Saturday, 18 May 2024
POLITICS

ไม่ขัดกฎหมาย!! ‘ดร.ณัฎฐ์’ ไขปม ‘ดร.ไตรรงค์’ ปราศรัยโคราช ชี้ เป็นลักษณะเชิงเปรียบเทียบ ไม่เข้าข่ายผิด กม.

‘ดร.ณัฎฐ์’ มือกฎหมายมหาชนคนดัง ชี้ ‘ดร.ไตรรงค์’ ปราศรัยโคราช เป็นลักษณะเชิงเปรียบเทียบ ไม่เข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้งและไม่เข้าหลักเกณฑ์ ล้มล้าง-ปฏิปักษ์การปกครองยุบพรรครวมไทยสร้างชาติ

วันที่ 5 มีนาคม 2566 จากกรณีนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ประธานที่ปรึกษาพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.)กล่าวปราศรัยใหญ่ที่สนามหน้าศาลากลาง จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2566 ตอนหนึ่ง ที่ว่า“พระพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ว่า ความกตัญญูเวที เพราะเราเป็นคนดีไว้ไหมพี่น้อง เราต้องไม่ลืมบุญคุณบรรพบุรุษใช่ไหมพี่น้อง ต้องรักษาประเทศนี้ไว้ให้อยู่ดีที่สุดใช่ไหมครับพี่น้อง ร.9 ตรัสไว้ว่า จงเลือกคนดีปกครองประเทศเท่านั้น ผมเองไม่เล่นแล้วการเมือง แต่ผมมาช่วยบิ๊กตู่(พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา)เพราะเห็นเขาเป็นคนดี......ฯลฯ ต่อมานายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยและนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต.และประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย ได้ยื่นคำร้องต่อ กกต.ไต่สวนและวินิจฉัยว่า คำปราศรัยหาเสียงของนายไตรรงค์ สุวรรณคีรีในวันดังกล่าวได้นำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้งเข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่...” 

ล่าสุด ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม หรือ ดร.ณัฎฐ์ ปรมาจารย์กฎหมายมหาชนและผู้เชี่ยวชาญรัฐธรรมนูญคนดัง ได้ได้อธิบายและให้ความรู้กฎหมายแก่ประชาชนว่า ขณะนี้ช่วงโค้งสุดท้ายและจะครบกำหนดอายุสภาและอยู่ในระหว่างระยะเวลาการหาเสียง180 วัน นับตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2565 ก่อนวันครบอายุ จนถึงวันก่อนวันเลือกตั้งตามความในมาตรา 68(1) แห่งพรป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.พ.ศ.2561 ต่อมา กกต.ได้ออกระเบียบ กกต.ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส.(ฉบับที่ 3) พ.ศ.2565 โดยเพิ่มเติม ข้อ 3 ระเบียบ กกต.ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส.พ.ศ.2561 ข้อ 6(9)กรณีที่ยังไม่มีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง....และเพิ่มเติมข้อ 18(5) รวมถึงข้อ 18/1 โดยระเบียบดังกล่าวใช้บังคับแก่ผู้ประสงค์จะสมัคร ส.ส.ด้วย ต่อมาแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 73 บทข้อห้ามเพื่อให้ครอบคลุม ตามพรป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2566 ประกาศราชกิจจานุเบกษาวันที่ 28 มกราคม 2566
 
หากพิจารณาถึง ระเบียบ กกต.ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส.พ.ศ.2561 หมวด 4 ลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง ข้อ 17 ห้ามผู้สมัคร พรรคการเมือง หรือผู้ใดนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับหารหาเสียงเลือกตั้ง จากฟังเทปปราศรัยข้อความที่นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี หยิบเอาพระราชดำรัสของล้นเกล้าฯรัชกาลที่ 9 ที่ว่า “จงเลือกคนดีปกครองประเทศเท่านั้น” เป็นการกระตุ้นให้คนไทยที่มาฟังการปราศรัยหรือประชาชนชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง มีจิตสำนึกในระบอบประชาธิปไตยให้เลือกผู้นำที่ดี ลักษณะเชิงเปรียบเทียบ แม้จะอ้างอิงคำพูดบุคคลที่กล่าว เป็นพระราชดำรัสที่ปรากฎข้อความทั่วไป  ถือว่าไม่ได้นำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียง แม้ล้นเกล้าฯรัชกาลที่ 9 จะสวรรคตไปแล้วก็ตาม ไม่เข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. 
 

