Sunday, 19 May 2024
POLITICS NEWS

“ชัชาติ” ลุยหาเสียงตลาดบางแค เจอร้านค้าบนทางเท้าเยอะ ชี้แนวทางต้องให้คนพื้นที่ช่วยจัดระเบียบ ชัดคนกรุงเทพฯเลือกจากนโยบาย มั่นใจหลังได้รับเลือกทำงานจริง เน้นภาวะผู้นำร่วมใจพน.รับใช้ปชช.

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ลงพื้นที่หาเสียงเขตทวีวัฒนาและเขตบางแค โดยเป็นการเดินหาเสียงที่ตลาดบางแค และตลาดศิริเกษม อีกทั้งเพื่อสำรวจเศรษฐกิจและการบริหารจัดการตลาดภายใต้การบริหารของกทม. บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักมีผู้ค้าขายและผู้ที่มาจับจ่ายใช้สอยให้ความสนใจเป็นอย่างมาก

นายชัชชาติให้สัมภาษณ์ภายหลังการเดินตลาดแล้วว่า ตลาดคือหัวใจของคนกทม. เพราะเป็นแหล่งเศรษฐกิจ วันนี้เรามาเดินตลาดคนก็บ่นให้ฟังเรื่องเศรษฐกิจซบเซาและเรายังเห็นถึงปัญหาร้านค้าบนทางเท้า การจราจรที่ติดขัดด้วยรถที่ต้องเอาของมาขาย ซึ่งเรื่องนี้กทม.ต้องดูแล ตลาดบางแคมีร้านค้าบนทางเท้าเยอะมาก จะว่าเขาก็ไม่ได้เพราะเขาก็ขายกันมานานแล้ว แต่จำเป็นต้องดูแลเรื่องคุณภาพ ไม่ให้กีดขวางทางเดิน หรือร้านค้าที่อยู่ด้านใน ดังนั้นแนวทางในการจัดการตลาดต้องให้เขาช่วยกันดูในพื้นที่ด้วย และตั้งคณะกรรมการที่เป็นนในพื้นที่เพื่อดูแลกันเอง ส่วนกทม.ก็มาดูเรื่องสุขอนามัย ความสะอาด นอกจากนี้ยังมีผู้ค้าขอให้เปิดขายได้ในวันจันทร์ แล้วไปหยุดทุกวันพุธก็ได้ ซึ่งตามปกติแล้ว ตลาดจะหยุดทุกวันจันทร์ เพื่อได้ทำความสะอาดตลาด แต่ถึงอย่างไรเราก็ต้องดูไปด้วย เพราะแต่ละพื้นที่ไม่เหมือนกัน เรื่องนี้คงต้องมาคุยกันตนคงไม่ได้มีคำตอบสำเร็จว่าจะเปิดหรือไม่ แต่ยอมรับว่าพื้นที่ค้าขายเป็นเรื่องสำคัญ กทม.เองมีตลาด13 แห่ง แผงค้า 20,000 แผง ฉะนั้นต้องเริ่มจากตลาดกทม.ก่อน ดูแลเรื่องต้นทุน ความสะอาด เรามีนโยบายทำตลาดให้เป็นออนไลน์ ดังนั้น กทม.มีอไรให้ทำเยอะเลย ตลาดทิ้งไม่ได้เป็นหัวใจหลักของประชาชน การนำเทคโนโลยีมาจัดการก็จะทำให้ชีวิตเราง่ายและสะดวกขึ้นได้

นายชัชชาติ กล่าวว่า กทม.ต้องทำอีกหลายเรื่อง เช่นการดูแลสุขภาพของคนในชุมชนให้เข้มแข็ง จะทำให้ประชาชนไม่ต้องไปออกันที่โรงพยาบาลใหญ่ หนึ่งในนโยบายของเราคือ ทำรถหมอทางไกล เป็นรถที่สามารถพบกับคุณหมอได้ผ่านออนไลน์แม้จะอยู่ที่บ้าน ถ้าป่วยด้วยอาการเบื้องต้น

