขาด

พล.ต.ท. ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. ร่วมกับ AIS โดย นายวรุณเทพ วัชราภรณ์ หัวหน้าฝ่ายงานธุรกิจสัมพันธ์ แถลงผลการปฏิบัติการของตำรวจไซเบอร์ บช.สอท. ตามนโยบายรัฐบาล ที่จะเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ มิจฉาชีพ และอาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน โดยครั้งนี้ 'มาตรการระเบิดสะพานโจร' คือ การบุกรวบจีนเทาพร้อมเครื่องส่ง SMS ปลอม (False Base Station) ได้คารถ หลังตระเวนขับรถส่ง SMS ที่ปลอม Sender ผู้ส่งเป็นชื่อ AIS โดยเป็นข้อความลวงให้แลกคะแนน AIS Points แนบลิงก์ดูดเงิน ในย่านรามอินทรา สุขุมวิท และฝั่งธนฯ

สืบเนื่องจาก จนท. ตำรวจไซเบอร์ ได้รับการประสานจาก AIS ว่าตรวจพบกลุ่มคนจีนใช้รถยนต์ขับตระเวนบริเวณชุมชน ห้างสรรพสินค้า ที่มีประชาชนหนาแน่น แล้วใช้อุปกรณ์ส่งสัญญาณความถี่ผิดกฎหมาย ส่งสัญญาณเข้าอุปกรณ์มือถือที่อยู่ในรัศมีโดยปลอมเป็นเครือข่าย AIS ทำการส่ง SMS ปลอมจาก Sender ชื่อ AIS ทำให้ประชาชนสับสนและหลงเชื่อ

ตำรวจไซเบอร์จึงร่วมมือกับทีมวิศวกร AIS สืบสวนติดตาม จนพบกลุ่มคนจีนใช้รถยนต์ฮอนด้า CRV สีบรอนด์ ที่ต้องสงสัย จึงได้สะกดรอยตาม พบรถคันดังกล่าวมาจอดที่ลานจอดรถของอพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่งในซอยนวลจันทร์ 60

จากการสังเกตพบคนต่างด้าวลักษณะเหมือนคนจีนลงจากรถ เข้าไปพักในที่พักดังกล่าว จึงเฝ้าจุดดูความเคลื่อนไหว จนกระทั่งเช้าของวันที่ 9 มกราคม 2568 หนึ่งในคนต่างด้าวได้มาที่รถคันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ ทีมวิศวกร AIS และ เจ้าหน้าที่ กสทช. จึงได้เข้าแสดงตัวตรวจสอบ พบว่าอุปกรณ์ที่ติดตั้งหลังรถคันดังกล่าวเป็นเครื่อง False Base Station ที่ถูกติดตั้งไว้พร้อมใช้งาน ซึ่งอุปกรณ์ดังกล่าวนี้เป็นเครื่องวิทยุโทรคมนาคมแบบพกพาเถื่อน ผิดกฎหมาย โทรศัพท์มือถือ 11 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร บัตรเอทีเอ็มและซิมโทรศัพท์มือถือกว่า 30 รายการ จึงได้ทำการจับกุมตัว MR.LI อายุ 49 ปี และ MR. ZHU อายุ 47 ปี สัญชาติจีน และแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดี การปฏิบัติการจับกุมครั้งนี้ถือเป็นการตัดวงจรสำคัญของแก๊งคอลเซ็นเตอร์เถื่อน ปิดโอกาสคนร้ายในการติดต่อประชาชนที่อาจตกเป็นเหยื่อ โดยทางกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ยังคงร่วมมือกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนเพื่อปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอย่างเข้มข้นต่อไป

นายวรุณเทพ วัชราภรณ์ หัวหน้าฝ่ายงานธุรกิจสัมพันธ์ AIS กล่าวว่า “ในฐานะผู้ให้บริการระบบสื่อสาร เราให้ความสำคัญกับการดูแลลูกค้าให้ใช้บริการได้อย่างปลอดภัย จึงเดินหน้าทำงานเชิงรุกอย่างต่อเนื่องในทุกมิติ โดยการให้ความร่วมมือกับตำรวจ และหน่วยงานภาครัฐ ในการติดตามมิจฉาชีพ ตรวจสอบเส้นทาง ปิดกั้นการใช้เครือข่ายเป็นช่องทางหลอกลวงประชาชน อย่างเรื่องการส่ง SMS ปลอม ผ่านอุปกรณ์เครื่องจำลองสถานี (False Base Station) เสมือนการปลอมเป็นเครือข่ายเอไอเอส ทำการส่ง SMS ปลอมจาก Sender ชื่อ AIS ทำให้ประชาชนสับสนและหลงเชื่อ ซึ่งอุปกรณ์ดังกล่าว เป็นเครื่องวิทยุโทรคมนาคมแบบพกพาเถื่อน ผิดกฎหมาย เพราะหลังจากการตรวจสอบแล้ว ไม่พบข้อมูลการได้รับอนุญาตจาก กสทช. แต่อย่างใด
 
