Wednesday, 11 June 2025
NEWS FEED

ปทุมธานี ฝึกอบรมโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริสำหรับประเทศเพื่อนบ้าน

​เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2565 เวลา 09.00 น. ณ ศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและความมั่นคง อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พลเอก สุวิทย์ เกตุศรี ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและความมั่นคง ให้การต้อนรับ พลจัตวา อก เฮือนปิเซีย รองเจ้ากรมพัฒนา กองทัพราชอาณาจักรกัมพูชา 

โดยได้นำกำลังพลจากกองทัพราชอาณาจักรกัมพูชา เข้าเยี่ยมคำนับในโอกาสเข้ารับการฝึกอบรมโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จากนั้น พลเอก สุวิทย์ เกตุศรี เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริสำหรับประเทศเพื่อนบ้าน ให้กับคณะนายทหารกองทัพราชอาณาจักรกัมพูชา รุ่นที่ 5 จำนวน 14 นาย โดยเป็นการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวง รัชกาลที่ 9 ซึ่งเป็นแนวทางสู่การพัฒนา อย่างยั่งยืนและเป็นหัวใจสำคัญของการฝึกอบรม 

'โบว์ ณัฏฐา' เตือนสติ ‘ฝ่ายสลิ่ม’ ชี้ไม่ควรผลัก 'ชัชชาติ' ให้เป็นสมบัติคนอีกฝั่ง

โบว์ ณัฏฐา มหัทธนา นักกิจกรรมอิสระ และนักเคลื่อนไหวทางการเมืองของไทย โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ ว่า

ฝ่าย ‘สลิ่ม’ หลายคน ไม่ควรผลักชัชชาติให้เป็นสมบัติของคนอีกฝั่งนะ ดูให้ละเอียด ๆ คุณต้องรู้ว่าเขาแค่เป็นตัวเอง คนที่เลือกเขาก็ไม่ได้มีฝ่ายเดียว ให้เขาเป็นผู้ว่าของทุกคนตามที่มาของเสียงโหวตที่เขาได้รับนั่นแหละ ขยายพื้นที่ของการใช้เหตุผลให้ทุกคนรับฟังกันได้ต่อไปค่ะ อย่าลากกลับไปที่เดิม

อย่างการพูดถึงการชุมนุมเมื่อวานก็พูดไปตามบทบาทหน้าที่หลักการ ไม่ได้หมายความว่าจะสนับสนุนความรุนแรงโดยฝั่งใด เพราะเจ้าตัวคงไม่ทราบรายละเอียดว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ส่วนตัวโบว์สนับสนุนให้ผู้ว่ากทม.ทำหน้าที่ในการรักษาสิทธิของทุกคน อะไรไม่ถูกต้องกล้าพูดไปเลย เชื่อว่าคนกรุงเทพมีเหตุผลพอ


ที่มา : https://twitter.com/NuttaaBow/status/1535888094808854528

รองนายกรัฐมนตรี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ตรวจเยี่ยมติดตามและมอบนโยบายให้จังหวัดแม่ฮ่องสอน

พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ตรวจเยี่ยมติดตามและมอบนโยบายให้จังหวัดแม่ฮ่องสอน มอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือกในที่ดินทำกินในชุมชนตามนโยบายรัฐบาล หรือ คทช.ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติจังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวน 902 ราย เครือข่ายองค์กรชุมชนการจัดทรัพยากรธรรมชาติลุ่มน้ำจังหวัดแม่ฮ่องสอน ยื่นหนังสือขอคัดค้านโครงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนเขื่อนภูมิพล (แนวผันน้ำยวม)

พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีพร้อมคณะเดินทางไปตรวจเยี่ยมเข้ารับฟังบรรยายสรุปและพบปะส่วนราชการ ณ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยมี นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน และส่วนราชการ ให้การต้อนรับ จากนั้น พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปยังห้องประชุมสหกรณ์ออมทรัพย์ครู อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน พบปะกับประชาชนที่เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติ มอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือกในที่ดินทำกินในชุมชนตามนโยบายรัฐบาล หรือ คทช. ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติจังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวน 5 ป่า ให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัด ประกอบด้วย 'ป่าแม่สุรินทร์' 'ป่าแม่เงาและป่าแม่สำเพ็ง' 'ป่าสาละวิน' 'ป่าแม่ยวมฝั่งซ้าย (อำเภอขุนยวม)' และ 'ป่าแม่ยวมฝั่งขวา' เนื้อที่  7,762 ไร่ 52 ตารางวา 

พร้อมทั้งมอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชนตามนโยบายรัฐบาลในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้กับประชาชนในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่เงา และป่าแม่สำเร็ง จำนวน 902  ราย ในพื้นที่ตำบลขุนยวม ตำบลแม่อูคอ ตำบลแม่เงา และตำบลแม่กิ๊ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน โดยมีผู้แทนประชาชน จำนวน 4 ราย เป็นตัวแทนรับมอบ และเยี่ยมชมนิทรรศการผลการดำเนินงานโครงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนเขื่อนภูมิพล ตามมาตรการป้องกันไฟป่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 ของสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดแม่ฮ่องสอน ส่งเสริม พัฒนาอาชีพและการตลาดให้กับประชาชนที่ได้รับการจัดที่ดินให้มี คุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป

เพื่อไทย มองการเลือกตั้งครั้งหน้าแข่งกันที่นโยบาย หาเสียงว่าตอบโจทย์ประเทศหรือไม่และความเชื่อถือของประชาชนว่าพรรคการเมืองใดพูดแล้วทำได้จริง  เล็งเดินสายพบประชาชนทยอยปล่อยนโยบายสำคัญก่อนเลือกตั้ง

เพื่อไทย มองการเลือกตั้งครั้งหน้าแข่งกันที่นโยบาย หาเสียงว่าตอบโจทย์ประเทศหรือไม่และความเชื่อถือของประชาชนว่าพรรคการเมืองใดพูดแล้วทำได้จริง  เล็งเดินสายพบประชาชนทยอยปล่อยนโยบายสำคัญก่อนเลือกตั้ง

นายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รองประธานกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่าการเลือกตั้งครั้งหน้านั้น ปัจจัยสำคัญที่ประชาชนจะตัดสินใจเลือกผู้สมัครและพรรคใด มีอยู่ 2 เรื่องสำคัญคือนโยบายของพรรคที่ตอบโจทย์ประเทศและของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และเรื่องที่สองคือความเชื่อใจว่าพรรคการเมืองนั้นทำได้อย่างที่พูด มีผลงาน ซึ่งพรรคเพื่อไทยตระหนักในข้อนี้ และให้ความสำคัญกับนโยบายที่จะตอบโจทย์ประเทศและทำให้ชีวิตคนไทยดีขึ้นให้ได้ ส่วนตัวเห็นว่า

1. ปัญหาสำคัญที่ควรได้รับการแก้ไขเร่งด่วนคือ
1. เรื่องปากท้อง
2. ความยากจน
3. ความเหลื่อมล้ำ
และ 4. ความสามารถในการแข่งขันของประเทศซึ่งถดถอยลงไปมาก ถ้าไม่เร่งแก้ไข เราจะสู้เพื่อนบ้านไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทุนมนุษย์ เสน่ห์ดึงดูดการลงทุน เป็นต้น

สสสส.รุ่น 12 สกัด 5 บทเรียนแก้ปัญหาความขัดแย้งสู่สันติสุขอย่างยั่งยืน ด้านเลขาฯ สถาบันพระปกเกล้า สร้างค่านิยม KPI DNA มุ่งช่วยเหลือสังคม 

