Sunday, 18 May 2025
POLITICS

‘จุรินทร์’ กราบเท้าลาพ่อ ที่จากไปเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนนำร่างกลับพังงา พระราชทานเพลิง 10 พ.ค.

จุรินทร์ กราบเท้าพ่อ ครั้งสุดท้าย ที่รพ.ศิริราช ด้วยความอาลัยยิ่ง ก่อนนำร่างกลับไปที่ จ.พังงา สวด 7 วัน พระราชทานเพลิงศพ 10 พ.ค.นี้

(1 พ.ค.66) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เดินทางมารับร่างของคุณพ่อวีระ ลักษณวิศิษฏ์ ที่โรงพยาบาลศิริราช โดยเมื่อเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลได้นำร่างคุณพ่อวีระออกมา นายจุรินทร์ได้เข้าไปกราบลาที่เท้าร่างคุณพ่อเป็นครั้งสุดท้ายอยู่นานด้วยความอาลัยรักยิ่ง ก่อนที่จะได้นำร่างขึ้นรถเพื่อเดินทางไปบำเพ็ญกุศลที่อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา

โดยมีนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค นายเกียรติ สิทธีอมร นายอภิชาต ศักดิเศรษฐ์ คณะกรรมการบริหารพรรค ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ และคณะข้าราชการได้เดินทางมาร่วมด้วย

ทั้งนี้กำหนดการพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ นายวีระ ลักษณวิศิษฏ์ จะมีขึ้นในวันอังคารที่ 2 พ.ค. และมีพิธีสวดพระอภิธรรม 7 วัน (3-9 พ.ค.) (งดวันที่ 4 พ.ค.) ที่บ้านเลขที่ 3/1 หมู่ 5 บ้านท่าซอ ตำบลท้ายเหมือง อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา และในวันที่ 10 พ.ค. จะมีพิธีพระราชเพลิงศพ ณ เมรุ วัดเหมืองประชารวม ต.ท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ต่อไป


ที่มา : https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_7640359

'ศิลัมพา' เดือด 'พิธา' บอกให้ใช้เรือประมงรบแทนเรือดำน้ำ สวน!! เครื่องดับเพลิงมีติดบ้านไว้ ก็ไม่ได้แปลว่าอยากให้ไฟไหม้

'ศิลัมพา' งง 'พิธา' บอกให้ใช้เรือประมงรบแทนเรือดำน้ำ แนะหาข้อมูลก่อนพูดเรื่อยเปื่อย กางข้อมูลอาเซียนหลายประเทศก็มีเรือดำน้ำ ฟาดเจ็บนักการเมืองต้องทำให้กองทัพของชาติเข้มแข็งมิใช่ด้อยค่าหรือทำให้อ่อนแอลง

(1 พ.ค.66) จากกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการข่าวชื่อดัง โดยระบุถึงแนวคิดเรื่องเกี่ยวกับความมั่นคง เชื่อมโยงการตัดงบประมาณของกองทัพ โดยระบุว่า...

"เดี๋ยวนี้กองทัพเรือเวลาเขารุกกัน เขาไม่ใช้เรือดำน้ำ เขาใช้เรือประมง ให้คุณไปดูเวียดนาม คือ มันมีการสร้างความวิตกจริต มีการซ้อมรบกัน แต่มันไม่เคยเกิดขึ้นจริง” ซึ่งการแสดงความเห็นดังกล่าว ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ และถูกส่งต่อกันไปอย่างกว้างขวาง

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นางสาวศิลัมพา เลิศนุวัฒน์ ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 24 กทม. พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า...

"ตนได้เห็นคลิปวีดีโอดังกล่าวเผยแพร่ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียแล้วรู้สึกตกใจมาก ที่คนระดับขันอาสามาเป็นนายกรัฐมนตรี แต่กลับรู้เรื่องความมั่นคงในประเทศต่ำถึงเพียงนี้ เพราะในปัจจุบันกลุ่มประเทศอาเซียน โดยเฉพาะเพื่อนบ้านใกล้ชิดไทย ต่างก็มีเรือดำน้ำเข้าประจำการในกองทัพแทบทั้งสิ้น อาทิ มาเลเซียมี 2 ลำ พม่า 2 ลำ และกำลังต่อเพิ่มอีกหนึ่ง สิงคโปร์มีประจำการแล้ว 4 ลำ อินโดนีเซีย 5 ลำ ส่วนประเทศเวียดนาม ที่คุณพิธากล่าวว่าเขาใช้เรือประมงรบกันนั้น มีเรือดำน้ำเข้าประจำการถึง 6 ลำ" นางสาวศิลัมพากล่าว และว่า

"จากคำให้สัมภาษณ์ดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงว่า หนึ่ง นายพิธาไร้ความเข้าใจความมั่นคงของชาติอย่างสิ้นเชิง เรื่องมีเรือดำน้ำเข้าประจำการในกองทัพ ก็เหมือนเราซื้อเครื่องดับเพลิงมาติดไว้ที่บ้าน ซึ่งมิได้แปลว่าเราอยากให้ไฟไหม้ แต่ก็ต้องเตรียมความพร้อมก่อนเหตุจะมาถึง 

'วิโรจน์' รับ!! ด้วยความจำกัดของเวลา ทำให้พูดจาตกหล่น หลังลั่นใส่ 'ชัยวุฒิ' กลางเวทีดีเบต "กทม.เป็นการปกครองพิเศษ"

หลังจากเมื่อวันที่ 28 เม.ย.66 ในรายการไทยรัฐดีเบต เลือกตั้ง’66 #เริ่มใหม่ไทยแลนด์ กับไทยรัฐ ที่ จ.เชียงใหม่ ได้มีการปะทะคารมกันช่วงหนึ่งระหว่าง นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กับ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ความว่า...

