Sunday, 18 May 2025
POLITICS

'เสี่ยเฮ้ง' รับทราบ!! หนุ่มโพสต์อ้างรับเงิน รทสช. ชี้!! ตอนนี้ทีมงานได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว

(8 พ.ค. 66) นายสุชาติ ชมกลิ่น รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หลังได้รับทราบข้อมูล ว่าถูกชายคนหนึ่งโพสต์คลิปอ้างได้รับเงินจาก รทสช. และนำมาโพสต์ประจาน โดยรับเงินมา 1,000 บาท แต่สุดท้ายก็จะกาให้พรรคก้าวไกลแทน โดยระบุว่า...

คลิป Tiktok ว่อน...มีคนส่งข้อมูลมาให้ผมมากมาย เรื่องคลิปในติ๊กตอก ที่มีการพาดพิงถึงผม ซึ่งผมเองก็ลงพื้นที่ทุกวัน ตลอดทั้งวัน เลยอาจจะไม่ได้ตอบกลับ หรือสื่อสารกลับไป และผมจะแจ้งว่า ขณะนี้ ทางทีมงานได้ดำเนินการ เรียบร้อยแล้วครับ

'เศรษฐา' ฝากถึงติ่ง 'ก้าวไกล' วันที่ 14 มาคุยกันใหม่  ย้ำ!! เลือก ‘เพื่อไทย’ ประเทศเปลี่ยนทันที ไม่ต้องลอง

(8 พ.ค. 66) นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ Srettha Thavisin ดังนี้...

“เก่งไปหมด 14 แล้วมาคุยกันใหม่ ชัวร์ ๆ เพื่อไทยประเทศเปลี่ยนทันที ไม่ต้องลอง”

‘ไอซ์-ก้าวไกล’ ยกประวัติศาสตร์ไทยโต้โซเชียล ปม 'ล้มเจ้า' ชี้!! ไม่มีใครล้มเจ้าได้ นอกจากทหารและเจ้าด้วยกันเอง

ไม่นานมานี้ น.ส.รักชนก ศรีนอก หรือ ‘ไอซ์’ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 28 (บางขุนเทียน หนองแขม บางบอน บางบอนเหนือ คลองบางพราน) พรรคก้าวไกล ได้ออกมาโพสต์คลิปผ่านทางติ๊กต็อกส่วนตัว ‘nanaicez’ กรณีมีชาวเน็ตคอมเมนต์ว่า “ล้มเจ้าไม่เอา” โดย น.ส.รักชนก เผย..."ตนจะเอาอะไรไปล้มเจ้าได้" และได้อธิบายเพิ่มเติมว่า...

"การล้มเจ้าในประวัติศาสตร์โลก รวมถึงประวัติศาสตร์ชาติไทยนั้น ส่วนใหญ่เกิดจากเจ้าด้วยกันเองทั้งนั้น และมีส่วนน้อยที่เกิดจากการรัฐประหาร เนื่องจากต้องมีกองกำลัง มีทหาร เพื่อไปล้มล้างระบบการปกครอง และสถาปนาตนเอง หรืออาจเปลี่ยนแปลงเป็นระบบสาธารณรัฐฯ ก็ได้ แต่ว่าอย่างตนนั้น ไม่สามารถไปล้มเจ้าได้"

นอกจากนี้ น.ส.รักชนกยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า "ตามประวัติศาสตร์ชาติไทย ประชาชนไม่สามารถล้มได้ คนที่ล้มเจ้านั้นมีแต่เจ้าด้วยกันเองทั้งนั้น หากลองไปศึกษาตามประวัติศาสตร์ชาติไทย ตั้งแต่สมัยอาณาจักรสุโขทัย, อยุธยา, รัตนโกสินทร์ การสถาปนาราชวงศ์ใหม่ ก็ล้วนเกิดจากเจ้าที่ล้มเจ้าด้วยกันเองทั้งสิ้น"

'ชูวิทย์' บุกเมืองเพชรต้านกัญชาเสรีไล่บี้ซื้อเสียง ประกาศเชียร์ 'อลงกรณ์' เต็มคาราเบล ขอคนเพชรเลือกพรรคประชาธิปัตย์และผู้สมัคร ส.ส.เบอร์ 7 ทั้ง 3 เขต