วันที่ 12 มิถุนายน ที่หัองประชุม โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์บีซรีสอร์ท หัวหิน ศาสตราจารย์วุฒิสาร ตันไชย
เลขาธิการ สถาบันพระปกเกล้า เป็นประธานปิดการปัจฉิมนิเทศนักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรชั้นสูงการเสริมสร้างสังคมสันติสุข (สสสส.) รุ่นที่ 12 โดยบรรยายพิเศษตอนหนึ่งถึงความคาดหวังให้นักศึกษาซึบซับความเป็นสถาบันพระปกเกล้าที่เรียกว่า KPI DNA ด้วยความผูกพันและตระหนักรู้ เป็นตัวอย่างที่ดี เป็นเมล็ดพันธุ์ เป็นพลังสมองที่ทรงคุณค่า คิดถึงประโยชน์ส่วนรวม คิดถึงคนอื่นเสมอ 

สำหรับกิจกรรมปัจฉิมนิเทศ สสสส.12 ได้ดำเนินการขึ้น ระหว่างวันที่ 10 -12 มิถุนายน มีการนำเสนอผลงานวิชาการของนักศึกษาทั้ง 5 กลุ่ม ประกอบด้วย 

3 โจรโจ๋ใจทราม กระทั่ง ‘พระธุดงค์’ ก็ไม่เว้น หลังชักมีดขู่ ปล้นเงินพระเกลี้ยงย่าม

3 โจรวัยรุ่นชักมีด ปล้นเงินพระธุดงค์หนุ่ม พระเผยไม่เอาเรื่อง ก่อนไปโจรขอพร จึงให้พรขอให้โชคดี ไม่พอโจรยังเตือนให้ระวังเศษแก้ว หวั่นพระเหยียบบาดเจ็บ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณตี 2 ของวันที่ 12 มิ.ย. 2565 ขณะที่พระครูวินัยธรธีรวัฒน์ สิริมังคโล วัย 31 ปี เจ้าสำนักอารามดงสามหมื่น ตำบลบ้านโฮ่ง อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน กำลังปักกลดจำวัดอยู่ในพื้นที่อำเภอโกสัมพีนคร จังหวัดกำแพงเพชร ได้ถูก 3 โจรปล้นทรัพย์ จึงขอให้ผู้สื่อข่าวช่วยติดตามดูแล

พระครูวินัยธรธีรวัฒน์ เปิดเผยว่า ขณะที่กำลังปักกลดอยู่ในเขต อ.โกสัมพีนคร เวลาประมาณตี 2 มีผู้ชายวัยรุ่น 3 คนขับรถขี่รถจักรยานยนต์เข้ามองจอดที่บริเวณที่ปักกลด แล้วหนึ่งในนั้นก็ลงมายกไหว้ พร้อมโชว์มีดให้ดูและบอกว่านี่มีดนะ จากนั้นบอกว่าขอดูย่ามหน่อย เมื่อส่งย่ามให้ซึ่งในย่ามมีเงินสดประมาณ 400 บาทเศษ มีญาติโยมถวายมาเพื่อให้ได้ใช้ทำบุญในระหว่างทางที่เดินธุดงค์ไป คนร้ายจึงได้นำเงินไป พร้อมที่ชาร์จแบตโซล่าเซลล์ และไฟฉาย บอกว่าขอเอาไปนะ

และก่อนที่ทั้ง 3 โจรจะจากไปยังได้ขอให้พระอวยพรให้ด้วย ซึ่งพระก็อวยพรขอให้โชคดีในทางที่เดินไป ก่อนกลับออกไป 3 โจรยังบอกอีกว่าเดินไปอีก 3 เสาไฟฟ้าให้ระวังเศษแก้วที่พวกตนทำแก้วแตกไว้ด้วยนะ ผมเป็นห่วง พระครูเผยว่า ไม่ได้ถือโทษหรือโกรธเคือง เพราะเขามาขอดี ๆ ก็เมตตาให้ไปตามที่ขอ ส่วนผลกรรมที่เขาได้เลือกทำ ก็ต้องเป็นไปตามนั้น

