Wednesday, 22 May 2024
POLITICS

‘ชลน่าน’ คุย ‘สมาคมประมง’ วาง 4 นโยบายแก้ปัญหา เพื่อฟื้นคืนอาชีพ-อุตสาหกรรมประมงไทย

‘ชลน่าน’ หารือ ‘สมาคมการประมงแห่งประเทศไทย’ วาง 4 นโยบายแก้ไขปัญหาประมง เพื่อฟื้นอาชีพและอุตสาหกรรมประมงไทยอย่างต่อเนื่อง ทวงคืนอันดับโลกประมงไทย

(14 พ.ย. 65) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ร่วมด้วยนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานคณะนโยบายเกษตรพรรคเพื่อไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี กรรมการบริหารพรรคและคณะ พูดคุยหารือและรับมอบข้อเสนอจากสมาคมการประมงแห่งประเทศไทยในการแก้ปัญหาประมงอย่างครบวงจร โดยมีนายมงคล สุขเจริญคณา ประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย เป็นตัวแทนชาวประมงทั่วประเทศเข้ามอบหนังสือดังกล่าว นพ.ชลน่าน กล่าวว่าพรรคเพื่อไทยได้ลงพื้นไปที่รับฟังปัญหาของสมาคมประมงฯ ที่สำนักงาน และทีมเพื่อไทยไปฟังปัญหาจากชาวประมง ทั้งในเขตจังหวัดสมุทรสาคร สมุทรสงคราม และหลายจังหวัดในภาคใต้ก่อนหน้านี้แล้วส่วนหนึ่ง รวมถึงในวันนี้สมาคมการประมงแห่งประเทศไทย ก็ได้มาพูดคุยและนำเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาให้อีกส่วนหนึ่ง ซึ่งถือเป็นความร่วมมือกันอย่างจริงใจที่จะแก้ไขปัญหาประมงของประเทศที่ค้างคามานานหลายปี 

นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า แม้ปัจจุบัน สหภาพยุโรปจะได้ปลดใบเหลืองแก่ประมงไทยไปแล้ว แต่นโยบายมาตรการและหลักเกณฑ์ต่างๆ ที่บริหารจัดการภาคประมงก็ยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงหรือผ่อนคลายลงไป แม้พรรคเพื่อไทยจะเคยนำเสนอประเด็นนี้ไปยังรัฐบาลแต่รัฐบาลก็ยังไม่ได้ผลักดันมาตรการแก้ไขปัญหาใดๆ ที่เป็นรูปธรรมออกมาอย่างจริงจัง ความเดือดร้อนของพี่น้องประมงก็ยังคงอยู่ วันนี้จึงเป็นโอกาสดี ที่ได้พูดคุยและตกผลึกแนวนโยบายและมาตรการเพิ่มเติม เพื่อให้พรรคเพื่อไทย ได้รวบรวมผลิตเป็นพิมพ์เขียวนโยบายแก้ไขปัญหาของพี่น้องประมงในการเลือกตั้งครั้งที่จะมาถึง

“ปัญหา IUU Fishing ของภาครัฐ ที่เร่งรัดแก้ไขดำเนินการอย่างเร่งรีบตั้งแต่ปี 2558 สร้างปมปัญหาต่อเนื่องให้พี่น้องประมง เพราะในวันที่แก้ไขปัญหานั้นพลเอกประยุทธ์ ไม่เคยฟังคำทักท้วงและคำแนะนำของพี่น้องประมงและผู้มีส่วนได้เสีย ดังนั้นหากพรรคเพื่อไทยมีโอกาสบริหารประเทศ เราจะพลิกฟื้นอาชีพประมงและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ด้วยการรื้อกฎหมายที่เป็นปัญหาและอุปสรรคต่อการประกอบอาชีพ แก้ไขหลักเกณฑ์ให้บังคับใช้อย่างเหมาะสม ยุติธรรม และหากอุปสรรคถูกทำลายและการส่งเสริมถูกต้องเหมาะสมก็เชื่อว่า ประเทศไทยจะกลับมาทวงตำแหน่งประมงลำดับต้นๆ ของโลก สร้างรายได้ให้ชาวประมงอย่างที่เคยเป็นอีกครั้ง” นพ.ชลน่าน กล่าว

‘ก้าวไกล’ ยื่น ‘ศาลปกครอง’ เบรกดีลสายสีส้ม เหตุกลัวรัฐเสียค่าโง่ 6.8 หมื่นล้านบาท

ก้าวไกลเอาจริง ยื่นศาลปกครองหยุดดีลรถไฟฟ้าสายสีส้ม รักษาผลประโยชน์รัฐ 68,000 ล้านบาท ชี้ ถ้าปล่อยให้การประมูลผ่านอาจกลายเป็นค่าโง่ในอนาคต

สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ และณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองพิจารณาหยุดสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีส้ม

สุรเชษฐ์ระบุว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มถือเป็นทุจริตครั้งใหญ่ของรัฐบาลชุดนี้ที่มีมูลค่าจำนวน 68,000 ล้านบาท ตนและพรรคก้าวไกลขอยื่นให้ศาลปกครองหยุดยั่งโครงการนี้ หากปล่อยให้มีการอนุมัติประเทศไทยต้องเสียผลประโยชน์มหาศาล ซึ่งเรื่องนี้ตนได้เคยอภิปรายไม่ไว้วางใจไปแล้วไปเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 ว่าตัวเลข 68,000 ล้านบาท เกิดจากกระบวนการ ‘ปั้นตัวเลข’ มา ‘ปั่นโครงการ’ และในวันนี้ใกล้จะ ‘ปันผลประโยชน์’ สำเร็จแล้ว

