Saturday, 10 May 2025
POLITICS

‘เทพมนตรี’ แขวะกลุ่ม 3 นิ้ว ความจำสั้น แค่ม็อบพันธมิตร กับ กปปส. ยังแยกไม่ออก

นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระด้านประวัติศาสตร์และนักเทววิทยาโพสต์เฟซบุ๊ก Thepmontri Limpaphayorm ว่า ใครบอกสองเขาสามกีบเก่งประวัติศาสตร์ ขนาดพันธมิตรและกปปส. ยังแยกไม่ได้เลยว่าใครเป็นใคร เรื่องไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เองมันยังไม่รู้เรื่อง นับประสาอะไรกับสมัยอยุธยา รัตนโกสินทร์ หรือ ปฏิวัติ 2475

มันจึงเพี้ยนกันไม่เลิก


ที่มา : https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=6622884837753587&id=100000964084010

‘นายกฯ’ โอดอ่านเอกสารวันละ 100 แฟ้ม ขอรมต. สรุปข้อมูลประหยัดเวลาให้ ยันไม่ยึดติดอำนาจ แค่อยากเห็นรอยยิ้มปชช. ขอทำงานตามกรอบที่กฎหมายให้ไว้

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2564 ที่สโมสรทหารบก วิภาวดี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานในงานมอบรางวัลรัฐบาลดิจิทัล "DG Awards 2021" แก่หน่วยงานภาครัฐที่มีการปรับเปลี่ยนองค์กรสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัลระดับสูง ที่สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) จัดขึ้น

โดยพล.อ. ประยุทธ์ กล่าวมอบนโยบายและทิศทางการขับเคลื่อนรัฐบาลดิจิทัล มีเนื้อหาตอนหนึ่งว่า การเชื่อมโยงข้อมูลกลางจากหน่วยงานต่าง ๆ อยู่ในจุดเดียว ถือเป็นสิ่งสำคัญ หลายเรื่องที่พวกเราได้ทำมา ไม่อาจสร้างการรับรู้ให้ประชาชนได้ ซึ่งตนจะต้องจัดระเบียบตรงนี้เสียใหม่ ต้องมีการจัดข้อมูลว่าเรามีกลุ่มงานกี่กลุ่ม มีส่วนที่ประสบความสำเร็จแล้วกี่หน่วยงาน มีผลงานของหน่วยงานใดบ้าง แล้วจะใช้ประโยชน์ได้อย่างไร งานด้านการพัฒนาที่กระทรวงได้ทำในฐานะรัฐบาลจะต้องถอดแบบออกมาให้ได้ โดยตนมอบหมายให้รัฐมนตรีแต่ละคนรวบรวมสิ่งที่ทำมาตลอดเวลา 2 ปี ของรัฐบาลชุดนี้ แต่ข้อมูลที่ส่งเข้ามาบางครั้งเป็นตัวเลขที่นำไปใช้สื่อสารกับประชาชนได้ยาก 

จึงขอว่าเวลาที่ทำรายงานส่งมาถึงตนช่วยทำข้อมูลสรุปให้เห็นชัดว่าอะไรมีการเปลี่ยนแปลง อะไรเป็นสิ่งที่สร้างประโยชน์ไม่ใช่ส่งมาแต่ตัวเลขละเอียดยิบ เมื่อแต่ละหน่วยงานส่งแบบนี้เข้ามา ตนก็ต้องอ่านทุกฉบับแล้วก็เขียนสั่งการแต่ละหน่วยงานว่าให้ดำเนินการอะไรต่อไปบ้าง แต่ขอให้ทุกคนช่วยกันลดเวลาการอ่านเอกสารเหล่านี้ให้กับตนด้วย เพราะแต่ละวันตนอ่านเอกสารหนังสือเยอะมาก ทุกคนส่งเอกสารหนังสือเข้ามาเป็น 100 แฟ้ม เป็นแบบนี้ทุกวัน 100 แฟ้ม ก็ 100 เรื่อง เซ็นแต่ละวัน 30 - 40 แฟ้ม แต่ตนก็ต้องอ่าน บางครั้งก็เขียนเติมข้อสั่งการลงไปบ้าง

'นายกฯ' โอด อ่านเอกสารวันละ 100 แฟ้ม ขอรมต.สรุปข้อมูลให้ ประหยัดเวลา ยัน ไม่ยึดติดอำนาจแค่อยากเห็นรอยยิ้มปชช. ขอทำงานตามกรอบที่กฎหมายให้ไว้ 

ที่สโมสรทหารบก วิภาวดี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม เป็นประธานในงานมอบรางวัลรัฐบาลดิจิทัล “DG Awards 2021” แก่หน่วยงานภารัฐที่มีการปรับเปลี่ยนองค์กรสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัลระดับสูง ที่ สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล(องค์การมหาชน) จัดขึ้น โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวมอบนโยบายและทิศทางการขับเคลื่อนรัฐบาลดิจิทัลมีเนื้อหาตอนหนึ่งว่าการเชื่อมโยงข้อมูลกลางจากหน่วยงานต่างๆ อยู่ในจุดเดียว ถือเป็นสิ่งสำคัญ หลายเรื่องที่พวกเราได้ทำมา ไม่อาจสร้างการรับรู้ให้ประชาชนได้ ซึ่งตนจะต้องจัดระเบียบตรงนี้เสียใหม่ ต้องมีการจัดข้อมูลว่าเรามีกลุ่มงานกี่กลุ่ม มีส่วนที่ประสบความสำเร็จแล้วกี่หน่วยงาน มีผลงานของหน่วยงานใดบ้าง แล้วจะใช้ประโยชน์ได้อย่างไร งานด้านการพัฒนาที่กระทรวงได้ทำในฐานะรัฐบาลจะต้องถอดแบบออกมาให้ได้