วันนี้ เวลา16.30 น. นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ เดินทางมา รณรงค์ต่อต้านกัญชาเสรีและการซื้อเสียงในตลาดเทศบาลเมืองเพชรบุรีท่ามกลางประชาชนให้ความสนใจคับคั่งพร้อมกับแจกสติกเกอร์ไม่เอากัญชาเสรี จนมาพบ นายอลงกรณ์ พลบุตร ผู้สมัคร ส.ส. เบอร์ 7 เขต 1 เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์กำลังปราศรัยบนรถกระจายเสียงบนถนน28เมตร จึงขึ้นรถกล่าวปราศรัยขอให้คนเพชรบุรีร่วมกันต่อต้านกัญชาเสรีเพราะเป็นภัยต่อลูกหลานทุกครอบครัวและขอให้ช่วยกันต่อต้านการซื้อเสียงเพราะเป็นต้นเหตุการณ์ทุจริตคอรัปชั่น โดยนายชูวิทย์กล่าวตอนหนึ่งว่าตนไม่มีเบอร์ไม่ได้ลงเลือกตั้งแต่เลือกสนับสนุนนักการเมืองน้ำดีเฉพาะบางคนบางพรรคเท่านั้น ตนรู้จักนายอลงกรณ์มา20ปีเป็นคนดีมีความซื่อสัตย์ทำงานเพื่อประชาชนมาตลอด 

ชั้นเชิงสุดเคี่ยวของนักการเมืองทรงไทย ตรงไหน 'ไม่ชัวร์-ไม่คุ้ม-ไม่ยุ่ง' ส่วนนักการเมืองจุ้น ทะลึ่งสั่งการปูติน ถูกเครมลินจ้องเรียบร้อย

(7 พ.ค.66) จากเฟซบุ๊ก 'สมเกียรติ โอสถสภา' ได้โพสต์ข้อความในหัวข้อ 'ข้อดีของนักการเมืองแบบไทย ๆ คือมีความคุ้นเคยกับวิถีนักเลงกันเป็นอย่างดี' ระบุว่า...

วิถีนักเลงแบบไทย ๆ ตรงไหนไม่ชัวร์ ไม่คุ้ม ไม่ยุ่ง

อะไรฝากได้ก็ฝากไว้ก่อน ค่อยว่ากันอีกที 

ก็เหมือนมวยไทยชั้นดี ต้องหยั่งเชิงกันก่อนซัก 2-3 ยก 

ถ้ายกแรกเดินเข้าแลกเลย ถือว่าเป็นมวยวัด 

ตอนปูตินยกทัพบุกยูเครน มีนักการเมืองไทยคนเดียว ที่ทะเล่อทะล่าออกไปสั่งการปูติน

บอกปูตินไปอย่างหนักแน่นว่า ประชาธิปไตยยูเครนของข้า ใครอย่าแตะ

ลงชื่อกำกับไว้ด้วย คงคิดว่าเหมือนประท้วงแถวนี้ ถ่ายรูปชูนิ้วแล้วแยกย้ายกลับบ้าน

ข่าวกรองรัสเซียวิ่งกันให้วุ่น ทำแฟ้มประวัตินักการเมืองไทยคนนี้ ส่งเข้าระบบทำเนียบเครมลิน

ส่วนนักการเมืองไทยคนอื่น ไม่มีใครสนใจจะแสดงจุดยืน

นอกจากจุดยืนที่ว่า ไม่ต้องมีจุดยืนกันนะพวกเรา นั่งนิ่ง ๆ ทรงจะสวยกว่า

เค้าล่อกันอยู่ตั้งไกล ยังไงเราก็ไม่โดน

เป็นความรู้ที่ได้มาจากชีวิตจริง ไม่ต้องไปเรียนจากไอวีลีก

ฉลาดแต่ไม่เฉลียว สำหรับยุคนี้มันอันตราย

กองเรือสหรัฐล้อมยาว ตั้งแต่ไต้หวันลงมาถึงอ่าวไทย 

ญี่ปุ่นเตรียมพร้อมเป็นสำนักงานนาโต้สาขาสอง 

มีคนส่งจดหมายฟ้องสภาสหรัฐ ว่าการเลือกตั้งไทยไม่โปร่งใส

เปิดช่องให้สหรัฐบีบไทย เรื่องตั้งฐานทัพ

จริง ๆ ควรส่งฐานทัพสหรัฐไปให้สิงคโปร์ เพราะเป็นชาติที่รับลูกสหรัฐและยุโรปทุกเรื่องเป็นประจำอยู่แล้ว

ยินดีกับผู้ประกอบการและลูกจ้างโรงแรม ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า ไกด์ทัวร์ คลับบาร์ รถเช่า รถทัวร์ ด้วยครับ

ขุดอีก!! ชาวเน็ตจับโป๊ะ!! ‘พิธา’ พลิกลิ้น จุดยืนเรื่องกัญชา ปี 62 บอกหนุนเต็มอัตรา แต่ล่าสุดบอกยัดเข้าบัญชียาเสพติด