หยุมหยิมไร้สาระ!! 'โบว์ ณัฏฐา' ซัด กกต. ออกระเบียบหยุมหยิม เปิดช่องฟ้องร้องคดีรกศาล – ชี้กฎบางข้ออาจขัด รธน.

โบว์ ณัฏฐา มหัทธนา นักกิจกรรมนักเคลื่อนไหวทางการเมือง กล่าวให้ความเห็นในรายการ Ringsideการเมือง ถึงกรณีการร้อง MV เช้าวันใหม่ ของพรรคประชาธิปัตย์อาจเข้าข่ายผิดระเบียบการหาเสียงเลือกตั้ง ว่า ระเบียบ กกต.ว่าด้วยการเลือกตั้งนั้น ยาวมากเป็นร้อย ๆ หน้า และมีกฎจำนวนมากที่หยุมหยิมไร้สาระ อย่างเรื่องห้ามการแสดงต่างๆ ก็เป็นอย่างหนึ่งที่ไร้สาระ ตั้งต้นจากความคิดแบบดูถูกประชาชน

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กฎข้อที่ว่าห้ามไม่ให้ดารา-นักร้อง หาเสียง โดยการแสดงที่มีอุปกรณ์ประกอบ ซึ่งดูแล้วไม่สมเหตุสมผล เป็นกฎที่ดูถูกประชาชนที่เป็นผู้ใช้สิทธิ์ ขณะที่อาชีพหมอ ซึ่งมีความน่าเชื่อถือในสังคมมากกว่าดารา-นักร้องด้วยซ้ำ กลับไม่ถูกห้าม 

อีกทั้ง มองว่า กฎระเบียบของกกต. ข้อดังกล่าว อาจเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญอีกด้วย เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดชัดว่า ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก ซึ่งการที่นักแสดง ดารา - นักร้อง ซึ่งเป็นอาชีพที่ติดตัวมาก่อนจะสมัครรับเลือกตั้ง เหตุใดจึงห้ามไม่ให้ใช้วิชาชีพที่ติดตัวมาในการร้องเพลงให้คนฟัง

กฎหลายข้อเปิดช่องให้คนจับผิดกันตลอดเส้นทางการหาเสียงเลือกตั้ง เกิดคดีรกโรงรกศาลในกระบวนการ สิ้นเปลืองทรัพยากรมากมาย สภาพการเมืองไทยดูไม่สร้างสรรค์ ส่วนหนึ่งก็เกิดจากผู้ออกกฎตั้งต้นมาอย่างไม่สร้างสรรค์ด้วย

กกต.นอกจากจะออกกฎที่ไม่เข้าท่าแล้ว ก็ยังหลีกเลี่ยงการชี้แจงอธิบายความเมื่อสื่อขอสัมภาษณ์ คงหลงผิดคิดว่าตัวเองเป็นศาล ซึ่งไม่ใช่ การจัดการเลือกตั้งที่ดีต้องเริ่มจากที่ทุกคนเข้าใจกติกาตรงกัน ไม่ใช่รอให้เกิดเหตุ เขาจับผิดกัน แล้วค่อยรอดำเนินคดีรกๆ มากมาย เริ่มต้นก็ไม่โปร่งใสแล้ว

 

เทใจให้ลุง!! คนสงขลา หนุน 'บิ๊กตู่' นั่งนายกฯต่อ แต่เชียร์ ส.ส.ประชาธิปัตย์ ทั้งเขตและปาร์ตี้ลิสต์

