Friday, 13 June 2025
NEWS FEED

'บิ๊กตู่' ยัน!! ทหารทุกเหล่าทัพ หนุนรัฐบาล รับมือ 'พายุโนรู' ย้ำ!! ต้องอยู่ช่วยประชาชนในพื้นที่จนกว่าน้ำจะลด

โฆษก กห. เปิดเผยว่า กห. โดยทุกเหล่าทัพ ที่มีหน่วยทหารในพื้นที่ 25 จว.ที่ประสบอุทกภัย ยังคงกำลังพล เครื่องมือช่าง ทำงานร่วมกับจิตอาสาและหน่วยงานในพื้นที่ ให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมอย่างต่อเนื่องมา โดยเฉพาะ การเร่งช่วยกันบรรจุกระสอบทรายจัดทำคันกั้นน้ำในพื้นที่เศรษฐกิจและชุมชน การเบี่ยงทางน้ำและการเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ รวมทั้งการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ การอำนวยความสะดวกการสัญจรและการแจกจ่ายสิ่งของบรรเทาทุกข์แก่ประชาชนที่ยังอยู่ในพื้นที่

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รมว.กห. ได้ย้ำสั่งการให้ทุกเหล่าทัพ เตรียมกำลังและเครื่องมือช่าง พร้อมหนุนเสริมให้การช่วยเหลือทุกจังหวัด รับมือกับ “พายุโนรู” โดยให้ติดตามสถานการณ์ แจ้งเตือนประชาชนให้ทันเหตุการณ์และเข้าไปช่วยเหลือให้ทั่วถึงไม่ซ้ำซ้อน  พร้อมย้ำให้อยู่กับประชาชนในพื้นที่จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

สำหรับในพื้นที่ กทม.และ จว.ปริมณฑล หน่วยทหารจากทุกเหล่าทัพ ยังคงสนับสนุน กทม.และจว.ปริมณฑลอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเตรียมรับมือจากมวลน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาที่เอ่อล้นมากขึ้น จากปรับการระบายน้ำ โดยอยู่ระหว่างเร่งกรอกกระสอบทรายเสริมความแกร่งคันกั้นน้ำริมเจ้าพระยา การเร่งดูดและผลักดันน้ำออกจากพื้นที่เก็บกักน้ำและคูคลอง รวมทั้งการกำจัดขยะวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ำจำนวนมากในลำน้ำสายหลักและรอง ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของการระบายน้ำ

อินเตอร์ลิ้งค์ฯ คว้ารางวัลเกียรติคุณ องค์กรดีเด่น โครงการรณรงค์สร้างวินัยทางการเงิน

คุณวริษา อนันตรัมพร ผู้จัดการทั่วไป เข้ารับรางวัลเกียรติคุณ องค์กรดีเด่น โครงการรณรงค์สร้างวินัยทางการเงิน ประจำปี 2565 จากคุณหญิงณัฐิกา วัธนเวคิน อังอุบลกุล ประธานสหพันธ์สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ (สสธวท) นับเป็นการยกย่อง เป็นกำลังใจให้กับนักธุรกิจสตรี และนักวิชาชีพสตรีที่ประสบความสำเร็จ ทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม เพื่อเป็นแรงบันดาลใจจุดประกายให้สตรีนักธุรกิจ และวิชาชีพในรุ่นต่อไปมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตนเอง และธุรกิจอย่างมีจริยธรรม จรรยาบรรณ ควบคู่ไปกับการดูแลสังคม และใส่ใจสิ่งแวดล้อมต่อไป

'ดร.ธรณ์' ชี้ น้ำยิ่งร้อน 'ไต้ฝุ่นโนรู' ยิ่งแรง แนะ!! ลิสต์ worst-case เตรียมทางหนีทีไล่

(27 ก.ย. 65) ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิทยาศาสตร์ทางทะเล และอาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat ว่า ดูภาพดาวเทียมล่าสุดของไต้ฝุ่นโนรูแล้วเริ่มหนักใจ พายุทวีกำลังมากขึ้นในทะเลก่อนเข้าสู่ชายฝั่งเวียดนาม