เมื่อถามว่า เมื่อคนกทม.ไม่ได้เลือกผู้ว่าฯที่นโยบาย  นายชัชชาติ กล่าวว่า ไม่จริงเลย มีคนเข้าไปอ่านนโยบายของตนในออนไลน์จำนวนมาก ตนมองว่าที่ผ่านมาอาจจะไม่มีคนพูดเรื่องนโยบายละเอียด แต่เรามาคิดรูปโฉมใหม่ และจะเป็นข้อดีที่เวลาเราแถลงนโยบายไปมันจะเป็นหลักฐานว่าวันแรกที่เรามา นโยบายเรายยังจะเดินหน้าต่อไป ดังนั้นตนมองว่านโยบายเป็นเรื่องสำคัญบวกกับตัวผู้สมัครที่ต้องไปด้วยกัน ฉะนั้นนโยบายเสมือนอาวุธเราที่เราจะใช้ไปแก้ปัญหา

"ดร.เอ้" ถือฤกษ์วันเกิดปชป. เปิดตัวป้ายหาเสียงแนวใหม่ เวอร์ชั่น 3 ด้านขนาดเท่าเสาไฟฟ้า ยืนยันไม่ได้ลอกเลียนแบบใคร คิดไว้นานแล้ว รับกังวลป้ายถูกกรีดซ้ำ เตรียมปรึกษาฝ่ายกม.พรรคดำเนินการ

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. พรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 4 เปิดตัวป้ายหาเสียงแบบใหม่ แบบ3 ด้านขนาดเท่าเสาไฟฟ้า มาติดประเดิมบริเวณหน้าที่ทำการพรรคประชาธิปัตตย์

นายสุชัชวีร์ ให้สัมภาษณ์ว่า จากนี้ตั้งใจจะระดมติดป้ายแบบใหม่นี้ โดยกำชับไม่ให้ขวางทางเดินประชาชน ซึ่งหลายคนก็คงจะเคยเห็นป้ายหลายๆแบบออกมาแล้ว ย้ำว่าหลักการไม่ให้ขวางทางเดินเท้าและขวางการจราจร ที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ก็ทำป้ายหลายขนาด ซึ่งป้ายเวอร์ชั่น 3 ด้านแนวใหม่นี้ถือเป็นครั้งแรก และเก็บไว้จะมาเปิดตัวในวันเกิดพรรคคือวันนี้(6 เม.ย.) โดยตนได้ให้ติดป้ายจำนวนจำกัด เพราะไม่อยากให้รกเกินจนกีดขวางทางเดินประชาชน โดยป้ายรูปแบบใหม่นี้จะเน้นในพื้นที่ที่ทางเดินจำกัด โดยเฉพาะบนฟุตบาท เนื่องจากกทม.ฟุตบาทจะแคบมาก ขณะที่ป้ายแบบเก่าก็ยังคงมีอยู่ในพื้นที่ที่สามารถติดได้ 

นายสุชัชวีร์ กล่าวต่อว่า ป้ายใหม่นี้เริ่มติดที่บริเวณพรรคประชาธิปัตย์ ขยายไปเขตจตุจักร ลาดพร้าวและเขตอื่นๆ อย่างไรก็ตามยอมรับว่ามีคนแซวว่า สงสัยตอนนี้ไม่เหลือเสาให้สุชัชวีร์ พรรคประชาธิปัตย์แล้ว เพราะอื่นติดไปเยอะแล้ว ซึ่งตนเชื่อว่ายังพอมีให้ติด เนื่องจากป้ายเราไม่ได้มาก และจะใช้เท่าที่จำเป็นให้เหมาะสมกับพื้นที่ และไม่กีกขวาวทางเท้า โดยจะติดครบทุกเขตพร้อมป้ายครอบครัว ส.ก.50 คน เพื่อประกาศความชัดเจน เบอร์ 4 ผู้ว่าฯ และส.ก. 50 เขตที่เบอร์แตกต่างกันไป เราต้องกลัดกระดุมเม็ดแรกให้ถูกต้อง โดยผู้ว่าฯ กทม.ต้องมีส.ก.เพื่อบรรลุเป้าหมาย

เมื่อถามถึงกรณีที่ป้ายหาเสียงที่โดนกรีดก่อนหน้านี้ กังวลว่าป้ายใหม่นี้จะถูกกรีดอีกหรือไม่ นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า กังวลเหมือนกัน เพราะเราทำป้ายแล้วก็ไม่อยากให้รื้อทำใหม่ ส่วนจะดำเนินการตามมาตรการทางกฎหมายหรือไม่นั้น ตนก็อยากทำเหมือนกัน แต่จับมือใครดมไม่ได้ ดังนั้นต้องปรึกษาทีมกฎหมายของพรรคว่าจะดำเนินการอย่างไร