รัสเซีย โกยเงินขายพลังงานแล้ว 3.4 ล้านลบ. ช่วง 100 วันแรกของสงครามรุกรานยูเครน

รัสเซียทำเงินไปกว่า 93,000 ล้านยูโร (ราว 3.4 ล้านล้านบาท) ในช่วง 100 วันของการทำสงครามรุกรานยูเครน ผ่านการขายเชื้อเพลิงฟอสซิล แก่ประเทศต่างๆ ทั่วโลก ตามรายงานของสกายนิวส์ สื่อมวลชนของอังกฤษในวันจันทร์ (13 มิ.ย.) อ้างอิงข้อมูลจากสถาบันวิจัยทางพลังงานแห่งหนึ่ง

รายได้รวมอันมหาศาลนี้มีขึ้นแม้ว่าปริมาณการส่งออกเชื้อเพลิงฟอสซิลของรัสเซียลดลงอย่างมากในเดือนพฤษภาคม ท่ามกลางความเคลื่อนไหวของประชาคมนานาชาติที่พยายามลดพึ่งพิงน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของมอสโก

รายงานของศูนย์วิจัยพลังงานและอากาศบริสุทธิ์ (CREA) พบว่า อียูรับอุปทานเชื้อเพลิงฟอสซิลของรัสเซีย คิดเป็นสัดส่วนมากถึง 61% จากปริมาณการส่งออกทั้งหมดของรัสเซีย

ทั้งนี้ แม้ว่าน้ำมันรัสเซียถูกขายในราคาที่ลดกระหน่ำ สืบเนื่องจากแหล่งที่มาของมัน แต่ด้วยอุปสงค์เชื้อเพลิงฟอสซิลที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกและราคาพลังงานที่พุ่งสูง มันจึงยังคงก่อรายได้งดงามแก่รัฐบาลประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน และเป็นการช่วยมอบแหล่งเงินทุนสนับสนุนปฏิบัติการรุกรานยูเครนของผู้นำรายนี้

ลอริ มีลลีเวอร์ตา นักวิเคราะห์ชั้นนำของ CREA พูดถึงมาตรการคว่ำบาตรของนานาชาติที่กำหนดเล่นงานรัสเซียในปัจจุบันว่า "กระบวนการต่างๆ สำหรับมอบแรงสนับสนุนที่จำเป็นเร่งด่วนแก่ยูเครน จนถึงตอนนี้ยังเป็นไปด้วยความล่าช้า จำเป็นต้องมีความเคลื่อนไหวที่แข็งขันกว่านี้ในการตัดกระแสเงินสดที่ป้อนแก่รัสเซีย"

คนร้ายฆ่าโหดสองผัวเมียในไต้หวัน ส่อรอด ตร.ชี้ไทย-ไต้หวัน ไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน

ผู้การสอบสวนกลาง เผย สั่งติดตามคนร้ายฆ่ายัดศพเพื่อนรัก พร้อมเมียท้องลูกแฝด 5 เดือน ยัดรถเก๋งหรูในไต้หวัน ก่อนนั่งเครื่องบินหนีกลับไทย ชี้ เป็นคดีนอกราชอาณาจักร ประเทศไต้หวันกับประเทศไทย ไม่มีสนธิสัญญาผู้ร้ายข้ามแดน 

วันนี้ (12 มิ.ย.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.เปิดเผยถึงคดีคนร้ายไทยฆ่าสองสามีภรรยาชาวไทยด้วยกัน ที่กำลังตั้งท้องฝาแฝดได้ 5 เดือน หมกท้ายรถที่ไต้หวัน ว่า ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว เบื้องต้นได้สั่งให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป.จัดกำลังสืบสวนเรื่องนี้ พร้อมประสานไปยังตำรวจไต้หวัน เพื่อรับทราบข้อมูลต่าง ๆ อยู่