หากศาลปกครองไม่ออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว เรื่องนี้จะถูกส่งไปยังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี แน่นอนว่าเมื่อไปถึงครม. ซึ่งจะทำให้เงินภาษีของประชนถูกใช้เกินจำเป็น 68,000 ล้านบาท

ตนและพรรคก้าวไกล ยอมไม่ได้อย่างเด็ดขาด จึงได้มายื่นฟ้องจำเลย ได้แก่
1.) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
2.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย
3.) คณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนฯ
4.) กระทรวงคมนาคม

เพื่อให้ศาลปกครองกลางพิจารณาคำขอใน 4 ประเด็น ได้แก่
1.) ยกเลิกการประมูลที่มีปัญหาจัดการประมูลใหม่ให้มีการแข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรม โดยอย่างน้อย BTS และ BEM ต้องเข้าได้
2.) รฟม. ต้องเข้าชี้แจงต่อคณะอนุกรรมาธิการ โดยไม่ปฏิเสธอำนาจนิติบัญญัติอย่างที่ได้เบี้ยวมา 2 ครั้ง
3.) เปลี่ยนคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 ของ พรบ.ร่วมทุนฯ เพื่อให้มีความโปร่งใส เนื่องจากเรื่องนี้เป็นคดีใหญ่ มูลค่าสูง และมีรายละเอียดมาก
4.) คาดว่าศาลคงต้องใช้เวลาพิจารณามากพอสมควร เราจึงได้ ‘ยื่นคำร้อง’ ขอให้ศาลมีคำสั่งกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราวก่อนการพิพากษา และขอไต่สวนฉุกเฉินเพื่อระงับยับยั้งไม่ให้เซ็นสัญญาก่อน เพราะหากปล่อยไป รัฐบาลหน้าจะตามไปแก้ไขอะไรได้ยากและอาจทำให้เกิด ‘ค่าโง่ก้อนใหม่’

‘ธีรรัตน์’ ขอบคุณโพลเชียร์ ‘อุ๊งอิ๊ง-พท.’ เป็นรัฐบาล ขอประชาชนอดทนรอ อีกไม่นานจะได้ออกจากหลุมดำ

(14 พ.ย. 65) น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ สส.กทม.และโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณีที่นิด้าโพลเผยแพร่สำรวจประชาชนภาคกลางเมื่อวันที่ 13 พ.ย. และภาคเหนือเมื่อวันที่ 6 พ.ย. พบว่าประชาชนส่วนใหญ่สนับสนุนน.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกฯ และยังเลือกพรรคเพื่อไทยเป็นอันดับหนึ่งในการเลือก ส.ส.แบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อว่า ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนทุกคนที่ไว้ใจเลือกพรรคเพื่อไทยให้เป็นพรรคในใจของพี่น้องประชาชน และขอขอบคุณแทน น.ส.แพทองธาร ซึ่งถึงแม้จะยังไม่ประกาศตัวเป็นว่าที่แคนดิเดตนายกฯ ของพรรค ก็ยังได้รับเสียงสนับสนุนจากพี่น้องประชาชนท่วมท้นมากขนาดนี้ เป็นการตอกย้ำว่าพี่น้องประชาชนให้การสนับสนุนแนวทาง นโยบาย และผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยเช่นเดียวกับที่ได้รับความไว้วางใจเลือกผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งซ่อมนายกอบจ.ร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ 25 ก.ย. และการเลือกตั้งซ่อมนายก อบจ.กาฬสินธุ์วันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา จนได้รับคะแนนเสียงชนะขาดแบบแลนด์สไลด์ 

น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวต่อว่า ทั้งหมดถือเป็นกำลังใจให้กับพรรคเพื่อไทยเป็นเสมือนธงนำทางให้พรรคมุ่งมั่นทำงานต่อไป เราจะแปรเปลี่ยนเสียงสนับสนุนที่พี่น้องประชาชนมอบให้ เป็นภารกิจในการคิดค้นนโยบาย เพื่อสร้างรายได้ สร้างชีวิตใหม่ให้กับพี่น้องประชาชน ปลดเปลื้องพันธนาการแห่งความทุกข์ระทมที่พี่น้องประชาชนต้องพบเจอมาตลอด 8 ปีให้กลายเป็นความหวัง เพื่อให้เป้าหมายในการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ พรรคเพื่อไทยจะชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ ถือว่าเป็นชัยชนะของพี่น้องประชาชน

นายกฯ ฝาก ปชช.ร่วมกันทำภารกิจสำคัญเพื่อบ้านเมือง โดยให้การต้อนรับแขกผู้มีเกียรติจากทั่วโลก สู่บ้านเมืองเรา ด้วยความอบอุ่นและไมตรีจิต

“ผมขอให้พี่น้องประชาชน และทุกภาคส่วน ได้ร่วมกันทำภารกิจสำคัญเพื่อบ้านเมือง โดยให้การต้อนรับแขกผู้มีเกียรติจากทั่วโลก สู่บ้านเมืองเรา ด้วยความอบอุ่นและไมตรีจิต”

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา 
นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม
โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก
‘ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha’
เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 65

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก ‘ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha’ เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 65 ว่า  พี่น้องประชาชนชาวไทยที่เคารพครับ