(6 พ.ค. 66) โดนอีกระลอก หลังชาวเน็ตขุดคลิปที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล เคยใช้ประเด็น ‘กัญชาสันทนาการ’ หาเสียงเมื่อปี 62 โดยระบุว่า…

“ประเทศไทย จะต้องเป็น Medical Hub และเป็น Tourism Hub เกี่ยวกับกัญชา เป็นอันดับ 1 ของเอเชียให้ได้ ผมได้ไปที่ประเทศจาไมก้า บ้านเกิดของ ‘บ็อบ มาเลย์’ ซึ่งเป็นพื้นที่พิเศษ ที่สามารถมีการสูบกัญชาแบบสันทนาการได้ หรือตอนที่ผมอยู่ประเทศสหรัฐอเมริกา การทำให้กัญชาเป็นเรื่องของสันทนาการไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวเลย และการที่ผมได้ไปเยี่ยมบ้านเกิดของ ‘บ็อบ มาเลย์’ ในครั้งนั้น ทำให้ผมได้ ‘จ๊อย’ (กัญชาแบบพันลำ) มา 1 จ๊อย โดยจ่ายเงินประมาณ 2,000 บาท

“เขานำเงินที่ได้จากกัญชาสันทนาการ มาทำให้กลายเป็นภาษีที่นำไปช่วยในส่วนของภาคการศึกษา โรงเรียนที่เป็นโรงเรียนสาธารณะมีเงินจากตรงนี้ โอกาสมีมากมายมหาศาล เงินที่ได้จากกัญชา ที่เป็นภาษี สามารถนำไปช่วยเหลือคนในสังคมได้อีกมากมายแค่ไหน การที่เราปลดล็อกกัญชา มันมีสิ่งที่สามารถช่วยได้มากมายแค่ไหน”

เหนียวแน่น ชัดเจน!! เบอร์ 2 'รองโจ' ตัวเต็งเขต 4 ลุยหาเสียงโค้งสุดท้าย เอื้ออาทรขจรวิทย์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2566 ผู้สมัคร สส.สมุทรปราการ เบอร์ 2 เขต 4 พรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมด้วยคณะลงพื้นที่หาเสียงภายในชุมชนบ้านเอื้ออาทร ซอยขจรวิทย์ ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โดยมีผู้สมัคร สส.สมุทรปราการ พ.ต.อ.กรวัฒน์ หันประดิษฐ์ ผู้สมัคร สส.สมุทรปราการ เบอร์ 2 เขต 4 พรรครวมไทยสร้างชาติ นำคณะลงพื้นที่อ้อนขอคะแนนเสียงจากพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่องภายในบ้านเอื้ออาทร ซอยขจรวิทย์ ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

โดยมี ทางผู้นำชุมชนและพี่น้องประชาชนจำนวนมากต่างเดินตามให้กำลังใจทางผู้สมัคร สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมทั้งร่วมรับฟังการอภิปรายหาเสียงจากทางผู้สมัคร สส.สมุทรปราการ เบอร์ 2 เขต 4 พ.ต.อ.กรวัฒน์ หันประดิษฐ์ หรือ รองโจ พรรครวมไทยสร้างชาติ 

จะเห็นได้ว่าจากการลงพื้นที่หาเสียงในครั้งนี้ ได้การตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากพี่น้องประชาชนบ้านเอื้ออาทร ขจรวิทย์ ประกอบกับ ก่อนหน้านี้ทาง พ.ต.อ.กรวัฒน์ หันประดิษฐ์ เคยให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนมาอย่างต่อเนื่องในช่วงสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 จึงทำให้มีพี่น้องประชาชนในขุมชนจำนวนมากพร้อมที่จะให้การสนับสนุน พ.ต.อ.กรวัฒน์ หันประดิษฐ์ ผู้สมัคร สส.สมุทรปราการ เบอร์ 2 เขต 4 ในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ

‘เชษฐ์ สไมล์บัฟฟาโล่’ เตือน ไม่ควรไปแตะต้องเบื้องบน ลั่น!! คนรักแผ่นดินจะไม่อยู่เฉย เพราะเราคือคนไทยที่แท้จริง

(6 พ.ค. 66) นายวรเชษฐ์ เอมเปีย หรือ ‘เชษฐ์’ มือกลอง ‘สไมล์บัฟฟาโล่’ วงดนตรีขวัญใจวัยรุ่นยุค 90 โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า…

จะทำอะไร ก็ทำไปสิครับ..แต่ไม่ควรไปแตะต้องเบื้องบน..อย่าล้ำเส้น ฮึกเหิมเกินไป..โอ้อวดโชว์เอาดีเข้าตัว โยนความไม่ดีให้คนอื่น ไม่เท่เลยนะ

'อดีตทูตนริศโรจน์' เดือด!! บางพรรคหวังชนะทางการเมืองด้วยวิธีสกปรก ยัดเยียดแนวคิด 'ยุวชนเรดการ์ด' ให้เด็กไทยหัดขู่พ่อแม่

(6 พ.ค. 66) นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก Fuangrabil Narisroj ว่า...