โดยตนมอบหมายให้รัฐมนตรีแต่ละคนรวบรวมสิ่งที่ทำมาตลอดเวลา 2 ปีของรัฐบาลชุดนี้ แต่ข้อมูลที่ส่งเข้ามาบางครั้งเป็นตัวเลขที่นำไปใช้สื่อสารกับประชาชนได้ยากจึงขอว่าเวลาที่ทำรายงานส่งมาถึงตนช่วยทำข้อมูลสรุปให้เห็นชัดว่าอะไรมีการเปลี่ยนแปลง อะไรเป็นสิ่งที่สร้างประโยชน์ไม่ใช่ส่งมาแต่ตัวเลขละเอียดยิบ เมื่อแต่ละหน่วยงานส่งแบบนี้เข้ามาตนก็ต้องอ่านทุกฉบับแล้วก็เขียนสั่งการแต่ละหน่วยงานว่าให้ดำเนินการอะไรต่อไปบ้าง แต่ขอให้ทุกคนช่วยกันลดเวลาการอ่านเอกสารเหล่านี้ให้กับตนด้วยเพราะแต่ละวันตนอ่านเอกสารหนังสือเยอะมาก ทุกคนส่งเอกสารหนังสือเข้ามาเป็น 100 แฟ้มเป็นแบบนี้ทุกวัน 100 แฟ้มก็ 100 เรื่อง เซ็นแต่ละวัน 30-40 แฟ้มแต่ตนก็ต้องอ่านบางครั้งก็เขียนเติมข้อสั่งการลงไปบ้าง

 

'นายกฯ' ระบุ จนท.กำลังตาม 252 นทท. ขอ ปชช.อย่ากังวลเชื้อกลายพันธุ์โอไมครอน ยัน ยังไม่ใช้ยาแรงปิดประเทศ 

ที่สโมสรกองทัพบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึง สถานการณ์การติดตามเชื้อกลายพันธุ์โอไมครอน ในส่วนของประเทศไทย ว่า เรื่องนี้ตนเป็นคนแจ้งเตือนเอง หลังจากได้รับทราบข่าว จากเว็บไซต์ต่างประเทศ เป็นสิ่งที่น่าชมเชยที่หน่วยงานของไทย เมื่อรับนโยบายไปแล้ว ก็ตอบสนองโดยทันที ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงสาธารณะสุข ศบค. ครม. เพื่อให้ความสำคัญในเรื่องนี้ จึงต้องขออภัยในกรณีที่คิดว่าหลายอย่างเราจะทำได้ แต่เมื่อมีเชื้อใหม่อุบัติขึ้นมา เราก็ต้องมีมาตรการขึ้นมารองรับ และวันนี้ เราก็ยังไม่ได้ข่าวว่า มีผู้ติดเชื้อในประเทศไทย แต่อย่างไรก็ตามเชื้อตัวเดิมเราก็ต้องระวังอยู่ เพราะคิดว่าคงต้องระวังกันทั้งโลก สำคัญคือจะทำอย่างไรเราจะต้องระมัดระวังตัวเองกันให้มากที่สุด ตน เข้าใจดีถึงความเป็นอยู่ของประชาชน พี่ต้องการอิสระ ต้องการเดินทาง ต้องการความสนุกสนาน แต่ถ้าเราไม่ช่วยกัน ไม่ว่าโรคอะไรเราก็ต้านทานไม่ได้ ถ้าเราไม่มีวินัยของเราเอง จึงต้องขอร้อง โดยเฉพาะเรื่องการเข้ามา รับการฉีดวัคซีน อย่าไปกังวลว่า เมื่อมีเชื้อตัวใหม่เข้ามาแล้วไม่ฉีด จะรอวัคซีนใหม่ ขณะที่เชื้อเก่ายังอยู่ เราต้องระวังทุกเชื้อที่เกิดขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามถึง การผ่อนคลายมาตรการกิจการกิจกรรมผับบาร์คาราโอเกะ นายกฯ กล่าวว่า อาจจะต้องมีขยับออกไปบ้าง ก็ต้องขออภัย ตน บอกแล้ว อยากให้นึกถึงคนอื่นด้วย ตน เห็นใจ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวถือว่าสำคัญที่สุด แต่ถ้าเราไม่ทำแบบนี้ ก็จะล้มเหลวทั้งหมด และรัฐบาลก็จะกลายเป็นรัฐบาลที่ไม่มีประสิทธิภาพ ดังนั้นมันจึงจำเป็น ไม่มีใครอยากจะทำตรงนี้หรอก ดังนั้นจึงขอขยับออกไปก่อนรอดูสักเดือนหนึ่งก่อน และเรื่องนี้ก็ต้องฟังหมอและสาธารณสุข ตนเอง ก็ได้สั่งให้พิจารณาเรื่องการเยียวยากิจการกิจกรรมเหล่านี้เป็นการชั่วคราวไปก่อน อันไหนที่เปิดได้ก็มีอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นสถานที่ปิด มีคนเข้าไปเป็นจำนวนมากและมีการดื่มสุรา ถือว่าเสี่ยงสูงก็ขอเอาไว้ก่อน ซึ่งเรื่องการเยียวยาก็จะนำเข้าครม. ในเร็วๆนี้