“พอดีคุณวิโรจน์ไม่เข้าใจเพราะไม่ได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งผู้ว่าฯ กทม. เป็นการปกครองส่วนท้องถิ่น ไม่ใช่การปกครองส่วนภูมิภาค ศักดิ์ศรีเหมือนนายก อบจ. เลือกมาเพื่อบริหารท้องถิ่น ที่เราพูดถึงคือการบริหารราชการระบบส่วนภูมิภาค ที่เคสเขาไม่เข้าใจเพราะเขาไม่เป็นผู้ว่าฯ กทม.ไง สอบไม่ผ่าน เข้าใจไหม คนละแบบ”

จากนั้น นายวิโรจน์ ขอกล่าวใช้สิทธิพาดพิงว่า “คุณชัยวุฒิพูดอีกแล้วว่ากรุงเทพมหานครเป็นท้องถิ่น นี่คือความไม่เข้าใจ กรุงเทพมหานครเป็นรูปแบบการปกครองพิเศษ คือคนละเรื่องนะ คุณไปดูดีๆ มิน่าถึงไม่ได้รับการคัดเลือกให้มาลงผู้ว่าฯ แข่งกับผมไง ผมจะได้ลงแข่งเนี่ย ขอโทษนะคุณไปอ่านหนังสือ กรุงเทพมหานครเป็นรูปแบบการปกครองพิเศษ เอางี้นะ แล้วถามว่าจะยังไง 1.ไม่มีใครตกงาน เพราะข้าราชการส่วนภูมิภาคจะถูกถ่ายโอนมายังท้องถิ่น และจะมีปลัดจังหวัดอย่างที่คุณศิธาพูด ปลัดจังหวัดก็จะทำหน้าที่ประสานงานกับราชการส่วนกลางได้ เคลียร์กันตรงนี้นะ ลูกๆ หลานๆ ที่ดูทีวี กรุงเทพมหานครไม่ใช้ท้องถิ่น เป็นรูปแบบการปกครองพิเศษ อย่าไปเชื่อคนกินไข่ต้ม 1 ซีกกับข้าวคลุกน้ำปลานะ”

ล่าสุด (1 พ.ค.66) นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์แก้ต่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยระบุว่า...

"มาดูคลิปย้อนหลังแล้ว ด้วยความจำกัดของเวลา ทำให้ผมพูดตกไป จึงขอแก้ให้ครบถ้วนถูกต้องนะครับ 

"กทม. เป็น 'การปกครองท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ' ไม่ใช่ 'การปกครองท้องถิ่นรูปแบบทั่วไป' ครับ

"จึงขอแก้ไขเพิ่มเติมให้ถูกต้องครับ"

อดีตลูกจ้างพรรคสีส้ม แฉ!!! ได้เงินเดือน 14,000 ถูกอ้างให้ได้แค่นี้ หมดศรัทธา!! ชอบพูดถึง 'คนรุ่นใหม่-เท่าเทียม' แต่เรื่องแค่นี้ยังเอาเปรียบ

กลายเป็นประเด็นดรามาต้อนรับวันแรงงาน 2566 หลังจากจาก เพจ 'Salary Investor' ซึ่งโพสต์ถามเรื่องเงินเดือนว่า “ไม่ต้องบอกอายุตัวเอง แต่ให้บอก เงินเดือน เดือนแรกในชีวิต” และก็มีหลายคนเข้ามาตอบคำถามกันมากมาย...

ทว่า เรื่องนี้ได้กลายเป็นประเด็นโดยมีพรรคการเมืองคะแนนนิยมพุ่งแรงในตอนนี้เข้ามาเกี่ยวด้วยแบบเต็มๆ หลังจากมีอยู่ข้อความหนึ่ง สะดุดตาขึ้นมาว่า...“14,000 ครับ พรรคส้มให้ผมได้แค่นี้” ทำให้มีคนสงสัยว่าเหตุการณ์นี้เป็นอย่างไร แล้วพรรคส้มไปเอี่ยวอะไร?...

เมื่อมีการสอบถามไปยังนาย A (นามสมมติ) เจ้าของข้อความดังกล่าว ก็ได้รับคำตอบว่า ตนไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการเข้าไปทำงานกับทางพรรคสีส้ม โดยการเขียนหัวสัญญา เป็นการจ้างทำ 'ของ' ซึ่งตนไม่ค่อยรู้เรื่องจึงเซ็นสัญญาไป ไม่มีการจ่ายประกันสังคม และประกันชีวิตกลุ่มก็ไม่มีให้ ในขณะที่ลูกจ้างคนอื่นมี เวลาป่วยตนต้องออกค่ารักษาพยาบาลเอง

สิ่งที่ทำให้เกิด 'จุดแตกหัก' คือ หลังจากตนเข้ามาทำงาน มีพนักงานเข้าใหม่ ทำหน้าที่เดียวกันกับตน แต่กลับได้สิทธิประโยชน์ทุกอย่างเหมือนพนักงานคนอื่นๆ มีทั้งประกันสังคม ประกันชีวิตกลุ่ม ตนจึงเกิดความสงสัยว่า...ทำไม!?! พนักงานคนอื่นได้แล้วตนทำไมไม่ได้ ในเมื่อหน้าที่การทำงานก็ทำเหมือนกัน 

