Sunday, 5 May 2024
POLITICS

'สมคิด' จี้ 'กกต.' จัดการเลือกตั้งให้โปร่งใส-ยุติธรรม ลั่น!! 'พท.' แลนด์สไลด์แน่นอน เหตุ ปชช.ตอบรับนโยบาย

(22 ก.พ. 66) นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบล ราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) ฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านหรือวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า จากที่พรรคพท.ลงพื้นที่ในนามครอบครัวเพื่อไทยในหลายพื้นที่ พบว่า ได้รับการตอบรับจากพี่น้องประชาชนเป็นจำนวนมาก ตั้งเป้าว่า หลังจากหมดสมัยประชุมสภาสมัยสามัญ พรรค พท.จะเปิดเวทีทั้งในนามพรรคและในนามครอบครัวเพื่อไทยทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อนำเสนอนโยบายของพรรคต่อประชาชน มั่นใจว่าประชาชนจะตอบรับผู้สมัครของพรรคทั่วประเทศอย่างแน่นอน จากการที่ ส.ส.และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ลงพื้นที่ต่อเนื่อง เพื่อนำนโยบายดี ๆ ของพรรคไปชี้แจงกับประชาชน พบว่าสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน และมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

เชื่อว่าจะสามารถสร้างแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดินได้อย่างแน่นอน มั่นใจว่า ผู้สมัครของพรรคจะได้รับชัยชนะมากกว่า 250 เขต เลือกตั้งทั่วประเทศ เพราะพี่น้องเกษตรกรทั่วประเทศตอบรับนโยบายของพรรค และมั่นใจว่าเป็นนโยบายที่สามารถจับต้องได้ นำมาปฏิบัติได้จริง ต่างจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ไม่มีนโยบายไหนที่ช่วยพี่น้องเกษตรกรอย่างจริงใจได้เลย ระบบเศรษฐกิจทุกระดับเสียหายหมด ยกเว้นระดับนายทุนใกล้ชิดรัฐบาลที่รวยขึ้น

ผู้ร่วมก่อตั้งอนาคตใหม่ เผย ‘ปิยบุตร’ ที่รู้จัก เลย ‘มือพาย’ ไปไกล แค่หวั่นใจทิศทางวันนี้

(22 ก.พ. 66) นายภูวกร ศรีเนียน หรือ 'จ.เจตน์' หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) และอดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 จังหวัดพะเยา โพสต์เฟซบุ๊ก Phuvakorn Srinean แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล กับนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ในหัวข้อ 'อ.ปิยบุตร ที่ผมรู้จัก' มีเนื้อหาดังนี้...

"มือไม่พาย เอาเท้าราน้ำ"
ช่วงปี 53 หลัง ทหารสลายการชุมนุมเสื้อแดง
กระแสสังคม คนกรุง ที่มีความรู้ ทันสมัย ส่วนใหญ่
เหยียบย่ำ ซ้ำเติม ผู้ชุมนุม

มีกลุ่มอาจารย์จำนวนหนึ่ง ออกมายืนยันความถูกต้อง ออกมายืนยันสิ่งที่ควรจะเป็นไปอย่างตรงไปตรงมา โดยไม่สนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง

หนึ่งในนั้น มีอาจารย์กฏหมาย ชื่อ ปิยบุตร
นี่คือครั้งแรกในชีวิต ที่ผมรู้จักเค้า 

"มือไม่พาย เอาเท้าราน้ำ"
ช่วงก่อน น้ำท่วม ปี 54  กลุ่มอาจารย์เหล่านั้น
ใช้ชื่อ ว่า นิติราษฏร์ ออกมา พูดดัง ๆ ในสังคม

ล้างพิษรัฐประหาร 49 จนเป็นความหวังของคนในสังคม ที่แสวงหาหลักการประชาธิปไตยอย่างจริงจัง

เป็นการจุดคบเพลิงความคิดที่มีพลัง
แน่นอน หนึ่งในนั้น มีอาจารย์ป๊อก รวมอยู่ด้วย

"มือไม่พาย เอาเท้าราน้ำ"
กฏหมาย มาตรา 112 เริ่มถูกพูดถึง ในยุคที่วัยรุ่น
ยังไม่ตื่นตัวทางการเมือง

ความเสี่ยงต่าง ๆ ในการอธิบายเรื่องนี้ต่อสังคม 
แน่นอน มีน้อยคนที่จะกล้าหาญ
หนึ่งในนั้น มีอาจารย์ป๊อก รวมอยู่ด้วย