ไม่น่าเชื่อว่าต้องการเอาชนะทางการเมืองด้วยวิธีการที่สกปรกแบบนี้

การที่พรรคการเมืองนึงระดมเด็ก ๆ ให้ทำคลิปลง tiktok / reels พูดในทำนอง ‘ขู่’ พ่อแม่สารพัดว่า ถ้าไม่เลือกพรรค ก.ก. เหมือนกับตน ต่อนี้ไป ก็จะออกจากบ้าน / ไม่ส่งเงิน / ไม่ต้องพูดคุย เหมือนตัดขาด ตัดเยื่อใยสายสัมพันธ์ในครอบครัว เพียงเพราะพ่อแม่คิดต่างไม่เหมือนกับตัวเอง

เฮ้ย..! นี่มันวิธีการแบบเผด็จการคอมมิวนิสต์ แบบ ‘ยุวชนเรดการ์ด’ สมัยนึงของจีนเลย! 

ที่มีการเอาพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ของตัวเองมาประณาม ประจาน ยึดมั่นแต่หลักการลัทธิที่ตัวเองบูชา มีการเผาทำลายหนังสือที่เป็นมรดกทางศิลปวัฒนธรรมเพราะถือว่าเป็นการขัดขวางแนวทางของพรรค จนทำให้จีนเข้าสู่ยุคตกต่ำสุด และสูญเสียมรดกทางวัฒนธรรมไปเยอะมาก 

ยุวชนเรดการ์ดของจีนหลายคนในสมัยนั้น ปัจจุบันได้ออกมาสารภาพผิดที่ครั้งนึงหลงใหลไปกับการปลุกระดมให้เกลียดแม้กระทั่งพ่อแม่ของตัวเอง ถ้าพ่อแม่มีแนวทางที่เป็นอุปสรรคต่อพรรค !!

หลายคนเคยแม้แต่ทุบตีพ่อแม่ตัวเอง จับอาจารย์ที่เคยสอนมากล้อนผมประจาน ถ่มน้ำลายใส่หน้า อาจารย์บางคนทนรับเหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้ถึงกับฆ่าตัวตายไปก็มี 

บันทึกประวัติศาสตร์ของ ยุวชนเรดการ์ด จีนยุคนั้นยังหาอ่านได้ทั้งบทความและรูปภาพลองค้นกูเกิลดูก็จะเห็น

แจ้งความเอาผิด 'พงศ์ศรัณย์' ผู้สมัครแปดริ้ว เขต 2 พรรค พท. ฐานรุกล้ำทางน้ำสาธารณะบึงขุนรักษ์

(6 พ.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 เม.ย. 66 ที่ผ่านมา นายคมสันต์ ชูชื่น รองนายกเทศมนตรีตำบลดอนเกาะกา รับมอบอำนาจจากนายกิตติ เก่งพานิช นายกเทศมนตรีตำบลดอนเกาะ เข้าแจ้งความที่ สภ.ฉิมพลี จ.ฉะเชิงเทรา ว่ามีผู้ทำผิดกฎหมายอาญา บุกรุกเข้าไปยึดถือ ครอบครอง บึงขุนรักษ์ อันเป็นทางน้ำ สาธารณะของแผ่นดิน ที่ประชาชนใช้ร่วมกัน เพราะเป็นรักษาประโยชน์ ของชาวบ้าน การดำเนินการครั้งนี้เป็นการแก้ไขปัญหานายทุนเข้าบุกรุกที่ดินสาธารณะ เพื่อประโยชน์ส่วนตน 

โดยเดือน เม.ย. 62 นายพงศ์ศรัณย์ อัศวชัยโสภณ ผู้สมัคร ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 2 หมายเลข 3 พรรคเพื่อไทย และ นายพันธุ์พงศ์ อัศวชัยโสภณ ซึ่งเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดิน โฉนดที่ดินเลขที่ 9007 ได้ทำการถมคันดิน สองคันดินบริเวณทิศใต้ของโฉนดที่ดินดังกล่าว โดยรุกล้ำเข้าไปในทางน้ำสาธารณะบึงขุนรักษ์ บริเวณหมู่ที่ 2 ตำบลดอนเกาะกา อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ประชาชนใช้ร่วมกัน 