ในส่วนของเรื่องชั่วโมงการทำงาน ไม่ค่อยมีปัญหาเพราะก็ทำเหมือนกับพนักงานคนอื่นๆ แต่อัตราค่าจ้างตอนตกลงกันครั้งแรกไม่ใช่อัตรานี้ ซึ่งฝ่ายบุคคลของพรรคสีส้มให้เหตุผลว่า “ขอดูโปรเดือนเดียว” แต่เมื่อถึงเวลาจริงกลับกลายเป็นคนละเรื่องกับที่ตกลงกัน เพราะกลับกลายเป็นสัญญาจ้างทำของแทน แถมใช้วิธีต่อสัญญาใหม่ทุกเดือนด้วย

แน่นอนว่า ถ้าทำอย่างนี้ตนย่อมเสียหาย เพราะถ้าเกิดองค์กรไม่พอใจอะไร สามารถยกเลิกสัญญาได้ทันที และนั่นก็ทำให้ตนรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม

'จุติ' รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ยอมรับ 'ผิดหวัง' หลังนักธุรกิจใช้เวทีนางงามเป็นเครื่องมือทางการเมือง

(30 เม.ย.66) จากกรณีเวทีประกวด ของ นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล เจ้าของเวทีมิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2023 ที่มีการใช้คำถามเชิงการเมืองให้ผู้สมัครเข้าแสดงทรรศนะในคืนที่ผ่านมานั้น

ผู้สื่อข่าวสอบถามความคิดเห็นไปยังพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยนายจุติ ไกรฤกษ์ รองหัวหน้าพรรคได้แสดงความเห็นว่า "รู้สึกผิดหวังอย่างแรง" และประหลาดใจที่ไม่เคยเห็นการประกวดนางงามไหนๆ ที่จะแสดงตัวตนในการเลือกข้างทางการเมืองอย่างชัดเจนเช่นครั้งนี้

คำถามที่พุ่งตรงต่อ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ย่อมมีคำตอบที่ผู้เข้าประกวดต้องการเอาใจผู้จัด จึงเป็นคำตอบด้านเดียว ขาดข้อมูลที่สำคัญอีกด้านอย่างชัดเจน 

‘ดร.หิมาลัย’ เบิกเนตร ‘กษัตริย์ไทย’ สละเลือดป้องแผ่นดินแต่ครั้งอดีต ซัดพวกบิดเบือนควรศึกษาประวัติศาสตร์ ก่อนพล่ามทำแตกแยก

จากกรณีที่มีนักการเมืองหญิงท่านหนึ่ง ได้เกิดการโต้เถียงกับชาวบ้าน เรื่องมาตรา 112 พร้อมระบุว่า พระมหากษัตริย์ไม่เคยออกรบเสียชีวิต มีแต่ไพร่ที่ตายในสนามรบ 

ต่อเรื่องดังกล่าว ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะที่อดีตเคยเป็นทหาร รู้สึกไม่สบายใจและไม่เห็นด้วยกับความเห็นของนักการเมืองคนดังกล่าว โดยให้ความเห็นว่า การที่มีนักการเมืองคนนั้น พยายามสร้างความแตกแยกทางความคิด ด้วยการแยกเจ้าแยกไพร่ เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เพราะแท้จริงแล้ว ในประวัติศาสตร์ก็ได้บันทึกไว้ ว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ คือ ศูนย์รวมจิตใจของประชาชนคนไทยมาแต่ครั้งอดีต

ในอดีตครั้งโบราณนั้น พระมหากษัตริย์ไทยแทบทุกพระองค์ ต่างเป็นผู้นำทัพ ในการพาประชาชนออกปกป้องบ้านเมือง เป็นศูนย์รวมจิตใจของกองทัพ รวมทั้งทรงออกรบ เคียงบ่าเคียงไหล่ร่วมกับไพร่ฟ้าประชาชนด้วยพระองค์เองในยามศึกสงครามมิได้ขาด

แม้แต่ประเทศในยุโรป ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ หรือฝรั่งเศส ที่นักการเมืองคนดังกล่าวยกย่องนักหนา ก็มีพระมหากษัตริย์ เป็นผู้นำ มีเจ้ามีไพร่เช่นเดียวกัน โดยพระมหากษัตริย์ของทุกประเทศ เป็นชนชั้นปกครอง นั่นหมายถึง การปกครองทรัพย์สิน บ้านเมือง และชีวิตประชาชน ให้มีความปลอดภัย อยู่ดีกินดี อีกทั้งสถาบันพระมหากษัตริย์และประชาชนล้วนต้องพึ่งพาอาศัยกัน เพื่อให้ประเทศอยู่ได้ หากไม่มีกษัตริย์เป็นผู้นำออกรบ ประชาชนก็จะถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลย และหากไม่มีประชาชนร่วมปกป้อง ประเทศและสถาบันพระมหากษัตริย์ก็ไม่สามารถดำรงอยู่ได้เช่นกัน 