เมื่อถามว่า การทำป้ายขนาดเล็กแบบนี้ถูกมองว่าเป็นการลอกเลียนผู้สมัครคนอื่นหรือไม่ นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า ไม่มีเลียนแบบ ขอย้ำว่าพรรคประชาธิปัตย์เคยทำมาตั้งแต่ปี 2562 สมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จึงไม่อยากพูดว่าลอกเลียนจะหาว่าเขาลอกประชาธิปัตย์ ไม่เอาดีกว่า แต่เราตั้งใจคิดมานานแล้ว เพียงแต่รอเปิดตัววันเกิดพรรค วันที่ 6 เม.ย.

"อนุทิน" นำทัพภูมิใจไทยจัดงาน "ก้าวขึ้นปีที่14" ชื่นมื่น พรรคร่วมรบ.หอบกระเช้าร่วมยินดี แต่ไร้เงา "พปชร." ลั่น พร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง ยัน ส่ง ส.ส.ครบทุกพื้นที่ ขอโอกาสเป็นรัฐบาลอีกครั้งสานต่อนโยบาย "พูดแล้วทำ"

ที่พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นประธานจัดงานทำบุญพรรคภูมิใจไทย "ก้าวสู่ปีที่ 14" โดยมีกรรมการบริหารพรรค รัฐมนตรี และส.ส. รวมถึงสมาชิกพรรค เข้าร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง ขาดเพียงแต่นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี และรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายทรงศักดิ์ ทรงศรี รมช.มหาดไทย และรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โดยมีการจัดพิธีทางศาสนาทั้งพิธีสงฆ์ และพิธีทางศาสนาอิสลาม เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 โดยผู้ที่มาร่วมงานทุกคนต้องแสดงผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยเอทีเคก่อนเข้ามาร่วมงาน นอกจากนี้ยังมีตัวแทนพรรคการเมือง เช่น นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา นายดล เหตระกูล ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา นายวัชระ กรรณิการ์ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย อีกทั้งยังมีตัวแทนภาคเอกชนนักธุรกิจ นำกระเช้าดอกไม้ร่วมแสดงความยินดีด้วย ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าไม่พบตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐเข้ามาร่วมยินดีแต่อย่างใด

จากนั้นเวลา 11.00 น.  นายอนุทิน ได้เป็นประธานแถลงข่าวคิกออฟการเปิดรับสมัครผู้สนใจเสนอตัวเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ผ่านทางเว็บไซต์ระบบออนไลน์ของพรรค

โดยนายอนุทิน แถลงว่า พรรคภูมิใจไทยเริ่มเข้าสู่วัยทีนเอจในปีที่13 เข้าสู่ปีที่ 14 ซึ่งเราเป็นพรรคที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อรับใช้ชาติและประชาชน ท่ามกลางเหตุการณ์มากมายและคำสบประมาท คำปรามาส ด้อยค่ามากมายในช่วงที่เราตั้งพรรคขึ้นมาใหม่ๆท่ามกลางการด้อยค่าทั้งหลาย แต่ทุกคนในพรรคก็ร่วมต่อสู้ไม่ท้อถอย สิ่งสำคัญที่สุดไม่ว่าอยู่ที่ไหนเราจะต้องทำเพื่อประโยชน์ให้บ้านเมือง ประชาชน สุดความสามารถ เราเริ่มจากเจตนารมณ์แรกคือการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ เราก็ยังมุ่งมั่นในเจตนารมณ์นี้อยู่ เราจะไม่ยอมให้ใครมาลบหลู่ จาบจ้วงสถาบันฯ จากนั้นก็มาที่เจตนารมณ์ประชานิยมสังคมเป็นสุข ต่อด้วยสงบ สันติ สามัคคี ที่ทุกคนเห็นว่าไม่มีวินาทีไหนที่พรรคจะแปรผันไปจากเจตนารมณ์หรือนโยบายพรรคที่เราร่วมกันทำมา จนการเลือกตั้งล่าสุดปี 2562 เราเดินหน้านโยบาย เพื่อปากท้องประชาชน ลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน และได้รับความไว้ใจเชื่อมั่นจากประชาชน เลือกให้พรรคมีส.ส.ในจำนวนที่มาร่วมจัดตั้งรัฐบาลได้