5 มี.ค. 2566 -ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “คนสงขลาเลือกพรรคไหน” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 17-23 กุมภาพันธ์ 2566 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และมีสิทธิเลือกตั้งในจังหวัดสงขลา กระจายทุกระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,100 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับคนจังหวัดสงขลาเลือกพรรคไหน การสำรวจอาศัย การสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างด้วยวิธีแบบง่าย (Simple Random Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 95.0
.
จากการสำรวจเมื่อถามถึงบุคคลที่คนสงขลาจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 26.00 ระบุว่าเป็น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา (พรรครวมไทยสร้างชาติ) เพราะ ซื่อสัตย์สุจริต มีความเด็ดขาด กล้าตัดสินใจ ทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบ และต้องการให้บริหารประเทศอย่างต่อเนื่อง อันดับ 2 ร้อยละ 18.46 ระบุว่าเป็น น.ส.แพทองธาร (อุ๊งอิ๊งค์) ชินวัตร (พรรคเพื่อไทย) เพราะ เป็นคนรุ่นใหม่ ชื่นชอบพรรคเพื่อไทย นโยบายของพรรคเพื่อไทยสามารถแก้ไขปัญหาราคาสินค้าทางการเกษตรได้ ขณะที่บางส่วนระบุว่า ชื่นชอบผลงานของตระกูลชินวัตร อันดับ 3 ร้อยละ 11.36 ระบุว่าเป็น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (พรรคก้าวไกล) เพราะ ต้องการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามาบริหารประเทศ เป็นคนมีวิสัยทัศน์ ชื่นชอบนโยบายและอุดมการณ์ทางการเมืองของพรรคก้าวไกล อันดับ 4 ร้อยละ 10.36 ระบุว่า ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ อันดับ 5 ร้อยละ 7.18 ระบุว่าเป็น นายกรณ์ จาติกวณิช (พรรคชาติพัฒนากล้า) เพราะ เป็นคนมีความรู้ความสามารถ มีความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ และชื่นชอบนโยบายของพรรคชาติพัฒนากล้า
.
อันดับ 6 ร้อยละ 6.73 ระบุว่าเป็น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ (พรรคประชาธิปัตย์) เพราะ สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ ชื่นชอบผลงานที่ผ่านมา ขณะที่บางส่วนระบุว่า เป็นคนใต้เหมือนกัน อันดับ 7 ร้อยละ 4.64 ระบุว่าเป็น นายอนุทิน ชาญวีรกูล (พรรคภูมิใจไทย) เพราะ มีผลงานชัดเจน มีประสบการณ์ด้านการบริหารประเทศ และชื่นชอบนโยบายพรรคภูมิใจไทย อันดับ 8 ร้อยละ 4.18 ระบุว่าเป็น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส (พรรคเสรีรวมไทย) เพราะ เป็นคนพูดจริงทำจริง ตรงไปตรงมา มีความซื่อสัตย์สุจริต และชื่นชอบวิธีการทำงาน อันดับ 9 ร้อยละ 3.18 ระบุว่าเป็น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (พรรคไทยสร้างไทย) เพราะ ต้องการเปิดโอกาสให้ผู้หญิงเข้ามาบริหารประเทศ มีประสบการณ์ด้านการบริหาร และชื่นชอบนโยบายของพรรคไทยสร้างไทย อันดับ 10 ร้อยละ 1.91 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ อันดับ 11 ร้อยละ 1.27 ระบุว่าเป็น นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา (พรรคประชาชาติ) เพราะ มีประสบการณ์ในการทำงาน และช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง อันดับ 12 ร้อยละ 1.09 ระบุว่าเป็น พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ (พรรคพลังประชารัฐ) เพราะ เป็นคนซื่อสัตย์สุจริต และตรงไปตรงมา และร้อยละ 3.64 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์(พรรคสร้างอนาคตไทย) น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา (พรรคชาติไทยพัฒนา) นพ. ชลน่าน ศรีแก้ว (พรรคเพื่อไทย) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม (พรรคไทยภักดี) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (พรรคประชาธิปัตย์) นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ (พรรคไทยศรีวิไลย์) นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ (พรรคพลังประชารัฐ) นายชวน หลีกภัย (พรรคประชาธิปัตย์) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค (พรรครวมไทยสร้างชาติ) และดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์
 