ดร.หิมาลัย กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องที่นักการเมืองพยายามด้อยค่าสถาบันพระมหากษัตริย์ว่า ไม่เคยทำอะไรให้บ้านเมือง มีแต่ไพร่ที่ออกรบและตายแทนในสนามรบ และยังบอกด้วยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งเป็นกษัตริย์นักรบของไทย ที่ช่วยกอบกู้เอกราชจากพม่า ก็ไม่ได้สวรรคตในสนามรบนั้น ตนไม่แน่ใจว่า คนที่พูดไม่เคยศึกษาประวัติศาสตร์หรือรู้และเข้าใจดี แต่พยายามพูดบิดเบือนสร้างเรื่องแบ่งแยกชนชั้น เพื่อสร้างความแตกแยกกันแน่ เพราะตามประวัติศาสตร์ที่บันทึกไว้ ระบุว่า สมเด็จพระนเรศวร เสด็จสวรรคตในกระโจมหลวงหน้าเมืองตองอู ระหว่างที่พระองค์ทรงกรีฑาทัพไปทำศึกสงคราม 

ดังนั้น การที่นักการเมืองคนดังกล่าว ได้แสดงความเห็นออกมานั้น เป็นการพูดแบบไม่สนใจหลักฐานทางประวัติศาสตร์เลย 

ในประวัติศาสตร์ ยังพบว่า มีกษัตริย์ที่เสียชีวิตจากการออกรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับทหาร เช่น สมเด็จพระศรีสุริโยทัยอัครมเหสีในสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ ที่สวรรคตจากการทำยุทธหัตถี (การสู้รบบนหลังช้าง) กับแม่ทัพพม่า ในงานราชการศึกป้องกันประเทศร่วมกับสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ จนสิ้นพระชนม์บนหลังช้าง 

นอกจากนี้ ยังมีวีรสตรี อีกหลายท่าน เช่น ท้าวสุรนารี (ย่าโม) ภรรยาพระยาสุริยเดช เจ้าเมืองนครราชสีมา ท้าวเทพกษัตรีท้าวศรีสุนทร ซึ่งแต่ละท่านต่างใช้เลือดเนื้อและชีวิต เพื่อปกป้องประเทศชาติร่วมกับทหารและประชาชนของพระองค์ ไม่มีแยกเจ้าไพร่นายบ่าว การด้อยค่าวีรบุรุษของชาติเพื่อชัยชนะทางการเมืองเป็นเรื่องไม่สมควรยิ่ง

ดร.หิมาลัย กล่าวด้วยว่า หากนักการเมืองคนนั้นไม่มีเวลาศึกษาประวัติศาสตร์ ตนอยากแนะนำให้ไปที่อุทยานราชภักดิ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระมหากษัตริย์ไทยในอดีต 7 พระองค์ ที่ทรงมีพระคุณอันยิ่งใหญ่ต่อประชาชนมาอย่างยาวนาน ประกอบด้วย...

‘ก้าวไกล’ ตอบชัดไม่เคยสั่งทีมงานดิสเครดิตพรรคใด เชื่อ!! กระแสดีเพราะดีเบต มั่นใจเป็นรัฐบาลแน่นอน

(29 เม.ย.66) จากเหตุการณ์ ที่พรรคเพื่อไทยมีการปล่อยภาพในโซเชียลกรณีที่ทีมงานของพรรคก้าวไกลไปชูป้ายดิสเครดิต ส.ส.พรรคเพื่อไทยนั้น ด้าน นายปารเมศ วิทยารักษ์สรรค์  ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 1 (ป้อมปราบศัตรูพ่าย พระนคร สัมพันธวงศ์) พรรคก้าวไกล ได้ชี้แจงว่า พรรคก้าวไกลเป็นพรรคที่เปิดรับอาสาสมัครที่ต้องการเข้ามาช่วยงาน มาเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ ซึ่งมีผู้มาสมัครเป็นอาสาจำนวนมาก และในการตรวจสอบประวัติอาสาสมัครทางพรรคไม่ได้ลงรายละเอียดมากนัก เพราะทุกคนที่มาเป็นอาสาไม่ได้รับค่าจ้างแต่อย่างใด 

ทางพรรคจึงขอยืนยันอีกครั้งว่า พรรคไม่มีการไปสั่งให้อาสาคนไหนไปดิสเครดิตพรรคอื่นอย่างแน่นอน พรรคก้าวไกลไม่มีการโจมตีสาดโคลนพรรคอื่นแต่อย่างใด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นพรรคไม่สามารถควบคุมหรือสั่งอาสาได้ว่า  สามารถทำอะไรได้หรือไม่ได้ ทางพรรคเพียงแต่ดูการทำงานของอาสาแต่ละท่าน ในกรณีที่มีเรื่องที่เป็นผลลบเราก็จะมีการสอบถามเหตุผล ที่ไปที่มาว่าเป็นอย่างไร ดังนั้นทางพรรคขอยืนยันอีกครั้งว่าพรรคไม่มีการสั่งผู้ช่วยหรืออาสาท่านใดให้ไปดิสเครดิตพรรคใดเลย 