'ดร.นิว' เฉลย!! ติ่งส้มพรึ่บภูเก็ต ฟังพรรคสามนิ้วปราศรัย เพราะเกณฑ์แรงงานต่างด้าวมาผสม ช่วยปั่นทั้งออฟไลน์-ออนไลน์

(6 พ.ค. 66) ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ ดร.นิว นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์รูปภาพและข้อความในเฟซบุ๊ก ระบุว่า 

"คนที่ภูเก็ตเล่าให้ฟัง พรรคสามนิ้วหนักแผ่นดินที่เคยถูกขับไล่ ทำไมมาภูเก็ตรอบหลังมีคนไปเยอะ ส่วนหนึ่งเขาเกณฑ์แรงงานต่างด้าวมาผสม ปั่นทั้งออฟไลน์และออนไลน์หนุนกันตามที่พวกเขาถนัด คล้ายกับม็อบวันแรงงานที่พวกเขาจัดแรงงานต่างด้าวชูป้ายโจมตี ม.112 จังหวัดอื่นที่ปั่นว่าคนมาเยอะก็น่าจะใช่"

'ประชาธิปัตย์' ชูนโยบาย 'ตัดหนี้ 70,000 ล้าน' ปลดทุกข์เกษตรกรสูงวัยเกษตรกรทุพลภาพ 3 แสนราย

'อลงกรณ์' ยืนยัน ปชป.แก้ปัญหาหนี้เกษตรกรแนวใหม่อย่างยั่งยืนแบบมืออาชีพมีประสบการณ์จริงไม่กระทบฐานะการเงินของธกส.และไม่เป็นภาระงบประมาณแผ่นดิน

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคในฐานะทีมเศรษฐกิจพรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงนโยบายแก้ปัญหาหนี้สินเกษตรกรวันนี้ (5พ.ค.) ว่า พรรคประชาธิปัตย์ ประกาศนโยบายแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรอย่างยั่งยืน รวมทั้งนโยบายเติมทุนเติมเงินอัดฉีดก้อนใหม่เพื่อฟื้นฟูและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตทางการเกษตร โดยจะตัดหนี้ให้เกษตรกรสูงวัย มีอายุมากเกิน 65 ปี หรือทุพลภาพไม่สามารถประกอบอาชีพได้แล้ว มีอยู่ประมาณ 300,00 ราย มีมูลหนี้ประมาณ 70,000 ล้านบาท จะยกหนี้ให้แก่เกษตรกรผู้สูงอายุ เป็นการตอบแทนคุณความดีที่ผลิตสินค้าให้เป็นอาหารแก่คนไทยมาอย่างยาวนาน หลุดพ้นจากความทุกข์ยากจากการเป็นหนี้สินล้นพ้นตัวโดยตัดเป็นหนี้สูญ 

‘ส.ว.สมชาย’ เปิดหน้าคุยทูตสหรัฐฯ แจงขบวนการใส่ร้ายสถาบัน ด้านทูตฯ รับปากส่งเรื่องต่อรัฐบาล เพื่อดำเนินการต่อไป

(5 พ.ค. 66) นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา ประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า...

#คนไทยชักศึกเข้าบ้าน
หรือ
#สหรัฐแทรกแซงอธิปไตย

จากเอกสารที่คนไทยกลุ่มหนึ่ง อ้างกล่าวหาให้ร้ายประเทศไทย ส่งถึงรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอเมริกา และวุฒิสมาชิกกลุ่มหนึ่งของสหรัฐฯ เคลื่อนไหวต่อเนื่อง จะออกมติวุฒิสภา ที่ 114 ต่อประเทศไทยนั้น (3 พ.ค.2566) คณะกรรมาธิการการต่างประเทศ และคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนฯ วุฒิสภา จึงได้เชิญเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย นายโรเบิร์ต เอฟ โกเดค และคณะ เพื่อประสานสัมพันธ์ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อเท็จจริง ที่ห้องรับรองพิเศษวุฒิสภา 

ในระหว่างการหารือกัน ผมได้เสนอให้ท่านทูตสหรัฐฯ รับทราบข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง และยืนยันว่า มิได้เป็นไปตามที่กลุ่มบุคคลเหล่านั้นไปกล่าวหาให้ร้าย คณะกรรมาธิการของวุฒิสภาไทย ที่ติดตามการดูแลการเลือกตั้งของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่พบปัญหาดังที่มีการกล่าวหา

โดยประเทศไทยนั้นให้เสรีภาพเต็มที่ ในการหาเสียงเลือกตั้งของทุกพรรคการเมือง และสื่อมวลชนสามารถสื่อข่าวสารได้อย่างเสรี ไม่มีการปิดกัั้น