เมื่อถามถึง การติดตามตัวนักท่องเที่ยว 252 คน เพื่อให้เข้ารับการตรวจเชื้อแบบ RT-PCR นายกฯ กล่าวว่า กำลังติดตามอยู่ คนที่อยู่ในพื้นที่ ถ้ารู้ ก็ให้ช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่ 

ผู้สื่อข่าวถามว่า การแพร่ระบาดในหลายประเทศรอบประเทศไทยในขณะนี้ จะทำให้เราจำเป็นจะต้องใช้ยาแรงหรือ ถึงขั้นปิดประเทศหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า "ยังๆ ตอนนี้มีการคัดกรอบแบบ RT-PCR อยู่แล้ว และมีการกักตัวไว้ชั่วคราว จนกว่าจะทราบผล RT-PCR ส่วนตรวจแบว ATK ต้องยกเลิกไปก่อนถือว่ายังไม่ปลอดภัยในขณะนี้ ซึ่งอาจจะทำให้ลำบากกันขึ้นมานิดหน่อย แต่เราก็ต้องมองทั้ง 2 ทาง ทั้งเรื่องการท่องเที่ยวและเรื่องเศรษฐกิจ รวมถึงเรื่องความปลอดภัยไปด้วย นี่คือความยากง่ายในการทำงาน เราไม่สามารถทำอะไรให้มันง่ายๆได้ คนเป็นร้อยกว่าจะคิดมาตรการออกมาได้ กว่าจะมาถึง นายกรัฐมนตรีที่จะตัดสินใจ อาจจะมีความต้องการด้านหนึ่ง แต่อีกด้านหนึ่งคือด้านสาธารณสุขที่เราก็ต้องดู 

‘ไพศาล’ ฟอกขาวให้ 'ทักษิณ' ยันไม่เกี่ยวเหตุการณ์กรือเซะ

'ไพศาล' ฟอกขาวให้ 'ทักษิณ' ยันไม่รู้เรื่องเหตุการณ์กรือเซะสักกระผีก ส่วน 'ลุงจิ๋ว' ก็ช่วยให้ไทยรอดพ้นจากสงคราม โลกมุสลิม แต่ 'พัลลภ ปิ่นมณี' รับไปเต็ม ๆ

2 ธ.ค. 64 - นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ประจำรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “ทักษิณไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์กรือเซะ!!!” ระบุว่า นักการเมืองมุสลิมทางใต้มาหารือ เกี่ยวกับการย้ายพรรคไปอยู่พรรคเพื่อไทย แต่ติดขัดด้วยพี่น้องมุสลิมภาคใต้ยังติดใจกรณีสังหารที่กรือเซะ จึงบอกท่านว่าเป็นความเข้าใจผิด คุณทักษิณไม่ได้เกี่ยวข้องเรื่องเหตุการณ์สังหารที่กรือเซะเลย แถมไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำไป จึงถือโอกาสเล่าเหตุการณ์กรือเซะให้ฟังว่า

1.) เหตุการณ์กรือเซะเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องจากกรณีที่ผู้ก่อความไม่สงบระดมกำลังระดับ 2 กองพัน เคลื่อนมาตามถนนสายหลักและแยกเข้าโจมตีสถานีตำรวจ สถานที่ราชการ และฐานปฏิบัติการของฝ่ายรัฐบาลหลายจุดพร้อมกัน แต่ถอนกำลังกลับไม่ทัน บางส่วนถูกกองกำลังของรัฐบาลล้อมไว้ที่บริเวณมัสยิดกรือเซะ และผู้ก่อความไม่สงบหลบเข้าไปอยู่ในมัสยิดนั้น

2.) ครั้งนั้นลุงจิ๋วเป็นรองนายกฝ่ายความมั่นคงจึงเป็นผู้อำนวยการสถานการณ์ และได้มอบให้พลเอก พัลลภ ปิ่นมณี ซึ่งรับผิดชอบ กอ.รมน. เป็นผู้บัญชาการสถานการณ์ โดยพลเอก พัลลภ ปิ่นมณี ลงไปบัญชาการด้วยตนเองตั้งแต่เช้าตรู่ ทั้งสองฝ่ายตรึงกำลังกันโดยฝ่ายผู้ก่อความไม่สงบเข้าไปตั้งมั่นอยู่ในมัสยิด ในขณะที่กองกำลังรัฐบาลล้อมอยู่โดยรอบ โดยมีประชาชนมุงดูเต็มไปหมด

3.) ลุงจิ๋วมอบนโยบายให้หาทางปรองดองโดยการเจรจากัน ถึงขนาดสั่งการว่าถ้าผู้ก่อความไม่สงบในมัสยิดหิวน้ำก็ให้ส่งน้ำไปให้ หิวข้าวก็ให้ส่งข้าวไปให้ ต้องการพบพ่อแม่ญาติพี่น้องก็ให้ช่วยตามไปพบ และให้อำนวยความสะดวกทุกอย่าง เพียงขอให้เจรจาและมอบตัวเพื่อปรองดองกันต่อไป ซึ่งเป็นวิธีการที่ลุงจิ๋วแกถนัด