ส่วนมาตรการในการดำเนินการเรื่องที่อาสาไปชูป้ายนั้น ทางพรรคได้มีการสอบถามไปทางคุณหมิว และได้ทราบว่าอาสาท่านนี้ไม่ได้มาช่วยงานทางพรรคแล้ว แต่บางเรื่องอย่างเช่นการแสดงออกของแต่ละบุคคลนั้นก็เป็นสิทธิของบุคคลนั้นๆ ในการแสดงออก ทางพรรคขอเรียนว่าพรรคก้าวไกลไม่สนับสนุนให้ทางอาสา ผู้สมัคร ทีมงานของพรรคทำผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นทางมารยาท ทางกฎหมาย พรรคต้องการเห็นการเมืองที่สร้างสรรค์ ไม่ส่งเสริม ยุยง การทำการเมืองแบบสาดโคลน หรือไปดิสเครดิตพรรคอื่นๆ พรรคยังยืนหยัดในการพัฒนาเพื่อประชาชนเป็นหลัก

นายปารเมศ กล่าวต่อว่า จากกระแสโพลในตอนนี้ทำให้พรรคมีกำลังใจที่ดีขึ้น เพราะผู้สมัครทุกคนทำงานหนักอย่างต่อเนื่องเพื่อต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง ทางพรรครู้ดีว่าศึกการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ง่ายอย่างที่คิด แม้กระแสจะดีแค่ไหนแต่ยังมีปัจจัยอีกหลายประการที่ไม่สามารถควบคุมได้ แต่อย่างไรก็ตามต้องขอบคุณประชาชนที่ให้ความไว้วางใจพรรคก้าวไกล 

“นายกประยุทธ์ ทำงานมาตั้ง 8 ปี ถ้าคนตาถั่วหรืออคติ ก็ไม่เห็นความจริง และคนหน้ามืดตาบอด พูดไปก็ไม่รู้เรื่องหรอก มืดอยู่อย่างงั้นแหละ”

คำกล่าวส่วนหนึ่งจากคลิปวิดีโอ โดย พ่อครูสมณะโพธิรักษ์ ผ่านเพจบุญนิยมทีวี เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2566 

เมื่อ 'วิโรจน์' อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ ขิง 'ชัยวุฒิ' บอก 'กทม.' ไม่ใช่ 'ท้องถิ่น' แต่เป็นการปกครองพิเศษ

เมื่อวันที่ 28 เม.ย.66 ไทยรัฐดีเบต เลือกตั้ง’66 #เริ่มใหม่ไทยแลนด์ กับไทยรัฐ ได้เริ่มขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ดำเนินรายการโดย จอมขวัญ หลาวเพ็ชร์ ซึ่งครั้งนี้จัดดีเบตประชันวิสัยทัศน์และนโยบายแบบสัญจรที่ จ.เชียงใหม่ ตัวแทนทั้ง 7 พรรคการเมืองประกอบด้วย...

1. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย
2. นายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
3. นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล
4. นายสามารถ แก้วมีชัย ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย
5. นายหิมาลัย ผิวพรรณ หรือ เสธ.หิ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ ประจำภาคเหนือ
6. นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
7. น.ต.ศิธา ทิวารี แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคไทยสร้างไทย

โดยไฮไลต์เด็ดของดีเบตหนนี้อยู่ที่ 'ชัยวุฒิ' กับ 'วิโรจน์' ซึ่งคุณชัยวุฒิ ได้กล่าวถึงคุณวิโรจน์เกี่ยวกับระบบการปกครองของไทย โดยเฉพาะกับกรุงเทพมหานคร ว่า...

“พอดีคุณวิโรจน์ไม่เข้าใจเพราะไม่ได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งผู้ว่าฯ กทม. เป็นการปกครองส่วนท้องถิ่น ไม่ใช่การปกครองส่วนภูมิภาค ศักดิ์ศรีเหมือนนายก อบจ. เลือกมาเพื่อบริหารท้องถิ่น ที่เราพูดถึงคือการบริหารราชการระบบส่วนภูมิภาค ที่เคสเขาไม่เข้าใจเพราะเขาไม่เป็นผู้ว่าฯ กทม.ไง สอบไม่ผ่าน เข้าใจไหม คนละแบบ”

‘ส.ว.สมชาย’ เชื่อ!! สังคมไม่ติดใจ ‘พิธาคิโอ’ พูดจริงหรือเท็จ แต่คาใจ ‘มีความซื่อสัตย์-จริยธรรม’ แค่ไหน? ถึงเสนอตัวนั่งนายกฯ

(29 เม.ย.66) นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ในหัวข้อ…

#ขึ้นเครื่องบินฟรี
#ลูกหลานใครหว่า ว่า...

สงสัยอยู่หลายวันว่าทำไม เด็กหนุ่มนักเรียกนอกบ้านรวย เรียนและจบปริญญาโท การเมืองการปกครอง สาขาการบริหารภาครัฐ ที่ John F. Kennedy School of Government มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ปริญญาโท การบริหารธุรกิจ Sloan สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ 

...จึงหาทางกลับเมืองไทยแบบเร่งด่วน ในวันที่พ่อเสียชีวิต กลับจากบอสตันไม่ได้ ต้องซื้อตั๋วบินจากบอสตันไปนิวยอร์ก แทนที่จะซื้อตั๋วจากบอสตันบินกลับไทยแบบเร่งด่วนในทันที

นักเรียนไทยที่เรียนที่บอสตันทุกคนเวลานั้น จนถึงวันนี้ล้วนรู้ดีว่า...

ถ้าจะบินไปกลับบอสตัน-กรุงเทพ เวลานั้นต้องบินอย่างไร? เพราะไม่มีไฟลท์ตรง ‘กทม. -บอสตัน’

มีคำถามค้างคาใจว่า ทำไมเขาจึงตัดสินใจทำเช่นนั้น ทั้งที่มีทางเลือกมากมาย อาทิ...