คณะกรรมาธิการและสมาชิกวุฒิสภาไทยเห็นว่า ในท้ายร่างมติ 114 ที่ให้ร้ายและข่มขู่กล่าวหา สถาบันพระมหากษัตริย์ แทรกแซงการเลือกตั้งทั้งก่อน ระหว่าง และหลังการเลือกตั้งนั้น ไม่เป็นความจริง และทำให้วุฒิสภาฝ่ายไทยไม่สบายใจ เกรงจะกระทบกระเทือนความสัมพันธ์อันดี

เพราะข้อเท็จจริงแล้ว พระมหากษัตริย์ไทยทรงอยู่เหนือการเมือง มิเคยทรงยุ่งเกี่ยวในการเลือกตั้งใดๆ ตามที่มีการกล่าวหาให้ร้าย จนทำให้วุฒิสมาชิกสหรัฐอเมริกาบางท่านเข้าใจผิด นำข้อมูลดังกล่าวไปร่างยื่นขอมติวุฒิสภา 114 (Senate Resolution 114) ที่กล่าวร้ายรุนแรงต่อประเทศไทยโดยไม่เป็นความจริง

ในประเด็นที่ 2 คือการหารือเรื่องกองทุน NED (National Endowment For Democracy) ให้ทุนสนับสนุนกลุ่มเคลื่อนไหวการเมือง เพื่อยกเลิกรัฐธรรมนูญ 2560 กฎหมายสูงสุดของประเทศ และยกเลิกมาตรา 112 ซึ่งเป็นกฎหมายคุ้มครององค์พระประมุข เช่นเดียวกับที่สหรัฐอเมริกามีกฎหมายปกป้องประธานาธิบดี เช่นกัน 

เรื่องนี้ก่อให้เกิดความแตกแยกทางความคิดและความขัดแย้งในประเทศไทย ถือเป็นการกระทบต่ออธิปไตยของมิตรประเทศ และอาจเป็นการแทรกแซงกิจการในประเทศไทยได้ จึงขอให้ท่านทูตฯ ได้เร่งประสานงานให้รัฐบาลและรัฐสภาสหรัฐอเมริกาทราบ และแก้ไขการกระทำดังกล่าวให้ถูกต้องต่อไปโดยเร็ว

เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้ตอบรับทราบ ทั้ง 2 เรื่อง และรับปากว่าจะสื่อสารไปยังรัฐบาลและวุฒิสภาสหรัฐฯ เพื่อดำเนินการต่อไป

ทัวร์ลง ‘กองทัพบก’ หลังปล่อยเพลง ‘หนักแผ่นดิน’ ช่วงใกล้เลือกตั้ง ชาวเน็ตวิจารณ์ยับ!! ทหารไม่รู้จักหน้าที่ของตัวเอง สมควรถูกปฏิรูป

กองบัญชาการกองทัพบกเผยแพร่วิดีโอคลิปเพลง ‘หนักแผ่นดิน’ ทำชาวเน็ตทัวร์ลงด่ายับ ชี้ มาในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนวันเลือกตั้ง หลังถูกบางพรรคการเมืองออกนโยบายยกเลิกเกณฑ์ทหารพาดพิง

(5 พ.ค. 66) เพจเฟซบุ๊ก ‘กองทัพบก Royal Thai Army’ ของกองบัญชาการกองทัพบก เผยแพร่วิดีโอคลิปเพลง ‘หนักแผ่นดิน’ ที่บรรเลงและขับร้องโดยกรมดุริยางค์ทหารบก หลังจากคลิปดังกล่าวเผยแพร่ออกไปราว 2 ชั่วโมง มีคนแชร์ไปกว่า 300 ครั้ง

อย่างไรก็ตาม มีชาวเน็ตแสดงความคิดเห็นโจมตีกองทัพบกจำนวนมาก พร้อมกับตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมถึงได้ปล่อยเพลงนี้ออกมาในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนวันเลือกตั้ง เพราะมีบางพรรคการเมืองออกนโยบายหาเสียงพาดพิงกองทัพ เช่น ยกเลิกเกณฑ์ทหาร

สำหรับความเห็นที่น่าสนใจ อาทิ

“ทหารที่ไม่รู้จักหน้าที่ตัวเองนี่ล่ะครับ หนักแผ่นดินที่สุด”

“เฮือกสุดท้ายแล้วสินะ 555 แต่อาชีพพวกxึงอะ หนักแผ่นดินสุดแล้ว ข่าวระยำในประเทศมีแต่ข่าวพวกxึง เส้นสายใช้กันไม่หยุด คอร์รัปชันในกองทัพเท่าไหร่ จนเกิดจ่าคลั่ง เพลงนี้ร้องให้อาชีพตัวเองฟังกันนะ”