"มือไม่พาย เอาเท้าราน้ำ"
ช่วงก่อตั้งอนาคตใหม่ ต้นปี 61 หลายคนต้องตัดสินใจเปลี่ยนชะตาชีวิตตัวเอง  
ในวันที่ไม่มีใครรู้ว่า การตั้งพรรคการเมืองแนวใหม่ จะประสบผลอย่างไร

‘จักรพล’ จวก รัฐเมินแก้ปัญหา นทท. ล้นสนามบิน ชี้!! ควรยกระดับการบริการ กู้ภาพลักษณ์ประเทศ

(22 ก.พ. 66) นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา ปรากฏภาพในโซเชียลที่นักท่องเที่ยวจำนวนมาก ณ ด่านขาเข้าของนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งซ้ำรอยกับวันที่ 30 ต.ค.65 นักท่องเที่ยวบางกลุ่มแสดงความคิดเห็นว่านี่คือฝันร้ายในช่วงนั้น การบริการที่เกิดขึ้นอาจส่งผลภาพลักษณ์ที่เสียหายต่อประเทศ จึงขอเสนอแนะมาตรการเพื่อบรรเทาและเพิ่มประสิทธิภาพในการรับนักท่องเที่ยวดังนี้ 

1.) ยกเครื่องระบบการต้อนรับนักท่องเที่ยวให้อยู่ในรูปแบบ One single Service หรือ One single checkpoint ให้ครบจบในที่เดียว ใช้เทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยเหลือทั้งท่าอากาศยาน ชายแดน หรือในรูปแบบอื่น ๆ อีกทั้งต้องเพิ่มช่องตรวจหนังสือเดินทางที่ด่านขาเข้าของนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศให้เป็น 150 ช่องในช่วงที่จำนวนนักท่องเที่ยวหนาแน่น โดยวิเคราะห์จากข้อมูลการเข้าประเทศย้อนหลัง และควรระบายผู้โดยสารเฉลี่ย 8,000 คนต่อชั่วโมงให้ได้

เรา 3 คน...

เรา 3 คน...

'โรม' จ่อ ยื่น 'ป.ป.ช.' ฟัน 'อุปกิต' ปมแสดงทรัพย์สินเท็จ เหน็บ 'ส.ว.' ปากบอกเป็นคนดี แต่สุดท้ายช่วยพวกเดียวกัน

(22 ก.พ. 66) ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ กรณีการยื่นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เอาผิดนายอุปกิต ปาจรียางกูร ส.ว. ว่า ตนตั้งเป้าว่าภายในวันที่ 28 ก.พ.นี้ ตนจะเอานายอุปกิตเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมที่ควรจะเป็นให้ได้ ซึ่งเป็นบันไดขั้นสำคัญที่เราจะต้องทำให้กระบวนการยุติธรรมและประชาธิปไตยเรากลับคืนมา

แม้ปากของรัฐบาลบอกว่าจะจัดการเรื่องทุนสีเทา แต่ถึงเวลาก็ไม่ทำอะไร ไม่แม้แต่จะเสแสร้งว่าจะทำ หากตนเป็นนายกฯ ก็คงจะบอกว่าจะจัดการให้ จะตั้งตำรวจให้มีการสอบสวน แต่รัฐบาลไม่แม้แต่จะพูดประโยคนี้ แสดงให้เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมที่จะปล่อยเรื่องนี้ให้สังคมลืมไป ซึ่งเมื่อมีตำรวจน้ำดีทำเรื่องนี้ ก็ถูกสั่งย้าย ฉะนั้น เราจะปล่อยให้คนดีอยู่อย่างลำบากไม่ได้ ขณะเดียวกัน คนที่อาจจะเกี่ยวข้องกับการค้ายาไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย และไล่ฟ้องปิดปากคนอื่นไปทั่ว ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนรับไม่ได้ที่สุด

‘ผบ.เหล่าทัพ’ เข้าประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ หลัง ‘บิ๊กตู่’ ประกาศยุบสภาฯ เดือนมีนาคม

(22 ก.พ. 66) ที่ห้องเจ้าพระยา หอประชุมกองทัพเรือ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ พล.อ.เฉลิมพล  ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) เป็นประธานการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 3 ประจำปีงบประมาณ 2566 โดยมี พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตตแก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) พล.อ.อ. อลงกรณ์ วัณณรถ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เข้าร่วมประชุม