ซึ่งเอไอเอสร่วมมือกับตำรวจตามจับมิจฉาชีพมาหลายเคสแล้ว ครั้งนี้ก็เช่นกัน เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้สนับสนุนภารกิจของฝ่ายความมั่นคง จนสามารถคำนวณเส้นทางการเคลื่อนตัวของมิจฉาชีพอย่างละเอียด ทำให้เข้าถึงแหล่งกบดานของกลุ่มนี้ และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ภารกิจการทลายแก๊งมิจฉาชีพกลุ่มนี้สำเร็จลงได้

นายวรุณเทพ ย้ำว่า "AIS ขอแจ้งไปยังประชาชนว่าอย่าหลงเชื่อและให้ข้อมูลส่วนบุคคลผ่านการกดลิงก์ แอดไลน์ หรือตอบกลับ SMS รวมถึงงดให้ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น เลขบัตรประชาชน เลขบัตรเครดิต วันเดือนปีเกิด รวมทั้งรหัส OTP ในการทำธุรกรรมใดๆ แก่แหล่งที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ หากเป็นลูกค้า AIS เมื่อรับสายที่เข้าข่ายมิจฉาชีพ เมื่อวางสาย สามารถกด *1185# โทรออก ภายใน 5 นาที ระบบจะส่งเบอร์ล่าสุดที่รับสายไปเพื่อตรวจสอบและบล็อกทันที หรือ หากได้รับ SMS ผิดปกติ ก็สามารถโทร.แจ้งผ่านสายด่วน 1185 AIS Spam Report Center ได้ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง โดย AIS จะตรวจสอบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป"

‘สวนดุสิตโพล’ เผย!! เด็กไทยอยากได้ ‘ทุนการศึกษา’ เป็นของขวัญ จากรัฐบาล ปลื้ม!! ‘ลิซ่า’ เป็นแรงบันดาลใจ พร้อมอยากให้มี ‘การเรียน - โรงเรียน’ที่สนุกขึ้น

(11 ม.ค. 68) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นเด็กไทยทั่วประเทศ เรื่อง ‘เสียงสะท้อนจากเด็กไทย ปี 2568’ ระหว่างวันที่ 7-10 มกราคม 2568 กลุ่มตัวอย่างเป็นเด็กไทยอายุระหว่าง 6-18 ปี จำนวน 1,030 คน สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม พบว่า สิ่งที่เด็กไทยชอบหรือประทับใจที่สุดในวัยเรียน คือ การเล่นกับเพื่อน ๆ ในโรงเรียน ร้อยละ 66.21 นอกเหนือจากห้องเรียน เด็กไทยชอบเรียนรู้จากการดูคลิปหรือเรียนรู้จากมือถือ/แท็บเล็ตมากที่สุด ร้อยละ 76.99 ทักษะที่สำคัญสำหรับอนาคต คือ ทักษะการรู้จักป้องกันและรับมือกับภัยอันตรายทั้งในชีวิตจริงและออนไลน์ ร้อยละ 74.76 ทั้งนี้ เด็กไทยอยากเห็นประเทศไทยเปลี่ยนแปลง คือ โรงเรียนและการเรียนสนุกขึ้น ร้อยละ 61.26 ของขวัญที่อยากได้จากรัฐบาล/นายกรัฐมนตรีในวันเด็กปีนี้ คือ ทุนการศึกษา เงินช่วยเหลือ ร้อยละ 74.37 นอกจากคุณพ่อคุณแม่ คนที่เด็กไทยชื่นชมและเป็นแรงบันดาลใจ คือ ลิซ่า ลลิษา ร้อยละ 47.09 รองลงมาคือ คุณครู ร้อยละ 41.26

นางสาวพรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล กล่าวว่า จากผลโพลสะท้อนเสียงของเด็กไทยอายุ 6-18 ปี ว่า 'ความสนุก' ยังคงเป็นหัวใจสำคัญของช่วงวัยนี้ ทั้งการเล่นกับเพื่อนในโรงเรียนและคาดหวังให้การเรียนในห้องเรียนสนุกมากยิ่งขึ้น สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ ที่มุ่งเน้น 'เรียนดี มีความสุข' หากสามารถผลักดันให้เกิดขึ้นได้ ย่อมตอบโจทย์ผู้เรียนอย่างแท้จริง ผลโพลยังชี้ให้เห็นว่าเด็กไทยตระหนักถึงภัยมิจฉาชีพออนไลน์ การพัฒนาด้านเทคโนโลยี รวมถึงชื่นชมบุคคลศิลปินระดับโลกอย่าง ‘ลิซ่า ลลิษา’ คุณครู นักกีฬา ไปจนถึงนักการเมืองอย่าง ‘พิธา’ และ ‘แพทองธาร’

‘พี่อิ๊งค์’ ล้อมวงคุย!! ตอบคำถาม ตัวแทนเยาวชน ที่ตึกสันติไมตรี ย้ำ!! ทำงานไม่เหนื่อย ถึงแม้วันหยุดน้อย เพราะมีกำลังใจที่ดี