“ต้องมีท่าเต้นด้วยนะครับ ฟังเฉยๆ ไม่รู้สึกฮึกเหิมเลย”

‘ประสิทธิ์ชัย’ ฟาด ‘พิธา’ พลิกลิ้นปมกัญชา ชี้!! หลังๆ ชักแนบแน่นกับ ‘ชูวิทย์’ หลายเรื่อง

แกนนำเครือข่ายกัญชาฯ ฟาด ‘พิธา’ ไม่เหมาะเป็นผู้นำ ไม่ใช่นักประชาธิปไตย คบ ‘ชูวิทย์’ ผลักกัญชาไปเป็นเกมการเมือง ทั้งที่เคยสนับสนุนถึงขั้นรับร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ จากประชาชน และให้ตนเป็นกรรมาธิการฯ ในนามของพรรค แต่กลับเปลี่ยนจุดยืน ถึงขั้นฟ้องศาลให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติด หวังเอาคืนหลัง พ.ร.บ.สุราฯ ไม่ผ่านสภาฯ เตือน!! แน่ใจแล้วใช่ไหมว่าจะเอาแบบนี้ เพราะอีกไม่กี่วันกระแสเลือกตั้งจะจบลง จะได้เห็นความจริง

(5 พ.ค. 66) นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล แกนนำเครือข่ายประชาชนเพื่อการมีกฎหมายควบคุมกัญชาในประเทศไทย โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ‘ประสิทธิ์ชัย หนูนวล’ สื่อสารถึงนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โดยระบุว่า…

พิธา หัวหน้าพรรคก้าวไกล เมื่อไหร่คุณจะพูดเรื่องกัญชาให้ตรงกันเสียที คนที่เป็นนักประชาธิปไตยต้องพูดความจริงและพูดให้ตรงกันในทุกวาระ ไม่ใช่พูดตอนนี้อย่างหนึ่ง พูดตอนอื่นก็พูดอีกอย่างหนึ่ง มันไม่ใช่ลักษณะของผู้นำ ตนเข้าใจว่า พรรคก้าวไกล มีกระแสดี เหตุเพราะมีความชัดเจน และคนรุ่นใหม่ชอบความชัดเจน 

“ผมเจ็บปวดที่สุด วันที่พรรคก้าวไกลยื่นฟ้องศาลให้กัญชากลับไปสู่ยาเสพติด ขอย้ำว่า มันคือการฟ้องศาล พรรคก้าวไกลไม่ได้ทำแบบพรรคเพื่อไทย ประชาธิปัตย์ หรือ ประชาชาติ ที่แสดงความเห็นกัญชาในเชิงนโยบายของพรรค แต่พรรคก้าวไกล เชื่อมั่นยิ่งกว่าว่ากัญชาต้องเป็นยาเสพติด นั่นคือการดำเนินการมากกว่าพรรคอื่น คือ ดำเนินการฟ้องศาลให้เป็นยาเสพติด นี่คือจุดยืนของพรรคก้าวไกล” 

นายประสิทธิ์ชัย กล่าวถึงเหตุผล ทำไมภาคประชาชนถึงเจ็บปวดกับพรรคก้าวไกล กรณีกัญชา ว่า ตนเป็นกรรมาธิการ (กมธ.) พ.ร.บ.กัญชาฯ ในนามพรรคก้าวไกล ร่วมกับนายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.พรรคก้าวไกล เหตุที่ตนได้เป็น กมธ.ในนามพรรคก้าวไกล ทั้งที่ไม่ได้เป็น ส.ส.ก็เพราะว่า ภาคประชาชนได้ยื่น ร่าง พ.ร.บ.กัญชา ให้พรรคก้าวไกล รับไปดำเนินการต่อในขั้นตอนการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร

“ตรงนี้แหละครับ คือ ประเด็นของความเจ็บปวด ทำไมถึงเป็นเช่นนั้นลองนึกตามนะครับ หากมีพรรคการเมืองพรรคหนึ่งที่ประกาศอยู่เคียงข้างประชาชนมาตลอด และยินดียิ่งที่ภาคประชาชนจัดทำร่าง พ.ร.บ.กัญชา ยื่นให้กับพรรค เพราะพรรคเห็นด้วยกับหลักการที่ภาคประชาชนนำเสนอ พรรคจึงอาสานำไปดำเนินการต่อ อยู่มาวันหนึ่ง พรรคก้าวไกลประกาศว่าจะเอากัญชากลับสู่ยาเสพติด และไม่ได้ประกาศเป็นแค่นโยบายพรรค แต่ยังเอากัญชาไปฟ้องศาลให้กลับไปสู่ยาเสพติดอีกด้วย