1.) สามารถซื้อตั๋วเครื่องบินได้หลายสายการบินเช่น KLM japanairline American Airline Lufthansa Singapore Airline ฯลฯ 
.
แม้ไม่ได้บินตรงถึง กทม.ทันที แต่ก็แวะพักแค่ 1 จุดเช่น โตเกียว, สิงคโปร์ ฮ่องกง หรือดูไบ เวลาบินรวมจุดแวะพัก 22-24 ชั่วโมง ก็ถึงไทยแล้ว

2.) บินจากบอสตันไปนิวยอร์ก เพื่อซื้อตั๋วการบินไทย  ซึ่งตอนนั้นมีบินตรงนิวยอร์ก-กรุงเทพ (แอร์บัส A340-500 บินตรง 16-17 ชั่วโมง รวมเวลาบินก็ 22-24 ชั่วโมงเช่นกัน) 

ตอนหลังเส้นทางนี้ถูกยกเลิกเพราะขาดทุน 25,000 ล้าน และเป็นจุดเริ่มทำให้การบินไทยล้มละลาย และเรื่องนี้ ปปช.ชี้มูลทุจริต 

3.) ไปนิวยอร์กเพื่อใช้อภิสิทธิ์ขึ้นเครื่องบินพิเศษของราชการ 'ไทยคู่ฟ้า' ที่ใช้ภารกิจนายกรัฐมนตรีเท่านั้น (บุคคลภายนอกขึ้นบินด้วยไม่ได้ เพราะมาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด) เพราะมีอาเป็นเลขาฯ ส่วนตัวทักษิณ ชื่อ 'ผดุง ลิ้มเจริญรัตน์' แต่เครื่องบินยังต้องเสียเวลาบินอ้อมไปส่งทักษิณที่ลี้ภัยการรัฐประหารไปอยู่ลอนดอนอีก ซึ่งจะต้องอนุญาตจากศูนย์การบินเปลี่ยนเส้นทางบินใหม่ทั้งหมด เสียเวลาบินรวมเกินกว่า 24-30 ชั่วโมง

‘เสี่ยเฮ้ง’ เดือด!! ซัด ‘ธนาธร’ หากรัฐฯ ‘นิ่งเฉยช่วงโควิด-ไร้แผนรับมือ’ ศก.ไทยมีแต่เจ๊งกับเจ๊ง โบนัสบริษัทต่างๆ พร้อมหลุดเป้า

เมื่อไม่นานมานี้ ผู้ใช้งานติ๊กต็อกชื่อ ‘Krutukta’ ได้โพสต์วิดีโอนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน และผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ขณะปราศรัยหาเสียง โดยช่วงหนึ่งของการปราศรัย นายสุชาติได้กล่างถึงเหตุการณ์ในช่วงที่โควิดระบาดหนัก โดยระบุว่า…

ช่วงที่เดลตาระบาดหนักๆ ผมนั่งประชุมอยู่ในคณะกรรมาการเรื่องแก้ปัญหาโควิดกับท่านนายกฯ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา พร้อมทีมแพทย์ ที่ปรึกษาหลายๆ ท่าน ทีมแพทย์ แนะนำให้ปิด-หยุดอยู่กับบ้านอีก 3 เดือน คล้ายๆ กับเดือนเมษายน ปี 2563 ผมทราบบรรยากาศ ทราบอาการท่านนายกฯ ในวันนั้นว่า ถ้าปิดแบบนี้ ประเทศเจ๊งแน่นอน เพราะอะไรรู้ไหมครับ? เพราะออเดอร์ต่างๆ ที่บริษัทส่งออกรับออเดอร์ไว้ คู่ค้าต่างประเทศเขารออยู่ ถ้าเราปิด ก็จะรับออเดอร์ไม่ได้ ลูกค้าก็ต้องไปสั่งที่ประเทศอื่น และหลังจากโควิดหาย บริษัทเหล่านี้จะเอาออเดอร์ที่ไหน ส่งผลกระทบกับผู้ใช้แรงงานแน่นอน 

ในที่ประชุม ผมถามคุณหมอว่ากลัวอะไรที่สุด คุณหมอบอกว่ากลัวเรื่องแคมป์คนงานในกรุงเทพ ผมบอกว่า ปิดแคมป์คนงานไปเลย เดี๋ยวกระทรวงแรงงานเยียวยาเอง แล้วถามว่ากลัวอะไรอีก? หมอบอกว่ากลัวคนเดินห้าง ผมก็สั่งปิดห้างสรรพสินค้าไปเลยหนึ่งเดือน เดี๋ยวเยียวยาเอง แต่ห้ามปิดอุตสาหกรรมส่งออก นี่คือข้อตกลงในที่ประชุม แล้วผมเองก็ไปเยียวยาพี่น้องผู้ใช้แรงงาน พนักงานห้างสรรพสินค้า เยียวยาพี่น้องผู้ใช้แรงงานทั้งต่างด้าวและคนไทย ใช้เงินในสิทธิประกันสังคมเยียวยา