โดยเมื่อเวลา 08.30 น. ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้เดินทางไปยัง กองบัญชาการกองทัพเรือ พระราชวังเดิม โดยมี ผู้บัญชาการทหารเรือ ให้การต้อนรับ โอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้ถวายสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จากนั้น ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้เชิญผู้บัญชาการทหารสูงสุดขึ้นแท่นรับความเคารพจากทหารกองเกียรติยศ และตรวจแถวทหารกองเกียรติยศ ก่อนเดินทางไปยังท้องพระโรงชั้นในเพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในท้องพระโรงชั้นใน และลงนามในสมุดเยี่ยม

'บิ๊กป้อม' กำชับ 'กกท.' บริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพ หนุนงบฯ ปี 67 ยกระดับนักกีฬาไทย สู่ความเป็นเลิศในสากล

(22 ก.พ. 66) พล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษกรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 2/2566 ณ ห้องประชุม มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์

ที่ประชุมได้มีการหารือและรับทราบ รายงานผลการติดตามการใช้จ่ายงบประมาณของ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ประจำปี 66 ซึ่งได้มีการปฎิบัติตามแผนงาน ภายใต้กฎระเบียบอย่างเคร่งครัด และรับทราบผลการดำเนินงานของคณะกรรมการตรวจสอบ กกท. ประจำปี 66 ไตรมาส 1 พร้อมข้อเสนอแนะ เพื่อการบริหารความเสี่ยงให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในไตรมาส 2 อาทิ การนำกระบวนการบริหารความเสี่ยง ไปใช้ในการพัฒนาตามเกณฑ์การประเมินสมาคมกีฬา ให้มีประสิทธิภาพและการทบทวนแนวทางการพัฒนากีฬาอาชีพ และกีฬาเป้าหมายให้มีความเหมาะสม เป็นต้น

‘คริส’ ขยี้ ‘พิธา’ เลิกมองคนวิจารณ์เป็นศัตรู เพราะยิ่งตอกย้ำ ‘ลัทธิบูชาผู้นำ-โปลิตบูโร’

(22 ก.พ. 66) นายคริส โปตระนันท์ อดีตว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตจตุจักร พญาไท ราชเทวี พรรคก้าวไกล (ก.ก.) โพสต์เฟซบุ๊ก ‘คริส โปตระนันทน์ - Chris Potranandana’ ภายหลังนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ตอบโต้กับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุว่า…

วัฒนธรรมการซุกปัญหาไว้ใต้พรมไม่ใช่ส่วนผสมของระบอบประชาธิปไตย การบอกว่ามาทำภารกิจกันก่อน ส่วนข้อวิจารณ์ ขอให้ทำการภายใน เดี๋ยวเราค่อยแก้ไข ไม่ต่างกับ 'การขอเวลาอีกไม่นาน'

การวิพากษ์วิจารณ์ในที่สาธารณะ อาจเป็นเรื่องยากและเรื่องใหม่สำหรับบ้านเรา ที่มักติดกับ 'ลัทธิบูชาผู้นำ'

พรรคก้าวไกลยังดีกว่านี้ได้ ต้องเลิกคิดว่าคนที่วิจารณ์ทั้งหมด เป็นศัตรู คุณมาทำการเมือง ต้องน้อมรับคำวิจารณ์ แก้ไขหรือไม่แก้ไขเป็นเรื่องของทีมบริหาร

‘ปิยบุตร’ โต้กลับ ‘พิธา’ “เอาดีเข้าตัว เอาชั่วให้ผม” ลั่น!! พฤติกรรมแบบนี้ ปล่อยผ่านไม่ได้

จากกรณีที่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อและอดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) เผยแพร่บทวิเคราะห์ ‘แลนด์สไลด์ ที่พรรคก้าวไกล (ก.ก.) แก้ไม่ออก’ โดยช่วงหนึ่งกล่าวถึง ‘ผู้นำพรรคก้าวไกล’ นำมาสู่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล ออกมาระบุถึงการครบรอบ 3 ปี ยุบพรรคอนาคตใหม่ พร้อมกล่าวถึง ‘ปิยบุตร’ ต้อง ‘เลิกมือไม่พายเอาเท้าราน้ำ’ เลิกทำตัวไม่เป็นมืออาชีพ ทำตามที่ ‘ธนาธร’ เคยขอ กลับมาช่วยกันเท่าที่กฎหมายอนุญาต ทำให้คนที่เคยปรามาสอนาคตใหม่ ก้าวไกล คิดผิด และอนุญาตให้ตนและอีกหลายร้อยชีวิตที่พรรคมีสมาธิในการทำงานโค้งสุดท้ายนั้น

ล่าสุด (22 ก.พ.66) นายปิยบุตรกล่าวถึงโพสต์ของนายพิธา ผ่านเฟซบุ๊ก Piyabutr Saengkanokkul โดยระบุว่า เพิ่งได่อ่านที่ ‘คุณพิธา’ เขียน ‘เอาดีเข้าตัว เอาชั่วให้ผม’ ทั้งหมด Ok ได้ จัดไป