เหตุผลสำคัญคือน้ำทะเลในทะเลจีนใต้ร้อน ผมดูจากข้อมูลทุ่นกระแสสมุทรและจากที่อื่น ๆ ช่วงนี้อยู่ที่ 29-30 องศา น้ำร้อนมีผลโดยตรงกับไต้ฝุ่น น้ำยิ่งร้อนยิ่งส่งพลังงานให้พายุแรงขึ้น

น้ำร้อนยังทำให้ไอน้ำมากขึ้น ฝนย่อมมีมากขึ้นเป็นธรรมดา

เวียดนามเพื่อนบ้านเราเตรียมตัวแล้ว ของเขาเจอเต็ม ๆ ต้องอพยพกันยกใหญ่

แต่เราก็ประมาทไม่ได้เพราะคงเจอฝนหนักในบริเวณกว้าง จะอพยพล่วงหน้านาน ๆ ก็ยากหน่อยเพราะเดาไม่ถูกว่าตกกระหน่ำตรงไหนบ้าง ต้องใช้การเฝ้าระวังและเตือนภัยในช่วงสั้น ๆ

เพราะฉะนั้น จึงอยากให้เพื่อนธรณ์เตรียมตัวไว้ โดยเฉพาะในพื้นที่คาดว่าฝนหนัก เช่น ภาคอีสาน ภาคเหนือตอนล่าง ฯลฯ ที่คงตามข่าวจากหลายช่องทางได้

ใครอยู่ในที่เสี่ยง เช่น ใกล้แม่น้ำลำคลอง ใกล้ทางน้ำที่ลงมาจากเขา ต้องเตรียมทางหนีทีไล่ไว้ล่วงหน้า น้ำป่ามาเร็วครับ

ดินถล่มยังเป็นอีกภัยต้องระวัง ใครอยู่ริมทางชัน ร่องเขา เตรียมตัวให้พร้อม

การเตรียมตัวให้มากที่สุดเป็นเรื่องสมควร ต่อให้ไม่เกิดอะไรก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเกิด เรารอดได้เพราะการเตรียมตัวนี่แหละครับ

หลักการง่าย ๆ ของการบริหารความเสี่ยงคือ Worst-case scenario คิดในทางเลวร้ายที่สุดเข้าไว้

น้ำทะลักเข้าบ้าน รถเราจะจมไหม ไฟฟ้าดูดไหม เด็กเล็กคนแก่ไปอยู่ไหน เรามีน้ำกินข้าวกินหลายวันหรือไม่ ไฟดับทำไง มือถือชาร์จเต็มไหม ทางขาดต้องติดอยู่หลายวันเอาไงดี ฯลฯ

ยังรวมถึงการบอกคนอื่นว่าเราอยู่ไหน เกิดอะไรจะติดต่อกันได้ ช่วยกันทัน โดยเฉพาะคนที่ไม่อยู่บ้าน ไปเที่ยวเข้าป่า ฯลฯ ต้องบอกให้คนอื่นทราบ

ยังมีอีกหลายเรื่องที่ทำได้ โดยเริ่มจากนั่งนิ่งๆ แล้วค่อยๆ คิด worst-case ที่อาจเกิดกับเรา ลองลิสต์ไว้เป็นข้อ ๆ ก็ได้ครับ แล้วค่อยให้น้ำหนักว่าอะไรสำคัญกว่ากัน

'ปคบ.' จับ 'นารา เครปกระเทย' ปมขายอาหารเสริมผสมสารอันตราย

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ (27 ก.ย. 65) ที่ห้องประชุมชั้น 2 อาคารประชาอารักษ์ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธรากร เลิศพรเจริญ รรท.รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4 บก.ปคบ., นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา, นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมแถลงการจับกุมเครือข่ายผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารผสมวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 1 (2-ไดเฟนิลเมทิลไพโรลิดีน) หลังเปิดปฏิบัติการเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายจำนวน 7 จุดในจ.ราชบุรี, มหาสารคาม และพระนครศรีอยุธยา สามารถจับกุม นายอนิวัต ประทุมถิ่น อายุ 23 ปี หรือ 'นารา เครปกะเทย' เน็ตไอดอลชื่อดัง, นายเมธากร จันทวงศ์ อายุ 39 ปี, น.ส.นิชกานต์ แก้วมีสี อายุ 28 ปี, 3 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาในข้อหา 'ร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 1 (2-ไดเฟนิลเมทิลไพโรลิดีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำทางการค้า'