สัปดาห์นี้ เป็นอีกก้าวสำคัญของประวัติศาสตร์ ที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ที่มีประชากรรวมกันเกือบ 3,000 ล้านคน หรือประมาณ 1 ใน 3 ของประชากรโลก มีมูลค่าการค้ารวมกันเกือบครึ่งหนึ่งของการค้าโลก ซึ่งจะได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม จากเวทีการประชุมผู้นำเอเปคครั้งนี้ รวมทั้งการประชุมที่เกี่ยวเนื่องและคู่ขนานกันอีกจำนวนมาก ตลอดทั้งปีที่ประเทศไทยของเราเป็นเจ้าภาพครับ

หนึ่งในการประชุมคู่ขนานดังกล่าว คือ โครงการ 'APEC Voices of the Future' ที่เปิดโอกาสและพื้นที่ในการแสดงออก-แสดงความคิดเห็น ให้แก่ผู้แทนเยาวชน-คนรุ่นใหม่นับร้อยชีวิต จาก 21 เขตเศรษฐกิจ ได้เข้าร่วมกิจกรรม ใช้พลังบริสุทธิ์อย่างสร้างสรรค์ ในการเสนอแนะเชิงนโยบาย และแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ รวมถึงยกประเด็นที่เยาวชนเป็นกังวลว่าจะส่งผลต่อคนรุ่นต่อไปที่จะต้องเติบโตขึ้นมาดูแลโลกใบนี้ในอนาคต  ถึงผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค รัฐมนตรี เจ้าหน้าที่อาวุโส สมาชิกสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจ และผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทเอกชนต่าง ๆ ในช่วงการประชุมเอเปคนี้

โดยในวันนี้ (14 พ.ย.65) ผมได้ให้การต้อนรับคณะผู้แทนเยาวชน จากโครงการดังกล่าวนี้ พร้อมกับรับฟังแถลงการณ์เยาวชน (Youth Declaration) ที่กล่าวโดยสรุปตามแนวคิดหลัก 3 ประการของเอเปคได้ ดังนี้ : 

OPEN เปิดโอกาสทางการศึกษา โดยเฉพาะเยาวชนในพื้นที่ห่างไกล และมุ่งเน้นความรู้-ทักษะสำคัญในศตวรรษที่ 21 ตลอดจนเสริมสร้างศักยภาพระบบเศรษฐกิจเดิม ด้วยมาตรฐานสากลใหม่ ที่ขจัดอุปสรรคในอดีตและทันต่อการเปลี่ยนแปลง 

‘ณัฐชา’ ซัด!! กองสลากฯ ออกกฎขายสลากเอื้อนายทุน หลังประกาศผู้รับโควตาที่อายุ 70 ปี+ ต้องมีใบรับรองสุขภาพ

‘ณัฐชา’ ซัดเดือด กองสลากฯ ประกาศกฏผู้สูงอายุ 70 ปี+ ต้องตรวจสุขภาพไม่มีโรคส่วนตัวถึงขายได้ ชี้หยุดประเคนผลประโยชน์ให้ทุนใหญ่

(14 พ.ย. 65) ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.เขตบางขุนเทียน พรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนจากพ่อค้าแม่ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลรายย่อย ว่าพวกเขาได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากหลังจากที่มีประกาศจะให้คนที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไปที่มีโควตาขายสลากต้องมีใบรับรองสุขภาพว่าสุขภาพดี

ณัฐชาระบุว่า ในความเป็นจริงผู้ที่มีอายุ 70ปี ขึ้นไปจะไม่มีโรคประจำตัวเลยคงยาก แค่ที่พบเห็นทุกคนที่ไม่ว่าจะเดินหรือนั่งขายสลากพวกเขาแข็งแรงในระดับที่ช่วยเหลือตัวเองได้ ประกาศที่ออกมาตนมองว่าเป็นการบีบและตอกย้ำว่าประเทศไทยต้องมีรัฐสวัสดิการ ไม่เช่นนั้นผู้สูงอายุ พวกเขาจะถูกคัดออกจากระบบและกดดันให้ไม่สามารถมีพื้นที่ในการทำมาหากินอะไรได้เลย เบี้ยคนชราวันละ 20 บาทไม่สามารถรองรับชีวิตใครได้ 

“ผมว่าประเทศไทยต้องเลิกดูถูกผู้สูงอายุได้แล้ว พวกเขาต้องได้รับการดูแลให้มีศักดิ์ศรีในสังคม” ณัฐชา กล่าว

‘เผ่าภูมิ’ จวก!! รัฐชู ‘โมเดล BCG’ ผิดเวลา ซัด!! ทำโอกาสทองของคนไทยหลุดมือในเวทีเอเปก

วันนี้ (14 พ.ย. 65) นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) และผอ.ศูนย์นโยบายพรรคเพื่อไทยกล่าวกรณีไทยชูโมเดลเศรษฐกิจ BCG เป็นวาระหลักในการประชุม APEC ว่า โมเดลเศรษฐกิจ BCG (เศรษฐกิจชีวภาพ-หมุนเวียน-สีเขียว: Bio-Circular-Green Economy) ของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ถูกผลักดันให้เป็นวาระหลักของการประชุม APEC ซึ่งในเวทีการประชุมสำคัญระดับนี้ เป็น โอกาสทอง ที่เจ้าภาพสามารถผลักดันวาระการหารือเพื่อประโยชน์ต่อสมาชิกและต่อชาติของตน คำถาม คือการใช้โอกาสทองในการผลักดันโมเดล BCG นี้ โดยไทยได้ประโยชน์ ได้เปรียบและมีแต้มต่อหรือไม่ 