“ขณะนี้พรรคภูมิใจไทยมีความแข็งแกร่ง เข้มแข็ง มีพลังเพียงพอที่จะผลักดันทุกนโยบายที่ให้สัญญาไว้กับประชาชนได้ 3 ปีที่ผ่านมาเราพูดแล้วทำ จากนี้เราเป็นพรรคหนึ่งที่จะทำประโยชน์ให้ประชาชน โดยใช้ผลงานสร้างความมั่นใจ พร้อมให้ประชาชนพิสูจน์แล้ว ไม่ว่ารัฐบาลจะมีความมั่นคง หรือมีอุปสรรคใด ไม่ว่าสภาฯ จะมีสิ่งใดๆ เกิดขึ้น แต่สภาฯ ชุดนี้ก็จะครบวาระในวันที่ 22 มี.ค.2566 ครบ 4 ปี เราทำงานมาเข้าปีที่ 4 แล้ว เราจะไม่พูดว่าสภาฯ หรือรัฐบาลเป็นอย่างไร เรามีหน้าที่ทำงาน  พูดแล้วต้องทำให้เกิดผลสำเร็จกับประชาชน ไม่ว่าจะพอใจหรือไม่ ต้องทำให้สำเร็จ อีก 11 เดือนต่อจากนี้คงไม่ลากไปนานกว่านี้แล้วก็จะต้องมีการเลือกตั้งใหม่ เราก็พร้อมขับเคลื่อนนโยบายคู่ขนานไป” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า สำหรับเป้าหมายทางการเมืองจากนี้ไป เราต้องใช้ผลงานที่เรามีเพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนเลือกพรรคภูมิใจไทยเข้ามาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง โดยใช้คนที่เข้าใจวิถีชีวิตประชาชน กล้าพูด กล้าทำ และกล้ารับผิดชอบต่อบ้านเมือง เพื่อให้เราได้สานงานที่ทำมาแล้วไปสู่จุดที่สมบูรณ์ที่สุด รวมถึงเพิ่มสิ่งใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในนโยบายโครงการต่างๆ ยืนยันว่าเราให้ความสำคัญกับทุกภูมิภาค แม้เราไม่ส่งผู้ว่าฯ กทม. แต่เราส่งส.ส.กทม.แน่นอน รวมถึงส่งส.ก.ด้วย ในจำนวนที่เรามี ส.ส.กทม.อยู่ 4 ราย ก็คือส่งส.ก.จำนวน 4 เขต ได้แก่ เขตจอมทอง ธนบุรี เขตสวนหลวง และเขตประเวศ ในนามกลุ่มภูมิใจไทย เพื่อเป็นปากเสียงให้ประชาชน ขณะที่การเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคภูมิใจไทย จะส่งส.ส.ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เหมือนที่เคยทำมา โดยเน้นไปที่พื้นที่ที่เรามีความแข็งแกร่ง พร้อมทั้งมีการเปิดเว็บไซต์ เพื่อเปิดให้ผู้ที่สนใจมาสมัครเป็นส.ส.ของพรรค หากใครคิดว่ามีความสามารถ ทุ่มเท พร้อมรับใช้บ้านเมือง และประชาชน ก็สามารถสมัครเข้ามาได้ทันที จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการคัดเลือกเป็นผู้แทนฯ ของพรรคภูมิใจไทย

"แสนยากรณ์" ทวงถาม บังคับใช้ รธน.ครบ 5 ปี ปฏิรูปประเทศไม่เกิดตามเป้า ขอทุกฝ่ายหนุนแก้ รธน. ยกเลิกอำนาจ ส.ว.เลือกนายกฯ ให้สำเร็จก่อนยุบสภา 

6 เมษายน 2565 นายแสนยากรณ์ สิงห์วีรธรรม โฆษกพรรคกล้ากล่าวว่า วันนี้เป็นวันครบรอบรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 บังคับใช้เป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศมา 5 ปีแล้ว ซึ่งหัวใจสำคัญของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ คือรัฐธรรมนูญฉบับแรกที่กำหนดให้มีการปฏิรูปประเทศ (มาตรา 257 - 261) เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ ประชาชนหลายคน ยอมมองข้ามกติกาหลายข้อที่ไม่เป็นประชาธิปไตย แล้วตัดสินใจเห็นชอบผ่านการออกเสียงประชามติ 