ตอนนั้นมีบริษัทหนึ่ง ชื่อบริษัทยานภัณฑ์ ตั้งอยู่ที่สมุทรปราการ ต่อสายตรงหาผมและบอกว่า มีพนักงานทั้งหมด 2 พันกว่าคน ติดโควิดประมาณ 20 กว่าคนแต่จะโดนปิดโรงงาน ตอนนั้นผมบอกว่า ปิดไม่ได้ ถ้าปิดเจ๊งทันที วิธีแก้ปัญหาของผมคือ การทำโครงการ Factory Sandbox ตรวจหาเชื้อแบบเชิงรุก เป็นการตรวจ RT PCR 100 % เช่น โรงงานนี้มีหนึ่งพันคน ตรวจเจอเชื้อ 100 คน เอาไปรักษา อีก 900 คนฉีดวัคซีน ม.33 ที่ลุงตู่ให้มา และไม่มีเหตุผลในการปิดโรงงาน จึงได้ผลิตและส่งออกต่อไปได้

‘พิธา’ งานเข้า!! นักร้องตบเท้าแห่ยื่น กกต. สอบ 4 ประเด็น ชี้ เกี่ยวข้องกับมิติทางการเมือง เข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้ง

(28 เม.ย. 66) ที่สำนักงาน​คณะกรรมการ​การ​เลือกตั้ง​ (กกต.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ พรรคพลังประชารัฐ เดินทางมายื่นหลักฐานต่อ กกต.ขอให้ตรวจสอบ กรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลที่ให้สัมภาษณ์ผ่ายรายการของนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ถึงการร่วมงานศพคุณพ่อ ในช่วงรัฐประหาร​ เมื่อปี​ 2549

โดยนายเรืองไกร​ กล่าวว่า วันนี้จำเป็นต้องมายื่นร้องเรียน เพราะกรณีดังกล่าว เข้าข่ายผิดพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรปี 2561 มาตรา 73 (5) และต้องการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้โดยเร็ว เพราะเกี่ยวข้องกับมิติทางการเมืองที่หาเสียง ทั้งที่ขณะนี้ก็อยู่ในบัญชีรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี แต่กลับมีคำพูดให้เกิดประเด็นทางสังคม ซึ่งเมื่อนำบทสัมภาษณ์ในรายการของสรยุทธ ไปเทียบกับรายการของนางสุริวิภา​ กุลตังวัฒนา​ หรือ ‘หนูแหม่ม​’ ที่นายพิธา​ ได้ให้สัมภาษ​ณ์เมื่อปี 2552 ซึ่งพิธาก็ได้ออกมาบอกว่าเป็นข้อเท็จจริงทั้งคู่

นายเรืองไกร​ กล่าวว่า​ จึงต้องยื่นร้องต่อ กกต. ซึ่งมีทั้งสิ้น 4 ประเด็น ดังนี้

ประเด็นแรก เรื่องที่นายพิธา อ้างว่า นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย เป็นเลขาธิการสหประชาชาติ (UN) ซึ่งความจริงแล้วขณะนั้นดำรงตำแหน่งเป็นรองนายกรัฐมนตรี ของนายทักษิณ ชินวัตร

ประเด็นที่สอง นายพิธาบอกว่า คุณพ่อเสียชีวิตตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย. 2549 ขณะที่นายพิธา ได้โชว์ภาพกระดานงานศพ กำหนดจัดงาน ตั้งแต่วันที่ 18 ก.ย.2549 โดยมีเจ้าภาพเป็นภรรยาและบุตร

ประเด็นที่สาม นายพิธา บอกว่า ตนทำงานเป็นข้าราชการการเมือง ช่วยงานนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ในสมัยรัฐบาลของนายทักษิณ แต่นายพิธา ชี้แจงว่า ขณะนั้นตนเรียนหนังสือที่บอสตัน ทำให้ข้อมูลไม่ตรงกัน

ประเด็นที่สี่ นายพิธา บอกว่า ตนเองถูกอายัติเงินในบัญชี 2-3 เดือน และไม่สามารถนำเงินมาจัดงานศพคุณพ่อได้ แต่ความจริงไม่เป็นเช่นนั้น เพราะการควบคุมบัญชีต้องผ่านคำสั่งของ คมช. โดยขณะนั้นตนเองทำงานอยู่ที่ สตง.ไม่เคยเห็นรายชื่อของนายพิธาเข้าข่ายโครงการที่จะต้องตรวจสอบ

พร้อมกันนี้นายเรืองไกร ยังได้ยกคำ วินิจฉัยของ กกต. เรื่องการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลตำบลท่าแลง เขตเลือกตั้งที่ 1 และเขตเลือกตั้งที่ 2 อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี ว่ามีการหาเสียงอันเป็นเท็จ ต้องถูกดำเนินคดี

“หากตรวจสอบคนอื่นได้ ตนเองก็ต้องตรวจสอบได้เช่นกัน ในฐานะเป็นบุคคลสาธารณะ กกต.ต้องรีบดำเนินการพรรคที่อ้างว่า เป็นฝ่ายประชาธิปไตย ต้องตรวจสอบกันเอง เรื่องแบบนี้ทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตและเที่ยงธรรมขอให้ตรงไปตรงมา ตนเองอยู่การเมืองมา เคยตรวจสอบแล้วทุกฝ่าย” นายเรืองไกร​ กล่าว