ชำแหละอเมริกา!! ‘อัษฎางค์’ เบิกเนตรคนไทยเรื่องอเมริกา กางทุกปัญหาเศรษฐกิจ-สังคม ของประเทศมหาอำนาจ

(4 มี.ค.66) นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค’ ในหัวข้อ ‘เบิกเนตรคนไทยเรื่องอเมริกา’ โดยพูดถึงเรื่องปัญหาเศรษฐกิจและสังคมในอเมริกา มีเนื้อหาดังนี้

“ท่านเคยทราบหรือไม่ว่า!” สหรัฐอเมริกามหาอำนาจอันดับ 1 ของโลกก็มีปัญหาเศรษฐกิจและสังคมเหมือนกันกับเมืองไทย” ทำไมประเทศพัฒนาแล้วอย่างสหรัฐฯ กลับมีจำนวนคนไร้บ้านแตะ 6 แสนคน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกเรื่อย ๆ ปัญหาคนไรบ้านสะท้อนถึงเรื่องอะไรบ้าง

สหรัฐเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชน การมีที่อยู่อาศัยเป็นสิทธิมนุษยชนหลัก แต่คนหลายล้านคนยังไม่มีสิทธิพื้นฐานเหล่านี้ ซึ่งรวมไปถึงปัญหาการเหยียดผิว มีสถิติของทางสหรัฐอเมริกาเองระบุว่า ชาวอเมริกันผิวดำเป็นคนไร้บ้านมากกว่าผิวขาวถึงสามเท่า ชาวอเมริกันในหมู่เกาะแถบฮาวายและชนพื้นเมือง Native Americans ก็มีอัตราส่วนไร้บ้านมากกว่าคนผิวขาว การหาซื้อหรือเช่าบ้านของชนกลุ่มน้อยในอเมริกาก็มักโดนกีดกัน

นอกจากนี้ 30% ของคนอเมริกันไร้บ้านมีปัญหาเรื่องปัญหาทางจิตและ 38% ติดสิ่งเสพติดรวมทั้งแอลกอฮอล์ 26% ติดยาเสพติดแบบรุนแรง เมื่อมีปัญหาทางสุขภาพจิตและติดยาก็ทำให้โดนรังเกียจเมื่อไปหาบ้านเช่า ซึ่งมันคือปัญหาแบบงูกินหาง

“ท่านเคยทราบหรือไม่ว่า!” สหรัฐเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชน แต่ความเสมอภาคทางเพศยังเป็นสิ่งที่ต้องปรับปรุงในอเมริกาอีกมาก เช่น กลุ่ม LGBTQ+ ไม่ได้รับการยอมรับเท่าเมืองไทยด้วยซ้ำ

‘เพจลุงตู่ตูน’ เชียร์ ‘บัตรสวัสดิการพลัส’ ช่วยลดภาระ ปชช. ลั่น!! ขอให้ลุงตู่อยู่ต่อ เพื่อทำโครงการให้สำเร็จ

(4 มี.ค. 66) เพจเฟซบุ๊กลุงตู่ตูน ซึ่งเป็นเพจสนับสนุนการทำงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้โพสต์คลิปวิดีโอประชาสัมพันธ์นโยบาย ‘บัตรสวัสดิการพลัส’ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)ได้ประกาศบนเวทีปราศรัยใหญ่ที่ จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยได้สัมภาษณ์ความคิดเห็นของประขาชนต่อนโยบายดังกล่าวด้วย

โดย ในคลิปวิดีโอ ประชาชนที่เป็นกลุ่มแฟนคลับ ต่างให้การสนับสนุนนโยบาย ‘บัตรสวัสดิการพลัส’ ว่า ดีใจมากที่มีนโยบายนี้ โดยเฉพาะการขยายสิทธิจาก 300 บาท เป็น 1,000 บาท เพราะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ให้ได้ซื้อผงซักฟอก สบู่ ยาสีฟัน น้ำมันพืช ข้าวสารอาหารแห้ง และของใช้ต่าง ๆ ในภาวะที่สินค้าอุปโภคบริโภคขึ้นราคา ค่าครองชีพก็สูงขึ้น

‘ท่านใหม่’ เผย!! ได้คุยกับ ‘ลุงป้อม’ หลายเรื่อง ปลื้ม!! ไม่ดึงฟ้า มาแตะการเมือง เหมือนพรรคอื่น

(4 มี.ค. 66) ‘ม.จ.จุลเจิม ยุคล’ หรือ ‘ท่านใหม่’ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า...