ผมจะเขียนอธิบายให้ฟังทั้งหมดยาว ๆ ทั้ง ๆ ที่ผมไม่อยากพูดเรื่อง ‘คุณพิธา’ เลย พยายามวิจารณ์พรรคอย่างตรงไปตรงมา ไม่พูดถึงตัวบุคคล แต่ ‘คุณพิธา’ ก็ให้เกียรติโพสต์สื่อสารถึงผมโดยตรงขนาดนี้ ก็ถือเสียว่า ‘คุณพิธา’ คงอยากคุยกับผมในที่สาธารณะ ผมจึงจำเป็นต้องตอบโดยละเอียดทุกประเด็น ประชาชน สมาชิก ผู้สนับสนุนพรรค จะได้รู้เสียทีว่า ‘คุณพิธา’ เอารัดเอาเปรียบพวกผม ทีมงาน พนักงาน ทีมจังหวัดทั่วประเทศ ส.ส. และผู้สมัคร ส.ส.เพียงใด ใครกันแน่ ‘มือไม่พาย เอาเท้าราน้ำ’ ใครกันแน่ ‘จับเสือมือเปล่า’

เมื่อวานเย็น ผมนัดกินข้าวกับเพื่อนมิตรและเพื่อน ส.ส. มีทีมงานมาบอกว่า ‘คุณพิธา’ โพสต์ตอบโต้ผม ให้ผมใจเย็น ๆ อย่าตอบโต้ ผมเองก็ไม่อะไร จนเจอธนาธร (ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ) กับชัยธวัช (ชัยธวัช ตุลาธน) ก็รำลึกความหลังครบรอบ 3 ปียุบพรรคอนาคตใหม่ที่เราริเริ่มมาด้วยกัน แล้วก็เคลียร์เรื่องนี้กันไป แต่พอผมกลับบ้านมา เปิดอ่านดู โอ้โฮ ‘คุณพิธา’ เขียนแบบ ‘เอาดีเข้าตัว เอาชั่วเข้าผม’ ไอ้นั่นเรื่องเล็ก

ผมมาเป็นนักการเมืองเจอเรื่องวิจารณ์กันแบบนี้ จะมา ‘ใจเสาะ’ แบบ ‘คุณพิธา’ ไม่ได้ แต่ที่น่ารังเกียจกว่า คือการเขียน ‘ขาวเป็นดำ ดำเป็นขาว’ เสียมากกว่า จนทำให้พนักงาน ทีมงาน ทั่วประเทศคงอึ้งไปตามๆ กันว่า ‘คุณพิธา’ เป็น ‘ผู้นำ’ เพื่อนร่วมงานกว่าร้อยชีวิต แล้วผมเป็นคนที่ ‘ไม่เป็นมืออาชีพ’ มาทำลายพรรคก้าวไกลอย่างที่ ‘คุณพิธา’ พูดจริงหรือ? เขียน ‘ขาวเป็นดำ’ ว่า ‘คุณพิธา’ เป็นพระเมสสิอาห์มากอบกู้พรรค ส่วนผมกลายเป็นพวกทำลายพรรค?

เมื่อไรก็ตามที่สื่อติดต่อผมให้ไปคุยเกี่ยวกับการวิจารณ์พรรคก้าวไกล ผมปฏิเสธทุกครั้ง เพราะไม่ต้องการให้บานปลาย ถือเสียว่าผมเป็น ‘คนนอก’ วิจารณ์เข้าไป (ซึ่งวัฒนธรรมการเมืองในต่างประเทศ ปัญญาชนที่เคยร่วมพรรคกันมา พอออกมา เขาก็วิจารณ์กันเป็นเรื่องปกติ) ก็ใช้เพจของผม เขียนไปเรื่อยๆ ไม่ขยายความดราม่าผ่านสื่อต่างๆ

‘บิ๊กป้อม’ วิดีโอคอลให้กำลังใจกลุ่มผู้พิการ โปรยยิ้มหวาน หลังเจอหยอด “รักจริงๆ ไม่ติงนัง”

(22 ก.พ. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊ก FC ลุงป้อม ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอที่กลุ่ม FC ลุงป้อม ได้เข้าเยี่ยมและให้กำลังใจผู้พิการ ที่มูลนิธิส่งเสริมและพัฒนาคนพิการ จ.นนทบุรี โดยผู้พิการและคุณครูในมูลนิธิ อยากเห็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และอยากพูดคุย