(11 ม.ค. 68) ที่ตึกสันติไมตรี (หลังใน) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นั่งล้อมวงพูดคุยกับตัวแทนเด็กและเยาวชนโรงเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ จากกรุงเทพมหานคร นครปฐม และสมุทรปราการ จำนวน 40 คน และผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ จำนวน 6 คน จากภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ประกอบด้วย โรงเรียนอนุบาลสุราษฎร์ธานี โรงเรียนนารีนุกูลอุบลราชธานี โรงเรียนสมาคมพยาบาลไทยจังหวัดน่าน และโรงเรียนมัธยมพระราชทานเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน

นายกฯ กล่าวว่า พี่จบจากโรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย เป็นโรงเรียนหญิงล้วน จบแล้วไปต่อจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปี 1 ถึงปี 4 และเรียนปริญญาโทที่ประเทศอังกฤษ เรียนจบสาขาโรงแรมเพราะว่าที่บ้านทำธุรกิจโรงแรมก็เลยอยากทำต่อ สรุปมาทำการเมืองแทน ความจริงอะไรที่เราแพลนไว้ไม่ได้ตามที่เราแพลนทุกอย่าง คำขวัญวันเด็กถึงได้พูดว่าพร้อมปรับตัวสู่อนาคตวันนี้น้อง ๆ มีคำถามอะไรถามได้เลย

โดยนักเรียนจากโรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ เขตพระนคร กรุงเทพฯ ถามนายกฯว่าเหนื่อยหรือเปล่ากับการทำงานในตำแหน่งนายกฯ ซึ่งนายกฯ ตอบว่า คิดว่าทุกตำแหน่งเหนื่อยคนละแบบ ความจริงเป็นนายกฯเหนื่อยแต่เหนื่อยปกติ อาจจะมีวันหยุดน้อยหน่อย เพราะเราหยุดอาจจะโดนว่าก็เลยทำให้ไม่ได้หยุด เป็นนายกฯหยุดอาจจะผิดเล็กน้อย แต่ความจริงไม่เหนื่อยเพราะมีกำลังใจที่ดีเวลาผลงานที่ทำออกไปแล้ว เราทำด้วยความตั้งใจเพราะเราตั้งใจทำ บางคนบอกว่าได้รับประโยชน์มันอิ่มใจ ใจมันฟู สิ่งที่พี่กำลังจะทำเรื่องของทุนการศึกษา ถ้ามีใครได้มีโอกาสในการศึกษาเพิ่มขึ้นจากรัฐบาลนี้ เป็นสิ่งที่ทำให้หายเหนื่อย เพราะฉะนั้นต้องตั้งใจทำงานให้นโยบายออกเยอะๆ ประชาชนได้ประโยชน์เยอะ ก็จะหายเหนื่อย

จากนั้นเด็กนักเรียนจากโรงเรียนหอวัง เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ถามว่าเป็นผู้นำหญิงที่อายุน้อยที่สุดคิดว่ามันยากหรือไม่ นายกฯ ตอบว่า ทุกอายุมีความสามารถ การเป็นนายกฯอายุน้อยที่สุดสร้างประวัติศาสตร์ให้ประเทศไทย ความจริงแล้วคิดว่าเนื้องานของการทำงานไม่ได้ต่างกับผู้ชาย แน่นอนมันก็ยังมีในเรื่องของความบูลลี่นิดนึงในความที่เราเป็นผู้หญิง อันนี้ถ้าสังคมเปิดกว้างขึ้น โลกเปิดกว้าง มีการพัฒนาตรงนี้มากขึ้น และเข้าใจมากขึ้นคิดว่าตรงนี้จะน้อยลง ซึ่งเคยอ่านหนังสือเขาบอกว่านักการเมืองหญิงทั่วโลกจะถูกบูลลี่ในเรื่องต่างๆ สมมุติว่าเป็นผู้หญิงทำไมใส่ชุดนี้ ชุดนั้น แต่ผู้ชายใส่ชุดสูทชุดเดียวจบ ก็เลยไม่มีใครสนใจ สิ่งที่ยากคือตรงนี้ เพราะเราเป็นผู้หญิงโดนบูลลี่ในเรื่องนี้ ถามว่าทำอย่างไร เราต้องรู้คุณค่าของตัวเราก่อน ต้องรู้ว่าเรามาทำตรงนี้ เพื่ออะไร มีความตั้งใจอย่างไร เรามีดีอะไรบ้าง เราอยากทำเรื่องดี ๆ ให้ใครบ้าง อันนี้คือสิ่งที่เราตั้งใจ และต้องมีสติเยอะ ๆ คำว่าสติสอนกันมาตั้งแต่ตัวเล็ก ๆ ว่าให้มีสติ เราฟังผ่านๆ แต่เมื่อโตขึ้น เมื่อชีวิตมีเรื่องที่ท้าทายมากยิ่งขึ้น เราก็จะคิดว่าคำนี้มันสำคัญ พี่ขอบอกไว้ก่อน เผื่อโตขึ้นไปจะรู้สึกว่าคำนี้สำคัญมากคือคำว่าสติ