1.) พรรคเพื่อไทยสนับสนุนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจควบคู่ไปกับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม โดยโมเดลการพัฒนาคู่ขนานนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องสมดุล แต่รายละเอียดรวมถึงการสร้างความรู้ความเข้าใจกับประชาชนในโมเดล BCG ของรัฐบาลนั้นล้มเหลว ขาดความพร้อมในการเป็นวาระหลักในการประชุมระดับ APEC

นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า 2.) โมเดลเศรษฐกิจ BCG ยังกลวง ล่องลอย ย้อนแย้งและมีช่องโหว่สูง ข้อกล่าวหาเรื่องการเพิกเฉยต่ออุตสาหกรรมเชื้อเพลิงฟอสซิล สนับสนุนการผลิตไฟฟ้าจากขยะ รวมถึงการเอื้อกลุ่มทุนใหญ่ และการฟอกเขียวของโมเดล BCG ยังถูกตั้งคำถามอย่างหนักในสังคม แต่รัฐบาลยังไร้ซึ่งคำตอบ

รวมของดีทุกภาค ขึ้นโต๊ะอาหารค่ำ ‘APEC 2022’ ทุกเมนูเป็นตามแนวคิด ‘Open. - Connect. -Balance.’

โฆษกรัฐบาลเผยเมนูในงานเลี้ยงอาหารค่ำผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค (Gala Dinner) นำเสนอสุดยอดอาหารไทยของดีทุกภูมิภาค

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับเมนูอาหารที่จะนำเสนอต่อผู้นำเขตเศรษฐกิจในงานเลี้ยงอาหารค่ำผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค (Gala Dinner) วันที่ 17 พฤศจิกายน 2565 ณ หอประชุมกองทัพเรือ 

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าเมนูอาหารทุกจานเป็นไปตามแนวคิดหลักของการประชุม Open. Connect. Balance. ดังนี้ 

Open. เปิดประสบการณ์สู่อาหารไทยอาหารทุกจานเป็นอาหารเมนูฟิวชั่นที่ออกแบบอย่างพิถีพิถันผ่านความหลากหลายของ สี กลิ่น และสัมผัส ซึ่งมั่นใจว่า อาหารที่นําเสนออย่างประณีตเหล่านี้จะสร้างความพึงพอใจให้กับผู้นําเอเปคคู่สมรส และผู้เข้าร่วม

Connect. เชื่อมต่อท้องถิ่นไทยกับทั่วโลก การทําอาหารนี้สร้างขึ้นโดยการจัดหาสิ่งที่ดีที่สุด ส่วนผสมที่มีคุณภาพ จากภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกฉียงเหนือ และไปจนถึงภาคใต้ ประเทศไทยเป็นหนึ่งในดินแดนที่มีอาหารมีชื่อเสียงที่สุดในโลก ความอุดมสมบูรณ์และเอกลักษณ์ของผลิตผลและวัตถุดิบไทย ไทยซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นําทางเศรษฐกิจการส่งออกอาหาร และเป็นที่รู้จักในนามครัวของโลก

Balance. สร้างสมดุลระหว่างโลกและผู้คน ผ่านการนำวัตถุดิบมาจาก โครงการหลวง วิสาหกิจชุมชน และฟาร์มในท้องถิ่นส่งเสริมให้ผู้คนและชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ เป็นการยกระดับความเป็นอยู่ของคนไทยและครอบครัว พร้อมกับการรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน 

โดยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงเมนู ดังนี้ 

- Amuse-Bouche (ของว่าง) กระทงทองไส้ครีมซอสและไข่ปลาสเตอร์เจียนโครงการหลวงดอยอินทนนท์

นิพนธ์ มั่นใจ ประชาธิปัตย์ 4 จ.ชายแดนใต้ ได้ส.ส.เพิ่มแน่นอน หลังกระแสตอบรับดี ชี้อย่าตกใจคนเดินออกให้ดูอดีตที่มีคนเดินออกจากพรรคไม่มีใครได้กลับมาแม้แต่คนเดียว

นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) และผอ.เลือกตั้งพรรคฯ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (13 พ.ย. 65) ตนได้ประชุมกับผู้สมัคร ส.ส. 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้คือ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสตูล ทั้งหมดมี 14 เขตเลือกตั้ง วันนี้ถือว่าทั้ง14 เขต พรรคฯมีสมัครครบทั้งหมดแล้ว และในวันที่ 20 พ.ย.นี้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคฯ จะไปเปิดตัวผู้สมัครส.ส.ทั้ง 14 เขตที่จ.ยะลา อย่างไรก็ตามผู้สมัครทุกคนที่มาร่วมประชุม มีความมั่นใจเต็มที่ เพราะจากที่เดินในพื้นที่มา 3-4 เดือน พบว่ากระแสตอบรับดีตามลำดับจึงมีความมั่นใจมากขึ้น ซึ่งผู้สมัครส่วนหนึ่งเป็นเลือดเก่า ที่กลับมาช่วยพรรค เช่นนายเจะอามิง โตะตาหยง และมีคนรุ่นใหม่ เช่นนายเมธี อรุณ หรือเมธีลาบานูน บางคนจบดอกเตอร์ก็มี หรือที่จ.สตูล มีผู้สมัครเป็นปลัดอำเภอ แต่มีความมุ่งมั่นอยากลงสมัครรับเลือกตั้ง ส่วนรายชื่อทั้งหมดขอให้หัวหน้าพรรคฯเป็นคนเปิดในวันที่ 20 พ.ย. จึงมั่นใจว่าจะสามารถเอาที่นั่งกลับมาและเพิ่มขึ้นได้อย่างแน่นอน