4.) พลเอก พัลลภ ปิ่นมณี ผู้บัญชาการสถานการณ์ก็ปฏิบัติตามนโยบายนั้นอย่างเต็มที่ สร้างความชื่นอกชื่นใจให้แก่ประชาชน แม้สื่อต่างประเทศที่ไปทำข่าวก็ชื่นชมเป็นอันมาก แต่จนเวลาบ่ายคล้อยก็ไม่เป็นที่ตกลงกัน

“องอาจ” จี้ รบ.เคาะเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ตามไทม์ไลน์ มี.ค.ปีหน้า ยันปชป.ส่งแข่งแน่นอน 

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ดูแลกทม. กล่าวถึงกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีระบุว่า การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จะมาหลังเลือกตั้งองค์การบริหารปกครองส่วนตำบล (อบต.) ว่า ถ้าดูตามไทม์ไลน์ของการเลือกตั้งท้องถิ่น จะเห็นว่ามีการเลือกตั้งมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เลือก อบจ. เมื่อเดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว จากนั้นก็เลือกเทศบาล เมื่อเดือนมี.ค. 64 เว้นว่างช่วงโควิดระบาดหนักระลอกล่าสุด เมื่อโควิดคลี่คลายก็เลือก อบต. ไปเมื่อวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา และเดือนมกราคมปีหน้าก็น่าจะเข้าสู่โหมดของการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งตนเชื่อว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามไทม์ไลน์ที่จะเลือกผู้ว่าฯ กทม. ได้ภายในเดือนมี.ค.ปีหน้า ไม่น่าจะดีเลย์ออกไปนานกว่านี้ ยกเว้นว่าจะมีโควิดระบาดระลอกใหม่จนถึงขั้นล็อคดาวน์ 

“ขณะนี้พี่น้องชาว กทม. รอเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และเลือกตั้ง สก. เพราะเรามีผู้ว่าฯ กทม. จากการแต่งตั้งของ คสช. มาตั้งแต่วันที่ 18 ต.ค.59 นานกว่า 5 ปี และมี สก. จากการแต่งตั้งของ คสช. มาตั้งแต่เดือน ก.ย.57 นานกว่า 7 ปี  ดังนั้นรัฐบาลจึงควรเคาะให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และ สก. ได้แล้ว ไม่ควรยืดเวลาออกไปเรื่อยๆ โดยไม่มีสาเหตุที่สมควร ซึ่งตามไทม์ไลน์ รัฐบาลโดยมติ ครม. น่าจะมีมติให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และ สก. ได้ในเดือน มี.ค.65”นายองอาจ กล่าว

‘ประวิตร -โบว์’ ค้าน กลุ่มสามนิ้วแบนลูกหนัง ชี้ เกลียดพ่อแต่ลามไปลูก เป็นแนวคิดที่ล้าหลัง 

นักข่าวอาวุโสข่าวสด ชี้กรณีแบน ‘ลูกหนัง’ คือความเกลียด ตั้ว ศรัณยู ไปลงที่ลูกสาวแทน ย้ำไม่ใช่ความยุติธรรม แต่ล้างแค้นแบบไม่ถูกต้อง ด้านโบว์ ณัฏฐา ชี้ การโจมตีถึงขั้นอยากทำลายอนาคตลูกหลานคือวัฒนธรรมศาลเตี้ยที่ล้าหลัง ไม่เกิดพลังอะไรนอกจากผู้มีอำนาจนั่งยิ้ม

จากกรณีที่ในโซเชียลมีเดียวิพากษ์วิจารณ์กรณีที่ ลูกหนัง ศีตลา วงษ์กระจ่าง ลูกสาวของ ตั้ว ศรัณยู และ เปิ้ล หัทยา วงษ์กระจ่าง มีกำหนดเดบิวต์อย่างเป็นทางการที่ประเทศเกาหลีใต้ ในวันที่ 5 ม.ค. เป็นหนึ่งในสมาชิกของเกิร์ลกรุ๊ปใหม่ เอชวันคีย์ (H1-KEY) จากค่ายจีแอลจี หรือ GLG (Grandline Group) ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 29 พ.ย. ที่ผ่านมา แต่กลับมีกระแสต่อต้านจากกลุ่มผู้สนับสนุนม็อบราษฎร หรือม็อบสามนิ้ว และผู้สนับสนุนนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำคณะก้าวหน้า กล่าวหาว่าบิดา คือ ตั้ว ศรัณยู ผู้ล่วงลับ เคลื่อนไหวการเมืองกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทำให้เกิดรัฐประหารถึง 2 ครั้ง และได้นายกรัฐมนตรีที่ชื่อ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ระบุว่าเป็นสัญลักษณ์ของระบอบเผด็จการทหาร พร้อมติดแฮชแท็ก #แบนลูกหนัง และ #BANSITALA เพื่อไม่ให้มีที่ยืนในสังคมนั้น