ด้าน พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้สั่งให้ พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3.บก.ป.และ พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.4.บก.ป.ตรวจสอบเบาะแสและทำข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นและตัวคนร้ายที่หนีกลับมาประเทศไทยไว้แล้ว แต่เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีนอกราชอาณาจักรประเทศไทย ไม่มีสนธิสัญญาเรื่องส่งผู้ร้ายข้ามแดน รวมทั้งทางตำรวจไต้หวันเอง ยังไม่มีการประสานเรื่องมาให้กับตำรวจไทย ขณะนี้จึงทำได้แค่รวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ไว้ เพื่อเตรียมความพร้อมไว้ตลอดเวลา

สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวทางสถานีวิทยุแห่งชาติไต้หวัน (Radio Taiwan International; RTI) รายงานว่า เมื่อวันศุกร์ที่่ 10 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา เวลา 09.00 น. สถานีตำรวจจงลี่ได้รับแจ้งมีกลิ่นเหม็นเน่าคล้ายกลิ่นศพโชยมาจากลานจอดรถหน้าสถานีรถไฟความเร็วสูงเถาหยวน ตำรวจรุดไปที่เกิดเหตุ พบรถสปอร์ตเอสยูวีหรูสีขาว ยี่ห้อ BMW X4 จอดอยู่และมีน้ำเหลืองไหลออกจากท้ายรถ เปิดดูเป็นศพของชายหญิงคู่หนึ่ง โดยสันนิษฐานเสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน บนศีรษะและตามร่างกายมีรอยถูกตีด้วยของแข็ง สันนิษฐานว่า ผู้ตายทั้งสองถูกทำร้ายจนเสียชีวิตจากที่อื่น จากนั้นผู้ร้ายนำศพยัดใส่ท้ายรถของผู้ตายขับไปจอดทิ้งไว้ในลานจอดรถหน้าสถานีรถไฟความเร็วสูง

ผู้ประกอบการรถเมล์ ยอมรับลดเที่ยววิ่ง หลังผู้โดยสารร้อง หลัง 2 ทุ่ม รถเมล์วิ่งน้อย

เพจ ‘รถเมล์ไทยแฟนคลับ Rotmaethai’ เผยเสียงสะท้อนจากประชนชนผู้ใช้บริการรถเมล์ ร้องหลัง 20.00 น. รถวิ่งน้อยลง ด้าน ขสมก.ยอมรับบรรดาผู้ประกอบการต้องลดเที่ยววิ่ง เหตุราคาน้ำมันพุ่ง แบกรับต้นทุนไม่ไหว

เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. เพจ ‘รถเมล์ไทยแฟนคลับ Rotmaethai’ ได้ออกมาโพสต์เสียงสะท้อนจากประชนชนผู้ใช้บริการรถเมล์ ร้องหลัง 20.00 น.รถเมล์หายไปไหนหมด อยากให้หน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องช่วยลงมาดู หรือลองมาใช้บริการรถเมล์กลับบ้านอย่างประชาชนดู จะได้รู้ถึงความทุกข์ ความลำบากของประชาชนผู้ใช้บริการ รถมาเต็ม! ขึ้นไม่ได้ วันไหนฝนตก ลำบากสุด ๆ และรถเมล์บางเส้นทาง ขสมก.เคยมีวิ่งกะสว่าง พอขนส่งให้เอกชนมาเดินรถแทน กะสว่างกลับหายไปก็มี เพจรถเมล์ไทยแฟนคลับขอเป็นสื่อส่งเสียงสะท้อนถึงหน่วยงานที่ดูแล และผู้มีอำนาจ ช่วยสั่งการช่วยเหลือประชาชนหน่อยนะครับ เพราะประชาชนผู้ใช้บริการรถเมล์ไม่ได้มีรายได้สูง พอที่จะจ่ายค่าแท็กซี่ได้ทุกวัน ถ้าโพสต์นี้ถึงผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ช่วยประชาชนด้วยครับ