นายแสนยากรณ์ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญมาตรา 259 เขียนเอาไว้ว่า ให้เริ่มดำเนินการปฏิรูปในแต่ละด้านภายใน 1 ปี นับแต่วันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ รวมตลอดทั้งผลสัมฤทธิ์ที่คาดหวังว่าจะบรรลุในระยะเวลา 5 ปี แต่จนถึงวันนี้ซึ่งเป็นวันครบรอบแล้ว กลับไม่ได้รู้สึกว่ามีการปฏิรูปประเทศเกิดขึ้น ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดเอาไว้ 

"รัฐธรรมนูญกำหนดให้มีการปฏิรูปประเทศ 7 ด้าน คาดหวังให้มีผลสัมฤทธิ์ภายใน 5 ปี วันนี้ครบ 5 ปีแล้ว รัฐบาล รัฐสภา กล้าหรือไม่ ที่จะออกมาบอกกับประชาชน ว่าทำเรื่องไหนสำเร็จไปแล้วบ้าง เพราะเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่ ไม่ได้รู้สึกว่ามีการปฏิรูปเกิดขึ้นในประเทศ ความขัดแย้งการเมืองยังมีอยู่ การพัฒนาอย่างยั่งยืนยังไม่เกิดขึ้น ประชาชนส่วนใหญ่ยังต้องเผชิญกับความยากจน การขจัดความเหลื่อมล้ำไม่ประสบผลสำเร็จ คนตัวเล็กลืมตาอ้าปากไม่ได้ ทุนใหญ่ยังคงกดทับผูกขาด โอกาสอันทัดเทียมกัน ไม่ได้เกิดขึ้นจริงตามที่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญ" นายแสนยากรณ์ กล่าว 

“แรมโบ้” ถก อนุกรรมการฯแก้หวยแพง เล็งตั้งคกก. คัดกรองโควตาสลากฯ จ่อ ดึงผู้ค้าออนไลน์เข้าระบบมีใบอนุญาต ใช้กฎหมาย ฟัน ผู้ขายเกินราคา  

ที่สำนักงานข้าราชการพลเรือน นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวก่อนการประชุมคณะอนุกรรมการฯ ว่า  การประชุมวันนี้มีตัวแทนหน่วยงานภาครัฐ ทั้งผู้เชี่ยวชาญจากสำนักงานอัยการสูงสุด กระทรวงมหาดไทย สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย กรมสอบสวนคดีพิเศษ ตัวแทนจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เข้าร่วมหารือเพื่อกำหนดกรอบการแก้ปัญหา เตรียมเสนอต่อเข้าที่ประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ ในวันที่ 8 เม.ย. เวลา 13.00 น.ให้ความเห็นชอบ ก่อนจะเสนอต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และกลาโหม รับทราบต่อไป

นายเสกสกล กล่าวว่า การหารือวันนี้จะให้ตกผลึกในการวางกรอบแนวทางดำเนินการควบคุม โดยจะพิจารณาแก้ไข พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ว่าจะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในมาตราใดได้บ้าง หรือจะมีระเบียบข้อบังคับใด ออกมาควบคุม หากมีการขายสลากเกินราคา จะมีวิธีการดำเนินคดีทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา อย่างไร รวมถึงนำกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎหมายฟอกเงิน กฎหมายเกี่ยวกับการล้มละลาย มาบังคับใช้กับผู้ที่ทำผิดกฎหมายขายสลากเกินราคา รวมถึงจะหารือสาเหตุของการกระจายสลาก ที่ไม่สามารถควบคุมราคาได้ว่ามาจากอะไร ซึ่งเรามีข้อมูลอยู่แล้ว และจะนำมืออาชีพที่มีประสบการณ์ ที่เรากำลังไล่จับ เอาเข้ามาอยู่ในกรอบให้มีใบอนุญาตให้ถูกต้อง ควบคุมให้อยู่ในกติกา มาช่วยกันบริการประชาชน จะได้หรือไม่ 

กกต. ยัน บัตรเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.-ส.ก. สีต่างกัน รอเคาะรูปแบบอีกครั้งก่อนจัดพิมพ์

กกต.กทม. ยัน บัตรเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. - ส.ก. สีต่างกัน รอเคาะรูปแบบอีกครั้งก่อนจัดพิมพ์ เตือนข้าราชการการเมือง - ส.ส. ห้ามช่วยผู้สมัครหาเสียงเด็ดขาด