เฟซบุ๊ก Pravit Rojanaphruk ของนายประวิตร โรจนพฤกษ์ ผู้สื่อข่าวอาวุโส เครือหนังสือพิมพ์ข่าวสด โพสต์ข้อความระบุว่า “ศาลตัดสินลงโทษ ยังลงโทษลูกเมียแทนมิได้ เราจึงมิสมควรลงโทษและบอยคอตหญิงคนหนึ่งเพราะสิ่งที่พ่อเธอก่อ (เธอเป็นเพียงตัวประกอบในการชุมนุมที่ไม่มีใครสนใจ จนกระทั่งจะเดบิวต์กับวง K Pop แล้วพบว่าเป็นลูกตั้ว ศรัณยู - และถามจริงว่าถ้าลูกหนังมิใช่ลูกของตั้ว ศรัณยู จะมีใครสนใจประเด็นนี้ไหม? เกลียดชังขนาดนี้ไหม? ยอมรับเถอะครับมันคือความเกลียดตั้ว ศรัณยู ที่ไปลงที่ลูกสาวแทน เพราะลำพังลูกสาวไปร่วมชุมนุม มิได้มีใครสนใจหรือจดจำ) ผมไม่เห็นด้วยกับการกดดันลูกหนังเพื่อลงโทษกับกรรมที่ตั้ว ศรัณยูทำ นี่มิใช่ความยุติธรรม แต่มันคือการล้างแค้นอย่างไม่ถูกต้อง เราควรจะมองไปในอนาคต มิใช่จมปลักอยู่กับความเกลียดชังในอดีต”

‘โรม’ จี้สภา รับร่างกม. ปลดอาวุธคสช. ช่วยถอดสลักโซ่ตรวนฉุดรั้งการเมืองไทย

‘รังสิมันต์ โรม’ เรียกร้อง สภา ส.ส. ต้องให้ความสำคัญ ร่างยกเลิกคำสั่ง คสช. ชี้ชัด หากร่างกฎหมายผ่าน จะเป็นการถอดสลัก โซ่ตรวนที่ฉุดรั้งการเมืองไทย เพื่อให้ประเทศผ่านวิกฤต

เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2564 ที่อาคารรัฐสภา รังสิมันต์ โรม ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ในฐานะรองเลขาธิการพรรคก้าวไกล แถลงต่อสื่อมวลชน ถึงประเด็นเรียกร้องให้สภาผู้แทนราษฎร นำร่างกฎหมายยกเลิกประกาศคำสั่ง คสช. ที่เสนอโดย รศ.ดร. ปิยบุตร แสงกนกกุล และคณะ เร่งขึ้นมาพิจารณาพร้อมกับร่างของประชาชนในสมัยประชุมนี้

รังสิมันต์ กล่าวว่า ในวันนี้เป็นวันแรกที่จะมีการพิจารณากฎหมายที่เสนอต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรอย่างจริงจัง ก่อนหน้านี้ เราได้พิจารณากฎหมายส่วนใหญ่ที่เสนอโดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่วันนี้เป็นวันแรกที่มีกฎหมายที่เสนอโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และบางส่วนเป็นร่างกฎหมายที่เสนอโดยภาคประชาชน ที่เฝ้ารอว่า สภาผู้แทนราษฎรจะมีความชัดเจนอย่างไร ซึ่งเป็นนิมิตหมายที่ดี

“ก่อนหน้านี้ เรามีหลายเรื่องที่เสนอโดย ส.ส. อย่างเรื่องข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่อาจไม่ได้เกี่ยวข้องกับประชาชน แต่ต้องบอกว่าร่างข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งนี้ บางส่วนจะเกี่ยวข้องกับการทำประชามติ ที่จะเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถเป็นผู้ริเริ่มเสนอเรื่องต่าง ๆ เป็นประเด็นที่สำคัญต่อสังคมได้ ต่อไปนี้ความสำคัญ การริเริ่มเรื่องราวต่าง ๆ จะไม่ได้อยู่แค่ในสภา และประชาชนจะมีส่วนเป็นผู้กำหนดทิศทางในการเดินหน้าของประเทศไทยได้ด้วย”

รังสิมันต์ กล่าวต่อว่า บางประเด็นที่เกี่ยวข้องกับข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่ถูกเสนอโดย ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ที่จะทำให้การพิจารณากฎหมายของสภา จะมีโอกาสที่พิจารณาร่างกฎหมายที่ถูกเสนอโดย ส.ส. ได้มากขึ้น หรือในประเด็นของ ธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ที่เสนอให้มีการแก้ไขเพื่อให้มีการตีความร่างกฎหมายดำเนินต่อไปได้ ไม่ใช่มีการเปลี่ยนแปลงผลโหวตในสภาผู้แทนราษฎร ในช่วงองค์ประชุมของตนมีไม่พอ เป็นการเตะถ่วง ฉุดรั้งประเทศ

'อัษฎางค์' งัด 7 ปี รัฐบาลลุง ล้าหลัง ไม่พัฒนา แต่ 5G เชิงพาณิชย์ล้ำอาเซียนไปไกลเฉย

อัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า...