การเมืองผมไม่ยุ่งเกี่ยว เป็นหน้าที่ของนักการเมือง เพียงแต่ผมขอร้องว่าอย่าเอามือ (พรรคการเมือง) ไปปิดพระอาทิตย์ พระอาทิตย์ทำคุณประโยชน์ให้เราเหลือคณานับ

ผมได้คุยกับลุงป้อมหลาย ๆ เรื่อง ซึ่งเป็นบรรยากาศที่ดีมากครับ ในหลาย ๆ เรื่อง ผมดีใจที่ได้คุยในสิ่งที่อยู่ในใจผม เรื่องหนึ่ง คือ ขอให้ลุงป้อม มองขึ้นไปบนฟ้าบ้าง อย่าดึงฟ้ามาเล่น แล้วอย่าเอามือไปปิดพระอาทิตย์ เหมือนบางคน บางพรรคการเมือง ไม่ดีหรอกครับลุง

ลุงป้อมรับปากว่า เรื่องนี้ต้องทำ และอยู่ในใจตลอดแน่นอน (ไม่ว่าได้เป็นนายกฯ หรือไม่) เพราะในฐานะเป็นทหารเก่า ตั้งแต่ร้อยตรี ถึงพลเอก ย่อมจะมีความจงรักภักดี และทำเพื่อ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว 

‘โบว์ ณัฏฐา’ โพสต์ฉะ ลูกเล่นการเมืองสกปรกขึ้นเรื่อยๆ เตือน!! ทุกคนตั้งสติ รู้ทันการเมือง อย่าอินเกินพอดี

(4 มี.ค. 66) คุณโบว์-ณัฏฐา มหัทธนา นักกิจกรรมอิสระ และนักเคลื่อนไหวทางการเมืองของไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า…

การเมืองก่อนเลือกตั้งคงสกปรกขึ้นเรื่อย ๆ ในวันที่ยังคุยกันรู้เรื่อง ก็อยากบอกทุกคนให้รักษาสติกับความเมตตาต่อกันไว้ และ 'อย่าอินเกิน'

อย่าลืมว่าดูการเมืองจากวงนอกก็เหมือนนั่งดูมวยปล้ำจากที่ไกล ๆ คุณไม่มีทางเห็นลูกเล่นจากการแสดงจริง ๆ

เรามีประสบการณ์จากการเห็นคนมีปัญหาทางจิตถึงขั้นเพี้ยนไปเพราะอินกับการเมืองมากไป บางคนที่มีปัญหาสุขภาพจิตซ่อนอยู่แล้ว สิ่งเหล่านี้สามารถกระตุ้นจนเขาอาการหนักขึ้นได้ ต้องรับการรักษา

แคลงใจภาวะผู้นำ!! 'จตุพร' ตอก 'เศรษฐา' หลังเลี่ยงตอบคำถาม 'ประยุทธ์' สังคมไม่คาดหวังกับผู้นำ ที่แสดงความเชื่อฟังคนแก่กว่าในมิตินี้

(3 มี.ค.66) ‘นายจตุพร พรหมพันธุ์’ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน ได้แสดงความคิดเห็นถึงกรณีที่ ‘นายเศรษฐา ทวีสิน’ ได้เข้าร่วมเป็นที่ประธานปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยว่า...