ต่อมาเด็กนักเรียนจากโรงเรียนราชวินิต เขตดุสิต กรุงเทพฯ อยากถามนายกฯว่าอะไรคือแรงบันดาลใจของนายกฯ โดยนายกฯ ตอบว่า แรงบันดาลใจมีหลายอย่าง แรงบันดาลใจที่หนึ่ง คือ คุณพ่อพี่เคยเป็นนายกฯเคยทำนโยบายไว้ให้ประเทศชาติ จนถึงทุกวันนี้คือนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค ซึ่งเปลี่ยนรัฐบาล เปลี่ยนขั้ว เปลี่ยนฝั่ง นโยบายนี้ยังอยู่ ยังได้ประโยชน์จากนโยบายนี้ ทำให้พี่รู้สึกว่าพี่อยากทำนโยบายนี้ ไม่ว่าตัวพี่ไปอยู่ที่ไหน แต่ประโยชน์นี้ยังอยู่ที่ประชาชนอยู่ ถ้าทำได้พี่จะรู้สึกมีความภูมิใจ และรู้สึกว่าเรื่องดีๆยังตกอยู่ที่ประชาชนไม่ว่ามันจะเปลี่ยนไปกี่ยุค กี่สมัยก็ตาม อันนี้คือแรงบันดาลใจแรก ส่วนแรงบันดาลใจที่สอง พี่คิดว่าจากที่เห็นประเทศชาติวุ่นวายแล้วเรามีโอกาสมานั่งอยู่ในตำแหน่งนี้ทำเรื่องต่าง ๆ ให้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีได้ และแรงบันดาลใจที่สาม คือลูก ๆ อย่างน้อย ๆ ในเทอมที่เป็นนายกฯ พี่ได้สร้างสิ่งดี ๆ ไว้ให้กับประเทศ นั่นก็เป็นการเตรียมพร้อมอนาคตส่วนหนึ่งให้กับลูก ๆ ด้วย

จากนั้นเด็กจากโรงเรียนสมาคมพยาบาลไทยจังหวัดน่าน ถามนายกฯว่าได้เห็นพี่อิ๊งค์ทำกับข้าวให้ลูก ๆ กิน คิดว่าพี่อิ๊งค์เป็นแม่ที่ใจดี และมีเมนูอาหารที่จะมาแนะนำพวกหนูหรือไม่ โดยนายกฯ ยิ้มเขินก่อนตอบว่า พี่ตอบเสร็จแล้วไม่ต้องเชิญพี่ไปออกรายการทำอาหารที่ไหน สมัยตอนที่พี่มีลูกคนแรกลูกสาว 4 ขวบตอนนั้นเป็นช่วงโควิด-19 ทำอาหารให้ลูกทานได้ 3 มื้อ เพราะว่าเราอยู่บ้านไปซูเปอร์มาร์เกตเอง ซื้ออาหารทำเอง แต่ว่าลูกยังพูดไม่ได้ก็เลยไม่มีคอมเมนต์ว่าเขาชอบหรือไม่ชอบ แต่พอทานได้อยู่ และเมนูโปรดที่ทำกับลูกคือทำอะไรที่เด็ก ๆ ชอบทาน ที่บ้านปลูกผักปลอดสารพิษให้น้องๆไปเก็บผักและนำมาทอดกรอบ เราเรียกกันง่าย ๆ ในบ้านว่า “บุ้งกรอบ” มันทำง่าย ๆ ก็แค่ผสมแป้งสำเร็จรูปและชุปให้เด็ก ๆ ทอด ซึ่งคนถามว่าไม่กลัวร้อนหรอ ซึ่งเด็กประมาณ 3-4 ขวบ เราบอกเขาได้ อย่าไปห้าม ไปตัดโอกาสเขาทุกอย่าง เขาบอกว่าเด็กอย่าไปตัด แต่ให้เติม ทั้งนี้ ที่ทำเมนูบุ้งกรอบเพราะเด็ก ๆ ชอบทานผักบุ้งทอดกรอบ เมื่อเขาทำเองจะได้มีความภูมิใจในการทอดทีละอัน และอีกเมนูหนึ่งที่ทำง่าย ๆ คือให้ฝึกทอดไข่เจียว ให้เลือกรสชาติที่ชอบ แต่แม่คอยย้ำว่าอย่าเค็มเกินไป แต่จะให้ตนทำเมนูที่ยากมากกว่านี้คงต้องไปเรียน อย่างแกงพะแนง และแกงเขียวหวานแม่ทำไม่เป็น

ต่อจากนั้นนายกฯถ่ายภาพกับนักเรียน Thailand Zero Dropout นักเรียนนอกระบบการศึกษาที่ได้รับการนำกลับเข้าสู่ระบบการศึกษาอีกครั้ง และกลุ่มเยาวชนที่ชนะการแข่งขันกีฬาประเภทจักรยานทรงตัวในรายการแข่ง RSR Runbike Championship in Songkhla ทั้งนี้ตัวแทนนักเรียนได้มอบตุ๊กตาทำมือให้กับนายกฯด้วย