รัฐบาลลุงห่วย ทำประเทศล้าหลัง ไม่พัฒนา แต่ปัจจุบันไทยเปิดให้บริการ 5G เต็มรูปแบบในพื้นที่อีอีซีแล้ว ภายใต้แผนปฏิบัติการว่าด้วยการส่งเสริมการใช้ประโยชน์เทคโนโลยี 5G ระยะที่ 1 ทำให้การขับเคลื่อน 5G ในไทยเร็วกว่าประเทศอื่น ๆ ในอาเซียนถึง 5 ปี

ทำให้ไทยเป็นประเทศแรกในอาเซียนที่เปิดบริการ 5G เชิงพาณิชย์ เพื่อเพิ่มจุดขายดึงดูดนักลงทุนพัฒนาเทคโนโลยีในรูปแบบใหม่ ตั้งเป้ามีโครงข่าย 5G ครอบคลุม 98% ภายในปี 2570

นายกฯ พอใจ ผลการจัดซื้อจัดจ้างปี 64 หลังประหยัดงบฯ ได้กว่า 7.8 หมื่นล้านบาท 

โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ พอใจ ผลการจัดซื้อจัดจ้างปี’64 ประหยัดงบฯ กว่า 7.8 หมื่นล้านบาท ย้ำเน้นความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อให้เกิดการแข่งขัน อย่างเป็นธรรม

เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 64 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พอใจผลการดำเนินงานจัดซื้อจัดจ้างในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 (ตุลาคม 2563 - กันยายน 2564) ซึ่งกรมบัญชีกลางได้รายงานความคืบหน้า หน่วยงานของรัฐที่ได้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างและก่อหนี้แล้วจำนวนทั้งสิ้น 5,247,846 โครงการ คิดเป็นร้อยละ 98.34 ของจำนวนโครงการจัดซื้อจัดจ้างทั้งหมด โดยมีมูลค่าที่จัดหาได้คิดเป็น 1,333,622.22 ล้านบาท ทำให้รัฐสามารถประหยัดงบประมาณได้ 78,667.29 ล้านบาท หรือประหยัดได้ร้อยละ 5.57 ของวงเงินงบประมาณในการจัดหา 

ซึ่งเป็นผลจากวิธีการจัดซื้อจัดจ้างที่นำเอาเทคโนโลยีสมัยใหม่มาประยุกต์ใช้ส่งผลให้ผู้ประกอบการและบุคคลทั่วไปเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว เกิดการแข่งขันอย่างเท่าเทียม และสามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน ส่งผลให้ขั้นตอนการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดความคุ้มค่าการใช้จ่ายงบประมาณ รวมทั้งเป็นต้นแบบการบูรณาการระบบฐานข้อมูลภาครัฐ

เปิดเซฟ ‘นฤมล’ หลังพ้น ‘รมช.แรงงาน’ เงินฝากสามี 42 ล้าน พร้อมบ้านอีก 2 หลัง!!

วันนี้ 1 ธ.ค. 64 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงาน ป.ป.ช. ดำเนินการเปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ของนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ กรณีพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน เมื่อวันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2564 พร้อม นายจุมพล ภิญโญสินวัฒน์ คู่สมรส ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 2 คน 

โดยนางนฤมลและคู่สมรส มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 112,110,485 บาท โดยเป็นทรัพย์สินของนางนฤมล 53,643,104 บาท และเป็นทรัพย์สินของนายจุมพล 58,467,381 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 163,333 บาท โดยเป็นหนี้สินของนางนฤมล 162,797 บาท เป็นหนี้สินของนายจุมพล 536 บาท ซึ่งเป็นหนี้สินจากเงินเบิกเกินบัญชี 

สำหรับทรัพย์สินของนางนฤมลและนายจุมพล ได้แก่ เงินสดรวมกัน 400,000 บาท เงินฝากรวมกัน 46,570,251 บาท เงินลงทุนรวมกัน 16,170,233 บาท ที่ดินรวมกัน 16,220,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างรวมกัน 27,500,000 บาท ยานพาหนะรวมกัน 2 คัน มูลค่า 2,850,000 บาท ทรัพย์สินอื่นรวมกัน 1,800,000 บาท 

เครือข่ายเยาวชน ยื่นหนังสือประธานสภาฯ ค้านตั้งบ่อนคาสิโน แนะ กมธ.ศึกษาฯ พิจารณารอบคอบ

เครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน สภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย สถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย เครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง และเครือข่ายสื่อเพื่อการขับเคลื่อนสังคม นำโดย นายณัฐพงศ์ สำเภาแก้ว ผู้ประสานงานเครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน เป็นตัวแทนยื่นหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่านนายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาฯ เพื่อแสดงจุดยืน และข้อเสนอต่อสภา กรณีส.ส.หลายคน ผลักดันให้มีบ่อนคาสิโน และพนันออนไลน์ถูกกฎหมายในประเทศ

โดย นายณัฐพงศ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากการประชุมสภาฯ เมื่อวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา ที่ประชุมได้พิจารณาญัตติด่วนเรื่องการเสนอตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาเปิดสถานบันเทิงครบวงจร รวมถึงบ่อนคาสิโน ซึ่งส.ส.ส่วนใหญ่เห็นไปในทิศทางเดียวกันคือการตั้งบ่อนคาสิโน ทางเครือข่ายเห็นว่า แม้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่จุดยืนเราไม่สนับสนุนให้ประเทศไทยมีบ่อนคาสิโน และพนันออนไลน์ อย่างไรก็ตาม เราไม่ขัดขวางการตั้งคณะกมธ. เพราะเป็นกลไกสภา แต่เราไม่อยากให้การตั้งคณะกมธ.ครั้งนี้ เป็นการปูทางไปสู่การตั้งบ่อนคาสิโน แต่อยากให้เป็นไปเพื่อศึกษาการแก้ปัญหาการพนันในประเทศไทย 
 