 

"บทบาทครั้งนี้ของคุณเศรษฐา ไม่ได้มีผลกับทางการเมืองมาก เพราะเรายังไม่เห็นอะไรชัดเจนจากตัวของ นายเศรษฐากันเท่าไร"

 

นายจตุพร ยังได้กล่าวถึงเรื่องที่ พลเอกประยุทธ์ ได้เอ่ยปากถามถึงนายเศรษฐาด้วยว่า “แล้วเขาเด่นตรงไหนล่ะ ที่เสนอชื่อเขามา เขาเก่งตรงไหน เขาทำอะไรมา เขาทำธุรกิจ และประเทศชาติไม่ใช่ธุรกิจ” ตรงนี้นายเศรษฐานั้น เลี่ยงที่จะตอบถึงเรื่องนี้ ซึ่งอันที่จริงเขาควรจะตอบเพื่อแสดงถึงความตั้งใจที่จะเข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้ ไม่ใช่เลี่ยงตอบคำถามเช่นนี้

 

นายจตุพร กล่าวต่อว่า เมื่อนายเศรษฐา ถูกคาดหมายจะมาเป็นผู้นำประเทศ ก็ต้องตอบข้อครหาเชิงกล่าวหาของพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ใช่มาแสดงมารยาททางสังคมต้องเชื่อฟังคนแก่กว่า ซึ่งประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไรกับความคาดหวังในภาวะผู้นำของประเทศเช่นนี้

 

 

 

Quote คำพูดของนายกรัฐมนตรี

(3 มี.ค.66) ที่วัดใหญ่ชัยมงคล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางกลับออกจากวัดใหญ่ชัยมงคล ภายหลังจากที่ได้กราบไหว้สักการะพระพุทธชินราช และสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และได้ขอพรอะไรบ้าง ว่า “ก็เหมือนทุกครั้ง เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน สืบสานวัฒนธรรมประเพณีไทยที่พระมหากษัตริย์องค์ก่อน ๆ ได้ทำไว้”

 

เสื่อมเสียต่อสภาฯ!! สภาฯ สั่งลุย! ตั้งคณะกรรมการฯ สอบข้อเท็จจริง ปม ส.ส.เล่นพนัน ลั่น! หากผิดจริง ฟันตามกฎหมาย

(3 มี.ค.2566) ว่าที่ ร.ต.ยุทธนา สำเภาเงิน ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ในฐานะโฆษกประจำสำนักงานเลขาธิการสภาฯ ชี้แจงกรณีที่ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้ตรวจสอบพฤติกรรมของ ส.ส. กรณีพบการเล่นการพนันในพื้นที่อาคารรัฐสภาบริเวณห้องทำงานของ ส.ส. ว่า ในการเข้าใช้ห้องทำงานของ ส.ส. ยังมีระเบียบรัฐสภาว่าด้วยการบริหารจัดการพื้นที่และอาคารรัฐสภา พ.ศ. 2565 เกี่ยวกับข้อปฏิบัติทั่วไปในการใช้พื้นที่และอาคารรัฐสภา ข้อ 8 (2) ที่ห้ามมิให้มีการกระทำการใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมอันดี

 

ดังนั้น เมื่อปรากฏตามข้อร้องเรียนว่า มี ส.ส. เล่นการพนันภายในพื้นที่รัฐสภา ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ. 2478 อันเป็นความผิดตามกฎหมายอาญา และฝ่าฝืนข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของ ส.ส. และกรรมาธิการ พ.ศ. 2563 ที่กำหนดให้สมาชิกฯ ต้องรักษาไว้และปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่กระทำการใด ๆ อันก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติภูมิของประเทศชาติและสภาฯ

‘บิ๊กตู่’ ลั่น กำลังร่างประมวลกฎหมายท้องถิ่น ยกฐานะ อบต. เป็นเทศบาล ตามหลักการปกครองท้องถิ่นสากล

เมื่อวานนี้ (2 มี.ค.66) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานพิธีเปิดโครงการสัมมนา ‘บทบาทท้องถิ่นไทยกับการกระจายอำนาจเพื่อการไปต่ออย่างยั่งยืน’ พร้อมกล่าวปาฐกถา ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี (ศูนย์สามพร้าว) ตำบลสามพร้าว อำเภอเมืองอุดรธานี
 