ขณะที่บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างคึกคัก มีเด็ก ๆ ขอถ่ายรูปและขอลายเซ็นนายกฯ

นายกฯ เปิดงาน!! 'วันเด็ก' ที่กระทรวงศึกษาฯ แนะน้องๆ ต้องเรียนรู้ เพื่อปรับตัวสู่อนาคต

(11 ม.ค. 68) เมื่อเวลา 08.30 น. ที่กระทรวงศึกษาธิการ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 ภายใต้แนวคิด ‘เรียนดี มีความสุข Smart Kids ,Happy Future’ โดยมี พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ และคณะผู้บริหารเข้าร่วม

เมื่อมาถึงตัวแทนเด็กและเยาวชนมอบพวงมาลัยให้นายกฯ จากนั้นนายกฯสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 6 ก่อนเดินมาที่เวทีจัดงาน โดยนายกฯมอบของขวัญให้กับเด็กซึ่งเป็นตัวแทนจากทั่วประเทศ ของขวัญเช่น ตุ๊กตาหมี ลูกฟุตบอล

จากนั้นนายกฯ กล่าวเปิดงานว่า วันนี้ถือว่าเป็นปีแรกของตนในฐานะนายกรัฐมนตรีที่ได้มีโอกาสมาร่วมงานวันเด็กที่กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก รมว.ศึกษาธิการ เตรียมงานไว้ดีมาก และเมื่อสักครู่ได้เห็นน้อง ๆ มาแสดงบนเวที เป็นเด็กตัวเล็ก ๆ รู้สึกว่าน่ารักมาก เก่งมากจำบทได้และสามารถพูดได้ ตนประทับใจ ถือเป็นการเริ่มวันเด็กที่สดชื่นและสดใส ลีลาการเต้น สไตล์การเต้นต้องผ่านการฝึกฝน ความชอบ ความตั้งใจ และความสามัคคีในหมู่คณะ รวมถึงต้องอาศัยทุกอย่างให้โชว์ออกมาได้ดี และน่าประทับใจ ซึ่งพี่ขอชื่นชมและขอสนับสนุนให้น้องๆไปทางด้านนี้อย่างต่อเนื่อง เพราะมันไม่ใช่การที่เราซ้อมวันสองวันแล้วได้เลยน้อง ๆ ต้องซ้อมเป็นเดือนหรือเป็นปีไปชิงแชมป์โลก นำชื่อเสียงกลับมาให้กับประเทศได้มากขนาดนี้ ก็ขอชื่นชมจากใจจริง

นายกฯ กล่าวต่อว่า เรามีครอบครัวมีพ่อ แม่ พี่ น้อง เราเปิดโอกาสให้เด็ก ๆ สมัยใหม่ได้เรียนรู้ด้วยตัวของเขาเอง โดยมีผู้ใหญ่คอยอยู่ข้าง ๆ คอยแนะนำและบอกเล่าประสบการณ์ที่ผู้ใหญ่เจอมาเพื่อให้เด็กมีความรู้ มีข้อมูลที่มากพอ พร้อมที่จะตัดสินใจ และทำไมคำขวัญปีนี้ถึงพูดว่า ทุกโอกาส คือการเรียนรู้ พร้อมปรับตัวสู่อนาคตที่เลือกเอง

ซึ่งทุกโอกาส คือการเรียนรู้ พร้อมปรับตัวสู่อนาคตเราสามารถเรียนรู้ได้ทุกรุ่น ทุกวัยไม่จำเป็นว่าผู้ใหญ่โตแล้วไม่ต้องเรียนรู้ ทุกคนสามารถเรียนรู้ได้ ทุกคนหันหน้าเข้าหากันเปิดใจ พร้อมเรียนรู้พร้อมรับฟังซึ่งกันและกัน นั่นคือโอกาสแห่งการเรียนรู้ นี่คือที่มาของคำขวัญวันเด็กในปีนี้ และแน่นอนว่าอยากให้น้อง ๆ ได้รู้ว่าโลกเราเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว วันนี้เทคโนโลยีเข้ามามาก แต่ทุกคนต้องพร้อมที่จะปรับตัวให้เข้ากับโลก และยุคสมัยให้เรารู้คุณค่าของตัวเรา พร้อมที่จะปรับตัวสู่อนาคต

“ในโอกาสวันเด็กปีนี้ ขอให้น้องๆทุกคนได้มีโอกาสในการเรียนรู้เยอะๆ วันนี้กระทรวงศึกษาธิการ สร้างสิ่งน่าเรียนรู้ไว้รอบตัวเราและสร้างสิ่งที่สนุก ต้องขอขอบคุณทางกระทรวงศึกษาธิการมาก วันนี้น้องๆเรียนรู้ให้เต็มที่มีอนาคตที่สดใส เพื่อพัฒนาประเทศชาติต่อไปในอนาคต” นายกฯ กล่าว