“ก้าวไกล” เอาบ้าง!! เดิมรอยตามวิปรัฐบาล เสนอเลื่อนวาระการประชุมพรุ่งนี้ นำญัตติขบวนเสด็จมาพิจารณา หลังจบ ญัตติ สถานบันเทิงแบบครบวงจร ด้านส.ส.ฝั่งรัฐบาลลุกขึ้นค้านสกัด จน “ชวน” ต้องสั่งพักประชุม ก่อนลงมติด้วยการขานชื่อ ผลปรากฎส.ส.ไม่เห็นด้วยเลื่อนญัตติ 246

ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 11 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง โดยมีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม ทั้งนี้ภายหลังจากที่ประธานที่ประชุมได้เปิดโอกาสให้ส.ส.ลุกขึ้นหารือนำเสนอเรื่องปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนไปยังรัฐบาล เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาแล้วเสร็จนั้น ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมได้เกิดความวุ่นวายขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้า จากกรณีที่ น.ส.วรรณวรี ตะล่อมสิน ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ขอเสนอญัตติด้วยวาจา โดยอาศัยข้อบังคับการประชุมข้อที่ 54 เสนอให้เลื่อนญัตติด่วน

เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาข้อเท็จจริงในข้อบกพร่องการกำหนดเส้นทางเสด็จ และการถวายความปลอดภัยของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เมื่อวันที่ 14 ต.ค. 2563 ที่เสนอโดยพล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และคณะเสนอ ซึ่งกำหนดไว้ในการประชุมวันที่ 2 ธ.ค. 64  หลังการลงมติในญัตติ เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) เพื่อหาแหล่งรายได้ใหม่จากนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศ  และก่อนเรื่องรับทราบรายงานของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตศึกษาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก

จากนั้นนายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า กรณีที่มีการเสนอเปลี่ยนระเบียบวาระการประชุมสำหรับวันที่ 2 ธ.ค. หากย้อนกลับไปสัปดาห์ที่แล้วตนคิดว่าเรื่องนี้เราพิจารณากันจบแล้ว คือการเลื่อนพิจารณาญัตติการศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจรมาพิจารณา และตนได้อภิปรายในสภาฯชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยที่จะนำเรื่องขอให้สภาฯพิจารณาแต่งตั้งกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาข้อเท็จจริงในข้อบกพร่องการกำหนดเส้นทางเสด็จ และการถวายความปลอดภัยของสมเด็จพระบรมราชินี เมื่อวันที่ 14 ต.ค. 63 มาพิจารณา และตนเชื่อว่าส.ส.ส่วนใหญ่ก็ไม่เห็นด้วย

ต่อมานายชวน กล่าวว่า ดังนั้นต้องขอมติที่ประชุมว่าจะเห็นด้วยกับการให้เลื่อนระเบียบวาระการประชุมหรือไม่

ขณะที่นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ลุกขึ้นถามประธานที่ประชุมว่า เมื่อมีการลงมติเลื่อนการเปลี่ยนระเบียบวาระประชุมไปแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเรียบร้อยแล้วยังสามารถเปลี่ยนระเบียบกลับมาได้อีกหรือ มันเป็นเรื่องเดียวกันหรือไม่ และเป็นเรื่องที่พิจารณาเสร็จไปแล้วหรือไม่ ถ้าเป็นญัตติเรื่องเดียวกันคือการยกเรื่องนี้ขึ้นมาถือเป็นญัตติที่เราได้เสนอไปแล้ว และการเสนอญัตติซ้ำกันในการประชุมในสมัยประชุมเดียวกันนั้นทำได้หรือไม่

ด้านนายชวน ชี้แจงที่ประชุมว่า ครั้งที่แล้วเป็นการเลื่อนระเบียบวาระเรื่องญัตติการศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้ลงมติ วันนั้นมีการอภิปรายจบไปแล้วแต่ยังไม่มีสรุปผล ดังนั้นกรณีนั้นเมื่อมีการสรุปแล้วถือว่าจบเรื่องที่เลื่อนไป  ดังนั้นวันนี้ก็เลื่อนเรื่องอื่นได้ ทั้งนี้ขอให้ผู้ควบคุมเสียงทั้งสองฝ่ายคือส.ส.ฝ่ายรัฐบาลไปส.ส.ฝ่ายค้านไปหารือกัน เพราะปกติปัญหาพวกนี้ไม่ค่อยมีปัญหาว่าสามารถเลื่อนเรื่องใดขึ้นมาพิจารณา หากเราเจรจากัน

ทั้งนี้ นายอรรถกร ในฐานะตัวแทนวิปรัฐบาล ขอให้พักการประชุม 15 นาที เพื่อตกลงร่วมกันและไม่เสียเวลาที่ประชุม ซึ่งนายชวน อนุญาตให้พักประชุม 10 นาที หลังจากที่เริ่มเข้าสู่การประชุมได้เพียง 9 นาที เท่านั้น อย่างไรก็ตามหลังพักการประชุมแล้วไม่สามารถตกลงร่วมกันได้ ทำให้ต้องใช้การลงมติเพื่อตัดสิน