ก่อนที่ พล.อ.ประวิตรจะวิดีโอคอลเข้ามาพูดคุยกับกลุ่มผู้พิการ ท่ามกลางเสียงปรบมือ และแสดงความดีใจที่ได้มีโอกาสพูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร โดยตรง โดย พล.อ.ประวิตร กล่าวทักทาย “สวัสดีทุกคน สบายดีนะครับ ขอบคุณในกำลังใจ และขอให้โชคดีทุกคน”

ทั้งนี้ ตัวแทนผู้พิการในมูลนิธิ ได้กล่าวขอบคุณ พล.อ.ประวิตร ที่เป็นกำลังใจให้กลุ่มผู้พิการมาโดยตลอด รวมทั้งผลักดันนโยบาย และโครงการที่ส่งเสริมสวัสดิการ และคุณภาพชีวิตให้กับผู้พิการทั่วประเทศมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งขอให้ พล.อ.ประวิตร รักษาสุขภาพ และขอเป็นกำลังใจให้กับ พล.อ.ประวิตร ในการทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนต่อไป

'บิ๊กตู่' สั่ง ทุกฝ่ายจัดการอาชญากรรมไซเบอร์เด็ดขาด พร้อมเร่งพัฒนาระบบป้องกันบริการธุรกรรมออนไลน์

(22 ก.พ. 66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตาม และแก้ไขปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์ของไทย ที่สร้างความเสียหายให้ประชาชนคนไทยเพิ่มขึ้นทุกปี เชื่อมั่นว่า เมื่อร่างพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.... มีผลบังคับใช้จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยธนาคารสามารถระงับธุรกรรมที่ผิดปกติ หรือต้องสงสัยได้ทันที

นายอนุชา กล่าวว่า จากสถิติการรับแจ้งความออนไลน์ ตั้งแต่ 1 มีนาคม 2565 – 6 กุมภาพันธ์ 2566 มีการแจ้งความอาชญากรรมทางเทคโนโลยี จำนวนทั้งสิ้น 192,031 คดี เท่ากับมีสถิติคดีแจ้งความประมาณ 1,000 รายต่อวัน มูลค่าความเสียหาย 29,546,732,805 บาท สามารถติดตามอายัดบัญชี 65,872 บัญชี อายัดได้ทัน 445,265,908 บาท มีผู้เสียหายสูงสุดมูลค่าถึง 100 ล้านบาท จึงเป็นสถานการณ์ขั้นวิกฤต ส่วนรูปแบบกลโกงของมิจฉาชีพ 5 อันดับแรก ได้แก่

1.) การหลอกลวงซื้อสินค้า
2). การโอนเงินหารายได้พิเศษ
3.) การหลอกให้กู้เงิน
4.) คอลเซ็นเตอร์
5.) การหลอกให้ลงทุน

นายอนุชา กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้พิจารณาแนวทางดำเนินการเพื่อแก้ไข ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เสนอออกพระราชกำหนดปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพิ่มอำนาจในการสืบสวนสอบสวนให้มีประสิทธิภาพ พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรู้เท่าทัน

ซึ่งการร่วมมือของภาครัฐและภาคเอกชน (Public Private Partnership PPP) เป็นการบูรณาการความร่วมมือเพื่อเป็นเครือข่ายในการยับยั้ง ป้องกัน และสร้างภูมิคุ้มกัน (Cyber Vaccine) แก่ประชาชน เพื่อให้รู้เท่าทันกลโกงของมิจฉาชีพ ล่าสุดได้ร่างพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ... ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีผลบังคับใช้ภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้

'ครม.' ไฟเขียวร่าง ครส. 3 ฉบับ ยกระดับการจ้างงาน เพิ่มวันลาคลอด-วันหยุดพิเศษ-การรักษาพยาบาล

(21 ก.พ. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบหลักการร่างประกาศคณะกรรมการแรงงานวิสาหกิจสัมพันธ์ 3 ฉบับ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ เพื่อยกระดับมาตรฐานขั้นต่ำของสภาพการจ้างในรัฐวิสาหกิจบางประเด็นให้เหมาะสมมากขึ้น ตามข้อเรียกร้องของสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ และแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ และอัตราค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยโรคโควิด-19 ให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า สาระสำคัญของร่างประกาศคณะกรรมการแรงงานฯ มีดังนี้