พ.ต.อ.เนติ เปิดเผยว่า ก่อนหน้าได้นำตัวอย่างผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่จำหน่ายผ่านสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ เช่น เฟซบุ๊ก, ติ๊กต๊อก และไลน์ มาสุ่มตรวจวิเคราะห์ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จนพบว่า ผลิตภัณฑ์ 'ชาร์มาร์ กลูต้า' มีส่วนผสมของสารวัตถุออกฤทธิ์ไดเฟนิลเมทิลไพโรลิดีน (desoxy-D2PM) ซึ่งจัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 1 ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขฯ จึงสืบสวนขยายผลจนทราบว่า บริษัท ชาร์มาร์เพอร์เฟค จำกัด ของ น.ส.นิชกานต์ ได้ว่าจ้างให้ โรงงานสิรินดา คอสเมติกส์ ผลิตสินค้าดังกล่าวขึ้นมา ก่อนว่าจ้างให้นายอนิวัต หรือ นารา เป็นอินฟลูเอนเซอร์หลักในการโฆษณาและขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ

วิทยุการบินฯ เปิดใช้งานระบบบริหารจราจรทางอากาศใหม่ ครบทั่วประเทศ ล่าสุดที่ศูนย์ฯ หัวหิน

บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) ได้ถ่ายโอนระบบควบคุมจราจรทางอากาศสู่ระบบใหม่ ภายใต้โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบบริการการเดินอากาศ (Thailand Modernization CNS/ATM System หรือ TMCS) เพื่อเพิ่มศักยภาพและความปลอดภัยทางการบิน โดยศูนย์ควบคุมการบินหัวหิน เป็นแห่งสุดท้ายที่ถ่ายโอนสู่ระบบใหม่ เกิดการเชื่อมโยงการใช้งานระบบ TMCS โดยสมบูรณ์ทั่วประเทศ 

ดร.ณพศิษฏ์ จักรพิทักษ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) กล่าวว่า “วิทยุการบินฯ ได้ดำเนินโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบบริการการเดินอากาศ หรือ TMCS ซึ่งเป็นโครงการติดตั้งระบบควบคุมจราจรทางอากาศระบบใหม่แทนระบบเดิม ถือเป็นการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีระบบบริการการเดินอากาศครั้งใหญ่ของประเทศไทย ให้ทันสมัย มีความเป็นอัตโนมัติมากขึ้น สามารถเชื่อมโยงระบบการทำงานไปยังเครือข่ายทั้งในประเทศ และต่างประเทศ อีกทั้งช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับเที่ยวบิน เพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการให้บริการ รวมถึงเพิ่มศักยภาพระบบบริการการเดินอากาศของประเทศไทยให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลและการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีการบินโลก”

ดร.ณพศิษฏ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “วิทยุการบินฯ ได้เริ่มเปิดให้บริการจราจรทางอากาศด้วยระบบ TMCS ที่สนามบินเชียงใหม่เป็นแห่งแรก ตั้งแต่ปี 2562 หลังจากนั้นได้ขยายการใช้งานระบบใหม่นี้ไปยังศูนย์ควบคุมการบิน ทั่วประเทศ โดยศูนย์ควบคุมการบินหัวหิน เป็นส่วนงานสุดท้ายที่ทำการถ่ายโอนระบบ และได้มีการนำระบบ TMCS มาใช้งาน ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2565 นับว่าเป็นฟันเฟืองส่วนสุดท้ายที่มาเติมเต็มความพร้อมของวิทยุการบินฯ ที่จะให้บริการควบคุมจราจรทางอากาศระบบใหม่ได้อย่างเต็มรูปแบบ” 

รองผบ.ตร. สั่งตำรวจพร้อมช่วยเหลือประชาชน รับพายุ 'โนรู ' (NORU) ที่จ่อเข้าไทยสัปดาห์นี้ 

ตามประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่องพายุไต้ฝุ่น 'โนรู' (NORU) ฉบับที่ 4 (251/2565) ที่มีศูนย์กลางบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก ทางตะวันออกของเกาะลูซอน ประเทศฟิลิปปินส์ กำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนาม ในช่วงวันที่ 27-28 ก.ย. 65 และมีโอกาสเคลื่อนตัวเข้าสู่บริเวณภาคอีสาน ด้านตะวันออกของไทย ประกอบกับร่องมรสุมที่ปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทย กำลังแรงขึ้น จึงทำให้มีฝนตกหนักทั่วประเทศ ในห้วง 28 ก.ย. - 1 ต.ค. 2565 จึงให้ประชาชนเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลากและน้ำท่วมฉบับพลัน 

วันนี้ (27 ก.ย. 65) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ผบ.ตร. มีความห่วงใยในสถานการณ์ ดังกล่าว จึงสั่งกำชับให้ทุกหน่วย บช.น., ภ.1-9 และหน่วยที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อม แผนเผชิญเหตุปฏิบัติการช่วยเหลือ และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ที่ทั้งทหาร ฝ่ายปกครอง ป้องกันภัยจังหวัด และกรมทางหลวงในเรื่องถนนหนทาง ย้ำตำรวจ ตชด.คอยติดตามข่าวสารเพื่อช่วยเหลือประชาชนตามพื้นที่เสี่ยงจากน้ำป่าไหลหลากตามแนวภูเขา

'อ.วรัชญ์' เผยเบื้องหลัง 'หมอทวีศิลป์' ที่หลายคนไม่รู้ 'เสียรายได้-ไร้วันหยุด-ถูกด่าหยาบ-ขู่ฆ่า' แต่ไม่เคยสติแตก

ไม่นานมานี้ ผศ.ดร.วรัชญ์ ครุจิต รองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา คณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ระบุว่า...

บางคนอาจจะคิดว่า พี่หมอทวีศิลป์ ได้เป็นโฆษก ศบค. แล้วโด่งดัง มีชื่อเสียง มีคนชื่นชอบ ชีวิตน่าอิจฉา แต่เบื้องหลังแล้ว มีหลายอย่างที่คนทั่วไปไม่รู้ เพราะพี่หมอไม่เคยออกมาโพสต์หรือให้สัมภาษณ์ในเรื่องเหล่านี้เลย เช่น...

1. พี่หมอทำงาน 7 วันไม่เคยหยุดตลอดช่วงโควิด โดยปีสองปีแรก ที่มีแถลงทุกวัน ก็ต้องประชุมทุกวัน วันละอย่างน้อย 4-5 รอบ เช้าตรู่ที่ สธ. แล้วมาต่อที่ ศบค. ชุดเล็กที่ทำเนียบ แล้วต่อด้วยทีม strategic communication แล้วก็เตรียมกับทีมโฆษก เลือกประเด็น แล้วก็แถลงข่าว และส่วนใหญ่ช่วงบ่ายหลังแถลง ก็ต้องกลับไปประชุมต่อที่ สธ. ช่วงหลังพี่หมอต้องไปตรวจราชการที่อีสาน ก็ต้องบินไปบินมาตลอด

2. การทำงานโควิด 7 วันของพี่หมอ ทำให้ไม่ได้ไปออกตรวจที่ รพ.เอกชน สูญเสียรายได้ไปพอสมควร 

3. พี่หมอไม่รับงานสัมภาษณ์ งานโฆษณา ใดๆ ทั้งสิ้น ที่มีคนติดต่อมาจำนวนมาก ทิ้งรายได้ไปไม่น้อย เพราะพี่หมอบอกว่า "ถ้ารับหนึ่งที่ ก็ต้องรับทั้งหมด" (ซึ่งเป็นไปไม่ได้) 

4. ช่วงที่สถานการณ์ดี ก็มีคนชื่นชม แต่ช่วงที่สถานการณ์ไม่ดี พี่หมอกลายเป็นเป้าในการบูลลี่ ด้อยค่า ด่าหยาบคายต่าง ๆ นานา รวมไปถึงครอบครัวที่ได้รับผลกระทบด้วย จนบางคืนก็นอนไม่หลับ และเคยคิดว่าจะขอลาออกจากการทำหน้าที่ 

5. บางครั้งมีการบูลลี่หนักถึงขนาดขู่ฆ่า ขู่อาฆาต ซึ่งเป็นสิ่งที่ใครโดนก็ต้องรู้สึกแย่ทั้งนั้น

'เด็กวิศวะฯ มธ.' โวย!! แต่ง 'ไปรเวท' เข้าสอบถูกขวาง ซัดคณะลิดรอนสิทธิ แบบนี้ประเทศถึงไม่เจริญสักที

เมื่อวานนี้ (26 ก.ย. 65) ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Kao Ambavat นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความระบุว่า...