เมื่อวันที่ 6 เมษายน นายสำราญ ตันพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร (กกต.กทม.) กล่าวถึงข้อซักถามของผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) เกี่ยวกับสีของบัตรเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก. ว่า ยืนยันว่าสีของบัตรเลือกตั้งทั้งสองแบบจะแตกต่างกันแน่นอน โดยเบื้องต้นถ้าผู้สมัครเขตเลือกตั้งใดมีผู้สมัครไม่ถึง 10 หมายเลข ขนาดของบัตรเลือกตั้งจะเท่ากับกระดาษขนาด A5 ถ้ามากกว่านี้จะเป็นกระดาษขนาด A4 ทั้งนี้ จากการตรวจสอบจำนวนผู้สมัคร ส.ก. ในแต่ละเขตเข้าใจว่าจะใช้บัตรเลือกตั้งเป็นกระดาษขนาด A5 ส่วนผู้ว่าฯ กทม.ซึ่งมีจำนวนผู้สมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้ มากถึง 31 หมายเลข ดังนั้นบัตรเลือกตั้งจะเป็นกระดาษขนาด A4

“ธนกร” ยัน พ.ร.ฏ. อภัยโทษ เป็นตามหลักเกณฑ์ ด้าน “นายกฯ” ย้ำ กฏหมายต้องถูกต้อง-โปร่งใส-เรียกความเชื่อมั่นและปชช. พร้อมโต้ "สมหมาย" อย่าจ้องตีรัฐบาล แนะ วิจารณ์ให้สมคุณวุฒิ-วัยวุฒิ แนะ ทำตัวให้คนรุ่นหลังสรรเสริญ

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบการดำเนินการตามกฎหมาย ว่าด้วยการอภัยโทษ ว่า  ไม่พบความผิดพลาดหรือความบกพร่องในกระบวนการตรา พระราชกฤษฎีกาอภัยโทษ พ.ศ. 2564 ที่เป็นการให้ประโยชน์แก่ผู้ต้องโทษเป็นการทั่วไป และขั้นตอนการเลื่อนชั้นนักโทษเด็ดขาดเป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการตามกฎหมายกำหนด คณะกรรมการฯ ได้มีข้อเสนอแนะให้ปรับปรุงแนวทางในการจัดชั้น เลื่อนชั้นให้ชัดเจนมากขึ้น และให้นำพฤติการณ์ความร้ายแรงหรือความเสียหายต่อสังคมที่บุคคลนั้นได้ก่อขึ้น มาประมวลร่วมกับผลการพัฒนาพฤตินิสัย รวมทั้ง คณะกรรมการฯ มีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการกำหนดให้มีระยะเวลาปลอดภัย (ระยะเวลาขั้นต่ำ) ในการรับโทษของผู้ต้องขังที่จะต้องได้รับโทษจำคุกมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 หรือ 8 ปี แล้วแต่ระยะเวลาใดถึงก่อน มาเป็นเกณฑ์ก่อนได้รับประโยชน์จากการบริหารโทษของกรมราชทัณฑ์ และลดสัดส่วนในการเสนอขอพระราชทานอภัยโทษ รวมทั้งกำหนดให้คดีทุจริตร้ายแรงได้รับประโยชน์น้อยลงกว่าเดิม

นายธนกร กล่าวว่า นายกฯขอให้ทุกฝ่ายเชื่อมั่นในการทำงานของฝ่ายยุติธรรม ซึ่งเป็นการทำงานที่ต้องดำเนินการเป็นขั้นตอน เป็นธรรม โปร่งใส เป็นการทำงานเพื่อความตอบโจทย์ด้านความเชื่อมั่นของคนทั้งประเทศ และรัฐบาลดำเนินตามกระบวนการทำงานที่มีขั้นมีตอน ครอบคลุม ตรวจสอบได้ ยืนข้างความถูกต้องมาโดยตลอดจึงขอให้เชื่อในความตรงไปตรงมาของรัฐบาล