1.) ร่างประกาศคณะกรรมการแรงงานวิสาหกิจสัมพันธ์ เรื่องมาตรฐานขั้นต่ำของสภาพการจ้างในรัฐวิสาหกิจ (ฉบับที่ ..) เพิ่มเติมประเด็นสำคัญ อาทิ กำหนดเพิ่มเติมให้นายจ้างจัดให้ลูกจ้างมีวันหยุดพิเศษตามมติ ครม. ตามความเหมาะสมและจำเป็นของกิจการ, กำหนดเพิ่มสิทธิลาคลอดบุตร จากเดิม 90 วัน เป็น 98 วัน และกำหนดเพิ่มเติมให้เงินทดแทนที่นายจ้างจะต้องจ่ายให้ลูกจ้าง กรณีประสบอันตราย เจ็บป่วย หรือสูญหาย เนื่องจากการทำงาน ไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี

‘บิ๊กตู่’ ประกาศยุบสภาต้น มี.ค.เลือกตั้ง พ.ค. เปรย กกต.หวังดี ปมยุบพรรคแบบเร่งด่วน

(21 ก.พ.66) ที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนตรงบริเวณทางเชื่อมตึกสันติไมตรีกับตึกไทยคู่ฟ้า ได้ขยับไมโครโฟนออกห่างจุดที่เจ้าหน้าที่ได้จัดไว้ให้ พร้อมกับระบุว่า “ใกล้เกินไปแล้ว ลดรังสีหน่อย เพราะรังสีสื่อค่อนข้างแรง” 

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ผลการประชุม ครม. ว่า ในที่ประชุม ครม. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงไทม์ไลน์การเลือกตั้ง และการเป็นรัฐบาลรักษาการทำอะไรได้ ทำไม่ได้บ้าง และตนได้แจ้งต่อที่ประชุมว่ากำหนดการการยุบสภาจะมีภายในเดือน มี.ค.66 ส่วนกรอบเวลาเลือกตั้งเป็นไปตามที่คณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ประกาศไว้ คือ 7 พ.ค.66 เพื่อให้เวลาภาคส่วนต่างๆ ได้ดำเนินการให้เกิดความเรียบร้อยมากที่สุด เพื่อให้การเลือกตั้งเกิดความเรียบร้อย และระหว่างนี้ขอให้รัฐมนตรี และส.ส.ช่วยกันพิจารณากฎหมายที่คั่งค้างอยู่หากเป็นไปได้ เพราะเป็นกฎหมายสำคัญที่เสนอไปเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง รวมถึงการปฏิรูปต่างๆ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้จะระบุได้เลยหรือไม่ว่า การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นวันที่ 7 พ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องมีสิ ทำไมจะไม่มี เมื่อถามย้ำว่า หมายความว่าจะเกิดวันที่ 7 พ.ค.ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็เป็นไปตามที่ กกต.กำหนดมาแล้ว วันนี้ต้องให้เวลา กกต.ทำกฎหมาย ทำกรอบกติกาให้เรียบร้อย เขาขอเวลามาถึงเดือน ก.พ.

'ปลอดประสพ' แนะ 'บิ๊กตู่' ประกาศวางมือทางการเมือง อ้าง!! คนเป็นสิบๆ ล้านรอฟัง 3 คำ "ผมพอแล้ว"

(21 ก.พ. 66) นายปลอดประสพ สุรัสวดี แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่า...

เพียง 3 คำเท่านั้น
ผมไปงานเลี้ยง วปอ.รุ่นผมซึ่งเก่าแก่มาก ตอนนี้เหลือครึ่งเดียวและก็มีอายุเฉลี่ยเกิน 80 ปี ทุกคนจึงเกือบปลอดการเมือง เราคุยกันและก็สรุปสาระของประเทศไทยจากมุมมองที่ต่างกัน บางคนเคยเป็นรัฐมนตรี เป็นทหารชั้นผู้ใหญ่สูงสุด เป็นตำรวจสูงสุด เป็นนักการธนาคารที่ยิ่งใหญ่มาก ๆ มาแล้ว ความเห็นตรงกันครับ คือประเทศไทยขณะนี้แย่มากจริง ๆ และจะไม่มีวันฟื้นหากประเทศถูกบริหารแบบที่เป็นอยู่ทุกวันนี้