เช้ามาก็เอาเลย กรรมการคุมสอบจะไม่ให้เพื่อนกูเข้าสอบเพราะเพื่อนกู “แต่งชุดสุภาพ” ซึ่งเป็นการแต่งกายสอบที่ถูกต้องตามข้อบังคับวินัยปี 64 และพรบ.มธ. ปี 58 ซึ่งวินิจฉัยโดยกองนิติการของมหาลัยไปแล้ว

เช้านี้คณะบ้าเป็นพิเศษกว่าการสอบที่ผ่านมา ปกติตอนที่กูและเพื่อนใส่ไปรเวทมาสอบรอบก่อน คณะจะเตือนบ้าง หรือให้เขียนบันทึกข้อความบ้างก่อนสอบ แต่รอบนี้มีการให้เซ็นเอกสาร “ใบอนุญาตเข้าห้องสองเนื่องจากไม่ได้แต่งกายด้วยชุดนักศึกษา” โดยอ้างประกาศคณะวิศวะ ลงวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2549

การออกประกาศของคณะใดๆ ก็ตามก่อนปี 2558 สิ้นสภาพ ไม่ว่าจะใช้อำนาจจากระเบียบสอบปี 49 ข้อบังคับวินัยปี 47 หรือพรบ.มธ.ปี 31 กฎหมายมั้งหมดจะสิ้นสภาพ ตามมาตรา 3 พรบ.มธ. ปี 58 ดังนั้นการไม่ให้เข้าห้องสอบการให้เซ็นเอกสารใด ๆ ก็ตามของคณะ เข้าข่ายเป็น “คำสั่งทางปกครองที่มิชอบด้วยกฎหมาย”

เผยโฉม 'สเปรย์พ่นจมูก 'ดักจับ-ยับยั้ง' โควิด เริ่มวางขายวันที่ 1 ต.ค.นี้ แน่นอน

จากการร่วมผนึกกำลัง ของ5 องค์กรชั้นนำภาครัฐ-เอกชน ประกอบด้วย คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยศิลปากร, สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.), องค์การเภสัชกรรม และ บริษัทไฮไบโอไซ จำกัด (บริษัทย่อย ใน บมจ.โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล) ในการร่วมมือพัฒนานวัตกรรม “สเปรย์พ่นจมูกที่มีคุณสมบัติดักจับและยับยั้งเชื้อโควิด-19 ทางกายภาพบริเวณโพรงจมูก” ภายใต้ แบรนด์เวลล์ โควิแทรป แอนติโคฟ นาซอล สเปรย์ สำเร็จได้ในที่สุดและได้รับอนุญาตจาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) แล้ว

นางวรวรรณ ไชยกำเนิด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไฮไบโอไซ จำกัด / ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และ รอ.นพ.นิมิต ประสิทธิ์ดำรง ผู้เชี่ยวชาญกิตติมศักดิ์ บริษัท ไฮไบโอไซ จำกัด พร้อมด้วย รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม(อภ.) ตัวแทนภาคีเครือข่าย ร่วมแถลงเกี่ยวกับความสำเร็จในการสร้างนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ “ผลิตภัณฑ์สเปรย์พ่นจมูกดักจับและยับยั้งเชื้อโควิด-19 ทางกายภาพบริเวณโพรงจมูก” ได้สำเร็จ ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมระดับโลกจากแพทย์

