"แรมโบ้"สวนกลับแกนนำราษฎร โกหกโกอินเตอร์หลอกเด็ก “ลั่น”ยูเอ็นละเมิดอธิปไตยไทยไม่ได้ “ขี้”ถ้าแอมเนสตี้ไม่มีแผล ไม่ต้องกลัว “ขู่” ถ้าเจตนาร้าย ชักศึกเข้าบ้าน เคลื่อนไหวปลุกปั่นฝ่าฝืนกฎหมาย สมคบล้มล้างการปกครอง ปลายทางคือคุก
นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีกลุ่มม็อบราษฎรแถลงเคลื่อนไหวยกเลิก ม.112 ต่อเนื่อง อีกทั้งนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข เตรียมฟ้องยูเอ็นว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ไม่เคารพสิทธิมนุษยนชน แต่กลับตนแสดงจุดยืนขับไล่องค์กรแอมเนสตี้ออกจากประเทศ และดำเนินคดี112 กับประชาชน ว่า การที่ตนประกาศขับไล่แอมเนสตี้ประเทศไทย นั้นยืนยันไม่มีใครมาสั่งให้ทำ นายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้สั่ง แต่เป็นเพราะองค์กรดังกล่าวสนับสนุนกลุ่มคนที่ทำผิดกฎหมายไทยซ้ำซาก ฝ่าฝืนคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญอันถือเป็นที่สุด มีผลผูกพันทุกองค์กร จาบจ้วงสถาบันรุนแรง แสดงตนเป็นปฏิปักษ์กับสถาบันพระมหากษัตริย์ เสนอเลิกมาตรา 112 กดดันระบบยุติธรรมให้ยกเว้นดำเนินคดีกับจำเลยคดี 112 ที่เป็นแกนนำม็อบทำผิดซ้ำซาก ไม่ใยดีกับสิทธิและเสียงของคนไทยอีกหลายสิบล้านคนที่ทนไม่ไหวกับขบวนการจาบจ้วงสถาบันโดยใช้ข่าวปลอมสารพัดเรื่อง
“แม้กระทั่งกรณีสนามม้านางเลิ้งที่กำลังดำเนินการเป็นสวนสาธารณะก็เคยถูกศาสดาของคนพวกนี้ใส่ร้ายป้ายสีสร้างความเกลียดชังต่อสถาบันมาอย่างต่อเนื่อง
ไล่ดูแถลงการณ์ ไล่ดูกิจกรรม ไล่ดูหน้าเว็บของแอมเนสตี้ แทบจะไม่ต่างจากเว็บของกลุ่มม็อบจาบจ้วงสถาบัน ถ้าแอมเนสตี้ประเทศไทยดำเนินการถูกต้อง ไม่มีแผล ไม่มีการซิกแซก ฝ่าฝืนกฎหมาย กฎระเบียบ ไม่ได้รับเงินต่างชาติมาทำกิจกรรม ไม่ได้รับใช้เพื่อผลประโยชน์ของใคร ไม่ว่าใครก็ทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องเกรง แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เคยชี้แจงรายละเอียดว่ารายรับแต่ละปี เงินทุนที่นำมาดำเนินการมาจากไหน เท่าไหร่ มีแต่ปฏิเสธแบบเรื่อยเปื่อย