นอกจากนี้นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีที่นายสมหมาย ภาษี อดีตรมว.คลัง ระบุว่ารัฐบาลไร้ผลงานเป็นชิ้นเป็นอันในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และเสนอให้ยุบสภาฯ ว่า ไม่อยากเชื่อว่าเป็นความคิดของอดีตขุนคลังของประเทศ เพราะไม่ต่างอะไรกับพวกที่ชอบเสนอความเห็นแบบเอามัน ไม่คำนึงถึงหลักการความเป็นจริง อย่าเอาความน้อยใจ ความโกรธ หรืออคติ มาเป็นตัวตั้งในการกระแนะกระแหนโจมตีรัฐบาล และควรจะกลับไปทบทวนตัวเองว่าที่ผ่านมาในอดีตของท่านเป็นอย่างไร สิ่งที่เคยคิดว่าดี เมื่อครั้งที่อยู่ในตำแหน่งได้ทำอะไรไปบ้างหรือไม่ และสำเร็จอย่างที่คิดจริงหรือไม่ เพราะนายสมหมายถือว่าเป็นผู้ใหญ่ของบ้านเมืองคนหนึ่ง ควรวิพากษ์วิจารณ์หรือเสนอแนะให้สมกับคุณวุฒิและวัยวุฒิของท่านด้วย

 “นิกร” เผย “วราวุธ” ยกหูขอโทษ “อนุทิน” เคลียร์ปมปะทะ “มนัญญา” กลางวงครม.แล้ว

เมื่อเวลา 09.05 น. วันที่ 6 เม.ย. ที่พรรคภูมิใจไทย นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา เป็นตัวแทนพรรคชาติไทยพัฒนา เดินทางมามอบดอกไม้ เพื่อแสดงความยินดีกับพรรคภูมิใจไทย "ก้าวสู่ปีที่ 14" 

“ชินวรณ์”มั่นใจกมธ.กม.ลูก ทำทันเปิดสมัยประชุมสภาแน่  เผยเตรียมโหวตผู้ก่อตั้งพรรค 7 เม.ย. ขอให้ยึดหลักกม.อย่ายึดกลุ่มบุคคล

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส. นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ให้สัมภาษณ์ ว่าการพิจารณาของกมธ.ฯ คืบหน้าไปมาก โดยกมธ.ฯ จะรวมประเด็นที่มีความสำคัญว่าประเด็นใดบ้างที่จะต้องลงมติก่อน โดยไม่ต้องรอให้เสร็จทั้งฉบับ เช่น ขณะนี้ร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง กมธ.ฯได้ลงมติไปแล้วในเรื่องค่าธรรมเนียมและค่าบำรุงพรรคและจะมีการลงมติในรายละเอียดประเด็นผู้ก่อตั้งพรรคหรือสมาชิกพรรคให้เข้ามามีส่วนเสนอแนะพรรคตามข้อเสนอบางส่วนหรือไม่และเรื่องการจัดทำไพรมารี่โหวต ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องลงมติแน่นอน โดยจะมีการลงมติในการประชุมกมธ.ฯวันที่ 7 เม.ย.นี้ และหากการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองเสร็จสิ้นก่อน ก็จะนำเวลาที่เหลือมาใช้พิจารณาในร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.จึงมั่นใจว่ากมธ.ฯสามารถพิจารณาร่างพ.ร.บ.ฯทั้ง 2 ฉบับได้ทันก่อนเปิดสมัยประชุมสภาแน่นอน 

“มั่นใจว่าทุกพรรคต้องการที่จะให้กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญทั้ง 2 ฉบับเสร็จรวดเร็ว จึงคิดว่าจะได้รับความร่วมมือจากทุกพรรคการเมืองในการพิจารณาจากชั้นกรรมาธิการฯ” นายชินวรณ์ กล่าว