เมื่อถามว่า กังวลว่าจะถูกฟ้องอีกหรือไม่ นายเรืองไกรกล่าวว่า ไม่กลัว เพราะอย่างไรก็แล้วแต่ นายพิธาเป็นนักการเมืองมาแล้ว 4 ปี กรณีที่นายพิธาเคยฟ้อง คือ มาตรา 326 และ มาตรา 328 แต่มีมาตรา 329 คุ้มครอง ต่อมาทางกรรมการพรรคอนาคตใหม่บางท่านได้มาพูดคุยกับตน และในที่สุดเมื่อขึ้นศาล ทนายของพรรคก็ได้เจรจา และถอนไป ก็ขอบคุณ ตนร้องเรียนปกติ ถ้าวันนี้จะฟ้องอีก ตนก็ยินดี จะได้พิสูจน์ที่นายพิธาเคยระบุว่า ทุกคนควรถูกวิพากษ์วิจารณ์ได้ แต่พอนายพิธาโดนเองกลับมาฟ้อง นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งที่ประชาชนควรได้รับทราบ

กกต. ตีกลับ หนังสือขออนุมัติ 1.1 หมื่นล้าน แก้ค่าไฟแพง หลังตรวจพบ เอกสารไม่ได้ผ่านมติของคณะรัฐมนตรี

(28 เม.ย.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีคณะรัฐมนตรีเห็นชอบเสนอ กกต. ขออนุมัติวงเงิน 11,112 ล้านบาท ช่วยลดภาระค่าไฟฟ้าให้ประชาชน มีรายงานเมื่อวันที่ 25 เม.ย. 2566 ซึ่งเป็นวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้มีหนังสือนำส่งหนังสือของกระทรวงพลังงาน ที่ขอให้ กกต. พิจารณาเพื่อให้ความเห็นชอบในการที่คณะรัฐมนตรีจะอนุมัติใช้งบกลาง 11,112 ล้านบาท เพื่อช่วยลดภาระค่าไฟฟ้าให้กับประชาชน มายังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)   

‘ดร.เสรี’ ซัด!! ตอนอายุ 20 ดูใสๆ น่ารัก  แต่พอ 40 มาทำงานการเมือง ดูน่ารังเกียจ

(28 เม.ย.66) ดร.เสรี วงษ์มณฑา โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า…

“น่าเสียดาย เรียนก็เก่ง มหาวิทยาลัยที่เรียนก็ชั้นนำ หน้าตาก็ดี ตอนยังไม่เข้ามาทำการเมืองพูดจาใสๆ ดูน่ารักน่าเอ็นดู แต่พอเข้ามาทำงานการเมืองเท่านั้นแหละ เปลี่ยนไปเลย

ก่อนมาเป็นนักการเมือง ก็สร้างวีรกรรมให้คนเขาดรามากันไปทั่ว เมียมีเพื่อนเป็นกะเทยก็ไม่ได้ ถึงขนาดทำร้ายร่างกายเมีย เป็นเรื่องลบติดตัวมาถึงเวลานี้

เคยพูดว่างบประมาณสำหรับข้าราชการบำนาญว่าเป็นงบช้างป่วย พอโดนต่อต้าน และจะทำให้เสียคะแนนของผู้สูงวัย ก็บอกว่าไม่ได้พูด

อดีตผู้แทนการค้ายุคทักษิณ-กุนซือเพื่อไทย  มัด!! 'พิธา' กุเรื่อง 'ถูกคลุมหัว-อายัดบัญชี'

(27 เม.ย.66) นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ที่ปรึกษาคณะกรรมการเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะอดีตผู้แทนการค้าไทยสมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ปี2549 กล่าวกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์อ้างว่าเดินทางกลับจากนิวยอร์กหลังถูกรัฐประหารปี 49 ซึ่งโดยสารเครื่องบินลำเดียวกับนายปานปรีย์ว่า ก่อนเครื่องขึ้นจากนิวยอร์ก มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งนำนายพิธามาฝาก โดยระบุว่าฝากน้องพิธากลับไทยด้วย แต่ตอนนั้นไม่รู้ว่านายพิธามาจะมาเล่นการเมืองอะไรในอนาคต ขณะนั้นเข้าใจเพียงว่าเป็นน้องคนหนึ่ง ที่อาศัยเครื่องบินกลับมา เมื่อเครื่องมาถึงกรุงเทพฯ ตนก็ไม่คิดว่าจะเจออะไร เพราะได้ส่งนายทักษิณที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษแล้ว

"แต่เมื่อเครื่องถึงสนามบินดอนเมือง เครื่องบินลำดังกล่าวกลับจอดนิ่งประมาณครึ่งชั่วโมง ท่าทางไม่ค่อยดี ซึ่งตนในฐานะหัวหน้าคณะเดินทาง จึงเดินไปบอกคนในเครื่องรวมถึงนายพิธา ว่าเราคงไม่ได้ลงที่ดอนเมือง ตอนนี้เครื่องมาจอดที่ บน.6 แล้วขอให้ทุกคนอยู่ในความสงบ เชื่อว่าไม่มีปัญหาเพราะเราไม่ใช่นักการเมือง"

ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนั้นนายพิธาขึ้นเครื่องในฐานะที่เป็นทีมงานนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ในขณะนั้น หรือเป็นแค่คนไทยที่อาศัยเครื่องบินเดินทางกลับประเทศ นายปานปรีย์ กล่าวว่า ทราบเพียงว่าเป็นหลานของนายผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตเลขาส่วนตัวนายกฯ ทักษิณ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top