นายนิพนธ์ ยังกล่าวถึงข่าวสมาชิกบางส่วนลาออกนั้น อาจทำให้ภายในพรรคฯว่า ได้พยายามชี้แจงไปหลายครั้งแล้วถึงการมีคนเดินออกไปจากปชป. ที่จริงกรรมการบริหารพรรค(กก.บห.) และผู้ใหญ่ในพรรคฯรู้เรื่องนี้มาก่อนแล้ว ถ้าพูดไปก็เหมือนขับไสไล่ส่งก็พูดไม่ได้ ต้องรอให้แต่ละคนแสดงตัวและตัดสินใจอนาคตของตัวเอง เพราะครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกในอดีตก็มีคนออกจากปชป.โดยเฉพาะภาคใต้ ซึ่งเราไม่เคยเห็นใครได้กลับมาในสภาได้เลยสักคน ดังนั้นบทเรียนเหล่านี้หวังว่าจะได้ไตร่ตรองกัน

‘ทีมเศรษฐกิจเพื่อไทย’ ลงพื้นที่ ‘บางรัก’ รับฟังปัญหาพี่น้องผู้ประกอบการ พบปัญหารายได้ไม่พบรายจ่ายเป็นปัญหาหลัก พูดคุยกับ ‘ชัชชาติ สิทธิพันธ์’ ผู้ว่าฯ กทม.เรื่องแนวทางการพัฒนาเมืองใหญ่และเศรษฐกิจซบเซาในเมืองใหญ่ โดยเล็งกระตุ้นเศรษฐกิจย่านบางรักให้กลับมาฟื้

จุฑาพร เกตุราทร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตบางรัก สาทร ปทุมวัน และคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าวันนี้ได้ลงพื้นที่เขตบางรัก พร้อมด้วย พิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย เพื่อรับฟังปัญหาและขอความเห็นของประชาชนในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ โดยพบว่าผู้ประกอบการจำนวนมากประสบปัญหาจากภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำเป็นเวลานาน การค้าขายฝืดเคือง รายได้ไม่พอรายจ่าย ยิ่งระยะหลังข้าวของแพง ค่าครองชีพพุ่ง ยิ่งทำให้การดำรงชีวิตเป็นไปอย่างยากลำบาก ชักหน้าไม่ถึงหลัง และยังมีหนี้สินเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยผู้ประกอบการส่วนใหญ่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงที่จะมีผู้บริหารประเทศที่มีความรู้ความสามารถทางเศรษฐกิจอย่างแท้จริง เหมือนในอดีตที่เคยบริหารประเทศจนประสบความสำเร็จ ประชาชนอยู่ดีกินดี เศรษฐกิจหมุนเวียนดี เข้ามาบริหารแทนผู้บริหารในปัจจุบัน

‘โรม’ เยือนอีสาน เปิดเวทีพบปะประชาชน ชี้ ประเทศไทยเหมือนคนป่วยหนัก ไม่แตะทุนผูกขาด-ปฏิรูปกองทัพ-แก้รัฐธรรมนูญ ก็เหมือนป้อนพาราเลี้ยงไข้ จะแก้ปัญหาได้ผ่าตัดใหญ่ทะลุทุกโครงสร้าง 

วานนี้(12/11/65) รังสิมันต์ โรม ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พร้อมด้วย อภิชาติ ศิริสุนทร ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ร่วมเดินสายเปิดเวทีพบปะประชาชนและผู้สนับสนุนในพื้นที่อีสานตอนบน ในจังหวัดหนองบัวลำภู อุดรธานี และหนองคาย พูดคุยและรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน พร้อมแนะนำวิสัยทัศน์นโยบายของพรรค

ช่วงหนึ่งระหว่างการแลกเปลี่ยน รังสิมันต์ ระบุว่า พรรคก้าวไกล เป็นพรรคที่มุ่งหวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยอย่างแท้จริง และการจะเปลี่ยนแปลงประเทศไทยได้ มีแต่ต้องดำเนินนโยบายที่แก้ปัญหาให้ถึงระดับโครงสร้างเท่านั้น เปรียบเหมือนประเทศไทยเป็นคนป่วยเรื้อรัง แต่ที่ผ่านมาได้รับแต่ยาพาราเซตามอล ทั้งที่ต้องการการผ่าตัดใหญ่ให้หายขาด

สำหรับพรรคก้าวไกลนั้น หากได้เป็นรัฐบาลสิ่งที่เรามุ่งมั่นจะเข้าไปทำแน่ ๆ คือการทลายทุนผูกขาด แก้รัฐธรรมนูญ ปฏิรูปกองทัพยกเลิกเกณฑ์ทหาร ทลายระบบส่วยเส้นสาย สร้างระบบสวัสดิการถ้วนหน้า และการนิรโทษกรรมคดีการเมืองรวมทั้ง 112 เพื่อนำไปสู่การผ่าตัดประเทศไทยครั้งใหญ่ ซึ่งที่ผ่านมามีคนพยายามบอกว่าอยากให้เรามุ่งเรื่องปากท้องก่อนดีกว่า อย่าเพิ่งไปแตะการเมือง แต่สิ่งที่เป็นข้อเท็จจริงคือปัญหาเศรษฐกิจกับปัญหาการเมืองล้วนเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกันโดยตรง แยกออกจากกันไม่ได้

‘จุรินทร์-นิพนธ์’ ควงแขนลุยนครศรีธรรมราช เปิดตัว 8 ว่าที่ผู้สมัครส.ส. สู้ศึกเลือกตั้ง