'ก้าวไกล' ขยี้ต่อ!! ร้อง ครม.ระงับทุกโครงการ ก.คมนาคม หลังผนึกกำลังฝ่ายค้าน เอาผิด 'ศักดิ์สยาม' นอกสภาฯ

'ก้าวไกล' เรียกร้อง ครม. หยุดอนุมัติโครงการคมนาคมทุกโครงการทิ้งทวนก่อนยุบสภา หลังศาลรัฐธรรมนูญสั่ง "ศักดิ์สยาม" หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว เพื่อรักษาผลประโยชน์ประชาชน

(3 มี.ค.66) ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์รับคำร้อง กรณีที่ขอให้ศาลฯ วินิจฉัยคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรีของ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สิ้นสุดลงเฉพาะตัว สืบเนื่องจากการคงไว้ซึ่งหุ้นส่วนและยังคงเป็นผู้ถือหุ้นและเจ้าของ หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น โดยศาลฯ พิจารณาให้ศักดิ์สยาม ผู้ถูกร้อง หยุดปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรี จนกว่าศาลฯ จะวินิจฉัย

ปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า กรณีนี้เป็นการยื่นคำร้องร่วมกันของ ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน 54 คน ตั้งประเด็นหลักมาจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจของตนเมื่อกลางปี 2565 โดยจากข้อมูลเอกสารที่ตนได้รับมานั้น พบว่าการโอนหุ้น หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ซึ่งเคยเป็นของศักดิ์สยาม และได้โอนหุ้นออกไปก่อนจะรับตำแหน่งรัฐมนตรีนั้น มีพิรุธอยู่ในหลายจุด

ไม่ว่าจะเป็น ผู้ที่รับโอน ซึ่งปรากฏว่ามีความพัวพันกับครอบครัวชิดชอบมาอย่างยาวนาน, การให้ หจก. ใช้ที่อยู่บ้านของตระกูลตนเองต่อยาวนานเป็นปี ทั้งๆ ที่ไม่มีสถานะผู้ถือหุ้น หรือกรรมการใน หจก.แล้ว, การยื่นทรัพย์สินของศักดิ์สยาม ที่น้อยจนผิดปกติ หากมีการขายหุ้นครั้งนี้จริง, ตัวเลขในงบการเงิน ที่มีความขัดแย้งกันในตัวเอง, ราคาในการซื้อขายซึ่งไม่สมเหตุสมผลกับรายได้ของธุรกิจ และไม่ปรากฎหลักฐานการโอนเงินการซื้อขายหุ้นครั้งนี้

มั่นใจในหลักฐาน ‘ศักดิ์สยาม’ ยันถอนหุ้นก่อนนั่ง ‘รมว.คมนาคม’ ลั่น!! พร้อมแจงข้อมูล หลังศาลรธน. สั่งหยุดปฎิบัติหน้าที่

(3 มี.ค.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเอกฉันท์ให้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ หยุดปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นการชั่วคราว ระหว่างรอคำวินิจฉัยในคำร้องที่พรรคร่วมฝ่ายค้าน 54 คน เข้าชื่อให้วินิจฉัยสถานภาพความเป็นรัฐมนตรีต้องสิ้นสุดลง หลังยังคงถือหุ้นและเป็นเจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ซึ่งเข้าข่ายขาดคุณสมบัตินั้น

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังไลน์ส่วนตัวของนายศักดิ์สยาม โดยนายศักดิ์สยาม ระบุว่า หลังจากที่ได้รับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญอย่างเป็นทางการ ก็จะชี้แจงข้อกล่าวหาไปตามกรอบเวลาภายใน 15 วัน นับจากวันที่ได้รับแจ้งจากศาลรัฐธรรมนูญ อย่างเป็นทางการ ซึ่งตนได้เตรียมคำชี้แจงไว้เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ตนได้ยกเลิกภารกิจตรวจราชการที่จ.นครนายก และจ.ปราจีนบุรี ตามกำหนดการเดิมของวันนี้ทั้งหมดแล้ว