เช้านี้อ่าน นสพ.ไทยรัฐ ปรากฏว่า มีถึง 6 คอลัมน์ที่พูดถึงระบบความเลวร้ายที่เกาะกินประเทศไทยอยู่ในขณะนี้ เช่น วงการตำรวจตกต่ำเรื่องบ่อน เรื่องยาเสพติด เรื่องกลุ่มจีนเทาดำมืดทั่วยุทธจักร ตำรวจลาออกเพราะทนอับอายไม่ไหว ผู้กองฟ้องศาลปกครองเพราะการโยกย้ายไม่เป็นธรรม แถมรายการคุณดนัยรายงานว่า มีการประมูลตำแหน่งผู้จัดการการแต่งตั้งโยกย้าย สำหรับกลุ่มทหารเลวกลุ่มหนึ่งก็หากินกับการซ่อมเรือจนจมลงใต้ทะเล ซื้อเรือดำน้ำซึ่งต่อมา 3 ปีแล้วยังหาเครื่องยนตร์ไม่ได้ สวัสดิการบ้านพักทหารก็ดูดกินเลือดลูกน้องจนบ้าคลั่งไล่ยิงคนตายเป็นเบือ

งานวิจัยเพื่อพัฒนาชาติบ้านเมือง กลับมีตลาดจ้างทำและมีการซื้อขายกันได้ การปฎิรูปการเมืองจบที่แต่งตั้งพวกพ้องเพื่อให้มาเลือกตนเป็นผู้นำประเทศ โดยเข้าใจกันว่า แลกเปลี่ยน กับการเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ปล่อยให้ทำธุรกิจสีดำปื๋อ แถมมีการตกเบ็ดกันเองเพื่อหาคนเข้าพรรค มีการแจกกล้วยเพื่อขอคะแนน อยู่พรรคหนึ่งไปลงคะแนนให้กับอีกพรรคหนึ่ง โดยเฉพาะนายกประยุทธ์ เปลี่ยนไปเป็นสมาชิกพรรคที่กำลังจะชูตนเป็นนายกรอบ 3 ทั้ง ๆ ที่ขณะนี้ตนเองยังนั่งเป็นนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐอยู่ มารยาทแบบนี้เป็นของแปลกมาก แถม สว.แต่งตั้งยังประกาศเทคะแนนให้โดยไม่ต้องฟังผลการเลือกตั้งของประชาชน

'ปิยบุตร' ฟันธง!! 'ก้าวไกล' ไม่รอดกระแส 'แลนด์สไลด์' กลบ แต่ถ้าไม่คิดอะไรมาก รอบนี้ขอเกาะ พท.เป็นรัฐบาลไว้ก่อน

(21 ก.พ. 66) นายปิยบุตร แสงกนกกุล ได้โพสต์เฟซบุ๊ก Piyabutr Saengkanokkul – ปิยบุตร แสงกนกกุล หัวข้อ

['แลนด์สไลด์' ที่พรรคก้าวไกลแก้ไม่ออก] โดยมีรายละเอียดดังนี้

ประชาชนจำนวนมากต้องการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล เปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี หากสังเกตจากผลการสำรวจความคิดเห็นหรือการรับรู้พูดคุยในกลุ่มแวดวงต่าง ๆ เชื่อได้ว่า ร้อยละ 60 อยากเปลี่ยนรัฐบาล และจะใช้การเลือกตั้งในปี 2566 นี้เป็นเครื่องมือสำคัญ

การรณรงค์ให้ลงคะแนนแบบยุทธศาสตร์ เพื่อให้พรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์ กำลังเป็นที่แพร่หลายและได้การยอมรับไปทั่ว

หากดูผลสำรวจความคิดเห็น ก็จะพบว่า คะแนนของพรรคเพื่อไทยและคุณแพทองธารสูงมาก ทั้งในภาพรวมทั่วประเทศ และในทุกพื้นที่ แม้กระทั่งภาคใต้

สำหรับพรรคก้าวไกลเอง คะแนนนิยมอยู่นิ่งอยู่กับที่มาปีเศษแล้ว ผู้อำนวยการนิด้าโพล ได้วิเคราะห์ไว้ในรายการหนึ่งว่า คะแนนของพรรคก้าวไกล เป็น 'น้ำเต็มแก้ว' ไม่เพิ่ม ไม่ลด ไม่ว่าเกิดเหตุการณ์ใด เวลาผ่านไปนานเท่าไร คะแนนก็จะอยู่เท่านี้ เรียกได้ว่า คะแนนจากผลสำรวจที่พรรคก้าวไกลได้รับนั้น คือ 'แฟนพันธุ์แท้'

หากพรรคก้าวไกลต้องการคะแนนมากกว่านี้ ต้องการมี ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ให้มากกว่านี้ จำเป็นต้องแสวงหาคะแนนจากกลุ่มผู้ที่ไม่ตัดสินใจ หรือกลุ่มที่ตัดสินใจเลือกพรรคอื่น จะได้คะแนนส่วนนี้เพิ่มมาได้ พรรคก้าวไกลต้องแก้ปมปัญหาเรื่อง 'แลนด์สไลด์'