‘จุรินทร์’ ควง ‘นิพนธ์’ ลุยนครศรีฯ เปิดตัว 8 ผู้สมัครส.ส.ฯ เปรียบ 76 ปี ประชาธิปัตย์มีแก่น มีรากแก้วอุดมการณ์ จิตวิญญาณรับใช้ประชาชนเป็นที่ตั้ง ด้าน ‘นิพนธ์’ เย้ย พวกกระโดดน้ำหนี ไปไม่ถึงฝั่งสักราย วอน ชาวประชาธิปัตย์อย่าหวั่นไหว ยัน ปรากฏการณ์อดีตรุนแรงกว่าปัจจุบันมาก แต่ปชป.ก็ยังอยู่มาได้

เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2565 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ก่อนเข้าร่วมประชุมกับสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ที่หอประชุมเมืองนครศรีธรรมราช ทุ่งท่าลาด ถึงการเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดนครศรีธรรมราชว่า วันนี้จะได้เปิดตัวผู้สมัครใน 8 เขตก่อน แม้ความจริงตั้งใจจะเปิดตัวทั้ง 9 เขต แต่เกิดอุบัติเหตุอย่างที่ทราบกัน ซึ่งก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง และยังจะเปิดตัวไปก่อน 8 เขต ส่วนอีกเขตนั้นก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ขณะนี้มีผู้เสนอตัวพร้อมที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตที่แกว่งไป ไม่ได้มีปัญหาอะไร พรรคก็พร้อมจะส่งครบทุกเขตในนครศรีธรรมราช ไม่ได้มีความกังวลอะไร 

ผู้สื่อข่าวถามว่าผู้สมัคร ส.ส. ที่จะมาลงแทนนั้น มีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ขอยังไม่พูดถึงในตอนนี้ และให้เป็นหน้าที่ของรองหัวหน้าพรรคภาคใต้ ซึ่งจะเป็นผู้ไปดำเนินการมา แต่ตามที่ได้รับแจ้ง ก็มีผู้เสนอตัวมาแล้วหลายคน ขอให้เป็นเรื่องภายใน เมื่อถึงเวลาพรรคจะได้พิจารณาตัดสินใจ ไม่มีอะไรยาก และจะเป็นคนที่พรรคจะต้องพิจารณาในเรื่องอุดมการณ์

“ผมก็มั่นใจสำหรับคนใหม่ที่จะมีอุดมการณ์ประชาธิปัตย์เต็มร้อย เหมือนท่านชวน หลีกภัย ท่านบัญญัติ เหมือนผม ที่เป็นผู้แทนมา 11 สมัย ไม่เคยเปลี่ยนพรรค ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ เพราะฉะนั้นผมมั่นใจว่าคนใหม่ที่จะเข้ามา สามารถที่จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดให้กับพี่น้องชาวนครศรีธรรมราชได้อีกคนหนึ่ง” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว 

พร้อมกับตอบคำถามสื่อมวลชน ที่ถามว่าการที่ผู้สมัครย้ายพรรคในช่วงนี้ จะส่งผลกระทบต่อจำนวน ส.ส.เป้าหมายของพรรคหรือไม่นั้นว่า อาจจะมีนิดหน่อย แต่ไม่กระทบในภาพรวม เพราะมีคนใหม่ที่เดินเข้ามาเป็นจำนวนมาก และมีโอกาสที่จะได้รับเลือกตั้งด้วย เพราะฉะนั้นภาพรวมเที่ยวหน้า พรรคก็ยังมั่นใจ ทั้งตนและเลขาธิการพรรค กรรมการบริหารพรรค ทุกคนคิดตรงกันว่าเราต้องได้มากกว่าเดิมแน่นอน ส่วนเกิดประเด็นปัญหาในเขตไหนอย่างไรนั้น ก็ต้องแก้ปัญหากันไป และการย้ายพรรค มันก็มีทุกพรรค เหมือนที่ตนเคยทายไว้ว่า พอใกล้เลือกตั้งไม่มีพรรคไหนหรอกที่ไม่มีคนเข้าคนออก ประชาธิปัตย์ก็เหมือนกัน 

“สิ่งหนึ่งที่มีคนถามผมเหมือนกันว่า ประชาธิปัตย์ อยู่มาได้ 76 ปี ในอดีตมีทั้งคนเข้าก็เยอะ คนเดินออกก็มี แต่ทำไมถึงอยู่ยั้งยืนยงมาได้ ผมก็เคยตอบไปว่าที่ประชาธิปัตย์อยู่ยั้งยืนยงมาได้ 76 ปี และจะก้าวต่อไปนั้น ก็เพราะว่าประชาธิปัตย์ยังมีแก่น ที่หลุดร่วงไปบ้างก็เป็นเรื่องปกติ อาจจะเป็นเปลือก เป็นใบ ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องมีหลุดร่วงออกไปบ้าง แต่ว่าต้น รากแก้วของความเป็นประชาธิปัตย์ ของอุดมการณ์ และจิตวิญญาณของการรับใช้ประชาชนที่ตั้งใจเดินหน้าให้ประชาธิปัตย์เป็นสถาบันทางการเมืองยังอยู่ เพราะฉะนั้น ต้นไม้ประชาธิปัตย์จึงยังสามารถแผ่กิ่งก้านสาขา ผลิดอกออกใบมาได้ตลอดระยะเวลา 76 ปี เพื่อรับใช้ประชาชน” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว

และเพิ่มเติมอีกด้วยว่า นี่คือประสบการณ์ที่เราได้ประสบมา แล้วก็ไม่ได้หวั่นไหว ทุกคนจึงพร้อมกันเดินหน้าต่อไป ทุกคนยังเหนียวแน่นอยู่กับพรรค ตัวเลขสมาชิกพรรควันนี้ ประชาธิปัตย์ยังมีสมาชิกมากที่สุดที่เป็นทางการเป็นลำดับ 1 ของประเทศ 1 แสน 1 หมื่นคน และช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ก็มีสมาชิกใหม่เข้ามาถึง 4 หมื่นกว่าคน ในช่วง 3 ปี เพราะฉะนั้นมันไม่ได้มีปัญหาอะไร เราก็ผนึกกำลังคนที่ยังเป็นแก่น เป็นต้น เป็นรากแก้วของประชาธิปัตย์ขับเคลื่อนต่อไป ผมยังมั่นใจว่าประชาชนเข้าใจเรา แล้วก็พร้อมที่จะเดินเคียงข้างไปกับเรา 

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคจำเป็นต้องกลับไปทบทวนหาสาเหตุของปัญหาก่อนหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า อย่างน้อยต้องไปถามคนเป็นเบื้องต้นก่อน คนจะต้องเป็นคนตอบคำถามว่า เพราะอะไร ทำไม หลายคนพรรคก็ให้ทุกอย่างเท่าที่พรรคจะให้ได้ อย่างน้อยก็โอกาส สถานภาพในการทำหน้าที่ การให้จิตวิญญาณให้อนาคตในการรับใช้ประชาชน เราก็ให้เต็มที่ทุกคน และประชาธิปัตย์ก็ให้ความสำคัญกับทุกคน แต่ว่าแต่ละคนอาจจะต่างจิตต่างใจ ก็ต้องให้คนเป็นคนตอบเสียก่อนว่า เพราะเหตุอะไรอย่างไร หรือถ้าจะไม่ตอบ ก็คือไม่ตอบ แต่พรรคก็เข้าใจดี ในสถานการณ์อย่างนี้ พอจะเลือกตั้งมันมีทั้งคนเข้า คนออกเสมอ ทุกพรรคการเมือง บางครั้งบางพื้นที่เราส่งผู้สมัครได้คนเดียวในนามพรรค แต่มี 2-3 คนที่พรรคตัดสินใจว่าไม่สามารถส่งเขาได้ ถ้าเขาจะเป็นผู้แทน หรือเขาจะลงสมัคร ก็ต้องย้ายพรรค เราก็เข้าใจได้ หรือว่าเงื่อนไขอื่นๆ เช่น ขอ 1-2-3-4-5 แล้วเราไม่สามารถสนองตอบให้ได้ เพราะประชาธิปัตย์ก็ต้องคำนึงถึงภาพรวมของพรรค บางทีมันก็อาจจะทำให้ต้องเปลี่ยนพรรคไป ตนก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร พรรคก็ต้องเดินหน้าต่อไปอย่างหนักแน่น มั่นคง 

คนกรุงฯ เอือมระอา ม็อบ 3 นิ้วป่วนเมือง หลัง ‘ดำน้ำ-ชูป้าย’ หน้าศูนย์ฯ สิริกิติ์

เชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศรับรู้อยู่แล้วว่า ปีนี้ ‘ประเทศไทย’ ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม APEC 2022 ซึ่งการได้รับโอกาสในการเป็นภาพในครั้งนี้ นับว่าเป็นเกียรติต่อประเทศชาติ และสะท้อนถึงความไว้เนื้อเชื่อใจจากชาติสมาชิกอย่างยิ่ง 

ดังนั้นคนไทยทั้งประเทศควรที่จะช่วยกันสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อประเทศ และช่วยกันเป็นเจ้าบ้านที่ดีเพื่อต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง

ทว่า ‘คนไทย’ บางกลุ่ม คงไม่อยากร่วมมือกับรัฐบาลในครั้งนี้เท่าไหร่ เพราะล่าสุดก็มีการออกมาจัดกิจกรรมเล็กๆ (แต่ส่งผลต่อภาพลักษณ์อย่างยิ่ง) ที่หน้าศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยได้มีการลงไปดำน้ำและชูป้ายข้อความระบุว่า To Climale Polluters : PAY UP FOR LOSS & DAMAGE, APEC, STOP GREENWASHING และ เอเปค หยุด! ฟอกเขียว

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ประชาชนจำนวนมากออกมาวิพากย์วิจารณ์การกระทำของคนกลุ่มนี้ โดยหนึ่งในนั้นคือช่องยูทูบ ‘มอเตอร์ไซค์ อินดี้’ ที่ก็ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอความยาว 4.34 ใช้ชื่อคลิปว่า ‘สามนิ้วป่วนดำน้ำประท้วงหน้าศูนย์ศิริกิติ์แล้ว ระวังถ้าแก้ผ้าประท้วงจะอ้วกแตกทั้งโลก’ ซึ่งเนื้อหาในคลิปคือการตำหนิกลุ่มคนที่กำลังพยายามทำลายภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศในช่วงประชุมเอเปก 2022 ว่า…

‘ฟิล์ม รัฐภูมิ’ ลาออกจากพรรคไทยสร้างไทย ก่อนเดินตาม ‘ชัยวุฒิ’ ลงพื้นที่-ประชุมต่างประเทศ