“คำถามที่สำคัญคือ หลักการ พ.ร.บ.กัญชาของประชาชน ถูกพรรคหยิบทิ้งไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ตลอดระยะเวลาของการทำหน้าที่ของ กมธ.พ.ร.บ.กัญชา ทำไมพรรคก้าวไกลไม่นำเสนออะไรเลย ว่าค้นพบข้อเท็จจริงใหม่ หรือ พรรคมีมติใหม่ ต้องเอากัญชากลับสู่ยาเสพติด กี่เดือนที่ทำงานกันมาแต่พรรคไม่พูดเรื่องนี้เลย แถมยังมีข้อเสนอที่ก้าวหน้าไปอีก” 

นายประสิทธิ์ชัย กล่าวอีกว่า เพื่อให้ชัดขึ้น ทุกคนต้องกลับไปฟังการให้สัมภาษณ์ของพิธา เรื่องกัญชา สมัยยังมีพรรคอนาคตใหม่ แล้วไปดูจุดยืนการรับร่าง พ.ร.บ.กัญชาของภาคประชาชน แล้วมาดูพิธา หัวหน้าพรรคก้าวไกลในวันนี้ คำพูดและจุดยืนของเขาเกี่ยวกับกัญชาตรงกันหรือไม่ ดังนั้น จึงมีคำถามถึง พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ว่าที่ผู้นำที่คนรุ่นใหม่สนับสนุน

1.) จุดยืนของคุณเรื่องกัญชา เปลี่ยนไปตามกระแสและผลประโยชน์ทางการเมืองหรือไม่ ตลอดระยะเวลาพวกคุณไม่เคยพูดถึงกัญชาในแง่ไม่ดีเลย จนกระทั่ง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้าไม่ผ่านสภาผู้แทนราษฎร พวกคุณจึงเริ่มมีท่าทีเกี่ยวกับกัญชาเปลี่ยนไป คิดเอาคืนทางการเมืองกับพรรค ซึ่งคาดหวังว่าจะยกมือสนับสนุน พ.ร.บ.สุรา แต่แล้วพรรคนั้นไม่ยกมือให้ในนาทีสุดท้ายใช่หรือไม่

ความพลาดหวังครั้งนี้ ทำให้พวกคุณลุกขึ้นมาทำอะไรบางอย่าง ที่นักการเมืองรุ่นก่อนเขานิยมทำกัน คือ การเอาคืนทางการเมือง และการเอาคืนนี้ต้องเลือกประเด็นที่สังคมอ่อนไหวอยู่แล้ว คือเรื่องกัญชา (อาจเพราะพวกคุณดูโพลสำรวจแล้วพบว่า จากการสำรวจคนยังกลัวกัญชา จึงใช้กระแสความกลัวนี้ให้เป็นประโยชน์ เพื่อทำลายพรรคนั้น และกัญชาเริ่มกลายเป็นเหยื่อ) โดยหลังจาก พ.ร.บ.สุราก้าวหน้าไม่ผ่านสภาฯ ปฏิบัติการเกี่ยวกับกัญชาของพรรคคุณเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือนับแต่บัดนั้น คำถามคือ พวกคุณเปลี่ยนเรื่องกัญชาจากหน้ามือเป็นหลังเพราะอะไร

2.) คำถามที่สำคัญคือ มีเหตุผลอะไรที่พรรคก้าวไกลจะเอากัญชากลับไปสู่ยาเสพติด ประเด็นนี้ต้องพูดกันด้วยข้อเท็จจริง และเพื่อเป็นการเทียบเคียงจุดยืนของพรรคนี้ จึงต้องยกอ้าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้ามาเปรียบเทียบ ถ้าพรรคใช้หลักการตัดสินเรื่องนี้ด้วยข้อเท็จจริง พรรคต้องแสดงข้อเท็จจริงและงานวิจัยที่มี เพื่อเปรียบเทียบโทษระหว่างกัญชากับสุราให้ชัดเจน ย้ำว่าต้องเป็นงานวิทยาศาสตร์ไม่ใช่ข้อมูลจากความรู้สึก สุราทำให้เกิดอุบัติเหตุอย่างไร ทำลายสุขภาพอะไรบ้าง ประจักษ์กันมานานแล้วมิใช่หรือ ส่วนกัญชานั้นมีงานวิจัยสนับสนุนทั่วโลกนับ 100 สถาบัน ซึ่งพูดถึงกัญชาในฐานะยารักษา พรรคต้องเอาข้อมูลวิทยาศาสตร์เปรียบเทียบมาแสดงโดยด่วน ถ้าจะแสดงความจริงใจว่าไม่ได้เปลี่ยนจุดยืนเรื่องกัญชาเพราะการเมือง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top