เมื่อถามว่าในพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ยังมีประเด็นอะไรที่ยังเป็ปัญหาถกเถียงกันไม่จบ นายชินวรณ์ กล่าวว่า มีเรื่องเกี่ยวกับการจัดทำไพมารี่โหวต ซึ่งร่างของพรรคร่วมรัฐบาลใช้วิธีการแบบให้ตัวแทนจังหวัดในการที่จะสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง และเสนอกรรมการบริหารพรรค แต่ในร่างเดิมการทำไพรมารี่โหวตยังให้ใช้วิธีการลงคะแนนซึ่งประเด็นนี้ยังมีความเห็นที่ไม่สอดคล้องกัน จึงต้องมีการถกเถียงกันก่อนที่จะลงมติ ส่วนร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ยังมีเรื่องการคำนวนสัดส่วนบัญชีรายชื่อ ถ้าตามร่างของพรรคร่วมรัฐบาลที่ยึดตามร่าง91 ซึ่งไม่มีประเด็นอื่นใด โดยยึดแบบตรงไปตรงมา ด้วยการหารด้วย 100 แต่มีบางส่วนเห็นว่ามาตรา95 ยังไม่ได้แก้ไข ก็สามารถที่จะไปคิดสัดส่วนส.ส.ที่พึงมี จึงต้องมีการถกเถียงกันในแง่ของกฎหมายต่อไป ซึ่งตนเคยถามคณะกรรมการกฤษฎีกาและคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)แล้วต้องยืนยันให้ชัดเจนว่ากฎหมายที่เป็นติ่งอยู่ในรัฐธรรมนูญมีผลต่อข้อเสนอของกมธ.ฯที่ขอแปรญัตติเข้ามาหรือไม่ โดยทั้ง 2 หน่วยงานจะชี้แจงในวันที่มีการลงมติ 

“รองโฆษกรัฐบาล” ยัน เอาจริงพักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ระหว่างการสอบสวนความผิดร้ายแรง-ล่วงละเมิดทางเพศ-ทุจริตยาเสพติด

น.ส. รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากกรณีที่ครม.มีมติเห็นชอบ ให้ออกจากราชการไว้ก่อน เรื่อง การกระทำความผิดของข้าราชการ กรณีชู้สาว ล่วงละเมิดทางเพศ คุกคามทางเพศ และการใช้สื่อออนไลน์ในการล่วงละเมิดทางเพศหรือคุกคามทางเพศ หากพบกระทำการผิดและมีหลักฐานเพียงพอ เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกันในการดำเนินการทางวินัยและจริยธรรมของข้าราชการ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้ความสำคัญเรื่องนี้เป็นอย่างมาก และกำชับให้ดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด หากพบข้าราชการกระทำผิดวินัยและจริยธรรมร้ายแรง โดยมีหลักฐานชั้นต้นเพียงพอ ให้ออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อสร้างความเป็นธรรมในการสอบสวน

น.ส.รัชดา กล่าวว่า คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพคุรุสภา (กมว.) มีมติดำเนินการกับครู อาจารย์ที่กระทำความผิดในลักษณะล่วงละเมิดทางเพศตามเงื่อนไข ทั้งนี้เมื่อมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนการกระทำผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพครูหรือผู้บริหารแล้ว มติ กมว.ให้พักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพได้ในระหว่างที่ผลการสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จได้ ในกรณีที่เป็นการประพฤติผิดจรรยาบรรณร้ายแรงที่เป็นที่ประจักษ์ หรือมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยแรงร้ายแล้ว เห็นได้ว่ามีเหตุให้สามารถพักใช้ใบอนุญาตฯ ไว้ก่อนได้ การพักใบอนุญาตฯ ไม่ใช่แต่เพียงเรื่องการละเมิดหรือนาจารทางเทศเท่านั้น ยังครอบคลุมไปถึงความผิดเรื่องยาเสพติด และความผิดเรื่องการทุจริตคอร์รัปชันด้วย ซึ่งถือว่าล้วนแล้วแต่เป็นความผิดร้ายแรง สามารถดำเนินการเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพได้ต่อไป หรืออาจจะพักใช้ใบอนุญาตฯ แล้วแต่ผลการสอบสวนตามความรุนแรงของการกระทำผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ

น.ส.รัชดา กล่าวว่า กรณีครูสอนสังคมศึกษาโรงเรียนในเมือง จ.สุรินทร์ มีพฤติกรรมกระทำอนาจารนักเรียน ม.3 ซึ่งเป็นลูกศิษย์ กระทรวงศึกษาธิการ ได้สั่งการเร่งให้หน่วยงานในสังกัดทั้งศึกษาธิการจังหวัดสุรินทร์ และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุรินทร์เข้าไปเยียวยาดูแลเด็ก ร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดแล้ว พร้อมกับมีคำสั่งให้ครูคนดังกล่าว ออกจากราชการไว้ก่อน จนกว่าจะดำเนินการสอบสอบสวนข้อเท็จจริงแล้วเสร็จหากปรากฎความผิดชัดเจนให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดต่อไป


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top