คนจำนวนมากที่เป็น 'แฟนพันธุ์แท้' พรรคเพื่อไทย ย่อมลงคะแนนเลือกพรรคเพื่อไทยทั้งสองใบ แต่มีคนอีกจำนวนมากที่รักเพื่อไทย แต่ก็เห็นประโยชน์ของการมีพรรคแบบก้าวไกล

คนจำนวนมากที่รักทั้งสองพรรค

คนจำนวนมากที่เห็นด้วยกับสิ่งที่พรรคก้าวไกลทำ แต่คิดว่าเป็นการต่อสู้ระยะยาว

หรือคนจำนวนมากชอบพรรคก้าวไกล แต่ไม่คิดว่าจะชนะได้ในเขตเลือกตั้ง ไม่คิดว่าจะชนะเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลได้

คนเหล่านี้ อาจเลือก ส.ส.เขตของพรรคเพื่อไทย และแบ่งมาลงคะแนนบัญชีรายชื่อให้พรรคก้าวไกล ทั้งหมดนี้เป็นผลพวงจากความคิดเรื่อง 'แลนด์สไลด์'

ด้วยระบบเลือกตั้งแบบแบ่งเขต 400 บ้ญชี 100 ทำให้คะแนนแบบแบ่งเขตของผู้ที่ไม่ได้ลำดับที่ 1 ถูกทิ้งน้ำไปหมด ไม่เหมือนตอนปี 62 ที่ยังนำมาคำนวณเป็น ส.ส.ทั่วประเทศ

และด้วยความคิดที่ว่า หากเพื่อไทยกับก้าวไกลแข่งกันเองในเขตเลือกตั้ง อาจทำให้แพ้ทั้งคู่ จนพรรคประยุทธ์ หรือพรรคอื่นที่อยู่อีกขั้ว ชนะไป ดังปรากฏให้เห็นหลายเขตในการเลือกตั้งปี 62 ประกอบกับ 'สวิทช์ สว 250' คนยังทำงานออกฤทธิ์ได้อีก

ทั้งหมดนี้ ทำให้ประชาชนที่ต้องการเปลี่ยนรัฐบาลเลือกที่จะเลือกพรรคเพื่อไทยสองใบ หรือเลือกพรรคเพื่อไทยในแบบเขต เลือกพรรคก้าวไกลแบบบัญชีรายชื่อ

หากสถานการณ์และอารมณ์ความรู้สึกของประชาชนส่วนใหญ่ยังเป็นเช่นนี้ ไปจนถึงวันลงคะแนน พรรคก้าวไกลก็จะได้ ส.ส.เขตน้อยมาก และได้ 'ส่วนแบ่ง' จากบัญชีรายชื่อมา รวมยอด ส.ส. ทั้งหมด คงไปไม่เกิน 30

หากพรรคก้าวไกลไม่คิดอะไรมาก ได้เท่าไร ก็เท่านั้น รอบนี้ ขอ 'เกาะพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล' ไว้ก่อน พรรคก้าวไกลก็ไม่ต้องแก้ไขอะไร ไม่ต้องคิดยุทธวิธีใหม่ ประคองตัวไปจนจบเลือกตั้ง และถ้าไม่มีสัญญาณแปลกๆใดมาขัดขวาง หรือรวมเสียงฝ่ายค้านเดิมเพียงพอ พี่ใหญ่” ก็อาจเมตตาชวน 'น้องเล็ก' ไปร่วมรัฐบาล แบ่ง รมต ให้สัก 2-3 ที่

แต่ถ้าพรรคก้าวไกลยังคงต้องการเสียงมากกว่านี้ จำนวน ส.ส.มากกว่านี้ พิสูจน์ตนเองว่าแนวคิดแนวทางที่ทำกันมาตั้งแต่อนาคตใหม่ เป็นสิ่งที่ถูกต้อง ประชาชนเห็นด้วยมาก พรรคก้าวไกลก็ต้องคิดแก้ปมปัญหา 'แลนด์สไลด์' ให้ได้

หนึ่ง ทำให้คนจำนวนมากเชื่อว่าพรรคก้าวไกลมีโอกาสชนะในเขตเลือกตั้งสูง ไม่ใช่พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกลจะเข้าที่ 1 ไม่ใช่เข้าที่ 2 หรือที่ 3 หากทำให้คนจำนวนมากเชื่อได้ คนก็จะมาเลือก เพราะ คะแนนนี้ไม่ทิ้งน้ำ ไม่เปล่าประโยชน์ แต่จะทำให้พรรคก้าวไกลชนะ ส.ส.เขต


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top