อย่างไรก็ตามในส่วนของส.ส.พรรคก้าวไกลยืนยันขอให้อภิปรายเพื่อแสดงความเห็นก่อนการลงมติ โดยน.ส.วรรณวรี  ชี้แจงว่า สภาฯ ต้องร่วมสืบหาข้อเท็จจริงพื่อให้ความยุติธรรมกับประชาชนที่ถูกดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 111 รวมถึงต้องถอดบทเรียนเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้น อีกทั้งหากญัตติดังกล่าวไม่ได้รับการพิจารณาจะทำให้ญัตติด่วนอื่นๆที่สำคัญไม่สามาถพิจารณาได้ แม้จะเลื่อนขึ้นมาพิจารณาก่อน จะเท่ากับว่าไม่ให้ความสำคัญกับญัตติดังกล่าว

ขณะที่นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะวิปรัฐบาล อภิปรายว่า ขอให้ฝ่ายค้านใช้กลไกของวิป เพื่อหารือร่วมกัน และยอมรับกลไกของข้อบังคับการประชุมสภาฯ ไม่ใช่เสนอเลื่อนโดยไม่บอก หรือใช้กลไกนับองค์ประชุม หรือลงมติเพื่อทำให้ที่ประชุมเสียเวลา ทั้งนี้ตนขอให้ดำเนินการตามระเบียบวาระ ส่วนประเด็นที่ฝ่ายค้านต้องการควรใช้กลไกของวิปเพื่อทำงานร่วมกัน  และเป็นไปตามข้อตกลง

ทั้งนี้ก่อนการลงมติในญัตติที่จะขอเปลี่ยนแปลงระเบียบวาระประชุม นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานวิปรัฐบาล เสนอญัตติให้เปลี่ยนการลงมติจากเดิมที่ต้องกดบัตรออกเสียง เป็นการลงมติโดยเปิดเผยด้วยการขานชื่อ ทำให้ที่ประชุมต้องตรวจสอบองค์ประชุมและขอมติในญัตติที่จะเปลี่ยนแปลงการลงมติดังกล่าวก่อน  

“พิเชษฐ” ประกาศเข้าสังกัดพปชร.แล้ว  ยืนยัน ไม่หวั่นท่ามกลางกระแสขัดแย้งในพรรค

ที่รัฐสภา นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า เนื่องจากตนไม่สามารถดำเนินกิจกรรมในฐานะส.ส.กับพรรคประชาธรรมไทยได้แล้ว เพราะได้ยุบพรรคไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และตนได้มีโอกาสพูดคุยกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งได้ชักชวนให้ตนมาอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ เนื่องจากทำงานร่วมรัฐบาลกันมาอยู่ก่อนแล้ว ตนจึงได้ดำเนินการสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ จนล่าสุดตนได้รับแจ้งว่าความเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐของตนสมบูรณ์แล้ว

ครม.ไฟเขียวร่าง พ.ร.บ.กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ฉบับใหม่

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม. เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ฉบับใหม่ โดยเป็นการแก้ไขกฎหมายฉบับเดิม เพื่อให้การบริหารงานของกองทุนบําเหน็จบํานาญข้าราชการ (กบข.) มีความคล่องตัว และสอดคล้องกับสภาวะการลงทุนที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน ซึ่งมีสาระสำคัญ คือ กำหนดให้กองทุน กบข. สามารถรับโอนเงินของผู้ที่เคยเป็นสมาชิกของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือกองทุนอื่นที่จัดขึ้นตามกฎหมายและมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นหลักประกันในกรณีออกจากงานหรือชราภาพมายังกองทุน กบข. ได้ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่มาเข้ารับราชการสามารถเริ่มสะสมเงินกับ กบข. และได้รับผลประโยชน์ตอบแทนอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ยังแก้ไขเพิ่มเติมเรื่องอัตราการส่งเงินสะสมของสมาชิก โดยให้ส่งได้ไม่เกิน 30% ของเงินเดือน จากเดิมกำหนดไว้ไม่เกิน 15 ของเงินเดือน พร้อมทั้งแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการบริหารเงินของสมาชิกที่สมาชิกภาพสิ้นสุดลง แบ่งเป็น 2 กรณี คือ กรณีที่สมาชิกสิ้นสุดสมาชิกภาพและยังไม่ขอรับเงินที่ตนมีสิทธิได้รับคืนหรือขอทยอยรับเงินคืน สมาชิกมีสิทธิเลือกแผนการลงทุนที่ กบข. จัดให้ เพื่อให้ กบข. บริหารเงินนั้นต่อไปได้ และ กรณีที่ กบข. บริหารเงินของสมาชิกต่อไป และต่อมาสมาชิกผู้นั้นเสียชีวิตและผู้มีสิทธิรับมรดกยังไม่ยื่นคำขอรับเงิน ให้ กบข. บริหารเงินนั้นต่อไปได้ตามแผนการลงทุนที่สมาชิกได้เลือกไว้ จนกว่าทายาทจะยื่นคำขอรับเงิน 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top