โดยนพ.นพพร ชื่นกลิ่น ผอ.สวรส.เป็นประธาน จัดงาน กล่าวว่า สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 ในประเทศไทยและของโลกในปัจจุบันว่า แม้จะมีแนวโน้มคลี่คลายดีขึ้น แต่โควิด-19 ก็ยังคงเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง จากสถานการณ์นี้ ทีมวิจัยของไทยจากภาครัฐ และเอกชน ได้ร่วมกันดำเนินงานวิจัย พัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น การพัฒนาวัคซีน, ชุดตรวจเชื้อ, เครื่องช่วยหายใจ รวมถึงการพัฒนาแอนติบอดี ที่มีคุณสมบัติดักจับและยับยั้งเชื้อโควิด-19 ทางกายภาพบริเวณโพรงจมูก โดยพัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบในรูปแบบของสเปรย์สำหรับพ่นจมูก ซึ่งเป็นนวัตกรรมสำคัญของประเทศไทยที่จะปรากฏสู่สายตาชาวโลก และเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือร่วมใจกัน เพื่อให้ประเทศไทยก้าวพ้นสถานการณ์โรคระบาดโควิดครั้งนี้ไปได้ จนประสบผลสำเร็จและยื่นจดสิทธิบัตรเรียบร้อย โดยถ่ายทอดองค์ความรู้นี้ไปสู่ภาคเอกชน สร้างเป็นผลิตภัณฑ์นวัตกรรม ซึ่งความสำเร็จนี้เกิดจากความร่วมมือของ 5 ภาคีเครือข่ายจากภาครัฐและเอกชนดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของคนไทย และเพิ่มขีดความสามารถในการพึ่งพาตนเองด้านสุขภาพของประเทศไทย

ทางด้าน รศ.นพ.ฉันชาย กล่าวว่า แม้สถานการณ์โควิด-19 จะมีแนวโน้มคลี่คลายดีขึ้นในหลายๆ ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ทว่าโควิด-19 ก็ยังคงเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ตลอดจนคอยติดตามข่าวสาร และ งานวิจัยทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง เพราะยังมีงานวิจัยที่ยังคงศึกษาถึงผลกระทบกับสุขภาพในระยะยาวของผู้ติดเชื้อเช่นกัน นอกจากนั้น งานวิจัยและนวัตกรรมของจุฬาฯ ในการป้องกันและรักษาผู้ป่วยโควิด-19 คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ได้ร่วมกับคณะต่างๆ ยังมีอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์สำคัญระดับประเทศต่าง ๆ เช่น การพัฒนาวัคซีน ChulaCov 19, ชุดตรวจเชื้อ, เครื่องช่วยหายใจ เป็นต้น และมีความภูมิใจอย่างยิ่งที่นำองค์ความรู้จากการทำวิจัย โดยทีมนักวิจัยแพทย์จุฬาฯ คือ การพัฒนาแอนติบอดีที่มีคุณสมบัติดักจับและยับยั้งเชื้อโควิด-19 ทางกายภาพบริเวณโพรงจมูก ซึ่งทีมนักวิจัยได้บ่มเพาะและพัฒนามาตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของการระบาด โดยได้รับการสนับสนุนทั้งจากภาคประชาชน และภาครัฐ กระทั่งสามารถพัฒนาแอนติบอดีต้นแบบได้และได้ยื่นจดสิทธิบัตรเป็นที่เรียบร้อย และมีความพร้อมที่จะถ่ายทอดองค์ความรู้นี้ไปสู่ภาคเอกชนเพื่อนำไปต่อยอด ในการทำการวิจัยทางคลินิก เพื่อสร้างเป็นผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่น่าจะมีส่วนช่วยป้องกันหรือรักษาโรคโควิด-19 จนเป็นผลสำเร็จได้ในวันนี้

“องค์ความรู้จากการวิจัยและความร่วมมือที่เกิดขึ้นในครั้งนี้จะทำให้เกิดนวัตกรรมที่สำคัญอีกชิ้นหนึ่งที่ประสบความสำเร็จ และช่วยให้ประเทศไทยก้าวพ้นสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ครั้งนี้ได้อย่างปลอดภัย” รศ.นพ.ฉันชาย กล่าว