เจ๊งไม่ต่างกัน!! 'จตุพร' ซัด 'เศรษฐา' พา 'ปู' เจ๊งไม่เป็นท่า เชื่อ 'อิ๊งค์' ก็คงไม่ต่าง พร้อมเตือน!! เปิดตัวแล้ว ก็ต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์ ตรวจสอบเข้มข้น

(3 มี.ค.66) นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน "เปิดตัวจริงหรือ?" โดยกล่าวถึงการเปิดตัวของนายเศรษฐา ทวีสิน นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของประเทศ ถูกแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย แต่แบ่งรับแบ่งสู้กับงานการเมืองในอนาคตจะเป็นแคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทยหรือไม่ พร้อมตำหนิไม่กล้าแสดงภาวะผู้นำตอบโต้ข้อกล่าวหาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

นายจตุพร กล่าวว่า กรณีของนายเศรษฐา เปิดตัวก็ต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์ ตรวจสอบเข้มข้น ซึ่งไม่ยกเว้นกระทั่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จาก พลังประชารัฐ (พปชร.) นายอนุทิน ชาญวีระกูล จากภูมิใจไทย และ พล.อ.ประยุทธ์ จากรวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ก็ต้องตรวจสอบภาวะผู้นำที่จะนำพาความหวังประชาชนเช่นกัน และความเป็นผู้นำต้องอดทนในการชี้แจง

อย่างไรก็ตาม เมื่อนายเศรษฐา เปิดตัว ถูก พล.อ.ประยุทธ์ วิจารณ์หนักในด้านความเก่ง ทำอะไรมา กลับไม่ตอบให้ตรงและชัดเจนเพื่อแสดงถึงภาวะผู้นำ แต่ไปยกย่องให้ พล.อ.ประยุทธ์ มีวุฒิภาวะที่เหนือกว่า แล้วหลีกเลี่ยงข้อครหาอันเป็นสาระสำคัญที่ว่า เศรษฐกิจประเทศไม่ใช่ธุรกิจของครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง

สิ่งน่าสนใจ นายจตุพร เห็นว่า เมื่อนายเศรษฐา ถูกคาดหมายจะมาเป็นผู้นำประเทศ ก็ต้องตอบข้อครหาเชิงกล่าวหาของ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ใช่มาแสดงมารยาททางสังคมต้องเชื่อฟังคนแก่กว่า ซึ่งประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไรกับความคาดหวังในภาวะผู้นำของประเทศเช่นนี้

"นายเศรษฐา ไม่ได้เป็นคนใหม่เลย สมัยยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แม้ไม่ได้รับการแต่งตั้งเป็นทางการ แต่ก็เป็นที่ปรึกษาที่ไม่เป็นทางการคนหนึ่งในจำนวนสามคน รวมถึงทักษิณและ พล.อ.ประยุทธ์ ด้วย จนนำไปสู่การล่มสลายของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่สำคัญตำแหน่งเลขาธิการนายกฯ และ รมต.สาธารณสุข ก็เป็นคนของนายเศรษฐา ซึ่งทั้งสองจุดนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพินาศย่อยยับของรัฐบาลยิ่งลักษณ์”

ศาลรัฐธรรมนูญ สั่ง หยุดปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรี ปม 'ถือหุ้น-เป็นเจ้าของ' หจก.บุรีเจริญ

(3 มี.ค.66) องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีการประชุมปรึกษาคดี กรณีที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคําร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) ประกอบ มาตรา 187 หรือไม่

ทั้งนี้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จํานวน 54 คน ยื่นคําร้องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม (ผู้ถูกร้อง) ยังคงไว้ซึ่งหุ้นส่วนและยังคงเป็นผู้ถือหุ้น และเจ้าของห้างหุ้นส่วนจํากัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น อย่างแท้จริง ซึ่งจะทําให้ผู้ถูกร้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับ การบริหารจัดการหุ้นหรือกิจการของห้างหุ้นส่วน

เป็นการกระทําอันเป็นการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 187 ประกอบพระราชบัญญัติการจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ. 2543 มาตรา 4 (1) เป็นเหตุให้ ความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) หรือไม่ ผู้ร้องจึงส่งคําร้องเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ผลการพิจารณา


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top