ต่อมา นายพิเชษฐ์ เจียมบุรเศรษฐ์ นายกสมาคมกิจการรถโดยสารประจำทางไทย ได้ออกมาชี้แจงว่า ในนามสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทางไทยจึงขอเป็นตัวแทนในการกล่าวขอโทษประชาชนผู้โดยสารที่มีความจำเป็นต้องใช้บริการรถโดยสารในชีวิตประจำวัน ว่าผู้ประกอบการรถโดยสารจะพยายามยืนหยัดเพื่อเคียงข้างการให้บริการให้ดีที่สุดเท่าที่สามารถดำเนินการได้ โดยระหว่างที่ยังไม่มีทางออกในการแบกรับต้นทุนนี้ อาจต้องส่งผลให้ผู้โดยสารได้รับผลกระทบในความไม่สะดวกในการใช้บริการ

เนื่องจากบรรดาผู้ประกอบการต้องลดเที่ยววิ่งลงและทยอยหยุดการให้บริการในบางเส้นทาง ซึ่งเป็นทางเลือกทางสุดท้ายก่อนที่อาจต้องปิดกิจการถาวรในที่สุด และขอขอบคุณประชาชนผู้โดยสารทุกท่าน ที่เข้าใจและเป็นกำลังใจในการประกอบการเดินรถโดยสารของไทยมาโดยตลอด

บุกค้นบ้านคนใกล้ชิด ล่าจับ ‘สุนทร วิลาวัลย์’ แต่คว้าน้ำเหลว ลุ้นคดีรุกเขาใหญ่หมดอายุความวันนี้

บุกค้นบ้านครูโอ๊ะ-สจ.โต้ง ล่าจับนายกฯสุนทร ตร.ปูพรม5จุดปราจีนคว้าน้ำเหลว-ไหวตัวหนี ลุ้นคดีรุกป่าเขาใหญ่หมดอายุความวันนี้

เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) สั่งการให้ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.), ตำรวจกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) และตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) กระจายกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายจำนวน 5 จุด ในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี เพื่อตามจับกุมตัว นายสุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ลงวันที่ 9 มิถุนายน 2565 ข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ รักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาล บิดาของ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ หลังตกเป็นผู้ต้องหาในคดีบุกรุกอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ใน จ.ปราจีนบุรี พื้นที่กว่า 150 ไร่ ยังอยู่ระหว่างการหลบหนี

ทั้งนี้ เป้าหมายสำคัญในการเข้าตรวจค้นครั้งนี้ อยู่ที่บ้านเลขที่ 21/1 ถ.วัดโรมันอุทิศ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี บ้านพักของนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลูกสาวนายสุนทร , บ้านเลขที่ 43 ถ.วัดโรมันอุทิศ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี สำนักงานของนายสุนทร, โรงแรมบางปะกง เลขที่ 41 ถ.วัดโรมันอุทิศ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี และบ้านพักของ นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือชื่อเดิมคือ นายเต็มพงษ์ ฤทธิ์เดช หรือ ส.จ.โต้ง อายุ 46 ปี ผู้กว้างขวางในพื้นที่และมีความใกล้ชิดกับนายสุนทร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เบื้องต้นจากการเข้าตรวจค้นและตรวจสอบ ยังไม่พบตัวนายสุนทร คาดว่าไหวตัวทัน ชิงหลบหนีออกจากพื้นที่ไปได้ไม่นาน จากการสอบถามบุคคลใกล้ชิด ส่วนใหญ่อ้างว่าไม่พบเห็นหรือติดต่อกับนายสุนทรมานานกว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหน้าออกหมายจับ แต่เจ้าหน้าที่เองก็ยังไม่ปักใจเชื่อ พร้อมกระจายกำลังลงพื้นที่ไล่สืบหาเบาะแสเพื่อแกะรอยติดตามตัวให้ได้ก่อนที่คดีดังจะหมดอายุความลงในวันที่ 13 มิถุนายน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top