สำหรับ นพ.วิฑูรย์ ผอ.อภ. กล่าวว่า อภ.มีความเชี่ยวชาญในการผลิตยาและเวชภัณฑ์ ที่มีมาตรฐานยอมรับในระดับสากล จึงได้ทำหน้าที่ในการผลิตและควบคุมคุณภาพ ผลิตภัณฑ์นวัตกรรม “สเปรย์พ่นจมูกเพื่อยับยั้งเชื้อโควิด-19 ทางกายภาพบริเวณโพรงจมูก” โดยนวัตกรรมชิ้นนี้สามารถวิจัยและผลิตขึ้นใช้ได้เองในประเทศ โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้รับการขึ้นทะเบียนจากอย. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ล่าสุด อภ.ได้รับใบจดทะเบียนสถานประกอบการผลิตเครื่องมือแพทย์ โดยมีขอบข่ายการอนุญาตให้ผลิตเครื่องมือแพทย์ในกลุ่ม Respiratory care service สำหรับผลิตภัณฑ์ Nasal spray solution จากอย. และยังได้รับการรับรอง ISO-13485 : 2016 มาตรฐานระบบการจัดการคุณภาพสำหรับเครื่องมือแพทย์ จากบริษัท UIC certification service ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ตรวจรับรองประเมินมาตรฐานสากลซึ่งแสดงได้ว่าสถานที่ผลิตแห่งนี้ มีคุณภาพ ความปลอดภัย ระบบการจัดการคุณภาพสำหรับการผลิตเครื่องมือแพทย์ที่ดี

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดพิธีอัญเชิญกิ้วอ๊วงฮุกโจว เปิดมณฑลพิธีภายในศาลเจ้าไต้ฮงกง เนื่องในงานเทศกาลกินเจ ประจำปี 2565 พร้อมจัดบริการอาหารเจแก่สาธุชนฟรี ตั้งแต่วันนี้ - 4 ตุลาคม 65 ณ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ

วานนี้ (วันที่ 25 กันยายน 65 เวลา 12.45 น.) นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย ดร.สุทัศน์ เตชะวิบูลย์ รองประธานกรรมการ นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการ พร้อมคณะกรรมการ ผู้ช่วยกรรมการมูลนิธิฯ ผู้บริหาร ศิษยานุศิษย์ และสาธุชน ร่วมในพิธีอัญเชิญกิ้วอ๊วงฮุกโจว (เทพเจ้า 9 องค์ หรือนัยหนึ่ง คือ ดาวพระเคราะห์ทั้ง 9 ดวง) เปิดมณฑลพิธีงานเทศกาลกินเจ ประจำปี 2565 โดยคณะสงฆ์อนัมนิกาย วัดอุทัยราชบำรุง ณ ภายในศาลเจ้าไต้ฮงกง มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ

เทศกาลกินเจ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ในปีนี้จะตรงกับวันที่ 25 กันยายน - 5 ตุลาคม 2565 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขอเชิญชวนศิษยานุศิษย์และสาธุชนทุกท่าน ร่วมถือศีลกินผัก ละเว้นเนื้อสัตว์ เนื่องในเทศกาลกินเจ ประจำปี 2565 พร้อมสักการะหลวงปู่ไต้ฮง เพื่อความเป็นสิริมงคลและขอพรให้คุ้มครอง แคล้วคลาดปลอดภัย ทำบุญประทีปโคมไฟ (เต็งลั้ง) ถวายหลวงปู่ไต้ฮงเพื่อความเจริญรุ่งเรือง ณ ศาลเจ้าไต้ฮงกง มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ

ในวันที่ 25 กันยายน - 4 ตุลาคม 2565 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดให้มีบริการอาหารเจ ในรูปแบบบรรจุถุงกลับบ้าน แก่ประชาชน..ฟรี โดยบริการวันละ 2 มื้อ (เช้า และกลางวัน) โดยเริ่มบริการตั้งแต่มื้อเที่ยงของวันที่ 25 กันยายน 65 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ มูลนิธิฯ ขอความกรุณาประชาชนผู้เข้ารับบริการอาหารเจนำถุงหิ้ว/ถุงผ้ามาบรรจุอาหารด้วยทุกครั้ง

นอกจากนี้ ระหว่างวันที่ 26 กันยายน - 2 ตุลาคม 65 ขอเชิญชวนประชาชนชมอุปรากรจีน (งิ้ว) ที่คณะลูกศิษย์หลวงปู่ไต้ฮงจัดถวายรวม 7 คืน ณ บริเวณฝั่งสำนักงาน มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top