จากนั้นนายกฯเดินทักทายเด็ก ๆ เยาวชน และเยี่ยมชมบูธภาครัฐและเอกชนภายในกระทรวงศึกษาธิการ โดยได้เยี่ยมบูธของสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้ถ่ายภาพเซลฟี่กับเด็ก ๆ พร้อมแจกลายเซ็นข้อความว่า “เป็นกำลังใจให้น้องต้องตา” นายกฯยังได้อุ้มเด็กน้อย ซึ่งเด็กได้ร้องไห้หลังนายกฯอุ้ม จากนั้นนายกฯเดินมายังซุ้มของคิงพาวเวอร์เพื่อแจกลูกบอลให้กับเด็ก ๆ และได้ถ่ายภาพร่วมกับลูกเสือเนตรนารี

ทั้งนี้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีเด็กๆ และผู้ปกครองสนใจขอถ่ายภาพร่วมกับนายกฯเป็นจำนวนมาก

นาวิกโยธิน จัดกิจกรรมทางทหารให้เด็ก ๆ ในงานวันเด็กแห่งชาติ 'เด็ก ๆ คืออนาคตของชาติ' หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน (นย.) ขอร่วมสร้างความสุขและส่งเสริมศักยภาพให้เด็ก ๆ ได้เติบโตเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติ

พล.ร.ท.อภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผบ.นย. และผู้ได้รับใบอนุญาต รร.นาวิกโยธินบูรณะ มอบหมายให้ พล.ร.ท.ฉัตรชัย ศุกระศร ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ กองทัพเรือ ผู้จัดการ รร.นาวิกโยธินบูรณะ เป็นผู้แทนในพิธีเปิดกิจกรรมวันวิชาการ และวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 โดยจัดให้มีกิจกรรมมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียน จำนวน 65 ทุน การแสดงของนักเรียน กิจกรรมทางวิชาการตามสาระการเรียนรู้ที่นักเรียนได้เรียนมาและนำมาเสนอให้ผู้ปกครองและผู้ร่วมงานได้ชมความสามารถของเด็กๆ การเล่นเกมส์ พร้อมรางวัลต่างๆ มากมาย การแสดงทางทหาร อาวุธยุทโธปกรณ์ ปืนใหญ่สนาม เครื่องยิงลูกระเบิดหนัก และรถติดจรวดต่อสู้รถถัง นอกจากนี้ ยังมีการแสดงของสุนัขจากศูนย์สุนัขจรจัดและแมวจรจัด กองทัพเรือ 

โดยหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน รร.นาวิกโยธินบูรณะ มีนักเรียน ประมาณ 900 คน ในจำนวนนี้มีกว่าครึ่งหนึ่งเป็นบุตรหลานของกำลังพลหน่วยบัญชาการนาวิกโยธินและหน่วยใกล้เคียง รวมถึงบุตรหลานของประชาชนภายนอก 

การจัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ เป็นการให้ความสำคัญต่อเด็ก และเยาวชนที่จะเป็นกำลังสำคัญของชาติต่อไปในอนาคต เป็นอีกบทบาทหนึ่งของ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ที่ร่วมมือกับคุณครูและบุคลากรทางการศึกษา ในการดูแลบุตรหลาน ให้เป็นคนดีมีความรู้ เป็นกำลังสำคัญของประเทศ ต่อไปในอนาคต

กมธ.ทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ความมั่นคงแนวชายแดนไทย จังหวัดแม่ฮ่องสอน

เมื่อวานนี้ (10 ม.ค.68) เวลา 10.00 -13.00 นาฬิกา ณ ห้องประชุมกองบังคับการหน่วยเฉพาะกิจสิงหนาท อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน พลตรี ณรงค์ฤทธิ ปาณิกบุตร รองแม่ทัพภาคที่ 3 และพลตรี ไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร ตลอดจนผู้บังคับบัญชาให้การต้อนรับ พลเอก สวัสดิ์ ทัศนา ประธานคณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา พร้อมด้วย นายสมบูรณ์ หนูนวล รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่หนึ่ง นายฉลอง ทองนะ รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่สอง ว่าที่พันตรี กรพด รุ่งหิรัญวัฒน์ รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่สาม นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล เลขานุการคณะกรรมาธิการ นางสาวนวลนิจ หงษ์วิวัฒน์ รองเลขานุการคณะกรรมาธิการ นายนิฟาริด ระเด่นอาหมัด ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ และนาวาตรี วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ โดยร่วมประชุมเพื่อรับฟังสถานการณ์ความมั่นคงชายแดนฝั่งตรงข้ามจังหวัดแม่ฮ่องสอน กรณีกองกำลังว้า เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วน ตลอดจนรับทราบปัญหาและอุปสรรคที่ต้องการให้คณะกรรมาธิการได้ผลักดัน พร้อมทั้งได้ตรวจเยี่ยมและมอบสิ่งของอุปโภคบริโภคให้กับกำลังพลของหน่วยเฉพาะกิจสิงหนาท เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน

ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการจะนำข้อมูลและข้อคิดเห็นต่าง ๆ มาประกอบการพิจารณาตามหน้าที่และอำนาจที่กำหนดไว้ตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายต่อไป

กองทัพอากาศจัดกิจกรรมงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 ภายใต้คำขวัญ “ทุกโอกาส คือ การเรียนรู้ พร้อมปรับตัวสู่อนาคตที่เลือกเอง”

(11 ม.ค.68) กองทัพอากาศจัดกิจกรรมงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 โดยมี พลอากาศเอก พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ พร้อมนายกสมาคมแม่บ้านทหารอากาศ เป็นประธานการจัดงานฯ ณ ฝูงบิน 601 กองบิน 6 

นอกจากนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เดินทางมาเยี่ยมชม กิจกรรมงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 ของกองทัพอากาศ พร้อมทั้งร่วมรับชมการแสดงภาคอากาศ และกิจกรรมต่างๆ ของกองทัพอากาศ

สำหรับกิจกรรมวันเด็กฯ ในปีนี้ พลอากาศเอก พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ มุ่งเน้นให้สร้างแรงบรรดาลใจกับเยาวชนด้วยการบินแสดงศักยภาพของยุทโธปกรณ์ยุคใหม่ของกองทัพอากาศ โดยส่งผลกระทบต่อการเดินทางของสายการบินเอกชนให้น้อยที่สุด และเน้นความปลอดภัยด้านนิรภัยภาคพื้นและภาคอากาศ รวมถึงรณรงค์การเสริมสร้างจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อม ลดพลาสติก และใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

โดยภายในงานฯ มีกิจกรรมที่น่าสนใจ ดังนี้
การจัดแสดงการบิน (Air Show) ของอากาศยานแบบต่าง ๆ ของกองทัพอากาศ ที่บอกเล่าเรื่องราว การปฏิบัติภารกิจปกป้องน่านฟ้าไทย อาทิ
- การบินผ่านพิธีเปิด ด้วยเครื่องบิน F-16
- การบินแสดงสมรรถนะอากาศยาน ด้วยเครื่องบิน F-16
- การบินแสดงสมรรถนะอากาศยาน ด้วยเครื่องบิน Gripen
- การแสดงด้วยเครื่องบิน AT-6

การตั้งแสดงอากาศยาน รวมจำนวน 22 แบบ ได้แก่ เครื่องบิน F-16 A/B, Gripen, AT-6, F-5 E/F, T-50, AU-23, C-130, ATR-72, A-340, CT-4B, DA-40, DA-42, SAAB 340, BT-67, T-6C, บ.ทอ.6, T-33, T-28, P-64, O-1A เฮลิคอปเตอร์ แบบ EC725 และ S-70i รวมถึงการตั้งแสดงยุทโธปกรณ์

กิจกรรมบนเวที ได้แก่ การแสดงดนตรีของวงดุริยางค์ทหารอากาศและแขกรับเชิญ ได้แก่ น้องเทนนิส (เรืออากาศโทหญิง พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ) การเดินแบบโดยนักเรียนนายเรืออากาศและนักเรียนพยาบาลทหารอากาศ การเล่นเกมส์แจกของรางวัล เป็นต้น

กิจกรรมอื่น ๆ ได้แก่ การแสดงศิลปะป้องกันตัวโดยใช้เครื่องดนตรีประยุกต์ ชื่อชุด 'การแสดงชัยมงคล 72 พรรษา เทิดไท้องค์ราชัน' การจัดนิทรรศการ ภายใต้ชื่อ 'FUTURE UNBEATABLE RTAF สานฝันน้องสู่ครอบครัว ทอ.' การออกบูธนิทรรศการของหน่วยงานต่าง ๆ การแสดง Fancy Drill การแสดงกระบี่กระบอง การแสดง Drum Zeed และการแสดงเครื่องบินเล็กบังคับวิทยุ

นอกจากนี้ กองทัพอากาศยังได้จัดกิจกรรมงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 ของส่วนกลางที่ตั้งดอนเมือง ณ พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศและการการบินแห่งชาติ และสนามบินเล็กกองทัพอากาศ (ทุ่งสีกัน) ทั้งนี้ หากไม่สามารถเดินทางมาด้วยตนเองได้ สามารถรับชมการถ่ายทอดสดการจัดกิจกรรมงานวันเด็กแห่งชาติของกองทัพอากาศ ประจำปี 2567 ได้ที่ https://www.rtaf.live/ และเฟซบุ๊ก 'กองทัพอากาศไทย Royal Thai Air Force' ระหว่างเวลา 08.00 - 10.00 น.