(12 พ.ย. 65) เมื่อวานนี้ (11 พ.ย. 65) เพจเฟซบุ๊ก ‘The Structure’ ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับกรณีที่อดีตนักแสดง ‘รัฐภูมิ โตคงทรัพย์’ ซึ่งผันตัวมาเดินเส้นทางสายการเมืองที่ได้ลาออกจากพรรคไทยสร้างไทย และต่อได้ร่วมกิจกรรมทางการเมืองกับ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ไว้ว่า…

วันที่ 11 พฤจิกายน 2565 รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แจ้งว่า นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ ฟิล์ม นักแสดงและศิลปินชื่อดัง ได้แจ้งต่อ กกต. ขอลาออกจากสมาชิกพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) ตั้งแต่เมื่อวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา แต่ไม่ได้แจ้งให้พรรคทราบอย่างเป็นทางการ โดยสำนักงาน กกต. เพิ่งมีหนังสือแจ้งพรรคไทยสร้างไทย ให้ทราบเมื่อ 10 พ.ย. ที่ผ่านมา 

'ดร.นิว' ชี้!! เผด็จการเท่านั้นที่คิดป่วนเอเปก อัด!! ชัชชาติไม่รู้กาลเทศะเอาใจม็อบ 3 นิ้ว

(12 พ.ย. 65) ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ ดร.นิว นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเรื่อง ‘เผด็จการเท่านั้นที่คิดป่วน #APEC2022’ โดยมีเนื้อหาดังนี้

การประชุม APEC 2022 นับได้ว่าเป็นอีกเหตุการณ์สำคัญที่ควรต้องวางความขัดแย้งทางการเมืองลงเสียชั่วคราว แล้วควรหันมาร่วมใจกันสามัคคีในฐานะของเจ้าภาพที่ดี เพราะการประชุม APEC 2022 ไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง หากแต่เป็นเรื่องของประชาชนคนไทยทุกคน อีกทั้งเป็นโอกาสและผลประโยชน์ของปวงชนชาวไทยทั้งประเทศ

เนื่องด้วยการประชุม APEC 2022 เป็นการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจระดับนานาชาติในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก อีกทั้งสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในการโปรโมตการท่องเที่ยว อันจะนำไปสู่การขับเคลื่อนและฟื้นฟูเศรษฐกิจในยุคหลังวิกฤตโควิดได้เป็นอย่างดี การที่ประเทศไทยของเราได้เป็นเจ้าภาพในครั้งนี้ จึงเป็นความหวังของประชาชนทุกหมู่เหล่า

แต่คนส่วนน้อยกลุ่มหนึ่งซึ่งมีพรรคการเมืองบางพรรคคอยหนุนหลังมาโดยตลอด นับตั้งแต่ลงมือกระทำผิดกฎหมายตลอดจนช่วยเหลือประกันตัว กลับมีการวางแผนก่อการชุมนุมสร้างความปั่นป่วน จ้องบ่อนทำลายภาพลักษณ์ของประเทศชาติและผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ไม่ต่างจากเผด็จการ แถมยังเป็นเผด็จการยิ่งกว่าเผด็จการเสียด้วยซ้ำ

แม้แต่คุณชัชชาติเองก็ทำตัวน่าผิดหวังอย่างมาก เพราะไม่รู้จักกาละเทศะ จะปล่อยให้มีการชุมนุมที่ลานคนเมืองในห้วงของการประชุม แสดงให้เห็นว่าคุณชัชชาติไม่ได้เข้าใจหลักการของประชาธิปไตยอย่างถ่องแท้ คำนึงถึงแต่ผลประโยชน์ของคนส่วนน้อยที่จ้องแต่จะสร้างความปั่นป่วนมากกว่าคำนึงถึงผลประโยชน์ของปวงชนชาวไทยทั้งประเทศ

‘บิ๊กตู่’ มั่นใจ ประชุมเอเปก 2022 จะสร้างประโยชน์ให้กับประเทศหลายด้าน วอนทุกคนช่วยกันต้อนรับแขกผู้มีเกียรติสู่ประเทศ

วันที่ 12 พ.ย. 65 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Prayut Chan-o-cha ระบุว่า…

เรียน พี่น้องประชาชนที่รักทุกท่าน

ในช่วงสัปดาห์ข้างหน้านี้ จะมีผู้นำและผู้แทนจากทั่วทั้งเอเชียแปซิฟิกและประเทศอื่นๆ เดินทางมาประเทศไทยเพื่อเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก 2565 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง นับเป็นช่วงเวลาสำคัญของประเทศไทยที่ทั่วโลกจะมองมาที่เราในฐานะเป็นหนึ่งในเขตเศรษฐกิจที่มีบทบาทนำในการร่วมกำหนดนโยบายและบรรทัดฐานทางเศรษฐกิจของภูมิภาคและของโลก

เป็นสิ่งที่ประชาชนคนไทยทุกคนสามารถร่วมภาคภูมิใจได้ว่า ประเทศไทยของเราได้เดินหน้า และได้รับการยอมรับในด้านต่างๆ ในระดับโลก ทั้งเรื่องการเป็นหนึ่งในประเทศที่บริหารจัดการสถานการณ์โควิดได้ดีที่สุดในโลก และล่าสุด เมื่อวานนี้ ประเทศไทยได้รับการยอมรับจากองค์กรจัดอันดับความน่าเชี่อถือชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น (Japan Credit Rating Agency) ปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยขึ้นเป็นระดับ A ซึ่งรวมถึงปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้สกุลเงินบาท ขึ้นเป็นระดับ A+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทยอยู่ในระดับมีเสถียรภาพ 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top