‘หมอผู้ชำนาญการกีฬา’ เตือน!! หยุดออกกำลังกลางฝุ่น หาก PM 2.5 ค่า AQI สูงกว่า 100 ชี้!! ‘ใส่แมสก์’ ออกกำลังกาย ยิ่งไม่ควร เสี่ยงต่อโรคปอด เพิ่มภาระให้กับระบบหัวใจ

(11 ม.ค. 68) จากสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ซึ่งอยู่ในระดับ ‘ส่งผลกระทบต่อร่างกาย’ ในหลายพื้นที่ของประเทศไทย ทำให้ผู้ออกกำลังกายกลางแจ้งบางกลุ่ม เลือกใส่หน้ากากอนามัยขณะออกกำลังกายนั้น

ล่าสุด นพ.ฆนัท ครุธกูล นายกสมาคมผู้ชำนาญการเพื่อกีฬาและสุขภาพ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ช่วงที่ระดับฝุ่นละออง PM 2.5 สูง การดูแลสุขภาพสำหรับนักกีฬาเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจและสุขภาพโดยรวมดังนี้

1. ติดตามค่าฝุ่นละอองในอากาศ ตรวจสอบดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) หรือระดับ PM 2.5 ผ่านแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หากค่า AQI เกิน 100 ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายกลางแจ้ง

2. เลือกสถานที่ออกกำลังกาย หากค่า AQI สูงกว่า 100 ควรเปลี่ยนมาออกกำลังกายในร่ม เช่น ยิม หรือสระว่ายน้ำระบบปิด หากค่า AQI เกิน 150 แม้ออกกำลังกายในร่ม ก็ควรมีเครื่องกรองอากาศเพื่อความปลอดภัย

3. หลีกเลี่ยงการสวมหน้ากากขณะออกกำลังกาย การสวมหน้ากาก N95 ขณะออกกำลังกายอาจทำให้หายใจลำบากและเพิ่มภาระให้กับระบบหัวใจและหลอดเลือด จึงไม่ควรสวมหน้ากากขณะออกกำลังกายอย่างเด็ดขาด

การสูดดมฝุ่น PM 2.5 ขณะออกกำลังกาย อาจทำให้เกิดการระคายเคืองในระบบทางเดินหายใจ และเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคปอด รวมทั้งภาระต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด ส่วนการสวมหน้ากากขณะออกกำลังกาย อาจทำให้หายใจลำบาก ทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ เพิ่มภาระให้กับหัวใจและปอดเนื่องจากการหายใจที่ยากขึ้น หัวใจและปอดต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อส่งออกซิเจนไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย อาจทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะ หน้ามืด หรือเป็นลมได้

'สุชาติ' มอบทุน!! ‘วันเด็ก’ ให้ 19 โรงเรียนในจังหวัดชลบุรี ย้ำ!! ทุกโอกาส คือ การเรียนรู้ พร้อมปรับตัวสู่อนาคตที่เลือกเอง

เมื่อวานนี้ (10 ม.ค. 68) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้จัดกิจกรรมมอบทุนสนับสนุนและสิ่งของสนับสนุนกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติให้กับโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดชลบุรี เนื่องในวันเด็กแห่งชาติประจำปีพุทธศักราช 2568 รวมทั้งสิ้น 19 โรงเรียน ประกอบด้วย โรงเรียนอนุบาลบ้านบึง โรงเรียนวัดคลองใหญ่ โรงเรียนวัดหนองชันจันทนาราม โรงเรียนบ้านบึงกระโดน โรงเรียนชุมชนบ้านอ่างเวียน โรงเรียนบ้านหนองปรือ โรงเรียนบ้านเขาแรต โรงเรียนบ้านหนองประดู่ โรงเรียนอนุบาลเกาะจันทร์ โรงเรียนบ้านห้วยกุ่ม โรงเรียนวัดหนองขาม โรงเรียนบ้านหัวโกรก โรงเรียนวัดเสม็ด โรงเรียนวัดใหม่เกตุงาม โรงเรียนวัดบางเป้ง โรงเรียนวัดบ้านแหลมแท่น โรงเรียนอนุบาลวัดกลางดอนเมืองชลบุรี โรงเรียนอ่างศิลาพิทยาคม โรงเรียนบ้านปากคลองโรงนาค ซึ่งมีนักเรียนตั้งแต่ระดับอนุบาลขึ้นไป รวมกว่า 1,000 คน โดยนายสุชาติฯ ได้มอบทุนการศึกษาให้แก่น้อง ๆ เยาวชนเพื่อให้มีกำลังทรัพย์ในการเล่าเรียน และยังเป็นการช่วยเหลือครอบครัวของเด็ก ๆ นอกจากนี้ ยังมีของเล่น อาทิ ตุ๊กตา ขนมต่าง ๆ อุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์กีฬา อาทิ ลูกฟุตบอล เพื่อให้เด็ก ๆ ได้ใช้เรียนรู้ เพิ่มทักษะที่ตัวเองชอบ

นายสุชาติ กล่าวว่า “สำหรับงานวันเด็กในปีนี้ ผมขอมอบทุนการศึกษา และอุปกรณ์การเรียน การกีฬา เพื่อให้น้อง ๆ ทุกคนได้มีโอกาสในการเข้าถึงการศึกษา และได้มีโอกาสในการเพิ่มทักษะต่าง ๆ เพราะทุกโอกาส คือ การเรียนรู้ พร้อมปรับตัวสู่อนาคตที่เลือกเอง"


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top